ลำดับตอนที่ #42
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : ศึกประลองจ้าวยุทธจักร ตอนที่05
หยางจิวเทียนสบช่องรีบส่งเสียงกระซิบไปยังหลิวเสียะหัวในทันที ด้วยรู้ว่าประสบการณ์ของเจ้าหนุ่มในสนามยังด้อยกว่าคู่ต่อสู้อีกโข ดังนั้นคงเป็นการดีหากยื่นมือเข้าช่วยเหลือในตอนนี้ และคอยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากบุญคุณที่ได้ทำไว้ในภายภาคหน้า ประมุขแห่งหมาป่าเงินจึงออกอาการหัวเสียเล็กน้อย หากได้ความช่วยเหลือจากพรรคอื่นมีหวังขายขี้หน้าประชาชีแน่
"ท่านจงอยู่เฉย ๆ เถอะประมุขหยาง รับชมการประลองไปแบบเงียบ ๆ ก็พอแล้ว"
หลิวเสียะหัวกระซิบตอบ ในขณะที่การต่อสู้ยังดำเนินไปอย่างเข้มข้น ทั้งกรงเล็บและอาวุธอื่นของเกาฟานเฉียงมิอาจทำอันตรายใดแก่หลิวเย่อจื่อก็จริง หากแต่กำลังของเด็กหนุ่มก็เริ่มถดถอยลงเช่นกัน เนื่องด้วยขาดประสบการณ์การประมือกับยอดฝีมือในยุทธภพ คู่มือที่มันเคยเจอมาก็มีเพียงลูกศิษย์ในสำนักที่ล้วนอ่อนด้อยกว่าตนทั้งนั้น ไม่นานนักปลายกระบี่ก็ทื่อลงตามที่บิดาคาดเอาไว้
"ปล่อยไว้แบบนี้จะดีหรือประมุขหลิว ท่านมีลูกชายคนเดียวนี่นา?"
ไอ้เฒ่านี่เจ้าเล่ห์นัก ประมุขหมาป่าเงินคิด คนอย่างหลิวเสียะหัวไม่ได้สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดต้องยืมจมูกคนอื่นหายใจ ซ้ำเมื่อครู่ขนาดจางเหอลู่ยังพูดเองกับปากว่ามันมองศึกครั้งนี้อย่างปรุโปร่ง แสดงว่าประมุขจางต้องสังเกตหรือหยั่งรู้อะไรล่วงหน้าแล้วแน่ ๆ เพราะฉะนั้นหากจะมีปัจจัยใดที่ทำให้ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตนพิชิตชัยได้ล่ะก็...
"ฮ่า ๆ ไอ้หนูแรงเริ่มตกแล้วนะ ถ้าเหนื่อยก็ไปพักเสียเถอะ!"
เกาฟานเฉียงแกล้งยั่วเย่อจื่อ ปราณกระบี่ที่เคยดุดันร้ายกาจก็ดูด้อยประสิทธิภาพลง และในที่สุดประมุขพรรคพยัคฆ์แดงก็พบกับช่องโหว่ในระหว่างกระบวนท่าจนได้ มันสะกดลมหายใจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวิชาลับพยัคฆ์เหนือตะวันทันที ทว่าหลิวเย่อจื่อกลับสงบนิ่งไม่ลนลานราวกับกำลังรอคอยจังหวะนี้มานานแล้ว
"ผู้อาวุโส ข้าน้อยขอล่วงเกินด้วย!"
ฉับพลัน ปราณกระบี่ที่อ่อนระโหยโรยแรงก็กลับมาพลุ่งพล่านราวกับปลาได้น้ำ จากโคนจรดปลาย ล้วนห่อหุ้มด้วยพลังสายฟ้าอันร้ายกาจสะท้อนแสงแปลบปลาบ แต่แค่นั้นยังไม่ดีพอจะตอบโต้กรงเล็บที่พุ่งเข้าหาด้วยความเร็วเทียบเท่าแสง หลิวเย่อจื่อจึงต้องใช้เคล็ดวิชากระบี่ประจำสำนัก จันทราไร้เงา เพื่อแทงสวนกับวิชากรงเล็บชนิดยอมตาย ผู้ชมที่นั่งทัศนาอยู่รอบนองลานประลองต่างกลั้นลมหายใจ เมื่อผ่านพ้นนาทีวิกฤต ผลการดวลจึงเป็นที่ประจักษ์ว่าเพลงกระบี่ของเย่อจื่อนั้นเหนือชั้นกว่า เพราะปราณเทพวชิระไร้พ่ายแทงเข้าใส่หัวไหล่ของเกาฟานเฉียงในขณะที่กรงเล็บซัดพลาดเป้า ไม่สิ... ควรจะบอกว่าคมกระบี่นั้นแทงเข้าเป้าก่อนจึงทำให้กรงเล็บพลาดไปมากกว่า หรือก็คือวิชาจันทราไร้เงาที่ผนวกกับปราณกระบี่เทพวชิระของเด็กหนุ่มคนนี้ไวยิ่งกว่ากระบวนท่าลับของประมุขเกาเสียอีก!
"แก! ทำไมถึงได้...!"
เกาฟานเฉียงทรุดตัวลงกับพื้น เลือดสด ๆ ไหลอาบลงมาเกือบครึ่งตัว ความเจ็บปวดที่ทะลักล้นออกมายังอาจไม่หนักหนาเท่าความเจ็บใจที่เสียหน้าเพราะพ่ายให้แก่เด็กเมื่อวานซืนเช่นนี้เสียอีก มันกัดฟันแน่นส่งเสียงคำรามฮึ่มฮั่มในลำคอ แม้อยากจะลุกขึ้นสู้ต่อแต่แขนขวาของมันก็ใช้การไม่ได้แล้ว เจ็ดดาวเห็นอาการจึงประเมินว่าควรจะจบการต่อสู้ลงเพียงเท่านี้
"เช่นนั้นผลการประลองในคู่นี้ ผู้ชนะคือ..."
"ไอ้นักพรตอย่าสะเออะสอด! ข้ายังไม่แพ้สักหน่อยโว้ย!!!"
ด้วยศักดิ์ศรีที่มันค้ำคอ แถมยศตำแหน่งของการประลองก็ช่างหอมหวานเกินกว่าจะตัดใจ เกาฟานเฉียงจึงทนเจ็บลุกขึ้นสู้ต่อ แต่กรงเล็บพยัคฆ์เริ่มหมดพิษสง กลายเป็นมวยรองทำได้แค่ตั้งรับเพลงกระบี่ของอีกฝ่ายเท่านั้น
"ฮึ่มเจ็บใจนัก!"
ประมุขเการวบพลังเต็มขั้น ส่งให้เลือดยิ่งทะลักออกจากปากแผลเพิ่มมากขึ้นทว่ามันก็ไม่ใส่ใจแล้ว เพราะตอนนี้คือช่วงเวลาที่ต้องทุ่มเททุกสิ่งอย่างที่มีเพื่อชัยชนะ ด้านเย่อจื่อเห็นเช่นนั้นก็ไม่กล้าประมาท มันเร่งเดินพลังปราณวชิระไร้พ่ายเพื่อตอบโต้ แล้วหนึ่งลำแสงที่พุ่งทะยานผ่านร่างอันหยิ่งทะนงของเกาฟานเฉียงไปก็ทำให้สติของเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงหลุดลอยไปในที่สุด เป็นอันจบการประลองอันน่าตื่นเต้นนี้ลง
"ฮ่า ๆ ยอดมาก! หลิวเย่อจื่อเจ้าทำได้ดีจริง ๆ"
เสียงปรบมือและเสียงหัวเราะอันเปี่ยมด้วยพลังอำนาจลอยมาจากทางปะรำของพรรคมังกรทอง เป็นจางเหอลู่นั่นเองที่นิ่งเงียบชมการต่อสู้มาตลอด ครั้นเมื่อเห้นเจ้าหนุ่มอนาคตไกลคนนี้เอาชนะยอดฝีมือตัวเอ้ในวงการได้ย่อมรู้สึกชื่นชม
"เช่นนี้แล้วก็น่าเสียดายที่เจ้าอายุขัยสั้นนัก!"
เพียงแค่เจ้าสำนักขยับ ก็บังเกิดสายลมกระชากหมุนวนจนปะรำที่ก่อสร้างมาอย่างปราณีตยังพังทลายไม่เหลือชิ้นดี มิหนำซ้ำแรงลมยังซัดจนปะรำที่อยู่ข้างเคียงเสียหายตามไปด้วย ส่วนตัวจางเหอลู่เหินลงมาบนลานประลองเพื่อประจันศึกกับเด็กหนุ่มดังที่เคยประกาศิตเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแค่สบตากันหลิวเย่อจื่อก็รู้สึกถึงความกดดันอันหนักหน่วงที่ถาโถมเข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ในมหาสมุทร เม็ดเหงื่อผุดขึ้นประปรายบนในหน้าของมันอย่างต่อเนื่อง
"เป็นอะไรไป? ถ้าเจ้าไม่เข้ามาข้าจะลงมือเองก็ได้..."
จางเหอลู่เห็นอีกฝ่ายเอาแต่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวจึงคิดแสดงฝีมือให้ดูสักเล็กน้อย ด้วยการชูแขนขึ้นข้างหนึ่งและสะบัดข้อมือไปทางเย่อจื่อเบา ๆ ฉับพลันนั้นใบหน้าอันเรียวคมของเด็กหนุ่มก็กระเพื่อมสั่นไหวอย่างรุนแรงจนสะบัดไปอีกทาง เย่อจื่อตกใจเล็กน้อยแต่ยังตั้งสติกลับมาได้เร็ว มันเตรียมกระบี่ในมือมั่นหมายตอบโต้ หากแต่ประมุขมังกรทองสะบัดข้อมือตามมาอีกสามถึงสี่ครั้งก็ทำเอาใบหน้าสะบัดไปมาอีกหลายรอบ ยิ่งทีก็ยิ่งรู้สึกคล้ายหน้าชาเพราะความเจ็บปวด เย่อจื่อถอยออกห่างจากรัศมีและเร่งปรับพลังลมปราณเสียใหม่
"พลังภายในช่างร้ายกาจ หากไม่มีพื้นฐานลมปราณอันกล้าแข็งทั้งภายในและภายนอกคงทำเช่นนี้ไม่ได้แน่"
สินหุ่ยนึกชมฝีมือของจางเหอลู่ เมื่อคราวที่ปะทะกับเทียนซานประมุขมังกรทองก็มิได้แสดงทีเด็ดอะไรออกมาเลย ไม่นึกว่าจะซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้พอสมควร
"ถ้าแค่นั้นข้าเองก็ทำได้ ไม่เห็นจะตื่นเต้นตรงไหน?"
จอมมารน้องหมาบอกกับสมุนคนสนิท สำหรับมันจะให้ตบทีเดียวเจ้าเด็กนั่นคอขาดกระเด็นเลยยังได้ เพียงแต่ตอนนี้มันนึกสงสัยไอ้คลื่นพลังสีดำที่แผ่ออกมาจากภายใต้เงาของจางเหอลู่ คลื่นพลังอันน่าสะอิดสะเอียนนั่นว่ามันคืออะไรกันแน่?
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น