ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เทพเซียนเกรียนยุทธภพ!

    ลำดับตอนที่ #100 : หมาป่าหนุ่มผู้ทะเยอทะยาน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 221
      9
      19 ก.พ. 62


         วิชาเทพวชิระไร้เทียมทานเป็นหนึ่งในวิชาเอกของหลิวเย่อจื่อซึ่งรับสืบทอดมาจากผู้บิดาที่สั่งสอนวรยุทธแห่งสำนักหมาป่าเงิน  ผนวกกับแนวคิดใหม่ ๆ และการคิดค้นกระบวนท่าเพิ่มเติมจนสำเร็จเป็นหนึ่งในสุดยอดวิชาที่ได้รับการนับถือจากทั่วสารทิศ  แม้ว่าเจ้าตัวจะยังอายุน้อยหากแต่พรสวรรค์นั้นช่างล้ำเลิศยากหาใครเทียม  นี่ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของผู้เป็นพ่อและเจ้าสำนักคนปัจจุบันยิ่ง

         "ไหนลองแสดงวิชาของเจ้าให้ข้าดูหน่อยสิ..."

         เย่อจื่อทำตามบิดาสั่งอย่างว่าง่าย  พลังปราณสายฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วตัวราวกับตอนนี้เขาได้กลายร่างเป็นจ้าวหมาป่าผู้หยิ่งทรนง  และไม่เพียงเท่านั้น  จากผลพวงของเซฟิราฟ เอเนอจี้ยังเสริมเพิ่มพูนพลังวัตรจนหลังคาส่วนหนึ่งของเรือนชานทนแรงอัดไม่ไหวแตกกระเด็นเป็นเสี่ยง ๆ ปล่อยให้สายฝนสาดซัดเข้ามาในห้อง

         "ยอดเยี่ยม! ยอดเยี่ยม!"

         หลิวเสียะหัวยิ้มและกล่าวชมลูกชายอย่างไม่ปิดบัง  แต่ที่เก็บซ่อนไว้คือความคับข้องขุ่นใจเกี่ยวกับพลังลึกลับอันไม่รู้ที่มา  ซึ่งบุตรของตนเรียกมันว่าเซฟิราฟ เอเนอจี้  แม้ว่าจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของลมปราณและวัตรสะสมก็จริง  หากสิ่งนี้ยังห่างไกลจากปณิธานของผู้ก่อตั้งสำนัก  ไม่รวมที่ว่ามันคือพลังที่ศัตรูหยิบยื่นมาให้ราวกับโปรยเศษทานแก่หมาข้างถนนยังไงยังงั้น  ยิ่งคิดยิ่งปวดใจยิ่งนัก  แต่ด้วยความเกรงใจในตัวลูก  เจ้าสำนักจึงมิกล่าวอะไรออกมา

         "ด้วยวิชานี้เราคงเอาชนะพวกเทียนซานได้ไม่ยากนัก  หากแต่..."

         เย่อจื่อเองก็รู้สึกหนักใจไม่แพ้บิดาเช่นกัน  เพราะนี่มันเหมือนยืมจมูกคนอื่นหายใจ  หาใช่ฝีมือความสามารถของตนไม่  เช่นนี้แล้วยามที่ล้มพวกมารลงได้ชาวบ้านจะไม่ครหาเอาหรือ?  แล้วยังพวกที่มาจากนอกโลกนั่นอีก  จุดประสงค์ที่แท้จริงยังไม่ปรากฏ  เป้าหมายยังไม่ชัดเจน  ที่แน่ ๆ คือพวกมันร้ายกาจเกินกว่าเทียนซานไปไกลโข  หรือเขาควรจะร่วมมือกันกับพรรคอื่นกำจัดพวกนั้นเสียก่อนดีนะ?  

         "แย่แล้วครับเจ้าสำนัก! มีข่าวด่วนแจ้งเข้ามาว่าเจ้าสำนักพยัคฆ์แดงเสียชีวิตลงด้วยน้ำมือของจอมมารแล้วขอรับ!!!"

         ลูกศิษย์พรรคคนหนึ่งวิ่งหน้าตาตื่นเปิดประตูเข้ามาโดยไม่เคาะ  เนื้อตัวเปียกปอนชุ่มช่ำด้วยน้ำฝนที่วิ่งฝ่ามาตลอดทาง  เมื่อครู่สายข่าวรายงานเข้ามาว่าเกิดศึกปะทะกันระหว่างพรรคมังกรทองและพวกเทียนซาน  หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวร้ายคือเกาฟานเฉียงจบชีวิตลงโดยถูกเส้าเทียนอิ้งหักคออย่างน่าอนาถ  

         "เจ้าว่าไงนะ! แล้วพวกมังกรทองคนอื่น ๆ ล่ะ?"

         "เห็นว่าจางหยูซู่กับเจ้าสำนักจางเหอลู่ได้รับบาดเจ็บสาหัส  ส่วนคนอื่น ๆ ก็กำลังวุ่นวายกับพวกเทียนซานกันอยู่  เห็นว่าน่าจะยอมจำนนเข้าพวกกับพรรคมารเรียบร้อยแล้วครับ!"

         พ่อลูกต่างมองหน้ากันโดยไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมา  รับรู้ได้ว่านี่เป็นเหตุการณ์วิกฤตอย่างแท้จริง  จอมมารมิได้ลงมือฆ่าผู้ใดมานานแล้วก็จริง  หากลงมือก็กระทำด้วยความโหดเหี้ยมและชั่วช้าสามานย์ยิ่งนัก

         "พวกเรารีบไปที่สำนักมังกรทองกันเถอะครับ!"

         เย่อจื่อกล่าวด้วยอารมณ์หงุดหงิด  แม้ว่าเขาจะไม่พอใจการกระทำของเกาฟานเฉียงเมื่อครั้งศึกประลองเจ้ายุทธภพ  แต่อย่างไรเสียมันก็เป็นถึงหนึ่งในห้าเสาหลักแห่งยุทธภพ  การตายเช่นนี้นับว่าเป็นการตบหน้าฝ่ายธรรมะแบบเต็ม ๆ จะปล่อยพวกมันเอาไว้ไม่ได้เด็ดขาด!     

         "ช้าก่อน! เราต้องเฝ้าระวังสำนักอื่น ๆ ไว้ด้วย  บางทีเป้าหมายของพวกมันอาจจะเป็นการฉวยโอกาสความวุ่นวายในขณะนี้ล้มล้างฝ่ายธรรมะให้สิ้นก็ได้!"

         หลิวเสียะหัวออกคำสั่งให้ศิษย์พรรคคนอื่น ๆ ออกไปเฝ้าดูสำนักที่เป็นพันธมิตรกันในทันที  และตามหาลูกสาวของตนกลับมาที่นี่โดยด่วนที่สุด  ส่วนหลิวเย่อจื่อนั้นให้คอยระวังอยู่ทางนี้อย่าให้พวกเทียนซานบุกเข้ามาได้  และตนกับลูกศิษย์อีกจำนวนหนึ่งจะเดินทางไปที่สำนักมังกรทองเอง  ลูกชายรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก 

         "ระวังตัวด้วยล่ะเย่อจื่อ..."

         เจ้าสำนักหมาป่าเงินกล่าวก่อนจะผลุนผลันออกไป  อันที่จริงเขารู้ดีว่าเทียนซานนั้นเพิ่งจะโดนศัตรูถล่มมาเมื่อไม่นานนี้ย่อมไม่มีกำลังมากพอจะบุกทำลายสำนักใหญ่อื่น ๆ ได้แน่  ดังนั้นอาจจะมีเหตุผลอื่นแอบแฝงในความตายครั้งนี้ของเกาฟานเฉียง  ซึ่งสิ่งที่ผู้เป็นพ่อพึงกระทำก็คือพยายามกีดกันลูกชายลูกสาวจากอันตรายที่ยังไม่รู้สาเหตุนี้  การปล่อยให้เย่อจื่อเดินทางไปยังสำนักมังกรทองในค่ำคืนนี้มันเสี่ยงเกินไป  ครั้นจะนิ่งดูดายปล่อยให้สหายเก่าอย่างเหอลู่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรูตามลำพังก็ไม่ใช่วิสัยอีก  ตนจึงอาสาเข้ารับมือกับวิกฤตครั้งนี้ด้วยตนเองดีกว่า...


    @@@@@@@@@@@@


         "ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้วสินะ?"

         แมคเกรเกอร์กล่าวกับอลิซาเบธในระหว่างที่เช็คข้อมูลบนหน้าจอแสดงผล  ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งให้โดรนขนาดเล็กบุกเข้าโจมตีสำนักมังกรทองตามที่ได้ตกลงกันไว้กับเกาฟานเฉียงล่วงหน้าแล้ว  แต่นั่นไม่ใช่ทำไปเพื่อสนับสนุนการลอบโจมตีของมัน  แต่ทำไปเพื่อให้อีกฝ่ายทำลายโดรนเหล่านั้น  ทิ้งเครื่องสร้างภาพโฮโลแกรมสามมิติขนาดจิ๋วที่แอบซ่อนไว้ข้างใน  แล้วสั่งให้เครื่องเหล่านั้นประมวลผลและส่งภาพการจ่อสู้มาให้ทางนี้ได้รับชมต่างหาก  แน่นอนว่าทั้งสองได้ดูไปจนกระทั่งเส้าเทียนอิ้งลงมือสังหารเกาฟานเฉียงกันเลยทีเดียว

         "หึหึ... สำหร้บฉันนี่ก็ไม่ต่างจากละครสัตว์ไร้สาระทั่วไป  แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว  จะลองเล่นประเด็นการตายของไอ้สวะนั่นกับประชาชนทั่วไปไหมล่ะ?"

         อลิซาเบธหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ  นโยบายของสหราชอาณาจักรนับแต่อดีตมาคือการแบ่งแยกแล้วปกครอง  เมื่อเริ่มรุกรานดินแดนใหม่ก็จะชูประเด็นสร้างความแตกแยกแตกต่างของผู้คนที่นั่น  ให้ไม่สามารถร่วมแรงร่วมใจกันต่อต้านศัตรูได้  มิหนำซ้ำยังสนับสนุนให้พวกตนเองมีอำนาจบาตรใหญ่  ปกครองผู้คนโดยการฝังรากแห่งความขัดแย้งให้รุนแรงยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

         "แล้วแต่ท่านจะบัญชาครับองค์หญิง..."

         ข้าหลวงใหญ่แห่งสหราชอาณาจักรแสยะยิ้ม  ถึงอย่างไรดินแดนต้าหลงแห่งนี้ก็จบสิ้นแล้ว  นั่นเพราะในใจของผู้คนต่างเต็มไปด้วยความแตกแยกชิงชัง  ความรังเกียจพวกมารที่ฝังรากลึกมาช้านานจะเป็นตัวทำลายพวกมันทั้งหมด  ช่างน่าขำเสียเหลือเกินที่จนป่านนี้แล้วไอ้เหล่าธรรมะหน้าโง่ทั้งหลายยังมิระแคะระคายความจริงอันน่าสะพรึงกลัวนี้เลยสักนิด  ที่เหลือก็ปล่อยให้พวกมันฟาดฟันกันเองจนดับดิ้นแล้วรอตักตวงผลประโยชน์บนผืนดินแห่งนี้ก็พอแล้ว...


    จบตอน


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×