คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Game Of Death SS1: ตอนที่3 The first day of this game
Game Of Dead
ตอนที่3 The first day of this game
เบื้องหน้าของทุกคนตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและขนลุก พื้นที่โดยรอบโดนปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่หนาทึบทำให้แสงแดดนั้นสาดส่องเข้ามาได้น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้เวลาจะเป็นตอนบ่ายโมงก็ยังคงดูมืดเหมือนเวลา สองสามทุ้ม
“ต่อไปเราต้องทำอะไรกันต่อหรอ...” เสียงหญิงสาวคนนึงในกลุ่มเอ่ยขึ้นด้วยความหลาดกลัว เธอมีนามว่ารูริ
“นั้นสินะคืออาวุธ...” ไม่มีใครตอบคำถามของเธอ จนชายหนุ่มที่มีชื่อว่าเรนกะนั้นเดินไปตรงโต๊ะขนาดไม่ใหญ่นักบนโต๊ะนั้นเต็มไปด้วยอาวุธหกชนิดด้วยกันตามที่ผู้จัดนั้นได้บอกก่อนที่ทั้งหกจะโดนส่งตัวมาที่นี้
“นี้มัน..อาวุธจริงๆเลยนี้...” เฮลเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เฮลไม่คิดว่าอาวุธที่จะให้ใช้นั้นคือของจริง เขาแค่เพียงคิดว่ามันคือของเล่นเอาไว้ใช้เพื่อทำกิจกรรมให้เสร็จๆไปก็เท่านั้นเอง
“ฉัน..ฉันใช้อาวุธพวกนี้ไม่เป็นหรอกนะ” คราวนี้เป็นเสียงหญิงสาวที่ชื่อเรนกะซังเธอเดินเข้ามาจับอาวุธชิ้นเล็กตรงหน้าของเธอ มันคือมีดสั้นนั้นเอง
“เอาหนะมันคงต้องใช้ซักครั้งในเกมส์ และคงจำเป็นแหละไม่งั้นสตาฟคงไม่ให้มาตั้งแต่เกมส์ยังไม่เริ่มหรอกนะ” คราวนี้เป็นเสียงของเรส ชายหนุ่มที่มีอายุเยอะที่สุดในกลุ่มทั้งหกคน
“ฉันขอธนูแล้วกันนะคะ พอดีฉันเคยเรียนธนูมาสองสามปีค่ะ” เวย์พูดขึ้นหลังจากที่เธอสำรวจธนูและดอกธนูที่สัญลักษ์คำว่า YO-GO-D เธอไม่ได้สนใจมันมากนักดอกธนูที่ดูเผินๆจะเหมือนลูกดอกธนูธรรมดาแต่หากสำรวจดีดีนั้นดอกธนูจะมีความแปลกของตัวมันอยุ่หนึ่งอย่างทำให้เธอเลือกที่จะจับธนู หลังจากเธอพูดบอกไปนั้นทำให้ทั้งห้าคนหันไปมองเธอด้วยความไม่เข้าใจ
“เอ่อ...พอดีว่าคุณป้าของฉันบังคับให้เรียนธนูค่ะ เพราะว่าท่านชอบดูการยิงธนู ปกติแล้วฉันก็ไม่ชอบหรอกนะคะเรื่องพวกนี้” เธอร่ายออกมายืดยาวหลังจากนั้นทั้งห้าคนก็พยักหน้าเข้าใจ เธอถึงได้ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“ถ้างั้นขอดาบ..” เรนกะพูดขึ้นหลังจากจ้องมองดาบเล่มยาวที่มันขนาดเท่ากับดาบซามูไรที่ทางญี่ปุ่นชอบใช้ในการต่อสู้ เพียงแต่ว่าดาบเล่มนี้นั้นมีที่ถือเป็นสีทองมันวาวคลับดำดูสง่างามอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้างั้นฉันเอามีดสั้นสองเล่มนี้แหละค่ะ” เรนกะยืบมีดสั้นสองเล่มขึ้นมาพร้อมกับยิ้มให้กับเพื่อนๆทุกคน มีดสั้นนั้นหากมองไม่ดีจะเหมือนมีดธรรมดาๆสองเล่มด้วยกัน แต่ถ้าหากมองลึกเข้าไปในนั้นจะเห็นรูปดาวห้าแฉกที่มีคำเขียนตัวเล็กไม่เป็นภาษาเอาไว้อยู่ ซึ้งแน่นอนว่าเธอไม่ได้สังเกตเลย
“อืมม..ฉันเอาปืน” เรสหยิบปืนขึ้นมาดูก่อนจะตัดสินใจเลือกมัน เรสเห็นว่าปืนสีดำแต่ปลายกนะบอกปืนนั้นเป็นสีแดงทำให้ดูน่าใช้และมันคงเป็นครั้งที่ร้อยกว่าที่เรสจะได้กลับมาหยิบปืนหลังจากห่างหายการเล่นปืนไปนานตั้งแต่ท่านปู่ของเรสนั้นได้เสียชีวิตลง
“รูริขอเลือกใบเลื่อยแล้วกันนะคะ มันจะดูโหดไหมเนี่ย” เธอพูดขำๆยิ้มๆก่อนจะหยิบใบเลื่อยที่สำหรับเลื่อยต้นไม้ใหญ่ทั้งหลายขึ้นมา
“ตอนนี้หยิบอันไหนมันก็ดูหน้ากลัวไปหมดแล้วละคะรูริ” เรนกะเป็นคนบอกรูริก่อนทั้งคู่จะขำออกมาพร้อมกัน
“เหลือขวานสินะ” เฮลเป็นคนสุดท้ายก่อนที่เขาจะตัดสินใจเลือกขวานเพราะนอกจากจะไม่เลือกแล้วจะกลายเป็นว่าเขาไม่มีอาวุธติดตัวเลย อาจจะทำให้เป็นที่ด้อยของกลุ่มเพื่อนได้
“สวัสดีครับเด็กๆตอนนี้ทุกคนก็เลือกอาวุธกันเรียบร้อยแล้วสินะครับนี้คืออาวุธประจำตัวของทุกคนนะครับ เบอร์หนึ่งเรสมีอาวุธประจำตัวคือปืน เบอร์สองเรนกะซังมีอาวุธประจำตัวคือมีดสั้นสองเล่ม เบอร์สามเรนกะมีอาวุธประจำตัวคือดาบ เบอร์สี่รูริมีอาวุธประจำตัวคือใบเลื่อย เบอร์ห้าเฮลมีอาวุธประจำตัวคือขวาน และสุดท้าย เบอร์หกเวย์มีอาวุธประจำตัวคือธนู อาวุธทั้งหกนี้หากพบว่าไปอยู่ในมือของใครคนนั้นจะโดนทำโทษทันทีนะครับ ตอนนี้ผมจะให้ทุกคนช่วยฟังการเล่มเกมส์ของเกมส์นี้ด้วยนะครับ...” เสียงจากทางสตาฟหายไปซักพักใหญ่
“สวัสดีครับผมมีนามว่าฮาดางะเป็นผู้ควบคุมเกมส์นี้และจะบอกวิธีการเล่นให้เด็กๆทุกคนได้รับฟังกันนะครับ ผมจะบอกการเล่นซึ้งง่ายมากๆ ให้พวกคุณผ่านด่านเกมส์นี้ไปทั้งหมดจะมีอยู่7ด่าน โดนแต่ละด่านนั้นต้องมีผู้เสียสละหนึ่งคนเพื่อเปิดประตูไปสู่ด่านต่อไป แค่นี้เองครับ ง่ายมากเลยใช่ไหมละ เอาละครับขอให้ทุกคนมีความสุขจากเกมส์นี้ เกมส์จะเริ่มใน
5………
4………….
3……………..
2……………………..
1……………………
0….
START!(It’s time for you to death)….”
“ต้องมีผู้เสียสละเพื่อไปด่านต่อไปอย่างงั้นหรอ? ถ้างั้นแสดงว่าพวกเราจะไม่ได้ไปพร้อมกันนะสิ” เฮลเป็นคนเอ่ยเสียงคนแรกหลังจากที่เสียงของทางspeakerดับลง
“ฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลยทำไมต้องเสียสละหนึ่งคนให้อยู่ที่นี้ด้วย” รูริเอ่ยออกมาด้วยความสับสนพร้อมทำหน้ามุ้ยใส่ทุกคน
“ก่อนจะคิดถึงเรื่องนั้น เวย์ว่าพวกเราทำด่านนี้ให้ผ่านก่อนดีไหมคะ? พอถึงจุดๆนั้นเราอาจจะรู้ว่าทำไมต้องเสียสละก็ได้ค่ะ มัวมายืนคิดนั่งคิดตรงนี้คงไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกนะคะ” เวย์ออกคำเห็นเมื่อเธอสังเกตุว่าทุกคนมีสีหน้าที่เคร่งเครียดเว้นแต่เรนกะที่ยังคงจ้องมองไปทางด้านหน้าลึกเข้าไปในป่าทึบ
“ไม่ทราบว่า..เรนกะมองอะไรหรอคะ? คือฉันสังเกตเห็นว่าเรนกะมองนานมากแล้วนะคะ ก่อนที่สตาฟจะพูดถึงวิธีการเล่นอีกด้วยค่ะ” เรนกะซังหันไปถามเรนกะที่ยังคงยืนจ้องมองป่าทึบ
“....ไม่มีอะไร” นั้นคือคำตอบของเรนกะที่ส่งมาให้เธอ
“อาวุธก็ใช้ไม่เป็น ไปก็ไปไม่ถูก นี้พวกเราต้องทำยังไงต่อไปดีเนี่ย” รูริพูดออกมาอีกครั้งนั้นทำให้เรสลุกขึ้นยืนมองไปทางต้นไม้ทั้งหกต้นที่อยู่ติดกัน
“ใช้อาวุธไม่เป็น...เราก็ฝึกให้เป็นซะสิ” เรสออกความเห็นซึ้งหลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วย
“จริงด้วยสินะคะ!...ถ้างั้นเราหาสถานที่ฝึกซ้อมตามความถนัดของอาวุธของพวกเราดีกว่านะคะ” เวย์ออกความเห็นอีกรอบ ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วยอีกครั้งก่อนจะแยกย้ายกันไปหาจุดที่พอเหมาะกับอาวุธของตนซึ้งแน่นอนว่าไม่มีใครอยู่ห่างจากใครเลยแม้แต่นิดเดียว นอกซะจาก
“นี้นาย...ไปทำไรอยู่ตรงนั้นคนเดียวหนะไม่มาฝึกกับพวกเราทางนี้หรอ?” เฮลหันไปถามหายหนุ่มที่เดินแยกไปอีกทาง
“ไม่เป็นไรหรอกฉันต้องการพื้นที่เยอะๆหนะ” เรนกะตอบกลับก่อนที่เขาจะเดินเข้าไปทางป่าทึบด้านขวา ส่วนที่เหลือก็เดินไปยืนตรงต้นไม้จับจองพื้นที่กันตรงฝั่งทางซ้ายใกล้กับโต๊ะวางอาวุธ
ผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงทุกคนก็เดินเริ่มจะมีสีหน้ายิ้มแย้มและเหนื่อยไปพร้อมๆกัน ตอนนี้ทั้ง เฮล เวย์ และ เรสนั้นดูเหมือนจะเริ่มชินกับอาวุธที่ตนเองเลือกแล้ว เหลือเพียงแต่ รูริ กับ เรนกะซัง ที่ยังคงนั่งๆพักๆซ้อมๆอยู่
“รูริเธอออกแรงเบาไปนะ ออกแรงให้มากกว่านี้สิ สะกิดทำไมหนะต้นไม้ ตัดมันเลย” เฮลหันไปทางรูริก่อนจะเอ่ยเสียงแซวถึงพลังของเธอ
“นี้นายเฮล! ฉันเป็นผู้หญิงอ่อนแอ่และสดใส จะมาให้มีพลังตัดต้นไม้เท่าตึกแบบนี้ได้ไงชิ” เธอหันไปส่งเสียงดังใส่เฮลก่อนจะทำหน้ามุ้ยเดินไปนั่งพักข้างๆกับเรนกะซัง
“มีใครเห็นเรนกะไหมคะ?” เวย์หันไปถามเพื่อนๆทั้งสี่คน หลังจากที่เธอเดินกลับมาพร้อมกับลูกธนูและธนูของเธอ
“อ้าวหมอนั้นเห็นว่าไปซ้อมอยู่ทางฝั่งซ้ายนู้นนะ” เฮลชี้ไปทางฝั่งตรงข้ามแต่ก็ต้องนิ่งเมื่อฝั่งตรงข้ามนั่นไร้วี่แววของคน
“....ไม่อยุ่แล้วหรอ” เฮลพูดออกมาอีกก่อนจะขมวดคิ้วเข้ามากันนิดๆ
“ตานั้นดูหยิ่งชะมัดจะไปสนใจทำไมไอ้คนแบบนั้นหนะ ชิรูริไม่ชอบเอาซะเลย” เธอกอดอกทำหน้ามุ้ยหลังจากหันไปมองตามนิ้วของเฮลที่ชี้ไป
“ตามกฎแล้วไม่ให้ห่างกันไม่ใช่หรอนอกจากหลงหนะ”เรสที่เห็นน้องๆนั้นเริ่มทำหน้าเครียดก็เดินเข้ามาหาแล้วได้ยินที่ทั้งสี่คนพูด
“นั้นนะสิ แต่ทางสตาฟก็ไม่มีการเตือนอะไรเลยนะคะพวกเราลองเดินเข้าไปดูดีกว่าไหมคะ บางทีเรนกะอาจจะฝึกซ้ามอยู่ด้านใน” เวย์ออกความคิดเห็น
“อืมก็ดีหมอนั้นอาจจะฝึกซ้ามไม่ก็หลงทางอยู่ด้านในนั้นแหละพวกเราลองเข้าไปดูหน่อยดีกว่าอีกอย่างก็ทำกิจกรรมไปในตัวมันซะเลย” เรสยอมรับข้อเสนอของเวย์และออกความคิดเห็นต่อ
“ถ้างั้นเราไปกันเลยดีกว่าค่ะ!”
ทางอีกฝั่งนั้นชายหนุ่มตัดสินใจบอกเพื่อนของตนว่าจะมาฝุกซ้ามอีกด้านเพราะมันง่ายกว่าและเขาอยากได้พื้นที่โล่งกว้างอีกด้วย แต่สิ่งที่เขาทำอยู่นั้น
กี๊!!!
เสียงสุดท้ายของสิ่งมีชีวิตนั้นได้ร้องออกมาด้วยความโหยหวนก่อนมันจะสิ้นใจลง เรนกะตัดสินใจเดินเข้าไปต่อเรื่อยๆจนเขาหยุดฝีเท้าของตัวเองลงแล้วหันขึ้นไปมองด้านบน ภาพเบื้องหน้าของเขานั้นคือชายคนนึงที่อยุ่ในผ้าคลุมสีดำสนิทมีฮูทปิดบังใบหน้าอยู่
“ไงหนุ่มน้อย ไม่น่าเชื้อว่านายจะกล้าเข้ามาที่นี้คนเดียว.....และพรากชีวิต.....ของสิ่งมีชีวิตไปแล้วแปดชีวิต” ชายหนุ่มในชุดดำเอ่ยเสียงออกมา เสียงนั้นฟังแล้วดูทุ้มต่ำอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันมาหานายไง...ลืมแล้วหรอ” เรนกะหันไปยิ้มให้กับชายชุดดำก่อนที่เขาจะหันไปมองทางด้านที่เขาได้เดินมา
“หึ....เพื่อนนายตามหานายให้ควักเลยนะตอนนี้กลับไปหาพวกเพื่อนๆของนายเถอะ” ชายชุดดำกล่าวตบก็ได้หายตัวไปทันที
“เพื่อน.....งั้นหรอ....หึ”
“เรนกะ!!!!” เวย์เรียงชื่อเพื่อนของเธอที่ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้
“โอ๊ยยย นี้ไอ้หมอนั้นมันหายไปไหนของมันเนี่ย รูริเหนื่อยแล้วนะ!” เธอเดินไปก็บ่นไปตลอดทางเรนกะซังถอนหายใจหนึ่งทีกับท่าทีคุณหนูของเธอผู้นี้
“มีอะไร...” เรนกะนั้นเดินออกมาจากพุ้มไม้จากทางด้านซ้ายของรูริ รูริตกใจนิดๆเพราะเธอไม่ทันที่จะตั้งตัว
“นะ..นี้นาย! คิดจะโผล่ก็โผล่มาแบบนี้เลยหรอย่ะ รูริตกใจนะ!” รูริตะโกนว่าเรนกะที่อยู่ๆคิดจะออกมาก็ออก
“เหอะ...” เรนกะยักไหล่ไม่สนใจ
“เรนนายไปทำอะไรมาทำไมดาบของนาย....” เฮลเดินมาหาเรนกะด้วยท่าทีตกใจ เรนกะยกดาบขึ้นมาดูก็ประกฏกับรอยเลือดที่บ่งบอกว่าเขาได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตไปแล้วตั้งแต่เข้ามาที่นี้
“อ้อโทษทีพอดีฉันตกใจกระต่ายก็เลยเอาดาบโยนทิ่มใส่มัน มันมึดด้วยนะ” เรนกะโกหกเพื่อนของตนเองไปก่อนจะหยิบใบไม้แถวนั้นมาเช็ดๆคราบเลือดออก
“งั้นหรอนายเนี่ยนะทีหลังอยู่เกาะๆกันไว้ดีกว่า ถ้าบังเอิญสิ่งมันมาหานายมันไมใช้กระต่ายแต่เป็นพวกงูหรือเสือไรงี้จะซวยเอานะ” เรสเดินมาหาก่อนจะตบไหล่ไปที่ไหล่ของเรนกะสองสามทีเพื่อปลอบใจ
“อืม..” เรนกะส่งเสียงอืมในลำคอเป็นการบอกว่าตกลง
“เราไปกันต่อเถอะตามแผนที่แล้วใกล้ตรงนี้มีบ้านหลังเล็กๆอยู่หนึ่งหลังน่าจะเอาไว้พักอาศัยของพวกเราได้ซักคืนสองคืนก่อนจะเดินทางต่อนะ” เวย์กันมาบอกกับเพื่อนๆของเธอหลังจากดูแผนที่ของตัวเองเสร็จ
“ไปกันเถอะ” เฮลเป็นคนพูดก่อนจะตัดสินใจเดินตามเวย์ไปและตามด้วย รูริ เรนกะซัง เรส และสุดท้าย เรนกะ
โดยไม่มีใครรู้เลยว่ามีคนอีกกำลังตามพวกเขาทั้งหกมาด้วย....
โปรดติดตามตอนต่อไป..................
ช่วงนี้ผมจะอัพบ่อยนะครับ เพราะจัดแจงเวลาได้ดีพอสมควรฮ่าๆ
ยังไงก็ช่วยกัน เม้นส์ ด้วยนะครับ ผมบังคับ ฮ่าๆ
ขอบคุณที่ติดตามครับ
ลงนาม: +InTouch+ and BPP
ความคิดเห็น