ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #44 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่07

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 773
      32
      7 พ.ย. 60


         ด้วยวิชาเมฆดำสุดพิสดารของจางเหอลู่ทำให้จอมยุทธหนุ่มหลิวเย่อจื่อบาดเจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ กระนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ  เย่อจื่อเริ่มเรียนรู้ว่าการเอาชนะคลื่นพลังนี้คงเป็นไปไม่ได้ในระยะเวลาอันสั้น  สู้บุกเข้าไปหักเอาชัยกับเจ้าตัวเลยดีกว่า  จึงได้หาทางหลบหลีกเจ้าก้อนเมฆนั้นเสียและเล็งหาจังหวะจู่โจมอีกฝ่าย  ทว่าการณ์กลับพลิกผันเมื่อพ้นจากคลื่นพลังนั้นมาได้  ประมุขพรรคมังกรทองก็หาได้ยืนอยู่ตรงที่เดิมไม่  เย่อจื่อกวาดสายตามองไปรอบลานประลองเพื่อตามหาเป้าหมายในทันที

         "สิ่งที่เจ้าคิดได้ข้าย่อมคิดได้เช่นกัน  เด็กเมื่อวานซืนช่างหาญกล้าท้าทายอำนาจที่เจ้ามิอาจเอื้อมถึงงั้นรึ!"

         จางเหอลู่ที่แอบหลบอยู่ในกลุ่มเมฆสีดำพลันปรากฏตัวออกมาพร้อมกับพลังฝ่ามืออันร้ายกาจ  แค่กระแสปราณที่วิ่งไปมาก็ดูคล้ายกับมังกรสีดำขนาดเล็กกำลังร่ายรำอยู่รอบตัวของมัน  เดิมฝ่ามือมังกรทองนั้นก็ทรงอานุภาพร้ายกาจอยู่แล้ว  เมื่อผนวกเข้ากับวิชาเซียนจำแลงยิ่งเปล่งประกายมหาวินาศให้เฉิดฉายดูน่าสยดสยอง  ด้านเด็กหนุ่มกว่าจะทันรู้ตัวก็สายไปเสียแล้วจึงโดนฝ่ามือซัดเข้าไปเต็ม ๆ  ไอร้อนที่แผ่ออกมาจากปลายมือของประมุขจางรุนแรงขนาดหลอมหินโดยรอบให้ละลายได้ในพริบตา

         "เย่อจื่อ!!!"

         หลิวเสียะหัวผู้บิดาถึงกับตะโกนอย่างลืมตัว  เมื่อได้เห็นลูกรักพลาดท่ารับพลังอีกฝ่ายเข้าอย่างจัง  แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของความเป็นความตายนั้น  เย่อจื่อยังใช้สัญชาตญาณรับมือการจู่โจมสายฟ้าแลบด้วยเพลงกระบี่ จันทร์ประสานกาย  ซึ่งเป็นท่วงท่าประสานระหว่างความแข็งแกร่งและอ่อนโยน  ใช้เคล็ดอ่อนสยบแข็งสลายพลังทำลายบางส่วนลงได้ก่อนถึงตัว  กระนั้นก็ยังบาดเจ็บขนาดกระอักเลือดทรุดลงไปกองที่พื้น

         "หน้าไม่อายจริง ๆ นี่ข้าอุตส่าห์ออมมือให้แล้วนะ  เมื่อครู่นี้แค่พลังสองในสิบส่วนเท่านั้นก็ทนไม่ไหวแล้วรึ?"

         ทุกคนในลานประลองต่างตกใจแทบสิ้นสติกับคำพูดของประมุขมังกรทอง  เพราะไม่ว่าจะประเมินยังไงฝ่ามือเมื่อครู่ก็ดูร้ายเทียบเท่าวิชาลับพยัคฆ์เหนือตะวันของประมุขเกาได้เลยทีเดียว  แต่นี่กลับมาบอกว่าใช้พลังไปแค่สองส่วนเท่านั้น  ยังไม่ถึงครึ่งเลยด้วยซ้ำ!

         "ต่อไปเป็นพลังห้าส่วนจงเบิกตาดูให้ดี ๆ ล่ะ  นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตเจ้าแล้วก็ได้!"

         และแล้วจางเหอลู่ก็สำแดงพลังถึงครึ่งหนึ่งออกมาจนได้  อาศัยแค่แรงกดจากลมปราณของมันก็สร้างความบิดเบี้ยวในชั้นบรรยากาศโดยรอบของลานประลองขึ้นมาทันที  มองเห็นเป็นประกายสายฟ้าสีดำแล่นไปทั่วบริเวณ  ประมุขมังกรทองรวบพลังไว้ที่สองมือก่อเกิดคลื่นทรงกลมกับพลังทำลายล้างอันสุดประมาณได้

         "นี่คืออานุภาพที่แท้จริงของเซียน! ใครกล้าขวางข้าตาย!!!"

         เมื่อคำประกาศิตหลุดจากปากของมัน  คลื่นทรงกลมก็ระเบิดแตกออกกลายเป็นปราณรูปกระบี่สีดำจำนวนมากมายมหาศาลพุ่งทะยานเข้าหาเย่อจื่อในพริบตา  เด็กหนุ่มยันตัวลุกขึ้นเตรียมรับมือการโจมตี  ทว่าบาดแผลที่สาหัสก็ทำให้มันตั้งท่าไม่ได้ดั่งใจนึกและเสียหลักล้มลง  จังหวะนั้นเองที่ปราณกระบี่ถาโถมเข้าใส่ราวกับสายฝนจนเกิดเสียงระเบิดกึกก้องไปทั่วพื้นที่

         "คิดจะทำอะไร! กล้าดียังไงถึงขัดขวางข้าผู้นี้?"

         เมื่อฝุ่นควันจากการโจมตีเมื่อครู่สงบลง  ทุกคนจึงได้เห็นว่ามีบุคคลผู้หนึ่งที่กระโจนลงไปรับมือกับพลังปราณอันร้ายกาจนั้นแทนหลิวเย่อจื่อ  บุคคลที่ทรงพลังล้ำลึกไม่ต่างไปจากประมุขพรรคมังกรทอง  และเขาก็คือหลิวเสียะหัวบิดาของเย่อจื่อนั่นเอง!

         "ประมุขหลิว  ท่านเจตนาขัดขวางการประลองอันทรงเกียรติก็เท่ากับท่านได้ดูหมิ่นทุกสำนักซึ่งได้ดั้นด้นมาในวันนี้  ดังนั้นสิทธิ์การประลองของสำนักหมาป่าเงินก็สิ้นสุดลงที่ตรงนี้ด้วยเช่นกัน  ขอให้ท่านจงกลับไปเสียเถิด!"

         นักพรตเจ็ดดาวกล่าวแก่เสียะหัวที่ยืนตีหน้าอาฆาตจ้องจางเหอลู่แบบไม่วางตา  ใจหนึ่งนักพรตก็โล่งที่จอมยุทธหนุ่มอนาคตไกลไม่ต้องเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่  แต่ในเมื่ออีกฝ่ายจงใจหักกฏก็จำต้องประกาศให้สาธารณะรับทราบถึงความอับอายของสำนักนี้

         "เจ็ดดาวเจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว  ข้ารู้ดีว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่แต่ไอ้สัตว์นรกนี่มันตั้งใจจะสังหารลูกชายข้านะ  จะให้นิ่งดูดายอยู่ได้เช่นไร?"

         เสียะหัวโกรธจนควันออกหู  วันนี้ประมุขจางเปลี่ยนไปมากจริง ๆ หากเป็นเมื่อก่อนคงเล่นงานแต่พอสมควรและปลดอาวุธเย่อจื่อออกก็เพียงพอแล้ว  นี่เล่นลงมือถึงขนาดหมายเอาชีวิตกันทั้งที่ผลการประลองก็ปรากฎชัดแล้วด้วยซ้ำ  จางเหอลู่แค่นหัวเราะตอบกลับมาว่า

         "น่าขายหน้าจริงที่มีลูกชายไร้ความสามารถ  โตป่านนี้แล้วยังต้องให้ผู้เป็นพ่อต้องแบกรับความอับอายถึงขนาดนี้อีก  ถ้าข้ามีลูกเช่นนี้คงยื่นกระบี่ให้เชือดคอตายไปนานแล้ว!"

         อย่าว่าแต่สำนักอื่นเลย  กระทั่งบรรดาลูกชายลูกสาวของประมุขจางยังถึงกับก้มหน้าด้วยความละอาย  หลายวันมานี้ตั้งแต่ที่พ่อกลับมาจากหอฌานก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับที่เคยจำได้  นอกจากรูปร่างหน้าตาที่คุ้นเคยดีอยู่แล้วอย่างอื่นแทบจะกลายเป็นบุคคลลึกลับที่ตนไม่เคยรู้จักมาก่อน  ราวกับว่ามีภูติผีตนใดจงใจแอบสวมรอยสิงสู่บิดาของตนยังไงยังงั้น

         "เช่นนั้นข้าจักสังหารบิดาชั่ว ๆ เช่นนี้ซะ  แล้วค่อยยื่นกระบี่ให้ลูก ๆ ทั้งเจ็ดของเจ้าเชือดคอเสียดีไหม?"  

         เสียะหัวไม่รอช้าชักกระบี่ประจำตัวออกมา  ประกายของมันยังคงแวววับจับตาทุกคนทั้งที่ไม่เคยได้ปรากฏต่อสายตาผู้ใดมานานเกือบสิบปีแล้ว  ทว่าเจ็ดดาวก็ถลันเข้ามาขัดขวางการต่อสู้เอาไว้เสียก่อน

         "ท่านประมุขหลิว  เมื่อครู่ข้าได้แจ้งชัดเจนแล้วนะว่าพวกท่านไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่มย่ามกับการประลองนี้อีกแล้ว  ขอเชิญท่านลงจากเขาโดยด่วนที่สุด  มิเช่นนั้นจากนี้พวกข้าเหล่านักพรตวิถีเซียนคงต้องออกหน้าเองแล้วกระมัง!"

         ไม่รอช้าบรรดานักพรตที่ยืนสงบนิ่งตามจุดต่าง ๆ ทั่วลานประลองต่างกระโดดเข้ามารุมล้อมหลิวเสียะหัวกันอย่างพร้อมเพรียงโดยมิต้องรออาณัตสัญญาณจากเจ็ดดาวเสียก่อน

         "ฮ่า ๆ เจ็ดดาวเจ้าจะเคร่งกฏไปทำไมกัน  คนมันอยากตายเร็วก็ต้องช่วยสงเคราะห์กันหน่อยสิ  ยามตายจะได้ตายตาหลับไงเล่า!"

         จางเหอลู่เปล่งเสียงหัวเราะดังลั่น  แค่พลังเสียงที่ปล่อยออกมาก็แทบจะสะเทือนเขาได้ทั้งลูก  ยามนี้ต่อให้พระเจ้าอวตารลงมาเองก็ไม่สามารถหยุดยั้งมันได้อีกแล้ว  และนี่จะเป็นก้าวแรกเพื่อเบิกทางไปสู่ยุคใหม่  ยุคที่พรรคมังกรทองจะเฉิดฉายด้วยวิชาเซียนอันเหนือล้ำยิ่งกว่าพวกจอมมารจอมปลอมจากเทียนซานเสียอีก!


    จบตอน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×