คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : นิทานเรื่องที่หนึ่ง - สโนไวท์
Snow White :
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีองค์หญิงน้อยแสนงามผู้มีผมดำดุจไม้มะเกลือ ริมฝีปากแดงดั่งกุหลาบและมีผิวขาวผ่องดังหิมะ เธอคือสโนไวท์ ผู้ที่รู้จักเธอล้วนรักเธอเว้นแต่ราชินีแม่เลี้ยงใจร้ายผู้ริษยาในความงามของเธอ เธอเติบโตมาภายใต้อำนาจของราชินี
ด้วยความอิจฉาริษยาที่ราชินีมีต่อสโนไวท์ นางจึงเรียนนายพรานมาพบและบอกเขาให้พาสโนไวท์เขาไปเก็บดอกไม้ในป่าและฆ่าเธอ แต่นายพรานไม่สามารถทำได้ เขาปล่อยเธอไป บอกให้เธอหนีและอย่ากลับมาที่นี่อีก สโนไวท์ทำได้เพียงวิ่งเข้าไปในป่าลึก….
อืม… คำกล่าวที่ว่านี้จะใช้ได้กับเด็กชายตัวน้อย ผิวขาว ปากแดง ตากลมโตสุกใสได้หรือไม่กันนะ?
อีซองยอล หรือเด็กน้อยอี เดินหมุนตัวไปมาอยู่ภายในป่าใหญ่ทึบ มือเล็กๆหยิบกางเกงสีเหลืองอ่อนตัวใหญ่ขึ้นมาดูอย่างนึกสงสัย ปากเล็กๆเบะออกเล็กน้อยคล้ายจะร้องไห้ ซองยอลอยู่ที่ไหน อัปป้ากับออมม่าอยู่ไหน ซองยอลกลัว…
ซองยอลค่อยๆเดินไปเรื่อยๆตามทางที่เหมือนจะทอดยาวออกไปไม่มีที่สิ้นสุด น้ำตาเม็ดใสรื้นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ หากมีใครมาเห็นเด็กน้อยในเวลานี้คงล้วนสงสารและพร้อมจะให้ความช่วยเหลือเป็นแน่ แต่คงไม่มีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์อยู่ในป่าทึบแห่งนี้
เท้าเล็กๆยังคงย่างก้าวไปเรื่อยๆไม่มีพัก ร่มไม้ยังคงให้ความร่มเย็นแม้ว่าจะเป็นเวลาบ่าย นั่นเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง เด็กน้อยของเราจึงไม่ร้อนมากนัก
ซองยอลทรุดตัวลงนั่งที่ก้อนหินก้อนใหญ่ ดวงตากลมมีหยาดน้ำใสเอ่อคลอ ช่างน่าสงสารเหลือเกิน กลีบปากเล็กเบ้ออกพร้อมส่งเสียงร้องไห้ จนคนที่ดูอยู่ถึงกับถอนหายใจด้วยความกลัดกลุ้มและนึกโทษตนเองอยู่ในใจที่ทำงานไม่รอบคอบ
“เด็กคนนั้นน่าสงสาร เหตุใดท่านจึงทำเช่นนี้”เสียงนุ่มดังขึ้นด้านหลัง ชายในชุดดำหันไปมองผู้มาใหม่ด้วยสายตาดุดัน
“แล้วใครกันที่ไม่ยอมบอกข้าเรื่องที่เนื้อคู่เด็กคนนี้เป็นชาย”
“ท่านโทษว่าเป็นความผิดข้าหรือ”คนตัวเล็กกว่าในชุดแบบเดียวกันแต่เป็นสีขาวกล่าวขึ้น เขาไม่เข้าใจ ปกติเขาก็สร้างแต่มนุษย์เพศชาย มีแต่ท่านนี่แหละที่เกิดจะอยากมาสร้างเด็กชายบ้าง จะมาโทษว่าเป็นความผิดเขาได้อย่างไร
“หรือไม่จริง ถ้าเจ้าบอกข้า ข้าคงไม่ต้องทำเช่นนี้”
“แล้วท่านคิดว่าข้าอยากให้มันเป็นอย่างนี้หรือ เด็กสองคนเป็นชายทั้งคู่ ท่านจะทำให้เขารักกันได้อย่างไร…ครอบครัวของพวกเขาอีกเล่า ทำไมท่านไม่หยุดเรื่องพวกนี้ซะ”คนตัวเล็กเถียงกลับเสียยืดยาว คนฟังได้แต่ถอนหายใจออกมาเพราะไม่รู้จะจัดการเรื่องตรงหน้านี้อย่างไร
“เหมือนข้ากับเจ้าที่ยังฝืนกฏใช่หรือไม่ เจ้ากลัวว่าเด็กทั้งสองจะเป็นแบบเราใช่หรือไม่ อูฮยอน”
ฝ่ายซองยอลที่ยังคงนั่งร้องไห้อย่างไม่รู้จะทำอย่างไร เหล่าสัตว์ต่างๆได้เดินเข้ามาพร้อมกับนั่งอยู่ข้างๆจนเด็กน้อยเงียบเสียงแล้วหันมามองพวกมันอย่างตื่นเต้นพร้อมๆกับความมึนงง
“มาได้ยังไงกัน มาหาซองยอลหรอ”เด็กชายเอ่ย เหล่าสัตว์ทั้งหลายส่งเสียงร้องที่ซองยอลไม่เข้าใจออกมาพร้อมกับเดินนำไปเรื่อยๆและหันกลับมาดันหลังให้ซองยอลเดินตามเป็นพักๆ
ทั้งหมดพากันมาที่กระท่อมหลังเล็กแห่งหนึ่งกลางป่า ซองยอลเดินเข้าไปมองลอดหน้าต่างบานหนึ่ง เขาเห็นเก้าอี้เจ็ดตัวซึ่งเป็นตัวเล็กๆวางอยู่ ในบ้านนี้มีคนอยู่-เขาคิด ซองยอลตัดสินใจเข้าไปในบ้านและเดินสำรวจ เมื่อเห็นเตียงเล็กๆเจ็ดเตียงก็เข้าไปล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง
เวลาบ่ายแก่ใกล้พลบค่ำ เหล่าคนแคระทั้งเจ็ดได้กลับจากการทำงาน พวกเขามาถึงบ้านด้วยสภาพเหน็ดเหนื่อยและต้องการพักผ่อน แต่แล้วสิ่งีท่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ประตูบ้านถูกเปิดทิ้งไว้! พวกเขาต่างตั้งข้อสงสัยจนมีคนหนึ่งพูดขึ้นมา
“นี่ผิดปกติ อาจมีคนอยู่ในบ้าน”
พวกเขาตัดสินใจเดินไปรอบๆตัวบ้าน ค้นทุกห้องจนกระทั่งถึงห้องนอน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบกับเด็กชายนอนหลับใหลอยู่บนเตียงของโดปปี้ หนึ่งในเพื่อนของพวกเขา ทั้งหมดร้องลั่นด้วยความประหลาดใจ ซองยอลที่นอนอยู่ได้ลืมตาตื่นขึ้นและมองพวกเขาอย่างตกใจ
“เธอเป็นใครกัน”หนึ่งในคนแคระถาม
“ผมชื่อซองยอลคับ เป็นคนเกาหลี พวกคุณคือคนแคระใช่ไหมฮะ ว้าววว ผมชอบพวกคุณมากเลย ไหนล่ะฮะสโนไวท์”ซองยอลหันซ้ายหันขวาอย่างตื่นเต้นเมื่อเห็นตัวละครในนิทานเรื่องโปรด
“เธอแต่งงานกับเจ้าชายไปแล้ว ตอนนี้มีเพียงพวกเรา ว่าแต่เธอเถอะหนุ่มน้อย ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่”
“ผมหลงทางฮะ”
“งั้นพวกเราจะดูแลเธอ แต่เธอต้องห้ามทำลายข้าวของเด็ดขาด”
“ได้เลยฮะ! คุณคนแคระใจดีจัง”ซองยอลยิ้มกว้างออกมาจนตาปิด เหล่าคนแคระถอนหายใจที่ไม่มีเรื่องร้ายอะไร ก็แค่เด็กหลงทางคนหนึ่งเท่านั้น
หลังจากวันนั้นพวกเขาก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข….เอ๋ มันจะจบแบบนี้น่ะหรอ ยังหรอกๆ อย่าพึ่งลุกไปไหนนะ นิทานยังไม่ถึงตอนจบ J
วันหนึ่งหลังจากที่ซองยอลได้มาอาศัยกับเหล่าคนแคระ เด็กชายกำลังนั่งเล่นของเล่นที่หนึ่งในคนแคระทำให้เขา ซองยอลเล่นคนเดียวอย่างสนุกสนาน มีเพียงนกและสัตว์ต่างๆที่คอยมาอยู่รอบๆเพื่อป้องกันอัตรายและมาอยู่เป็นเพื่อนเด็กชายไม่ให้เหงาจนเกินไป
ขณะที่ซองยอลกำลังเล่นของเล่นเพลินๆก็มีเสียงเคาะประตู ก๊อกก๊อก เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดประตูด้วยความระมัดระวัง หญิงแก่คนหนึ่งยืนอยู่หน้าประตูพร้อมตะกร้าช๊อคโกแลต นั่นทำให้ซองยอลมึนงงอยู่ครู่หนึ่งทีเดียว ปกติมันต้องเป็นแอปเปิ้ลอาบยาพิษนี่
“ยายมาทำอะไรหรอฮะ”เอ่ยถามออกไปไม่ให้เป็นการเสียมารยาทนัก หญิงชรายิ้มพร้อมยื่นช๊อคโกแลตกลมๆอันหนึ่งมาข้างหน้า ซองยอลเลิกคิ้วพร้อมชี้นิ้วเข้าหาตนเองคล้ายจะถามว่าให้ผมหรอ
“ในนี้ไม่มียาพิษหรอกน่ะหนุ่มน้อย ปกติมันต้องเป็นแอปเปิ้ลไม่ใช่หรือ”และคำกล่าวนั้นทำให้ซองยอลรับช๊อคโกแลตมาแกะใส่ปากแบบไม่คิดหน้าคิดหลัง บางทีอาจเป็นเพราะเขายังเด็กอยู่ พอเห็นขนมจึงดีใจตามนิสัยที่เด็กทั่วไปพึงกระทำ
เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีร่างเล็กๆนั่นก็ล้มลงไปกับพื้น ดวงตาปิดสนิทเห็นแพขนตายาว พลันคนแคระทั้งเจ็ดก็ปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มของผู้ชนะ ใช่แล้ว..นี่ไม่ใช่นิทานสโนไวท์ธรรมดาทั่วไป ไม่ใช่แม่มดที่วางยาหากเป็นคนแคระที่ทำเสียเอง พวกเขาไม่มีเงินมากนักที่จะเลี้ยงซองยอลต่อไปจึงทำแบบนี้
“แล้วไงต่อ?”
“เอาไปปล่อยในป่า ข้าฆ่าเขาไม่ลง”
และนี่เป็นสาเหตุที่ว่าทำไมซองยอลถึงมานอนหลับอยู่ในป่าใต้ต้นไม้ใหญ่ ตามเนื้อเรื่องแล้วถ้าเจ้าหญิงจะตื่นก็ต้องมีเจ้าชายมาจุมพิตใช่ไหม… นิทานเรื่องนี้ก็เช่นกัน โชคดีทีเดียวที่วันนั้นเจ้าชายของเมืองหนึ่งเกิดอยากจะเที่ยวป่าล่าสัตว์ เขาจึงขี่ม้าออกมาเพียงคนเดียว และพบซองยอลนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ เขาพยายามจะเข้าไปดูแต่ดันสะดุดก้อนหินล้มลง ริมฝีปากสวยแตะลงกับเรียวปากนุ่มของคนอายุน้อยกว่า ซองยอลลืมตาขึ้นมา เด็กน้อยไม่เห็นหน้าตาของเจ้าเห็น สิ่งที่เห็นและจำได้ชัดเจนที่สุดคือปาก ส่วนสิ่งอื่นล้วนเรือนลาง รู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในที่ที่รอบตัวเป็นสีดำทั้งหมด
ซองยอลหันซ้ายหันขวาด้วยความไม่เข้าใจ พลันเสียงเรียกชื่อก็ทำให้ต้องหวาดผวายิ่งกว่าเดิม เสียงนั้นทุ้มต่ำและแหบแห้งจนน่ากลัว ซองยอลขานรับไปเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน
“เด็กน้อยเอ๋ย เจ้าต้องตามหาเจ้าชายของเจ้า ในแต่ละคืน เจ้าจะเห็นเจ้าชายของเจ้าชัดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงเวลาเจ้าจะได้เห็นเขา จำไว้ให้ดี เขาจะคอยช่วยเหลือเจ้า”
นี่เป็นเสียงสุดท้ายที่ซองยอลได้ยินก่อนจะตื่นขึ้นมาในเช้าที่สดใส….
ปริศนายังคงเป็นปริศนา ซองยอลไม่ได้เล่นเรื่องนี้ให้มารดาฟังเพราะคิดว่าเป็นฝันเท่านั้น ไม่มีอะไร เด็กชายวัยห้าขวบยังคงดำเนินชีวิตแบบปกติโดยไม่อาจรู้เลยว่าคืนต่อๆไปจะต้องไปเจออะไรอีกมกมายในความฝัน…
TBC.
TALK:D
สวัสดีค่าาาาาาา ฮูเร่เฮๆ 555555555555
ความคิดเห็น