ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #116 : เผชิญหน้าข้าหลวงใหญ่แห่งสหราชอาณาจักร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 87
      2
      11 ก.พ. 63


         ผมเลือดขึ้นหน้าแบบสุด ๆ เมื่อได้เห็นร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวตรงหน้า  นี่เองที่เป็นเหตุให้เย่อจื่อถึงกับต้องละทิ้งคุณธรรมที่เหลืออยู่ในใจแล้วหันมาต่อกรกับทางนี้แทนที่จะเป็นศัตรูตัวจริงจากบนฟากฟ้า  หนอยไอ้เจ้าพวกสหราชอาณาจักรมันบังอาจทำกับผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขนาดนี้  ไหนจะผลงานโฉดที่ทำกับสำนักเทียนซานอีก  เห็นที่คงต้องเอาให้ตายกันไปข้างล่ะงานนี้  ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับแน่ ๆ

         "เพราะอย่างนี้เจ้าจึงต้องหันคมดาบเข้าหาข้าสินะเย่อจื่อ!"

         หมาป่าหนุ่มไม่ยอมตอบอะไร  มันเกร็งลมปราณขั้นสูงเพื่อเตรียมจู่โจมอีกระลอกในทันที  นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่เข้าใจเป็นที่สุด  ก็ในเมื่อรู้ความจริงแบบนี้แล้ว  ทำไมถึงไม่ยอมหาทางช่วยน้องสาวออกมาจากในหลอดทดลองล่ะฟะ!  จะไปดิ้นตามเกมของพวกศัตรูเพื่ออะไร?  มีสมองก็ไม่รู้จักใช้โง่ฉิบ!

         "เย่อจื่อ! ศัตรูของเจ้าหาใช่ข้าไม่  ทำไมเราไม่ร่วมมือกันกำจัดศัตรูจากนอกโลกก่อนเล่า?"

         "หุบปาก!  เจ้ามันจะไปรู้อะไร!!!  น้องข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว  ขอแค่พวกมันขยับมือทีเดียวอี่หลันก็จะขาดอากาศหายใจตายทันที!"

         อ้อ... แบบนี้นี่เอง  ทีนี้ก็เข้าใจในเหตุผลของเจ้านี่ล่ะ  ที่แท้มันก็ไม่สามารถทำลายหลอดทดลองได้  เพราะหากสุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรผิดพลาดไปนิดเดียว  ระบบช่วยชีวิตจากสายยางที่ห้อยเต็มตัวของนางคงจะฉีดยาพิษหรือไม่ก็หยุดให้ออกซิเจนจนนางขาดใจตายเป็นแน่  ดังนั้นจึงจำใจต้องมาสู้กับทางนี้ไปพลางหาวิธีอื่นไปพลางสินะ?

         "งั้นลองแบบนี้ดู!"

         เมื่อได้ทราบจุดประสงค์และความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้ว  ผมก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องยั้งมืออีกต่อไป  พริบตาที่เย่อจื่อเปิดช่องว่าง  ก็เข้าประชิดตัวพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าให้แถวกกหูจนเซถลาไปในทีเดียว  หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที  ต่อมาผมก็พุ่งตรงเข้าไปที่หลอดทดลองของอี่หลัน  จัดการทำลายพร้อมกับซัดวิชาฝ่ามือเข้าใส่ร่างเปลือยของนางในทันที  และนั่นก็แรงพอที่จะปลิดชีพอี่หลันได้ในกระบวนท่าเดียว

         "นั่นเจ้า! เจ้าบังอาจ...!!!"

         "เอาน่าใจเย็น ๆ ก่อน  นี่ข้าลงมือเพื่อช่วยพวกเจ้าเลยนะหัดสำนึกบุญคุณกันบ้างก็ดี"

         ผมเอามือช้อนร่างของอี่หลันเอาไว้  แล้วจัดการดึงสายยางที่แทงเข้าไปในร่างของนางออกไปให้หมดในรวดเดียว  อย่างที่คิดไว้จริง ๆ  นอกจากสายออกซิเจนแล้ว  ในบางสายยังมีของเหลวสีแปลก ๆ ท่าทางไม่ชอบมาพากลเหมือนจะเป็นยาพิษไหลมาตามสายด้วย

         "เอาล่ะ  เท่านี้ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว  ต่อไปก็..."   

         แต่ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค  ลำแสงพิฆาตก็พุ่งเข้าใส่ทางนี้จนต้องตั้งรับอย่างเต็มกำลัง  ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้จับตัวผมมาปรากฎตัวขึ้นกะทันหันพร้อมกับเริ่มโจมตีใส่แบบไม่ยั้งเลยทีเดียว

         "หึหึ... ใช้ไม่ได้เลยนะครับเย่อจื่อ  ดูเหมือนว่ามันจะผิดจากที่ตกลงกันไว้นะ?"

         "ตกลงบ้าบออะไร! เจ้าบังอาจจับน้องสาวข้ามาเป็นเครื่องต่อรองให้กระทำการโฉดเขลาเช่นนี้ไม่ใช่หรือไง!"

         ได้ยินแบบนั้นเจ้านั่นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันใด  แล้วโชว์ไม้เด็ดด้วยการสวมชุดเกราะเหล็กทั้งตัวไม่ต่างอะไรกับการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ที่ผมเคยดูตอนเด็ก ๆ เลยสักนิด  อีกทั้งเจ้าเกราะนี่ก็คงไม่พ้นใช้พลังบาเรียแบบเดียวกับที่เจอกับหุ่นกระป๋องก่อนหน้าด้วยแน่ ๆ  แต่เย่อเจื่อที่กำลังเลือดขึ้นหน้าดันพุ่งเข้าไปปะทะโดยไม่รอทางนี้อธิบายอะไรเสียก่อนแล้ว

         "ฮ่าห์!!!"

         แล้วก็เป็นไปตามที่คาด  เจ้าหมาป่าหนุ่มที่สูญเสียความเยือกเย็นโดนบาเรียของมันกระแทกจนกระเด็นออกมาแทบจะในทันที  ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่เคยต่อสู้กับเจ้าพวกนี้สินะ?  คงไม่รู้ว่าพลังลมปราณธรรมดาทั่วไปน่ะใช้เล่นงานมันไม่ได้ผลหรอก

         "เจ้าโง่เอ๊ย! แกไปดูแลน้องสาวก่อนเถอะข้าจะจัดการกับมันเอง!"

         "โอ้! เป็นเกียรติอย่างสูงที่จะได้ประมือกับเจ้ายุทธจักรนะ ฮ่า ๆ"

         เจ้านั่นกล่าววาจายียวนแล้วปล่อยพวกฝูงโดรนโจมตีขนาดเล็กออกมาจากทางด้านหลัง  ผมไม่รอช้ารีบจัดการซัดพวกโดรนห่วย ๆ นั่นจนเละในพริบตา  ระหว่างนั้นก็ซัดวิชาดรรชนีทะลวงสวรรค์เข้าใส่อีกฝ่ายด้วย  แม้ว่ามันจะไม่ระคายผิวเลยก็ตามที  ที่สำคัญกว่านั้นเจ้าบาเรียทีว่ามันดันเปล่งแสงสีแดงอ่อน ๆ ออกมาด้วย  เฮ้ยอย่าบอกนะว่า...

         "ดูท่าว่าจะสังเกตเห็นแล้วสินะไอ้หนู?"

         "เออสิวะ! หนอยไอ้เวรนั่นดันขโมยพลังลมปราณขั้นสีแดงไปด้วยแบบนี้มันโคตรน่าเจ็บใจเลยว่ะ!!!"

         น้องหมาทักมาว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอันผิดปกตินั้นเช่นกัน  ในเมื่ออีกฝ่ายใช้พลังระดับลมปราณขั้นสีแดงได้แบบนี้เย่อจื่อคงไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่  การจะสยบมันจำเป็นต้องใช้พลังที่เหนือล้ำกว่านั้น  ว่าแล้วผมเริ่มเดินลมปราณเพื่อเข้าสู่สภาวะขั้นสีเขียวมรกตในทันที  แต่นั่นก็ทำให้ร่างกายรับภาระหนักไปด้วยจนลมหายใจปั่นป่วน  ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมแพ้ไอ้หอกหักที่ดีแต่จับผู้คนมาทรมานหรอกนะ!

         "โฮ่  ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่เหนือล้ำยิ่งกว่าที่กระผมใช้อยู่อีกสินะ?"

         เจ้านั่นเห็นผมเร่งพลังให้สูงขึ้นก็ทำท่าดีใจลิงโลด  คงจะคิดตื้น ๆ ว่าจะสูบพลังมาใช้อีกสินะแต่ขอบอกว่ายากโว้ย! เพราะในพริบตาถัดมาผมใช้วิชาดวงแสงอ้อมเข้าด้านหลังของมันในห้วงเวลาที่หยุดนิ่ง  ก่อนจะซัดฝ่ามือพิชัยสรรพยุทธขั้นสีเขียวอันเป็นพลังขั้นสูงสุดเท่าที่ผมจะใช้ได้ในตอนนี้เข้าใส่ในทันที  ลำแสงอันเจิดจ้าพุ่งเข้าปะทะร่างของมันจนแหลกเป็นเสี่ยง ๆ คาชุดเกราะอันแสนภาคภูมิใจของมันชนิดที่บอกไม่ได้เลยว่าส่วนไหนเป็นอวัยวะอะไร  สิ้นสุดวีรกรรมโฉดของไอ้เวรนี่ลงได้เสียที

         "เฮ้อ... หวังว่ามันคงจะไม่คืนชีพขึ้นมาเป็นซอมบี้ไล่กัดตรูอีกนะเว้ย!"

         ผมพูดติดตลกในขณะที่เย่อจื่อและน้องหมางุนงงว่าซอมบี้คืออะไร?  แต่อย่างไรก็ดีเมื่อโค่นตัวบอสได้แล้วที่เหลือก็คงไม่ใช่งานยากอะไร  หลังจากบอกให้เจ้าหมาป่าหนุ่มรีบพาน้องสาวหนีออกไปจากยานแม่ด้วยกระสวยอพยพฉุกเฉินแล้ว  ผมก็เตรียมหาทางทำลายยานอวกาศลำนี้ทิ้ง  ทว่าในระหว่างที่เดินหาห้องเชื้อเพลิงเพื่อจุดระเบิดยานนั้นเอง  จู่ ๆ ก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นจนแทบทรงตัวไม่อยู่  ดูเหมือนว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นภายในยานแห่งนี้  บางอย่างที่เป็นลางสังหรณ์มรณะซึ่งผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนกำลังจะเกิดขึ้น ณ บัดนี้แล้ว!



    จบตอน


        

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×