ตอนที่ 14 : [SF] BangDae - Drunkenness
“ในหนึ่งชีวิตของคนเรา มักจะมีใครบางคนเดินเข้ามาสร้างความทรงจำเอาไว้ แล้วเดินออกไปโดยที่ความทรงจำเหล่านั้นยังคงอยู่”
ผมยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ภายในห้องเดิมๆที่ออกจะน่าเบื่อ มันเป็นแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ? ที่รอบกายของผมว่างเปล่าขนาดนี้ ผมเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันว่างเพราะพื้นที่รอบกายของผมมันกว้าง หรือเป็นเพราะ... ใครบางคนได้หายไป
ใช่ครับ... ผมได้ทำใครบางคนหายไป
ผมนั่งมองชามรามยอนที่เย็นชืดอย่างไม่คิดจะแตะต้องมันสักนิด ครั้งหนึ่งเคยมีใครบางคนกินมันด้วยกันกับผม แม้ว่าฝีมือในการทำรามยอนของผมจะไม่เอาไหนเลยก็ตาม แต่เขากลับส่งยิ้มให้แล้วบอกว่าเขาชอบรามยอนฝีมือของผมที่สุด รอยยิ้มที่ตอนนี้ไม่ได้มีให้ผมอีกแล้ว... รอยยิ้มที่ผมคิดถึงมากที่สุด
“ตอนนี้ นายอยู่ที่ไหนกันนะแดฮยอน?”
“เครียดเรื่องอะไรอยู่รึเปล่าครับทำหน้ามุ่ยเชียว?”
ร่างเล็กของใครบางคนเดินเข้ามาในห้องทำงานของผมก่อนจะวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะข้างๆ กลิ่นของกาแฟช่วยทำให้ผมผ่อนคลายจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ได้เป็นอย่างดี ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะรวบเอวคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆให้นั่งตักของตัวเอง
จองแดฮยอน ได้แต่หัวเราะคิกคักออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะบีบจมูกผมส่ายไปมาอย่างที่เจ้าตัวชอบทำเวลาที่โดนผมกอด แม้ว่าแดฮยอนจะเป็นคนตัวเล็ก แต่เวลากอดแล้วกลับทำให้ผมอุ่นขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อุ่นไปทั้งหัวใจ...
“นิดหน่อยหน่ะ”
“อย่าเครียดมากสิครับ แค่นี้หน้าตาก็นำอายุไปไกลแล้วนะ คิก~”
แดฮยอนพูดพลางยิ้มจนตาหยี แก้มขึ้นขีดเหมือนหนวดแมวดูน่ารัก ความสดใสของแดฮยอน ทำให้ผมอดที่จะยิ้มตามไม่ได้ทุกครั้งที่จ้องมอง แดฮยอนโอบคอของผมเอาไว้ก่อนจะจูบปลายจมูกของผมเบาๆ ตากลมโตที่จ้องมองผม ยังคงเป็นประกายสดใสอยู่เสมอ
“ผมเติมพลังให้แล้วนะ เพราะงั้นอย่างเครียดให้มากเกินไปนะครับ ผมยังไม่อยากมีแฟนหน้าตาคราวพ่อ คิ~”
“ว่าพี่แก่งั้นเหรอ?”
“ผมเป็นห่วงต่างหากหล่ะ พี่ยังมีผมอยู่อีกทั้งคนนะครับ อะไรที่พี่แบกไว้แล้วมันหนักเกินไป แบ่งมาให้ผมบ้างก็ได้”
“แดฮยอน...”
“ผมรักพี่นะครับ พี่ยงกุก”
ทุกอย่างที่เป็นแดฮยอน ช่วยเติมพลังให้ผมได้อย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับว่าคนตัวเล็กคนนี้มีเวทย์มนต์ ที่ช่วยเปลี่ยนโลกสีหม่นของผมให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง ผมนึกไม่ออกเลยจริงๆว่าถ้าไม่มีแดฮยอน ชีวิตของผมจะเป็นยังไง? มันคงไม่ต่างอะไรกับต้นไม้ที่ขาดน้ำ อยู่ไปวันๆเพื่อรอวันตาย ชีวิตของผมถ้าไม่มีแดฮยอน... ก็คงจะไม่มีผมด้วยเช่นกัน
ผมแค่นยิ้มออกมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงใครคนนั้น หัวใจของผมรู้สึกท้อแท้เหลือเกินเมื่อเห็นภาพถ่ายของเขา ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนกันนะ? จะสบายดีมั้ย? จะคิดถึงผมเหมือนที่ผมกำลังคิดถึงเขาอยู่รึเปล่า? จะยังคงยิ้ม... เมื่อนึกถึงเรื่องราวของเราอยู่รึเปล่า? เพียงแค่คิด... น้ำตาที่เคยแห้งไปแล้วกลับไหลลงมาอีกครั้ง น้ำตาของผู้ชายท่าทางกระด้างและเย็นชาที่เคยถูกตราหน้าว่าไร้หัวใจ มันกำลังไหลเพราะผู้ชายตัวเล็กๆคนหนึ่ง ผมคิดถึงแดฮยอนมากเหลือเกิน...
ผมมองไปยังที่ว่างบนเตียงนอนของตัวเองที่เคยมีใครคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น วันนี้เจ้าของที่ไม่อยู่แล้ว ทิ้งไว้เพียงแค่กลิ่นหอมราวกับคาราเมลอันแสนหวานของเจ้าตัวที่ยังหลงเหลืออยู่ แค่บางเบาเหมือนพร้อมจะจางหายได้ตลอดเวลา มันเป็นสิ่งเดียวที่พอจะช่วยต่อชีวิตของผมให้อยู่รอดไปได้อีกวัน ผมไม่สามารถลบแดฮยอนออกไปจากใจได้ ผมเหนื่อยเหลือเกินกับการแสร้งทำว่าเข้มแข็ง ผมล้าเหลือเกินกับการที่ต้องแสดงออกว่าผมไม่เป็นอะไร ในวันที่ผมล้ม ผมแค่ต้องการมือของเขาโอบกอดผมเอาไว้ แค่มือเล็กๆที่พยุงผมขึ้นจากความอ่อนแอ
ผมจะต้องไปตามหาเขาจากตรงไหน?
ที่ไหนที่ผมต้องไป? นรก? สวรรค์? หรือในความฝัน?
ผมต้องการเพียงแค่แดฮยอน... แค่แดฮยอนเท่านั้น
“กลับมาหาพี่เถอะนะ... แดฮยอน”
“...พี่ทำไม่ได้ ที่บอกว่าจะลืมนาย”
คืนนี้ผมออกไปดื่มยังร้านประจำเพราะฮิมชานเป็นคนลากผมออกมา ผู้หญิงหน้าตาดีมากมายแวะเวียนเข้ามาทำความรู้จักกับผม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกตั้งแต่ที่ผมกับแดฮยอนเลิกรากันไป และไม่ใช่ว่าผมไม่ลองเปิดใจ แต่ไม่มีใครที่เหมือนกับแดฮยอน ไม่มีเลยสักคน เราเข้ากันไม่ได้เลยสักอย่าง เมื่อไม่ใช่ก็เปลี่ยนคนใหม่ ผมไม่แคร์และไม่คิดจะปรับตัวเองเข้าหาใคร จนผมรู้สึกเบื่อหน่ายกับการตามหาใครสักคนที่เหมือนกับแดฮยอน... หรือเพราะความจริงแล้ว ผมยังคงรักแดฮยอน ยังคงรักมาตลอดแม้ว่าจะเลิกกันไปแล้วก็ตาม
ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นแดฮยอน
“พี่ยงกุก พี่หายไปไหนมา? ผมโทรไปทำไมพี่ไม่รับ? ผมส่งข้อความไปทำไมพี่ไม่ตอบ?”
แดฮยอนถามผมขึ้นมาทันทีเมื่อผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง ผมมองคนตัวเล็กกว่าเล็กน้อยก่อนจะเลี่ยงเดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง แต่แดฮยอนยังคงตามมาฉุดแขนของผมเอาไว้
“พี่เป็นอะไรครับพี่ยงกุก? ผมถามทำไมพี่ไม่ตอบ?”
“อย่ามางี่เง่าน่าแดฮยอน พี่เหนื่อย”
ผมตอบอย่างขอไปที ก่อนจะพยายามดึงแขนตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของคนตัวเล็กที่เริ่มทำหน้างออย่างไม่เข้าใจอะไร แดฮยอนยังคงยึดแขนของผมเอาไว้แน่นอย่างกลัวว่าผมจะหายไป
พักนี้เราทะเลาะกันบ่อย ประเด็นมันคือเรื่องเดิมๆที่ผมเบื่อจะตอบ เวลามีปัญหากัน ผมจะเงียบและเป็นฝ่ายหลบหน้าแดฮยอน ไม่กลับบ้านหลายๆวัน เวลาที่แดฮยอนติดต่อมาผมก็เลือกที่จะไม่สนใจ
“ผมไม่ได้อยากจะงี่เง่านะ แต่พี่ไม่เคยบอกอะไรผมเลย พี่เป็นอะไรครับพี่ยงกุก? ผมทำอะไรผิดเหรอ? หรือมีอะไรที่พี่ไม่ชอบใจ? พี่บอกผมสิครับ ผมเป็นห่วงพี่นะ”
ผมถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ไม่อยากจะยอมรับเท่าไหร่ที่ในตอนนั้นผมเอาแต่ทุ่มเทเวลาให้กับงานจนละเลยแดฮยอน ไม่ใส่ใจที่จะติดต่อ งานของผมทำให้ผมเจอผู้คนใหม่ๆ และเมื่อเจออะไรใหม่ที่น่าตื่นเต้นกว่า อะไรเดิมๆก็เริ่มจะกลายเป็นสิ่งที่ผมไม่ต้องการ
“พี่เหนื่อยแล้วแดฮยอน เลิกเซ้าซี้ซักที”
“คำก็เซ้าซี้ คำก็งี่เง่า ทั้งๆที่เมื่อก่อนพี่ไม่เคยเป็นแบบนี้”
แดฮยอนยังคงไม่เข้าใจอะไร ผมได้แต่ถอนหายใจใส่คนตัวเล็กด้วยความเหนื่อยจัด ทั้งจากเรื่องงาน และจากกิจกรรมอะไรหลายๆอย่างที่ผ่านมาทั้งคืน และในเวลานี้ ไม่ว่าแดฮยอนจะทำอะไร ก็กลายเป็นขัดหูขัดตาผมไปเสียหมด
“ก็นั่นมันเมื่อก่อน พอเถอะแดฮยอน พี่เหนื่อย เลิกทำตัวเป็นภาระให้กับพี่ซักที”
“...ภาระอย่างนั้นเหรอครับ?”
แดฮยอนยังคงมีใบหน้าที่เรียบเฉย แต่ตากลมโตที่มักจะเป็นประกายอยู่เสมอกำลังฉายแววเจ็บปวด... และนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกผิดขึ้นมา ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเริ่มตีกันในหัว มือเล็กที่จับแขนของผมอยู่ค่อยๆคลายออกช้าๆ ก่อนที่คนตัวเล็กจะก้มลงกดอะไรบางอย่างในสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้วยื่นมาให้ผม
“ที่ผมกลายเป็นคนงี่เง่า กลายเป็นคนเซ้าซี้ เป็นภาระของพี่เพราะแบบนี้ใช่มั้ยครับ?”
ผมเงียบอย่างคนพูดอะไรไม่ออก ภาพที่แดฮยอนเปิดให้ผมดูคือภาพของผมกำลังจูบกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เมื่อเห็นผมเงียบแดฮยอนจึงพูดต่อ
“มีคนส่งรูปนี้มาให้ผมหลายวันแล้ว มันไม่ได้มีแค่รูปที่ผมได้รับ แต่ผมไม่เชื่อ ผมไม่เชื่อว่าเป็นพี่ ทั้งๆที่หลักฐานมันมีเยอะขนาดนี้...”
“แดฮยอน...”
“เพราะผมรู้ว่าพี่เหนื่อย ผมถึงไม่ถามอะไรที่คิดว่ามันจะทำให้เราทะเลาะกัน ผมเลี่ยงมันอยู่ตลอด ผมแค่อยากให้เราเข้าใจกันเหมือนเดิม แค่พี่บอกว่าไม่ ผมก็พร้อมจะเชื่อใจพี่ แต่ความเชื่อใจของผมกลับทำให้พี่เหนื่อย ผมก็คงทำได้เพียงแค่ขอโทษ... ขอโทษที่เป็นภาระของพี่ ขอโทษที่ทำให้พี่หนักใจอยู่เสมอ...”
น้ำตาที่ผมไม่คิดว่าจะเห็นได้ง่ายๆจากแดฮยอน ตอนนี้มันกลับไหลลงมาจนแก้มเนียนนั้นเปรอะไปด้วยน้ำตา น้ำตาที่เหมือนเรียกสติของผมให้กลับมาอีกครั้ง ทุกคำพูดที่คนตัวเล็กพูดออกมาเหมือนเป็นการระบายทุกสิ่งที่อยู่ในใจ ทุกสิ่งที่คนตัวเล็กคนนี้เก็บเอาไว้ เก็บ... เพียงเพราะให้ผมสบายใจ
แต่ผมกลับทำลายทุกอย่างเพราะความสนุกเพียงชั่วข้ามคืน...
“จนถึงตอนนี้ผมรู้แล้วหล่ะครับว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วที่ผมจะรักษาความรักของเราเอาไว้ มันเกินกว่าที่ผมจะอดทนแล้ว...”
คำพูดที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินจากแดฮยอนทำเอาผมถึงกับชาไปทั้งตัว แดฮยอนยังคงสะอื้นร้องไห้อย่างหนัก เขาคงทนกับผมมามากเกินพอแล้วจริงๆ ทั้งๆที่แดฮยอนไม่เคยเรียกร้องอะไรจากผมเลย เขายังคงเชื่อใจผมอยู่เสมอ แต่เป็นผมเองที่พังทุกอย่างลง
ผมคว้าตัวแดฮยอนเข้ามากอดไว้แน่น อยากจะขอโทษแต่ปากกลับไม่ยอมขยับเลยสักนิด แดฮยอนยังคงร้องไห้อยู่ในอกของผม สองแขนเล็กกอดผมเอาไว้แน่น มันเป็นกอดที่ทำให้ผมรู้สึกใจหาย
เหมือนกับว่ามันจะเป็นกอดสุดท้ายที่ผมจะได้รับจากแดฮยอน
“แดฮยอน...”
ผมได้แต่เรียกชื่อของคนตัวเล็กอยู่อย่างนั้น แดฮยอนพยายามกลั้นสะอื้น ที่ผ่านมาผมมัวแต่มองหาสิ่งใหม่ๆให้ตัวเองโดยลืมนึกไปว่าสิ่งที่ผมมีอยู่ตอนนี้ ดีที่สุดแล้วสำหรับผม ผมทิ้งให้แดฮยอนเสียใจอยู่คนเดียว ผมทิ้งให้แดฮยอนเหงาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่? ผมละเลยความรู้สึกของคนที่รักผมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
มือเล็กที่คลายกอดจากผม เหมือนกับมือนั้นได้กระชากหัวใจของผมออกไปด้วย แดฮยอนยังคงพยายามกลั้นสะอื้น ริมฝีปากอิ่มส่งยิ้มให้กับผม... รอยยิ้มที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต
“ไม่ใช่ว่าผมไม่รักพี่นะ แต่ผมคงอยู่ต่อไปไม่ไหวแล้ว...”
คำพูดสุดท้ายของแดฮยอนก่อนที่คนตัวเล็กจะหันหลังเดินออกจากห้องไป เหมือนหัวใจถูกฉีกออกเป็นชิ้น นี่ผม... เสียแดฮยอนไปแล้วจริงๆใช่มั้ย? แผ่นหลังของแดฮยอนที่หายลับไปหลังประตูบานใหญ่ เดินออกไปโดยไม่คิดจะหันกลับมามองสักนิด นี่ผมจะทำได้จริงๆเหรอที่จะอยู่โดยไม่มีแดฮยอน?
เผื่อจะสำนึกก็คงจะสายไป ผมเสียแดฮยอน คนที่ผมรักที่สุดไปแล้วจริงๆ
ผมดื่มไปไม่รู้แก้วที่เท่าไหร่แล้วสำหรับคืนนี้ แอลกอฮอล์สีอำพันในมือไม่ได้ทำให้ผมลืมเรื่องของแดฮยอนได้เลย มีแต่ตอกย้ำ ทำให้เมามายอยู่ในความคิดถึง ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำปฏิกิริยาโดยตรงกับความรู้สึก ไม่ว่าผมจะมองไปทางไหน ผมก็เห็นแต่หน้าของแดฮยอน ใบหน้าสวยๆที่มักส่งยิ้มให้ผมอยู่เสมอ คิดถึง... คิดถึงมากเหลือเกิน
ผมรู้สึกเกลียดตัวเองเหลือเกินที่พยายามจะลืมแดฮยอน
ทั้งๆที่ผมรู้ตัวเองดีว่าไม่มีวันที่จะลืมได้...
“ทำไมถึงดื่มจนเมาได้ขนาดนี้หล่ะครับพี่ยงกุก?”
เสียงคุ้นเคยที่ผมไม่ได้ยินมานานดังขึ้นข้างๆพร้อมร่างของใครบางคนที่แสนคุ้นตา บางทีผมอาจจะเมามากจนสร้างภาพหลอนขึ้นมา แดฮยอนไม่มีทางมาอยู่ในที่แบบนี้แน่ๆ ผมยิ้มเยาะตัวเองก่อนจะยกเหล้าขึ้นจิบ แต่คนข้างๆกลับรั้งข้อมือของผมเอาไว้
“พี่ดื่มเยอะแล้วนะพี่ยงกุก พอได้แล้วนะครับ”
ผมชักจะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าทั้งหมดคือสิ่งที่จิตใต้สำนึกของผมสร้างขึ้นมา ความอบอุ่นจากฝ่ามือเล็กที่จับข้อมือของผม ตากลมโตใสเป็นประกายที่ผมยังจำได้ดี ริมฝีปากอิ่มสวยที่มักส่งยิ้มให้ผมอยู่ตลอดเวลา ทุกอย่างที่ผมคิดถึง มาอยู่ตรงหน้าของผมแล้ว
“แดฮยอน?”
คนตัวเล็กส่งยิ้มให้ผมแทนคำตอบ ก่อนจะแย่งแก้วแอลกอฮอล์ในมือของผมคืนให้กับบาร์เทนเดอร์ ก่อนจะหันกลับมาส่งยิ้มให้ผมอีกครั้ง
“หล่อๆแบบนี้จะมีใครอีกหล่ะครับ?”
“แดฮยอน... จริงๆใช่มั้ย?”
ผมรวบตัวคนตัวเล็กเข้ามาใกล้อย่างไม่เชื่อสายตา แดฮยอนได้แต่หัวเราะส่งให้ มือเล็กบีบจมูกผมก่อนจะส่ายไปมาอย่างที่เคยทำ ทุกการกระทำ ทุกๆอย่างที่เป็นแดฮยอน ทำเอาผมถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่
“พี่ร้องไห้ทำไม? พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับพี่ยงกุก?”
“แดฮยอนพี่ขอโทษ อย่าไปไหนอีกเลยได้มั้ย? กลับมาหาพี่เถอะนะ...”
ทุกคำพูดที่อยู่ในใจ ถูกส่งออกไปถึงคนตัวเล็กที่ยังคงยืนนิ่งปล่อยให้ผมกอด ถ้านี่เป็นความฝัน มันคงเป็นฝันที่ผมไม่อยากจะตื่น และถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงความฝัน ผมก็อยากจะพูดในสิ่งที่ผมเก็บเอาไว้ สิ่งที่ผมไม่ทันได้พูดในวันที่แดฮยอนหันหลังจากผมไป อยากจะพูด... ก่อนที่มันจะไม่มีโอกาสอีกครั้ง
“พี่ยงกุก...”
“ขอโทษ... พี่ขอโทษ พี่รู้แล้วว่ามันเหงาแค่ไหนเมื่อไม่มีแดฮยอน”
ผมยังคงกอดแดฮยอนเอาไว้แน่นและพร่ำขอโทษอยู่อย่างนั้น แดฮยอนเงียบไปก่อนจะค่อยๆแกะมือของผมออกจากเอวของตัวเอง การกระทำของแดฮยอนทำเอาหัวใจของผมถึงกับกระตุกวูบ นี่ผม... จะไม่มีโอกาสอีกแล้วใช่มั้ย?
“ผมไม่เคยโกรธพี่เลย เพราะงั้นเลิกขอโทษผมได้แล้วนะครับ”
แดฮยอนยังคงยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ผมหลงรัก มือเล็กลูบแก้มของผมเบาๆอย่างต้องการปลอบประโลม สัมผัสแผ่วเบาจากแดฮยอนเป็นเหมือนน้ำที่หล่อเลี้ยงต้นไม้ใกล้ตายอย่างผมให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“กลับมาหาพี่ได้มั้ยแดฮยอน? กลับมาเริ่มกันใหม่นะครับ”
แดฮยอนส่งยิ้มกว้างให้ผมก่อนจะพยักหน้ารัวเป็นเชิงตอบรับ คนตัวเล็กโถมเข้ากอดผมไว้แน่น ผมเชยคางแดฮยอนขึ้นมาจูบ ส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดไปให้แดฮยอน
จูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงและโหยหา...
ผมเคยรู้สึกเกลียดตัวเองที่คิดว่าผมจะอยู่ได้แม้ว่าจะไม่มีแดฮยอนก็ตาม รู้สึกเกลียดตัวเองที่พยายามจะลืมแดฮยอน แต่ผมกลับรู้สึกเกลียดตัวเองมากกว่าเมื่อไม่มีแดฮยอนอยู่ข้างๆ ผมเกลียดความรู้สึกเหงาๆ เกลียดที่ว่างข้างๆกายที่มันกว้างเกินไปเมื่อไม่มีแดฮยอน ผมเกลียดชีวิตที่ไม่มีแดฮยอน...
เพราะจองแดฮยอนสำหรับบังยงกุกหน่ะ คือโลกทั้งใบที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้
เพราะจองแดฮยอนคือความรักของบังยงกุก แค่เพียงคนเดียว...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

มีความสดใสจริงๆ ถ้าได้อยู่ด้วยคงมีแต่ยิ้ม
เศร้าตามพี่ยงกุก นึกว่าจะเสียแดฮยอนไปจริงๆแล้ว
แต่ก็ได้กลับมาเจอกัน แฮปปี้อีกทีจนได้เนอะ ^^
รอบนี้รักษาน้องไว้ดีๆนะพี่บังง ❤