ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The Extraodinary Advanture of CATWATER! การผจญภัยของแมวน้ำคุง
*** นี่เป็นเรื่องสั้นที่แต่งเพื่อส่งงานประกวดภายในกลุ่มไลน์นักเขียนประจำปี 2018 ครับผม โดยมีกติกาพิเศษว่าต้องมีคีย์เวิร์ดคือสามคำนี้รวมอยู่ในเรื่องด้วย (แมวน้ำผู้โดดเดี่ยว , โลกันตร์อนธกาล , ตราบนิจนิรันดร) ***
@@@@@@@@@@@@
"เจ้าจะกลายเป็นแมวน้ำ!"
แม่เฒ่าอายุเฉียดร้อยกล่าวอย่างมั่นใจ รอยยิ้มของแกคล้ายมีเลศนัยแฝงไว้ ทำเอาผมกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น ก่อนจะสวนกลับไปว่า
"แต่เมื่อกี้ผมถามเรื่องหน้าที่การงานกับความรักนะครับ?"
"เจ้าจะกลายเป็นแมวน้ำ! แมวน้ำผู้โดดเดี่ยวและเดียวดาย ฮ่า ๆ"
เจอแบบนี้ผมต้องวิ่งกลับออกมาดูป้ายหน้าร้านในทันที เอ... มันก็ระบุไว้ชัดเจนว่า ร้านหมอดู ยายปริก รับทำนายทายทักโชคชะตาทั่วราชอาณาจักร นี่หว่า? ไม่ใช่โรงพยาบาลบ้าแน่ ๆ แต่ทำไมยายปริกที่ว่าถึงเพี้ยนขนาดนี้ ไม่เห็นเหมือนเสียงเล่าลือในความแม่นยำของคำทำนายเลยนี่นา เอ๊ะ! หรือว่าจะผิดฝาผิดตัวกันล่ะเนี่ย...
"เอ่อ ขอโทษนะครับ ไม่แน่ใจว่าคุณคือยายปริก..."
"แมวน้ำ! แมวน้ำ! อุ๋ง ๆ"
เท่านั้นแหละผมสะบัดตูดกู๊ดบายยายปริกในบัดดล ขืนอยู่นานกว่านี้เดี๋ยวได้ติดเชื้อบ้ากันพอดี มีอย่างที่ไหนถามเรื่องความรักดันบอกแมวน้ำ นี่ถ้าถามหวยงวดหน้าสงสัยจะได้กาน้ำชามาแทน ผมก้าวขึ้นรถเก๋งบุโรทั่งสมบัติเก่าจากเตี่ย แล่นตะบึงออกมาจากร้านหมอดูในทันที แต่ขับมาได้สักพักก็เกิดความผิดปกติบางอย่างขึ้นที่กระจกมองหลัง เมื่อยายปริกไล่ตามผมมา! เอิ่มม... ผมขยี้ตามองกระจกหลังให้ชัดอีกครั้งเพื่อยืนยันว่า บนรถตู้สีดำคันนั้น ย้ำ! ว่าบนรถตู้คันนั้นมียายปริกนั่งกอดอกแสยะยิ้มอยู่ ไม่ใช่ในที่นั่งคนขับหรือข้างคนขับแต่เป็นบนหลังคารถเลย คือคุณมึงจะมีที่นั่งผู้โดยสารไว้ภายในรถทำไมถ้าผู้โดยสารไม่คิดจะนั่งข้างใน แล้วนี่มันบนทางยกระดับนะเฮ้ย! ไม่กลัวตายเลยรึยังไงอีบ้า
"แมวน้ำอุ๋ง ๆ ฮ่า ๆ"
ผมพยายามเร่งความเร็วเท่าที่สังขารของยานพาหนะจะทำได้ แต่นั่นไม่ได้ช่วยให้รอดพ้นจากการตามล่าของหมอดูโรคจิตรายนี้ได้เลย รถตู้ของยายปริกที่ทันสมัยกว่าเปิดประตูด้านข้างออก เผยให้เห็นปืนกลแกตเตอริ่งรุ่นล่าสุดเกรดกองทัพซึ่งซ่อนไว้ภายในถึงสองกระบอก นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แล้วนะโว้ย หมอดูประเทศนี้มันมีอิทธิพลขนาดถือครองอาวุธสงครามได้แล้วเหรอวะเนี่ย!
"แกหนีไม่รอดแล้วเจ้าแมวน้ำ! ฮี้ฮี่ฮี่!!!"
ยายปริกหัวเราะลั่นก่อนจะระดมยิงปืนกลเข้าใส่รถของผมจนพรุนไปทั้งคัน ชั่วพริบตานั้นผมมองเห็นภาพทุกอย่างเคลื่อนไหวแบบสโลว์โมชั่นเหมือนอยู่ในภาพยนตร์ก็ไม่ปาน ทั้งกระสุนที่พุ่งเฉียดศีรษะไป ทั้งเศษกระจกแตกที่ปลิวว่อนทุกทิศทาง กระทั่งรถเสียหลักพลิกคว่ำกลิ้งหลายตลบ กระนั้นหลวงพ่อที่ห้อยคอเอาไว้ก็ยังเมตตาช่วยคุ้มภัยให้ไม่ถึงฆาต ผมคลานออกมาจากใต้ท้องรถอย่างยากเย็นพร้อมบาดแผลเต็มตัว จังหวะนั้นเองที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการก็บินโฉบลงมาบนทางด่วนพร้อมกับประกาศเสียงดังว่า
"นี่คือหน่วยรักษาความมั่นคงภายในประเทศ รถยนต์คันนั้นจงหยุดเดี๋ยวนี้! ย้ำ! รถยนต์คันนั้นจงหยุดเดี๋ยวนี้!!!"
ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่มอเตอร์ไซค์ของตำรวจทางหลวง ตลอดจนรถหุ้มเกราะของหน่วยสวาทก็แล่นเข้ามาปิดล้อมรถตู้สีดำเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้ โอ้โหนี่ผมฝันไปหรือเปล่าทำไมเจ้าหน้าที่รัฐถึงดำเนินการอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ปกติต้องมาหลังจากเขาจบเรื่องกันแล้วมิใช่รึ?
"โฮะ ๆ เจ้าพวกสุนัขรับใช้รัฐบาล คิดว่าน้ำหน้าอย่างพวกแกจะทำอะไรยายปริกคนนี้ได้งั้นรึ?"
ยายแก่เหนียงยานนอกจากจะไม่สลดแล้วยังมีหน้าต่อปากต่อคำกับเจ้าหน้าที่รัฐอีก ดูท่าว่าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาเสียแล้ว ผมนี่นอนเชียร์ให้พวกหน่วยสวาทเล่นงานหมอดูโรคจิตจนหลาบจำไปเลย แต่ที่ไหนได้เหนือฟ้ายังมีฟ้า เมื่อยายปริกคนนี้ไม่ใช่แค่คนบ้าธรรมดา เพราะมันคือคนบ้าที่มีพลังอำนาจมหาศาลเหลือเกิน เมื่อจู่ ๆ จรวดต่อต้านอากาศยานที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็พุ่งตรงเข้าใส่เฮลิคอปเตอร์อย่างจนจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น ไม่เพียงแค่นั้นหมอดูตัวแสบยังฉวยโอกาสนี้สาดกระสุนเข้าใส่พวกหน่วยสวาทจนทุกคนต้องถอยร่นออกมาหลบหลังรถหุ้มเกราะแทบไม่ทัน
"ไม่ได้การแล้ว ขอกำลังเสริมด่วน!"
"ฮ่า ๆ ว่ายังไงล่ะเจ้าพวกสุนัขรับใช้!!!"
นี่มันคืออะไรกันแน่... เช้านี้ผมขับรถออกมาด้วยความตั้งใจว่าจะมาดูลายมือทำนายทายทักโชคลาภและความรักเท่านั้นเองนะ ไม่ได้อยากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานของสงครามกลางเมืองแบบนี้สักหน่อย! แล้วนี่นอกจากจะมีเฮลิคอปเตอร์ รถตู้ติดปืนกล รถหุ้มเกราะ ล่าสุดยังมีรถถังแล่นตะบึงขึ้นมาบนทางด่วนอีกแน่ะ แถมยังมาจากฝั่งยายปริกอีกด้วย
"เอานี่ไปกิน!"
กระสุนปืนใหญ่ตรงเข้าเล่นงานรถหุ้มเกราะจนแหลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นตกจากบนสะพานลงไปเบื้องล่าง ด้านฝ่ายรักษาความมั่นคงก็ไม่น้อยหน้าเพราะตอนนี้กำลังเสริมตามมาแล้ว โดยมีทั้งเฮลิคอปเตอร์จู่โจม รถลำเลียงพลหุ้มเกราะและรถถังอีกจำนวนหนึ่งขึ้นมางัดข้อกันกลางทางด่วนราวกับเป็นภาพยนตร์แอคชั่นของฝรั่ง และแน่นอนว่าผมไม่อยู่รอให้พวกนี้ปะทะกันหรอกนะ หลังจากฉวยโอกาสฉกกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจทางหลวงมาได้ ผมก็สตาร์ทรถแล้วหันหัววิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุในทันที ซิ่งออกนอกรัศมีทำลายล้างของอาวุธสงครามพวกนี้ไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่หันกลับไปมองฉากนองเลือดที่เบื้องหลัง
"วู้วววว! รอดแล้วโว้ยสะใจเป็นบ้า ฮ่า ๆ"
ผมหยุดรถเมื่อแล่นมาได้สักระยะ หันไปมองก็เห็นควันไฟและเสียงระเบิดอยู่ไกลลิบ ในที่สุดก็หนีรอดจากหายนะมาได้เสียที ผมถอนหายใจยาวด้วยความโล่งใจ คิดแต่ว่าตัวเองรอดแล้วจนไม่ทันระวังเรือดำน้ำที่จู่ ๆ ก็พุ่งทะยานจากผืนน้ำเบื้องล่างขึ้นมากระแทกคอสะพานจนพังถล่มลงในพริบตา!
"อะไรอีกวะเนี่ย!!!"
ผมนอนเจ็บร้องโอดโอยอยู่ใต้ซากสะพาน ดูท่าว่าขาข้างหนึ่งคงจะหักเสียแล้วหมดสิทธิ์ขยับหนีไปไหนได้ ไม่เพียงเท่านั้นยายปริกดันโผล่หน้ามาราวกับเป็นภูติผีวิญญาณตามติด แค่เห็นหน้าเท่านั้นความโกรธในตัวก็พุ่งพรวดขึ้นจนสุดจะทานทน
"ไอ้บ้า! มึงทำแบบนี้กับกูทำไมวะ! กูไปทำอะไรให้มึงรึไงไอ้ $#@W#$^#E$#@%!!!"
ผมแผดเสียงด่าไม่เป็นภาษา ในขณะที่แม่เฒ่าส่ายหน้าช้า ๆ ก่อนจะยื่นมือออกมาทางนี้แล้วกระซิบบอกข้างหูว่า
"ก็เอ็งยังไม่ได้จ่ายค่าดูหมอให้ข้าเลยนี่หว่าไอ้แมวน้ำ! อย่านึกว่าจะหนีรอดไปได้นะ ฮี่ฮี่"
เมื่อได้ยินเหตุผลของแม่เฒ่าความดันของผมก็พุ่งพรวดขึ้นมาอีกรอบ อีบ้า! เรื่องแค่นี้มึงบอกกันดี ๆ ก็ได้ จะขับรถไล่ยิงกันให้พังเป็นแถบ ๆ ทำหอกอะไรวะเนี่ย! แล้วสติของผมก็พลันขาดห้วงลงที่ตรงนั้นเอง...
@@@@@@@@@@@@
"อุ๋งง อุ๋งอุ๋งง...!"
(ท่านพี่! ท่านพี่ได้โปรดลืมตาด้วยเถิด!)
"อืออ..."
ผมค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก เพียงเพื่อจะพบว่ามีแมวน้ำตัวหนึ่งกำลังชะโงกหน้ามองมาทางนี้ด้วยดวงตาใสปิ๊งราวกับหญิงสาววัยแรกแย้ม ทีแรกผมคิดว่านี่คงจะเป็นความฝันแน่ ๆ ก็เลยหลับตาลง ก่อนจะลืมตาตื่นอีกครั้งและค้นพบว่าแมวน้ำตัวเดิมมันยังอยู่ไม่ไปไหน
"นี่มันอะไรกันเนี่ย!"
ผมสะดุ้งพรวดสุดตัวจนเจ้าแมวน้ำตัวนั้นตกใจถอยห่างออกไป แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลเท่าไรนัก เมื่อเทียบกับการที่ได้เห็นตัวเองกลายเป็นแมวน้ำตั้งแต่หัวจรดเท้าแบบนี้! ผมโดดลงจากเตียงแบบอุ้ยอ้ายและพยายามคลานไปรอบห้องด้วยความงุนงงงสุดขีด
"อุ๋งอ๋งอ๋งอ๋งงงง..."
(ท่านพี่! ท่านพี่เป็นอะไรไปคะ ทำไมถึงได้เดินวนเช่นนั้น?)
"เฮ้ยน่ารำคาญเว้ย! จะไปไหนก็ไป แต่เฮ้... เดี๋ยวก่อนนะ! แล้วทำไมตรูถึงเข้าใจภาษาแมวน้ำได้ล่ะเนี่ย!!!"
เจ้าแมวน้ำตัวเมียมองมาทางนี้ด้วยสายตาหวาดระแวงก่อนจะบอกว่ามันเห็นผมนอนหลับไม่ตื่นสักทีเลยมาปลุกด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้ตัวผมนั้นมีนัดประลองฝีมือครั้งสำคัญกับประมุขพรรคมาร
"เดี๋ยว ๆ เดี๋ยวก่อนนะ... การประลอง? ประลองอะไรแล้วประมุขพรรคมารที่ไหนอะไรยังไง? ตรูไม่เห็นรู้เรื่องเลย และที่สำคัญกว่านั้นทำไมถึงกลายเป็นแมวน้ำได้ล่ะเนี่ย!!!"
เจ้าจะกลายเป็นแมวน้ำ แมวน้ำอุ๋ง ๆ ฮ่า ๆ
ผมรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อนึกถึงคำพูดของยายปริก หรือว่านี่จะเป็นคำสาปของอีหมอดูเสียสตินั่น? อย่างไรก็ดีตอนนี้สิ่งสำคัญคือผมต้องหาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุด แล้วแจ้งตำรวจให้ไปจับไอ้หมอดูประสาทแดกคนนั้นด้วย ว่าแต่ทางโรงพักจะรับแจ้งความจากแมวน้ำมั้ยเนี่ย?
"อุ๋งอุ๋งง..."
(ท่านพี่จะไปไหนคะ ก็ที่นี่คือบ้านของท่านไงจำไม่ได้หรือ?)
เจ้าแมวน้ำตัวเดิมยังคงพันแข้งพันขาออดอ้อนไม่เลิกจนผมรำคาญจึงสะบัดท่อนแขน (หรือจะเรียกว่าขาหน้าดี?) เข้าให้ แม้เพียงเบา ๆ แต่มันก็แรงพอจะทำให้อีกฝ่ายกระเด็นทะลุประตูไม้ออกไปยังภายนอกในพริบตา ผมรีบคลานตามออกไปด้วยความตกใจ เพียงเพื่อจะพบว่าตอนนี้ผมได้มาอยู่ในสถานที่อันแปลกประหลาด ไม่เพียงแต่เรือนชานที่สร้างจากไม้และโต๊ะหินที่กลางลานเท่านั้น แต่ทุกสิ่งอย่างรอบตัวผมมันช่างราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์จีนกำลังภายในที่เคยดูสมัยเด็กยังไงยังงั้นเลยเชียว!
"นี่มันอะไรกัน..."
"อ็งงงอ๋งอ๋งอุ๋งง...!"
(ท่านพี่ได้โปรดสงบสติด้วยเถิด! อีกประเดี๋ยวคนจากพรรคมารก็จะมาถึงแล้วให้ข้าช่วยแต่งตัวให้ท่านก่อนนะ)
ในหัวของผมหมุนวนราวกับตกอยู่ในกระแสน้ำวนอันเชี่ยวกราก นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันทำไมผมถึงกลายเป็นแมวน้ำ และที่นี่มันที่ไหนตรูหลงมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกันแน่ ทุกคำถามล้วนแล้วแต่ไร้คำตอบ ผมจึงได้แต่ยืนนิ่ง ๆ ในระหว่างที่เจ้าแมวน้ำซึ่งอ้างตัวว่าเป็นเมียของผมจัดการเปลี่ยนจากชุดลำลองเป็นชุดออกศึกเต็มยศให้ จะว่าไปมันบอกว่าผมมีคิวต้องต่อสู้กับประมุขพรรคมารหรืออะไรนี่แหละ แต่เออ... ช่างเถอะ นี่มันต้องเป็นความฝันแน่ ๆ มีอย่างที่ไหนจากคนธรรมดากลายเป็นแมวน้ำเฉย แถมไม่ได้อยู่ตามสวนสัตว์แต่เป็นในโลกกำลังภายในไร้สาระแบบนี้อีก แต่นั่นแหละเมื่อรู้ว่านี่คือความฝันแล้วอีกเดี๋ยวตรูก็จะถูกนาฬิกาปลุกดึงกลับไปสู่โลกแห่งความจริงเองนั่นแหละน่า! คิดได้ดังนี้ผมจึงยืนนิ่ง ๆ รอเวลาตื่นขึ้นเองในตอนเช้า แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นเสียทีจนชักจะหงุดหงิดแล้วเนี่ย...
"แฮ่!"
(ข้ามารับตัวเจ้าแล้ว!)
จู่ ๆ ก็มีแมวน้ำหน้าตาไม่น่าไว้วางใจปรากฎตัวขึ้นที่หน้าประตูบ้าน มันแต่งตัวด้วยชุดสีม่วงพร้อมหมวกสานใบใหญ่ให้อารมณ์จอมยุทธแบบที่เห็นในหนังเปี๊ยบ เจ้านั่นเดินเข้ามาทางนี้ด้วยท่าทีหยิ่งทะนงราวกับเป็นเจ้าคนนายคน
"อุ๋งงอู่งงงง"
(เจ้าคือ ฉี่เฉียงเฉียง สมุนมือขวาของจอมมารสินะ!)
แมวน้ำสาวออกอาการตกใจเมื่อได้เห็นลูกน้องของพรรคมาร แต่ผมนี่ตกใจชื่อของมันมากกว่าจนเกือบหลุดขำออกไป มีอย่างที่ไหนชื่อคนตายตั้งเยอะแยะไม่เอามาตั้ง ดันตั้งเป็นฉี่ซะได้ ฮ่า ๆ ทว่าวินาทีถัดมาผมก็ต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งเมื่อได้ยินชื่อของตนเองบ้าง
"แฮ่แฮ่ฮ่งงงฮ่ง!"
(และเจ้าก็คือ ฉี่ตงตง ผู้หาญกล้าต่อกรกับจอมมาร วันนี้ข้ามารับตัวเจ้าไปเผชิญหน้ากับความตายแล้ว)
เมื่อแนะนำตัวกันเสร็จแล้วเจ้าฉี่เฉียงเฉียงก็ฉุดกระชากลากถูตัวผมให้ออกเดินทางไปยังยอดเขาเซียนหมื่นลี้ อันเป็นสถานที่ตั้งของสำนักมาร ฉี่เลอะ ซึ่งหมายมั่นปั้นมือว่าจะครองยุทธภพด้วยพลังยุทธของเจ้าสำนักอันแสนร้ายกาจ แต่กลับโดนขัดขวางโดยกลุ่มนักรบคุณธรรมซึ่งมีผู้นำคือตัวผมนั่นเอง จอมมารจึงกริ้วจัดนัดประลองเพื่อให้รู้แพ้รู้ชนะกันไป แล้วทำไมถึงทราบข้อมูลพวกนี้น่ะเหรอ? ก็เจ้าฉี่เฉียงเฉียงนี่ไงที่มันพล่ามเรื่องนี้มาตลอดทางจนรู้สึกรำคาญขึ้นมาเลยทีเดียว
"แฮ่ฮ่งงงง!"
(เจ้าจงรออยู่ที่นี่)
เมื่อมาถึงยอดเขา ฉี่เฉียงเฉียงก็พาผมมายืนรออยู่ที่ลานกว้างบริเวณด้านหน้าสำนักฉี่เลอะ สถานที่อันมืดมนคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาวเลือด ท้องฟ้าเบื้องบนก็เต็มไปด้วยเมฆหมอกหนาไร้ซึ่งแสงตะวัน สายฝนที่โปรยปรายลงมาหนาวเหน็บราวกับตกอยู่ในขุมนรก นี่มันเคราะห์กรรมใดกันที่ทำให้ผมต้องมาตกระกำลำบากในแดนโลกันตร์อนธกาลเช่นนี้?
"โฮ่ง!"
(ยินดีต้อนรับสู่ฉี่เลอะ ข้าคือจอมมาร ฉี่ฉวัดเฉวียน เจ้าสำนักแห่งนี้ และวันนี้จะเป็นมัจจุราชผู้นำทางเจ้าลงสู่ขุมนรกด้วยตนเอง!)
ไม่นานนักผู้นำแห่งฉี่เลอะก็ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับแนะนำชื่อบวกตำแหน่งเสร็จสรรพชนิดที่ไม่มีใครเสนอแต่มันดันอยากสนองให้เอง สำคัญกว่านั้นคือมันเป็นน้องหมาไม่ใช่แมวน้ำเสียด้วย เออช่างเถอะ มาถึงจุดนี้ก็คงไม่มีอะไรให้ตกใจแล้วล่ะ ส่วนเรื่องชื่อแซ่นั้นผมขี้เกียจจะฟังเพราะยังไงก็ตระกูลฉี่เหมือนเดิม และถ้าให้เดาเมียตูที่บ้านก็คงไม่พ้นสกุลฉี่อีกแน่ ๆ พวกเอ็งไม่มีชื่อที่มันดีกว่านี้แล้วจริง ๆ เหรอวะ! อีบ้า...
"ชักช้าร่ำไรน่ารำคาญ ถ้าอยากสู้นักก็เข้ามาเลยดีกว่า!"
ผมเริ่มเหม็นเบื่อความฝันนี้แล้ว เพราะฉะนั้นรีบ ๆ ทำให้มันจบไปแล้วตื่นอย่างสดชื่นในตอนเช้าดีกว่า ถึงยังไงนี่ก็แค่ความฝันมันคงไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกจริงไหม? ฉี่ฉวัดเฉวียนแสยะยิ้มก่อนจะกระโดดเข้ามายังลานประลองและพุ่งตรงเข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วสูงในทันที แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะรับมือ ผมสวนหมัดกลับไปแถมตรงเป้าเผงจนฉี่ฉวัดเฉวียนผงะถอยไปสองสามก้าว เมื่อได้สติมันก็สบถอย่างหยาบคายก่อนจะตรงเข้ามาอีกรอบหมายเอาคืน
"โฮ่งงง!!!"
(บังอาจนัก! เจ้าถือดีอะไรถึงกล้าทำร้ายจอมมารแห่งฉี่เลอะผู้มีชีวิตเป็นอมตะเยี่ยงนี้ ที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้ใดแตะต้องตัวข้าฉี่ฉวัดเฉวียนได้แม้แต่ผู้เดียว และความจองหองของเจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต! วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้วฉี่ตงตง... เตรียมรับมือให้ดี!!!)
เดี๋ยว ๆ เอ็งเห่าคำเดียวทำไมบทบรรยายมายาวเหยียดเลยวะ แต่ช่างเถอะ... ผมอาศัยความเร็วที่เหนือกว่าสอดมือลอดท้องแขน (ขาหน้า) ที่พุ่งเข้ามาของมันแล้วพลิกหมุนไปอีกทาง ทำให้ร่างของฉี่ฉวัดเฉวียนเสียการทรงตัว จังหวะนั้นเองที่ลูกถีบของผมเข้าเป้าอย่างเหมาะเหม็งอีกครั้ง เล่นเอาอีกฝ่ายตัวงอเป็นกุ้งไปเลย เห็นดังนั้นผมจึงปิดฉากด้วยการกระแทกสองฝ่ามือเข้าที่บริเวณหน้าอกอีกฝ่ายจนกระเด็นกลิ้งไม่เป็นท่า เท่านี้ผลการประลองก็เห็นได้ชัดแล้วว่าใครกันที่เป็นฝ่ายเหนือกว่า
"ไง... ถ้ายังไม่หนำใจจะเข้ามารับประทานตีนอีกก็ได้นะ ฮ่า ๆ"
ผมหัวเราะเยาะเย้ยใส่จอมมารที่นอนครางหงิง ๆ กับพื้น หารู้ไม่ว่าพวกมันยังมีไม้เด็ดอื่นเก็บซ่อนเอาไว้อยู่อีก ฉี่ฉวัดเฉวียนพลันสั่งให้พวกลูกน้องรีบไปอัญเชิญ เจ้าแม่ ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังออกมารับมือกับศัตรูในทันที
"โฮ่งงง!"
(ฮ่า ๆ ชะตาแกถึงฆาตแล้วฉี่ตงตง! แม้ว่าฝีมือของข้าจะไม่สามารถต่อกรกับเจ้าได้ แต่วรยุทธนายหญิงของพวกข้านั้นร้ายกาจกว่าแกเสียอีก เตรียมตัวตายได้แล้ว!)
ผมตะหงิด ๆ กับคำพูดของมันชอบกล เหนือกว่าจอมมารยังมีนายหญิงอีกงั้นรึ? แล้วมันเป็นใครกันแน่? แต่คำตอบของคำถามนั้นก็ได้ปรากฎออกมาสู่สายตาผมในเวลาไม่นาน เมื่อนายหญิงแห่งพรรคมารเผยโฉม เพียงแค่เห็นใบหน้านั้นผมถึงกับต้องกำหมัดทุบดินด้วยความเดือดดาลในทันที ผมน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว... ต้นตอแห่งโศกนาฎกรรม ต้นตอแห่งความเลวร้ายทั้งมวลนี้จะเป็นใครไปเสียมิได้นอกจาก ยายปริก!
"แมวน้ำ... แมวน้ำอุ๋ง ๆ ฮ่า ๆ"
หมอดูเฒ่าเจ้าเล่ห์กระโจนเข้าสู่ลานประลองในทันใด มิหนำซ้ำร่างกายของมันยังเป็นมนุษย์ครบถ้วนทุกประการแตกต่างจากพวกผมอีก เห็นแบบนั้นยิ่งเพิ่มไฟแค้นสุมในอกมากขึ้นไปร้อยเท่าทวีคูณ
"แมวน้ำพ่องงงง! รีบ ๆ ทำให้กูกลับร่างเดิมเดียวนี้เลยนะยายปริก!!!"
"ไม่มีทาง... เจ้าจะต้องกลายเป็นแมวน้ำเช่นนี้ไปตราบนิจนิรันดร ฮ่า ๆ"
"โฮ่งง!"
(นี่เจ้ารู้จักกับนายหญิง ฉี่เลี้ยว ด้วยรึ? แต่ช่างเถอะ... เตรียมตัวตายได้แล้ว ฮ่า ๆ)
จอมมารกระหยิ่มยิ้มย่องด้วยการทำนายว่าผมจะต้องตายกลายเป็นเถ้าธุลี แต่มีหรือที่ทางนี้จะยอมกันง่าย ๆ ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้เว้ย! แถมในนี้ไม่มีทั้งรถตู้ รถถังหรือแม้แต่เรือดำน้ำแล้ว จะกี่สิบยายปริกก็ไม่ครณามือตูแน่ ว่าแล้วผมก็กระโดดเข้าใส่ศัตรูคู่แค้นในทันที...!
กริ๊งงง... กริ๊งงงงงงงง...!!!
เสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงช่วยดึงผมกลับออกมาจากโลกแห่งความฝัน ผมสะดุ้งพรวดสุดตัวก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องน้ำเพื่อสำรวจตัวเองในกระจกเงาทันที ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า ศีรษะ แขนหรือขาทั้งสองข้าง ล้วนแล้วแต่อยู่ในสภาพของมนุษย์ปกติธรรมดาไม่ได้กลายเป็นแมวน้ำแต่อย่างใด ทั้งหมดทั้งมวลนั่นคือความฝันอย่างไม่ต้องสงสัย ฉับพลันนั้นความโกรธขึ้งก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างยากที่จะเหนี่ยวรั้งไว้ ผมกำหมัดด้วยความเคียดแค้นก่อนจะตะโกนออกมาว่า
"แม่งเอ๊ยย! อีกนิดเดียวจะจัดการยายปริกได้อยู่แล้วเชียว!!!"
@-@-@-@-@-@ อวสาน @-@-@-@-@-@
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น