ลำดับตอนที่ #66
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #66 : ลำแสงกับเทือกเขา
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง... เมื่อพวกเอเลี่ยนจากต่างดาวนำยานอวกาศบุกมาถึงหน้าพระราชวังเพื่อเข้าเฝ้าอย่างเป็นทางการกับฮ่องเต้ แน่นอนว่าบรรดาไพร่ฟ้าและข้าราชบริพารทั้งหลายต่างแตกตื่นอลหม่านไปทั่ว ด้วยไม่เคยพบเห็นเจ้าวัตถุประหลาดที่ลอยกลางฟ้าได้เช่นนี้มาก่อนในชีวิต แต่ตัวผมนั้นรู้ดีว่าความชิบหายกำลังจะมาเยือนดินแดนแห่งนี้ในไม่ช้า อย่างน้อยลางสังหรณ์ในตัวมันก็บอกออกมาเช่นนั้น...
"ก่อนอื่นกระผมขออภัยที่เดินทางมาเยือนดินแดนของพวกท่านอย่างกะทันหันโดยมิได้นัดหมาย และกล่าวคำทักทายรวมถึงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการขอรับ!"
ชายหนุ่มท่าทางองอาจโค้งตัวลงพร้อมกล่าวคำทักทายองค์ฮ่องเต้ซึ่งประทับบนบัลลังก์สีทองในท้องพระโรง ท่าทางของเขาดูนิ่งสุขุม เรือนผมสีทองและดวงตาสีฟ้าใสราวน้ำทะเลนั่นทำเอาทุกคนต่างตกตะลึงและรู้สึกหวาดกลัวไปพร้อม ๆ กัน แม้แต่ฮ่องเต้เองยังแทบเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ส่วนตัวผมกับน้องหมานั้นแอบซุ่มดูท่าทีอยู่หลังฉากเพื่อสังเกตดูว่าอาคันตุกะจากต่างดาวนี้คิดจะทำอะไรกันแน่?
"กระผมคือร้อยเอกเกรแฮม เบเกอร์ ตัวแทนอย่างเป็นทางการจากสหพันธ์ความร่วมมือแห่งทางช้างเผือก เดินทางมาเพื่อเสริมสร้างสัมพันธไมตรีที่ดีต่อดินแดนต้าหลงแห่งนี้ในฐานะมิตรประเทศ ด้วยการนี้กระผมจึงนำสิ่งของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาเป็นเครื่องบรรณาการดังที่เห็น"
เขาจัดแจงวางถาดที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับอันประดับประดาไปด้วยทองคำและเครื่องอัญมณีหลากสี มันสะท้อนแสงแวววาวจนแสบตาไปหมด นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นที่แกะสลักจากหินอ่อนเป็นรูปคชสารขนาดใหญ่สูงราวห้าเมตรซึ่งตั้งอยู่ภายนอกอีกสองตัวด้วย แน่นอนว่ามูลค่าของมันแทบจะประเมินไม่ได้เลยทีเดียว แต่ที่ดูจะดึงดูดสายตาและความสนใจของทุกคนยิ่งกว่าเครื่องเพชรพวกนี้ก็คือเจ้ายานอวกาศที่ลอยอยู่เหนือชั้นเมฆที่ด้านบนนั่นต่างหาก
"ฮะ ๆ ดูเหมือนว่าทุกท่านจะสนใจยานสำรวจของพวกกระผมมากกว่าสิ่งของพวกนี้สินะ?"
เกรแฮมยิ้มอย่างมีเลศนัย แน่ล่ะเพราะว่ามันยังไม่ได้โชว์ไม้เด็ดอีกอย่างนั่นคือพวกหุ่นยนต์ยักษ์ที่เก็บซ่อนไว้ข้างในยานไม่ใช่รึไง? ตอนนี้ผมกับจอมมารต่างนิ่งเงียบเฝ้ามองความเป็นไปอย่างอดทน ด้วยไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นจะมาไม้ไหนกันแน่...
"เจ้าอ้างว่าเจ้าชื่อเกรแฮมและมาจากดินแดนอันไกลโพ้น เดินทางมาเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเราแต่ข้ายังไม่เห็นว่ามีสิ่งใดที่เชื่อถือได้ในน้ำคำจากเจ้าเลยแม้แต่น้อย..."
ฮ่องเต้วางท่าอย่างองอาจ ด้วยว่าการปรากฏตัวของหมอนี่ก็ชวนให้น่าสงสัยจริง ๆ นั่นแหละ แถมรูปร่างหน้าตาของเจ้าฝรั่งนี่ก็ช่างห่างไกลกับโทนเอเซียของคนแถวนี้อยู่มาก เพราะฉะนั้นเลยพยายามสงวนท่าทีไว้ก่อนสิท่า แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเอกบุรุษจะไม่รอดเอาก็งานนี้ล่ะมั้ง? ขืนไปยั่วโมโหพวกมันเข้าไม่รู้ว่าจะโดนอะไรบ้าง
"หึหึ... ท่าทางพวกท่านจะไม่เชื่อใจกระผมเอาเสียเลยนะ เช่นนั้นคงต้องแสดงอะไรให้เห็นเป็นตัวอย่างกันบ้างแล้ว!"
เกรแฮมชี้นิ้วไปยังขุนเขาที่อยู่ไกลออกไปทางด้านขวามือ พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่าจากการสำรวจของพวกมัน ที่นั่นคือเทือกเขาเหลียงฮั่วอันเป็นแนวทิวเขาที่ทอดยาวขวางกั้นลำน้ำมาแต่โบราณ ร่ำลือกันว่าเป็นสถานที่ในตำนานที่เหล่าเซียนเคยใช้บำเพ็ญเพียรก่อนเดินทางขึ้นไปสู่สรวงสวรรค์เบื้องบน
"ดูท่าว่าเจ้าจะศึกษา..."
ฮ่องเต้ยังไม่ทันพูดจบประโยค ยานอวกาศที่ลอยลำอยู่ที่บนท้องฟ้าก็ยิงลำแสงพุ่งตรงไปยังเทือกเขาเหลียวฮั่วในทันที แรงระเบิดที่เกิดขึ้นส่งให้พื้นดินสะเทือนราวกับแผ่นดินไหว ชั่วครู่หนึ่งพลังเสียงอันกึกก้องราวกับฟ้าถล่มก็แผ่ขยายตามมาจนแม้แต่ฮ่องเต้และบรรดาข้าราชบริพารทั้งหลายต่างล้มระเนระนาดด้วยความตื่นตะหนกไปกันหมด แล้วเทือกเขาในตำนานก็กลายเป็นรูโหว่ที่ใจกลางราวกับใครเอาสกรูมาขันเอาไว้
"...กระผมเดินทางข้ามผ่านทะเลดวงดาวหลายร้อยปีแสง เพื่อมาสำรวจและผูกไมตรีกับพวกท่านถึงที่นี่ แต่สิ่งแรกที่ได้รับกลับมาจากการเดินทางอันยาวนานคือสิ่งนี้!"
เกรแฮมยื่นแผ่นจดหมายเรียกค่าไถ่ที่มีรูปวาดของยัยโหดซึ่งพวกผมจับตัวเอาไว้ที่เทียนซานขึ้นมา แล้วเดินไปจ่อที่หน้าของฮ่องเต้ที่ยังคงนั่งคุดคู้อยู่ที่พื้น
"ท่านอาจจะยังไม่ทราบ แต่นี่คือองค์หญิงคนสำคัญของทางกระผมนามว่าชาล็อต และอย่างที่ท่านเห็น จดหมายฉบับนี้ถูกส่งมาเพื่อข่มขู่เรียกค่าไถ่ของทางนี้..."
เลือดในตัวของผมแทบจะจับตัวแข็ง เจ้าพวกนั้นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจริง ๆ ด้วยและมันก็ไม่คิดจะล้อเล่นแต่อย่างใด โธ่ไอ้หมาโง่เอ๊ยย! อยู่ดี ๆ ก็แกว่งเท้าหาเสี้ยนซะงั้น แล้วทีนี้จะทำยังไงกันล่ะเฟ้ย!!! ผมหันไปค้อนใส่จอมมารที่ยังคงทำหน้าตะลึงไม่แพ้ฮ่องเต้เช่นกัน
@@@@@@@@@@@@
ในระหว่างที่เกรแฮมและสมาชิกในยานคนอื่น ๆ กำลังออกไปปฏิบัติภารกิจที่ด้านนอกอยู่นั้น แอนดรอยสาวอลิซาเบธผู้ประจำอยู่บนยานกับมารีนก็ปลีกตัวออกมาในที่ลับตาคน ก่อนจะเริ่มดำเนินการสื่อสารด้วยเครื่องส่งสัญญาณระยะไกลที่แอบซ่อนเอาไว้ภายในช่องว่างตรงส่วนหน้าอกในทันที
"ซ่า... ซ่า... อลิ... ซา... เบธ..."
"จับสัญญาณได้แล้วค่ะ ขอเวลาจัดการกับสัญญาณรบกวนรอบข้างสักครู่...!"
แอนดรอยสาวรู้สึกโล่งใจที่สามารถส่งสัญญาณกลับไปยังสหราชอาณาจักรได้ แม้ว่าระยะทางจะห่างไกลกันหลายปีแสงก็ตามที นั่นเพราะหลักการขยายคลื่นสัญญาณผ่านทางกองยานลาดตระเวณที่เดินทางสำรวจไปตามเส้นขอบเขตแดนรอบนอกนั่นเอง แน่นอนว่าสัญญาณดังกล่าวเป็นความลับอย่างยิ่งยวดที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหพันธ์ฯ ก็ยังไม่ทราบ
"อลิซาเบธ... ตกลงว่าแผนการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นใช่มั้ย?"
"แน่นอนค่ะ! เมื่อดิฉันส่งตัวชาล็อตให้กับพวกศัตรูสำเร็จ เจ้าพวกบนยานนี่ก็เต้นเป็นเจ้าเข้าเลยทีเดียว และเป็นไปตามที่ดิฉันคาดการณ์ไว้คือพวกมันจงใจปกปิดเรื่องนี้เป็นความลับอีกด้วย"
แอนดรอยสาวยิ้มออกมา มันช่างเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์และน่าสะพรึงกลัวที่สุด เจ้าพวกนายทหารระดับล่างของสหพันธ์ฯ ไม่ได้ระแคะระคายเลยว่าตนเองเป็นผู้หยิบยื่นองค์หญิงคนสำคัญด้วยมือนี้เอง และตอนนี้พวกมันก็วิ่งพล่านหาทางช่วยเหลือชาล็อตอย่างเต็มความสามารถเท่าที่จะทำได้ โดยไม่มีการซัพพอร์ตใด ๆ จากทางเบื้องบนแม้แต่น้อย
"ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เธอนี่มันช่างเลือดเย็นจริง ๆ เห็นแบบนั้นแต่ชาล็อตก็เป็นหลานสาวในไส้ของทางนี้เชียวนะ!"
ราชินีคราวเดียหัวเราะเบา ๆ อยู่ที่ปลายสายอีกฝั่ง แผนการครั้งนี้ไม่มีใครล่วงรู้มาก่อนแม้แต่ชาล็อต หลานสาวแท้ ๆ เพียงคนเดียวขององค์ราชินีก็ตาม
"ทั้งหมดนี้ก็เพื่อ เซฟิราฟ เอเนอจี้ ค่ะ! และความรุ่งเรืองของสหราชอาณาจักร!"
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น