ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #16 : ถุงกระสอบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.17K
      97
      18 ก.ย. 60


         "นอกด่าน...  นอกด่านนี่คืออะไร?  แบบด่านวัดแอลกอฮอลล์อะไรงี้เหรอ?"

         ผมงงกับคำถามของสาวสวยเมื่อเธอทักมาว่าตัวเองเป็นคนจากนอกด่านหรือเปล่า  อีกฝ่ายเองก็ทำหน้างุนงงกลับมาเหมือนกันสรุปว่าคุยไม่รู้เรื่องทั้งคู่  สุดท้ายเธอจึงอธิบายว่าคนนอกด่านหมายถึงผู้ที่เดินทางมาจากดินแดนอื่นที่อยู่นอกอาณาเขตของต้าหลง  เพราะทางนี้ใช้คำพูดคำจาแถมสำเนียงแปลก ๆ  แล้วก็ดูท่าทางจะไม่คุ้นเคยกับเมืองหลวงอีกด้วย  ผมเลยต้องตามน้ำไปว่าใช่ ๆ ทำนองนั้นแหละ

         "เจ้านี่ประหลาดคนจริง  ทีแรกข้านึกว่าเป็นพวกของ พรรคอาชาสวรรค์ เสียอีก!"

         เอ๊า มีชื่อพรรคแปลก ๆ โผล่ออกมาอีกล่ะ  ไอ้พวกคนจีนโบราณนี่มันชอบรวมตัวกันตั้งพรรคนู้นพรรคนี้เสียจริง  แถมชื่อก็ต้องไปในทำนองเดียวกันแทบทั้งนั้นที่สำคัญพรรคเหล่านี้มันเสียภาษีกันบ้างหรือเปล่าวะเนี่ย? 

         "เอาเป็นว่าผมก็แค่นักเดินทางบังเอิญผ่านมาแถวนี้นั่นแหละ  ถนนหนทางก็ไม่ค่อยรู้จัก เอ่อ... แล้วแม่นางคนสวยจะพอนำทางให้ได้มั้ยฮะ?"

         เอาล่ะเมื่อปรับจูนคลื่นเข้าหากันได้แล้ว  ผมจึงเริ่มปฎิบัติการหม้อหญิงในทันที หึหึ... ถ้าตัวเองยังไม่ตายนะคงจะขอแลกเบอร์โทรกันไปนานแล้ว

         "อะไรของเจ้า  เมื่อครู่ยังบอกว่าได้ยินคนร่ำลือถึงวิชาอัสนีบาตของสำนักข้าอยู่เลย  มาตอนนี้กลับบอกไม่รู้จักเส้นทาง  อยากได้คนนำทางให้เสียอย่างนั้น?  ตกลงว่าเจ้ารู้หรือไม่รู้เรื่องในแคว้นนี้กันแน่!"

         สาวสวยขมวดคิ้วพลางจ้องมองผมหนักกว่าเดิมอีก  แต่สุดท้ายเธอก็ยอมแนะนำถนนหนทางรวมถึงสถานที่ต่าง ๆ ในเมืองหลวงให้  โธ่! ไอ้เราอยากให้สาวเจ้าพาเดินไปด้วยตัวเองมากกว่า  แต่เอาเถอะ  ตอนนี้ขอแค่ชื่อก็ยังดี

         "เจ้ารู้แค่ว่าข้าเป็นคนของพรรคหมาป่าเงินก็พอแล้ว  ส่วนข้าก็ไม่ได้อยากรู้จักชื่อเสียงเรียงนามของเจ้าเช่นกัน  เอาไว้ถ้ามีชื่อเสียงคู่ควรเมื่อไหร่ข้าจะเป็นฝ่ายบอกเจ้าเอง  เข้าใจนะ"

         แล้วสาวสวยก็พลันเหาะหนีไปเสียดื้อ ๆ ปล่อยให้ผมยืนเอ๋อแดกอยู่คนเดียว  โธ่สาวจีนทำไมถึงเล่นตัวอย่างนี้นะ  แต่ในระหว่างที่กำลังซึม ๆ เพราะนกนั่นเอง  จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงน้องหมาที่ไหนเห่าขึ้นมา

         "โฮ่ง ๆ"

         น้องหมาตัวเล็กสีน้ำตาลหน้าตาน่าเอ็นดูวิ่งมาเห่าใส่ผม  ท่าทางของมันดูน่ารักน่าชังจนเผลอลูบหัวไปสองสามที  ก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่า...

         "จังหวะนี้ล่ะ!"

         แล้วลูกสมุนจอมมารก็กรูกันเอาถุงกระสอบมาคลุมตัวผมแล้วช่วยกันแบกกลับพรรคเทียนซานในบัดดล  ไอ้เรากว่าจะทันรู้ตัวก็พลาดโดนจับเสียแล้วแถมเจ้าพวกลูกสมุนมันยังใช้วิชาแปลก ๆ ทำให้ผมเคลิ้มหลับไปอีกด้วย...


    @@@@@@@@@@@@


         "ไอ้จอมมารนั่นมันชั่วช้ายิ่งนัก! เห็นทีต้องกำจัดให้สิ้นซากเสียที!"

         เจ็ดหน้าหยก จอมยุทธคนสุดท้องแห่งพรรคมังกรทองยังคงหงุดหงิดใจกับเหตุการณ์ที่เทียนซานเมื่อวันก่อน  นอกจากจะจัดการกับเส้าเทียนอิ้งไม่ได้แล้ว  บิดาของตนยังถูกพิษบาดเจ็บต้องนอนรักษาตัวยาวถึงเดือนหน้าอีกด้วย  ตอนนี้จางเหอลู่พักเดินลมปราณอยู่ในห้องส่วนตัวภายในพรรค  ไม่ยอมพบปะหน้าผู้ใดทั้งนั้นแม้แต่ลูกชายลูกสาวของตนก็ตามที

         "กำจัด? ด้วยวิธีใดกัน?  แล้วเจ้าผู้เดียวมีความสามารถพองั้นหรือ"

         จางหยูซู่ ยอดยุทธลำดับที่สี่แห่งพรรคและเป็นพี่สาวของเขากล่าวด้วยท่าทีเย้ยหยันน้องชาย  ถ้าไม่ติดรับหน้าที่เฝ้าดูแลสำนัก  นางคงจะเดินทางไปกับประมุขเพื่อขอดูหน้าจอมมารสักครั้งแล้ว  จึงไม่ค่อยพอใจนักที่จางเหอลู่ไว้ใจพาน้องคนสุดท้องซึ่งฝีมือจัดว่าไม่ได้เรื่องที่สุดไปแทนตน

         "เช่นนั้นพี่จะงอมืองอเท้ารอให้พวกมารบุกมาถล่มพรรคของเราหรืออย่างไร!"

         "ใจเย็นก่อน  พวกเทียนซานคงไม่บุกมาถึงที่นี่หรอก  หากจอมมารประสงค์จะทำลายห้าพรรคใหญ่แล้วล่ะก็  พวกเราคงไม่อยู่รอดมาได้ยาวนานถึงเพียงนี้แน่"

         จางเหยียนเสียปรามให้น้องทั้งสองของตนสงบสติลงเสีย  ถึงอย่างไรข้อเสนอของเทียนซานก็คือการเปิดศึกประลองยุทธจ้าวยุทธจักรครั้งที่สอง  เพราะฉะนั้นตอนนี้พวกตนจึงควรตามน้ำพรรคมารไปก่อน  หลังจากนั้นรอให้ท่านพ่อหายดีค่อยว่าในรายละเอียดกันอีกที

         "ข้าเองก็คิดเช่นนั้น  ว่าแต่ที่น่าสงสัยยิ่งกว่าก็คือการเคลื่อนไหวแปลก ๆ ในระยะนี้ของไอ้เส้าเทียนอิ้งนี่แหละ"  

         พี่ใหญ่จางเหยียนจงให้ความเห็นว่าการที่จอมมารไม่เผด็จศึกพวกตนและห้าสำนักใหญ่ที่เหลือนับเป็นเรื่องที่ประหลาดมาก  ทั้งที่แผนการลอบใช้พิษนับว่าแยบยลไม่เบาแต่การเลือกปล่อยศัตรูคู่อาฆาตให้กลับมาตั้งตัวได้นี่นับว่าเป็นสิ่งที่สิ้นคิดมากในสายตาของตน

         "เรื่องนั้นง่ายมาก  ไม่ทราบว่าพี่ใหญ่หรือเจ้าสำนักคนอื่น ๆ ได้เห็นฝีมือของเส้าเทียนอิ้งแบบจะแจ้งกับสายตาตนเองหรือไม่?"

         จางเหยียนเสียสอบถามเหตุการณ์กับพี่ใหญ่  มันเป็นอีกหนึ่งคนที่รับคำสั่งให้เฝ้าระวังพวกมารลอบกัดอยู่ที่สำนักกับจางหยูซู่  จึงมิได้เดินทางไปพรรคเทียนซานด้วยในวันนั้น  เหยียนจงจึงได้อธิบายว่าในครั้งนั้นจอมมารลงมือเพียงแค่ฝ่ามือเดียวนั่นคือการซัดหลิวเย่อจื่อให้กระเด็นออกไปเท่านั้น  มิได้ลงมือตอบโต้เจ้าสำนักคนอื่นอีกเลย  การปะทะทั้งหมดล้วนแล้วแต่มอบหมายให้พวกลูกสมุนเป็นฝ่ายกระทำทั้งสิ้น

         "อืม ถ้าเช่นนั้นข้าเดาว่าปัญหาน่าจะอยู่ที่พิธีเทียบร่างเชิญวิญญาณครั้งล่าสุดสินะ"

         "เจ้าหมายความว่าอย่างไรเหยียนเสีย?"

         น้องสามแห่งมังกรทองคาดว่าอาจเกิดเหตุผิดปกติกับพิธีสำคัญของจอมมาร เป็นต้นว่าได้รับบาดเจ็บหรือประกอบพิธีไม่สมบูรณ์  ทำให้จากเดิมที่หลังเสร็จพิธีนี้แล้วจอมมารจะอ่อนแอลงมาก  ก็ยิ่งอ่อนกำลังลงเข้าไปอีก  เมื่อถูกพรรคใหญ่บุกจึงต้องเลือกใช้พิษเพื่อเตะถ่วงประวิงเวลาออกไปจนกว่าตนจะหายดีและพร้อมรับมือกับเจ้าสำนักอื่น ๆ อีกครั้ง  ไอ้เรื่องประลองยุทธอะไรนั่นก็คงแค่เสนอส่งเดชไปเท่านั้นเพื่อยืดเวลารักษาออกไปจนถึงจันทร์เพ็ญคราวหน้า

         "ก็เป็นไปได้! น้องสามเจ้าหลักแหลมยิ่งนัก"

         เหยียนจงกล่าวชมน้องชายของตน  ในยามที่ท่านพ่อบาดเจ็บไม่สามารถดูแลสำนักได้เช่นนี้  การมีมันสมองอันชาญฉลาดไว้เป็นขุมกำลังข้างตัวถือเป็นเรื่องประเสริฐยิ่ง  หากเหตุการณ์ตรงตามที่คาดการณ์  ก็เท่ากับต่างฝ่ายต่างบาดเจ็บไม่สามารถเคลื่อนไหวอะไรได้  และคงต้องรอจนกว่าจะถึงจันทร์เพ็ญคราวหน้า

         "ก็ไม่แน่เสมอไปหรอกพี่ใหญ่!"

         น้องสามผู้เจ้าเล่ห์เผยรอยยิ้มออกมา  ดูเหมือนว่ามันจะวางแผนการบางอย่างล่วงหน้าไว้แล้ว  และตอนนี้ก็ถึงตาของห้าพรรคใหญ่ที่จะเดินหมากนำหน้าพวกเทียนซานบ้าง...


    จบตอน
       
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×