คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 03 - Reason
03 - Reason
ปิ๊งป่อง!
“ใครมาน่ะ…” ผู้จัดการเอ่ยถามเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ข้างกายเขา แต่แอลก็ไม่รู้เหมือนกัน เขาทำได้แค่ส่ายหน้าไปมา “เดี๋ยวฉันไปดูให้” ชายวัยกลางคนบอกพลางลุกขึ้นจากโซฟาตัวใหญ่ และเดินไปที่ประตูห้อง
แอลยังคงนั่งคิดบางอย่างอยู่กับที่ คิดถึงตัวตนที่แท้จริงของเขา คำถามที่ยังคงค้างคาใจเขาเสมอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอลคิดถึงเรื่องนี้ เขาคิดแบบนั้นมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนรู้ข่าวว่าซองยอลตาย… ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เริ่มคิดเรื่องนี้แบบจริงจัง แต่แอลก็ยังคงไม่ได้คอตอบอยู่ดี
“เฮ้ มีคนบอกว่าชื่อเคลวินมาหานายน่ะ”
“เคลวิน?” แอลท้วนชื่ออีกครั้ง
“ใช่ รู้จักรึเปล่า” รู้ยิ่งกว่ารู้เลยล่ะ
ชายหนุ่มค่อนหัวเราะออกมาทันที “มาได้จังหวะจริงๆเลยนะ”
แอลพูดแล้วลุกขึ้นจากโซฟา เขาเดินตรงไปที่หน้าประตูห้อง ตรงหน้าปรากฏร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดสูทอย่างเป็นทางการ แอลมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาหาเรื่องอย่างเห็นได้ชัด
“คุณชาย…” แต่เคลวินก็ไม่ได้ถือสาอะไร หรือเขาไม่มีสิทธิ์จะถือสานั่นเอง
“พี่กลับไปก่อนเถอะ” แอลหันไปบอกผู้จัดการของเขา
“อืม นายไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่ไหม” ถามด้วยความเป็นห่วง เพราะเห็นสายตาที่แอลใช้มองอีกฝ่าย มันไม่เป็นมิตรเลยจริงๆ
“ครับ เขาเป็นคนรู้จักของผมเอง ไม่ต้องเป็นห่วง”
“อ้อ! แล้วเรื่องข่าวถ้าทางท่านประธานคิดจะแก้ข่าวยังไง แล้วฉันจะโทรมาบอกนายอีกทีแล้วกัน โอเคนะ” ผู้จัดการไม่ลืมที่จะทิ้งท้ายเรื่องนี้ไว้กับแอล ก่อนจะเดินออกจากห้องของเขาไป
“มีเรื่องด่วนงั้นเหรอ?” เหมือนเป็นทั้งคำถามและการประชด
แต่โดยปกติแล้วการที่ชายหนุ่มในชุดสูทคนนี้ปรากฏตัวที่เกาหลี ก็มักจะมีเรื่องบางอย่างมาบอกเสมอ
“ครับ เรื่องท่านประธาน”
“งั้นเหรอ…”
แอลพูดแค่นั้นแล้วเดินกลับไปที่โซฟาใจกลางห้องโถง เป็นเชิงให้อีกฝ่ายตามเข้ามา
“นายท่านไม่สบายมากครับ” ชายหนุ่มในชุดสูทพูดขึ้นในขณะที่แอลกำลังนั่งลงที่โซฟา
“อืม…” ร่างสูงครางเสียงเบา ใบหน้ายังคงเรียบเฉยไม่ต่างจากเดิม
“คุณชาย นายท่านต้องการพบคุณจริงๆ”
คราวนี้แอลเงยหน้าขึ้นมองชายในชุดสูทตรงหน้าเขาอีกครั้ง “แล้วไง?”
“นี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้าย….” น้ำเสียงนั้นแผ่วเบาและจริงจัง
“นายพูดแบบนี้มาสามรอบแล้ว” แต่แอลก็ไม่ได้สนใจเลยเพราะโดนหลอกมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งเหตุผลเดียวที่ต้องโกหกก็เพื่อให้เขากลับไปที่อเมริกา “อีกอย่าง… มีอะไรอยากจะบอกฉันไหม?” ตอนนี้เขาสนใจเรื่องอื่นมากกว่า
“ครับ?”
“เรื่องซองยอล นายกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่รึเปล่า?” แอลยังคงซัดคำถามไม่หยุดเพื่อจับผิดใครบางคน “จริงๆแล้วนายรู้มากแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องซองยอล” เขาสงสัยว่าบางทีลูกน้องสนิทคนนี้ สมัยอยู่อเมริกาอาจจะเป็นคนวางแผนให้ซองยอลได้หนีไปจากเขา
“เกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอครับ” อีกฝ่ายถามกลับด้วยสีหน้ามึนงง
แอลได้แต่หัวเราะออกมาเล็กน้อยเมื่อเห็นแบบนั้น เคลวินโกหกได้ไม่เนียนเลย
“ตอนอยู่อเมริกามีนายคนเดียวที่รู้ว่าฉันทำอะไรกับซองยอลไว้บ้าง ถ้าไม่ใช่นายแล้วจะเป็นใคร คนที่ไปขอให้พ่อฉันช่วยจัดฉากทำเป็นว่าซองยอลตายไปแล้ว!!” เหมือนระเบิดเวลา แอลรอที่จะพูดคำนี้อยู่นาน เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่น
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นเมื่อตอนที่เขารู้ข่าวจากพ่อว่าซองยอลตายไปแล้ว ตอนนั้นเขาตัวแข็งราวกับหิน เหมือนโลกทั้งใบพังทลายลงตรงหน้าของเขา อยากจะร้องไห้ออกมาก็ทำไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าทุกคน เขาทำได้แค่ร้องไห้ออกมาคนเดียวในห้องของตัวเอง ร้องเรียกหาชื่อของคนๆนั้น ในขณะที่คนอื่นๆใช้ชีวิตเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
“คุณชาย… เจอคุณซองยอลแล้วเหรอครับ…”
“ใช่ ฉันเจอมันแล้ว สุขสบายดีแถมตอนนี้ยังทำเป็นไม่สนใจฉันด้วย เหมือนกับว่ามันไม่รู้จักฉันมาก่อน หมอนั่นทำอย่างกับว่าฉันเป็นคนแปลกหน้า ทำเหมือนแม่ของมันไม่ใช่’เมียน้อย’ ไม่ใช่คนที่ทำให้แม่ของฉันต้องตายอย่างโดดเดี่ยว!!!”
“คุณชาย…”
แอลอยากจะสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ แต่เมื่อไรก็ตามเมื่อเขานึกถึงเรื่องราวในอดีต ตอนที่ได้รู้จักกับซองยอลครั้งแรก ความโกรธแค้นทุกอย่างก็ถาถมเข้ามาใส่ ราวกับว่านี่ไม่ใช่ตัวของเขาเอง ความคิดทุกอย่างได้แตกแยกออกไปจากก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง
“คนอย่างมันน่าจะตายๆไปซะ”
เขาเกลียดโลกใบนี้ เกลียดที่พ่อของเขาไม่ได้อยู่ด้วยในวันที่แม่ของเขาจากไป แต่กลับไปอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง มิหนำซ้ำเมื่อแม่ของเขาเสียไปแล้วก็ยังนำลูกของผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในบ้าน ให้เป็นพี่น้องกับเขาทั้งๆที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน
“กลับไปซะ”
“คุณชาย…”
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะกลับออกไป แอลจึงเดินไปที่หน้าประตูห้องด้วยสีหน้าโกรธจัด เขาเปิดประตูห้องออกอย่างรุนแรงแล้วยืนอยู่ตรงนั้น รอให้ใครบางคนเดินออกไป
“ผมหวังว่าคุณชายจะไปฟังคำอธิบายจากนายท่าน” ชายในชุดสูททิ้งท้ายไว้ด้วยคำพูดประโยคนั้น
เมื่อผู้มาเยือนเดินจากไปแอลยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูห้อง เขาลังเลที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา มือหนายกขึ้นจับลูกบิดประตู กำลังจะปิดประตูห้อง แต่เมื่อใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น สายตาก็ไปบรรจบที่ภาพตรงหน้า
“ซองยอล?” ครางเสียงเบาด้วยความประหลาดใจ
แอลเห็นซองยอลกำลังเดินเข้าไปในห้องพักที่ห่างออกไปจากเขาไม่มากนัก และมีผู้ชายคนหนึ่งกอดคอร่างบางเข้าไปในห้อง… โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้สังเกตเห็นเขาเลยแม้แต่น้อย
“ต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ” แอลพึมพำอยู่คนเดียว เขายืนพิงประตูห้องตัวเองเพื่อรออะไรบางอย่าง
จะเข้าไปดีหรือเปล่า หรือบางทีคนๆนั้นอาจจะไม่ใช่ซองยอล
มีเพียงความลังเลอยู่ในหัวของเขา และในขณะนั้นเองใครบางคนก็เดินออกมาจากห้อง ไม่ใช่ซองยอลแต่เป็นคนที่แอลไม่รู้จัก เมื่อเห็นคนแปลกหน้าเดินผ่านไปไกลแล้ว แอลก็รีบตรงเข้าไปเคาะประตูห้องทันที
“เปิดสิวะ”
ปึก! ปึก! ปิ๊งป่องๆ!!!
ทั้งเคาะทั้งกดออดหน้าประตูเสียงดัง จนกระทั่งมีคนออกมาเปิดประตูห้องให้เขา
“มาแล้วครับ…” ทันทีที่ภาพตรงหน้าปรากฏ ชายหนุ่มที่เดินมาเปิดประตูห้องก็ถึงกับต้องตกใจ
“ทำไม? เห็นหน้าฉันทำอย่างกับว่าเห็นผี อ้อ แต่เป็นฉันมากกว่าที่เหมือนเห็นผี” แน่ล่ะ ก็เขาคิดมาตลอดว่าซองยอลตายไปแล้ว
“คุณมาทำอะไรที่นี่”
“ฉันควรถามนายมากกว่าว่าทำไมถึงเข้ามาที่นี่พร้อมกับ…” แอลเว้นช่วงพลางแค่นหัวเราะออกมา “ผู้ชายคนหนึ่ง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแดกดัน
“มันไม่ใช่เรื่องของคุณ”
“งั้นเหรอ?” อีกฝ่ายเลิกคิ้วสูง
“เชิญกลับไปเถอะนะครับ”
ปึก!
เมื่อประตูห้องกำลังจะปิดลงแอลก็ใช้เท้าของเขาและแขนยันเอาไว้
“ไม่งั้นผมจะแจ้งตำรวจจับคุณ”
“คำขู่โง่ๆ คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอ”
ซองยอลเงียบไปในทันทีเมื่อได้ยิน
ใช่ เขาไม่กล้าแจ้งหรอก นี่ก็เป็นแค่คำขู่ ซึ่งพยายามทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่ ซองยอลคนเดิมที่รู้จักอีกต่อไป แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่สำเร็จ เมื่อแอลไม่ได้มีสีหน้าเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย และยังคงมองเขาด้วยสายตาดูถูกไม่ต่างจากเดิม
“มานี่!” เมื่อพูดจบก็กระชากแขนของอีกฝ่ายให้ออกมาจากห้อง จนร่างบางแทบปลิว
“ปล่อยผม! คุณคิดจะทำอะไร ปล่อยผมสิ!” ซองยอลร้องบอกเสียงหลงด้วยความตกใจ ในขณะที่แอลยังคงกระชากแขนเขาให้เดินตามไป จนกระทั้งถึงห้องพักของเขา ร่างสูงผลักซองยอลเต็มแรงจนแผ่นหลังกระแทกเข้ากับกำแพงห้อง
“ฉันปล่อยแน่” แอลพูด
แต่ประโยคนั้นไม่ได้ทำให้ซองยอลรู้สึกสบายใจขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“แต่ขอบอกไว้อย่าง ถ้านายอยากจะหนีก็หนีไปให้ไกล เพราะต่อให้นายจะหนีไปไกลสักแค่ไหน ฉันก็จะตามหานายให้จนเจอ อย่าคิด ว่าฉันจะปล่อยนายไปอีกครั้ง ต่อให้ต้องพลิกแผ่นดินนี้เพื่อตามหานาย ต่อให้ฉันต้องทำร้ายใครต่อใคร ...ฉันก็จะทำ” น้ำเสียงที่แสนเยือกเย็นนั้นดังขึ้นพร้อมกับใบหน้าเรียบเฉย แต่แฝงไปด้วยความร้ายกาจของผู้พูด
บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิทเมื่อแอลพูดประโยคนั้นจบ ซองยอลพูดไม่ออก เขาได้แต่ยืนมองหน้าของปีศาจร้ายที่แฝงอยู่ในตัวคนๆนี้ คิดถึงเรื่องราวในอดีตที่อีกฝ่ายเคยทำไว้กับเขา และมันก็เจ็บปวดมากเกินจะเยียวยา
“เมื่อก่อนนายอาจจะสามารถพูดได้ว่า ฉันใช้กำลังเพื่อให้นายมาเป็นของฉัน และใช้เงินฟาดหัวนายอีกที แต่ตอนนี้… ฉันจะไม่ใช่เงินหรือกำลัง แต่ฉันจะให้ทางเลือก…”
“……….”
“จะมาเป็นของฉันไหม” นั่นไม่ใช่คำถามแต่เป็นคำขู่ “ถ้าไม่ก็เตรียมตัวรอดูคนรอบข้างแกต้องเดือดร้อนได้เลย…”
ซองยอลรู้ดีว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาตอบปฏิเสธ
“ครับ…” น้ำเสียงสั่นจนรู้สึกได้อย่างชัดเจน
“ครับอะไร พูดให้มันชัดๆสิ” อีกฝ่ายยังคงเล่นสนุกอยู่
“ผมเป็นของคุณ”
อารมณ์ของมยองประมาณว่าทั้งรักทั้งเกลียดซองยอลนะคะ เลยสับสนกับตัวตนของตัวเอง
ตอนหน้าลีมนัมและมยองยอลนิดหน่อยค่ะ เอ็นซีทิ้งเมล์ไว้นะคะ ช่วงนี้เด็กดีโหดไม่กล้าแปะลิ้งค์เลยค่ะ
จะส่งให้ไม่เกินช่วงเที่ยงคืนวันนี้นะคะ ในอนาคตมีตอนอดีตของมยองแน่นอนค่ะ
ความคิดเห็น