ลำดับตอนที่ #116
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #116 : เผชิญหน้าข้าหลวงใหญ่แห่งสหราชอาณาจักร
ผมเลือดขึ้นหน้าแบบสุด ๆ เมื่อได้เห็นร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวตรงหน้า นี่เองที่เป็นเหตุให้เย่อจื่อถึงกับต้องละทิ้งคุณธรรมที่เหลืออยู่ในใจแล้วหันมาต่อกรกับทางนี้แทนที่จะเป็นศัตรูตัวจริงจากบนฟากฟ้า หนอยไอ้เจ้าพวกสหราชอาณาจักรมันบังอาจทำกับผู้คนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ขนาดนี้ ไหนจะผลงานโฉดที่ทำกับสำนักเทียนซานอีก เห็นที่คงต้องเอาให้ตายกันไปข้างล่ะงานนี้ ไม่งั้นคืนนี้นอนไม่หลับแน่ ๆ
"เพราะอย่างนี้เจ้าจึงต้องหันคมดาบเข้าหาข้าสินะเย่อจื่อ!"
หมาป่าหนุ่มไม่ยอมตอบอะไร มันเกร็งลมปราณขั้นสูงเพื่อเตรียมจู่โจมอีกระลอกในทันที นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่เข้าใจเป็นที่สุด ก็ในเมื่อรู้ความจริงแบบนี้แล้ว ทำไมถึงไม่ยอมหาทางช่วยน้องสาวออกมาจากในหลอดทดลองล่ะฟะ! จะไปดิ้นตามเกมของพวกศัตรูเพื่ออะไร? มีสมองก็ไม่รู้จักใช้โง่ฉิบ!
"เย่อจื่อ! ศัตรูของเจ้าหาใช่ข้าไม่ ทำไมเราไม่ร่วมมือกันกำจัดศัตรูจากนอกโลกก่อนเล่า?"
"หุบปาก! เจ้ามันจะไปรู้อะไร!!! น้องข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ขอแค่พวกมันขยับมือทีเดียวอี่หลันก็จะขาดอากาศหายใจตายทันที!"
อ้อ... แบบนี้นี่เอง ทีนี้ก็เข้าใจในเหตุผลของเจ้านี่ล่ะ ที่แท้มันก็ไม่สามารถทำลายหลอดทดลองได้ เพราะหากสุ่มสี่สุ่มห้าทำอะไรผิดพลาดไปนิดเดียว ระบบช่วยชีวิตจากสายยางที่ห้อยเต็มตัวของนางคงจะฉีดยาพิษหรือไม่ก็หยุดให้ออกซิเจนจนนางขาดใจตายเป็นแน่ ดังนั้นจึงจำใจต้องมาสู้กับทางนี้ไปพลางหาวิธีอื่นไปพลางสินะ?
"งั้นลองแบบนี้ดู!"
เมื่อได้ทราบจุดประสงค์และความตั้งใจของอีกฝ่ายแล้ว ผมก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องยั้งมืออีกต่อไป พริบตาที่เย่อจื่อเปิดช่องว่าง ก็เข้าประชิดตัวพร้อมกับซัดฝ่ามือเข้าให้แถวกกหูจนเซถลาไปในทีเดียว หลังจากนั้นเพียงเสี้ยววินาที ต่อมาผมก็พุ่งตรงเข้าไปที่หลอดทดลองของอี่หลัน จัดการทำลายพร้อมกับซัดวิชาฝ่ามือเข้าใส่ร่างเปลือยของนางในทันที และนั่นก็แรงพอที่จะปลิดชีพอี่หลันได้ในกระบวนท่าเดียว
"นั่นเจ้า! เจ้าบังอาจ...!!!"
"เอาน่าใจเย็น ๆ ก่อน นี่ข้าลงมือเพื่อช่วยพวกเจ้าเลยนะหัดสำนึกบุญคุณกันบ้างก็ดี"
ผมเอามือช้อนร่างของอี่หลันเอาไว้ แล้วจัดการดึงสายยางที่แทงเข้าไปในร่างของนางออกไปให้หมดในรวดเดียว อย่างที่คิดไว้จริง ๆ นอกจากสายออกซิเจนแล้ว ในบางสายยังมีของเหลวสีแปลก ๆ ท่าทางไม่ชอบมาพากลเหมือนจะเป็นยาพิษไหลมาตามสายด้วย
"เอาล่ะ เท่านี้ก็น่าจะปลอดภัยแล้ว ต่อไปก็..."
แต่ยังไม่ทันได้พูดจนจบประโยค ลำแสงพิฆาตก็พุ่งเข้าใส่ทางนี้จนต้องตั้งรับอย่างเต็มกำลัง ชายวัยกลางคนที่ก่อนหน้านี้จับตัวผมมาปรากฎตัวขึ้นกะทันหันพร้อมกับเริ่มโจมตีใส่แบบไม่ยั้งเลยทีเดียว
"หึหึ... ใช้ไม่ได้เลยนะครับเย่อจื่อ ดูเหมือนว่ามันจะผิดจากที่ตกลงกันไว้นะ?"
"ตกลงบ้าบออะไร! เจ้าบังอาจจับน้องสาวข้ามาเป็นเครื่องต่อรองให้กระทำการโฉดเขลาเช่นนี้ไม่ใช่หรือไง!"
ได้ยินแบบนั้นเจ้านั่นก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันใด แล้วโชว์ไม้เด็ดด้วยการสวมชุดเกราะเหล็กทั้งตัวไม่ต่างอะไรกับการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ที่ผมเคยดูตอนเด็ก ๆ เลยสักนิด อีกทั้งเจ้าเกราะนี่ก็คงไม่พ้นใช้พลังบาเรียแบบเดียวกับที่เจอกับหุ่นกระป๋องก่อนหน้าด้วยแน่ ๆ แต่เย่อเจื่อที่กำลังเลือดขึ้นหน้าดันพุ่งเข้าไปปะทะโดยไม่รอทางนี้อธิบายอะไรเสียก่อนแล้ว
"ฮ่าห์!!!"
แล้วก็เป็นไปตามที่คาด เจ้าหมาป่าหนุ่มที่สูญเสียความเยือกเย็นโดนบาเรียของมันกระแทกจนกระเด็นออกมาแทบจะในทันที ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่เคยต่อสู้กับเจ้าพวกนี้สินะ? คงไม่รู้ว่าพลังลมปราณธรรมดาทั่วไปน่ะใช้เล่นงานมันไม่ได้ผลหรอก
"เจ้าโง่เอ๊ย! แกไปดูแลน้องสาวก่อนเถอะข้าจะจัดการกับมันเอง!"
"โอ้! เป็นเกียรติอย่างสูงที่จะได้ประมือกับเจ้ายุทธจักรนะ ฮ่า ๆ"
เจ้านั่นกล่าววาจายียวนแล้วปล่อยพวกฝูงโดรนโจมตีขนาดเล็กออกมาจากทางด้านหลัง ผมไม่รอช้ารีบจัดการซัดพวกโดรนห่วย ๆ นั่นจนเละในพริบตา ระหว่างนั้นก็ซัดวิชาดรรชนีทะลวงสวรรค์เข้าใส่อีกฝ่ายด้วย แม้ว่ามันจะไม่ระคายผิวเลยก็ตามที ที่สำคัญกว่านั้นเจ้าบาเรียทีว่ามันดันเปล่งแสงสีแดงอ่อน ๆ ออกมาด้วย เฮ้ยอย่าบอกนะว่า...
"ดูท่าว่าจะสังเกตเห็นแล้วสินะไอ้หนู?"
"เออสิวะ! หนอยไอ้เวรนั่นดันขโมยพลังลมปราณขั้นสีแดงไปด้วยแบบนี้มันโคตรน่าเจ็บใจเลยว่ะ!!!"
น้องหมาทักมาว่าสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงอันผิดปกตินั้นเช่นกัน ในเมื่ออีกฝ่ายใช้พลังระดับลมปราณขั้นสีแดงได้แบบนี้เย่อจื่อคงไม่ใช่คู่ต่อสู้แน่ การจะสยบมันจำเป็นต้องใช้พลังที่เหนือล้ำกว่านั้น ว่าแล้วผมเริ่มเดินลมปราณเพื่อเข้าสู่สภาวะขั้นสีเขียวมรกตในทันที แต่นั่นก็ทำให้ร่างกายรับภาระหนักไปด้วยจนลมหายใจปั่นป่วน ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ยอมแพ้ไอ้หอกหักที่ดีแต่จับผู้คนมาทรมานหรอกนะ!
"โฮ่ ดูเหมือนว่าจะมีพลังที่เหนือล้ำยิ่งกว่าที่กระผมใช้อยู่อีกสินะ?"
เจ้านั่นเห็นผมเร่งพลังให้สูงขึ้นก็ทำท่าดีใจลิงโลด คงจะคิดตื้น ๆ ว่าจะสูบพลังมาใช้อีกสินะแต่ขอบอกว่ายากโว้ย! เพราะในพริบตาถัดมาผมใช้วิชาดวงแสงอ้อมเข้าด้านหลังของมันในห้วงเวลาที่หยุดนิ่ง ก่อนจะซัดฝ่ามือพิชัยสรรพยุทธขั้นสีเขียวอันเป็นพลังขั้นสูงสุดเท่าที่ผมจะใช้ได้ในตอนนี้เข้าใส่ในทันที ลำแสงอันเจิดจ้าพุ่งเข้าปะทะร่างของมันจนแหลกเป็นเสี่ยง ๆ คาชุดเกราะอันแสนภาคภูมิใจของมันชนิดที่บอกไม่ได้เลยว่าส่วนไหนเป็นอวัยวะอะไร สิ้นสุดวีรกรรมโฉดของไอ้เวรนี่ลงได้เสียที
"เฮ้อ... หวังว่ามันคงจะไม่คืนชีพขึ้นมาเป็นซอมบี้ไล่กัดตรูอีกนะเว้ย!"
ผมพูดติดตลกในขณะที่เย่อจื่อและน้องหมางุนงงว่าซอมบี้คืออะไร? แต่อย่างไรก็ดีเมื่อโค่นตัวบอสได้แล้วที่เหลือก็คงไม่ใช่งานยากอะไร หลังจากบอกให้เจ้าหมาป่าหนุ่มรีบพาน้องสาวหนีออกไปจากยานแม่ด้วยกระสวยอพยพฉุกเฉินแล้ว ผมก็เตรียมหาทางทำลายยานอวกาศลำนี้ทิ้ง ทว่าในระหว่างที่เดินหาห้องเชื้อเพลิงเพื่อจุดระเบิดยานนั้นเอง จู่ ๆ ก็เกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรงขึ้นจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ดูเหมือนว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้นภายในยานแห่งนี้ บางอย่างที่เป็นลางสังหรณ์มรณะซึ่งผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนกำลังจะเกิดขึ้น ณ บัดนี้แล้ว!
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น