ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฤทธิ์หมัดมังกรราชันสยบฟ้า

    ลำดับตอนที่ #2 : วิหคสวรรค์-นภาปะทะปฐพี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 254
      11
      3 ก.ย. 62


         หลายวันผ่านไปหลังจากที่หัวหน้าองค์รักษ์ขององค์หญิงมาเรียหายสาบสูญ  องค์ราชาออกคำสั่งให้จัดกำลังทหารหน่วยหนึ่งออกตามหารวมถึงเจ้าขุนพลบลูด้วยแต่ก็ไร้วี่แวว  ครั้งสุดท้ายที่มีคนพบเห็นฮอร์นก็คือช่วงก่อนที่เขาจะหายตัวไปในหอคอยทางทิศตะวันออกนั่นเอง

         "ปัทโธ่หายไปไหนของเขากันนะ!  แบบนี้ข้าก็แอบไปฝึกวิชาไม่ได้น่ะสิ"

         มาเรียกำลังหัวเสียอย่างมาก  เพราะก่อนหน้านี้ฮอร์นบอกเองว่าเห็นการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ที่หอคอยฝั่งตรงข้ามกับจุดที่นางแอบขึ้นไปฝึกวิชาแล้วก็ขอตัวไปสืบดู  หลังจากนั้นก็หายตัวไปเลย  แน่นอนว่านางใช้ให้คนรับใช้อย่างดอนไปดูที่หอคอยนั่นเรียบร้อยแล้ว  แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า  ไม่มีร่องรอยขององค์รักษ์ฮอร์นอยู่เลย

         "ข้าว่าบางทีฮอร์นอาจจะเบื่อที่ต้องคอยปกปิดการแอบฝึกวิชาขององค์หญิงก็เลยหลบหน้าไปก็ได้นะขอรับ!"

         ดอนเสนอความคิด  แต่ก็เจอองค์หญิงสวนกลับทันทีว่ามันจะเป็นไปได้ยังไง  ฮอร์นเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากและไม่เคยหนีจากอะไรทั้งนั้น  แถมงานอารักขาบุคคลสำคัญแบบนี้มันแอบหลบไปอู้ได้ด้วยหรือ? 

         "สำหรับเรื่องนั้นข้าอาจจะตอบแทนได้นะ?"

         จู่ ๆ องค์หญิงฟาเรียปรากฎตัวขึ้นต่อหน้าทั้งสองพร้อมด้วยเจ้าขุนพลบลูและทหารอีกจำนวนหนึ่ง  สร้างความประหลาดใจให้กับมาเรียอย่างมาก

         "ท่านพี่!  ท่านรู้หรือคะว่าหัวหน้าองค์รักษ์ของหนูหายตัวไปไหนน่ะ"

         "หึหึ... รู้ซะยิ่งกว่ารู้เสียอีก  ก็ไอ้สารเลวนั่นวางแผนจะชิงบัลลังก์จากข้าคนนี้ยังไงล่ะ!"

         ดั่งสายฟ้าผ่าลงมากลางอกของมาเรีย  คำพูดของพี่สาวทำให้นางตกใจและสับสนงุนงงยิ่ง  ฮอร์นเนี่ยนะ? วางแผนร้ายโค่นบังลังก์?  มันต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ เลย  หัวหน้าองค์รักษ์คนนี้คอยอยู่เคียงข้างนางมาตั้งแต่ยังเล็ก  และคอยปกป้องตนมาตลอดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

         "ท่านพี่คะ! น้องว่ามันต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ เลย..."

         "ไม่มีเข้าใจผิดอะไรทั้งนั้น! และข้าก็รู้ด้วยว่าเจ้านั้นแอบสมคบคิดกับไอ้สารเลวนั่นด้วย!"

         ฟาเรียชูกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมาและบอกว่านี่คือหลักฐานยืนยันในสิ่งที่ตนพูดไป  เพราะในนี้ได้เขียนอธิบายไว้อย่างละเอียดถึงแผนการโค่นล้มบังลังก์แห่งกาเลเทีย  อีกทั้งยังระบุไว้ด้วยว่าองค์หญิงมาเรียเองก็มีส่วนร่วมในแผนการนี้ด้วย! 

         "นี่มันคืออะไรกันคะท่านพี่! น้องไม่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้นะรวมถึงฮอร์นเองด้วย  ถ้ายังไงเราคงต้องตามหาตัวฮอร์นและ..."

         "ไม่ต้องไปตามหาที่ไหนหรอก  เพราะร่างของเจ้านั่นอยู่ที่นี่แล้ว!"

         ขุนพลบลูนำศพของฮอร์นที่ห่อไว้ด้วยผ้าคลุมของตนเองวางบนพื้น  เพื่อที่องค์หญิงจะได้เห็นวาระสุดท้ายของยอดองค์รักษ์อย่างเต็มตา  มาเรียถึงกับปล่อยโฮเมื่อรับรู้ว่าฮอร์นผู้ซื่อสัตย์นั้นได้ตายจากไปแล้ว

         "ทำไมกัน... ทำไมฮอร์นถึงได้...!"

         บลูก้มหน้าไม่กล้าสบตากับใคร ๆ ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความรู้สึกที่ยากจะแสดงออก  ด้านฟาเรียเห็นน้องสาวร้องไห้ฟูมฟายก็เดินเข้าไปตบใบหน้าหนึ่งทีอย่างรุนแรง

         "นังแพศยา! แกคิดว่าข้าคนนี้ไม่รู้รึไงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้พวกแกแอบฝึกวิชายุทธของขุนพลเรดเพื่อเอามาใช้โค่นล้มบัลลังก์น่ะ!"

         เมื่อโดนเข้าไปแบบนี้มีหรือที่อีกฝ่ายจะทนนิ่งเฉย  มาเรียลุกขึ้นตบใบหน้าของฟาเรียแบบไม่เกรงใจกลับบ้างแล้วตะโกนขึ้นว่า

         "ท่านพี่! ท่านกล้าดียังไงมาหาว่าข้าวางแผนโค่นบัลลังก์เช่นนี้! ฮอร์นน่ะรับใช้อาณาจักรแห่งนี้ด้วยความซื่อสัตย์มาหลายสิบปีแล้ว  ทำไมเขาจะต้อง..."

         "เฮอะ! ซื่อสัตย์อย่างนั้นเรอะ  แล้วทำไมเจ้านั่นต้องลอบเข้ามาทำร้ายข้าด้วยล่ะ?  ถ้าไม่ได้ขุนพลบลูช่วยไว้ล่ะก็ชีวิตขององค์หญิงคนโตของอาณาจักรนี้คงสูญสิ้นไปแล้ว!"

         มาเรียเบกตาโพลงด้วยไม่อยากเชื่อในวาจาของพี่สาว  นางหันไปมองที่เจ้าขุนพลบลูในทันทีและพบว่าเขาไม่กล้าสบตาด้วย  เท่านี้ก็พอจะยืนยันได้แล้วว่าใครเป็นผู้ยัดเยียดความตายให้แก่องค์รักษ์ของตนเอง

         "ทะ... ท่านบลู!  ทำไมท่านถึงได้..."

         "อภัยให้ข้าด้วยองค์หญิง"

         เจ้าขุนพลรู้สึกละอายใจที่ได้ลงมือกับผู้บริสุทธิ์  แต่ด้วยเพราะเป็นหน้าที่เขาจึงจำใจต้องกระทำการอันฝีนใจยิ่งนัก  บลูไม่กล่าวอะไรออกมาอีกเลยในระหว่างที่มาเรียร้องไห้เสียใจอย่างสุดซึ้ง

         "ทหาร! จับนังคนทรยศเอาไว้!"

         ฟาเรียไม่รอช้าออกคำสั่งจับกุมน้องสาวในทันที  พวกทหารทีแรกต่างก็รู้สึกสับสนมองกันไปมาเลิ่กลั่ก  แต่เมื่อองค์หญิงคนโตออกคำสั่งซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงอันเฉียบขาดพวกมันจึงต้องเข้ารวบตัวองค์หญิงมาเรียเอาไว้

         "ฮ่าห์!"

         เมื่อไม่มียอดองค์รักษ์คอยเกื้อหนุน  มาเรียจึงต้องหาทางตีฝ่าวงล้อมของอีกฝ่ายออกไปด้วยตนเอง  นางใช้วิชาฝ่ามือวิหคสวรรค์ที่เรียนรู้มาปลดอาวุธพวกทหารได้อย่างง่ายดาย  ฟาเรียเห็นก็ยิ่งร้อนใจออกคำสั่งให้บลูรีบจัดการกับนางเสีย

         "ขุนพลบลู! ถ้าท่านมีใจที่ภักดีต่อราชอาณาจักรแห่งนี้จริง  ท่านควรจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรใช่ไหม?  แล้วตอนนี้สิ่งที่ตัวท่านควรจะทำมันคืออะไรกันแน่!"

         คำพูดของมาเรียเสียดแทงใจยอดขุนพลยิ่งนัก  กระนั้นบลูก็หาได้หวั่นไหวไปกับคำพูดของมาเรีย  เมื่อได้เห็นเหล่าทหารกระเด็นกระดอนไม่เป็นท่าเขาจึงจำต้องเอาจริงบ้างเสียแล้ว

         "องค์หญิงโปรดอภัยให้กระหม่อมด้วย  หวังว่าสักวันท่านคงจะเข้าใจ!"

         ร่างของบลูเปล่งประกายออร่าสีฟ้าออกมาอย่างแผ่วเบา  เป็นสัญญาณเตือนว่าบัดนี้ยอดขุนพลแห่งกาเลเทียกำลังอยู่ในสภาพพร้อมรบแล้ว  เพียงแค่มันวาดฝ่ามือซ้ายขวาแยกออกจากกันเบา ๆ ก็บังเกิดสายลมกรรโชกซัดเข้าหามาเรียจนกระเด็นถอยหลังไปสี่ถึงห้าก้าวได้แล้ว

         "วิชาวิหคสวรรค์สายนภาของขุนพลเรดงั้นรึ?  แต่แค่นั้นยังไม่เพียงพอจะโค่นเจ้าขุนพลบลูผู้นี้ได้หรอกนะ!"

         สายวิชาของวิหคสวรรค์อันเป็นพื้นฐานวิชาแห่งอาณาจักรกาเลเทียแห่งนี้พอจะแบ่งแยกเป็นสายใหญ่ ๆ ได้สองสายนั่นคือสายนภาและปฐพี  สายนภานั้นเด่นในด้านการร่ายรำไปบนอากาศ  พลังฝ่ามืออันรวดเร็วเฉียบขาดนั้นสามารถสะบั้นได้แม้แต่สายลมเหนือ  ส่วนสายปฐพีคงความหนักแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังดุจขุนเขา  แค่เพียงฝ่ามือยังป่นได้แม้ภูผา  และขุนพลทั้งสองก็คือตัวแทนของวิชาทั้งสองสายที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัวยากหาใครเทียบเทียมได้นั่นเอง

         "ท่านช่างอ่อนหัดยิ่งนัก!"

         บลูพุ่งเข้าประชิดตัวองค์หญิงในทันทีไม่เปิดโอกาสให้นางตั้งหลักกระโจนขึ้นสู่เวหาอันเป็นเวทีสำแดงพลังสายนภา  มาเรียตั้งรับฝ่ามืออันหนาหนักของเจ้าขุนพลด้วยแขนทั้งสองข้างแต่ยังไม่เพียงพอจะต้านทานฝ่ามือวิหคสวรรค์ใจประสานกาย  ร่างขององค์หญิงถูกกระแทกจนล้มลงนอนกับพื้น  ที่นางยังมีลมหายใจอยู่นั้นก็เป็นเพราะอีกฝ่ายจงใจยั้งมือไว้นั่นเอง

         "ทำอะไรน่ะขุนพลบลู  ข้าบอกให้เด็ดหัวมันออกมาไงเล่า!"

         ฟาเรียไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นลูกน้องของตนออมมือให้น้องสาว  ด้านมาเรียก็รู้สึกเจ็บใจที่ฝีมือของตนซึ่งขัดเกลามานานแรมปีก็ยังมิอาจทาบระดับพลังของบลูได้เลยแม้แต่นิด  ทว่ามีหรือที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ เช่นนี้  องค์หญิงคนเล็กกระโดดถอยห่างออกมาพร้อมกับตั้งท่ากระโจนขึ้นสู่เบื้องบนในทันที  เป้าหมายคือเล็งจู่โจมช่วงศีรษะของอีกฝ่ายให้จงได้  ท่าร่างของนางแลดูคล้ายพญาวิหคสีขาวที่เหินลมบนอย่างองอาจสง่างาม  นี่คือหนึ่งในกระบวนท่าลับวิหคสวรรค์สะบั้นดาวเหนือของขุนพลเรดที่มาเรียแอบลักลอบจดจำมาประยุกต์เอง

         "เมื่อครู่องค์หญิงอาจคิดว่าที่สู้ไม่ได้ก็เพราะไม่ใช่ศึกกลางอากาศ  คราวนี้ข้าจึงยอมให้ท่านได้เหาะเหินตามใจชอบ  จะได้รู้กันไปว่าท่านนั้นอ่อนหัดแค่ไหน ฮ่าห์!!!"

         และแม้ว่าจะเป็นศึกกลางอากาศของถนัดสายนภาขุนพลบลูก็ไม่หวาดหวั่น  มันกระโดดเข้ารับมือวิชาลับสะบั้นดาวเหนือของมาเรียได้อย่างง่ายดาย  แน่นอนว่าหากนี่เป็นระดับเรดเขาคงไม่กล้าขนาดนี้แน่  พร้อมกันนั้นบลูยังจับบิดหัวไหล่ของนางเพื่อที่ตอนลงพื้นข้อไหล่จะหลุดในทันที

         "กรี๊ดด!"

         มาเรียร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด  เมื่อไหล่หลุดแบบนี้ก็หมดหนทางสู้แล้วจึงได้แต่ก้มหน้าเจ็บใจ  ฝ่ายฟาเรียเห็นสีหน้าของน้องสาวก็หัวเราะร่วนพร้อมกับออกคำสั่งให้บลูลงมือเผด็จศึกศัตรูในทันที  ทว่าเขากลับปฎิเสธ

         "องค์หญิงมาเรียมีความผิดฐานทรยศต่อองค์ราชา  ข้าจำเป็นต้องควบคุมตัวนางไปให้องค์เหนือหัวเป็นผู้ตัดสินโทษขอรับ"

         "อย่ามาล้อเล่นนะขุนพลบลู!  ข้าสั่งให้เจ้าสำเร็จโทษนางที่นี่เดี๋ยวนี้!"

         แม้ว่าฟาเรียจะเค้นน้ำเสียงให้หนักแน่นสักแค่ไหน  หากแค่ขุนพลบลูก็ไม่ยอมทำตามเสียแล้ว  เขายอมก้มหัวรับใช้ตามคำบัญชา  แต่ยังไม่ได้ขายวิญญาณให้แก่ปิศาจ  ดังนั้นจึงไม่ประสงค์จะปลิดชีพสายเลือดขัตติยะโดยเด็ดขาดไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม

         "หึหึ... เจ้าเองก็ยังอ่อนหัดนะบลู!"

         รองขุนพลราฟา  สบโอกาสทำเสียงเยาะเย้ยอีกฝ่าย  เพราะตัวมันนั้นทั้งอิจฉาในฝีมือและตำแหน่งของบลูมานานแล้ว  แต่ยังไม่สามารถช่วงชิงยศฐาจากอีกฝ่ายได้เสียที  มาวันนี้มันเจอโอกาสงามทั้งทีย่อมไม่ปล่อยไปง่าย ๆ แน่

         "องค์หญิงฟาเรีย  ข้าราฟาผู้นี้จะขอเป็นผู้จัดการนังคนทรยศนี่เองขอรับ ฮี่ ๆ"

         "ย่อมได้! หากเจ้าจัดการนังแพศยาสำเร็จข้าจะแต่งตั้งให้เป็นเจ้าขุนพลแทนไอ้คนไร้ความสามารถนั่น!"

         คำพูดของฟาเรียทรมานลงไปจนถึงวิญญาณของบลูเลยทีเดียว  กับการตอบแทนความซื่อสัตย์จงรักภักดีที่ตนมีให้มาตลอดเช่นนี้  แต่อย่างไรเสีย  เขาไม่ยินยอมให้ผู้ใดก็ตามบังอาจสังหารคนในราชวงศ์กาเลเทียได้โดยเด็ดขาด!   

         "หลีกไปบลูไอ้คนดื้อด้าน! ไว้ข้าจัดการนังนั่นเสร็จเมื่อไหร่ก็ถึงตาแกบ้างล่ะ!"

         "สามหาว! นี่แกคิดจะลงมือกับสายเลือดแห่งราชวงศ์กาเลเทียจริง ๆ งั้นรึ..."

         สองบุรุษประจันหน้ากันโดยไม่มีใครยอมหลีกให้ใคร  ทั้งบลูและราฟาต่างยืนจ้องตากันสักพักก่อนจะเริ่มเปิดฉากการต่อสู้ในทันที  คราวนี้เจ้าขุนพลไม่คิดออมมือจึงซัดเต็มพลังในทุกฝ่ามือ  เล่นเอาราฟาถึงกับตั้งรับแทบไม่ทัน 

         "เปิดช่องว่าง!"

         บลูสังเกตเห็นจุดบอดในการป้องกันของอีกฝ่ายจึงสวนด้วยวิชาวิหคสวรรค์ฝ่ามือเบิกร่องภูผาเข้าให้  แต่ที่ไหนได้เมื่อวิชาของบลูไปไม่ถึงราฟา  นั่นเพราะองค์หญิงฟาเรียจงใจเข้ามายืนขวางทางเอาไว้เสียก่อน!

         "ดูเหมือนว่าที่บอกจะไม่ให้ใครจัดการกับสายเลือดแห่งกาเลเทียนี่คงเป็นเรื่องจริงสินะ?"

         สถานการณ์จึงกลายเป็นว่าฝ่ายบลูเปิดช่องว่างเสียเอง  เลยโดนเพลงหมัดของราฟาเข้าไปเต็มที่ทรุดตัวลงกับพื้นในทันที  เจ้าขุนพลสบถเบา ๆ ในลำคอด้วยความเจ็บปวด  แต่นั่นยังไม่เท่าความเจ็บใจที่ถูกหักหลังความภักดีเยี่ยงนี้ 

         "ฮ่า ๆ จบกันเท่านี้ล่ะบลู!"

         ราฟาหมายจะจัดการขั้นเด็ดขาดแต่เจอบลูสวนด้วยวิชาฝ่ามือเข้าให้  ถึงอย่างไรระดับฝีมือของทั้งคู่ก็ยังห่างกันเกินไปอยู่ดี  ฟาเรียเห็นเช่นนั้นจึงออกคำสั่งให้พวกทหารลงมือจัดการกับมาเรียที่ไร้ทางต่อสู้แล้วแทน

         "ฮึ่มม!"    

         ลำพังตัวขุนพลบลูคนเดียวย่อมไม่มีปัญหาอะไรกับบาดแผลแค่นี้  แต่ทว่าองค์หญิงมาเรียนั้นไม่มีทางต้านทานกำลังทหารที่บุกเข้ามาได้แน่นอน  ดังนั้นตนจึงต้องใช้วิธีสุดท้ายนั่นคือการใช้วิชาวิหคสวรรค์-มหาปฐพีวินาศ  ลงมือทุบทำลายพื้นโถงปราสาทให้ถล่มกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่แล้วกอดตัวองค์หญิงร่วงลงไปสู่ความมืดมิดเบื้องล่างโดยไม่รอช้า 

         "อย่าให้มันหนีไปได้  รีบตามไปฆ่าพวกมันเร็ว ๆ เข้า!"

         ฟาเรียออกคำสั่งอย่างร้อนใจ  ขืนปล่อยให้พวกมันหลบหนีออกไปนอกปราสาทได้ล่ะก็งานหนักแน่  ถึงยังไงก็ต้องจัดการน้องสาวชั่วร้ายให้ได้ภายในวันนี้  มิเช่นนั้นตนคงนอนไม่หลับไปตลอดแน่

         "ราฟารับคำสั่ง  ข้าจะไม่ยอมให้พวกมันหนีรอดออกไปจากที่นี่ได้แน่ ๆ ขอรับ!"

         ว่าแล้วรองขุนพลก็นำกำลังทหารติดตามบลูและมาเรียผ่านทางร่องลึกใต้ปราสาทในทันที ท่าทางว่าพื้นที่พังทลายนั้นจะเชื่อมต่อลงไปจนถึงชั้นเก็บของใต้ดินของปราสาทเลยทีเดียว  จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครล่วงรู้ว่าที่เบื้องล่างนั้นจะมีความลับดำมืดบางประการถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นระยะเวลาอันยาวนานอีกด้วย!



    จบตอน    

        
        

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×