ลำดับตอนที่ #58
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #58 : ในความฝันและชายประหลาด
เมื่อโรงเก็บหุ่นยนต์ภายในยานปราศจากผู้คนแล้ว ผมจึงฉวยโอกาสแอบด้อม ๆ มอง ๆ ไปทั่วบริเวณเพื่อสำรวจดูว่าในนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง ซึ่งที่นี่มีแทบทุกอย่างที่สามารถจินตนาการได้ในหนังไซไฟ-อวกาศเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ยักษ์สูงเกือบสามเท่าของตัวผม หรือจะเป็นอุปกรณ์สุดไฮเทคที่วางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบและผมไม่รู้เลยว่าแต่ละอย่างมันใช้ทำอะไรบ้าง? เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีปุ่มกดมากมายชวนให้ตาลาย แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเจ้าปืนกระบอกโตที่วางเรียงอยู่ตรงมุมด้านหนึ่งที่ดึงความสนใจของผมได้มากที่สุด แน่นอนว่าไอ้เราก็ไม่รอช้าต้องรีบวิ่งไปลูบ ๆ คลำ ๆ เจ้าอาวุธล้ำสมัยนั่นในทันที โดยไม่ทันได้ระวังตัวเลยว่ามันจะมีระบบป้องกันขโมยติดตั้งไว้ด้วย!
หวอออ... หวอออ...
"เฮ้ยซวยล่ะตรู!!!"
หัวใจผมแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมื่อจู่ ๆ เสียงสัญญาณเตือนภัยดังระงมไปทั่วทั้งยาน ประตูชัตเตอร์ทุกบานพลันเลื่อนปิดลงมาหมดเพื่อผนึกทางหนีของผมโดยสมบูรณ์ ครั้นจะมองหาทางหนีจากหน้าต่างก็ดันไม่มีอีก และไม่นานจากนั้นก็มีกลุ่มควันสีขาวที่ปล่อยออกมาจากช่องลมลอยไปทั่วบริเวณ ไม่ต้องบอกก็พอจะรู้... ว่า... นี่.. คือ...
"เวร... เอ๊ยย...!"
ผมพยายามขืนสติไม่ยอมให้สลบแต่ในเมื่อเจ้าควันดังกล่าวออกฤทธิ์รุนแรงเหลือเกินจึงต้องล้มลงนอนเป็นอัมพาตขยับตัวไปไหนไม่ได้อยู่อย่างนั้น นานจนกระทั่งสติหลุดลอยไปท่ามกลางเสียงสัญญาณในที่สุด...
@@@@@@@@@@@@
"เจ้าโชค! ต้องให้แม่บอกกี่ครั้งว่ากินเสร็จแล้วก็ล้างชามให้เรียบร้อยสิ แล้วนี่ไปช่วยพี่เค้าทำงานรึยังน่ะฮึ?"
แล้วผมก็กลับมาที่ตรงนี้อีกครั้ง ในความฝันอันน่ารำคาญที่มีแม่จอมโวยวายและพี่ชายขี้เต๊ะบนโต๊ะอาหาร คอยบ่นดุว่าทุกครั้งไม่ว่าผมคิดจะทำอะไรก็ตามราวกับว่าการที่มีผมอยู่ตรงนั้นมันน่ารำคาญเสียเต็มประดา
"โอ๊ยย มันจะอะไรกันหนักหนาเนี่ย! ผมก็บอกแล้วไงว่าขออ่านการ์ตูนจบก่อนได้มั้ย นี่ขนาดตอนกินข้าวยังไม่มีเวลาเป็นอิสระอีกเหรอ?"
"อ๋อ เดี๋ยวนี้กล้าเถียงกับแม่แล้วรึ! ดีงั้นคืนนี้ไปหาข้าวกินเองเลยไป๊!!!"
แม่ตวาดใส่หน้าผม ก่อนจะเก็บจานชามทั้งหมดบนโต๊ะไปวางกองไว้ในอ่างล้างทันที ไม่สนว่าผมยังกินเหลือค้างอยู่เลยสักนิด แต่ช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ผมก็ไม่มีอารมณ์จะมานั่งกินอย่างสบายใจเหมือนกัน
"เฮ้ออ... แต่ละคนก็นะ ขิงก็ราข่าก็แรงจริง ๆ"
พี่ชายเลิกคิ้วก่อนจะลุกจากโต๊ะอาหาร ใช่สิก็เอ็งกินหมดก่อนใครเพื่อนนี่หว่าถึงโดนเก็บจานไปก็ไม่เดือดร้อนจริงไหม ไม่งั้นคงไม่เต๊ะท่าพูดอะไรเท่ ๆ แบบนั้นออกมาได้หรอก ก็คงโวยวายเหมือนตรูนี่แหละ!
"...เป็นความฝันที่น่าสนใจดีนะ"
เสียงลึกลับที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ผมรีบหันไปมองในทันที ปรากฎชายผู้หนึ่งกำลังนั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้ไม้ริมกำแพงท่าทางไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด หมอนี่ดูแล้วอายุอานามน่าจะราว ๆ ไม่เกินสามสิบได้ ใบหน้าเรียวยาว รูปร่างสะโอดสะองค์จนแอบนึกว่าเป็นผู้หญิงหรือเปล่า ทว่าแววตานั้นกลับดูเปล่งประกายเฉิดฉายและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน มันลูบปลายผมสีดำขลับที่มัดเป็นหางม้าเบา ๆ ก่อนจะมองไปที่แม่และพี่ชาย ดูท่าทางว่าทั้งสองคนนั้นจะไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของชายลึกลับคนนี้เลย
"ไม่ต้องห่วงนี่คือในความฝันของเธอ เป็นอาณาเขตเฉพาะของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น"
ราวกับอ่านใจได้ หมอนั่นพูดกับผมโดยที่ยังไม่ละสายตาจากแม่และพี่ชาย
"แม่และพี่ชายที่อยู่ตรงนั้นก็เป็นแค่องค์ประกอบที่เธอสร้างขึ้นจากความทรงจำเท่านั้นเอง ที่ตรงนี้มีเพียงเธอกับฉันที่เป็น ของจริง !"
"แล้วแกเป็นใครต้องการอะไรกันแน่!"
หากว่านี่คือภายในความฝันของผมและเป็นอาณาเขตเฉพาะที่ตัวผมสร้างขึ้นจริง แล้วหมอนี่เป็นใครถือตัววิเศษวิโสมาจากไหนถึงล่วงล้ำเข้ามาในความทรงจำของคนอื่นตามใจชอบได้แบบนี้ ไม่สิ... หรือว่าหมอนี่จะเป็นศัตรูกันแน่นะ?
"ไม่ใช่ศัตรูของเธอหรอก แล้วก็ไม่ได้เป็นมิตรด้วย เอาเป็นว่าตอนนี้คือผู้เฝ้ามองก็แล้วกัน"
ชายคนนั้นส่งยิ้มให้ มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสาไร้สิ่งเคลือบแฝงใด ๆ และทำให้ผมรู้สึกขนลุกได้ในเวลาเดียวกันด้วย ดูจากการแต่งตัวแล้วท่าทางหมอนี่จะเป็นพวกจอมยุทธเหมือนกับห้าพรรคใหญ่พวกนั้น... หรือว่า!
"ตอนนี้เธอน่าจะมีเรื่องให้ต้องเป็นห่วงมากกว่านี้หรือเปล่า? เช่นเรื่องที่โดนพวกสมาพันธ์ความร่วมมือแห่งทางช้างเผือกจับกุมตัวเอาไว้ไง..."
ชายคนนั้นลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมาจับบ่าผมบีบเบา ๆ ความอบอุ่นจากตัวของมันไหลผ่านเข้ามาทางผิวหนังของผมอย่างเงียบเชียบ แล้วทันใดนั้นทั้งโต๊ะอาหาร แม่ พี่ชาย รวมถึงข้าวของอื่น ๆ พลันละลายกลายเป็นของเหลวสีดำข้นคลั่กที่ถาโถมเข้าท่วมตัวผมอย่างรวดเร็ว
"เฮ้ยนี่มันอะไรกันน่ะ!!!"
ผมพยายามดิ้นรนพาตัวเองหนีออกจากของเหลวสีดำที่ไหลวนไปรอบห้อง แต่ก็ไม่เป็นผลเพราะตัวค่อย ๆ จมลงเหมือนกับคนที่ตกลงไปในบึงอันมืดมิด ขนาดเรี่ยวแรงจะตะโกนขอความช่วยเหลือจากแม่และพี่ชายยังไม่มีเลย
"แล้วเราคงจะได้เจอกันอีกในสักวันหนึ่ง ก่อนจะถึงตอนนั้นจงมองดูพระจันทร์เอาไว้!"
ชายคนนั้นชี้มือขึ้นไปยังเพดานเบื้องบน
"จันทราคือตัวแทนแห่งข้า สัญลักษณ์แห่งความไม่สิ้นสุด..."
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยิน ก่อนที่ส่วนศีรษะจะจมลงสู่เบื้องลึกภายใต้ของเหลวสีดำนั่นไปพร้อม ๆ กับที่สติขาดหายไปอีกเช่นเดิม ดูเหมือนว่าปริศนาในเรื่องราวทั้งหมดนี่จะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปทุกที ราวกับจิ๊กซอว์ที่ไม่มีวันต่อจนเสร็จสมบูรณ์ได้...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น