ลำดับตอนที่ #44
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่07
ด้วยวิชาเมฆดำสุดพิสดารของจางเหอลู่ทำให้จอมยุทธหนุ่มหลิวเย่อจื่อบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ กระนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ เย่อจื่อเริ่มเรียนรู้ว่าการเอาชนะคลื่นพลังนี้คงเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น สู้บุกเข้าไปหักเอาชัยกับเจ้าตัวเลยดีกว่า จึงได้หาทางหลบหลีกเจ้าก้อนเมฆนั้นเสียและเล็งหาจังหวะจู่โจมอีกฝ่าย ทว่าการณ์กลับพลิกผันเมื่อพ้นจากคลื่นพลังนั้นมาได้ ประมุขพรรคมังกรทองก็หาได้ยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่ เย่อจื่อกวาดสายตามองไปรอบลานประลองเพื่อตามหาเป้าหมายในทันที
"สิ่งที่เจ้าคิดได้ข้าย่อมคิดได้เช่นกัน เด็กเมื่อวานซืนช่างหาญกล้าท้าทายอำนาจที่เจ้ามิอาจเอื้อมถึงงั้นรึ!"
จางเหอลู่ที่แอบหลบอยู่ในกลุ่มเมฆสีดำพลันปรากฏตัวออกมาพร้อมกับพลังฝ่ามืออันร้ายกาจ แค่กระแสปราณที่วิ่งไปมาก็ดูคล้ายกับมังกรสีดำขนาดเล็กกำลังร่ายรำอยู่รอบตัวของมัน เดิมฝ่ามือมังกรทองนั้นก็ทรงอานุภาพร้ายกาจอยู่แล้ว เมื่อผนวกเข้ากับวิชาเซียนจำแลงยิ่งเปล่งประกายมหาวินาศให้เฉิดฉายดูน่าสยดสยอง ด้านเด็กหนุ่มกว่าจะทันรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วจึงโดนฝ่ามือซัดเข้าไปเต็ม ๆ ไอร้อนที่แผ่ออกมาจากปลายมือของประมุขจางรุนแรงขนาดหลอมหินโดยรอบให้ละลายได้ในพริบตา
"เย่อจื่อ!!!"
หลิวเสียะหัวผู้บิดาถึงกับตะโกนอย่างลืมตัว เมื่อได้เห็นลูกรักพลาดท่ารับพลังอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความเป็นความตายนั้น เย่อจื่อยังใช้สัญชาตญาณรับมือการจู่โจมสายฟ้าแลบด้วยเพลงกระบี่ จันทร์ประสานกาย ซึ่งเป็นท่วงท่าประสานระหว่างความแข็งแกร่งและอ่อนโยน ใช้เคล็ดอ่อนสยบแข็งสลายพลังทำลายบางส่วนลงได้ก่อนถึงตัว กระนั้นก็ยังบาดเจ็บขนาดกระอักเลือดทรุดลงไปกองที่พื้น
"หน้าไม่อายจริง ๆ นี่ข้าอุตส่าห์ออมมือให้แล้วนะ เมื่อครู่นี้แค่พลังสองในสิบส่วนเท่านั้นก็ทนไม่ไหวแล้วรึ?"
ทุกคนในลานประลองต่างตกใจแทบสิ้นสติกับคำพูดของประมุขมังกรทอง เพราะไม่ว่าจะประเมินยังไงฝ่ามือเมื่อครู่ก็ดูร้ายเทียบเท่าวิชาลับพยัคฆ์เหนือตะวันของประมุขเกาได้เลยทีเดียว แต่นี่กลับมาบอกว่าใช้พลังไปแค่สองส่วนเท่านั้น ยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ!
"ต่อไปเป็นพลังห้าส่วนจงเบิกตาดูให้ดี ๆ ล่ะ นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเจ้าแล้วก็ได้!"
และแล้วจางเหอลู่ก็สำแดงพลังถึงครึ่งหนึ่งออกมาจนได้ อาศัยแค่แรงกดจากลมปราณของมันก็สร้างความบิดเบี้ยวในชั้นบรรยากาศโดยรอบของลานประลองขึ้นมาทันที มองเห็นเป็นประกายสายฟ้าสีดำแล่นไปทั่วบริเวณ ประมุขมังกรทองรวบพลังไว้ที่สองมือก่อเกิดคลื่นทรงกลมกับพลังทำลายล้างอันสุดประมาณได้
"นี่คืออานุภาพที่แท้จริงของเซียน! ใครกล้าขวางข้าตาย!!!"
เมื่อคำประกาศิตหลุดจากปากของมัน คลื่นทรงกลมก็ระเบิดแตกออกกลายเป็นปราณรูปกระบี่สีดำจำนวนมากมายมหาศาลพุ่งทะยานเข้าหาเย่อจื่อในพริบตา เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นเตรียมรับมือการโจมตี ทว่าบาดแผลที่สาหัสก็ทำให้มันตั้งท่าไม่ได้ดั่งใจนึกและเสียหลักล้มลง จังหวะนั้นเองที่ปราณกระบี่ถาโถมเข้าใส่ราวกับสายฝนจนเกิดเสียงระเบิดกึกก้องไปทั่วพื้นที่
"คิดจะทำอะไร! กล้าดียังไงถึงขัดขวางข้าผู้นี้?"
เมื่อฝุ่นควันจากการโจมตีเมื่อครู่สงบลง ทุกคนจึงได้เห็นว่ามีบุคคลผู้หนึ่งที่กระโจนลงไปรับมือกับพลังปราณอันร้ายกาจนั้นแทนหลิวเย่อจื่อ บุคคลที่ทรงพลังล้ำลึกไม่ต่างไปจากประมุขพรรคมังกรทอง และเขาก็คือหลิวเสียะหัวบิดาของเย่อจื่อนั่นเอง!
"ประมุขหลิว ท่านเจตนาขัดขวางการประลองอันทรงเกียรติก็เท่ากับท่านได้ดูหมิ่นทุกสำนักซึ่งได้ดั้นด้นมาในวันนี้ ดังนั้นสิทธิ์การประลองของสำนักหมาป่าเงินก็สิ้นสุดลงที่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน ขอให้ท่านจงกลับไปเสียเถิด!"
นักพรตเจ็ดดาวกล่าวแก่เสียะหัวที่ยืนตีหน้าอาฆาตจ้องจางเหอลู่แบบไม่วางตา ใจหนึ่งนักพรตก็โล่งที่จอมยุทธหนุ่มอนาคตไกลไม่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายจงใจหักกฏก็จำต้องประกาศให้สาธารณะรับทราบถึงความอับอายของสำนักนี้
"เจ็ดดาวเจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ข้ารู้ดีว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่แต่ไอ้สัตว์นรกนี่มันตั้งใจจะสังหารลูกชายข้านะ จะให้นิ่งดูดายอยู่ได้เช่นไร?"
เสียะหัวโกรธจนควันออกหู วันนี้ประมุขจางเปลี่ยนไปมากจริง ๆ หากเป็นเมื่อก่อนคงเล่นงานแต่พอสมควรและปลดอาวุธเย่อจื่อออกก็เพียงพอแล้ว นี่เล่นลงมือถึงขนาดหมายเอาชีวิตกันทั้งที่ผลการประลองก็ปรากฎชัดแล้วด้วยซ้ำ จางเหอลู่แค่นหัวเราะตอบกลับมาว่า
"น่าขายหน้าจริงที่มีลูกชายไร้ความสามารถ โตป่านนี้แล้วยังต้องให้ผู้เป็นพ่อต้องแบกรับความอับอายถึงขนาดนี้อีก ถ้าข้ามีลูกเช่นนี้คงยื่นกระบี่ให้เชือดคอตายไปนานแล้ว!"
อย่าว่าแต่สำนักอื่นเลย กระทั่งบรรดาลูกชายลูกสาวของประมุขจางยังถึงกับก้มหน้าด้วยความละอาย หลายวันมานี้ตั้งแต่ที่พ่อกลับมาจากหอฌานก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เคยจำได้ นอกจากรูปร่างหน้าตาที่คุ้นเคยดีอยู่แล้วอย่างอื่นแทบจะกลายเป็นบุคคลลึกลับที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน ราวกับว่ามีภูติผีตนใดจงใจแอบสวมรอยสิงสู่บิดาของตนยังไงยังงั้น
"เช่นนั้นข้าจักสังหารบิดาชั่ว ๆ เช่นนี้ซะ แล้วค่อยยื่นกระบี่ให้ลูก ๆ ทั้งเจ็ดของเจ้าเชือดคอเสียดีไหม?"
เสียะหัวไม่รอช้าชักกระบี่ประจำตัวออกมา ประกายของมันยังคงแวววับจับตาทุกคนทั้งที่ไม่เคยได้ปรากฏต่อสายตาผู้ใดมานานเกือบสิบปีแล้ว ทว่าเจ็ดดาวก็ถลันเข้ามาขัดขวางการต่อสู้เอาไว้เสียก่อน
"ท่านประมุขหลิว เมื่อครู่ข้าได้แจ้งชัดเจนแล้วนะว่าพวกท่านไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามกับการประลองนี้อีกแล้ว ขอเชิญท่านลงจากเขาโดยด่วนที่สุด มิเช่นนั้นจากนี้พวกข้าเหล่านักพรตวิถีเซียนคงต้องออกหน้าเองแล้วกระมัง!"
ไม่รอช้าบรรดานักพรตที่ยืนสงบนิ่งตามจุดต่าง ๆ ทั่วลานประลองต่างกระโดดเข้ามารุมล้อมหลิวเสียะหัวกันอย่างพร้อมเพรียงโดยมิต้องรออาณัตสัญญาณจากเจ็ดดาวเสียก่อน
"ฮ่า ๆ เจ็ดดาวเจ้าจะเคร่งกฏไปทำไมกัน คนมันอยากตายเร็วก็ต้องช่วยสงเคราะห์กันหน่อยสิ ยามตายจะได้ตายตาหลับไงเล่า!"
จางเหอลู่เปล่งเสียงหัวเราะดังลั่น แค่พลังเสียงที่ปล่อยออกมาก็แทบจะสะเทือนเขาได้ทั้งลูก ยามนี้ต่อให้พระเจ้าอวตารลงมาเองก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้อีกแล้ว และนี่จะเป็นก้าวแรกเพื่อเบิกทางไปสู่ยุคใหม่ ยุคที่พรรคมังกรทองจะเฉิดฉายด้วยวิชาเซียนอันเหนือล้ำยิ่งกว่าพวกจอมมารจอมปลอมจากเทียนซานเสียอีก!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น