ลำดับตอนที่ #22
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #22 : ฝ่ามือมังกรสยบอัสนีบาต
ครับ... คุณยังอยู่กับผมที่นี่ สถานีวิทยุท้องถิ่นของนายโชคดีในช่วงรายการโชคร้ายน่ะสิไม่ว่า! กับน้องหมาสารเลวซึ่งขยันหาเรื่องมาให้ไม่รู้จักหยุดหย่อน ล่าสุดก็อุตส่าห์มาท้าตีท้าต่อยกับศัตรูคู่ฟ้าอย่างหนึ่งในห้าสำนักใหญ่ถึงที่ แถมเจ็ดพี่น้องแห่งพรรคมังกรทองก็ปรากฎตัวอย่างพร้อมเพรียงไม่มีขาดแม้แต่คนเดียว แน่นอนว่าการได้กระทืบจอมมารคงกลายเป็นวาระแห่งชาติของทุกคนในสำนักนี้ไปเสียแล้ว
"เจ้านี่ช่างรนหาที่เสียเหลือเกิน หากรอให้ร่างกายสมบูรณ์พร้อมในช่วงเดือนเพ็ญคราวหน้าก็ยืดชีวิตไปได้แล้วแท้ ๆ"
เจ็ดหน้าหยก น้องคนสุดท้องผู้ไม่ได้เรื่องที่สุดในบรรดาจอมยุทธกล่าวด้วยท่าทีชิงชัง มันคงแค้นที่เคยโดนเล่นงานมาก่อนทั้งเรื่องในตลาดและเรื่องที่เทียนซานถึงได้ออกอาการมากกว่าใครเพื่อน ด้านจางถังยี่ที่ได้ประมือกันไปก่อนหน้านี้ก็กระซิบกระซาบกับพวกพี่น้อง ชะรอยว่าคงจะปรึกษาแผนเพื่อรุมอัดผมอย่างแน่นอน
"วันนี้ช่างเป็นวันดีเสียจริง ที่จะได้สยบเจ็ดจอมยุทธชื่อดังแสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของเทียนซานสักที!"
"สามหาว! เจ้าเองก็คงรู้ดีว่าร่างกายยังไม่สมบูรณ์เต็มที่กลับหยิ่งผยองเกินตัวเช่นนี้ ระวังจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึงศึกประลองยุทธในเดือนหน้า"
พี่ใหญ่อย่างจางเหยียนจงกล่าว มันคอยเบรคพวกน้อง ๆ ไม่ให้ด่วนผลีผลามลงมือ ส่วนหนึ่งคงเพราะเห็นว่าขนาดจางถังยี่ใช้พลังเต็มที่แล้วยังเอาจอมมารไม่ลง แต่อีกส่วนก็คงมองว่าทางนี้เองก็ยังไม่ฟิตเต็มร้อย สงสัยจะลังเลอยู่ว่าจะปล่อยไปดีหรือจะเอาให้ตายตรงนี้ดี? อืมม... มันต้องคิดแบบนี้อยู่แน่ ๆ เลย แต่ในขณะที่ผมกำลังคิดหาข้ออ้างเนียน ๆ เพื่อหนีจากศึกในครั้งนี้ ไอ้เส้าเทียนอิ้งก็ดันผ่ากลางปล้องขึ้นมาอีกล่ะ
"สาเหตุที่ข้ามาเยือนที่นี่ ก็เพื่อแจ้งสถานที่จัดการประลองยุทธและอีกประการก็เพื่อแสดงให้เห็นว่าวรยุทธของพวกเจ้านั้นต่ำต้อยเพียงไร"
สถานที่ประลองยุทธศึกจ้าวยุทธจักรครั้งที่สอง จะจัดขึ้นที่ลานประลองบริเวณด้านหลังหุบเขาเซียนหมื่นลี้ซึ่งเส้าเทียนอิ้งให้บรรดาลูกพรรคไปจัดเตรียมสถานที่ล่วงหน้าไว้แล้ว แน่นอนว่าผู้เข้าร่วมจะต้องเป็นสุดยอดจอมยุทธที่มีชื่อเสียงจากทั่วทุกสารทิศ โดยจอมมารจะเป็นผู้ทำการคัดเลือกด้วยตนเอง
"ขืนปล่อยให้เจ้าเลือกตามอำเภอใจเช่นนี้ ก็คงมีแต่พวกวรยุทธชั้นสองเข้าประลองกระมัง? จะให้พวกข้าไว้วางใจสายตาของเจ้าได้อย่างไรกัน"
จางเหยียนจงบอก แน่ล่ะถ้าเป็นผมก็คงคิดคล้าย ๆ กันเพราะใครมันจะบ้าเลือกตัวเก่ง ๆ โหด ๆ ให้เป็นเสี้ยนหนามตัวเองในการประลองกันเล่า? ก็ต้องคัดเลือกพวกห่วยฝีมือไม่เอาไหนเข้าไปอยู่แล้วจะได้ชนะแบบชิล ๆ ไง
"ไม่ต้องเป็นห่วง สำหรับประมุขแห่งห้าสำนักใหญ่ต้องได้รับเลือกแน่นอนอยู่แล้ว แต่การที่ข้าต้องกำหนดเช่นนี้เพื่อจำกัดจำนวนคนมิให้มันล้นงานและทำให้เสียการใหญ่ได้ หากผู้ใดไม่พอใจก็จงใช้ฝีมือเอาชนะและชิงตำแหน่งจากคนที่ข้าเลือกก็ได้!"
อืมม... แบบนี้ค่อยฟังขึ้นหน่อย เพราะเปิดโอกาสให้คนที่คิดว่าเก่งกว่าท้าสู้นอกรอบแย่งสิทธิ์เข้าประลองแทนได้ พวกเจ็ดจอมยุทธได้ฟังก็รีบปรึกษากันยกใหญ่ แต่ยิ่งปรึกษาก็ยิ่งจะแตกคอกันเอง เพราะส่วนหนึ่งเห็นว่าทำแบบนี้ยิ่งจะเป็นการบั่นทอนกำลังของผู้ได้รับเลือก เพราะจะต้องเจอการท้าประลองไม่เว้นแต่ละวันจนกว่าจะถึงงานจริงแน่ อีกฝ่ายก็เห็นว่าทำแบบนี้จะได้ลดจำนวนของผู้เข้าประลองให้น้อยลง ใครที่ยังไม่พร้อมก็ขอถอนตัวไปก่อนได้
"แต่ข้าว่างานครั้งนี้มีแค่เจ้าสำนักใหญ่ทั้งห้าและจอมมารก็เพียงพอแล้วนี่ เพราะถึงอย่างไรมันก็เป็นแค่การดวลตัวต่อตัวระหว่างธรรมและอธรรมอยู่ดี!"
จอมยุทธสาวจางหยูซู่ออกความเห็น และดูจะเป็นความคิดที่ไม่เลวนักเพราะทุกคนต่างเห็นชอบกับเงื่อนไขนี้ เว้นเสียแต่จอมมารเพียงผู้เดียว
"ยุทธภพกว้างใหญ่นัก เหตุใดเจ้าจึงคิดว่ายอดฝีมือแห่งต้าหลงจะมีแค่ในเมืองหลวงเท่านั้นเล่า? ถ้าเชิญแต่เจ้าสำนักใหญ่ผู้มีแต่ชื่อฝีมือไม่เอาไหนข้าคงได้เบื่อตายพอดี"
พอน้องหมาจอมอวดดีคุยโวเท่านั้นแหละเจ็ดคนนั้นก็ลุกเป็นไฟในทันที มีอย่างที่ไหนอยากให้คนอื่นยอมรับฟังข้อเสนอของตัวเองแต่ดันโม้เป็นตุเป็นตะซะขนาดนี้ (ถึงมันจะเป็นเรื่องจริงก็เถอะ) แต่อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยไว้หน้าชาวบ้านบ้างดิเฮ้ย! และแน่นอนว่ากรรมนั้นย่อมตกมาที่ตรูอีกตามเคย จางถังยี่ จางหยูซู่และไอ้เจ็ดหน้าหยกดาหน้ากันเข้ามาโจมตีแบบไม่ลืมหูลืมตา ปกติเข้ามาทีละคนก็ว่าแย่แล้ว นี่เล่นผนึกกำลังหมาหมู่แบบนี้ต่อให้มีพลังปราณคุ้มครองก็เจ็บไม่เบานะเฟ้ย!
"เส้าเทียนอิ้ง! อย่าได้หวังจะทำตัวยโสโอหังในงานประลองยุทธเลย เพราะวันนี้จะเป็นวันตายของเจ้าแล้ว!"
เจ็ดหน้าหยกตะโกนลั่นทั้งที่ตัวเองฝีมือไม่เอาไหนที่สุดในบรรดาพี่น้อง ผมเลยจัดการเสยปลายคางให้มันกลับไปนอนนับดาวใหม่อีกรอบ ไอ้นี่โดนอัดกี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เคยเข็ดกับเขาสักที ปัญหาตอนนี้จึงอยู่ที่สองคนที่เหลือ จางถังยี่นั้นผมรู้ความร้ายกาจของวิชาดรรชนีแล้ว แต่ของจอมยุทธสาวนี่ผมไม่รู้อะไรเลย พอเจ๊เข้ามาใกล้ ๆ จึงโดนจู่โจมด้วยกระบวนท่ามังกรสะบัดหางแบบสายฟ้าแลบ แม้จะไม่ได้เจ็บเท่าไหร่แต่ร่างของผมก็กระเด็นลอยขึ้นกลางอากาศตามแรงส่งของลูกเตะเมื่อครู่ ระหว่างนั้นจางเหยียนจงก็โดดเข้าร่วมวงด้วย มันจัดการฟาดพลังฝ่ามือคู่เข้าใส่แถวหน้าอกผมเกิดเป็นเสียงระเบิดดังสนั่น อันนี้เจ็บจริงแฮะแถมยังแรงที่สุดเท่าที่เคยเจอมาด้วย มิหนำซ้ำแรงกระแทกยังฉีกเสื้อผ้าส่วนหนึ่งขาดออกจากกัน ทำให้เจ้าหมาน้อยปากดีที่หลบอยู่กระเด็นหายไปในพริบตา ส่วนร่างของผมก็ลอยละลิ่วไปตกภายในสำนักมังกรทอง...
@@@@@@@@@@@@
"โอย... ตาลุงนั่นเล่นซัดเต็มที่ไม่มีออมมือเลยแฮะ"
ผมลุกขึ้นสำรวจดูความเสียหายตามเนื้อตัว พบว่ามีแค่รอยฟกช้ำเล็กน้อยแถว ๆ หน้าอกนอกนั้นปกติดีทุกอย่าง สมกับเป็นร่างของจอมมารจริง ๆ ทนทายาดเหลือเชื่อ ขนาดฝ่ามือเมื่อกี้แรงอย่างกะโดนรถสิบล้อกับรถไฟชนพร้อม ๆ กันยังมีแค่รอยเชียวช้ำเท่านั้นเอง
"นั่นใครน่ะ!"
เสียงใครบางคนตะโกนถามจากข้างในห้องแห่งหนึ่งใกล้กับจุดที่ผมตกลงมา ไม่สิควรจะเรียกว่าเป็นอาคารแยกจากตัวเรือนหลักเสียมากกว่าเพราะขนาดมันใหญ่เกินกว่าจะเป็นแค่ห้อง ๆ หนึ่ง ทีแรกผมว่าจะวิ่งหนีแล้วแต่ดูเหมือนคนที่อยู่ในนั้นจะเข้าใจผิดว่าผมเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งจึงเรียกเข้าไปพบ พร้อมกับใช้พลังปราณเปิดประตูให้ จึงต้องปล่อยเลยตามเลยเข้าไปพบกับใครคนนั้นสักหน่อยจะได้ไม่ดูมีพิรุธ
"ข้างนอกเอะอะอะไรกันรึ?"
ข้างในอาคารนั้นเป็นห้องนอนอันใหญ่โตแต่กลับตกแต่งแบบเรียบง่ายไม่มีเฟอร์นิเจอร์หรูหราอะไร มีแค่เตียงไม้กับชุดโต๊ะพร้อมเก้าอี้ตัวเล็กและฉากกั้นสองสามแผ่นเท่านั้น เมื่อผมมองไปที่เจ้าของห้องซึ่งนั่นอยู่บนเตียงจึงได้พบว่าหมอนี่คือจางเหอลู่เจ้าสำนักแห่งนี้นั่นเอง!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น