ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไฟปรารถนา แรงพิศวาส

    ลำดับตอนที่ #9 : Chapter 6 : Kidnap!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.25K
      1
      4 ก.ค. 54



     


    ชาน: วันนี้โอกาสเหมาะเคราะห์ดี ชานจะจัดการยัยแม่มดแล้วครับ ฮ่าๆๆๆ
    แพรวา : ผิดหวังมากค่ะ ไม่คิดว่าคนหล่อจะงี่เง่า โรคจิตขนาดนี้

              


          ในช่วงเย็นของอีกวันฑีรทัศน์กลับบ้านมาอย่างอารมณ์ดีหลังจากขู่แกมบังคับแม่ หมีตัวน้อยๆของเขาให้ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดหรูกลางใจเมืองภายในอาทิตย์ นี้ ทีแรกสาวเจ้าก็ปฏิเสธเสียงแข็ง แต่พอตื้อไปตื้อมาเธอก็ยอมมาอยู่กับเขาได้ ชายหนุ่มฮัมเพลงเดินเข้าบ้านมาอย่างอารมณ์ดีจนน้องชายที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ หันมามองด้วยความแปลกใจ

    "ไปไหนมาสองวัน กลับมาอารมณ์ดีเลย ไปเกาะเสม็ดมาป่ะเนี่ย" ชนินทรณ์แซวพี่ชาย จนคนตัวโตอดยิ้มให้ไม่ได้

    "ไปเกาะเสม็ด แต่ไม่ได้เสร็จไอ้น้อง "

    "จริงอ่ะ แล้วทำไมอารมณ์ดีมาล่ะพี่ "

    "อารมณ์ดีเพราะมีความรัก ฉันมีแฟนแล้วไอ้น้อง " ฑีรทัศน์ตอบอย่างภูมิใจแล้วหยิบขนมในมือน้องชายมากิน

    "อาาา คนมีความรักเป็นแบบนี้นี่เอง "

    "ขอบใจแกนะชาน ถ้าไม่มีแกฉันคงไม่ได้เจอผู้หญิงดีๆอย่างเบลล์ " ฑีรทัศน์ตบบ่าน้องชายเบาๆเป็นเชิงขอบคุณ

    "อืือ ก็ผมอยากได้พี่สะใภ้ดีๆมีคุณภาพหนิ " คนเป็นน้องยักไหล่อย่างไม่แคร์

    "แล้วแกจะไปงานศพใครเนี่ย ใส่ชุดดำแบบนี้ " ฑีรทัศน์ถามเมื่อเห็นการแต่งกายของน้องชาย เสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีดำ กับกางเกงแสลคขาเดปสีดำ

    "อ่อ ไปจัดการอะไรนิดหน่อยน่ะพี่ " ชนินทรณ์หันไปตอบคำถามพี่ชายชาย ดวงตาคมกริบเหลือบมองนาฬิกาเรือนโตที่ผนังซึ่งบอกเวลาหกโมงครึ่งแล้วร่างสูง ของชนินทรณ์ก็ลุกพรวดขึ้นมาจนคนเป็นพี่ผละถอยหลัง

    "เฮ้ยย ทำอะไรของแก "

    "ไปทำอะไรเล็กน้อยๆนะพี่ ไม่แน่ผมอาจจะไม่กลับนะ" ชนินทรณ์พูดแล้วเดินออกไปทิ้งให้พี่ชายทำหน้างงๆแล้ตะโกนไล่หลังไปว่า

    "อย่าไปก่อเรื่องอื้อฉาวนะโว้ย ฉันไม่มีเวลาไปแก้ให้แกแล้วนะ "

     

     

    ____________________________________________________


             

                ร่างบอบ บางเดินออกมาจากสถานรับเลี้ยงเด็กที่เธอเคยอยู่ วันนี้เธอมาเยี่ยมเยียนแม่ครูที่เคยเลี้ยงเธอมา ตั้งแต่เธอจำความได้แม่ครูก็เปรียบเสมือนแม่เเท้ๆของเธอเลย ไม่สิ ดีกว่าแม่แท้ๆที่ใจดำเอาเธอมาทิ้งได้ลงคอตั้งแต่อายุได้เดือน แพรวพิลาศเม้มปากเแน่นเมื่อคิดถึงอดีตของตัวเอง ร่างบางเดินออกมาจนถึงปากซอยเพื่อไปที่ป้ายรถเมล์ โดยไม่สังเกตว่ามีรถยนต์สีดำสนิทตามเธอมา
                    ซัก พักหญิงสาวเริ่มรู้สึกว่ามีคนตามเธออยู่ดวงตาหวานชำเลืองมองด้วยหางตา แล้วเริ่มวิ่งหนีทันที แต่เหมือนชายปริศนาจะไวกว่าเขาตะครุบร่างบอบบางไว้ 

    " ช่วย ด้วยค่ะ ใครก็ได้ช่วยด้วย ฮื่อ " แพรวพิลาศตะโกนให้คนช่วยสุดเสียง ก่อนที่จะโดนผ้าเช็ดหน้ากลิ่นฉุนตะปบลงบนจมูกเรียวโด่งเบาๆ แล้วเสียวหวานใสกังวาลค่อยๆเงียบไป ชายปริศนาเขย่าร่างบางเบาๆเพื่อทดสอบว่าเธอสลบไปแล้วหรือยัง เมื่อเห็นว่าเธอสลบไปแล้วจึงอุ้มร่างบางขึ้นพาดบ่าแล้วพาเธอไปไว้ในรถ ด้วยความรอบคอบ ชายหนุ่มหยิบเชือกที่อยู่หลังรถมามัดมือมัดเท้าของหญิสาวไว้ ร่างสูงปิดประตูรถแล้วถอนหายใจเฮือกด้วยความโล่งอก แล้วถอดหมวกไหมพรมออก ใบหน้าขาวสะท้อนแสงจันทร์ในความมืดสายตาคมกริบมองไปยังร่างบางที่สลบไสลอยู่ แล้วออกรถไปอย่างแรง

    "พี่ ผมจะไม่อยู่ซักอาทิตย์นึง ฝากดูงานด้วยนะ " ชนินทรณ์โทรศัพท์บอกพี่ชายแล้วกดตัดสายอย่างรดเร็ว แล้วขับรถมุ่งสู่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยความเร็ว 120kmh/r

                 อีก 8 ชัว โมงถัดมารถยนต์คันหรูมาจอดที่ไร่ฑีรนินท์ ไร่สตอเบอรี่ในเชียงใหม่ ชนินทร์จอดรถตรงหน้าบ้านพักของเขาแล้วอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่าแล้วพาไปไว้ที่ ห้องนอน และไม่ลืมที่จะล๊อคประตูหน้าต่างให้เรียบร้อยกันเธอหนี

    "วันนี้ ยกให้วันนะ เพราะฉันเหนื่อยกับการขับรถ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ เธอเจองานหนักแน่ยัยแม่มด " มือหนาเกลี่ยปอยผมที่ลงมาเคลียแก้มใสแล้วพูดเบาๆแล้วปิดประตูห้องอย่างเบา มือเพื่อไปพักผ่อน

    ___________________________________________




                     เก้า นาฬิกาของวันใหม่เปลือกตาสวยกระพริบเบาๆเพื่อปรับสายตากับแสงแดดสีทอง ที่ส่องผ่านผ้าม่านสีครีมอ่อนๆ ดวงตาคมสวยกวาดมองทั่วห้อง พลางคิดทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร แต่ก็เป็นไปได้ยาก เพราะความปวดศีรษะเหมือนโดนใครทุบมา เมื่อวานเธอไปเยี่ยมแม่ครูที่สถานรับเลี้ยงเด็กและกำลังเดินกลับบ้าน แต่จู่ๆก็โดนชายปริศนาในชุดดำจับมา แพรวพิลาศพยามลุกจากเตียงแต่ก็ทำได้อย่างยากลำบาก เพราะเธอมึนหัวไปหมดเพราะฤทธิ์ยาสลบที่เธอสูดเข้าไป ร่างบอบบางเดินโซเซไปที่ประตูแล้วพยามเปิดออกแต่มันถูกล๊อกไว้

    "ช่วย ด้วย ใครอยู่ข้างนอกบ้าง เปิดประตูให้ฉันที ช่วยด้วยค่ะ " เสียงใสพยามตะโกนเท่าที่จะทำได้เพื่อหาคนมาช่วย มือบางทุบประตูจนเจ็บไปหมด

    ชนินทรณ์ลืมตาขึ้นแล้วหลับตาลงนอนต่ออย่างไม่รู้สึกอะไร ปล่อยให้หญิงสาวตะโกนต่อไปไม่หยุด

                   ทาง ด้านแพรวพิลาศก็พยามหาทางออกไปจากที่นี่ ตาคมสวยกวาดมองห้องสุดหรูนี่แล้วเดินไปดูที่หน้าต่างแต่หน้าต่างก็ดันมี เหล็กดัด ร่างบางทรุดตัวนั่งลงตรงหน้าประตู ใครจับเธอมา จับมาเพื่ออะไร จับมาเรียกค่าไถ่หรอ? ใครล่ะจะมาไถ่ตัวเธอล่ะ หรือจะจับเธอมาทำมิดีมิร้าย นี่แหละคือสิ่งที่เธอกลัว แพรวพิลาศคิดไปต่างๆนานาก่่อนที่ประตูห้องจะถูกกระชากเปิดอย่างแรกจนร่างบาง ที่นั่งอยู่เกือบหงายหลัง แพรวพิลาศลุกพรวด ตาหวานใสมองคนที่เปิดประตูอย่างตกใจ

    "คุณ " แพรวพิลาศอุทานเบาๆ นีมันผู้ชายที่เธอแอบปลื้มที่เป็นลูกค้าในร้านขนมของพิชญ์สินีนี่นา เขาจับเธอมาทำไม แล้วเขามาอยู่ที่นี่่ได้อย่างไร หลากหลายคำถามผุดขึ้นมาในสมองเธอ

    "หืมม ? ฉัน ฉันทำไม " ชนินทรณ์พูดพลางเดินเข้ามาจนร่างบางถอยกรู

    "คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ ? แล้วทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่ " เธอพูดอย่างงไปหมด นี่มันอะไรกัน เทพบุตรในฝันของเธอเป็นอะไรไปซะแล้ว

    "ที่นี่เป็นไร่ของฉัน ฉันจับเธอมาเองแหละ ทำไมล่ะ ชอบไม่ใช่หรออยู่กับผู้ชายน่ะ  " ดวงตาคมกวาดมองร่างบอบบางอย่างไม่เกรงใจ

    "คุณจับฉันมาทำไม ฉันไปทำอะไรให้คุณ " แพรวพิลาศถามอย่างไม่เข้าใจ

    "แล้วเธอเคยไปทำอะไรไว้บ้างล่ะ "

    "ฉัน ไม่เคยไปทำอะไรไว้กับใคร ฉันจะกลับบ้าน " ร่างบางกำลังจะเดินผ่านร่างสูงของชนินทร์เพื่อจะเดินออกประตูไปแต่อุ้งมือ เเข็งแกร่งก็กำต้นแขนขาวของเธอไว้อย่างไม่กลัวอีกฝ่ายเจ็บ

    "คิด ว่า ฉันจะปล่อยเธอไปรึไง ง่ายไปหน่อยมั้ง เอาน่าอย่าคิดมาก ฉันน่ะไม่ใช่คนชอบใช้ความรุนแรงหรอกถ้าเชื่อฟังกันดีๆ " ชนินทรณ์กระซิบข้างใบหูบอบบางด้วยเสียงเย็นยะเยือกทำเอาเธอขนลุกไปทั้งตัว

    "ฉัน ไม่อยู่กับคุณ ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ฉันจะกลับบ้านฉัน " เข่าสวยกระแทกตรงจุดยุทธศาสตร์ของชนินทรณ์อย่างไม่แรงนักแต่ก็ทำเอาใบหน้า หล่อ คมซีดได้เหมือนกัน ร่างบางของแพรวพิลาศสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแกร่งแล้ววิ่งไปที่ประตูห้อง ชนินทรณ์จุกอั๊ก แต่ก็พยามลุกวิ่งตามเธอไป

    "กรี๊ด ดดด " แพรวพิลาศกรี๊ดออกมาอย่างตกใจเมื่อมือหนาคว้าหมับเข้าที่เอวบอบบางแล้วออก เเรงยกร่างเล็กขึ้นพาดบ่าแล้วพาเธอเดินเข้าห้องไป

    "โอ๊ย " แพรวพิลาศร้องออกมาด้วยความจุกเมื่อชนินทรณ์โยนเธอลงบนเตียงอย่างแรง

    " ท่า มากนักนะ พยศอย่างงี้สงสัยต้องล่ามไว้ซะหน่อยแล้วมั้ง " ชนินทรณ์พูดเสียงเล่นๆแต่ดวงตาคมกลับกร้าวอย่างน่ากลัวพลางมองโซ่เส้นหนาใน มือตนเอง ตาหวานใสของแพรวพิลาศเบิกกว้างด้วยตกใจ อะไรกันนี่เขาจะล่ามเธอไว้แบบนี้เลยหรอ?

    "คุณ จะทำอะไร อย่านะ อย่าล่ามฉันนะ ฉันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของคุณ " เสียงใสกรีดร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อมือเรียวหยิบโซ่เส้นใหญ่มาล่ามข้อเท้า เธอไว้กับขาเตียงไว้ มือบางผลักไสร่างเขาออกแต่ดูเหมือนร่างใหญ่จะไม่สะดุ้งสะเทือนกับแรงน้อยนิด ของเธอเลย

    "อย่ามางี่เง่าสะดีดสะดิ้งใส่ ฉัน แล้วก็อย่ามาทำอะไรให้ฉันเจ็บแม้แต่นิดเดียว เพราะฉันไม่ใช่คนที่จะยอมให้เธอทำอะไรฝ่ายเดียว" มือเรียวบีบคางมนแน่นแล้วพูดช้าๆข้างใบหูบอบบาง

    "ฉัน ไปทำอะไรให้คุณ ทำไมถึงทำแบบนี้กับฉัน " น้ำตาเม็ดโตไหลออกมาจากดวงตาคู่สวยอย่างน่าสงสารแต่กลับดูไม่น่าสงสารเลยใน สายตาของชนินทรณ์

    "ทำอะไรน่ะหรอ เธอทำให้เพื่อนฉันเกือบตาย มันเกือบตายเพราะเธอ " มือหนาผลักร่างบางจนหงายลงไปบนเตียงกว้าง

    "ใครกัน เพื่อนที่คุณว่าน่ะใคร? " แพรวพิลาศสะอึกสะอื้นเสียงสั่น

    "พี่เต้ยไง จำได้รึเปล่าพี่เต้ยน่ะ " ชนินทรณ์ตะโกนลั่นห้อง

    "พี่เต้ย ฉันไม่เคยไปทำอะไรไว้กับพี่เต้ยเลย ฉันเคารพเค้าในฐานะพี่ชายคนนึง "

    "งั้น หรอ ? พี่ชาย? ฮ่าๆๆๆ พี่ชายที่ไปกินข้าว ไปดูหนังด้วยกัน จับมือกัน ? พี่น้องเธอเป็นแบบนี้จริงๆหรอ ? พูด แบบนี้ฉันล่ะอยากเป็นพี่น้องกับเธอจริงๆเลยนะ ไหนขอพี่ชายดูหน่อยซิ " ชนินทรณ์เดินเข้ามาหาร่างเล็กบนเตียงแล้วกระชากร่างบอบบางเข้ามาหาตัวเอง

    "คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ อย่าทำแบบนี้ อย่าาา " แพรวพิลาศกรี๊ดลั่นเมื่อมือหนาลูบไล้ผิวขาวเนียนละเอียดอย่างไม่เกรงใจ

    "ขาวๆ เนียนๆแบบนี้ยี่เอง มิน่าไอเต้ยถึงได้หลงนัก " ร่างหนาขึ้นคร่อมร่างบอบบางที่กำลังตกใจสุดขีดแล้วซุกไซร้จมูกโด่งเรียวเข้า กับผิวขาวตรงซอกคอ สูดกลิ่นหอมอ่อนๆแบบเย้ยยวนเข้าไปในปอด มือเรียวกระชากเสื้อสีชมพูอ่อนๆของหญิงสาวออกแล้วเลือนจมูกโ่ด่งลงมาตรง ร่องอกขาว แพรวพิลาศมึนงงไปหมด เธอทั้งกรีดร้องทั้งทุบทั้งผลักร่างหนาแต่ก็ดูเขาจะไม่สะเทือนเลย  ริมฝีปากบางราวกับผู้หญิงดูดเม้มผิวขาวเนียนตรงเนินอบอวบ

    "กรี๊ด ดด อย่าาาาาาาาาาา " เธอกรีดร้องออกมาเสียงดังแล้วแน่นิ่งไป ชนินทรณ์เงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นเธอแน่นิ่งไปก็ถอนหายใจออกมาอย่าเซ็งๆแล้วลุกขึ้นดึงผ้าห่มมาคลุม ร่างบางไว้ มือหนาเกลี่ยเช็ดน้ำตาที่ติดอยู่ตรงแก้มขาวอย่างอ่อนโยนแล้วเดินออกจากห้อง ไป

     

    ___________________________________________


    Let me see your body rock,
    Shakin' from the bottom to the top,
    Freak to what the Dj drop,
    We be the ones to make it hot, (To make it hot)


            เสียง ริงโทนเพลงโทรศัพท์ของชนินทรณ์ดังขึ้นในขณะท่ร่างหนากำลังง่วนทำอาหาร อยู่ในครัว มือหนาตักข้างผัดสีสวยในกะทะลงใส่จานอย่างน่ากิน แล้วเดินไปหยิบblackberry bold 9000 ของตนขึ้นมาแล้วกดรับ


    "ว่าไงพี่ "

    "นี่อยู่ไหน เมื่อคืนไม่ได้กลับบ้านใช่ไหม " ฑีรทัศน์ถามน้องด้วยความเป็นห่วง

    "อือ ไม่ได้กลับ " ชนินทรณ์ตอบ

    "แ้ล้วนี่อยู่ไหน ไปทำอะไร อยู่กับใคร " ฑีรทัศน์ถามอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วง

    "อยู่ เชียงใหม่ อยู่ที่ไร่ ก็เมื่อวานผมบอกไปแล้วไม่ใช่หรอว่าจะไม่อยู่ซักอาทิตย์สองอาทิตย์ ผมโตแล้วนะพี่ ฟังบ้างป่ะเนี่ย " ชนินทรณ์เหวี่ยงใส่พี่อย่างอารมณ์ไม่ดี อะไรกัน นี่ไม่ได้ฟังเขาเลยหรือไง

    "ก็ ขอให้แกโตจริงๆเหอะ ไม่ใช่โตแต่ตัว ทำอะไรหัดคิดก่อนบ้างป่ะ เคยคิดบ้างป่ะว่าทำอะไรไว้แล้วปัญหามันจะตามมารึเปล่า ชาน มีสองอย่างที่คนเราเรียกกลับคืนมาไม่ได้คือเวลาและคำพูด จะทำอะไรคิดดีๆก่อน จะได้ไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง ดูแลตัวเองดีๆด้วย " ทีแรกฑีรทัศน์เองก็อารมณ์เสียใส่เหมือนกัน แต่หลังก็เตือนน้องชายด้วยความเป็นห่วง


    "ครับ พี่ก็ดูแลตัวเองเหมือนกัน " ชนินทรณ์วางสายไปแล้วหันไปมองบานประตูสีขาวที่เปิดแง้มๆอยู่ นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว ป่านนี้ยังแม่มดนั่นคงหิวแล้วแหละ ขายาวก้าวเร็วๆไปในห้องสวย ตาคมมองร่างบางบนเตียงนอนแล้วเดินเข้าไปทรุดตัวลงนั่งข้างเธอ ร่างบางรู้สึกถึงแรงยุบข้างตัวเลยผุดลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจโดยลืมไปว่าเสื้อ ท่อนบนของเธอไม่เรียบร้อยอยู่ ตาคมกริบของชนินทรณืเหลือบมองอย่างไม่เหรงใจ

    "กรี๊ดดด คนโรคจิต คนลากมกออกไปนะ " เมื่อแพรวพิลาศเห็นว่าเขากำลังมองอะไรอยู่ มือบางผลักร่างหนาออกไปอย่างบ้าคลั่ง

    "นี่ เธอ เลิกบ้าซักที จะอะไรนักหนาฉันก็แค่มอง ไม่ได้จับซะหน่อย นี่ก็เที่ยงแล้วออกมากินข้าวได้แล้ว " ชนินทรณ์ตะโกนใส่อย่างอารมณ์เสีย

    "ไม่ ฉันไม่กินของคุณหรอก ปล่อยฉันออกไปซักที " เสียงใสพูด พลางดึงโซ่เส้นใหญ่แรงๆ แต่ก็เปล่าประโยชน์

    "ฉัน บอกให้เธอกินเธอก็ต้องกิน อยู่ที่นี่อย่ามาขัดคำสั่งฉัน " มือหนาไขกุญแจที่โซ่เส้นใหญ่ออกแล้วกระชากแขนเรียวออกมานั่งที่โต๊ะทานข้าง ดวงตาหวานกวาดมองจานข้าวผัดสีสวยตรงหน้า ไม่นึกว่าผู้ชายหน้าตาแบบนี้จะทำอาหารได้น่ากินขนาดนี้

    "กินซะ จะได้มีแรงไว้ทำอะไร " มือหนาตักข้าวขึ้นมาจ่อที่ปากบางสีชมพูอ่อน ใบหน้าหวานหันหนีเป็นเชิงบอกว่าเธอไม่อยากกิน

    "อะไรนักหนา บอกให้กินก็กินสิ " ชนินทรณ์เริ่มอารมณ์ไม่ดี

    "ฉันกินก็ได้ แต่ฉันขอกินเอง คุณไม่ต้องป้อนฉันหรอก แกะเชือกให้ฉันหน่อยนะ " แพรวพิลาศอ้อนเสียงอ่อน

    "ไม่ ฉันไม่โง่หรอกนะ ฉันแกะเชือกให้เธอเธอก็หนีฉันน่ะสิ ไม่ต้อง ฉันป้อนนี่แหละ " มือหนาตักข้าวป้อนเข้าปากเธอ แก้มสวยพองด้วยความเยอะของข้าวทำให้ดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูกจนชนินทรณ์เกือบ ยิ้มออกมาซะแล้ว

    "ดีแล้ว พูดง่ายๆแบบนี้ค่อยอยู่กันได้หน่อย บอกไว้ก่อนเลยนะ งี่เง่ากับฉันน่ะ ไม่ได้ประโยชน์หรอก แถมยังจะได้ผลเสียมาอีก " ชนินทรณ์พูดยิ้มๆพลางส่งข้าวเข้าปากเธออีกครั้ง แพรวพิลาศเคี้ยวข้าวๆช้าๆพลางคิด ตกลงนี่ฉันต้องอยู่กับเขาจริงๆใช่ไหม ? แล้วฉันควรจะดีใจหรือเสียใจดีกันแน่ ...

     





    x.o.x.o.x.
    Bloody queen




    blanton etc.







                  



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×