ลำดับตอนที่ #98
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #98 : เสาหลักแห่งยุทธภพ
อะแฮ่ม! ช่วงนี้ผมติดเกม RE2 แบบงอมแงมเลย เพราะฉะนั้นอาจจะปั่นงานได้ช้ามากถึงมากที่สุดนะครับ แต่ถึงจะช้าก็ทยอยเขียนนะเอ้อ! ไม่ได้ทิ้งผลงานหนีหายไปแต่อย่างใด (ฮา)
@@@@@@@@@@@@
"เจ้าโง่! นี่ริอาจใฝ่ทางมารเต็มตัวแล้วสินะจางเหอลู่ เสียทีที่เคยเป็นถึงหนึ่งในห้าเสาหลักแห่งยุทธภพแท้ ๆ"
เกาฟานเฉียงเขม่นใส่อีกฝ่ายพร้อมกับซัดฝ่ามือพยัคฆ์สีชาดเข้าใส่แบบไม่เกรงใจอดีตเสาหลักยุทธภพเลยสักนิด ด้านจางเหอลู่แม้จะเพิ่งหายบาดเจ็บกลับมาโลดแล่นอีกครั้งก็ยังออกท่าต้านทานคู่ต่อสู้ได้อย่างสูสี หมอกสีดำจากวิชาเทพจำแลงปรากฏขึ้นอีกครั้งและยังคงความร้ายกาจไม่ต่างจากเดิม ทว่าที่เปลี่ยนไปคือความเข้มแข็งของคู่ต่อสู้ที่พัฒนาฝีมือจนเหนือกว่าในอดีตอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่พลังหมอกสีดำที่ดูดกลืนได้ทุกสิ่งก็ยังมิอาจต้านทานคลื่นลมปราณที่ถาโถมเข้าใส่ราวกับกระแสมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่ได้
"ฮ่า ๆ จางเหอลู่วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า!!!"
เจ้าสำนักพยัคฆ์แดงกางแขนทั้งสองข้างจนสุด ก่อนจะตะปบฝ่ามือเข้าหากันอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นคลื่นเสียงทำลายโสตประสาทของทุกคนที่ยืนอยู่รอบข้าง จางเหอลู่ต้องรีบป้องหูในทันทีแต่ไม่พ้นเจอกรงเล็บพยัคฆ์พุ่งจู่โจมตรงช่องว่างพอดี
"...ข้ายังไม่ตายง่าย ๆ ดอก ที่แห่งนี้ขอมีอสูรเพียงตนเดียวก็เกินพอแล้ว!"
จางเหอลู่เกร็งพลังประสานลมปราณก่อกำเนิดร่างจำแลงของพญามังกรสีดำแยกเขี้ยวพร้อมจู่โจมศัตรูในทันที เกาฟานเฉียงเห็นดังนั้นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกับคำรามว่า
"ฮ่า ๆ มันต้องอย่างนี้สิ! เข้ามาเลยเจ้าสำนักมังกรทอง ขอข้าดูเฮือกสุดท้ายของอดีตเสาหลักแห่งยุทธภพหน่อยเถอะ!!!"
คราวนี้คลื่นลมปราณของอีกฝ่ายก่อตัวขึ้นเป็นพญาเสีอโคร่งสีแดงฉานราวกับหยาดโลหิตพร้อมแววตาอันดุดันกราดเกรี้ยว มันแยกเขี้ยวรับกับเสียงขู่คำรามของพญามังกรก่อนจะพุ่งเข้าปะทะกันอย่างรุนแรงจนบรรยากาศรอบข้างถึงกับบิดเบี้ยวดูดกลืนเศษซากปรักและต้นไม้ใบหญ้าเข้าไปจนสิ้น กระนั้นพลังของทั้งคู่ต่างทัดเทียมจนมิอาจตัดสินผลได้ในเพียงไม่กี่กระบวนท่าเท่านั้น
"เสาหลักแห่งยุทธภพงั้นรึ? ช่างน่าขันเสียจริง..."
ในระหว่างประมือจางเหอลู่ยังเผลอตกลงสู่ห้วงภวังค์แห่งอดีตที่ตามมาหลอกหลอนตนอยู่ทุกค่ำคืน เมื่อครั้งที่ตนยังเป็นเพียงเด็กตัวเล็ก ๆ วันหนึ่งได้พลาดทำม้วนคัมภีร์สำคัญฉีกขาดไปส่วน ทำให้ถูกลงโทษคัดลอกคัมภีร์ฝึกตนเบื้องต้นร้อยฉบับสำหรับศิษย์รุ่นเยาว์คนอื่น ๆ ในสำนัก เหอลู่เกร็งมือจับพู่กันจนเมื่อยก็ถึงกับร่ำไห้ออกมา
"หลานศิษย์เป็นอะไรไปรึ?"
เสียงทุ้มต่ำหากแต่อ่อนโยนดังขึ้นจากข้างหลัง นั่นคือเจ้าสำนักมังกรทองคนปัจจุบันผู้ผ่านร้อนหนาวมากว่าแปดสิบปีนั่นเอง เด็กน้อยเห็นเจ้าสำนักมาเองก็ยิ่งร้องหนักกว่าเดิมเพราะกลัวจะถูกลงโทษซ้ำ ท่านเจ้าสำนักเห็นม้วนคัมภีร์วางกองสุมกันอยู่ก็เข้าใจได้ในทันทีว่าอะไรเป็นอะไร จึงได้ก้มหัวลงลูบศีรษะของหลานศิษย์อย่างอ่อนโยน
"เหอลู่ เจ้าพักผ่อนเสียก่อนก็ได้ข้าไม่ว่ากระไรหรอก..."
ได้ยินดังนั้นแทนที่ศิษย์ตัวน้อยจะยอมวางมือ มันกลับรีบปาดน้ำตาจนแห้งและเร่งคัดต่อไปด้วยใจมุมานะ เจ้าสำนักเห็นยังอดชื่นชมไม่ได้
"อาจารย์ปู่ข้าไม่อยากพัก ข้าจะรีบคัดให้เสร็จแล้วไปฝึกวิชากับคนอื่น ๆ ต่อ!"
"เหตุใดเจ้าจึงมานะเช่นนี้ฤา"
"ข้าได้ยินมาว่าพวกเทียนซานมันเดินทางมาหยามอาจารย์ปู่ถึงถิ่น ข้าเจ็บใจที่ยังเด็กมิอาจออกรับหน้ากู้สถานการณ์ให้กับสำนักได้ ข้าอยากโตไว ๆ แล้วรับมือกับพวกมันเพื่อรักษาหน้าของท่านเอาไว้!"
ที่แท้จางเหอลู่ได้ยินเหตุการณ์ที่เส้าเทียนอิ้งเดินทางมาท้าประลองและเป็นฝ่ายกำชัยเหนืออาจารย์ปู่ผู้ชราจนต้องคุกเข่าหอบเหนื่อยบนลานหินหน้าสำนัก เป็นที่ขายขี้หน้าประชาราษฎร์และเหล่าเจ้าสำนักคนอื่น ๆ ยิ่งนัก เมื่อได้เห็นอาจารย์ผู้มีบุญคุณชุบเลี้ยงมาจึงเกิดแรงฮึดและความเคียดแค้นในใจ ส่งผลให้ไฟมานะจุดติดขึ้นนั่นเอง
"ฮ่า ๆ หลานศิษย์เจ้ายังเด็กแต่กลับมีน้ำใจยิ่งนัก นับถือ ๆ"
อาจารย์ปู่นั่งลงเคียงข้างหลานศิษย์ พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ ทอดสายตาเหม่อมองออกไปไกล ฟากฟ้ายามอัสดงให้ความรู้สึกผ่อนคลายและปัดเป่าความหมองมัวที่ซ่อนอยู่ในใจเจ้าสำนักชราผู้นี้ได้อย่างหมดจดยิ่ง
"ท่านอาจารย์คอยดูนะสักวันหนึ่งเมื่อข้าเติบใหญ่ขึ้น ข้าจะบุกไปถล่มเทียนซานเพื่อกู้ศักดิ์ศรีของท่านคืนมา!"
"เจ้ากู้คืนมาแล้วข้าจะเอามันไปทำอันใด? กว่าเจ้าจะโตป่านนั้นข้าก็คงลาโลกไปแล้ว... ฟังนะหากเจ้าทำลายพรรคมารถอนรากความชั่วร้ายได้ย่อมเป็นผลดีต่อผู้คน กระนั้นภารกิจช่างอันตรายยิ่งนัก หากเป็นไปได้ข้าอยากให้พวกเจ้าเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็งและคอยเป็นกำลังให้กับผู้คนที่อยู่เบื้องหลังเสียมากกว่า..."
อาจารย์ปู่กล่าววาจาที่หลานศิษย์มิอาจเข้าใจ ว่าด้วยธรรมเนียมแห่งชาวยุทธนั้นพวกมารถือเป็นภัยร้าย ย่อมต้องกำจัดให้สิ้นเสี้ยนหนามแห่งยุทธภพ หาไม่แล้วเชื้อพันธุ์แห่งความชิบหายก็จะยังคงอยู่สืบต่อไป แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตของยอดยุทธฝ่ายธรรมะก็ตาม แล้วใยเจ้าสำนักผู้ชราจึงกระทำเรื่องที่ผิดประเพณีเช่นนี้หรือ?
"แต่พวกมันคือพรรคมาร และพวกเราก็คือพรรคมังกรทองเสาหลักแห่งยุทธภพ ข้ามิอาจนิ่งดูดายให้พวกมันกระทำตามใจชอบหรอกขอรับ!"
จางเหอลู่กำหมัดกล่าวด้วยความโกรธแค้น อาจารย์ปู่ได้ยินถึงกับแค่นหัวเราะออกมา
"เสาหลักแห่งยุทธภพงั้นหรือ? ช่างน่าขันเสียจริง!"
ด้วยเหตุผลเดียวกัน ผู้เป็นบิดาย่อมไม่ปรารถนาหรือนิ่งดูดายให้ลูก ๆ ของตนต้องเผชิญอันตรายกับพวกมารที่ร้ายกาจเช่นกัน มันเป้นความรู้สึกสับสนยิ่งที่ตนรู้สึกอับอายกับความพ่ายแพ้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังยินดียิ่งที่สู้รักษาชีวิตรอดมิได้ตายให้กับศักดิ์ศรีหรือความทะนงตนไร้สาระ ได้มีโอกาสกลับมาลูบหัวหลานศิษย์และบรรดาคนอื่น ๆ ได้สัมผัสกับบรรยากาศยามสนธยา มิได้นอนกลายเป็นรากไม้ใต้ล่างหลุมศพปะยี่ห้อ เจ้ายุทธจักร บ้าบอคอแตกที่หาประโยชน์อันใดต่อตนเองมิได้ หากพูดออกไปเจ้าสำนักคนอื่น ๆ คงหัวร่อถ่มถุยให้เป็นแน่ อาจารย์ปู่จึงเลือกที่จะเก็บนิ่งเอาไว้ และดื่มด่ำกับค่ำคืนอันแสนสงบสุขต่อไปอีกหนึ่งวัน
และได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง เหล่าลูกหลานแห่งมังกรจะสำเหนียกได้ถึงข้อเท็จจริงนี้ และเดินไปสู่หนทางที่คู่ควรตามครรลองแห่งธรรมอย่างแท้จริง...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น