ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : จอมมารน้อยผจญภัย
เมื่อคืนวานหลังจากที่แอบหนีออกมาจากเทียนซานได้ ตัวผมก็ลั่นล๊าวิ่งเล่นไปตามตรอกซอกซอยในเมืองทันที อารมณ์คงเหมือนตอนที่จิ๊กเงินแม่ออกมานั่งเล่นเกมในร้านอินเตอร์เน็ตนั่นแหละ เมื่อลองเดินพูดคุยกับชาวบ้านร้านตลาดธรรมดาทั่วไป เลยได้ข่าวสารมาว่าที่นี่คือแคว้นอู่อันเป็นดินแดนใหญ่ที่สุดของต้าหลง เมื่อเทียบกับแคว้นอื่น ๆ และมีเจ้าผู้ครองแคว้นอันได้รับอำนาจจากจักรพรรดิหรือฮ่องเต้อีกที แต่ในความเป็นจริงแล้วกลุ่มคนที่มีพาวเวอร์มากที่สุดกลับเป็นพวกพรรคใหญ่ห้าพรรคซึ่งสามารถออกปากออกเสียงกับเจ้าแคว้นได้อย่างไม่ต้องเกรงใจเสียนี่
"แล้วอย่างนี้เจ้าแคว้นไม่เสียหน้าแย่เลยเหรอ อุตส่าห์มีตำแหน่งแล้วแท้ ๆ แต่ดันทำอะไรไม่ได้แบบนี้น่ะ?"
"โถ พ่อหนุ่ม! ข้าถามกลับว่าถ้าเจ้ามีอำนาจในมือ แต่ต้องไปสู้รบกับพวกเทียนซานเจ้าจะเอาไหม? สู้อยู่เฉย ๆ นอนกินเบี้ยหวัดจากราชการแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกพรรคใหญ่ฝ่ายธรรมะต่อสู้ดีกว่าใช่ไหมเล่า?"
แน่ล่ะว่าพรรคเทียนซานนี่ไม่ว่าจะพูดกับใครก็มีแต่คนส่ายหน้าร้องยี้ทั้งนั้น นอกจากพฤติกรรมที่ชอบเกะกะระรานชาวบ้านแล้วยังพยายามเรียกเก็บส่วยอีก ภายหลังชาวบ้านทนไม่ไหวจึงได้นำเงินไปบริจาคให้ห้าพรรคใหญ่แทนเพื่อเป็นการประชด ทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่ถูกโรคกันมาตั้งแต่นั้น แถมในศึกจ้าวยุทธจักรครั้งก่อนเส้าเทียนอิ้งยังป่วนงานจนพังพินาศยิ่งทำให้ทุกคนไม่พอใจมากกว่าเดิมอีก ถ้าไม่ติดว่าเจ้าหมานั่นมันฝีมือขั้นเทพ ป่านนี้คงโดนพวกธรรมะรุมกระทืบตายไปนานแล้ว
"เอ่อ... ทำไมมันฟังดูเหมือนระบบราชการของประเทศไหนสักแห่งที่ผมเคยเจอมาเลยแฮะ?"
พูดถึงตรงนี้อาแป๊ะขายหมวกฟางในตลาดก็มองหน้าผมแบบแปลก ๆ จึงต้องขอตัวลาเสียก่อน วันนี้ผมรอบคอบด้วยการทำลายตราสัญญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับเทียนซานบนชุดทั้งหมด แถมยังสอยหมวกฟางจากอาแป๊ะมาใส่เพื่อปิดบังหน้าตา ทำทีเหมือนพวกนักเดินทางอีกด้วย (ส่วนเงินน่ะก็แอบจิ๊กมาจากพวกเทียนซานนั่นแล)
"เฮ้ยแม่สาวน้อยไหนลองพูดอีกทีซิ!"
ระหว่างที่ผมเดินทอดน่องดูนู่นนั่นนี่อยู่นั้นเอง ก็เจอกับกลุ่มชายฉกรรจ์สี่ห้าคนกำลังรุมล้อมหญิงสาวร่างเล็กบางคนหนึ่ง จึงไปร่วมวงยืนมุงดูพร้อมกับชาวบ้านด้วย ไอ้พวกผู้ชายตัวล่ำ ๆ นั่นผมไม่สนหรอก แต่ฝ่ายผู้หญิงนี่สิ อื้อหือ! สวย! สเปคเลย... หน้าเรียวยาว ผิวพรรณผุดผ่อง หน้าอกหน้าใจกำลังดีแถมอายุอานามก็น่าจะไล่เลี่ยกับผมด้วย
"ไอ้หนู! แกไม่รู้รึไงว่าพวกข้าคือกลุ่ม สมิงหนุ่ม ที่ได้รับการยอมรับจากท่านประมุขเกาแห่งพรรคพยัคฆ์แดงเชียวนะ มาดูถูกกันแบบนี้ก็แย่สิวะ!"
พวกชายฉกรรจ์ต่างยืดอกอย่างภาคภูมิใจในขณะที่เอ่ยชื่อประมุขพรรคใหญ่ โอ้โหไอ้บ้าพลังนั่นมันมีชื่อเสียงโด่งดังจริง ๆ พอมีคนอวดอ้างขึ้นมาปุ๊บชาวบ้านต่างเกิดอาการเกรงกลัวกันทันที แต่กับสาวน้อยคนนั้นกลับไม่มีท่าทางว่าจะหวาดเกรงขึ้นมาเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังตั้งท่าพร้อมต่อสู้กับเจ้าพวกนั้นอีก
"อวดดีนักนะนังนี่ เฮ้ยพวกเราจัดการมัน!"
ทีแรกผมว่าจะวิ่งเข้าไปห้ามสักหน่อย ไม่ใช่ว่าต่อมคุณธรรมมันกำเริบอะไรหรอกนะแต่แค่อยากโชว์ออฟให้สาวสวยเห็นน่ะ แฮะ ๆ แต่คงไม่ต้องล่ะ เพราะแม่คุณเล่นสอยเจ้าพวกผู้ชายตัวใหญ่ ๆ ลงไปนอนนับดาวเรียงกันเป็นแถว โถ... ตั้งชื่อซะน่ากลัวว่ากลุ่มสมิงหนุ่มแต่ดันนุ่มนิ่มยิ่งกว่าขนมมาร์ชเมลโล่เสียอีก เจอวิชายุทธของผู้หญิงเข้าไปก็นอนหมดสภาพซะแล้ว
"แก! แกเป็นใครกันแน่?"
เจ้าพวกสมิงหนุ่มกัดฟันทนเจ็บลุกขึ้นมาถามชื่อเสียงเรียงนามของหญิงสาวผู้นี้ในทันที แต่เธอก็แลบลิ้นปลิ้นตาใส่พร้อมกับวิ่งหนีหายไปในฝูงชน เออประหลาดคนจริงแฮะ ถ้าเก่งขนาดนี้อย่างน้อยก็น่าจะเป็นลูกศิษย์พรรคไหนสักแห่งหรือไม่ก็น่าจะพอมีชื่อเสียงอยู่บ้างสิน่า แล้วทำไมถึงไม่มีใครรู้จักเลยล่ะหรือว่าจะเป็นคนต่างถิ่นกันหว่า? แต่ทันใดนั้นเองผมก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างตกอยู่ที่พื้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้ ๆ จึงเห็นว่าเป็นจี้ห้อยคออันเล็กทำจากหยกดูจะมีราคาไม่น้อย
"ไอ้นี่มันของนังเวรนั่นนี่ ไอ้หนูส่งจี้เส้นนั้นมาให้พวกข้าซะ!"
กลุ่มสมิงหนุ่มเองก็สังเกตเห็นจี้เส้นนี้เหมือนกันจึงพยายามข่มขู่เพื่อแย่งเอามาเป็นของตัวเอง แต่มีหรือที่ผมจะยอมให้ ไอ้พวกนี้ขนาดผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ยังเอาชนะไม่ได้เลย แล้วนี่ร่างทรงของจอมมารนะเฮ้ย! จากการได้เห็นวิชายุทธของพวกสำนักต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ ทำให้แอบลักจำมาใช้บ้างเล็กน้อย ทั้งการวาดมือกลางอากาศ การปล่อยหมัดและมวยวัดมั่ว ๆ ผสมไป ที่เหลือคือพลังปราณอันแข็งแกร่งของเส้าเทียนอิ้งที่ช่วยจัดการเจ้าพวกสมิงหนุ่มจนราบคาบอีกรอบ แหม่! เวลาพระเอกซูในนิยายสมัยใหม่คงจะอารมณ์คล้าย ๆ แบบนี้ล่ะมั้ง?
"กล้าหลบหลู่พวกข้าแบบนี้ระวังไว้ให้ดี ท่านประมุขเกาไม่ปล่อยพวกแกเอาไว้แน่!"
แล้วบรรดาชายฉกรรจ์ทั้งหลายก็เผ่นหนีไม่เป็นท่า ดูแล้วช่างน่าสมเพชเหลือเกินแต่ตัวผมเองก็ต้องฉากหลบออกจากบริเวณนั้นเช่นกันเพราะชาวบ้านเริ่มแห่มุงดูมากขึ้นแล้ว ขืนโดนจับได้ว่าเป็นพวกมารอีกเดี๋ยวจะมีเรื่องยุ่งยากตามมาทีหลัง...
@@@@@@@@@@@@
ในช่วงใกล้พลบค่ำของวันนั้น หลังจากที่ถูกเด็กหนุ่มสาวสองคนหยามน้ำหน้าจนไม่เหลือดี เจ้าพวกสมิงหนุ่มก็รีบหนีเข้าไปฟ้องประมุขพรรคพยัคฆ์แดงทันที พวกมันร้องแรกแหกกะเฌอต่อหน้าเกาฟานเฉียงที่นั่งไขว่ห้างบนบัลลังก์ในห้องโถงใหญ่ของพรรค
"เจ้าพวกโง่! โดนเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมหยามเอาแค่นี้แล้วยังมีหน้ามาขอความช่วยเหลือจากข้าอีกรึ? ขอถามเถอะว่ายังมีความเป็นลูกผู้ชายหลงเหลืออยู่บ้างหรือเปล่า?"
ประมุขพรรคตวาดใส่หน้าพวกมัน วันนี้กะอีแค่เด็กวัยรุ่นสองคนยังไม่มีปัญญาเอาชัย แล้ววันหน้าใครจะยังให้ความเคารพยำเกรงอีก เสียแรงที่อุตส่าห์ให้การรับรองอย่างดิบดีสุดท้ายก็แค่พวกกุ๊ยปลายแถว แล้วเรื่องอะไรที่มันจะต้องออกโรงปกป้องเศษสวะเช่นนี้ด้วยเล่า?
"แต่ท่านประมุขเกา พวกมันฝีมือร้ายกาจมากนักขอรับ โดยเฉพาะเจ้าเด็กเปรตที่โผล่มาตอนหลังนี่ พอมันปลดปล่อยปราณสีม่วงออกมาพวกข้าก็แทบแตะต้องตัวมันไม่ได้เลยนะท่าน!"
"เจ้าว่าอะไรนะ!"
ทีแรกเกาฟานเฉียงจะปล่อยผ่านเรื่องนี้อยู่แล้ว ถ้าไม่เพราะหนึ่งในกลุ่มเอ่ยถึงเด็กหนุ่มที่มีพลังปราณอันร้ายกาจแฝงอยู่ แน่นอนว่ามันย่อมไม่ลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แน่ กระแสปราณอันเกรี้ยวกราดที่อัดใส่หลิวเย่อจื่อจนกระเด็นไม่เป็นท่า ถ้าจำไม่ผิดก็ดูคล้ายกันอยู่แถมลักษณะรูปร่างภายนอกเท่าที่ฟังพวกสวะเล่าแล้วก็ใกล้เคียงกับร่างใหม่ของจอมมารจริง ๆ
"เห็นทีข้าคงต้องสืบดูเรื่องของเจ้าหนูนี่เสียหน่อยแล้ว!"
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น