ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตาแก่ปริศนา
หลังจากที่หนีการไล่ตามของจอมมารวัยกระเต๊าะมาได้ ตาแก่ขี้เมาก็อุตริปีนขึ้นไปนั่งบนยอดหลังคาตึกของโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งไม่ไกลจากตลาดนัก และเริ่มร่ำสุราแต่หัววันจนเมาแอ๋นั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปตามประสา กระทั่งปรากฏบุรุษลึกลับผู้หนึ่งที่เดินทางข้ามมิติเวลามาโผล่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบเชียบราวกับวิญญาณ ชายผู้นี้แต่งตัวด้วยชุดสูทสีขาวปราณีตตามสไตล์ตะวันตก สีหน้าแววตาบ่งบอกความไม่พอใจอย่างชัดเจน
"ไอ้แก่หน้าโง่ ข้าย้ำแล้วใช่ไหมว่าให้จัดการกับเส้าเทียนอิ้งและทำลายพิธีโง่ ๆ ของมันอย่าให้ปรากฏออกมารบกวนสายตาข้าคนนี้อีก!"
ตาแก่เพียงแค่แหล่สายตามองชายผู้นั้น ก่อนจะตอบว่า
"เจ้าบอกให้ข้าทำลายพิธี ซึ่งข้าก็ได้ลงมือทำไปแล้ว ตอนนี้จอมมารกลายเป็นหมาน้อยน่ารักไร้ซึ่งพิษสงแล้วเจ้ายังต้องการสิ่งใดอีก?"
"ลงมือ? ถ้าเจ้าหมายถึงไอ้วิธีโง่ ๆ อย่างเบี่ยงเบนวิญญาณจากร่างหนึ่งไปสู่อีกร่างหนึ่ง เปลี่ยนคนให้กลายเป็นสัตว์ เปลี่ยนสัตว์กลายเป็นคน ข้าว่าเจ้าทิ้งสมญา มัจจุราชอเวจี ไปเสียดีกว่า!"
ชายผู้นั้นรู้ดีว่ามัจจุราชมีความร้ายกาจลึกล้ำกว่านี้มาก และการเล่นสนุกเช่นนี้ก็ไม่อยู่ในวิสัยของกลุ่ม The Eliminator ด้วย หากว่าจะหาเหตุผลของการกระทำเช่นนี้ล่ะก็...
"เจ้าอยากจะท้าทายพวกข้าสินะ! เจ้ากล้าท้าทายกับ โครนอส งั้นหรือ?"
ตาแก่หัวเราะลั่น มันกระดกเหล้าเข้าปากอีกอึกโดยไม่สนใจท่าทีขัดเคืองของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะนอนเท้าสะเอวแล้วบอกกับชายในชุดสูทว่า
"แล้วอย่างเจ้ามีปัญญาทำอะไรได้เล่า? หรือจะสู้กันตัวต่อตัวกับข้าที่นี่ตอนนี้เลยดีไหม!"
เพียงแค่มัจจุราชหยั่งเชิง บรรยากาศรอบข้างก็เปลี่ยนไปในทันที จากผืนฟ้าอันปลอดโปร่งปราศจากหมู่เมฆยามเที่ยงวัน กลับแปรเปลี่ยนเป็นค่ำคืนอันหนาวเหน็บท่ามกลางพายุหิมะอันเกรี้ยวกราด ชายในชุดสูทพยายามยันร่างกายต่อสู้กับลมพายุกระหน่ำเสียจนเนื้อตัวสั่นไปหมด ทั้งหมดนี้มีเพียงสองคนบนหลังคาเท่านั้นที่รับรู้ถึงบรรยากาศมรณะนี้ ส่วนชาวบ้านร้านตลาดที่ด้านล่างไม่ได้รู้สึกรู้สาอันใดด้วย ยังคงใช้ชีวิตตามปกติต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
"หึ! ผยองเข้าไปเถอะ... ไว้รอห้วงเวลาที่โครนอสจะย้อนกลับมายังโลกแห่งนี้แล้วแกจะได้ลิ้มรสความสิ้นหวังแน่ ๆ"
ชายในชุดสูทเลือกจะถอยหนี เขาเปิดหลุมมิติขนาดเล็กและย่อตัวลงไปในนั้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่หลุมดำจะปิดและอันตรธานหายไปอย่างรวดเร็วไร้ร่องรอยใด ๆ ให้สังเกตเห็น ตาแก่ตะโกนไล่หลังไปว่า
"เออ! รีบ ๆ กลับไปยังมิติคาออสของพวกแกแล้วไม่ต้องโผล่หน้ามาให้ข้าเห็นอีกนะ! เอะอะก็ใช้งาน ๆ พอไม่ได้ดังใจก็พาลข้าอีก!"
@@@@@@@@@@
"เจ้าสืบจนแน่ชัดแล้วใช่หรือไม่?"
น้องหมาเทียนอิ้งสอบถามสินหุ่ยคนสนิทด้วยสีหน้าเคร่งเครียด (แบบหมา ๆ) เพราะการรวมพลบุกพรรคมารของพวกขี้กะโล้ธรรมะนั้นไม่ได้เกิดขึ้นนานมากแล้ว นับตั้งแต่เทียบร่างเชิญวิญญาณเมื่อสองครั้งก่อนด้วยซ้ำ คราวนี้พวกมันคงคิดตื้น ๆ ว่าตนซึ่งเพิ่งย้ายร่างมาใหม่ ๆ คงจะอ่อนแอจนไม่สามารถรับมือกับพวกห้าสำนักได้สิท่า? อันที่จริงก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือเจ้าของร่างในปัจจุบันดันเป็นไอ้เด็กหน้าโง่จากยุคอื่นที่ดันเหาะมาแย่งชิงทุกอย่างไปจากตนหน้าตาเฉยเสียนี่
"สินหุ่ย เจ้าจงไปรวบรวมกำลังพลทั้งหมดของเทียนซานมาที่นี่โดยด่วน แล้วเจ้าเด็กนรกนั่นไปไหนเสียแล้ว?"
"ชั้นชื่อโชคดีเฟ้ย ไม่ได้ชื่อเด็กนรกเรียกให้มันถูก ๆ หน่อย!"
เจ้าเด็กอวดดีในร่างจอมมารเดินอาด ๆ เข้ามาถึงในห้องโถงแต่น้องหมาทำเป็นหูทวนลม เลยเกิดปากเสียงกันเล็กน้อย และก่อนที่เหตุการณ์จะบานปลายไปกว่านั้นสินหุ่ยจึงรีบเชิญบรรดาพลพรรคมารทั้งหลายให้มารวมตัวกันเพื่อแจ้งเหตุฉุกเฉิน
"เจ้าพวกธรรมะหน้าโง่! อยากบุกมาก็ดีข้าจะได้เชือดแล้วถลกหนังมันมาแขวนไว้ที่หน้าประตูทางเข้าสำนักเสียเลย!"
อสูรแปดหน้า หนึ่งในบริวารของจอมมารกล่าวคำผรุสวาท บรรดาพวกพ้องที่เหลือต่างเห็นดีเห็นงามด้วย ทว่าเส้าเทียนอิ้งไม่คิดเช่นนั้น เพราะถ้าดูตามลำดับขั้นฝีมือแล้วพวกลูกน้องของตนคงเทียบเคียงกับระดับลูกศิษย์ตัวเด่น ๆ ของแต่ละพรรคใหญ่แบบไม่เป็นรอง แต่กับระดับเจ้าสำนักคงไม่มีหวังเทียบชั้นได้
"เอ่อ... คือผมมีคำถามฮะ ก็ในเมื่อเจ้าสำนักที่ว่าเนี่ยกลายเป็นน้องหมาน่ารักยังงี้ แล้วจะให้ไปสู้กับพวกนั้นกันล่ะ?"
โชคดีผ่ากลางปล้องขึ้นมาด้วยความสงสัย บรรดาลูกสมุนต่างจ้องถมึงทึงไปที่เขาพร้อมกับบอกว่ากะอีแค่พวกธรรมะหน้าหมูนี่ไม่ต้องถึงมือท่านจอมมารหรอก แค่พวกมันรวมพลังกันก็จัดการได้หมดแล้ว
"หึหึ... ถึงเวลาจริงข้าคงต้องให้เจ้าออกโรงด้วยแล้วกระมังเจ้าหนู! ไหน ๆ ก็อาศัยอยู่ในสำนักของข้าแห่งนี้เพราะฉะนั้นจงทำตัวให้มีประโยชน์ด้วย!"
"เฮ้ย ๆ ผมสู้รบปรบมือเป็นกับเขาที่ไหนกันเล่า?"
เด็กหนุ่มโวย แต่น้องหมาจอมมารกลับมองว่าเจ้านี่ดูมีแววกว่าที่เห็น แม้จะแก่แดดแก่ลมสักหน่อยแต่พลังที่เคยใช้จัดการกับสินหุ่ยและจอมยุทธเจ็ดย่อมเป็นวิชาขั้นต้นของมารประสานจิต เทพประสานใจอย่างแน่นอน ฉะนั้นงานนี้แค่ควบคุมเจ้าเด็กน้อยนี่ให้สู้ไปตามบทละครของตนก็เพียงพอแล้ว
"แต่ตอนนี้ข้าคิดว่ามีเรื่องที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นเสียอีก ก็เรื่องสถานที่ ๆ เจ้าจากมาไงเล่า!"
เส้าเทียนอิ้งสะกิดใจในเรื่องที่เด็กน้อยคนนี้เล่ามาตั้งแต่วันก่อน ไหนจะเรื่องสำนักงานจัดการวิญญาณผู้ล่วงลับ ไหนจะอำนาจพิเศษในการส่งดวงวิญญาณคนไปยังดินแดนต่าง ๆ โดยไม่เกี่ยงมิติภพชาติ หากว่าทั้งหมดนี่เป็นเรื่องจริง ก็เท่ากับว่าในโลกนี้ยังมีภูมิความรู้และวิชาที่เหนือล้ำยิ่งกว่าวิชาเซียนที่มันเคยร่ำเรียนมาเสียอีก จอมมารจึงยอมให้ไอ้เด็กปากดีนี่อยู่ร่วมชายคาพรรคมารไปอีกสักระยะเพื่อรีดเค้นข้อมูลและเบาะแสสำคัญให้มากกว่านี้ แน่นอนว่าก็เพื่อค้นหาวิธีฉกฉวยพลังนั้นมาอยู่ในกำมือของตนนั่นเอง...
จบตอน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น