คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทที่ 1 ความฝัน?[75%]
บทที่ 1 ความฝัน?
“ที่นี้... ที่ไหน”
เด็กหนุ่มกวาดตามองรอบตัว แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มเห็นมีแต่ความว่างเปล่า ขาวโพนไร้ซึ้งจุดสิ้นสุด
‘ที่นี้มันที่ไหนกัน... เรานอนอยู่บนเตียงไม่ใช่หรอ?’ เด็กหนุ่มตั้งคำถามขึ้นมาในใจ แต่ไม่ทันที่จะคิดหาคำตอบของคำถาม เสียงหญิงสาวซ้อนความซุกซนก็ดังขึ้นทุกทิศทาง
“สวัสดี”
“ใครกันนั้นเสียงของใคร ที่นี้มันที่ไหนกันแน่” เด็กหนุ่มตะโกนถาม ความกลัวเข้ารุมเล้าเด็กหนุ่มจากทุกทิศทุกทาง สายตาเลิกลักกวาดมองไปรอบตัวอีกครั้ง เพื่อหาต้นเสียง
“เด็กน้อย... สงบใจไว้” ครั้งนี้ไม่ใช่เสียงของหญิงสาวที่ได้ยินครั้งแรก แต่กับเป็นเสียงของชายชราเอ่ยทักอย่างแผ่วเบา
เด็กหนุ่มหันมองไปตามเสียงเอ่ยทักของชายชรา สิ่งที่ปรากฏเบื้องหน้าของเขาขณะนี้คือ ชายชราที่สวมใส่ผ้าคลุมขาดๆสีดำ นั่งอยู่บนบังลังสีดำเงา แวววาว ตกแต่งด้วยอัญมณีสีแดงสด
“มาใกล้ๆข้าสิ เด็กน้อย”ชายชราเอ่ยเรียกเด็กหนุ่มให้เดินเข้าไปหา ภาพความทรงจำรางๆ ปรากฏขึ้น ภาพชายชราคนดังกล่าวกำลัง อุ้มตนเอง พร้อมกับกำลังเสวนากับชายอีกคนหนึ่งโดยมี ผู้หญิงผมยาวดำ แต่งตัวดูมีฐานะยืนอยู่ด้วย
‘ทำไมถึงรู้สึกคุ้นเคยอย่างนี้’ เด็กหนุ่มพยายามนึกว่า ชายชราตรงหน้าคือใคร
‘ทำไมถึงจับความรู้สึกอบอุ่นได้ทั้งๆที่นี้เป็นการพบกันครั้งแรกนะ’
“เจ้าโตขึ้นเยอะเลยนะ อนาเธอร์” ชายชราทัก พร้อมกับยิ้มให้อย่างอบอุ่น
“เอ่อ.. เรารู้จักกันด้วยหรอครับ?” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย
‘ทำไมถึงรู้ ชื่อจริงของเราได้นะ’
ชายชราไม่ตอบเพียงแค่ยิ้มให้ พร้อมกับลุกยืนบนบันลัง เดินลงมาอย่างเชื่องช้า แต่กับดูมีความสง่างาม เต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม หยุดอยู่ตรงหน้าของเด็กหนุ่ม ค่อยๆยกมือขึ้นอยู่ระดับสายตา แบมือออกช้าๆ เด็กหนุ่มสังเกตเห็น ลูกแก้วดำๆ ในมือของชายชรากำลัง หมุนวนเป็นจังหวะ ราวกับมันมีชีวิต ลูกแก้วสีดำค่อยๆปล่อยหมอกควันลอยต่ำ มาอยู่ระหว่าง เด็กหนุ่มกับชายชรา หมอกควันจับตัวกันเน้น เค้าโครงเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าเด็กหนุ่ม จากหมอกควันสีดำดูขมักขมัว กลายเป็นโต๊ะสีดำเงา แวววาวลักษณะการตกแต่ง แนวเดียวกับบังลังที่เขาเห็นในตอนแรก
“ดูเจ้าตกใจมากเลย หลานรัก” ชายชราเอ่ย เพื่อเตือนสติของเด็กหนุ่มอีกครั้ง เด็กหนุ่มละสายตาจากโต๊ะตัวดังกล่าว หันไปมองชายชราหวังจะเอาคำตอบว่า นี้มันเกิดอะไรขึ้น แต่สิ่งเหล่านั้นกับหายไปด้วยความตกใจ บัดนี้ ชายชรากับนั่งลงบันลัง เท้าซอก มองเขาและยิ้มที่มุมปาก
‘ตอนแรกยังยืนอยู่ต่อหน้าเราอยู่เลย ทำไมถึงไปอยู่ตรงนั้นได้’ เด็กหนุ่มยังไม่ทันได้หายสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่กับมีสิ่งที่ต้องสงสัยเพิ่มปรากฏออกมา อยู่ๆก็มีกล่องสีดำด้าน เจ็ดกล่องลอยอยู่หน้าชายชรา กล่องทั้งเจ็ดค่อยๆ ลอยลงบนโต๊ะ ทั้งเจ็ดกล่องค่อยๆเปิดออก สิ่งที่พบกับเป็น กล่องเปล่าสามกล่อง ส่วนกล่องที่เหลือกับมีเครื่องประดับ ไม่ว่าจะเป็น แหวน กำไล ต่างหู ล้วนเป็นสีดำด้าน เว้นแต่กล่องกล่องนึง ที่ใส่ สร้อยคอเอา สร้อยคออันนี้กับไม่ดำด้านเหมือนของเครื่องประดับอื่น แต่มันกับแวววาว ดึงดูดความสนใจของเด็กหนุ่มจนไม่จะยืนดูเฉยๆได้ มือของเด็กหนุ่มค่อยๆเอื้อมเข้าไปหาสร้อยเส้นนี้
“ดูเหมือนมันจะเลือกเจ้านะ” ชายชราเอ่ย ขัดเด็กหนุ่มเพื่อไม่ให้เด็กหนุ่ม สัมผัสสร้อยนี้
“หรอครับ..” เด็กหนุ่มยังคงมองสร้อยอย่างพินิจ สร้อยเส้นนี้อาจจะคล้ายๆกับสร้อยที่มีขายทั่วไปตามท้องตลาดแต่ความวิเศษกับเป็นรูปวงแหวนที่มีไม้กางเขนทับ และมีเถาวัลย์พันรอบไม้กางเขน สร้อยคอค่อยๆเรืองแสงขึ้น จนเด็กหนุ่มต้องเอาแขนมาบังตา
“แล้วเจอกันใหม่นะ หลานรัก” เสียงของชายชราดังขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างดำมืด เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น พร้อมๆกับสติของเด็กหนุ่มที่ดับวูบไป
โป๊กก!!
เสียงของแข็งกระทบกับหัว เด็กหนุ่มวัย 17ปี ผมดำขลับยาวถึงตนคอ ดวงตาสีเทาดูหม่นหมอง หลุดออกจากภวังค์ สายตาพร่ามัว กวาดหาวัตถุต้นเหตุ สติเริ่มเข้าสู่ร่าง สมองประมวลผลต่างๆรอบตัว
‘เราฝันไปงั้นหรอ’เด็กหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเอง
“คุณอนาเธอร์ โครเวตส์ กรุณาตั้งใจเรียนด้วยคะ” เสียงครูสาวดังขึ้นหน้าชั้นเรียน ในมือของเธอยังคงโยน ช็อก เตรียมพร้อมจะโยนใส่เป้าหมายใหม่ที่อยู่ข้างๆเด็กหนุ่มผมดำ
“แล้วก็ โปรดปลุก คุณไทซัน ฟุคุนไซ ด้วยนะคะ” ครูสาวยิ้มให้อนาเธอร์ พร้อมกับสอนสิ่งที่เขียนอยู่เต็มกระดานต่อ โดยไม่สนใจพวกเขาต่อ อนาเธอร์สะกิดเด็กหนุ่มตี๋ขาว ผมสีแดงเพลิงนอนหลับอย่างเมามันส์ น้ำลายหกเป็นทาง
“ห๊ะ อะไรเกิดอะไรขึ้น” เด็กหนุ่มนาม ไทซัน ตะโกนเสียงดังด้วยความตกใจที่โดนปลุก คนทั้งห้องหันมามอง ไม่เว้นแม้แต่ครูสาวที่ดูเหมือนจะความคุมอารมณ์ไม่อยู่ รังสีอำมหิตแพร่กระจาย อนาเธอร์และไทซันหันมามองหน้ากัน กลืนน้ำลายดังเฮือก ภาพในอนาคตอันไม่ไกลโผล่ขึ้นในสมองของสองหนุ่มรางๆ เหมือนจะจับเค้าโครงได้ ว่าสิ่งที่จะเปิดต่อไปนี้ไม่ค่อยจะสวยสักเท่าไหร่ ครูสาวกำลังจะอ้าปากพูด แต่มีเสียงกริ่งหมดชั่วโมงเรียนคั่น ช่วยชีวิตของสองหนุ่มไว้อย่างพอดิบพอดี
กริ๊ง!!!
“หยุดเสาร์อาทิตย์อย่าลืมทำการบ้านมาส่งนะจ้ะ”ครูสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับเก็บหนังสือประกอบการสอนลง แล้วเดินออกจากห้องเรียนไป
“นัด แกว่าอาจารย์เขาเป็นอะไรวะ” ไทซันยังคงติดใจไม่หายกับอาการแปลกๆของครูสาว จึงหันไปถามเพื่อนรักของเขา
“นี้นายไม่รู้จริงๆหรอ ไท” เสียงหวานๆของเด็กสาวดังขึ้นหลังพวกเขาสองคน อนาเธอร์พยักหน้าเห็นด้วยกับคำถามดังกล่าว
เด็กสาวผู้มาใหม่นั้น มีชื่อว่า อควาซ่า สโนว ผมขาวราวกับหิมะยาวถึงกลางหลัง และใช้เชือกเส้นเล็กๆ รัดเอาไว้เป็นหางม้า ดวงตาสีฟ้าใสแพรวพราว เข้ามาคุยร่วมวงกับเด็กหนุ่มทั้งสอง
“จำได้ว่าชั้นคุยกับนัดนะ” ไทซันชี้ไปทางอนาเธอร์ราวกับกำลังสื่อว่า ผู้มาใหม่นั้นยุ่งเรื่องของเขาทั้งสองคนอยู่
“นะ.. นาย หาว่า.. ชะ.. ชั้น.. ยุ่..”เด็กสาวถึงกับน็อตหลุดกับท่าทางกวนโมโหของไทซัน เด็กสาวปล่อยรังสีอำมหิตออกมา แต่ฝ่ายชายกับชวนเขาคุยปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น อนาเธอร์รู้สึกได้ว่า ถ้าเขาไม่ห้ามทั้งสองคนคงได้เห็นศึกกระชากเลือดแน่นอน
“ไม่เอาน่าน้ำ ไอ้ไท มันก็เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว ใจเย็นๆก่อนเถอะน่า”นัด หรืออีกชื่อหนึ่งคือ อนาเธอร์ยกมือห้ามปรามเพื่อนรักทั้งสองไว้
“นายไม่ต้องมาเข้าข้างมันเลยนะ นัด” เด็กสาวยังคงฉุนกับท่าทางกวนประสาทของหนุ่มตี๋อยู่ไม่หาย
“ไหนว่า พวกนายมีเรื่องจะบอกชั้นไง” อนาเธอร์ทำสีหน้าหน่ายๆพร้อมกับหาวิธีให้สองเพื่อนรักเลิกกัดกันเสียที
“อ่อ ที่ชั้นชวนนายตั้งนานแล้วใช่ไหม เกิดอะไรขึ้นเนี้ย วันนี้หิมะตกหรอ”ไทซันพูดไปพลางมองซ้ายมองขวา ราวกับจะหาหิมะอย่างจริงจัง น้ำหรืออควาซ่าเลิกคิ้วใส่ไทซัน แล้วหันมาพูดกับอนาเธอร์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“นายสนใจ คอมเพลคซ์ เวิล์ด หรอเห็นไทมันบอกชั้น วันนี้มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ย ฮิตสโตกรึเปล่านะ”เด็กสาวยังคงกัดกับหนุ่มตี๋ไม่หาย พลางเอามือมาแตะที่หน้าผากของอนาเธอร์ “ตัวร้อนรึเปล่า นัด” เด็กสาวถาม อนาเธอร์ไม่ตอบคำถามเพียงทักเพื่อนรักของเขา
“เอ่อ.. เราไปคุยกันข้างนอกเถอะ พวกนายกัดกันจนคนในห้องเขามองหมดแล้วแหนะ” อนาเธอร์พูดบางชี้ไปรอบๆให้เพื่อนรักทั้งสองคนเห็น เท่านั้นแหละ หนุ่มเพลิงกับสาวหิมะ ถึงมองไปรอบๆ หน้าขึ้นสีทั้งคู่ แล้วก็มีเสียงกระซิบกระซากดังขึ้นมาเรื่อยๆ
“อย่างกับคู่รักในซีรี่เกาหลีเลยอะแก”
“นั้นสิๆ เห็นกัดกันอย่างนี้ทุกวันก่อน และหลังกินข้าวเลยนะแก”
เสียงซุบซิบดังขึ้นเรื่อยๆ จนเพื่อนรักทั้งสองหันมามองอนาเธอร์ แล้วพูดพร้อมกันว่า “นัด ไปกินข้าวกันเหอะ”
“นาย/เธอ จะพูดตามชั้นทำไม”
“เธอ/นาย นั้นแหละพูดตาม”
“นั้น พูดตามอีกแล้ว”
“เอ๊ะ จะเอายังไง” ครั้งนี้แทนนี้จะเป็นการผสานเสียงของหนุ่มเพลิงกับสาวหิมะ แต่กับมีเสียงของบุคคลที่สามดังขึ้นมาด้วย ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองเสียงที่สาม เป็นใครไม่ได้นอกจากเพื่อนรักของพวกเขาเอง อนาเธอร์เดินหน่ายๆ เข้ามาหา
“พวกนายพูดพร้อมกันอย่างนี้ ตั้งแต่ตอนอยู่ ปีหนึ่ง จนนี้จะจบปีห้าอยู่แล้ว ไม่เปลี่ยนคำกันบ้างหรอ” เหมือนสายฟ้าที่ผ่ากลางกระบานของหนุ่มสาว เขาได้ยินคำพูดนี้ออกจากปากของอนาเธอร์ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วเหมือนกัน แต่จะเถียงต่อก็ไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเดินหนีไปไกล จนต้องวิ่งตามไป
“ตกลง นายสนใจ คอมเพลคซ์ เวิล์ด จริงๆนะหรอ?” น้ำถามซ้ำด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ เพราะอะไรนะเหรอ เมื่อปีที่แล้วพวกเขาสองคนเคยชวนเพื่อนรักคนนี้แล้วช่วงนึ่งนะสิ ชวนจนหมดคำพูด ชวนจนไม่รู้จะอ้างความเป็นเพื่อนยังไง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจของเขาได้เลย สุดท้ายน้ำกับไท ก็รับประทานแห้วซะเต็มอิ่ม พอเจ้าตัวเอ่ยปากเองอย่างนี้ มีหรือเพื่อนรักทั้งสองคนจะไม่สงสัย
“แล้วทำไมตอนพวกเราสองคนชวนครั้งนั้น ถึงปฏิเสธละ ต่อมอะไรมันทำงานละ?”ไทเข้าแซกระหว่างกลาง
“นั้นสิๆ ทำไมดูนายสนอกสนใจ คอมเพลคซ์ เวิล์ด มากเลยเนอะไท”น้ำพูดเสริม
“ไม่รู้สิ แค่รู้สึกสนใจละมั้ง”
‘เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ความรู้สึกว่า คอมเพลคซ์ เวิล์ด มันต้องมีอะไรเกี่ยวโยงกับชายชราที่อยู่ในความฝันแน่ๆ’
“งั้นนายคงรู้นะ พวกเราก็เคยอวดสัพพะคุณของ คอมเพลคซ์ เวิล์ด ไปหมดแล้ว มันก็คล้ายๆเกมส์ออนไลน์ทั่วๆไปนั้นแหละ”ไทบอก “เอ้อ! แล้วนายบอกป๊ายังอะ ว่าจะเล่น?” น้ำถามพลางหันซ้ายหันขวา หาที่นั่ง
“บอกไปตั้งแต่เช้าแล้ว ป๊าดีใจจนเนื้อเต้นเลยมั้ง”นัดตอบ
“หรอ ไม่ให้เนื้อเต้นได้ไง ป๊าแกเป็นถึงผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ คอมเพลคซ์ คอมปานี เลยนี้” น้ำหันมาคุยกับนัด พร้อมกับเหยียบเท้าไท ที่นั่งข้างๆเธอ
“โอ๊ย เหยียบเท้าชั้นทำไมยายน้ำ” ไทร้องเสียงหลง
“ชั้นหิวอะ ซื้อน้ำให้ดื่มหน่อยสิ”น้ำหันไปยิ้มให้ไทเชิงไล่
“แล้วทำไมชั้นต้องซื้อให้เธอด้วย” ไทถามพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆเด็กสาว
“หรือนายจะเอา?” น้ำเลิกคิ้วถาม หน้าขึ้นสีเล็กน้อย ทำเป็นไม่สนใจหันไปคุยกับนัดต่อ
“มาคุยเรื่อง คอมเพลคซ์ เวิล์ด ต่อดีกว่านัด”น้ำเปลี่ยนเรื่อง
“แล้วเงินละยายตัวแสบ”ไทยังคงก่อกวนไม่เลิก แบมือรอเงินทำหน้ากวนประสาทอย่างที่สุด แต่ทำได้เพียงให้เด็กสาวหันมามอง แล้วหันกลับไปคุยต่อ ไทเห็นดังนั้นก็คอตกหน้าซีดหันหลังเดินไปสะดวกซื้อประจำสถาบัน
“เอาน้ำองุ่นนะไทสุดหล่อ” เสียงของเด็กสาวลอยขึ้นมากระทบหูไทเพื่อตรอกย้ำชัยชนะอีกครั้ง เพราะเขาใจไม่แข็งพอที่จะปฏิเสธ ยิ่งทำให้ไทตัวซีดเข้าไปใหญ่
“แล้วนายไม่กินอะไรรึไง นัด?”น้ำหัวเราะคิกคักจากนั้นก็หันมาถามเพื่อนรัก
“ไม่ดีกว่า เดี๋ยวคนขับรถของป๊าก็มารับแล้ว”
“เอางั้นหรอตามใจนายนะ พูดถึง คอมเพลคซ์ เวิล์ด พอนายเข้าไปถึงชั้นกับไท คงมาหาไม่ได้หรอกนะ”น้ำเริ่มสนทนาเรื่องเกมส์อีกครั้ง นัดขมวดคิ้วสงสัยเชิงถาม
“ก็พวกชั้นอยู่ไกลจากเมืองหลวงมากเลยนะสิ จะไปหาก็คงจะไปหาในวันเดียวไม่ได้หรอก”น้ำตอบพลางเอามือมาชี้บนโต๊ะว่าพวกเขาอยู่ตรงนี้ แล้วเวลาพวกมือใหม่มาจะอยู่ตรงนี้ นัดเห็นระยะทางแล้วก็อดตกใจไม่ได้ นี้มันภูเก็ตไปเชียงใหม่ได้เลยนะเนี้ย
“งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ไม่ต้องรีบมาหาก็ได้ ขอเวลาศึกษาอะไรหลายๆอย่างในเกมส์ด้วย”นัดตอบด้วยความเกรงใจ
ปริ๊นๆ
เสียงแตดังขึ้นเรียกความสนใจของสองหนุ่มสาวให้หันไปมอง รถรีมูซีนสีดำขลับจอดรอยู่หน้าสถาบัน มีชายหนุ่มสวมสูทใส่แว่นดำ ยืนรออยู่ข้างประตูหลัง
“พูดไม่ทันขาดคำ มารับละนู้น”น้ำพูด
“น้ำ ชั้นกลับบ้านละ ฝากลาไอ้ไทด้วยนะ”นัดลาเพื่อนสาว
“คุณหนูอนาเธอร์ครับ คุณท่านฝากบอกว่า เตรียมทุกอย่างไว้ให้หมดแล้วครับ” ชายสวมชุดสูทพูดอย่างนอบน้อม พร้อมกับเปิดประตูรถให้ “ฝากขอบคุณป๊าด้วยแล้วกันนะ” เด็กหนุ่มกล่าว พร้อมกับขึ้นรถรีมูซีนไป
“ได้ครับคุนหนู” คนขับรถโค้งตอบและปิดประตูรถลง
“อ่าว ยายน้ำ ไอ้นัดหละ?”ไทพึ่งกลับมาจากร้านสะดวกซื้อกวาดตามองหาเพื่อนหนุ่มอีกคนที่หายไป
“กลับไปแล้วละ คนขับรถพึ่งมารับเมื่อกี้นี้เอง”น้ำตอบพร้อมหยิบกระเป๋าเดินนำหน้าออกจากสถาบัน
“เราก็กลับบ้านกันเถอะไท คุณน้ามารับนู้นแล้ว”น้ำกล่าวพลางชี้รถคันหนึ่งที่จอดอยู่หลังรถรีมูซีนของอนาเธอร์
“งั้นกลับกัน อยากไปโลกนู้นละ”ไทพูดพร้อมกับเดินมาข้างๆเด็กสาว ยื่นน้ำองุ่นอัดกระป๋องให้ “หวังว่าเจ้านัดมันคงไม่ไปก่อเรื่องในโลกนู้นหรอกนะ”
“ทำไมความคิดเราสองคนตรงกันเลยนะ ไท”น้ำรับน้ำองุ่นอัดกระป๋องมาเปิดดื่มด้วยความสดชื่น
“อ๊า ดื่มกี่ทีกี่ทีก็อร่อย ขอบคุณมากเลยนะไทที่ซื้อให้กินทุกวัน”
ความคิดเห็น