คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : นิทานเรื่องที่ห้า - แอเรียล
Ariel
ซองยอลนอนกระพริบตาปริบๆอยู่บนเตียงหลังกว้าง มองคุณแม่ที่จัดเตรียมเสื้อผ้าและของจำเป็นต่างๆลงกระเป๋าด้วยความงุนงง นอนนึกอยู่เพียงชั่วครู่ก็ลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นอยู่บนเตียง ร้องไชโยเสียลั่นห้อง เด็กน้อยวิ่งไปหอมแก้มมารดาที่นั่งพับเสื้อผ้าอยู่บนพื้นห้อง เธอยิ้มขำกับท่าทีตื่นเต้นราวกับพึ่งเคยไปทะเลครั้งแรกของลูกชาย จริงๆเชียวเด็กคนนี้
“อัปป้าอยู่ไหนหรอฮะ”เสียงใสเอ่ยถามถึงบุพการี เมื่อได้รับคำตอบก็วิ่งแจ้นไปหาคุณพ่อที่ไม่ได้เจอกันเมื่อคืนก่อน เข้าไปกระตุกชายเสื้อเพื่อเรียกร้องความสนใจของบิดาจากโทรทัศน์ รอยยิ้มอบอุ่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ซองยอลน่ะชอบรอยยิ้มแบบนี้ที่สุดเลยล่ะ!
“อัปป้าทำตามสัญญาจริงๆด้วย”
“ก็ต้องทำสิครับ สัญญากับลูกชายไว้ทั้งที”เขายิ้มแล้วยกตัวเล็กๆของลูกคนเดียวขึ้นมานั่งบนตัก หอมแก้มนิ่มทั้งซ้ายขวาให้ชื่นใจ ซองยอลยิ้มกว้าง จมูกเล็กกดลงบนแก้มสากที่มีไรหนวดเคราเล็กๆเพื่อให้รางวัลคนเป็นพ่อที่ไม่ผิดสัญญา
“ซองยอลจะได้ไปทะเล! จะได้ไปทะเลแล้ว!!”เสียงใสตะโกนลั่นด้วยความดีใจอย่างถึงที่สุด มีใครเคยบอกหรือเปล่าว่าซองยอลน่ะชอบทะเลที่สุดเลย ลมก็เย๊นเย็น ทรายก็นุ๊มนุ่ม ทะเลคือสวรรค์ของซองยอลเลยนะ
ทั้งสามคนพ่อ แม่ ลูก ออกเดินทางในเวลาสายๆและถึงที่พักในเวลาบ่ายแก่ๆ ซองยอลวิ่งออกจากลิฟต์เพื่อจะไปถึงห้องพักคนแรก ด้วยความรีบทำให้เด็กชายวิ่งไม่ดูทาง ชนเข้ากับกับเด็กหนุ่มอีกคนที่เดินสวนมาพอดี ซองยอลล้มลงนั่งกับพื้นอย่างแรง
“ขอโทษนะครับ”เสียงที่ยังไม่แตกหนุ่งดีเอ่ยขึ้น ปากสีแดงสดเบะออกคล้ายจะร้องไห้ ประจวบกับที่ผู้ปกครองของเด็กน้อยเดินมาพอดี คนที่ไม่ได้ทำอะไรผิดกล่าวขอโทษอีกครั้งและเดินจากไป ซองยอลกอดคอผู้เป็นแม่แน่นเมื่อถูกอุ้มขึ้น หรี่ตามองแผ่นหลังของคนที่เสียงคุ้นๆเมื่อสักครู่อย่างสงสัย พี่ชายที่ซองยอลชนเมื่อกี๊เป็นใครกันนะ..
.
.
.
.
.
.
ซองยอลเปลี่ยนชุดเหลือเพียงเสื้อสีเหลืองตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นเพื่อนเตรียมตัวเล่นน้ำทะเลในยามเย็น ท้องฟ้าเปลี่ยนสีกลายเป็นสีส้ม ลมพัดเอื่อยๆเย็นสบาย เด็กน้อยวิ่งแจ้นไปยังที่ที่น้ำซัดถึง เท้าเล็กๆแตะลงบนผืนทรายเปียก บนใบหน้าปรากฎรอยยิ้มซุกซนจนคนเป็นพ่อป็นแม่หัวเราะกับความซนของลูกชายคนเดียว หลังจากที่ยืนเอาเท้าแตะทรายเปียกเล่นก็เริ่มเดินลงไปยังน้ำตื้น กระแสน้ำที่ซัดกระทบขาขาวเรียกเสียงหัวเราะคิกคักอย่างพอใจจากซองยอลได้เป็นอย่างดี จากที่ยืนเตะน้ำเล่นเฉยๆก็กลายเป็นใช้มือทั้งสองข้างวักน้ำขึ้นสาด สาดใครไม่รู้ซองยอลรู้แค่อยากเล่นเท่านั้น
“ฟู่ววว”เสียงใสดังเป็นเอฟเฟกต์เมื่อสาดน้ำไปข้างหน้า ซองยอลเล่นอยู่คนเดียวสักพักก็กวักมือให้มารดามาเล่นด้วยกัน หญิงสาวทำตามที่ลูกชายขอ เธอเดินลงมาหาซองยอลและวักน้ำสาดกันอย่างสนุกสนาน ท้องฟ้าที่เคยสว่างค่อยๆมืดลง มืดลง และอากาศก็เย็นลงเรื่อยๆ ซองยอลเดินลงไปในที่ลึกขึ้นเมื่อมารดาขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูบนหาด ร่างเล็กๆนอนราบไปกับพื้นทราย ความเย็นของน้ำที่ปะทะกับผิวเนียนละเอียดสร้างความชอบใจให้เด็กน้อยยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด ใบหน้าเล็กแย้มยิ้มหวาน เป็นขณะเดียวกันกับที่มรคลื่นซัดเข้าหาฝั่ง น้ำทะเลสาดกลบร่างที่นอนอยู่บนพื้นทรายจนมิด ผู้คนแถวนั้นร้องลั่นด้วยความตกใจ บ้างตะโกนขอความช่วยเหลือ บ้างตะโกนกรีดร้อง แต่มีเด็กชายที่อยู่ใกล้ๆแถวนั้นว่ายลงไปในน้ำ รอเพียงอึดใจเขาก็โผล่ขึ้นเหนือน้ำพร้อมร่างของคนอายุน้อยกว่าในอ้อมแขน ผู้เป็นแม่ของซองยอลวิ่งเข้าดูอาการของลูกตนเองพร้อมคำจขอบคุณซ้ำๆสำหรับเด็กที่ช่วยลูกของเธอ ซองยอลสำลักน้ำเข้าไปมาพอสมควร หลังจากผายปอดซองยอลก็ไอแล้วสำลักน้ำออกมาทั้งหมด คนที่อยู่รอบๆต่างโล่งใจที่ซองยอลไมได้เปนอะไรมาก ส่วนเด็กที่มาช่วยก็ยืนขึ้น โค้งให้ผู้ใหญ่แล้วเดินจากไป ดวงตากลมโตกระพริบถี่ เหลือบเห็นเท้าและขาเพียงเล็กน้อยของคนที่มาช่วยแล้วก็หรี่ตามอง
“ซองยอล! แม่นึกว่าลูกจะไม่รอดซะแล้ว”
“ซองยอลเป็นอะไรหรอฮะ”เด็กน้อยเอ่ยถามอย่างไม่รู้ความ เขาจำได้เพียงว่ามีน้ำซัดเข้ามาแล้วโลกก็มืดไปหมดแค่นั้น
“ลูกโดนคลื่นซัด ถ้าไม่ได้พี่ชายที่ลูกวิ่งชนคงจะแย่กว่านี้ ทีหลังอย่าเล่นอะไรอันตรายนะครับ เข้าใจไหม”มารดาเอ่ยดุทันที ซองยอลพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม เธออุ้มลูกไปที่เก้าอี้ริมหาด เอาผ้าขนหนูพันตัวเพื่อนกันอากาศและลมเย็นๆ โทรศัพท์เรียกสามีที่ไปขอความช่วยเหลือว่าซองยอลปลอดภัยแล้วให้รีบกลับมา หลังจากนั้นทั้งสามก็กลับไปยังห้องพัก ซองยอลถูกห้ามไม่ให้เล่นน้ำทะเลตลอดทริป นั่นทำให้เด็กน้อยเบ้หน้าด้วยความไม่พอใจ
“เพื่อความปลอดภัยของลูกนะซองยอล”เท่านั้นแหละ เจ้าเด็กแสบก็ยอมพยักหน้าอย่างหงอยๆ
ซองยอลต้องขอบคุณพี่ชายคนนั้นตลอดชีวิตแน่ๆที่ช่วยซองยอลเอาไว้!!!!
-ariel-
อูฮยอนถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่หลายๆล้าน หลังจากที่ท่านซองกยูหลับไปเมื่อตอนนั้นก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาอีกเลย แม้ว่าจะผ่านไปแล้วหนึ่งวันก็ตาม เขาเองก็ไม่กล้าพูดอะไรตอนที่ท่านพ่อเข้ามาดู ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจด้วยซ้ำไป ตอนนี้อูฮยอนเป็นลูกเนรคุณแล้วใช่ไหม เขามันเลวมากใช่ไหมที่พูดออกไปแบบนั้น ท่านพ่อคงจะเสียใจมาก ความผิดครั้งนี้ไม่มีอะไรสามารถทดแทนได้ ท่านพ่อคงจะชังขี้หน้าอูฮยอนแล้วแน่ๆ เมื่อคิดถึงตรงนี้ร่างเล็กก็ก้มหน้าลง หยาดน้ำตาเอ่อคลอรอบดวงตา
“เจ้าร้องไห้รึ”เสียงทุ้มแหบเอ่ยขึ้นเบาๆพร้อมมือใหญ่ที่ยกขึ้นมาหมายจะจับต้องใบหน้าของคนรัก อูฮยอนขยับตัวหลบพร้อมเสียงสะอื้น
“เจ้ารังเกียจข้า..”
“ข้าไม่เคยแม้แต่จะคิดเช่นนั้น ท่านพ่อบอกข้าทั้งหมดแล้ว ถ้าท่านสัมผัสตัวข้าเกินหนึ่งนาที..ฮึก ท่าน ท่านจะทรมาน ท่านจะ..ฮึก…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว เจ้าเชื่อที่พ่อเจ้าบอกงั้นหรือ”ซองกยูถามยิ้มๆ ถึงอย่างนั้นก็อดหวั่นใจไม่ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงตาแก่นั่นชักจะร้ายกาจเกินไปแล้ว
“ท่านพ่อไม่เคยโกหกข้า ท่านอย่าจับต้องตัวข้าเลย อย่าทำให้ข้าต้องเป็นสาเหตุให้ท่านทุกข์ทรมาน”อูฮยอนขยับหนีทั้งน้ำตา แค่ถูกกีดกันออกจากกันเขาก็ทรมานแทบขาดใจ แต่ตอนนี้เพียงแค่ตัวเราสัมผัสกันเพียงนิดก็สร้างความเจ็บปวดให้กับท่านซองกยูแล้ว.. ท่านพ่อ ท่านไม่เห็นใจลูกเลยหรือ
“แต่ข้าไม่เชื่อ ตาแก่นั่นเล่ห์เหลี่ยมมากยิ่งกว่าหญิงสาว ข้าขอกอดเจ้าหน่อยจะไม่ได้เชียว”ซองกยูขยับตัวนั่งพิงหัวเตียง อ้าแขนออกทั้งสองข้างรออูฮยอนเข้ามากอด ร่างเล็กลังเลอยู่สักครู่จึงค่อยๆเข้าไปหาอ้อมอกอุ่น ใบหน้าหวานซุกเข้ากับแผ่นอกกว้าง ในขณะที่ซองกยูกัดฟันและโอบร่างของอูฮยอนหลวมๆ จริงอย่างที่ตาแก่นั่นบอก ทรมานเหมือนร่างถูกแยกออกจากกัน
“เห็นไหม ข้าไม่เห็นเป็นอะไร เจ้าน่ะเชื่อพ่อเจ้ามากไปแล้ว”ซองกยูกดจมูกลงบนกลุ่มผมนุ่ม อูฮยอนครางอื้ออึงตอบกลับ เปลือกตาบางค่อยๆปิดลงเพราะความอ่อนเพลียที่อยู่เฝ้าร่างสูงทั้งวันทั้งคืน
“ท่านดูเกร็งๆนะ ตัวข้าหนักหรือ”อดไม่ได้ที่จะทักเมื่ออีกคนหายใจอย่างแรงและเกร็งตัว พอเงยหน้าขึ้นมามองก็เห็นว่าใบหน้าของอีกคนนั้นซีดเซียวกว่าเก่า ไอและสำลักออกมาเป็นเลือดเปรอะเปื้อนที่นอน อูฮยอนยกมือขึ้นปิดปากเพราะทำอะไรไม่ถูก หันซ้ายหันขวาอยู่อย่างนั้นจนซองกยูต้องยกมือสั่นๆของตัวเองมาจับใบหน้านั้นให้นิ่งและมองตรงมาที่ใบหน้าของเขาเอง
“ไหนท่านบอกว่าท่านไม่เป็นอะไร”
“ข้าก็ไม่ได้..อึก เป็น อะ ไร”คนปากแข็งส่งยิ้มให้ อูฮยอนเบือนหน้าหนีทั้งน้ำตา ท่านเจ็บเพียงนี้ยังปฏิเสธข้าอีก ทำไมท่านต้องทำตัวเหมือนไม่เป็นอะไร ทำไมต้องทำเช่นนี้ ข้าไม่เห็นจะเข้าใจ
“ท่านกลับไปเถอะ ข้าขอร้อง..”เสียงใสสั่นเครือด้วยความกลัวว่าหากอีกคนอยู่ที่นี่นานจะแย่ยิ่งกว่านี้ ซองกยูหอบหนัก ปากพร้อมจะบอกปฏิเสะอีกครั้งแต่พอเห็นหน้าตากังวลของคนรักแล้วก็ได้แต่พยักหน้ารับไปด้วยท่าทางอ่อนแรง
“ไว้ข้าจะมาใหม่ ข้าไม่มีวันทิ้งเจ้าแน่…ถ้าหากเราจะต้องแยกจากกัน นั่นมีเหตุผลเดียว คือเจ้าเลือกที่จะจากข้าไป”มืออุ่นเลื่อนมือไปกุมมือนิ่มราวกับหญิงสาวของอูฮยอนเอาไว้ เขาไม่อาจทนได้หากจะต้องปล่อยมือนี้ไป และคงจะทนไม่ได้เช่นเดียวกันถ้ามือนี้จะปล่อยเขาไป… แต่นั่นเป็นสิทธิ์ของอูฮยอน เขาทำได้เพียงก้มหน้ารับมันเท่านั้นหากมันเกิดขึ้นจริงๆ
“ข้าไม่มีวันทำเช่นนั้น พรุ่งนี้ มะรืนนี้ท่านจะมาหาข้าเวลาใดก็ย่อมได้ ข้าจะรออยู่ที่นี่ รอจนกว่าท่านจะมา”
-ariel-
ร่างสูงใช้มือทาบกับผนังเพื่อพยุงตัวเองไม่ให้ล้มลงไปเสียก่อนที่จะถึงห้องโถง ปราสาทของเขาไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่ได้คับแคบจนเกินไป คนรับใช้ก็มีเยอะพอประมาณ แต่เหตุใดวันนี้จึงได้หายกันไปหมด คิ้วหนาขมวดแน่น ความเจ็บปวดค่อยๆจางหายไปบ้างแล้วแต่ก็ไม่หมดซะทีเดียว เขาไม่สามารถใช้พลังรักษาตนเองได้และแน่นอนว่าอูฮยอนที่มีพลังเวทย์ไม่ถึงก็ไม่สามารถรักษาเขาได้เช่นกัน จึงต้องมองหาผู้เป็นแม่เสียทั่ว แต่ก็ไม่พบ เวลาที่ข้าต้องการท่านท่านอยู่ที่ใดกัน ท่านแม่ ซองกยูตัดพ้อมารดาในใจ
“ซองกยู เจ้าว่าแม่หรือ คนอย่างนี้สมควรที่จะได้รับการช่วยเหลืองั้นหรอ”หญิงวัยกลางคนเดินมาทางด้านหลังอย่างเงียบเชียบ ซองกยูสะดุ้งที่คนเป็นแม่รู้ว่าตนคิดอะไร ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิด มารดาถอนหายใจ บอกให้คนใช้ข้างหลังถือกองหนังสือเวทย์ไปวางไวที่ห้องโถง ส่วนตัวเธอเข้าไปช่วยลูกชาย ทั้งสองเดินไปนั่งบนเก้าอี้ มือเรียวสวยตามแบบของสตรีลากผ่านส่วนต่างๆบนร่างกายของลูก ซองกยูรู้สึกว่าความเจ็บปวดจางลงเรื่อยๆจนแทบไม่หลงเหลือเค้า
“เหตุใดจึงสะบักสะบอมเช่นนี้”
“โดนตาแก่ไร้เหตุผลเล่นงานเล็กน้อยน่ะท่านแม่ ว่าแต่ท่านยกหนังสือพวกนี้ออกจากห้องสมุดเพื่อกระทำการอันใด”
“แม่ก็จะช่วยเจ้าฟื้นเวทย์น่ะสิ ขืนยังอ่อนพลังอยู่เช่นนี้เห็นทีจะจัดการอะไรๆยากสักหน่อย”มารดาถอนหายใจ ลุกขึ้นแล้วหยิบหนังสือที่มีเวทย์ต่างๆอยู่ในนั้นขึ้นมาหนึ่งเล่ม มือเรียวยื่นมาให้ซองกยูอ่าน บนแผ่นกระดาษสีเหลืองซีดๆมีวิธีฟื้นเวทย์เขียนอยู่ มันไม่เยอะมากนักแต่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากทีเดียว หลังจากทำพิธีเรียบร้อยผู้เข้าพิธีจะต้องไม่ใช้เวทย์ใดๆเป็นเวลาสามอาทิตย์ หลังจากนั้นเวทย์จะกลับมาครึ่งหนึ่งของก่อนหน้าหรือเพิ่มขึ้นจนถึงระดับที่จะสามารถเข้าพิธีต่างๆได้ ซองกยูขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่ามันไม่คุ้มเท่าไรนัก
“ที่ว่าพิธีนี่พิธีอะไรหรือท่านแม่”
“พีธีสมรส”คำตอบที่ได้รับเป็นที่พอใจของร่างสูงจนเผลอยิ้มออกมา แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามันไม่มีทางเป็นจริงความดีใจและกำลังใจเมื่อสักครู่ก็ปลิวหายไปเสียหมด เขาแต่งงานกับอูฮยอนไม่ได้ ไม่มีหนทางที่จะเป็นไปได้เลยแม้แต่นิด
“ลองเปิดอ่านดูคร่าวๆ เจ้าจะได้ปฏิบัติตัวถูกหลังจากทำพิธีฟื้นเวทย์แล้ว”มารดาบอก ซองกยูกรีดแผ่นกระดาษเก่าๆไปมา เขาไม่ได้สนใจมันเท่าไรนักเนื่องจากพอเสร็จพิธีท่านแม่ก็จะบอกทุกอย่างกับเขาอีกครั้ง เปิดไล่ไปเรื่อยๆ อ่านบ้างไม่อ่านบ้าง บังเอิญลมพัดเข้ามาผ่านหน้าต่างทำให้กระดาษเปิดไปที่หน้าหนึ่ง เป็นหน้าที่ผิดแผกไปจากแผ่นอื่น ในนั้นมีเศษกระดาษเก่าๆที่เขียนด้วยลายมือเรียบๆเสียบคั่นอยู่ ซองกยูสนใจกระดาษนั้นอยู่ไม่นานก็หันไปสนใจชื่อพิธีแทน
“เปลี่ยนเพศหรือท่านแม่ มีพีธีแบบนี้ด้วยหรือ”ซองกยูถามพลางคิดถึงอูฮยอน
“ถ้าไม่มีแล้วจะปรากฏให้เจ้าเห็นหรือ พิธีนี้จะเปลี่ยนชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชาย ทำได้กับทุกช่วงวัย”
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็ทำพิธีนี้ให้อูฮยอนได้น่ะสิ”ซองกยูเอ่ยอย่างตื่นเต้น ถ้าเขาทำให้อูฮยอนกลายเป็นผู้หญิง ปัญหาทุกอย่างก็คงจะหมดลง
“สำหรับแม่หนู ไม่สามารถเข้าพิธีได้ พิธีนี้ทำได้เพียงครั้งเดียว ผู้ที่ทำพิธีจะมีความผิด และต้องรอรับโทษจากเบื้องบน”หญิงวัยกลางคนหันกลับมามองซองกยู เธอเดินเข้ามาพร้อมกับวางมือลงบนไหล่กว้างของลูกชายพร้อมรอยยิ้มบางบนใบหน้าสวย
“เมื่อแม่ทำพิธีให้เจ้าแล้ว แม่จะให้เจ้าลงไปอยู่บนโลกมนุษย์สามอาทิตย์ เราจะคุยเรื่องนี้กันอีกครั้ง”
-ariel-
หลังจากเสร็จพิธีร่างสูงก็นั่งรอแขกของมารดาอยู่บนโต๊ะอาหาร เขาไม่อยากไปเลยสักนิด ถ้าเขาไปนั่นหมายความว่าจะไม่ได้เจอกับอูฮยอน ถ้เป็นเช่นนั้นจริงเขาคงขาดใจตายกันไปข้างหนึ่ง ท่านแม่คงจะไม่ได้ใช้โอกาสนี้ทำให้เขากับอูฮยอนห่างกันหรอกใช่ไหม ท่านออกจะเอ็นดูอูฮยอนขนาดนั้น
“เชิญทางนี้ นั่นลูกชายข้า ซองกยู..ซองกยู นี่ฮีชอล เขาจะพาลูกไปโลกมนุษย์ คุยกันตามสะดวก แม่จะไปดูดอกไม้เสียหน่อย”เมื่อมารดาลับสายตาไปซองกยูกลุกขึ้น เดินเข้าไปหาแขกอย่างจริงจัง
“ข้าสามารถพาใครอื่นไปด้วยได้หรือไม่”
“ตามที่เจ้าประสงค์ ข้าไม่ขัดข้อง”เมื่อคำตอบเป็นดังหวังวองกยูก็เผยยิ้ม เอ่ยขอบคุณอีกฝ่ายก่อนจะนัดแนะเรื่องเวลาในการเดินทางอีกเล็กน้อยและแยกย้ายกันไป ร่างไม่สามารถเก็บรอยยิ้มแห่งความดีใจเอาไว้ได้ ไม่ต้องห่วงหรอกอูฮยอน..ข้าไม่ทิ้งเจ้าแน่ ไม่ทิ้ง และไม่มีวันทิ้ง
หนูน้อยซองเดินเล่นอยู่ริมหาด ผืนทรายนุ่มเรียกริยยิ้มบนริมฝีปากเล็กให้ปรากฎขึ้น เท้าเล็กย่ำไปตามผืนทรายขาวละเอียด ซองยอลชอบทะเลม้ากมาก แถมยังเสียใจด้วยที่คุณแม่กับคุณพ่อไม่ให้เล่นน้ำทะเล แต่ไม่เป็นไรหรอก ซองยอลเป็นเด็กดี ซองยอลจะไม่แอบเล่น เพื่อนๆก็เป็นเด็กดีใช่ไหม เพราะฉะนั้นอย่าขัดคำสั่งคุณพ่อกับคุณแม่นะฮะ
“อ้าว ไม่เป็นอะไรแล้วนี่”มีคนมาสะกิดหลังซองยอลให้หันไปมองพร้อมคำพูดแปลกๆชวนสงสัย
“ใครฮะ”
“พี่ช่วยนายไว้นะ จำไม่ได้หรอ”อ่า พี่คนที่ช่วยซองยอลเอาไว้น่ะหรอ จำไม่เห็นได้เลยแฮะ ซองยอลไม่เห็นหน้านี่นา เห็นแต่เท้าอย่างเดียว เพราะฉะนั้นจำไม่ได้หรอก
“ขอบคุณฮะ”รน้องน้อยยิ้มหวานแล้วชวนคนเป็นพี่เล่นด้วยกันจนถึงเย็น สนุกจนลืมถามชื่อของกันและกัน พอคุณแม่มาเรียกนั่นแหละถึงได้รีบถาม แต่พี่คนนั้นก็ไม่ตอบอะไรจนวองยอลต้องคิดคำขึ้นมาเอง คุณครูเคยบอกว่า ถ้าใครช่วยเหลือคนอื่นแสดงว่าเป็นคนใจดี พี่คนนี้ก็ช่วยซองยอลเพราะฉะนั้น..
“บ๊ายบายนะฮะพี่ใจดี”ซองยอลจะเรียกพี่คนนี้ว่าพี่ใจดี จะไม่ลืมด้วย หวังว่าเราคงได้เจอกันอีกนะฮะ >____________<
.
.
.
.
.
“คุณแม่!!! หนังสือนิทานของซองยอลหายไปสามเล่ม!!”เด็กน้อยตะโกนลั่น วิ่งไปซบอกคนเป็นแม่แล้วทำหน้าเศร้าที่หนังสือนิทานของตนหาย มารดาถอนหายใจ ตายล่ะ หนังสือนิทานของน้องยอลหายแล้วก่อนนอนจะเล่าอะไรให้เด็กน้อยคนนี้ฟังจนหลับกัน…
“ไว้พอกลับจากเที่ยวคุณแม่จะพาไปซื้อนะครับ ตกลงไหมเอ่ย”
“แต่ซองยอลอยากฟังนิทาน..”ใหน้าเล็กงอง้ำเมื่อใม่ได้ดั่งฝใจ แต่จะให้ทำอย่างไรในเมื่อตอนนี้ออกไปซื้อก็ไม่รู้จะหาที่ไหนให้
“อย่าดื้นะครับ เดี๋ยวคุณแม่พาไปซื้อนะ ไม่ร้องๆ คนเก่งของแม่ ไหนดูซิว่ามีช่องไหนมีการ์ตูนบ้างน๊า”หญิงสาวหลอกล่อลูกน้อยให้คล้อยตาม เอเปิดช่องการ์ตูนให้ซองยอลดูจนหลับไปในอ้อมแขน
อ้าว! แย่ล่ะสิ หนังสือนิทานซองยอลหายแล้วเด็กน้อยจะฝันได้ยังไงกัน?
TALK:D
หายไปนาน อนุญาตให้กลับไปอ่านตอนเก่าค่ะ TOT เราดองนานมากจริงๆ
เรามีข่าวแจ้งเพิ่มนิดดดดดนึงงง คือเราว่าเราจะหยุดอัพไปก่อนเพราะเราต้องสองเข้ามอสี่น่ะค่ะ หวังว่าทุกคนจะเข้าใจ .. ไปอ่านเรื่องอื่นก่อนไม่ว่าแต่เรากลัวกลับมาแล้วไม่มีคนอ่านง่ะ TwT ไม่เป็นไร.. เราจะทำใจเพราะเราผิดเอง ฮึกกกก ก็หวังอยู่ลึกๆว่าทุกคนจะรอเรา
คิดถึงเราก็ทักเราในเฟสได้นะคะ #มีหรอ จิ้มๆ ถ้าเกิดว่าจะแอดเราแนะนำตัวด้วยน้าา เพราะถ้าเราไม่รู้จักเราจะไม่รับแอด
ยังไงก็เอนจอยกับตอนนี้มากๆนะฮับ #ว่าจะไปเปลี่ยนชื่อฟิคเป็นกยูอูละ = = แลดูเยอะกว่ามยองยอลอีก
เราคิดถึงทุกคนอยู่ทึกเวลา ฮริ้งงงงงงง
ขอบคุณที่อุตส่าห์สละเวลามาเมนท์ให้ ขอบคุณที่กดเฟบ ขอบคุณที่รักกันนนนนน ขอบคุณทุกครั้งที่คอยปลอบฉันน #ผิด
ไว้เจอกันนะคะ T^T/~
ความคิดเห็น