ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #114 : ปะทะหมาป่าหนุ่มทรนง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 121
      7
      30 พ.ย. 62


         เมื่อได้รู้ความจริงเกี่ยวกับเซฟิราฟเอเนอจี้ก็ทำให้ผมเดือดดาลจนถึงขีดสุด  ไอ้พวกมนุษย์ต่างดาวนี่นอกจากจะทำร้ายคนของเทียนซานแล้วยังจับผู้คนมารีดพลังงานเหมือนเป็นตู้แบตเตอรี่เคลื่อนที่ได้แบบนี้งั้นเรอะ! ฝันไปเถอะว่าพวกเอ็งจะทำตามใจชอบได้มากกว่านี้  ผมกัดฟันกรอดในขณะที่ไล่ทำลายหลอดทดลองเพื่อปลดปล่อยผู้เคราะห์ร้ายที่อยู่ข้างในออกมา

         "แต่นี่มันมีจำนวนมากกว่าที่คิดอีกนะ?"

         จอมมารออกความเห็น  เอาแค่เฉพาะที่มีอยู่ในห้องนี้ก็คงไม่ต่ำกว่าหลักร้อยแล้ว  ถ้าห้องอื่น ๆ ภายในยานแห่งนี้ก็มีสภาพไม่ต่างกันล่ะก็...  ผมถึงกับกลืนน้ำลายให้กับความสยดสยองในมโนสำนึก  นี่เองที่เป็นสาเหตุให้พลังปราณชั้นสูงของเทียนซานไม่สามารถผ่านการป้องกันของพวกหุ่นกระป๋องได้  เพราะถ้าพวกมันรีดเค้นพลังงานแฝงจากผู้คนได้มากขนาดนี้ในระยะเวลาอันสั้นแล้ว  ต่อไปในภายภาคหน้าดินแดนต้าหลงคงไม่แคล้วกลายเป็นแดนมิคสัญญีหรือนรกบนดินเป็นแน่

         "แต่นี่ก็เป็นโอกาสแล้วมิใช่หรือไอ้หนู?"

         น้องหมาแหล่มองมาทางนี้ซึ่งผมก็พอจะเดาความคิดอันชั่วร้ายได้ไม่ยากนัก  เลยต้องส่ายศีรษะอย่างแรงเป็นการปฎิเสธ  ถ้าจะให้ขายวิญญาณเพื่อทำเรื่องเลวร้ายขนาดนี้ล่ะก็... ตรูยอมไปเกิดเป็นหมาเสียดีกว่า! (เอ๊ะ แต่ก็เกือบได้เป็นน้องหมาล่ะนะ ฮ่า ๆ)

         "ไอ้เรื่องที่จะเอาพลังงานตรงนี้มาใช้น่ะหยุดเลยนะ! เดี๋ยวทำลายพวกหลอดทดลองเสร็จเมื่อไหร่ค่อยหาวิธีส่งพลังงานคืนกลับ..."

         ผมพูดค้างไว้แค่นี้แล้วจำต้องเงียบลง  เพราะอีกฟากหนึ่งของห้องทดลองแห่งนี้  ท่ามกลางความมืดนั่นปรากฏประกายแสงสว่างวาบขึ้นมาเพียงชั่วครู่  แม้ว่าช่วงเวลาจะไม่ถึงหนึ่งวินาทีเลยด้วยซ้ำ  หากแต่แสงสว่างวาบก็ดับวูบลง  พร้อมกันกับที่คมกระบี่พุ่งเข้าเสียบคอหอยของผมในชั่วพริบตา!

         "ไอ้หนู!!!"

         "อึ่ก! ไม่เป็นไร... ไม่เป็นไร..."

         ผมกระโดดถอยหลังเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้  เลือดสด ๆ ไหลอาบลำคออย่างน่ากลัวด้วยอันตรายเมื่อครู่  เย่อจื่อพลันพุ่งเข้าประชิดอีกครั้งแล้วแทงคมกระบี่เข้ามาทางหน้าอก  เล็งไปที่ตำแหน่งหัวใจอย่างแม่นยำ  เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่หมายเอาชีวิตโดยไม่คิดลังเลเลยสักนิด

         "หนอยแน่ะ!" 

         พลังปราณขั้นสีแดงเปล่งประกายที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง  ผมซัดมันเข้าหากลางช่วงท้องของอีกฝ่ายอย่างไม่ลังเลเช่นกัน  หากแต่คราวนี้กลับไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ เจ้านี่ได้เพราะลมปราณวชิระไร้เทียมทานปกป้องเอาไว้  มิหนำซ้ำยังจำสังเกตได้ถึงแหล่งพลังงานอีกอย่างในร่างของมันด้วย

         "วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้วจอมมาร!"

         หลิวเย่อจื่อหันหลังแทงกระบี่สวนทิศมาในลักษณะที่ยากแก่การรับมือ  นี่คือหนึ่งในเพลงกระบี่ลับที่หาชมได้ยาก  สำคัญกว่านั้นยังรับมือได้ยากอีกด้วยเพราะแฝงมาด้วยเซฟิราฟ เอเนอจี้อันร้ายกาจนัก  ผมเกร็งพลังเต็มที่พร้อมรับมือ  ทว่าปลายกระบี่กลับพุ่งตรงไปทางอื่นไม่ได้มาทางนี้  และมันเล็งจู่โจมไปที่น้องหมาเสียด้วย!

         "เฮ้ย!!!"

         ด้วยความตกใจ  ผมรีบพุ่งตัวเข้ารับการโจมตีแทนเส้าเทียนอิ้งและได้แผลที่บริเวณหัวไหล่เป็นการตอบแทน  ด้วยการนี้เลยต้องหิ้วตัวน้องหมามาใส่ไว้ในเสื้อตามเดิมไม่ให้เสี่ยงอันตรายไปมากกว่านี้

         "หลิวเย่อจื่อ! ข้าหลงคิดไปว่าเจ้าเป็นจอมยุทธหนุ่มฝ่ายคุณธรรมน้ำดี  ไม่ได้เป็นพวกมือถือสากปากถือศีลเหมือนคนอื่น ๆ แต่ดูเหมือนว่าข้าจะคิดผิดไปนะ!"

         "ฮึ เจ้าอยากจะพูดอะไรก็เชิญ! แต่ตอนนี้ภารกิจของข้าคือปราบมารต้านการรุกรานของพวกต่างดาว  ละเว้นไม่ได้แม้แต่ฝ่ายเดียว!"      

         แต่เดิมวิชาวชิระไร้เทียมทานของเย่อจื่อก็มีจุดเด่นที่ความรวดเร็วและแม่นยำอยู่แล้ว  ยิ่งผนวกกับพลังวัตรที่เพิ่มพูนขึ้นจากเซฟิราฟ เอเนอจี้ยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวของมันมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นเสียแล้ว  ต้องอาศัยสัญชาตญาณในการคาดเดาล่วงหน้าสองถึงสามขั้น  อีกทั้งพละกำลังที่มากขึ้นยังทำให้เพลงกระบี่ของมันตัดได้ทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้ากันเลยทีเดียว

         "แกลองมองรอบตัวให้ดีสิ! นี่น่ะเหรอคือสิ่งที่คนดีมีคุณธรรมเขาทำกันน่ะหา!"

         ผมตะคอกใส่อีกฝ่ายด้วยความโกรธ  ถ้าเป้าหมายของเย่อจื่อคือการกำจัดมารจริงล่ะก็  อันดับแรกเลยที่ต้องกำจัดก็คือไอ้พวกที่มาจากนอกโลกโน่น  เพราะมันคือตัวการในความชิบหายของผู้คนที่นี่ไม่ใช่เทียนซาน!  นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?  ทีแรกก็เกาฟานเฉียงแล้วตอนนี้ยังลามมาถึงหลิวเย่อจื่อด้วย  ไอ้พลังเซฟิราฟ เอเนอจี้นี่มันวิเศษวิโสขนาดที่ต้องทิ้งความเป็นคนกันเลยหรือ?


    @@@@@@@@@@@@


         "โฮ่! เป็นตัวหมากที่น่าสนใจดีนะ?"

         อลิซาเบธกล่าวกับข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์เมื่อได้เห็นสถานการณ์ในปัจจุบันผ่านทางหน้าจอสามมิติ  ทีแรกนางคิดว่าจะปล่อยให้เจ้าหนูนั่นอาละวาดพังข้าวของแล้วลอบสูบพลังมาใช้เสียอีก  ไม่นึกเลยว่าจะมีตัวประกอบอดทนวิ่งเข้าฉากคั่นเวลาเช่นนี้ด้วย

         "น่าสนใจดีใช่ไหมล่ะขอรับ หึหึ..."

         แม็กเกรเกอร์นั่งประสานมือมองหน้าจออย่างสบายอารมณ์เช่นกัน  จะมีความสุขใดเล่าเทียบเท่ากับการนั่งชมเกมการต่อสู้ห่ำหั่นระหว่างพวกเดียวกันโดยมีตนเองเป็นเหมือนโปรโมเตอร์คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเยี่ยงนี้อีก  แถมตอนนี้เขายังเดินเครื่องมือลับที่ติดตั้งอยู่ตามมุมห้องเพื่อเก็บเกี่ยวพลังงานที่รั่วไหลออกมาจากร่างของทั้งสองไว้อีกด้วย  เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว

         "ว่าแต่เจ้าหนุ่มนี่คงไม่กระทบกับแผนการนั้นหรอกนะ?"

         "ไม่แน่นอนขอรับองค์ราชินี!"

         ข้าหลวงใหญ่นั่งอมยิ้ม  กะอีแค่เด็กหนุ่มไร้ค่าปลายแถวคนสองคนบนดาวเคราะห์หลังเขาเช่นนี้จะมีปัญญาทำอะไรได้?  เพราะถึงยังไง เครื่องจักรอมตะ  แผนการสุดท้ายบนดาวดวงนี้ก็กำลังดำเนินเข้าสู่เฟสสุดท้ายแล้ว  และพร้อมจะเดินเครื่องได้ทุกเมื่อตามความประสงค์อันทะเยอทะยานขององค์ราชินีอลิซาเบธ...



    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×