ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #58 : ในความฝันและชายประหลาด

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 658
      28
      13 ธ.ค. 60


         เมื่อโรงเก็บหุ่นยนต์ภายในยานปราศจากผู้คนแล้ว  ผมจึงฉวยโอกาสแอบด้อม ๆ มอง ๆ ไปทั่วบริเวณเพื่อสำรวจดูว่าในนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง  ซึ่งที่นี่มีแทบทุกอย่างที่สามารถจินตนาการได้ในหนังไซไฟ-อวกาศเลยทีเดียว  ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ยักษ์สูงเกือบสามเท่าของตัวผม  หรือจะเป็นอุปกรณ์สุดไฮเทคที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและผมไม่รู้เลยว่าแต่ละอย่างมันใช้ทำอะไรบ้าง?  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปุ่มกดมากมายชวนให้ตาลาย  แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเจ้าปืนกระบอกโตที่วางเรียงอยู่ตรงมุมด้านหนึ่งที่ดึงความสนใจของผมได้มากที่สุด  แน่นอนว่าไอ้เราก็ไม่รอช้าต้องรีบวิ่งไปลูบ ๆ คลำ ๆ เจ้าอาวุธล้ำสมัยนั่นในทันที  โดยไม่ทันได้ระวังตัวเลยว่ามันจะมีระบบป้องกันขโมยติดตั้งไว้ด้วย!

    หวอออ... หวอออ...

         "เฮ้ยซวยล่ะตรู!!!"

         หัวใจผมแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อจู่ ๆ เสียงสัญญาณเตือนภัยดังระงมไปทั่วทั้งยาน  ประตูชัตเตอร์ทุกบานพลันเลื่อนปิดลงมาหมดเพื่อผนึกทางหนีของผมโดยสมบูรณ์  ครั้นจะมองหาทางหนีจากหน้าต่างก็ดันไม่มีอีก  และไม่นานจากนั้นก็มีกลุ่มควันสีขาวที่ปล่อยออกมาจากช่องลมลอยไปทั่วบริเวณ  ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้... ว่า... นี่.. คือ...

         "เวร... เอ๊ยย...!"

         ผมพยายามขืนสติไม่ยอมให้สลบแต่ในเมื่อเจ้าควันดังกล่าวออกฤทธิ์รุนแรงเหลือเกินจึงต้องล้มลงนอนเป็นอัมพาตขยับตัวไปไหนไม่ได้อยู่อย่างนั้น  นานจนกระทั่งสติหลุดลอยไปท่ามกลางเสียงสัญญาณในที่สุด...


    @@@@@@@@@@@@


         "เจ้าโชค! ต้องให้แม่บอกกี่ครั้งว่ากินเสร็จแล้วก็ล้างชามให้เรียบร้อยสิ  แล้วนี่ไปช่วยพี่เค้าทำงานรึยังน่ะฮึ?"

         แล้วผมก็กลับมาที่ตรงนี้อีกครั้ง  ในความฝันอันน่ารำคาญที่มีแม่จอมโวยวายและพี่ชายขี้เต๊ะบนโต๊ะอาหาร  คอยบ่นดุว่าทุกครั้งไม่ว่าผมคิดจะทำอะไรก็ตามราวกับว่าการที่มีผมอยู่ตรงนั้นมันน่ารำคาญเสียเต็มประดา

         "โอ๊ยย มันจะอะไรกันหนักหนาเนี่ย!  ผมก็บอกแล้วไงว่าขออ่านการ์ตูนจบก่อนได้มั้ย  นี่ขนาดตอนกินข้าวยังไม่มีเวลาเป็นอิสระอีกเหรอ?"

         "อ๋อ เดี๋ยวนี้กล้าเถียงกับแม่แล้วรึ! ดีงั้นคืนนี้ไปหาข้าวกินเองเลยไป๊!!!"

         แม่ตวาดใส่หน้าผม  ก่อนจะเก็บจานชามทั้งหมดบนโต๊ะไปวางกองไว้ในอ่างล้างทันที  ไม่สนว่าผมยังกินเหลือค้างอยู่เลยสักนิด  แต่ช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ผมก็ไม่มีอารมณ์จะมานั่งกินอย่างสบายใจเหมือนกัน

         "เฮ้ออ... แต่ละคนก็นะ  ขิงก็ราข่าก็แรงจริง ๆ"

         พี่ชายเลิกคิ้วก่อนจะลุกจากโต๊ะอาหาร  ใช่สิก็เอ็งกินหมดก่อนใครเพื่อนนี่หว่าถึงโดนเก็บจานไปก็ไม่เดือดร้อนจริงไหม  ไม่งั้นคงไม่เต๊ะท่าพูดอะไรเท่ ๆ แบบนั้นออกมาได้หรอก  ก็คงโวยวายเหมือนตรูนี่แหละ!

         "...เป็นความฝันที่น่าสนใจดีนะ"

         เสียงลึกลับที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมรีบหันไปมองในทันที  ปรากฎชายผู้หนึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ไม้ริมกำแพงท่าทางไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด  หมอนี่ดูแล้วอายุอานามน่าจะราว ๆ ไม่เกินสามสิบได้  ใบหน้าเรียวยาว  รูปร่างสะโอดสะองค์จนแอบนึกว่าเป็นผู้หญิงหรือเปล่า  ทว่าแววตานั้นกลับดูเปล่งประกายเฉิดฉายและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน  มันลูบปลายผมสีดำขลับที่มัดเป็นหางม้าเบา ๆ ก่อนจะมองไปที่แม่และพี่ชาย  ดูท่าทางว่าทั้งสองคนนั้นจะไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของชายลึกลับคนนี้เลย

         "ไม่ต้องห่วงนี่คือในความฝันของเธอ  เป็นอาณาเขตเฉพาะของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น"

         ราวกับอ่านใจได้  หมอนั่นพูดกับผมโดยที่ยังไม่ละสายตาจากแม่และพี่ชาย 

         "แม่และพี่ชายที่อยู่ตรงนั้นก็เป็นแค่องค์ประกอบที่เธอสร้างขึ้นจากความทรงจำเท่านั้นเอง  ที่ตรงนี้มีเพียงเธอกับฉันที่เป็น ของจริง !"  

         "แล้วแกเป็นใครต้องการอะไรกันแน่!"

         หากว่านี่คือภายในความฝันของผมและเป็นอาณาเขตเฉพาะที่ตัวผมสร้างขึ้นจริง  แล้วหมอนี่เป็นใครถือตัววิเศษวิโสมาจากไหนถึงล่วงล้ำเข้ามาในความทรงจำของคนอื่นตามใจชอบได้แบบนี้ ไม่สิ... หรือว่าหมอนี่จะเป็นศัตรูกันแน่นะ?

         "ไม่ใช่ศัตรูของเธอหรอก  แล้วก็ไม่ได้เป็นมิตรด้วย  เอาเป็นว่าตอนนี้คือผู้เฝ้ามองก็แล้วกัน" 

         ชายคนนั้นส่งยิ้มให้  มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาไร้สิ่งเคลือบแฝงใด ๆ  และทำให้ผมรู้สึกขนลุกได้ในเวลาเดียวกันด้วย  ดูจากการแต่งตัวแล้วท่าทางหมอนี่จะเป็นพวกจอมยุทธเหมือนกับห้าพรรคใหญ่พวกนั้น...  หรือว่า!

         "ตอนนี้เธอน่าจะมีเรื่องให้ต้องเป็นห่วงมากกว่านี้หรือเปล่า?  เช่นเรื่องที่โดนพวกสมาพันธ์ความร่วมมือแห่งทางช้างเผือกจับกุมตัวเอาไว้ไง..."

         ชายคนนั้นลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาจับบ่าผมบีบเบา ๆ ความอบอุ่นจากตัวของมันไหลผ่านเข้ามาทางผิวหนังของผมอย่างเงียบเชียบ  แล้วทันใดนั้นทั้งโต๊ะอาหาร  แม่ พี่ชาย รวมถึงข้าวของอื่น ๆ พลันละลายกลายเป็นของเหลวสีดำข้นคลั่กที่ถาโถมเข้าท่วมตัวผมอย่างรวดเร็ว 

         "เฮ้ยนี่มันอะไรกันน่ะ!!!"

         ผมพยายามดิ้นรนพาตัวเองหนีออกจากของเหลวสีดำที่ไหลวนไปรอบห้อง  แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตัวค่อย ๆ จมลงเหมือนกับคนที่ตกลงไปในบึงอันมืดมิด  ขนาดเรี่ยวแรงจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากแม่และพี่ชายยังไม่มีเลย

         "แล้วเราคงจะได้เจอกันอีกในสักวันหนึ่ง  ก่อนจะถึงตอนนั้นจงมองดูพระจันทร์เอาไว้!"

         ชายคนนั้นชี้มือขึ้นไปยังเพดานเบื้องบน

         "จันทราคือตัวแทนแห่งข้า  สัญลักษณ์แห่งความไม่สิ้นสุด..." 

         นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน  ก่อนที่ส่วนศีรษะจะจมลงสู่เบื้องลึกภายใต้ของเหลวสีดำนั่นไปพร้อม ๆ กับที่สติขาดหายไปอีกเช่นเดิม  ดูเหมือนว่าปริศนาในเรื่องราวทั้งหมดนี่จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปทุกที  ราวกับจิ๊กซอว์ที่ไม่มีวันต่อจนเสร็จสมบูรณ์ได้...


    จบตอน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×