ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #19 : น้องหมาพาทัวร์

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.62K
      90
      22 ก.ย. 60


         "ออกมาได้แล้วรึ?  เจ้านี่มันหัวช้ากว่าที่คิดเสียอีก"

         น้องหมาบอกด้วยน้ำเสียงอันเหนื่อยหน่าย  เหมือนกับว่าพวกนี้มันมาดักรอผมอยู่ตั้งนานแล้วแถมยังทำท่าผิดหวังอีกต่างหากน่ะ!  ตกลงนี่มันเรื่องอะไรกันแน่เนี่ย  ทำไมทุกคนต้องแห่กันมาต้อนรับขนาดนี้ด้วย

         "ทำไมถึงรู้ว่าตรูจะแหกคุกออกมาได้เนี่ย!"

         "ข้าบอกไว้ตั้งแต่วันแรกแล้ว  ว่าลูกกรงสร้างขึ้นจากเหล็กดำวัตถุหายาก แต่ไม่ได้กล่าวสักคำว่าส่วนอื่นในคุกทำมาจากเหล็กดำด้วยเช่นกัน  เรื่องแค่นี้ใครก็พอจะเดาได้จริงไหม?"

         เส้าเทียนอิ้งอธิบายต่อว่าแม้เหล็กดำจะเป็นวัตถุที่เทพแค่ไหน  แต่ก็หามาได้ในปริมาณน้อยมาก ๆ สำหรับเทียนซานแค่หามาทำลูกกรงเหล็กในคุกได้ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว  เออ... จะว่าไปมันก็จริงแฮะ  เพราะถ้าเหล็กดำมันเทพขนาดนั้นป่านนี้คงเอาไปหล่อสร้างเป็นตำหนักที่ทำการพรรคไปตั้งนานแล้ว  ไม่ปล่อยให้เอะอะก็พังได้ด้วยมือผมแบบนี้หรอก

         "แล้วด้วยนิสัยดื้อด้านของเจ้า  ข้าก็พอจะเดาออกเช่นกันว่าคงไม่พ้นหาทางหนีออกมาได้อยู่ดี  แต่ไม่นึกว่าจะใช้เวลานานขนาดนี้"

         น่าน ไม่วายยังมาเหน็บกันอีก...  แต่ในเมื่อเป็นอิสระแล้วมีหรือที่จะยอมเข้าไปนอนในคุกอีกรอบ  ผมตั้งท่าเตรียมต่อสู้ในทันที  ทว่าทางน้องหมากลับส่ายศีรษะพลางบอกว่า

         "ในเมื่อเจ้าอยากจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกนัก  ข้าจะเป็นฝ่ายพาเจ้าไปเองแต่ต้องสงบปากสงบคำไว้ให้ดีด้วย"

         เฮ้ยวันนี้จอมมารกินยาลืมเขย่าขวดรึเปล่าเนี่ย?  จู่ ๆ ก็เสนอตัวจะพาทัวร์โลกจีนโบราณเสียเองทั้งที่ก่อนหน้ายังตะโกนด่าตรูจนคอเป็นเอ็นอยู่เลย  แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วได้น้องหมาเป็นคนพาเที่ยวเองแบบนี้ก็นับว่าไม่เลวเหมือนกัน...


    @@@@@@@@@@@@


         ทั้งที่มันควรจะเป็นการตะลอนทัวร์เมืองจีนแบบเที่ยวไปชิมไป หลีหญิงไป แสนสุดสบายอุรา  แต่เชื่อมั้ย?  ที่แรกที่ไอ้หมาเวรนี่มันพา (หลอก) ผมไปคือหน้าสำนักมังกรทองเลยเว้ยเฮ้ย!  โว้ยนี่เอ็งจะบ้าเรอะ  วันก่อนนู้นเพิ่งจะเล่นงานหัวหน้าพรรคเค้าด้วยพิษมาหยก ๆ แล้วนี่ดันมาเคาะประตูเรียกศัตรูกันถึงถิ่นแบบนี้ไม่บ้าก็โง่แน่นอน  เมื่อวานไม่น่าหลงคิดว่าไอ้นี่มันฉลาดสมกับเป็นประมุขพรรคมารเลยจริง ๆ

         "นี่เจ้า! วันก่อนบังอาจใช้แผนชั่วช้าเล่นงานประมุขพวกข้า  มาวันนี้ยังกล้าบุกมาถึงสำนักอีกรึ  ไอ้คนถ่อย!!!"

         และไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมังกรทองจะต้อนรับได้อย่างแสนอบอุ่นขนาดไหน  แค่ปากประตูทางเข้าก็เจอเหล่าลูกศิษย์ของพรรคกว่าสามสิบคนรุมล้อมเอาเสียแล้ว  วันนี้อย่าว่าแต่จะได้ไปเที่ยวไหนเลย  แม้แต่ชีวิตยังไม่ได้กลับคืนไปด้วยมั้ง?

         "ข้าเส้าเทียนอิ้งมาเยือนสำนักมังกรทองทั้งที  ขอให้เจ้าสำนักจางเหอลู่ออกมาต้อนรับด้วย!"

         โธ่เอ๊ยที่แท้ก็แค้นฝังหุ่นที่โดนลูบคมบุกมาเย้ยถึงเทียนซานนี่หว่า  เลยมาเอาคืนด้วยการเรียกจางเหอลู่ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่ามันบาดเจ็บกำลังพักรักษาตัวอยู่  ใช้วิธีเดียวกันแบบนี้จอมมารนี่มันเด็กน้อยไม่รู้จักโตจริง ๆ  แต่เรื่องนี้ช่างมันก่อน  เพราะสถานการณ์ตรงหน้านี่มันวิกฤตเกินกว่าจะมานั่งถกปัญหานี้แล้ว

         "ไอ้ชาติชั่ว! เจ้าสำนักพวกข้าโดนพิษของแกเลยต้องพักรักษาตัวนานนับเดือน  ยังมีหน้าเรียกให้ออกมาพบอีกหรือ  ไอ้คนต่ำช้ามันต้องสั่งสอน!"

         ไม่พูดพร่ำทำเพลง  เจ้าพวกลูกศิษย์พรรคเลือดขึ้นหน้ากรูกันเข้ามาเล่นงานในทันที  ไอ้เราตกใจก็เลยต้องยกมือขึ้นปกป้องตัวเองพร้อมกับใช้วิชามวยวัดไปพลาง ๆ  น้องหมาตัวแสบรีบวิ่งไต่เข้ามาหลบอยู่ในเสื้ออย่างปลอดภัยไร้กังวล

         "ฮึ่ม! วิชาของจอมมารมันช่างพิสดารนัก  คาดเดาไม่ได้เลย!"

         เอ่อ... ไม่ใช่วิชาพิสดารล้ำลึกอะไรหรอก  นี่แค่ชกเปะปะเท่านั้นเองตรูต่อยกับคนอื่นเป็นที่ไหนกันเล่า? ที่ดูมันร้ายกาจก็เพราะมีพลังปราณของเส้าเทียนอิ้งแฝงอยู่ในแต่ละหมัดเท่านั้นแหละ  แต่ด้วยความที่เคยเห็นพวกจอมยุทธสู้กันก่อนหน้านี้  ทำให้ผมค่อย ๆ เรียนรู้ที่จะเคลื่อนไหวร่างกายไปตามน้ำ  หลบหลีกการโจมตีพร้อมกับเล็งหาช่องว่างตอบโต้ได้ทันควัน  ไม่นานนักพวกลูกศิษย์กว่าสามสิบคนก็แตกพ่ายยับเยิน  ล้มกลิ้งระเนระนาด

         "ฮึ! มีฝีมือแค่นี้เองหรือ  เสียแรงที่เป็นถึงพรรคใหญ่เสาหลักแห่งยุทธภพ!"

         น้องหมาได้ทีเยาะเย้ยคู่ต่อสู้ยกใหญ่  ไอ้เรานึกหมั่นไส้เลยต้องเขกกะโหลกมันไปหนึ่งที  มีอย่างที่ไหนไปสุมไฟแค้นชาวบ้านเค้าอีกแน่ะ  เรื่องที่ว่าเคยไปเกรียนแตกตอนงานประลองยุทธคราวที่แล้วคงเป็นความจริงแหงแซะ

         "ปากเสีย! เช่นนั้นลองลิ้มรสค่ายกลของพวกข้าดูหน่อยเป็นไร"

         เหล่าลูกศิษย์เจ็บแค้นต่างรวมตัวกันตั้งแถวจัดค่ายกล  โอ้โหอันนี้ก็เหมือนที่เคยเห็นในหนังจีนเช่นกัน  แถมในหนังกว่าจะเอาชนะพวกค่ายกลของแต่ละสำนักได้นี่เรียกว่าหืดจับ  และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะค่ายกลของจริงดูซับซ้อนกว่าที่เห็นในหนังเสียอีก  พวกมันตั้งแถวตอนลึกสี่แถว  แต่ละแถวซ้อนกันถึงสี่คนแล้วสลับสับเปลี่ยนกันเข้ามาจู่โจม  ครั้นจะหลบสี่คนแรก  อีกสี่คนจากแถวด้านหลังก็จะกระโดดซ้อนเข้ามาด้านซ้ายขวา  พอคิดถอยหลังก็เจอสี่คนสุดท้ายอ้อมมาปิดทางไว้อีก  เท่ากับโดนล็อคตายกลางวงล้อม 16 คนในทันที  ระหว่างนั้นพวกมนต่างเคลื่อนที่ไปมาตลอดไม่มีหยุดนิ่ง  ผมจึงทำได้แค่ตั้งรับทั้งหมด 32 ตีนจนตาลายไม่รู้ใครเป็นใครแล้ว

         "เฮอะ! พอสู้ไม่ได้ก็ใช้คนหมู่มากรุมรึ?  นี่คือสันดานของพรรคใหญ่สิท่า..."

         "หุบปาก! วันนี้พวกข้าจะแก้แค้นแทนอาจารย์ให้จงได้!"

         แต่ในวิกฤตยังมีโอกาส  เพราะน้องหมาจอมมารที่แอบอยู่ข้างในตัวผมกระซิบแผนรับมือค่ายกลพื้น ๆ แบบนี้ให้เรียบร้อยแล้ว  เมื่อฟังเสร็จก็เริ่มตอบโต้ทันทีด้วยการคว้าจับเจ้าคนซ้ายมือที่พุ่งเข้ามาโจมตีก่อนใครเพื่อน  แล้วแผ่พลังปราณขั้นสีม่วงพร้อมเหวี่ยงไปทางซ้าย  กระแทกเข้ากับพรรคพวกที่โดดมาซ้อนกันเพื่อปิดทางหนีของผม  เท่านั้นแหละค่ายกลก็เริ่มรวนในทันทีเพราะขาดความต่อเนื่อง  ครั้นพวกจากแถวหลังคิดจะซ้อนเข้ามาอีกก็เจอกับลูกถีบมั่ว ๆ เข้าไปจนล้มหน้าหงาย

         "ไหนข้าขอดูหน้าคนที่จะล้างแค้นให้อาจารย์ของพวกเจ้าหน่อยสิ?"

         เมื่อค่ายแตก  ผมก็จัดการกับลูกศิษย์ที่เหลือได้อย่างง่ายดาย  แต่ในระหว่างนั้นเองพลังฝ่ามืออันแสนร้ายกาจก็พุ่งออกมากระแทกหน้าอกเข้าอย่างจังจนกระเด็นถอยไปสักราวสิบเมตรได้  เจ้าของวิชาอันรุนแรงนั้นยืนประจันหน้าอย่างไม่เกรงกลัวบารมีของจอมมารเทียนซานเลยแม้แต่น้อย  ถ้าจำไม่ผิด  ดูเหมือนว่าหมอนี่จะมีสมญาว่าเขี้ยวพิฆาตจางถังยี่  ซึ่งวันที่บุกเทียนซานเจ้านี่ก็ไปกับเขาด้วยแต่ไม่ได้แสดงฝีมืออะไรเท่าไหร่นัก... 


    จบตอน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×