ลำดับตอนที่ #32
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : มาเรียและฟาเรีย ตอนที่05
"ฮ่า ๆ
สองพี่น้องได้ต่อสู้เพื่อตัดสินสิทธิ์ในการครอบครองราชบัลลังก์แห่งกาเลเทีย!
มันช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ นี่เจ้าเองก็คิดแบบเดียวกันนี้ใช่ไหม?"
สตรีลึกลับกล่าวกับจอมกษัตริย์ผู้เดินออกมาจากมุมมืด ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกสายตาในที่นั้น เครโต้ก้าวย่างอย่างองอาจไม่แสดงออกให้เห็นถึงอาการเจ็บป่วยหรือความชราเหมือนที่เคย ดูแล้วไม่ใช่ลักษณะของคนป่วยใกล้ตายที่นอนติดเตียงมาเป็นปี ๆ อย่างแน่นอน
"สะ... เสด็จพ่อ?"
มาเรียเบิกตามองพระบิดาของตนอย่างไม่เชื่อสายตา ก็ไหนว่าพระองค์ทรงประชวรหนักด้วยโรครุมเร้าจนไม่สามารถว่าราชการได้ ขนาดที่ต้องแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนก่อนที่จะโอนถ่ายอำนาจมาถึงมือของพี่สาวตนในที่สุด แต่นี่ไม่ว่าจะดูยังไงก็เหมือนชายวัยกลางคนที่ร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ดีทุกอย่างนี่นา?
"องค์ราชา..."
เจ้าขุนพลเรดโค้งคำนับอย่างสุภาพที่สุด ไม่ว่าใครจะพูดยังไงบุคคลที่เขาให้การยอมรับนับถือมากที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ก็คือจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งให้โอกาสตนและเพื่อน ๆ เด็กกำพร้าจากภัยสงครามได้อาศัยอยู่ภายในกาเลเทียแห่งนี้ แถมยังมีน้ำพระทัยอันกว้างขวางเปิดทางให้ตนใช้ฝีมือไต่เต้าจากระดับพลทหารปลายแถวจนขึ้นมาถึงขนาดนี้ได้ ทำให้เขาซาบซึ้งใจยิ่งนัก และสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเครโต้ตลอดไป
"มาเรียและเรดเอ๋ย ดูเหมือนว่าข้าจะทำให้พวกเจ้าลำบากเสียแล้วสินะ?"
จอมกษัตริย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มลึกอย่างเช่นที่เคยเป็นมา แต่มันกลับสร้างความอึดอัดใจให้แก่ผู้ฟังยิ่งนักเมื่อนึกถึงสถานการณ์ที่กำลังเผชิญกันอยู่ในตอนนี้ เครโต้หันไปยิ้มให้กับสตรีลึกลับผู้นั้นก่อนจะเดินเข้ามาใกล้กับลูกสาวของตน มาเรียเงยหน้าขึ้นมองบิดาของตนด้วยความรู้สึกอันยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
"เสด็จพ่อ ตลอดเวลาที่ผ่านมาท่านมิได้เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายงั้นหรือ? เหตุไฉนท่านจึงต้องแสร้งทำเป็นคนป่วยแถมยังยอมให้ท่านพี่ของข้าขึ้นครองบัลลังก์อีก?"
"มาเรียลูกรัก... ที่ผ่านมาข้าหายหน้าหายตาไปจากกิจการบ้านเมืองก็เพื่อรอเวลาที่จะให้ฟาเรียพี่สาวของเจ้าได้ขึ้นมาทำหน้าที่แทนตัวข้ายังไงเล่า!"
องค์หญิงคนรองแห่งกาเลเทียถึงกับลืมหายใจเมื่อได้ยินคำพูดของผู้เป็นบิดา นางไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าจอมกษัตริย์ผู้หยิ่งทระนงและภาคภูมิใจในภาระหน้าที่การปกป้องราชอาณาจักรเสมอมาจะยอมยกอำนาจให้แก่พี่สาวซึ่งวู่วาม ใจร้อนแถมยังมีนิสัยเลวร้ายเกินคนทั่วไปจะรับได้เช่นนี้
"ฝ่าบาท! ท่านตัดสินพระทัยเช่นนี้ดีแล้วหรือขอรับ! อย่างที่ท่านทราบดีว่าราชอาณาจักรแห่งนี้เต็มไปด้วยศัตรูรอบด้าน จำเป็นต้องมีผู้นำที่ทั้งเข้มแข็งและชาญฉลาดในการนำพาประเทศชาติอยู่รอด กระนั้นท่านยังมอบหมายภาระอันใหญ่หลวงนี้ให้แก่คนอย่างฟาเรียอีกหรือขอรับ!!!"
เรดเองก็ตกใจไม่แพ้มาเรีย ที่ผ่านมาเขาเข้าใจว่าฟาเรียคงลุแก่อำนาจใช้กำลังเข้าควบคุมประเทศโดยมิได้รับพระบรมราชานุญาตจากจอมกษัตริย์เสียก่อน โดยอาศัยอาการประชวรของเสด็จพ่อตนเองเป็นข้ออ้างในการครองบัลลังก์ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่างชัดแล้วว่าทั้งหมดเป็นไปตามแผนการของเครโต้เสียอย่างนั้น
"คนอย่างฟาเรีย งั้นรึ? เรดนี่เจ้ากล้าเอ่ยวาจาดูถูกสายเลือดของข้าคนนี้เชียวรึ!"
"หามิได้ขอรับ!"
เจ้าขุนพลกัดฟันก้มคำนับให้กับนายเหนือหัว นี่มันอะไรกัน! ทั้งที่ยามปกติจอมกษัตริย์เครโต้คือบุคคลผู้ปราดเปรื่องและใช้วิจารณญาณตัดสินเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม จึงนำพาเรือใหญ่อย่างกาเลเทียออกตะลุยโต้คลื่นลมมรสุมท่ามกลางพายุในยุคสมัยอันบ้าคลั่งเช่นนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง มาบัดนี้กลับตัดสินพระทัยแบบใจเร็วด่วนได้ เลือกให้พี่สาวอย่างฟาเรียขึ้นครอบครองทุกสิ่งอย่าง ในขณะที่นิ่งดูดายปลอ่ยให้พี่น้องฆ่าฟันกันเองเช่นนี้หรือ? แม้ว่ามาเรียอาจจะอ่อนประสบการณ์ในด้านการปกครองบ้านเมืองก็จริง แต่อย่างน้อยก็ยังเหมาะสมกว่าฟาเรียแน่ ๆ
"ข้าเข้าใจเจ้านะเรด จริงอยู่ฟาเรียอาจจะบกพร่องด้านการควบคุมอารมณ์ไปบ้าง แต่ลองมองดูรอบด้านสิ! ในยุคสมัยแห่งการฆ่าฟันกันเช่นนี้หากไม่เลือกผู้นำที่มีความเด็ดขาดกล้าคิดกล้าทำแล้วจะเอาอะไรไปสู่กับศัตรูข้างนอกกันเล่า!"
"แม้ว่านั่นจะต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้าขุนพลบลูงั้นหรือขอรับ?"
เรดกำหมัดแน่น ต่อให้จอมกษัตริย์จะปั้นแต่งเหตุผลสวยหรูเพียงใด แต่นั่นก็มิอาจเปลี่ยนความจริงที่ว่าบลูเพื่อนรักของเขาต้องสังเวยชีวิตของตนเพื่อแลกกับการพิสูจน์ความจงรักภักดีต่อจอมโฉดไร้ใจนั่น เฉพาะเรื่องนี้เท่านั้นที่เขาไม่มีวันให้อภัยฟาเรียอย่างเด็ดขาด
"อ้อ! การที่บลูพ่ายแพ้ให้แก่เจ้าก็ผิดคาดของข้านิดหน่อย คิดว่าถ้ามันเอาจริงคงพอจะแลกชีวิตด้วยได้ ไม่นึกเลยว่าการให้เฝ้าลูกสาวของข้าอยู่แต่ในวังจะทำให้ฝีมือของมันทื่อลงขนาดนี้!"
เลือดในตัวของเจ้าขุนพลแทบจับตัวเป็นน้ำแข็ง ที่เขากำลังรับฟังอยู่นี่คือเรื่องจริงใช่ไหม? จอมกษัตริย์ที่ตนรักและนับถืออย่างหมดใจกำลังค่อนขอดศักดิ์ศรีความภาคภูมิใจและเกียรติยศในฐานะนักสู้ของบลู ทั้งที่มันเพิ่งจะสละชีพเพื่อปกป้องในสิ่งที่ตัวเองนับถือ ทว่าอีกฝ่ายกลับเขวี้ยงสิ่งนั้นลงพื้นแล้วกระทืบซ้ำจนไม่เหลือชิ้นดี นี่หรือคือเจ้าราชาแห่งกาเลเทีย ขุนพลเรดก้มหน้าลงครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาด้วยแววตามุ่งร้าย
"แกมันไม่ใช่จอมกษัตริย์เครโต้! จงเผยโฉมออกมาซะไอ้สถุนสันดานชั่ว!!!"
หากว่าที่ยืนอยู่ตรงนั้นคือเครโต้ตัวจริง หากว่านั่นคือจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ไร้เทียมทาน การตายจากของบลูอาจไม่กระเทือนถึงสีหน้าก็จริง แต่อย่างน้อยสิ่งหนึ่งซึ่งเรดสังเกตได้หลังจากผ่านศึกนับร้อยพันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือการไว้อาลัยให้แก่ผู้จากไป หนึ่งบุรุษจะได้รับความไว้ใจเชื่อถือจากผู้อื่นได้อย่างไร หากไร้ซึ่งความเคารพแก่กัน เครโต้มักเชิดชูยอดวีรชนที่พลีกายถวายแก่อรุณรุ่งของกาเลเทีย ไม่มีครั้งใดเลยที่จอมกษัตริย์จะกล่าววาจาดูหมิ่นผู้อื่นเช่นนี้ ยิ่งเป็นขุนพลบลูที่ไว้เนื้อเชื่อใจขนาดยอมให้อยู่รับใช้เคียงกายเป็นโล่แก่ลูกสาวคนสำคัญทั้งสองยิ่งแล้วใหญ่ มิหนำซ้ำยังท่าทางการเดินที่ผิดวิสัยผู้ป่วยนอนติดเตียงอย่างเช่นที่เคยเสแสร้งทำมาตลอดหลายปีนั่นอีก คิดได้แบบนี้แล้วคำตอบก็เหลือเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือที่อยู่ตรงหน้านี้เป็นเพียงร่างเปลือกปลอม ๆ ที่สวมหนังเป็นจอมกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หาใช่เอกบุรุษที่ตนฝากใจกายไว้ไม่
"หึหึ นี่แหละหนาที่ข้ามิอาจไว้ใจปล่อยให้เจ้าอยู่ในเมืองหลวงได้..."
และแล้วความจริงก็เปิดเผย เมื่อร่างอันแก่ชราของจอมกษัตริย์ค่อย ๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย จากฝ่ามือที่เหี่ยวย่นงองุ้มก็กลับเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล ใบหน้าที่แห้งกร้านเต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งวัยก็กลับเต่งตึงขึ้นมา ตอนนี้จอมกษัตริย์เครโต้ผู้ใช้เวลาส่วนใหญ่นอนป่วยบนเตียงก็ย้อนคืนสู่ร่างจริง กลายเป็นชายแปลกหน้าอีกคนที่ไม่มีใครรู้จักไปเสียแล้ว!
"เพราะเจ้านั้นมันช่างเป็นเหมือนม้าพยศที่ขี้สงสัยยิ่งนัก เลยต้องไล่ไปไกล ๆ จากในรั้วในวังเสียหน่อย ไม่นึกว่ายังจะอุตส่าห์กลับเข้ามาในช่วงสถานการณ์เช่นนี้อีก!"
แต่เดิมแผนของพวกมันคือการสวมรอยเป็นจอมกษัตริย์แห่งกาเลเทียแล้วฉวยโอกาสส่งเสริมให้ฟาเรียขึ้นสู่บัลลังก์เร็วกว่าที่ควร ด้วยรู้มาว่าสองพี่น้องนั้นไม่ถูกกันมาแต่ไหนแต่ไร จึงดำเนินการปั่นหูองค์หญิงคนพี่มานานแรมปีกระทั่งสำเร็จผลเกิดเป็นเหตุการณ์ที่บลูสังหารฮอว์นองค์รักษ์ของมาเรีย ทำให้ทุกสิ่งอย่างเข้าทางพวกมันจนหมด และเพื่อให้แผนการเป็นไปอย่างราบรื่น เครโต้ตัวปลอมตัดสินใจส่งเจ้าขุนพลเรดไปสู่แนวหน้าในการรับกับพวกทางเหนือ แล้วรั้งบลูให้อยู่คอยเฝ้าทางนี้เอาไว้ ด้วยรู้ดีว่าฝ่ายหลังนั้นควบคุมบัญชาให้อยู่ใต้อาณัติได้ง่ายกว่านัก เรดนั้นมีธรรมชาติคือช่างสงสัยและหวาดระแวง จึงอาจระแคะระคายความจริงก่อนเวลาอันสมควรได้ ผิดกับบลูที่เป็นคนหัวอ่อนและชักจูงได้ง่ายกว่านัก
"แก! ตกลงแล้วพวกแกเป็นใครกันแน่ แล้วเอากษัตริย์ของข้าไปซ่อนไว้ที่ไหน!!!"
เจ้าขุนพลเลือดขึ้นหน้า เขาพยายามจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการของศัตรูแต่ก็ยังไม่เป็นผล ด้ายล่องหนเหล่านี้ช่างแข็งแกร่งกว่าที่คิดนักแถมเจ้าตัวยังบาดเจ็บสาหัสอีก ด้านเครโต้ตัวปลอมเมื่อได้ยินดังนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
"ก็ในเมื่อข้าเป็นเครโต้อยู่ตรงนี้แล้ว จะเก็บตัวจริงเอาไว้ให้เป็นเสี้ยนหนามอีกทำไมกันเล่า? จะบอกให้เอาบุญว่าจอมกษัตริย์หน้าโง่ของพวกแกน่ะโดนสับเป็นชิ้น ๆ แล้วโยนให้พวกนกกากินที่นอกเขตอาณาจักรตั้งนานแล้ว ฮ่า ๆ"
กงล้อแห่งชะตากรรมนั้นช่างโหดร้าย เมื่อเวลานี้อาณาจักรกาเลเทียตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์อันระส่ำระสายด้วยน้ำมือคนในอย่างฟาเรีย มิหนำซ้ำจอมกษัตริย์ที่เปรียบดั่งเสาหลักของอาณาจักรมาตลอดยังสิ้นชีพอย่างน่าเวทนา ทั้งเรดและมาเรียต่างยืนนิ่งเย็นวาบเหมือนเลือดจับตัวแข็ง นี่มันเวรกรรมใดกันจอมกษัตริย์ผู้กล้าแกร่งอย่างเครโต้จึงต้องเผชิญกับวาระสุดท้ายที่ไม่สมเกียรติถึงขนาดนี้?
"...ต่อให้สับพวกแกเป็นหมื่น ๆ ชิ้นมันก็ยังไม่สาสมกับความชั่วช้าของพวกแกเลย เตรียมใจไว้ให้ดี ๆ เถอะ!!!"
เจ้าขุนพลเรดสูดลมหายใจลึก หลังจากที่ระเบิดความคลั่งออกไปสติสัมปชัญญะของตนก็เริ่มทำงานมากขึ้น เยือกเย็นมากขึ้นและเริ่มคิดหาทางโต้กลับพวกศัตรูโดยเร็วที่สุด ด้านมาเรียนั้นถึงกับทรุดลงร่ำไห้หมดเรี่ยวแรง ชะตากรรมขององค์หญิงคนรองแห่งกาเลเทียนั้นช่างโหดร้ายนัก เมื่อได้รู้ความจริงว่าบิดาสิ้นชีพอย่างโหดเหี้ยม แถมพี่สาวยังโดนพวกคนโฉดหลอกใช้ ถูกเชิดไม่ต่างไปจากหุ่นกระบอกตัวหนึ่งเลย
"ฮ่า ๆ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดูหน่อยเป็นไรไป? เอ้า! ก่อนอื่นเริ่มจากงานละเลงเลือดสายวงศ์ของกาเลเทียที่เหลืออยู่กันก่อนดีกว่านะ!"
ว่าแล้วเจ้ากษัตริย์ตัวปลอมก็ออกคำสั่งให้สตรีลึกลับผู้นั้นเชิดฟาเรียกลับมาจู่โจมน้องสาวของตนอีกครั้ง ยิ่งนางบรรเลงบทเพลงจากเครื่องสายรวดเร็วเพียงใด การโจมตีของราชินีโฉดก็รุนแรงยิ่งขึ้นเท่านั้น มาเรียที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ที่พื้นจึงไม่ต่างจากเป้านิ่งที่โดนอัดโดนถองเข้าไปเต็มเปา
"องค์หญิง!!!"
เจ้าขุนพลร้องตะโกนด้วยความเป็นห่วง แต่ที่สะท้อนกลับมานั้นก็มีเพียงเสียงสะอื้นไห้ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวด และเสียงหัวเราะอันบ้าคลั่งเท่านั้น มาเรียพยายามหลบการโจมตีด้วยกระบวนท่าที่ร่ำเรียนมาจากเรด ทว่าฟาเรียนั้นเคลื่อนไหวได้รวดเร็วนักจนนางจับทางไม่ถูก
"ท่านพ่อ... ท่านพี่... "
ฟาเรียและมาเรียนั้นสูญเสียมารดาไปตั้งแต่ยังเล็ก จึงได้รับความอบอุ่นเพียงครึ่งจากเครโต้ผู้ยุ่งกับกิจการบ้านเมืองตลอดมา กระนั้นนางก็ไม่เคยตัดพ้อหรือเรียกร้องอะไรไปมากกว่านี้ ด้วยเลือดขัตติยะที่ไหลเวียนอยู่ในตัวนั้นเป็นเครื่องบ่งบอกถึงความสูงส่งในจิตใจ ทว่าเวลานี้บ้านเมืองกำลังลุกเป็นไฟ บิดาผู้เป็นที่พึ่งถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย พี่สาวเองก็ถูกหลอกเชิดให้กลายเป็นเครื่องมือในการทำลายกาเลเทีย เสียเลือดเนื้อทั้งของผู้คนและเหล่าทหารหาญไปมากมาย เสียกระทั่งยอดฝีมืออย่างเจ้าขุนพลบลู เรดและริวจินถูกจับเป็นตัวประกัน ตอนนี้คนที่จะยืนหยัดต่อสู้ได้ ณ ที่นี้ก็เหลือเพียงนางตัวคนเดียวแล้ว...
"ฟาเรีย... พี่เองก็คงจะเจ็บปวดมากสินะ?"
ฉับพลันนั้นองค์หญิงรองแห่งกาเลเทียจึงตั้งรับการโจมตีของอีกฝ่ายอย่างมั่นคง ลมหายใจนิ่งคงที่แววตามุ่งมั่นแน่วแน่ไม่หวั่นไหวต่อสถานการณ์ จะซ้ายหรือขวาหน้าหรือหลังบนหรือล่างนางก็รับมือการจู่โจมได้ทุกรูปแบบ ท่าร่างของมาเรียนั้นช่างดูละม้ายคล้ายกับกระบวนท่าตั้งรับของเจ้าขุนพลเรดไม่มีผิดเพี้ยน และแล้วการต่อสู้ของสองพี่น้องที่เดิมพันด้วยอนาคตของกาเลเทียก็ได้เริ่มต้นขึ้น!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น