ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    infinite ; NITHAN {myungyeol}

    ลำดับตอนที่ #8 : นิทานเรื่องที่เจ็ด - อันนา {ร้อยเปอร์เซ็นต์}

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 158
      0
      27 เม.ย. 58

    ร่างของอูฮยอนที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงนั้นเรียกรอยยิ้มจากคนที่มองมาได้เป็นอย่างดี อูฮยอนน่าเอ็นดู.. เหมือนเด็กตัวเล็กๆที่เล่นจนเหนื่อยอ่อนแล้วก็นอนพักผ่อนเอาแรงเพื่อที่จะออกไปเที่ยวเล่นต่อไป ซองกยูเผลอหัวเราะออกมาก่อนจะดึงผ้าห่มคลุมให้คนตัวเล็กจนถึงคอแล้วออกไปอ่านหนังสือเวทย์ที่ฮีชอลอุตส่าห์กลับไปเอามาให้ที่ห้องนั่งเล่น

     

    ว้าวว ท่านดูดีไม่น้อยเลยนี่เสียงของบุรุษที่สามดังขึ้นที่บริเวณระเบียง นั่นทำให้ซองกยูรู้ได้ทันทีว่าผู้มาเยือนนั้นไม่ใช่ใครอื่น หากเป็นคิมฮีชอลนั่นเอง ร่างโปร่งเดินเข้ามาหาร่างสูงที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลเข้มกับกางเกงยีนส์อย่างชื่นชม ซองกยูโบกมือไปมาในอากาศเป็นเชิงไม่ใส่ใจกับเรื่องที่อีกฝ่ายตื่นเต้น ฮีชอลจึงเปลี่ยนเรื่องคุย

     

    อูฮยอนยังไม่ตื่นหรือ

     

    ถ้าตื่นเจ้าก็คงเห็นคำตอบนั้นทำเอาฮีชอลนึกอยากจะหยิบคัมภีร์เวทย์ขึ้นมาฟาดลงที่กลางศีรษะนั่นนัก ถ้าไม่ติดที่ว่าเขามีมารยาทมากพอล่ะก็

     

    เชิญท่านตามสบาย ข้าจะนั่งอยู่เงียบๆก็แล้วกันซองกยูไม่ได้ตอบโต้อะไรต่อไป ดวงตาเรียวเล็กจดจ้องตัวหนังสือโบราณที่ปรากฏบนแผ่นกระดาษอย่างสนใจ เขากำลังศึกษาเวทย์ต่างๆเผื่อว่าต้องใช้มันในอนาคต เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง ประตูห้องนอนที่เคยปิดสนิทก็ถูกเปิดออกโดยฝีมือของนัมอูฮยอน ร่างเล็กโผล่เพียงแค่ส่วนหัวออกมาจากห้อง ใบหน้าหวานโผล่ออกมาจากประตูที่เปิดแง้มๆไว้เพียงเล็กน้อย มือเล็กกวักเรียกคนรักให้เข้าไปหาตนด้วยใบหน้าแดงก่ำ

    มีอะไรหรือ

     

    เอ่อคือท่านเข้ามานี่ก่อนอูฮยอนตัดสินใจดึงซองกยูเข้ามาในห้องนอนแล้วปิดประตูลง ร่างเล็กถอนหายใจออกมาเล็กน้อยแล้วทำท่าอ้ำๆอึ้งๆจนซองกยูเองหลุดขำเพราะไม่เคยเห็นอูฮยอนเป็นเช่นนี้

     

    เอ่อ อะ..ไอ้นี่ มันต้องทำอย่างไรหรือ..?”นิ้วป้อมชี้ไปที่ซิปกางเกงของตนเองด้วยความเขินอาย ซองกยูยิ้มขำแล้วดึงอีกคนเข้ามาใกล้ๆหลังจากนั้นจึงดึงซิปกางเกงขึ้นให้ เสียงเอ่ยขอบคุณดังขึ้นเบาๆในห้องโปร่ง ซองกยูยกมือขึ้นขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างหมั่นเขี้ยวในความน่ารักของอีกคน

     

    ออกไปข้างนอกเถอะ ฮีชอลรอเจ้าอยู่ทั้งสองเดินออกจากห้องด้วยรอยยิ้มที่ฮีชอลเห็นแล้วเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นอยงฉับพลัน พาลูกเขาหนีมายังจะสามารถยิ้มแบบนั้นได้อยู่อีกรึ ถ้าจะว่ากันตามตรงบอกว่าหนีตามกันมายังจะถูกต้องเสียมากกว่า เฮ้อ..

     

    เห็นเจ้าบอกว่าอยากไปเที่ยว ข้าก็จะพาไปเมื่อเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของนมอูฮยอนฮีชอลจึงต้องบอกจุดประสงค์ที่ตนมาปรากฏตัวในเช้าวันนี้ ซึ่งเหตุผลนั้นก็สร้างรอยยิ้มแบบเด็กๆจากอูฮยอนได้เป็นอย่างดี มีใครบ้างที่มาต่างเมืองแล้วจะยอมอุดอู้อยู่แต่ในห้องเพียงอย่างเดียว

     

    ท่านจะพาข้าไปที่ใด!เสียงใสเอ่ยย่างตื่นเต้น ดวงตากลมเปล่งประกายระยิบระยับ

     

    ข้าจะพาไปเดินแถวนี้แหละ แต่อย่างแรกที่พวกท่านจะต้องเปลี่ยนคือคำพูด.. เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าทำหน้าเบื่อหน่ายตอนที่ข้ากำลังพูดสิ นั่นเสียมารยาทมากนะท่านซองกยูฮีชอลหันไปทำหน้าดุใส่คนที่ปั้นหน้าบึ้ง

     

    พวกท่านจะต้องเปลี่ยนคำเรียกและสำนวนภาษาเสียใหม่ มนุษย์บนโลกจะไม่ใช้คำว่าเจ้า หรือข้า หรือท่าน อะไรก็ตามแต่ที่พวกเราใช้อยู่แต่จะเป็นคำว่า ฉัน นาย เธอ พี่ เค้า ตัวเอง เรา แก หรือจะใช้ชื่อตัวเองเรียกแทนก็ได้นะ อ้อๆ ข้าลืมบอกไป บางคนเขาก็ใช้คำว่าเตี้ย อ้วน โย่งอะไรแบบนี้เรียกกันด้วยล่ะ นี่ยังไม่นับฉายาที่ข้าเคยได้ยินมาอีกนะ อ่า มันเยอะมากทีเดียวฮีชอลร่ายยาวโดยที่ไม่ได้มองทั้งสองคนที่เหลือในห้องเลยว่าทำหน้าตาอย่างไรอยู่ อูฮยอนโดนซองกยูดึงให้นั่งลงบนตักแล้วหยิบหนังสือเวทย์มาชี้ให้คนตัวเล็กดู

     

    เจ้าคิดว่าอย่างไร..

     

    ท่านกำลังคิดว่าข้าถูกทำพิธีนี้หรืออูฮยอนขมวดคิ้วมุ่น ซองกยูถอนหายใจ เขาก็ยังไม่แน่ใจนักแต่สิ่งที่เขารู้มันคาใจนัก พี่สาวของอูฮยอนหายไป.. หายไปนานแล้ว และไม่มีใครได้ข่าวเธอเลย

     

    อาจเป็นไปได้..

     

     

     

     

     

     

    นี่พวกเจ้าไม่ได้ฟังที่ข้าพูดอย่างนั้นรึ!!!

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    พี่กยู!! ดูนี่สิ!มือเล็กหยิบสร้อยข้อมือสีเงินขึ้นมาจากโต๊ะที่วางขาย ดวงตาใสเปล่งประกายคล้ายถูกใจสิ่งขงที่ตนหยิบขึ้นมาดู ซองกยูเหลือบมองฮีชอลอย่างขอความเห็น มนุษย์โลกจะใช้เงินตราในการแลกเปลี่ยนสินค้า แต่ตอนนี้เขาไม่มีเงินนั้นสักวอนเดียว เพราะปกติก็สามารถหาเอาได้เอง หรือไม่ก็ร่ายเวทย์ซะ แล้วเขาจะจัดการอย่างไรกับเด็กตรงหน้านี้ดี..

     

    ท่านอ่า ฮีชอล มีเงินให้ฉันยืมก่อนไหม

     

    แล้วจะหาคืนฉันยังไง

     

    ไว้ข้าจะร่ายเวทย์เสกของให้เจ้าสักชิ้นเป็นการตอบแทนซองกยูกระซิบเบาๆเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ยิน สุดท้ายแล้วเขาก็ได้เงินมาไว้ในครอบครอง อูฮยอนดูจะดีใจมากเมื่อเขาเอ่ยปากบอกว่าจะซื้อสร้อยเส้นนั้นให้

     

    ขอบคุณฮะ.. มันสวยมากเลยอูฮยอนชูสร้อยข้อมือขึ้นบนฟ้า แสงจากพระอาทิตย์ที่ส่องลงมากระทบยิ่งทำให้มันดูสวยงามขึ้นอีกเป็นเท่าตัว รอยยิ้มที่แสดงถึงความหลงใหลปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน ซองกยูเองก็พลอยยิ้มตามไปด้วย

     

    ใส่มันสิ

     

     

     

    หลังจากที่ดูของกันจนหนำใจแล้วฮีชอลก็พาทั้งคู่เข้าร้านกาแฟ ปกติทูตจะไม่ค่อยหิวนัก กินหนึ่งมื้ออยู่ต่อได้อีกสามวัน นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงไม่อ้วนลงพุงอย่างมนุษย์ แต่ก็มีทูตบางองค์ที่กินไม่หยุดปากเหมือนกันน่ะนะ ฮีชอลจัดการสั่งกาแฟสามแก้วและเค้กอีกเล็กๆน้อยกินเล่นไปพลางๆ ส่วนอูฮยอนนั้นนั่งยุกยิกไม่หยุดตั้งแต่เข้าร้านมา

     

    ท่านฮีชอล เหตุใดอยู่ดีๆอากาศถึงเย็นขึ้นมาได้เล่าเสียงใสกระซิบแผ่วเบาในร้านกาแฟที่แอร์เย็นเจี๊ยบ มือเล็กยกขึ้นมาลูบแขนทั้งสองข้างของตนเองเบาๆเป็นการแสดงออกว่าเจ้าตัวนั้นหนาว ฮีชอลถึงกับหลุดขำเล็กน้อยกับคำถามนั้น

     

    เพราะแอร์น่ะ ที่นี่จะมีแอร์ไว้เพื่อเพิ่มความเย็น

     

    ทั้งๆที่อากาศก็ดีอยู่แล้วแท้ๆ.. อ้ะ มาแล้วล่ะ!อูฮยอนยกนิ้วชี้ไปที่พนักงานชายที่ถือถาดขนมมาด้วย รอยยิ้มแบบเด็กซุกซนที่กำลังหิวสร้างความเอ็นดูให้กับผู้พบเห็นหลายๆคน อายุก็ปาเข้าไปตั้งร้อยกว่าปีแล้วแท้ๆนะอูฮยอนอา ซองกยูยกจานเค้กไปไว้ตรงหน้าอูฮยอนที่ถือซ้อมเตรียมจะทานได้เสมอ กาแฟแก้วกลางถูกวางไว้ตรงหน้าอูฮยอนเป็นอย่างต่อไป ซองกยูมองคนตัวเล็กที่ลิ้มรสเค้กและกาแฟอย่างตื่นเต้นอยู่เงียบๆ ก็พึ่งเคยเห็นท่าทีแบบนี้ของอูฮยอนเป็นครั้งแรกเหมือนกัน..

     

     

     

    Anna

     

     

     

    คิมซอนอิน!! ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่! ลูกชายเจ้าพาลูกข้าไปไว้ที่ใด!!! ซอนอิน!!ชายมีอายุตะโกนเสียลั่น ผู้ถูกเรียกเดินออกมาปรากฏกายให้อีกคนเห็นพร้อมใบหน้าที่สงบนิ่งเหมือนเช่นทุกวัน

     

    ท่านอินฮวา เหตุใดท่านจึงไม่ทำตนให้เหมือนเฉกเช่นชื่อท่านบ้างเล่า

     

    ลูกชายเจ้าพาลูกข้าไปซ่อนไว้ที่ใด!!

     

    ไม่มีผู้ใดฝืนโชคชะตาได้ ถึงแม่หนูจะผ่านมาได้แล้วหนึ่งครั้ง แต่ท่านไม่คิดหรือ ว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย ข้าไม่รู้ว่าลูกข้าพาแม่หนูไปที่ใด แต่เมื่อถึงเวลาพวกเขาจะกลับมาเอง ในเวลานี้ท่านควรพักผ่อนให้เพียงพ่อเพื่อต่อกรกับพวกทางใต้เห็นจะเป็นการดีกว่า ซองกยูจะไม่มีวันทำร้ายแม่หนู

     

    เจ้านั่นยังไม่รู้….ถ้าลูกข้าเป็นอะไรไป ลูกเจ้าจะเจ็บแทนลูกข้า!

     

    ซองกยูยินดีที่จะรับความเจ็บปวดนั้นแต่เพียงผู้เดียวซอนอินหลับตาลงแล้วยิ้มบางๆ เธอสามารถหยั่งรู้อนาคตแต่ไม่สามารถบอกใครได้ เพราะเมื่อใดที่เธอเอ่ยปากบอกอันตรายจะนำมาสู่ตัวเธอเอง เธอจึงทำได้เพียงแค่เตือนและบอกอีกฝ่ายเป็นนัยแทน

     

     

     

    แม่หวังว่าเจ้าคงจะไม่กระทำการอันใดที่เป็นการลดเวทย์ตนเอง เพราะอีกไม่นานเจ้าจะต้องใช้มันเพื่อปกป้องคนที่เจ้ารัก คิมซองกยู

     

     

     

     

     

     

    อากาศภายนอกที่เย็นลงเรื่อยๆเพราะค่อนข้างเย็นมากแล้ว ฮีชอลลุกจากร้านเค้กที่นั่งมาร่วมสองชั่วโมงเพราะอูฮยอนอยากกินนั่นอยากลองนี่อยู่เรื่อย ซองกยูสะกิดอูฮยอนที่ดูเหมือนจะอยากผลาญเงินในกระเป่าของฮีชอลต่อ ร่างเล็กทำหน้ายู่ก่อนจะยอมเดินตามออกไป พวกเขาทั้งสามเดินกลับคอนโดด้วยความเหนื่อยล้า..

     

    เงินฉันหายไปเยอะเลยนะเนี่ยฮีชอลบ่นขึ้นลอยๆพลางหยิบกระเป๋าเงินตนเองออกมาเปิดดูด้วย นี่ไม่ได้พูดให้อูฮยอนรู้สึกผิดเลยนะ เงินมันหายไปเยอะมากจริงๆ

     

    ข้าขอโทษ เพราะความอยากของข้าแท้ๆ ข้าจะหามันมาคืนท่านในวันหลังอูฮยอนบอกด้วยความรู้สึกผิด เขาไม่รู้ราคาของของพวกนั้นเลยสักอย่างเดียว ตอนนั้นนึกอยากก็สั่ง.. ไม่น่าเลยนัมอูฮยอน! เจ้านี่มันแย่จริงๆ! ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นทุบหัวตัวเองด้วยความโมโห ทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกแล้วนะ

     

    ดูแลตัวเจ้าให้ดีก็พอนัมอูฮยอน โชคชะตาของเจ้า.. ถูกกำหนดไว้แล้วฮีชอลทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้นก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องของตน ทิ้งให้ซองกยูและอูฮยอนยืนกังวลอยูหน้าประตูห้องที่ทั้งสองพักอาศัยเมื่อคืน

     

     

    ท่านฮีชอลเตือนเช่นนั้น จะมีเรื่องร้ายแรงงั้นหรือ

     

     

    ซองกยูและอูฮยอนเลือกที่จะเมินเฉยต่อคำพูดเหล่านั้นแล้วกลับมาพักผ่อนร่างกายในห้องตามเดิม หนังสือเวทย์ยังคงป็นเพียงสิ่งเดียวที่ช่วยคลายความเบื่อหน่ายให้กับคนทั้งคู่ ซองกยูนั่งจ้องหน้ากระดาษเดิมมานานมากแล้ว และความกังวลปนกับความรู้สึกแปลกๆก็ไม่หายไปเสียที

     

    อูฮยอน เจ้าเคยเห็นหน้าพี่สาวเจ้าบ้างหรือไม่

     

    ข้าเคยเห็นเพียงแค่ในรูป ท่านพ่อเล่าให้ข้าฟังว่าระหว่างห้าปีที่ท่านพี่ได้ออกมาเล่นข้าเอาแต่นอนอยู่บนเตียงเพราะร่างกายอ่อนแอมาก ดังนั้นพอปีที่หก ท่านพี่หายไปแต่ข้ากลับร่างกายแข็งแรงขึ้นจนสามารถจะออกมาข้างนอกได้ แต่ข้าจำอะไรระหว่างห้าปีนั้นไม่ได้เลย

     

    เจ้าจำได้ก็แปลกคน เรื่องมันผ่านมาร้อยปีได้แล้วซองกยูหัวเราะเบาๆแล้วยื่นมือไปลูบศีรษะทุยให้อีกฝ่ายสบายใจ

     

    ท่านซองกยู ท่านว่า..เนื้อคู่ท่านจะเป็นหญิงใดหรือคนตัวเล็กเดินมาหยุดอยู่ด้านหลังซองกยูแล้วยกแขนโอบรอบคออีกคน น้ำเสียงหงอยๆนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่านัมอูฮยอนกำลังกังวลเรื่องเนื้อคู่ของเขา ไม่ใช่เพียงแค่มนษย์เท่านั้นที่ถูกกำหนดนเอคู่ แต่ทูตอย่างเราๆก็ถูกกำหนดเช่นกัน

     

    เธอเป็นใครข้าไม่รู้หรอก ข้ามีเจ้าอยู่ตรงนี้ เท่านั้นก็เพียงพอ

     

    ไม่ได้หรอก ข้าเคยได้ยินมาว่าเมื่อหญิงที่เป็นเนื้อคู่ของผู้ใดเจ็บ ความเจ็บนั้นจะถูกถ่ายโอนมาให้ผู้นั้น ดังนั้นการพิสูจน์เนื้อคู่ส่วนใหญ่จะเป็นการทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บตัว ข้าไม่รู้หรอกว่ามันจริงเท็จหรืออย่างไร ข้าเพียงแต่พูดขึ้นเพราะห่วงท่านเท่านั้น

     

    ความจริงแล้ววีธีนั้นมีอีกมากมาย พวกเจ้าลองพลิกไปที่หน้าหลังสุดของหลังสือเวทย์นั่นสิ ถ้าข้าจำไม่ผิดจะมีวีธีพิสูจน์เนื้อคู่อยู่ๆฮีชอลก็ขึ้นมานั่งบนระเบียงห้องพร้อมคำแนะนำที่ทำให้ทั้งสองคนต้องยิ้มออก

     

    พวกเจ้าจะลองด้วยกันก็ไม่เสียหายอะไรร่างโปร่งยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจแล้วมองคนสองคนที่ยืนมองหน้ากันนิ่งๆอย่างนึกสนุก

    .

    .

    .

    .

    .

     

    วีธีแรกจ้องตากันเป็นเวลาหนึ่งนาที หากทั้งคู่เป็นเนื้อคู่กันจะมีรอยสักปรากฏขึ้น

     

     

     

    จ้องกันจนน้ำตาจะไหลก็ยังไม่เกิดอะไร

     

     

     

     

    วิธีที่สองอันนี้ยุ่งยาก ข้าว่าข้ามเถอะ

     

    วิธีที่สาม ขนาดนิ้วนางของคนทั้งสองจะเท่ากัน..”ฮีชอลอ่านจบก็ปรายมามองนิ้วอูฮยอนก่อนจะส่ายหน้าไปมา ข้าว่าไม่ต้องเทียบก็น่าจะรู้ ด้วยคำพูดนั้นทำเอาอูฮยอนยู่หน้าด้วยความไม่พอใจ นิ้วสั้นแล้วเดือดร้อนใครหรือยังไงกัน!!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    วิธีที่สิบเก้า พวกเจ้าท่องตามข้า จับมือกันไว้ด้วย..อมอร์เตนูรา ลาสกาเอสการ์  อเฟโต

     

    อมอร์เตนูรา ลาสกาเอสการ์  อเฟโตทั้งสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน มือประสานกันแน่น เมื่อจบคำความเจ็บแปลบที่ต้นคอของอูฮยอนทำให้ต้องปล่อยมือออกมากุมไว้ ขณะเดียวกันซองกยูเองก็ยกมือขึ้นจับต้นแขนด้วยใบหน้าเจ็บปวด

     

    ดูเหมือนว่าจะแสดงผล...ฮีชอลเปรยขึ้นลอยๆ ในขณะที่คนสองคนทรุดลงนั่งกับพื้น หยาดน้ำตาคลอหน่วยที่ดวงตาของอูฮยอน การพิสูจน์ความจริงมักต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด

     

    ผ่านไปสักพักพวกเจ้าจะดีขึ้น มันเป็นปฏิกิริยาเมื่อพวกเจ้าเจอเนื้อคู่ รอยสักจะเป็นตัวย่อชื่อของพวกเจ้า..เบื้องบนรับรู้ในความรักของพวกเจ้าทั้งสองแล้วรอยยิ้มบางเบาถูกวาดขึ้นบนใบหน้าเรียว ฮีชอลกระโดดลงไปจากระเบียง ทิ้งให้ซองกยูและอูฮยอนอยู่ด้วยกันสองคนเพื่อคิดหาทางว่าจะทำอย่างไรต่อไปและสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าจะเกิดนี้คืออะไร

     

    ท่านซองกยู ท่านฮีชอลบอกว่ารอยจะเป็นตัวย่อชื่อของเราสองคนใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นแล้วเหตุใดตัวอักษรที่ปรากฏอยู่จึงไม่ใช่ชื่อข้าเล่า..”อูฮยอนท้วงเมื่อเห็นว่าตัวอักษรที่ปรากฏนั้นคือKSGNJH หากมองเพียงผิวเผินก็ไม่อาจรู้ได้ว่านั่นมิใช่ชื่อของนัมอูฮยอน แต่เพราะตัวอักษรตัวกลางที่ปรากฏอยู่สร้างความสงสัยปนตื่นตระหนกให้กับทั้งสองคนได้ไม่ยาก

     

    อาจมีบางอย่างผิดพลาด..เสียงใสเอ่ยอย่างท้อแท้ เขาเองก็เผื่อใจไว้บ้างในตอนแรกว่าตนนั้นไม่ใช่เนื้อคู่ของท่านซองกยู ในเมื่อผลออกมาเป็นเช่นี้ ก็คงทำได้เพียงยอมรับความจริง

     

    หรือมีใครตั้งใจให้มันผิดพลาดซองกยูยิ้มก่อนจะจูบลงบนหน้าผากมน

     

    ท่านหมายความว่าอย่างไร

     

    เราอาจหาคำตอบได้ หากกลับไปที่บ้าน และถามพ่อของเจ้าเกี่ยวกับพิธีนั่นเป็นอีกครั้งที่ความตึงเครียดมากมายวนกลับไปมาอยู่ในสมองของซองกยู เขาพยายามคิดหาคำตอบว่าเพราะเหตุใดเขาและอูฮยอนจึงรักกัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ เบื้องบนกำหนดเนื้อคู่ของแต่ละคนไว้แล้วตั้งแต่เกิด และ เบื้องบนไม่มีทางกำหนดเนื้อคู่ผิดกฎ ดังนั้นจึงต้องมีใครเล่นตลกกับโชคชะตาของเขาทั้งสองคนเป็นแน่

     

     

     

     

     

    พิธีแปลงเพศที่ผิดกฏนั่น อาจเป็นสาเหตุของเรื่องราวต่างๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    หลังจากความจริงเปิดเผยพวกทางใต้จะบุกทางเหนืออีกครั้งซอนอินเอ่ยขึ้นหลังจากได้รับสารจากผู้ชี้ชะตา การกลับมาของซองกยูและอูฮยอนจะสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ในรอบร้อยปี ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่มีใครเลี่ยงได้ แม่หนูมีค่ามากเกินกว่าที่จะฆ่าเพื่อความสงบสุขของเมืองทางเหนือ

     

     

     

    Anna

     

     

     

    ในอาณาจักรแห่งเอเรนเดลล์ พระราชาและพระราชินีมีพระธิดาสองคน เจ้าหญิงเอลซ่า พระธิดาองค์โต และเจ้าหญิงอันนา พระธิดาองค์เล็ก ….

     

     

     

     

    แต่ซองยอลไม่มีพี่น้องเสียหน่อย!!!

     

     

     

     

    อะๆ เปลี่ยนใหม่ก็ได้

     

     

     

     

     

     

     

    ในอาณาจักรแห่งเอเรนเดลล์ พระราชาและพระราชินีมีพระธิดาหนึ่งคน คือเจ้าหญิงซองยอล ฟังดูขัดหูแปลกๆ = =

     

     

    เล่าๆไปเถอะน่า..

     

     

     

    โอเค้

     

     

     

     

    เจ้าหญิงซองยอลเป็นเด็กที่น่ารัก ริมฝีปากแดงอวบอิ่ม ดวงตากลมใสดั่งลูกแก้ว เรือนผมนุ่มสีน้ำตาลเข้ม แก้มยุ้ยแดงปลั่ง ทุกๆอย่างสร้างสรรค์ให้ซองยอลกลายเป็นเด็กที่น่ารักและสมบูรณ์แบบ แต่เมื่อเธอเขาอายุได้ห้าปี พระราชาและราชินีกลับด่วนจากไปเพราะโรคร้าย เด็กน้อยต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางปราสาทที่กว้างใหญ่และคนรับใช้ที่คิดไม่ซื่อมากมาย เด็กน้อยวัยห้าขวบต้องพบปะผู้คนมากหน้าหลายตาด้วยตัวเพียงคนเดียว

     

    อ..อะไรเนี่ย ทำไมหนาวขนาดนี้!!เสียงเล็กหวีดร้องเมื่ออยู่ดีๆก็มาโผล่ในที่แปลกตา หิมะสีขาวโพลนไปทั่วพื้นที่  แถมอากาศยังหนาวเย็นจนมือเท้าชาอีกต่างหาก จมูกเล็กๆแดงก่ำและเย็นเฉียบบ่งบอกถึงความโหดร้ายของอากาศภายนอกได้เป็นอย่างดี ซองยอลถูมือไปมาเหมือนที่เคยเห็นผู้ใหญ่ทำเวลาหนาวแต่เด็กน้อยกลับพบว่านั่นไม่ได้ช่วยอะไรตนเองสักเท่าไรนัก ดังนั้น เมื่อต้องอยู่ท่ามกลางหิมะและลมหนาวซองยอลจึงลองหันมองรอบๆตัว คล้ายกับโชคเข้าข้าง ดวงตาใสสังเกตุเห็นอะไรบางอย่างที่มีรูปร่างคล้ายกับบ้านคนอยู่อีกไม่ไกลนัก หากแต่ถ้าเป็นในวันที่มีหิมะตกเช่นนี้คงจะเดินยากเสียหน่อย..

     

     

    แล้วใครสนกันล่ะ!!!?

     

     

     

    เมื่อตัดสินใจได้แล้วเท้าเล็กๆทั้งสองข้างก็ก้าวเดินต่อไปอย่างไม่ลดละซึ่งความพยายาม ย่ำลงไปบนหิมะหนาแล้วชักเท้ากลับขึ้นมาเพื่อย่ำต่อไปในก้าวต่อไป ด้วยความมุ่งมั่นของเด็กชายทำให้เขาถึงหน้าบ้านไม้เก่าๆหลังนั้นได้สำเร็จ แต่ทว่าบ้านนั้นกลับไม่สามารถเปิดได้เสียอย่างนั้น เสียงใสฮึดฮัดอย่างขัดใจ ทั้งๆที่อุตส่าห์เดินมาถึงนี่แล้วแท้ๆแต่กลับไม่สามารถเข้าไปหลบลมหนาวข้างในได้เสียอย่างนั้น เท้าเล็กๆภายใต้รองเท้าบู๊ทเตะเข้าที่ประตูไม้แรงๆเผื่อประตูจะเปิดแต่ก็ไม่ ซองยอลคู้ตัวลงนั่งกอดเข่าบนพื้น ซุกตัวเข้าหาบ้านไม้เผื่อว่าจะได้รับความอบอุ่นขึ้นมาบ้างก่อนจะหลับตาลงและเข้าสู่ห้วงนิทราในเวลาต่อมา

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

                เฮ้ มานอนทำไมตรงนี้น่ะมือที่ใหญ่กว่าซองยอลนิดหน่อยแตะลงบนไหล่เล็กอย่างเบามือ สีหน้าแสดงออกถึงความเป็นห่วงอย่างชัดเจน เด็กน้อยงัวเงียตื่นขึ้นแล้วจ้องผู้มาใหม่ด้วยดวงตาใสแจ๋วแถมยังไม่ตอบอะไรกลับไปจนคนถามถอนหายใจก่อนจะดึงมือเล็กให้อีกคนลุกขึ้นยืน

     

     

                ใครน่ะ อย่ามายุ่งกับซองยอลนะคำพูดที่เหมือนจะดุแต่กลับไม่น่ากลัวเอาเสียเลยเมื่อออกมาจากปากของคนอายุน้อยกว่าแถมยังกำลังง่วงอย่างสุดขีดอย่างนี้ คนที่แวะมาถามด้วยความเป็นห่วงเบ้หน้าแต่ก็ตัดสินใจอุ้มเด็กน้อยจนตัวลอยขึ้นไปอยู่บนหลังกวางตัวใหญ่ ซองยอลไถลตัวลงไปนอนซบขนยาวๆของมัน ริมฝีปากน้อยอมยิ้มให้กับความอบอุ่นจากสัตว์ใหญ่ หลังจากที่สังเกตุอีกฝ่ายเขาก็ขึ้นคร่อมสัตว์เลี้ยงของตนเองพร้อมกับบอกให้มันหาที่หลบหนาวก่อนในคืนนี้

     

    เจ้าสัตว์สี่เท้าขนดกย่ำหิมะในวันที่อากาศหนาวจัดอย่างไม่ลดละในขณะที่เจ้านายของมันก็ดึงตัวเด็กที่พึ่งจะเจอกันขึ้นมากอดไว้เพื่อให้ความอบอุ่น เขามั่นใจว่าความอบอุ่นจากตัวเขาคงจะดีกว่าปล่อยให้เจ้าหนูนั่นซบหลังที่มีแต่ขนหนาๆนั่นต่อไป ดวงตาสีเข้มมองใบหน้ายามหลับสนิทของคนในอ้อมแขนแล้วก็ต้องยอมรับว่าเด็กคนนี้โตขึ้นไปต้องดูดีแน่ๆ เพราะขนาดตอนเด็กๆยังน่ารักขนาดนี้ เขาสลัดความคิดในหัวทิ้งไปแล้วปลุกเด็กแก้มแดงให้ตื่นเสียที ซองยอลมองไปรอบๆ เมื่อไม่เห็นอะไรนอกจากหิมะสีขาวโพลนก็หันกลับมายิ้มแฉ่งให้กับพี่ชายเจ้าของกวางตัวใหญ่นี่

     

    อย่าหลับอีกล่ะ ข้างหน้านี่ถ้าจำไม่ผิดมีบ้านร้างอยู่

     

    อื้อ!”

     

     

     

     

    เนื่องจากพี่ชายใจดีบอกว่าไม่ให้ซองยอลหลับเขาก็เลยใช้เวลาตรงส่วนนั้นคุยเล่นทำความรู้จักจนรู้ว่าพี่ชายใจดีชื่อมยองซู

     

    นี่ แล้วจะไปไหนต่อเสียงแตกๆของเด็กที่กำลังโตถาม สายตาเหลือบมองเด็กอีกคนที่นั่งเอามือผิงกองไฟที่เขาพึ่งก่อ

     

    ซองยอลไม่รู้ ตื่นมาก็อยู่นี่แล้ว

     

    งั้นก็อยู่นี่ไปก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันมามยองซูพูดพลางลุกขึ้นยืนเต็มตัว ก่อนที่หิมะจะตกลงมาอีกเขาต้องไปหาฟืนมาเพิ่ม บ้านไม้เก่าๆโทรมๆคงจะทนความหนาวเย็นที่โหดร้ายนี่ไม่ได้มากนักหรอก แต่ดูเหมือนเด็กน้อยจะไม่อยากอยู่คนเดียวหรือไม่ก็เป็นคนที่ชอบหาเรื่องใส่ตัวเอามากๆ

     

    พี่ชายจะไปไหน ไปด้วยคนสิซองยอลจ้องเขาด้วยสายตาอ้อนวอนระคนอยากรู้อยากเห็น

     

    ไปหาฟืน และไม่ให้ไป อยู่นี่แหละ จะไปทำไมมันอันตราย

     

    อันตรายแล้วพี่ชายจะไปทำไม

     

    ฉันไม่อยากแข็งตาย และไม่อยากให้เธอหนาวด้วย เข้าใจไหมคนอายุมากกว่าลูบเรือนผมสีน้ำตาลเบาๆ หวังว่าเด็กคนนี้จะเข้าใจเขา ซองยอลก้มหน้าลงมองพื้นอยู่ครู่หนึ่งคล้ายกำลังใช้ควาวมคิด แต่แล้วก็เงยหน้าขึ้นยิ้มกว้าง

     

    ให้ซองยอลไปด้วยนะ อยากอยู่กับพี่ชาย

     

     

     

    ถามว่าตาใสๆแบบนั้นทำให้เขาใจอ่อนได้ไหมน่ะหรอ

     

     

     

     

     

    ได้ไม่ได้เด็กนี่ก็ตามมาแล้วน่ะนะ

     

     

     

     

     

     

    หลังจากที่เดินหากิ่งไม้ ซองยอลที่ตื่นเต็มตาก็เกิดอาการอยากเล่นตามประสาเด็กทั่วๆไป มือเล็กกว้านหิมะขึ้นมากำใหญ่ ยกแขนขึ้นสูงแล้วออกแรงเหวี่ยงตรงไปที่ร่างสูงกว่าอย่างไม่คิดออมแรง แต่เด็กก็ยังคงเป็นแค่เด็ก แรงอันน้อยนิดทำให้กองหิมะหล่นตุ้บลงไปอยู่กับเพื่อนของมันก่อนที่จะถึงตัวเป้าหมายเสียอีก มยองซูหันหลังมามองคนที่ตั้งใจจะประทุษร้ายตนเองแล้วยิ้ม ก้มตัวลงคว้าหิมะขึ้นมาแล้วปาสุดแรงเกิด ส่งผลให้ก้อนกลมๆที่ก็ไม่ค่อยกลมเท่าไหร่นักลอยมาโปะบนใบหน้าขาวของคนตัวเล็กกว่าทันที ซองยอลปาดหิมะออกจากหน้าของตัวเองด้วยใบหน้าที่เริ่มโมโห

     

    พี่ชายบังคับให้ซองยอลทำแบบนี้นะ!”เสียงเล็กตวาดลั่น ริมฝีปากซีดจากอากาศเย็นเบ้ลงด้วยความไม่พอใจตามประสาเด็ก เขาก้มลงปั้นหิมะใส่มืออีกครั้ง แต่คราวนี้ซองยอลสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ หายใจออกยาวๆ และ

     

     

     

    ปั้ก!

     

     

    ปาโดนเป้าหมายเข้าเต็มๆ

     

     

     

     

    ฮ่าๆๆๆๆๆๆ พี่ชายหน้าขาวไปหมดเลยยยเด็กน้อยขำจนต้องลงไปนั่งกุมท้อง ใบหน้าที่ขาวซีดเพราะความเย็นกลับมีสีเลือดขึ้นมา มยองซูปาดหิมะออกจากใบหน้าพร้อมกับรอยยิ้มเอ็นดู

     

    พวกเขาเล่นหิมะต่อกันอีกสักพักจนซองยอลบ่นเองกับปากว่าหนาวจะแข็งแล้วมยองซูจึงตัดสินใจพาคนอายุน้อยกว่ากลับที่หลบหนาวกันเสียที ฟืนในอ้อมแขนก็ไม่ได้มาก เพราะมัวแต่เล่นแท้ๆ

     

     

    อื้ออ พี่ชาย หิมะล่ะเสียงเล็กท้วง ยื่นมือออกไปรับเกล็ดสีขาวเล็กๆ เผยรอยยิ้มถูกใจ แต่คนถูกเรียกกลับรีบดึงให้เขาเดินเร็วขึ้น หิมะตกอาจไม่ได้หมายถึงจะมีพายุหิมะก็จริง แต่ไม่ว่าอย่างไหนมันก็ไม่ดีทั้งนั้น

    ยังไม่ทันที่จะได้ไปไหนไกล ลมที่ก่อนหน้าไม่มีกลับพัดแรงขึ้นจนคิ้วเข้มขมวดแน่น นี่มันอะไรกันนะ.. เขาคิดในใจ และก่อนที่มยองซูจะสงสัยอะไรไปมากกว่านั้น ร่างเล็กๆของซองยอลก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ เขาถอนหายใจด้วยความกังวล

     

     

     

     

    Anna

     

     

     

    ซองยอลยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางหิมะขาวโพลน ลมแรงขึ้นๆเรื่อยๆและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิด ซองยอลเดินตามพี่ชายมา แต่พี่ชายหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ ดวงตาน้อยๆเริ่มสอดส่องมองรอบตัวเพื่อหาคนคุ้นตา มองอยู่สักพักตาก็แสบไปหมด เขาท้อ และหนาวมากด้วย พี่ชายเป็นคนเดียวที่ซองยอลรู้จัก แน่ล่ะ ทุ่งหิมะแบบนี้จะไปมีใครอยู่ได้ยังไงกัน โชคดีที่พี่ชายอยู่ และเป็นคนเดียวที่อยู่ เมื่อคิดถึงตรงนี้ดวงตาใสก็เริ่มเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ปากที่เม้มแน่นเริ่มปล่อยเสียงสะอื้นเล็กๆ ซองยอลปาดน้ำตาลวกๆแต่ก็ยังคงร้องไห้ต่อไป

     

    มากับฉันสิเสียงที่คุ้นหูแต่กลับฟังดูประหลาดในเวลาเดียวกันเรียกคาวมสนใจจากเจ้าหนูได้เป็นอย่างดี ใบหน้าเล็กมีรอยยิ้มเมื่อเห็นหน้าคนเพียงหนึ่งเดียวที่เขารู้จัก

     

    พี่ชาย…”

     

    ใช่ มาสิ หนาวไม่ใช่หรอสองเท้าที่สวมรองเท้าบู๊ตก้าวเข้าไปหาเด็กหนุ่มออย่างรวดเร็วด้วยความดีใจแต่กลับช้าลง ช้าลง เพราะเห็นอะไรบางอย่างที่ผิดไป แววตาแบบนี้ ไม่ใช่พี่ชายสักหน่อย! พี่ชายไม่มองซองยอลด้วยสายตาแบบนั้น

     

    ฮึก

     

     

    กลัว.. ซองยอลกลัว พี่ชายคนเดิมของซองยอลอยู่ไหน

     

     

     

     

    ซองยอล!! ซองยอลใช่ไหม!!”เด็กน้อยหันตามเสียงเรียกและวิ่งเข้าไปหาอีกคนอย่างรวดเร็วเพื่อหนีจากสายตาล่าเหยื่อก่อนหน้านี้ อ้อมกอดที่แสนอบอุ่นพร้อมกับคำต่อว่าด้วยความเป็นห่วงคือสิ่งสุดท้ายที่ซองยอลจำได้ก่อนจะตื่นขึ้น

     

    .

    .

    .

    .

     

    คุณแม่ คุณแม่ฮะ…”สองมือใต้เสื้อนอนแขนยาวเขย่าตัวมารดาเบาๆเพื่อเรียกให้เธอตื่น ไม่นานนักผู้เป็นก็ยอมลืมตามาคุยกับลูกชายตัวดี

     

    ตายแล้วซองยอล ฝันร้ายหรอลูก น้ำตาเต็มหน้าเชียวเธอคว้าลูกชายคนเดียวมากอดปลอบ เด็กน้อยไม่ได้เอ่ยแก้อะไร จะนับว่ามันเป็นฝันร้ายก็ได้ ฝันดีก็ได้ แต่ที่ซองยอลสนใจตอนนี้ก็คือ พรุ่งนี้.. ซองยอล

     

     

     

    จะเป็นนักเรียนประถมหนึ่งแล้วฮะ!!!

     

     

     

     

     

    ดีใจจัง ><









    TALK

    ครบแล้วนะคะ.. ถอนหายใจเฮือกกกก มันยากมากจริงๆกับการต่อ เราจะพยายามต่อไป

    ส่วนของตอนนี้ไม่รู้จะมีใครเข้าใจเรามั้ย เราต้องการจะสื่อว่ามยองซูมีสองคนค่ะ ซึ่งได้เกริ่นไปแล้วครั้งนึงตอนเจ้าชายกบแต่บางคนก็ไม่เก็ท.. ค่ะ เราขอโทษ อาจจะสับสนสักนิด 555555555555555 

    ส่วนเรื่องของกยูอูเราจะเคลียร์เรื่องไม่หมดนะคะบอกไว้ก่อนเลย (โดนมองด้วยสายตาอาฆาต) ม่ายยย ยอย่ามองเราแบบนั้น YY เรามีเหตุผล คือถ้าเราแต่งเคลียร์เนี่ยมันจะเยอะมากและเกรงว่าจะกลายเป็นกยูอูไปนะเรื่องนี้ ดังนั้น เราขอคิดก่อนว่าเราจะเปิดเรื่องแยกไปเลยมั้ย(ในกรณีที่เราจะแต่งเพิ่มเพื่อเคลียร์ทุกอย่าง) อย่าตกใจค่ะ 55555555555 เราจะถามอีกทีตอนที่เราจบกยูอูในเรื่องนี้ 

    ทั้งนี้ทั้งนั้น เราขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามค่ะ จะพยายามทำออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และจะอัพจนจบแน่นอน ว)







     

    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×