ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #4 : จอมมารมือใหม่

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.74K
      252
      2 ก.ย. 60


         "โชคดีมึงรีบ ๆ ลงมากินข้าวได้แล้ว  มัวแต่นอนอ่านการ์ตูนอยู่นั่นแหละ!"

         เสียงแม่ตะโกนเรียกดังขึ้นมาจากชั้นล่าง  ผมจึงพับเก็บหนังสือการ์ตูนที่อ่านค้างอยู่พลางตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงอันเหนี่อยหน่าย  ทั้งที่วันนี้มันวันหยุดของตรูแท้ ๆ จะขอนอนอุดอู้สักนิดก็ไม่ได้

         "เอ้ากินเสร็จแล้วก็ล้างจาน  แล้วก็ไปช่วยงานพี่มึงได้แล้วไป!"

         แม่ยังคงนั่งกำกับบทบาทหน้าที่ประจำวันให้บนโต๊ะอาหาร  น่าเบื่อชะมัดเลยให้ตายสิ  ผมพยายามมองค้อนเพื่อส่งสัญญาณความไม่พอใจไปยังคู่สนทนา  แต่ที่ได้รับกลับมามีแค่เสียงบ่นค่อนขอดรวมถึงการทวงบุญคุณอันใหญ่หลวงตั้งแต่เกิดจนเติบโตมาถึงตอนนี้  ผมก้มหน้าลงกับโต๊ะ  ไม่กงไม่กินมันแล้วน่าเบื่อ!   ปล่อยให้เสียงบ่นของแม่ดังไปเรื่อย ๆ  กระทั่งเสียงนั้นเริ่มไกลห่างออกไป  ห่างออกไป...  ปล่อยให้ตัวเองจมลงสู่ก้นบึ้งแห่งภวังค์  หลงเหลือเพียงความมืดมิดเพียงเท่านั้น...


    ...


    ......


         "เฮ้ยตื่นได้แล้ว  จะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงเมื่อไรกัน!"

         เสียงน้องหมาดังโหวกเหวกอยู่ข้าง ๆ หูของผม  ปลุกให้ตื่นขึ้นจากนินทราที่ไม่ค่อยสบายตัวนัก  แม้จะนอนอยู่บนเตียงที่โอ่อ่าหรูหราราวกับพระราชาในห้องที่ใหญ่โตจนเกือบจะเท่าบ้านหลังที่ผมเคยอยู่มาก่อน  ทั้งนี้เพราะผมเป็นพวกที่นอนผิดที่เมื่อไหร่จะเกิดอาการนอนไม่ค่อยหลับกระสับกระส่าย  เมื่อคืนนี้กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เล่นเอาแทบแย่เหมือนกัน

         "หนวกหูน่า  ขออีกสักสิบนาทีไม่ได้รึไงเล่า?"

         "สิบนาที?  สิบนาทีของเจ้าคืออะไรกัน?"

         น้องหมาเอียงคอด้วยความสงสัย  ผมจึงต้องผุดลุกขึ้นนั่งพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมาก่อนจะอธิบายคร่าว ๆ เกี่ยวกับเรื่องการนับวันเวลาที่ถูกต้องในยุคสมัยใหม่ให้ฟัง  แล้วที่ได้รับกลับมาน่ะเหรอ?  ไร้สาระ!  อืมม ดูมันทำ...

         "ท่านประมุขอาหารเช้าพร้อมแล้วขอรับ"

         คนรับใช้เดินมาบอกที่หน้าประตูห้อง  น้องหมาจึงกระโดดลงจากที่นอนของผมแล้วคาบถังน้ำที่เตรียมไว้ให้ใช้ล้างหน้าล้างตา  เวรเอ๊ยแค่ก๊อกน้ำก็ยังไม่มี  ช่างเป็นยุคสมัยที่ลำบากลำบนเสียจริง  แต่ยังไม่ทันได้บ่นอะไรมากท้องก็ร้องขึ้นเสียก่อน  ผมจึงต้องรีบจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะเดินตามคนรับใช้ไปที่ห้องอาหาร

         "นี่ให้กินคนเดียวหรือกินกันทั้งหมู่บ้านเนี่ย?"

         ผมรู้สึกขนลุกกับกองอาหารและเครื่องดื่มตรงหน้า  แม้จะไม่รู้ว่ามันคืออะไรบ้างเพราะปกติไม่พิสมัยอาหารจีนสักเท่าไรนักแต่ปัญหาคือปริมาณต่างหาก  เพราะเท่าที่คะเนด้วยสายตานี่แบ่งกินได้เป็นอาทิตย์เลยมั้ง?

         "อ้ายโง่! นี่มันใช่ของแกเสียที่ไหน  ทั้งหมดนี่มันของข้าต่างหากเล่า!"

         น้องหมาขนน้ำตาลเชิดคออย่างผยองก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนโต๊ะและจัดการสวาปามด้วยปากเล็ก ๆ ของมันในทันที  แต่กระเพาะเล็กแบบนั้นจะจุอะไรได้สักเท่าไหร่กันเชียว  มันจึงเรอออกมาแล้วก้มลงนอนบนโต๊ะแทน

         "บ้าจริง  ตามปกตินี่ยังไม่ถึงครึ่งท้องข้าเลยด้วยซ้ำ!"

         เอาล่ะในเมื่อเจ้าหมาน้อยจอมมารอิ่มแล้ว  ก็คงถึงเวลาผมได้หม่ำอาหารเช้ากันเสียที  แต่ที่ไหนได้  ไอ้หมาเวรนั่นดันไปพาร่างชราของเส้าเทียนอิ้งเข้ามานั่งแทนซะงั้น!

         "โฮ่ง ๆ"

         ชายชราแลบลิ้นเลียไปมาแล้วกระโดดโลดเต้นไปรอบ ๆ แถมยังวิ่งมาเลียมือผมเล่นอีก  ก่อนจะหันไปจัดการกับสำรับที่เหลืออยู่บนโต๊ะจนเกลี้ยงไม่มีเหลือ  เป็นอันว่าเช้านี้ตรูอด...  นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย  ให้หมากินข้าวก่อนคนเนี่ยนะ!

         "อ้าวข้าลืมไป ๆ  เจ้ายังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่นะ?  เฮ้ยให้ใครไปเอาอาหารเข้ามาซิ!"

         น้องหมาคงหันมาเห็นผมยืนน้ำลายยืดพอดีจึงส่งเสียงเรียกคนรับใช้ให้นำสำรับใหม่เข้ามา  ไอ้เราก็เตรียมตัวนั่งโต๊ะอย่างดี  เอาวะอย่างน้อยเช้านี้ก็จะได้กินอาหารจีนย้อนยุคกันล่ะ  หึหึ...  แต่ไอ้สำรับที่ตามมาทีหลังนี่มัน...???

         "อ้าวเป็นอะไรไปเล่า  ยังไม่รีบกินอีก"

         "กิน?  กินบ้ากินบออะไรฟะ!  นี่มันอาหารหมาชัด ๆ แกสมองกลับไปแล้วรึไงวะหา!!!"

         ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้จอมมารบ้าอะไรนี่มันจะกล้าเล่นมุกสั่ว ๆ อย่างเอาอาหารหมาที่เป็นพวกเศษข้าวเศษปลามาให้ผมกินซะอย่างนั้น  แถมยังมีหน้ามาบอกว่าก็ผมเป็นพวกชิงหมาเกิดเลยต้องทำให้สมศักดิ์ศรีอีก @#$@%#^@%@!  ผมโกรธจนพูดไม่เป็นภาษาคน  จัดการฟาดฝ่ามือลงบนโต๊ะในทันที  เท่านั้นแหละโรงอาหารแห่งพรรคมารเทียนซานก็กลายเป็นอดีตไปในพริบตา

         "อ้ายชาติชั่ว! เจ้ากล้าดียังไงถึงมาทำลายโรงอาหารของข้าได้  เกิดเป็นสุนัขก็ทำตัวให้สมกับเป็นสุนัขแล้วเคยชินกับอาหารสุนัขซะ!"

         จอมมารโวยลั่นท่ากลางซากปรักของโรงอาหาร  แต่ผมก็ทำหูทวนลมซะแล้วเดินอาด ๆ ออกจากพรรคไป  โดยไม่มีใครหน้าไหนกล้าขัดขวางเลยแม้แต่คนเดียว  บ้าเอ๊ย! รู้งี้เมื่อคืนไม่น่าหลงคารมพวกองค์รักษ์เจ็ดคนนั่นที่ออกปากให้มานอนพักผ่อนที่นี่คืนนึงเลยจริง ๆ  ไม่งั้นออกไปหานอนเอาตามโรงแรมข้างทางยังจะดีกว่าอีก...


    @@@@@@@@@@   


         "เอ้าเร่เข้ามา  เร่เข้ามา!  หมั่นโถวร้อน ๆ จ้าา!"

         เสียงพ่อค้าแม่ค้าในตลาดยามเช้าดังอื้ออึงไปทั่ว  ผู้คนต่างเดินเลือกซื้อข้าวของท่าทางวุ่นวายไปหมด  ไม่ต่างกับตลาดสดแถวบ้านผมเลยจริง ๆ  อ้อ  ถ้าจะถามหาข้อแตกต่างก็คงจะเป็นที่การแต่งตัว  เพราะยุคสมัยที่ผมจากมานั้น  ต่อให้ยากจนแค่ไหนแต่ถ้ามีเงินมาตลาดอย่างน้อยก็ยังแต่งตัวดีกว่าสภาพของชาวบ้านทั่วไปที่นี่มากนัก

         "เฮ้ เจ้าได้ยินข่าวหรือยัง  คนเขาลือกันว่าจอมมารทำพิธีประหลาดบางอย่างที่บนยอดเขาเซียนเมื่อคืนนี้นา!"

         "เจ้าโง่อย่าเสียงดังไปสิ  พวกเทียนซานหูตากว้างไกลนัก  มันอาจได้ยินเรื่องนี้แล้วตามมาเล่นงานเอาได้  ข้าไม่อยากเอาชีวิตไปเสี่ยงหรอก!"   

         ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ หูของผมถึงมีประสิทธิภาพดีขึ้นมากะทันหัน  เพราะนอกจากจะได้ยินและจำแนกเสียงจากที่ไกล ๆ แล้ว  ยังสามารถแยกจำเพาะเสียงที่ตัวเองได้ยินด้วยว่ามาจากผู้ใดในตำแหน่งไหนของตลาดด้วย  ไม่ว่าจะพูดเบาเพียงใดก็ยังหลบไม่พ้นอยู่ดี  และชาวบ้านร้านตลาดต่างก็เอาแต่ร่ำลือเรื่องนี้กันเซ็งแซ่  แน่นอนว่านั่นต้องเป็นพิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณของเจ้าหมาเส้าเทียนอิ้ง  และจากที่ได้ฟังน้ำเสียงแล้วดูเหมือนว่าคนส่วนใหญ่จะไม่ได้ชอบจอมมารประมุขพรรคนี้สักเท่าไรนัก

         "โฮ่ว?  จอมมารแห่งเทียนซานมันทำไมรึ?"

         คราวนี้เป็นเสียงจากเด็กหนุ่มอายุน่าจะรุ่น ๆ เดียวกับผมดังขึ้น  ทุกนต่างจับจ้องไปที่หมอนี่พลางซุบซิบเป็นการใหญ่  เท่าที่ฟังจับใจความได้เจ้านี่คือ คุณชายเจ็ดแห่งสำนักมังกรทอง  จอมยุทธหนุ่มรูปงามเจ้าของสมญา เจ็ดหน้าหยก  ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนสุดท้องของจ้าวสำนักคนปัจจุบัน  ดูจากการแต่งตัวตลอดจนเสื้อผ้าหน้าผมแล้วก็ไม่ต้องสงสัยเลย  ถ้าเป็นยุคปัจจุบันเค้าเรียกพวกสไตล์นี้ว่าพ่อเพลย์บอยนั่นเอง  อารมณ์แบบมึงจะเก๊กไปถึงไหนวะหา?

         "พอพูดถึงพรรคมารก็มีพวกมารมาให้ถามถึงที่เลยเชียว" 

         เวรล่ะ  จู่ ๆ ชายเจ็ดหันมาทางนี้พร้อมกับรอยยิ้ม  แล้วยังเดินปราดฝ่าฝูงชนเข้ามาอีก  เฮ้ย ๆ ตรูแค่มาหาข้าวเช้ากินนะเฟ้ยไม่ได้จะมาหาเรื่องกับใคร  ผมพยายามหันหลังเดินหนีแต่ไม่พ้นเจออีกฝ่ายจับไหล่ไว้ได้เสียก่อน  เห็นทีว่าคงต้องมีเรื่องให้เสียเหงื่อก่อนกินข้าวเช้าซะแล้วมั้งเนี่ย?


    จบตอน     

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×