ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #21 : เจ็ดจอมยุทธปรากฎตัว!

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.25K
      78
      26 ก.ย. 60


         เหตุการณ์วุ่นวายที่หน้าประตูทางเข้าสำนักมังกรทองยังคงดำเนินต่อไป  เมื่อกี้นี้ผมซัดกำปั้นใส่จางถังยี่ได้แบบเต็ม ๆ แต่เจ้านั่นยังฝืนยืนหยัดสู้ต่อได้  โธ่! จริง ๆ เอ็งก็นอนลงไปเถอะ  ตรูจะได้ฉวยโอกาสเผ่นกลับสำนักซะที

         "จอมมาร! เจ้าจะดูถูกข้าไปถึงไหน  ทำไมจึงไม่แสดงวรยุทธของเจ้าออกมา!"

         เอิ่มม... ก็บอกแล้วไงว่าใช้ไม่เป็นโว้ย!  ผมนี่อยากจะเขวี้ยงไอ้หมาบ้าที่มันแอบอยู่ในเสื้อนี่ไปให้พวกนั้นรุมกระทืบแต่ก็กลัวจะโดนมันกัดหัวนมอีก  ไอ้หมาโรคจิต!  ฝ่ายเขี้ยวพิฆาตเองก็เร่งโคจรพลังแล้วพุ่งเข้ามาหน้าตาถมึงทึงอยากจะกินเลือดซะให้ได้  และมันก็ใช้ท่าเท้าเคลื่อนที่แปลก ๆ อีกล่ะ  ทว่าเจ้าหมานี่ก็เด็ดตรงที่อ่านทางอีกฝ่ายออกทั้งหมด  ทำให้ทางนี้หลบหลีกการโจมตีได้สบายแฮ

         "อย่าเอาแต่หนีสิไอ้ขี้ขลาด!"
        
         คราวนี้จางถังยี่เปลี่ยนจากการโจมตีด้วยฝ่ามือเป็นใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลางแทงเข้ามาแทน  พลังปราณมังกรทองแผ่ซ่านจนถึงปลายสุดของนิ้วดูคล้ายกับมีดที่คมกริบสามารถตัดเฉือนได้ทุกอย่าง  ผมหลบได้แบบฉิวเฉียดเพราะการชี้นำของน้องหมา  จางถังยี่จึงพลาดโจมตีใส่เสาประตูทางเข้าของสำนักแทน  แน่นอนว่าเสาไม้ใหญ่ ๆ ขนาดสามคนโอบยังไม่อาจต้านทานพลังทำลายแตกหักไม่เหลือดี  ถ้าโดนเข้าไปล่ะก็มีหวังท้องกลายเป็นรูโหว่ให้ลมพัดผ่านเล่นชัวร์ ๆ 

         "นี่รึวิชา เขี้ยวพิฆาต  ช่างร้ายกาจสมคำร่ำลือเสียจริง!"

         สำนักมังกรทองขึ้นชื่อในเรื่องพลังปราณทองคำและวิชาฝ่ามือประจำสำนัก  นอกจากนี้ยังมีวิชาที่ร้ายกาจอื่น ๆ อีก อาทิเช่น เขี้ยวพิฆาต  หางมังกร  และ กรงเล็บมังกร  ซึ่งทั้งหมดนี้เจ้าหมาน้อยคอยแลคเชอร์ให้ผมฟังระหว่างที่วิ่งหนีไม้เด็ดของจางถังยี่  แล้วมันก็ไม่ได้จำเป็นกับตรูตอนนี้เลยว้อยยย! ไอ้ที่สำคัญ ๆ อย่างวิธีเอาตัวรอดจากสำนักนรกนี้ทำไมเอ็งถึงไม่รู้จักแนะนำฟร้า!

         "ตายซะเถอะไอ้พวกพรรคมาร!"

         จางถังยี่โชว์วิชาตัวเบาโดดลอยกลางอากาศเหนือหัวของผมก่อนจะพุ่งลงมาพร้อมกับปลายนิ้วอันแสนน่ากลัวนั่น  ขนาดพลังยังมาไม่ถึงตัวแรงกดของมันยังทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเลย  แต่มีหรือที่น้องหมาจะพลาดท่าปล่อยให้ร่างของมันโดนทำร้าย  จึงได้บอกเส้นทางหลบหลีกที่ถูกต้องได้ทันแบบเส้นยาแดงผ่าแปด  ระหว่างนั้นเขี้ยวพิฆาตที่พลาดเป้าก็เจาะทะลุพื้นหินลงไปเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่แทน

         "ท่าทางน่าสนุกนะ  ขอพวกข้าร่วมวงด้วยสิ"

         และเมื่อเอะอะวุ่นวายกันขนาดนี้  มีหรือที่พวกจอมยุทธคนอื่น ๆ ในสำนักจะไม่ได้ยิน  พอหันไปมองเท่านั้นแหละ  โอ้โหเจ้าพวกเจ็ดจอมยุทธที่เหลือต่างยืนเรียงกันเป็นบอยแบนด์หน้าตาบอกบุญไม่รับ  พวกลูกศิษย์ต่างยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นกำลังเสริม  ผิดกับผมที่หน้าบูดเป็นตูดหมึกเพราะความซวยมันชักจะทับถมมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว  ใครก็ได้ช่วยตรูด้วย!

         "ไหนท่านเคยกล่าวไว้ว่าจะรอจนถึงงานประลองจ้าวยุทธจักรครั้งที่สองไงเล่า  ไฉนจึงบิดพริ้วเล่นลอบกัดเช่นนี้ได้?"

         ลูกชายคนโตของสำนักจางเหยียนจงกล่าวโดยพยายามเก็บความฉุนเฉียวไว้  เช่นเดียวกับพี่น้องคนอื่น ๆ ซึ่งจ้องมาทางนี้ราวกับเป็นภูติผีปิศาจน่ารังเกียจ

         "เฮอะ! วันนี้ข้าแค่แวะเวียนมาดูน้ำหน้าพวกสุนัขขี้แพ้มังกรทองเท่านั้น  หากเอาจริงสำนักกระจอก ๆ เช่นนี้ครึ่งชั่วยามก็ไม่เหลือแม้แต่ซากแล้ว"

         โอเคเอาเลย  เอาให้เต็มที่!  จะทำการใหญ่ใจต้องนิ่ง  เมิงจะข่มฝ่ายตรงข้ามทั้งทีต้องเอาให้สุดอย่าไปกั๊ก  แต่ขอไรอย่างได้มั้ยไอ้หมาบ้าเมิงช่วยเลิกเอาตัวกรูเข้าไปข้องเกี่ยวกับปัญหาโลกแตกในยุทธภพสักทีเถอะ  ผมแค่อยากจะมีชีวิตใหม่อันสุขสงบไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายที่ตัวเองไม่ได้เป็นคนก่อเสียที...


    @@@@@@@@@@@@


         ที่ใจกลางแห่งจักรวาลยังมีห้วงมิติลี้ลับซึ่งไม่ขึ้นตรงต่อกาลอวกาศหรือหลักเกณฑ์อ้างอิงใด ๆ เท่าที่เคยมีการค้นพบมาก่อน  สถานที่หลับใหลของเหล่าทวยเทพแห่งบรรพกาลลึกลงไปภายใต้หุบผาน้ำแข็งนิรันดร์  ทวยเทพเหล่านี้มิอาจมองเห็นได้ด้วยเนตรแห่งเนื้อหนัง  มิอาจสัมผัสได้ด้วยร่างแห่งสังขาร  มิอาจลืมตาตื่นขึ้นได้ด้วยสรรพสำเนียงใด ๆ  และที่สำคัญกว่านั้นคือปวงเทพแห่งบรรพกาลนี้ไม่ควรฟื้นกลับคืนสู่โลกแห่งสรรพวัตถุด้วยประการทั้งปวง  ยามสนธยานิรันดรจักดำเนินต่อไปตราบเท่าที่กฏลึกลับบางอย่างยังดำรงอยู่...

         ทว่าบัดนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง  ชั้นน้ำแข็งส่วนนอกของที่ประทับในเทพบางองค์กำลังละลายปริแตกอย่างเชื่องช้า  ทีละเล็กทีละน้อยหากแต่ดำเนินเรื่อยมาด้วยความมั่นคงราวกับมีเจตจำนงค์บางอย่างคอยบงการอยู่เบื้องหลัง  ใกล้กันนั้นยังมีชายในชุดสูทสีขาวบริสุทธิ์ผู้หนึ่งกำลังยืนจ้องมองปรากฎการณ์นี้อย่างอดทน

         ทำไมเจ้าจึงไม่รีบสำเร็จโทษมัจจุราชอเวจีนั้นเสีย  เราจะมัวชักช้าอยู่ไม่ได้แล้วนะ 

         เสียงจากบุคคลลึกลับผู้หนึ่งดังก้องในโสตประสาท  ในห้วงแห่งคาออสทั้งแสงสีและเสียงไม่สามารถเดินทางผ่านเข้าออกได้  จึงจำเป็นต้องอาศัยการสื่อสารด้วยช่องทางที่สามนั่นคือโทรจิต  ชายในชุดสูทจึงตอบกลับเสียงลึกลับนั้นว่า

         นับตั้งแต่ 'เทพแห่งกาลมิติโครนอส' จำศีลอยู่ในสถานที่แห่งนี้  พลังของข้าก็เสื่อมถอยลงตามลำดับ  หากท้าชนกับเจ้านั่นเกรงว่าร่างพลังงานของข้าคงสูญสลายไปด้วย

        
    ภาพตาแก่ขี้เมาปรากฎชัดในความคิดของชายผู้นั้น  มันยังไม่ลืมความอับอายที่ถูกหยามเกียรติและหมายจะสางแค้นคืนให้เป็นร้อยเป็นพันเท่า  ทว่าขณะนี้จำต้องรอคอยเวลาอันเหมาะสมเสียก่อน  เวลาที่เทพโครนอสจักฟื้นคืนจากนิทราอันยาวนาน

         เจ้าอดทนรอโครนอสก็นับว่าเป็นความจงรักภักดีอย่างที่สุด  แต่อย่าลืมว่าข้าไม่มีน้ำอดน้ำทนขนาดนั้น  เมื่อกาลสุกงอม  ข้าจักเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ทุกสิ่งอย่างไม่เว้นแม้แต่หุบผาแห่งนี้ด้วย 

         เสียงลึกลับประกาศกร้าว  ชายในชุดสูทกัดฟันกรอดและตอบรับด้วยความสุภาพ  อย่างไรเสียตอนนี้เทพแห่งบรรพกาลก็เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่งในเกมกระดานแก่งแย่งยึดครองจักรวาล  ขอแค่ให้โครนอสฟื้นกลับมาได้เท่านั้นแหละ  ขอแค่ฟื้นกลับมาได้...

         เข้าใจแล้ว  หลังจากนี้ข้าจะหาทางจัดการกับตาแก่นั่นด้วยมือตัวเอง  อย่าได้เป็นห่วงไปเลย  'จ้าวแห่งไสยเวทโซโลมอน' เอย

        
    ในด้านหนึ่งการแทรกแซงของสหราชอาณาจักรต่อมวลหมู่ดาวต่าง ๆ ทั้งในและนอกระบบสุริยะกำลังแผ่ขยายความโกลาหลออกไป  ส่วนอีกด้านแผนการชั่วร้ายบางอย่างของจอมไสยเวทก็กำลังดำเนินไปแบบลับ ๆ โดยไม่มีผู้ใดคาดถึงมาก่อน...



    จบตอน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×