คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : [SF] LoDae - How to คู่มือเลี้ยงแมวฉบับชเวจุนฮง
ใครๆก็บอกว่าพี่แดฮยอนหน่ะ เหมือนแมว...
ผมก็คิดแบบนั้น นอกจากใบหน้าที่น่ารัก ตากลมโตที่ดูเป็นประกายสดใส
จมูกโด่งรั้นที่ผมแอบอิจฉา และริมฝีปากอิ่มสีแดงสดดูดึงดูดและมีเสน่ห์
ที่ดูโดยรวมแล้ว ละม้ายคล้ายคลึงกับลูกแมวตัวน้อยๆจอมซนและขี้สงสัย ที่ดูน่ารัก...
และน่าเลี้ยงในเวลาเดียวกัน
ไม่ใช่แค่หน้าตานะครับ นิสัยของพี่แดฮยอนก็ยังเหมือนแมวอีกด้วย
นอกจากจะขี้เล่น แล้วก็ชอบแกล้ง
แต่เวลาที่พี่แดฮยอนพูดเยอะๆหรือโวยวายขึ้นมาจะเหมือนลูกแมวที่ร้องแง้วๆ พร้อมทั้งพองขนขู่ฟ่อๆ
แถมยังขี้ระแวง แข็งแรง และระมัดระวังตัวอีกด้วย
ว่ากันว่าสัตว์ยิ่งแข็งแกร่งมาก
ก็ยิ่งสวยงามมาก
เพราะแบบนั้น
ผมถึงคิดว่าพี่แดฮยอนสวยมาก...
มันอาจจะแปลกถ้าผมจะบอกว่า
ผมมองพี่แดฮยอนเหมือนลูกแมวตัวหนึ่ง ที่ดูสวยงาม แข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวแต่น่าทะนุถนอม
แว๊บหนึ่งในความคิดของผมที่ผุดขึ้นมา...
ผมอยากเลี้ยงแมว
“นายทำอะไรของนายหน่ะจุนฮง?”
พี่แดฮยอนเดินมาหาผมก่อนจะมองสิ่งที่อยู่ในมือของผมด้วยความสนใจ
ตากลมโตนั่นดูเป็นประกายเมื่อเจ้าตัวให้ความสนใจกับอะไรบางอย่าง
เหมือนลูกแมวที่เจออะไรใหม่ๆแล้วอดไม่ได้ที่จะเข้าไปสำรวจ
“คู่มือเลี้ยงแมวหน่ะครับ”
“หือ? นายจะเลี้ยงแมวเหรอ?”
“กำลังดูอยู่หน่ะครับ
ตอนนี้ผมสนใจแมวตัวหนึ่งอยู่ ก็เลยศึกษาวิธีเลี้ยงและนิสัยใจคอของมันดู”
ผมตอบพี่แดฮยอนพลางส่งยิ้มให้เล็กน้อย
พี่แดฮยอนดูตื่นเต้นมากเมื่อผมบอกว่าจะเลี้ยงแมว อืม... พี่แดฮยอนเป็นคนที่ชอบอะไรน่ารักๆ
ยิ่งกับเจ้าตัวขนนุ่มนิ่ม หน้าตาบ้องแบ๊วอย่างสัตว์ที่ได้ชื่อว่าแมวด้วยแล้ว
พี่แดฮยอนยิ่งชอบมากเลยหล่ะ
พี่แดฮยอนยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆผม
ก่อนจะแย่งหนังสือที่อยู่ในมือของผมไปดูด้วยความสนใจ
ผมได้แต่มองคนตัวเล็กกว่าข้างๆด้วยสายตาเอ็นดู ปากอิ่มท่องอ่านวิธีเลี้ยงแมวเบาๆก่อนจะยิ้มตาหยีออกมาอย่างน่ารัก
ชวนสัมผัส
ชวนให้แสดงความรัก...
“ฉันอยากเห็นแมวที่นายจะเลี้ยงจัง
ถ้านายเอามันมาแล้วอย่าลืมให้ฉันดูนะ”
ตากลมโตดูใสซื่อขี้เล่น
ดูเป็นประกายเมื่อพูดถึงสิ่งที่ตนชอบ ผมยิ้มตอบคนอายุมากกว่าแต่ตัวเล็กกว่ามากข้างๆเป็นเชิงให้คำตอบ
“นายอย่าให้คนอื่นเห็นมันก่อนฉันนะ โดยเฉพาะยองแจ
นายอย่าให้เจ้าอ้วนนั่นดูเด็ดขาดนะ”
“ได้สิครับ”
พี่แดฮยอนยังคงยิ้มสดใสเหมือนเด็กๆ ชวนให้เอ็นดู
ไม่แปลกใจเลยที่คนตัวเล็กคนนี้จะมีแฟนบอยเยอะขนาดนั้น สายตาของผู้ชายคนอื่นๆที่มองพี่แดฮยอนหน่ะ
ปรารถนาในตัวพี่แดฮยอนกันทั้งนั้นแหละครับ ถ้าถามว่าทำไมผมถึงรู้หน่ะเหรอ?
ก็เพราะว่าผม อาจจะเป็นหนึ่งในจำนวนคนที่อยากได้เขาหล่ะมั้ง...
วันนี้เป็นวันพักผ่อนจากตารางฝึกซ้อมอันหนักหนาเพื่อเตรียมคัมแบค
พวกเรากลับมาอยู่หอด้วยกันเหมือนเดิมครับ
ผมกับพี่แดฮยอนเรายังเป็นรูมเมทกันเหมือนเดิม ส่วนพี่ๆอีก 4 คนเขาเปลี่ยนรูมเมท
พี่ยงกุกกับพี่ฮิมชาน พี่ยองแจกับพี่จงออบ
เพราะผมกับพี่แดฮยอนเราเข้ากันได้ดีในเรื่องการนอน
เราจึงยืนยันที่จะเป็นรูมเมทกันต่อไป ทั้งๆที่พี่ยองแจอยากกลับมานอนกับพี่แดฮยอนจนถึงขั้นโวยวาย
แต่มีเหรอครับที่ผมจะปล่อยโอกาสไปง่ายๆ พี่แดฮยอนหน่ะ ต้องนอนกับผมคนเดียวเท่านั้น
เนื่องจากเป็นวันพักผ่อนของพวกเรา
พี่ๆจึงพากันออกไปเที่ยว ไปดูหนังกันหมด
จะเหลือก็แต่ผมกับพี่แดฮยอนที่เฝ้าหอกันอยู่ 2 คน
พี่แดฮยอนยังคงทำนิสัยแมวได้เสมอต้นเสมอปลาย
ตอนนี้ลูกแมวตัวเล็กของผมกำลังนอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟา
นอนฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์เหมือนลูกแมวกำลังมีความสุขกับการนอนในช่วงบ่ายยังไงยังงั้นเลยครับ
จนผมอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพลูกแมวตัวเล็กนั่นเอาไว้จนพอใจ
ผมหยิบคู่มือเลี้ยงแมวออกมาดูอีกครั้งก่อนจะไล่สายตาอ่านข้อความที่อยู่ในหนังสือเล่มนั้นอย่างละเอียดตั้งแต่ข้อแรก
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 1 : ล่อด้วยอาหาร (หรือขนมแมวที่มีกลิ่นหอม น่ากิน)
“พี่แดฮยอน หลับรึเปล่าครับ?”
“อือ~ ไม่ได้หลับ นายมีอะไรรึเปล่า?”
ผมอมยิ้มเล็กน้อยให้กับน้ำเสียงงัวเงียของคนที่บอกว่าตัวเองไม่ได้หลับ
พี่แดฮยอนลุกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อยก่อนจะเกาะโซฟามองมาทางผม ตาปรือๆ
ปากเผยอๆนั่นชวนให้ผมคิดอกุศลกับพี่เขาไปไม่น้อยเลย
พี่แดฮยอนจะรู้ตัวรึเปล่านะ
ว่าตัวเองทำตัวชวนให้เป็นเจ้าของแค่ไหน?
“เมื่อเช้าผมออกไปไถบอร์ดเล่น ผ่านร้านชีสเค้กที่พี่เคยบอกว่าชอบ
ผมเลยซื้อชีสเค้กมาให้ อยู่ในตู้เย็นนะครับ”
“ชีสเค้ก!”
เมื่อได้ยินผมเอ่ยถึงของที่พี่แดฮยอนชอบ
เจ้าตัวก็ตาโต หู หางตั้งทันที ตากลมโตเป็นประกายสดใสชวนมอง
เหมือนที่เพื่อนพี่แดฮยอนพูดไว้ไม่มีผิด ว่าพี่แดฮยอนหน่ะ เป็นคนที่มีนัยตาสดใส
และเป็นประกายอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าพี่แดฮยอนเป็นญาติฝ่ายไหนกับเมดูซ่ารึเปล่า?
เวลาที่ผมได้จ้องตากลมๆนั่นทีไร ผมเป็นต้องแข็งทุกที...
อย่าเพิ่งคิดว่าผมเป็นพวกหื่นกามนะครับ ผมหมายถึง
สายตาของพี่แดฮยอนหน่ะ ชวนให้มองจนละสายตาไปไหนไม่ได้เลยต่างหาก ผมว่า... ใครก็ตามที่ได้มองตาพี่แดฮยอน
เป็นต้องตกหลุมรักเขาแน่ๆครับ เหมือนอย่างที่ผมเป็นอยู่บ่อยๆไง
“ผมซื้อชีสเค้กมา 2 ชิ้น
มีเค้กมันหวานด้วยนะครับ”
“ของชอบของฉันทั้งนั้นเลยอ่ะ
นายนี่น่ารักที่สุดเลย ขอบใจนะ!”
พี่แดฮยอนพูดพลางส่งยิ้มที่ยิ้มจนตาหยี
แก้มขึ้นขีดๆเหมือนหนวดแมวให้กับผม จนทำเอาคนที่กำลังมองอยู่แบบผม
ใจเต้นรัวยิ่งกว่าเสียงเพลง จังหวะหนักๆในอัลบั้มที่ผ่านๆมาเสียอีก
ในใจอยากจะตอบกลับนะครับว่า...
ถ้าผมน่ารัก...
ก็รักผมสิครับ
แต่ยังหรอกครับ มันยังไม่ถึงเวลา...
“ถ้าพี่แดฮยอนชอบ ผมจะไถบอร์ดไปซื้อมาให้อีกบ่อยๆเลยนะครับ”
“อื้อ! ฉันชอบ จริงๆแล้วฉันชอบช็อคโกแลตเค้กด้วยหล่ะ ซื้อมาอีกบ่อยๆนะ”
ผมอยากจะดึงแก้มนิ่มๆนั่นเสียเหลือเกิน
แต่ยังหรอกครับ ผมยังทำอะไรอย่างที่ใจนึกตอนนี้ไม่ได้
เดี๋ยวแมวจะตื่นแล้วจะหนีไปไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้อีก ของแบบนี้มันต้องใจเย็นๆ รอเวลา
ผมเชื่อว่าผมจะได้ลูกแมวตัวนี้มาเป็นของผมแน่นอน
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 2 : เกาคาง (ถ้าพอจะเข้าใกล้ได้บ้าง ให้เกาคางเบาๆหรือลูบหัว)
ผมนอนคว่ำเล่นไอแพดอยู่บนเตียงโดยที่พี่แดฮยอนไปอาบน้ำยังไม่ออกมา
ผมยังคงศึกษา วิธีเลี้ยงแมวอย่างต่อเนื่อง วิธีแรกผ่านไปได้ด้วยดี
ผมบอกแล้วใช่มั้ยครับว่าพี่แดฮยอนเหมือนแมว เพราะฉะนั้นการเลี้ยงแมว
กับการเลี้ยงพี่แดฮยอนมันเลยไม่ต่างกัน
ผมหันไปมองประตูห้องน้ำที่เปิดออก
พร้อมกับร่างเล็กๆของลูกแมวที่ผมเฝ้าสังเกตพฤติกรรม เดินฮัมเพลง เช็ดผมออกมา
เมื่อพี่แดฮยอนเห็นว่าผมกำลังมองเขาอยู่ จึงส่งยิ้มตาหยีมาให้อย่างน่ารัก
น่ารัก...
จนอยากจับมาทำรัก...
ผมรีบสะบัดหน้าตัวเองแรงๆเพื่อไล่ความคิดอกุศลที่เผลอคิดกับพี่แดฮยอนเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันก็ไม่รู้ออกไป
นั่นแหละครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันตั้งแต่เมื่อไหร่ที่คิดกับพี่แดฮยอนแบบนี้
ทั้งๆที่ผมไม่ควรเก็บเขาไปคิดเลยด้วยซ้ำ
“เป็นอะไรรึเปล่า? ปวดหัวเหรอ?”
พี่แดฮยอนเดินมานั่งข้างๆเตียงก่อนจะลูบหลังผมเบาๆเชิงเป็นห่วง
ผมยิ้มให้คนตัวเล็กกว่าข้างๆเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้าเบาๆก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
“เปล่าหรอกครับ เมื่อยคอหน่ะ”
พี่แดฮยอนพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะมองจอไอแพดที่ผมเปิดเกมค้างไว้
ตากลมนั่นมองอย่างสนใจก่อนจะทำตาโต
“อ๊ะ! มอนส์เตอร์ออกมาแล้ว”
ปากอิ่มครางออกมา ก่อนจะเอื้อมมือไปกดเล่นเกมที่ผมเล่นค้างไว้ต่ออย่างสนุกสนาน การกระทำของพี่แดฮยอน ไม่ว่าจะมองยังไงก็น่ารัก
เหมือนลูกแมวกำลังตะปบของเล่นยังไงยังงั้น...
ผมอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือออกไปลูบแก้มกลมนั้นเบาๆ
พี่แดฮยอนเอียงแก้มเข้ากับมือของผมอย่างลืมตัว
ปากอิ่มอมยิ้มเล็กน้อยโดยที่ตายังคงจับจ้องไปที่หน้าจอสี่เหลี่ยม
ยึดไอแพดของผมไปเล่นเป็นที่เรียบร้อย
พี่แดฮยอนนั่งเล่นเกมไปสักพักก่อนจะล้มตัวลงหนุนตักของผมแล้วเล่นเกมต่อ
ตากลมๆนั่นไม่ยอมละไปจากจอไอแพดเลยสักนิด ไม่ว่าพี่แดฮยอนจะทำอะไร
มันก็ดูน่าเอ็นดูในสายตาของผมอยู่เสมอ
ผมลังเลเล็กน้อยก่อนจะลูบหัวคนที่ใช้ตักของผมเป็นหมอนเบาๆ
พี่แดฮยอนชะงักมือที่เล่นเกมทันที ก่อนจะช้อนตากลมๆขึ้นมามองผมนิ่งๆ
“อ่า...”
ผมชะงักมือทันที
ไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาพูดเพราะเหมือนพี่แดฮยอนจะไม่พอใจที่ผมลูบหัวเขา ก็นะครับ...
เขาอายุมากกว่าผม อยู่ดีๆเด็กแบบผมก็ถือวิสาสะลูบหัวเขาเล่น
เขาก็คงจะไม่พอใจเป็นเรื่องธรรมดา
“ผมขอโทษครับ”
ผมพูดออกไปพลางก้มหน้าสำนึกผิด
พี่แดฮยอนอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเล่นเกมต่อ
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”
“พี่แด...ฮยอน?”
“จะลูบหัวก็ได้นะ ฉันไม่ว่า”
เมื่อโดนเปิดทางให้ขนาดนี้แล้ว
มีเหรอครับที่ผมจะปฏิเสธ?
ผมยิ้มออกมาทันทีอย่างลืมตัวก่อนจะลูบหัวทุยๆสลับกับแก้มกลมๆนั้นอย่างหลงไหล
นิสัยแมวก็แบบนี้แหละครับ...
ขี้อ้อน
ชอบอ้อนโดยที่เจ้าตัวเองไม่รู้ตัว
ชอบ...
ให้เจ้าของเอ็นดูและแสดงความรักด้วย
และเจ้าของก็จะเอ็นดู
และหลงรักเจ้าลูกแมวขึ้นอ้อน... จนถอนตัวไม่ขึ้น
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 3 : ล่อด้วยของเล่น (เช่น ตุ๊กตาที่มีแคทนิป หรือไม้ล่อแมว)
“ยองแจอ่า
เมื่อไหร่นายจะเอาการ์ตูนมาคืนฉันซักที? ฉันซื้อมายังไม่ได้อ่านเลยนะ
เอามาคืนฉันเดี๋ยวนี้เลยเจ้าอ้วน!”
“ฉันไม่คืน!”
“นายทำแบบนี้ได้ยังไงกัน? นั่นมันของฉันนะ!”
“ฉันไม่คืน มันหายไปแล้ว”
“ยูยองแจ!”
ผมดึงหูฟังออกก่อนจะมองหน้าเมนโวคอล 2 คนของวงที่กำลังเถียงกันไปมาเหมือนเด็กๆ
พี่ยองแจที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้
กับพี่แดฮยอนที่เบะปากกระทืบเท้าไปมาอย่างเด็กที่ถูกขัดใจ คิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปม
ตากลมโตมองเพื่อนตัวเองอย่างไม่พอใจถึงขีดสุด
“ก็มันหายไปแล้วอ่ะ นายก็ซื้อใหม่ละกัน”
“นายรู้มั้ยว่าเล่มนั้นมันเป็นเล่มสุดท้ายที่เหลือในร้านนะ!
แต่นายกลับทำมันหายทั้งๆที่ฉันยังไม่ได้อ่าน
ยูยองแจ! นายนี่มัน... ฮึ่ย!”
ปากอิ่มงอง้ำ
ตากลมโตที่ฉายแววสดใสอยู่เสมอเริ่มแดงก่ำ อา...
พี่ยองแจยืมหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดของพี่แดฮยอนไปแล้วทำหาย พี่แดฮยอนเลยโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงแบบนั้นสินะครับ
ใครๆก็รู้ว่าพี่แดฮยอนติดการ์ตูนเรื่องนั้นมาก
ถึงขนาดสะสมเอาไว้เป็นคอลเล็คชั่นเลยหล่ะ แถมหนังสือการ์ตูนเรื่องนั้นก็หายากมากๆด้วย
กว่าพี่แดฮยอนจะได้มาแต่ละเล่ม ทำเอาเลือดตาแทบกระเด็นเหมือนกัน
“ก็... มันหายไปแล้วอ่ะ”
พี่ยองแจเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นว่าพี่แดฮยอนโมโหแล้วจริงๆ
แน่หล่ะครับ ใครจะไปชอบเวลาที่พี่แดฮยอนโมโหหรือโกรธกันหล่ะ
พี่แดฮยอนโมโหหรือโกรธเมื่อไหร่ เท่ากับหายนะมาเยือนวงเลยหล่ะครับ
พี่แดฮยอนไม่สนใจจะฟังพี่ยองแจพูดอะไรอีก
มือเล็กๆนั่นกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะเดินเงียบๆเข้าห้องนอนไปพลางปิดประตูเสียงดังลั่นจนพี่ยงกุกถึงกับเปิดประตูห้องทำงานออกมาดูอย่างงงๆ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ซวยแล้วพี่... แมวโกรธ”
พี่ยองแจตอบพี่ยงกุกด้วยท่าทางอ่อนใจ
ใบหน้าขาวตอนนี้กลับซีดจนไร้เลือด แม้ว่าพี่ยองแจจะชอบแหย่ชอบแกล้งพี่แดฮยอน
แต่พี่ยองแจก็ไม่ชอบให้พี่แดฮยอนโกรธเหมือนกัน
“ไปทำอะไรให้แมวมันโกรธหล่ะ?”
“ก็... ผมทำหนังสือการ์ตูนของมันหายอ่ะ”
“สมควรที่แดฮยอนจะโกรธ ไปง้อมันเลยนะ”
“พี่ยงกุกช่วยผมง้อหน่อย...”
“เรื่องนี้ฉันจะไม่ยุ่ง
นายทำแดฮยอนงอนนายก็ต้องง้อ ไปง้อเลยไป นั่นอ่ะความสดใสของวงเลยนะ ไปง้อเดี๋ยวนี้”
พี่ยงกุกกลับเข้าห้องทำงานไปโดยที่ไม่ลืมแลบลิ้นใส่พี่ยองแจเป็นการส่งท้าย
พี่ยองแจได้แต่กุมขมับตัวเองโดยที่ปากเล็กๆนั่นบ่นโอดครวญไม่หยุด
“แล้วฉันจะไปหาหนังสือการ์ตูนเล่มนั้นมาจากไหนหล่ะ?”
ผมปลีกตัวเดินไปที่ห้องตัวเองเงียบๆโดยใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป
พี่แดฮยอนนอนคว่ำฟุบหน้าอยู่ในฝั่งของตัวเอง
เสียงสะอื้นเบาๆทำให้ผมรู้ว่าคนเป็นพี่คนนั้นกำลังร้องไห้
“พี่แดฮยอน...”
“...”
“ผมมีขนมนะ มากินกับผมหน่อยสิครับ”
ไร้การตอบรับจากคนที่ผมเรียก
ตัวเล็กๆนั่นขยับเล็กน้อยก่อนจะซุกตัวเองเข้าใต้ผ้าห่มโดยที่ใบหน้าสวยนั้นยังคงกดอยู่กับหมอนโดยไม่สนใจจะหันมามองผมเลยสักนิด
ครับ...
ผมโดนแมวเมิน
แมวเวลาโกรธแล้วต่อให้เรียกยังไง
เอาขนมล่อเท่าไหร่ก็ไม่คิดจะสนใจ
ผมเดินไปหยิบอะไรบางอย่างออกจากลิ้นชักข้างเตียงฝั่งผมก่อนจะนั่งลงข้างๆพี่แดฮยอนที่เอาแต่ซุกหน้าซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม
ก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
“อืม...
พอตัวเอกฟื้นขึ้นมาแล้วพบว่าพลังของตัวเองหายไปแล้วเป็นยังไงต่อนะ? อ๋อ...
ตัวร้ายส่งลูกน้องมาเพื่อหวังจะจัดการตัวเอกนี่เอง”
ได้ผลครับ
คนที่อยู่ใต้ผ้าห่มรีบเปิดผ้าห่มหันกลับมาทางผมทันที ตากลมๆที่ยังคงฉ่ำน้ำมองผมตาโตทำเอาผมยิ้มออกมาได้ไม่ยาก
ผมยื่นหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดเล่มล่าสุดไปตรงหน้าพี่แดฮยอน
ซึ่งพี่ตัวเล็กตะครุบหมับทันที
“เล่มนี้ใช่มั้ยครับที่พี่ยองแจทำหาย?”
“ใช่! เล่มนี้แหละ ทำไมนายถึงมีหล่ะ? นายขโมยไปเหรอ?”
ตากลมโตกลับมาเป็นประกายสดใสอีกครั้ง
แม้ว่าบนใบหน้าสวยๆนั้นจะเต็มไปด้วยคราบน้ำตาก็ตาม
ผมเอื้อมมือไปเช็ดคราบน้ำตาพวกนั้นออกจากใบหน้าของพี่แดฮยอนเบาๆก่อนจะส่งยิ้มให้
“ผมไม่ได้เอาไปหรอกครับ
พอดีผ่านร้านหนังสือแล้วเห็นมันขายอยู่หน่ะ ดูในชั้นหนังสือของพี่แล้วเห็นว่าพี่ยังไม่มีเล่มนี้
ผมเลยซื้อมา”
เพียงแค่นั้นแหละ
พี่แดฮยอนก็ยิ้มกว้างจนตาหยีส่งมาให้ผม
ก่อนจะโผเข้ากอดเอวซุกอกผมไว้โดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว
“ขอบใจนะ ขอบใจนายมากๆเลยจุนฮง
นายน่ารักที่สุดเลย”
ผมได้แต่นั่งนิ่งอย่างคนทำอะไรไม่ถูก
พี่แดฮยอนเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม นั่นแหละครับที่ทำให้ผมยิ้มออกมา
แลกกับรอยยิ้มนี้หน่ะ ไม่ว่าจะต้องทำอะไร ลำบากแค่ไหนก็ตาม ผมยอม
เพื่อที่จะรักษารอยยิ้มนี้เอาไว้
ผมลูบแก้มกลมๆของพี่แดฮยอนเบาๆ
ก่อนจะหยิบของที่อยู่ในถุงข้างเตียงตัวเองมายื่นให้คนตัวเล็กที่ตอนนี้นอนพิงอกของผมอ่านอาร์ตูนอย่างอารมณ์ดี
“เห๋?”
พี่แดฮยอนเลิกคิ้วมองผมแต่มือเล็กนั้นกลับคว้าหมับเอาเจ้าตุ๊กตาแมวขนปุยสีขาวไปกอดทันที
ก่อนจะซุกหน้าเข้ากับขนนิ่มๆของมันอย่างหลงไหล
“ตุ๊กตาแมวที่พี่เคยบอกว่าน่ารักไงครับ อ่ะ...
ผมให้”
“นี่... นายซื้อมาให้ฉัน? มันแพงไม่ใช่เหรอ?”
“เอาน่า... ตอนผมซื้อมามันลดราคาพอดี เห็นมันเหมาะกับพี่
ผมเลยซื้อมาให้ รับไว้สิครับ”
“อือ~ มันน่ารักมากจริงๆแหละ มีกลิ่นด้วยอ่ะ
เหมือนชีสเค้กเลย ขอบใจนะจุนฮง นายดีกับฉันมากๆเลย”
เป็นอีกครั้งที่พี่แดฮยอนยิ้มให้ผมก่อนที่พี่ตัวเล็กจะหันกลับไปอ่านการ์ตูนต่อ
โดยที่แขนเล็กนั้นกอดตุ๊กตาเอาไว้แน่น ผมได้แต่ลูบหัวคนที่ใช้อกของผมเป็นที่พิงอ่านหนังสืออย่างรักใคร่
ไม่ว่าแมวจะอยู่ในอารมณ์ไหน
หน้าที่ของผมก็คือทำให้แมวกลับมาร่าเริงอีกครั้ง
ค่อยๆทำให้แมวตกหลุมรักผม
ทีละนิด... แม้ว่ามันจะใช้เวลานาน
แต่ถ้าแลกกับสัตว์ที่สวยงามอย่างพี่แดฮยอนแล้วหล่ะก็...
ผมเต็มใจรอนะ
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 4 : เรียกชื่อ (ตั้งชื่อและเรียกบ่อยๆให้แมวคุ้นเคย)
ผมกับพี่แดฮยอนเราสนิทกันมากขึ้น
ตั้งแต่คัมแบคกลับมาครั้งนี้พี่แดฮยอนทำตัวติดกับผมมากกว่าเมื่อก่อน
ซึ่งมันเป็นอะไรที่ดีกับใจผมมากเลยครับ เมื่อก่อนไม่ว่าผมจะพยายามเข้าหาพี่แดฮยอนเท่าไหร่
ก็เหมือนว่าพี่ตัวเล็กจะคอยเอาแต่หนีผมตลอด
เหมือนแมวที่มักจะเดินหนีเสมอเมื่อมีใครเข้าใกล้หรือคิดจะเล่นด้วย
แต่ตอนนี้พี่แดฮยอนกลับคอยมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆตัวของผม
ยอมให้ผมสัมผัสตัวเขาออกสื่อได้มากขึ้น แถมบางที พี่แดฮยอนยังเป็นฝ่ายเข้ามากอดผมเองด้วย
มันเป็นอะไรที่ดีมากจริงๆนะครับ
วันนี้เรามีงานแฟนไซต์กันที่ชินชน
ผมรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้นั่งข้างๆพี่แดฮยอนเหมือนที่หวังเอาไว้
ระหว่างผมกับพี่แดฮยอนมีพี่ฮิมชานนั่งคั่นกลางอยู่
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้นั่งใกล้กัน แต่ผมก็คอยหาโอกาสมองพี่แดฮยอนอยู่บ่อยๆ
จนบางทีผมก็มองเพลินจนลืมไปเลยว่าเบบี้ยืนอยู่ตรงหน้า
ป้าบ!
“ตีผมทำไมอ่าพี่ฮิมชาน?
ผมเจ็บนะครับ”
ผมครางออกมาก่อนจะมองหน้าพี่รองของวงที่มองผมด้วยสายตาหมั่นไส้ยังไงก็ไม่รู้
อยู่ดีๆก็ซัดหลังของผมเข้าให้ป้าบใหญ่แล้วทำหน้าตาแบบนั้นใส่ ผมก็งงเป็นเหมือนกันนะครับ
“เอาแต่มองไอ้เหมียวอยู่นั่นแหละ
เวรกรรมของฉันจริงๆที่ดันต้องมานั่งคั่นพวกนายเนี้ย สลับที่กันมั้ย?”
พี่ฮิมชานพูดพลางจิกตามองผมอย่างหมั่นไส้สุดๆ
ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆให้เขาเป็นคำตอบ แต่... ก็ดีนะครับ
ผมก็อยากสลับที่นั่งกับพี่ฮิมชานเหมือนกัน
ผมมองพี่แดฮยอนที่ยิ้มอย่างน่ารักก่อนจะหยิบนั่นนี่ที่เบบี้ยื่นให้มาใส่
ไม่ว่าจะเป็นหูเสือ หูหมี หรือแม้แต่ต้นอ่อนของต้นไม้เล็กๆ
ทุกอย่างมันเข้ากันดีกับพี่แดฮยอนมากๆเลยหล่ะครับ แอบคิดไม่ได้ว่า...
ถ้าพี่แดฮยอนใส่หูแมว คงจะน่ารักน่าเอ็นดูมากๆเลย
ป้าบ!
“เลิกมองแดฮยอนได้แล้ว
เบบี้รอนานแล้วนะจุนฮง”
ฝ่ามือหนักๆ
พร้อมเสียงต่ำๆส่งมาให้ผม ทำเอาผมหันกลับมาสนใจเบบี้ที่อยู่ตรงหน้าแทบไม่ทัน
เมื่อโดนลีดเดอร์ของวงที่พ่วงตำแหน่งคุณพ่อจอมหวงลูกสาว(?)
อย่างพี่ยงกุกตำหนิมาเบาๆ ผมได้แต่หันไปยิ้มแหย๋ๆให้เป็นเชิงขอโทษก่อนจะหันกลับมาสนใจเบบี้ที่ยืนตรงหน้า
“พี่คะ
ช่วยตอบคำถามในโพสอิทให้ฉันด้วยนะคะ”
ผมเปิดไปอ่านโพสอิทที่เบบี้แปะเอาไว้ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถาม
‘เปรียบเมมเบอร์เป็นครอบครัว’ ผมไล่อ่านตัวเลือกที่เบบี้เขียนมาทีละข้อ
ก่อนจะสะดุดกับตัวเลือกหนึ่งที่อยู่ในนั้น
‘สัตว์เลี้ยง’
คำตอบแรกที่ขึ้นมาในหัวของผมคือ
‘แมว’ ผมเคยบอกแล้วนี่ครับว่าผมอยากเลี้ยงแมว
สิ่งมีชีวิตขนปุยที่ดูสง่าและสวยงาม
ผมอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะตอบคำถามนั้นของเบบี้ไปอย่างอารมณ์ดี
“ชเวจุนฮง!!!”
เสียงเรียกชื่อของผมดังลั่นห้อง
ปลุกผมจากการงีบหลับเพราะเหนื่อยอ่อนกับงานให้ตื่นขึ้นมาได้เป็นอย่างดี พร้อมร่างเล็กๆของพี่แดฮยอนที่ตรงเข้ามาฟาดแขนของผมอย่างแรง
เป็นการเรียกสติของผมให้กลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว
“โอ๊ยๆ
อะไรครับพี่แดฮยอน?”
ผมรวบข้อมือเล็กนั้นเอาไว้เบาๆก่อนจะมองหน้าที่งอง้ำของพี่แดฮยอนที่จ้องผมตาขวางอย่างไม่พอใจ
อา... แมวโกรธอะไรผมกันนะ? ดูสิ พองขนกางเล็บขู่ฟ่อๆเตรียมข่วนผมเต็มที่เลย
“นายตอบเบบี้ไปแบบนั้นได้ยังไง?”
“ครับ?”
ผมมองพี่แดฮยอนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
พี่แดฮยอนดึงมือตัวเองให้หลุดจากการเกาะกุมของผมก่อนจะกดอะไรยุกยิกในสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้วยื่นมาให้ผมดู
“เปรียบเมมเบอร์เป็นครอบครัว
แล้วสัตว์เลี้ยงคือแดฮยอน มันหมายความว่ายังไง? นายเห็นฉันเป็นสัตว์เลี้ยงเหรอ?”
ผมมองพี่แดฮยอนที่พูดรัวเร็วเหมือนคนแร๊ป
กับท่าทางที่ขู่ฟ่อๆนั่นอย่างรู้สึกเอ็นดู พี่แดฮยอนทำตัวน่ารัก
ชวนให้เอ็นดูอีกแล้ว
“แมวไงครับ”
“ห๊ะ?”
กลับกลายเป็นพี่แดฮยอนที่มองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
ผมถือวิสาสะดึงคนตัวเล็กตรงหน้ามานั่งบนตักของตัวเองก่อนจะสวมกอดเอาไว้จากด้านหลังพลางเกยคางลงบนไหล่เล็กนั้นไว้เสร็จสรรพ
“ก็เพราะว่าพี่แดฮยอนเหมือนแมวไงครับ”
“เดี๋ยวสิ ฉันเหมือนแมวตรงไหนกัน?”
พี่แดฮยอนหันมามองหน้าผม
ก่อนจะรีบหันกลับไปทางเดิมทันทีเมื่อหันมาเจอใบหน้าของผมที่ห่างกับเขาไม่ถึงคืบ แก้มกลมๆนั่นเริ่มขึ้นสี
“ตากลมๆแบบนี้
ปากอิ่มๆ หน้าสวยๆแบบนี้ เหมือนแมวมากเลยนะครับ ไม่เชื่อถามเบบี้ดูก็ได้”
ผมไล้ปลายนิ้วลงบนแก้มกลมๆที่เริ่มขึ้นสีจัด
พี่แดฮยอนเม้มปากตัวเองทันที
หัวคิ้วขมวดเข้าหากันเป็นปมจนผมอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
“นิสัยก็เหมือนแมวด้วยนะครับ
ตะกละ ขี้โมโห ไม่พอใจทีไรต้องตะปบตลอด เหมือนพี่แดฮยอนเลย”
“นี่นายด่าฉันเหรอ?!”
“เปล่านะครับ
ผมแค่จะบอกว่าพี่แดฮยอนหน่ะเหมือนแมว... ที่น่ารักและน่าเลี้ยงไปพร้อมๆกัน”
พี่แดฮยอนกำมือเข้าหากัน
ปากอิ่มนั่นเม้มเข้าหากันแน่น หน้าตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจถึงขีดสุด
แต่บนใบหน้าที่น่ารักนั้น กลับเจือไปด้วยสีเข้มของคนที่กำลังเขินจัด อ่า...
ไม่รู้ว่ากำลังเขินหรือกำลังโกรธกันแน่
“ย...
อย่ามาพูดจาแบบนั้นนะ”
“ผมพูดจริงๆนะครับ...
จริงสิ พี่เคยถามผมใช่มั้ยเรื่องแมวที่ผมอยากเลี้ยงหน่ะ”
“...”
“แมวที่ผมพูดถึงหน่ะ...
ก็คือพี่ยังไงหล่ะครับ พี่แดฮยอน”
พูดจบผมก็ขโมยหอมแก้มกลมๆนั่นไป
1 ทีอย่างอดใจไม่อยู่ พี่แดฮยอนได้แต่อ้าปากค้าง ก่อนจะทุบขาผมอย่างแรงหลายๆที
พร้อมกับเล็บคมๆที่ตะกุยลงบนแขนของผมอย่างไม่พอใจสุดๆ
“ใครใช้ให้นายหอมแก้มฉันห๊ะไอ้เด็กนรก!!!”
ผมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะรวบข้อมือเล็กนั้นเอาไว้แล้วบรรจงจูบลงบนหลังมือนั้นเบาๆ
พลางจับคนที่นั่งดิ้นอยู่บนตักของผมให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเอง ใบหน้าสวยๆของพี่แดฮยอนที่แดงจัด
เพิ่มความน่ารักให้กับเจ้าตัวอีกหลายสิบเท่า
ริมฝีปากอิ่มที่ทั้งยู่ทั้งเบะบ่งบอกว่าเจ้าตัวกำลังไม่พอใจนั่นชวนให้ผมรู้สึกอยากจับจองเป็นเจ้าของ
แต่ยังครับ...
ยังไม่ใช่ตอนนี้
แต่รับรองว่าผมได้เป็นเจ้าของแน่ๆ
“ตัวเล็ก”
“อะไรอีกเนี้ย?”
“เป็นแมวก็ต้องมีชื่อนะครับ
ผมจะตั้งชื่อแมว ข อ ง ผ ม ว่า ตัวเล็ก”
ผมจงใจเน้นคำว่า
‘ของผม’ เป็นพิเศษพร้อมทั้งมองเข้าไปในตาใสๆของพี่แดฮยอน
คนตรงหน้ารีบหลุบตาลงเพื่อหลบสายตาทันที
“ฉันไม่ใช่แมว”
“ตัวเล็ก”
“ก็บอกว่าไม่ใช่แมวไง”
“ตัวเล็ก”
“ถ้าฉันเป็นแมว
งั้นนายก็คงเป็นหมา”
“ตัวเล็ก”
“ฉันไม่ได้ชื่อตัวเล็ก”
“ตัวเล็ก...
ตัวเล็กๆๆๆๆ”
“นี่!
จะกวนประสาทกันเหรอ?”
ใบหน้าสวยงอง้ำ
ผมเพิ่งรู้ว่าการแหย่แมวมันสนุกแบบนี้นี่เอง
ผมโอบรอบเอวเล็กนั้นไว้เพื่อกันไม่ให้เจ้าแมวเหมียวที่อยู่บนตักของผมกระโดดหนีผมไปไหนได้อีก
ถึงแม้ว่าพี่แดฮยอนจะทำหน้าตาเหมือนไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้ปัดป้องอะไรอีก
ซึ่งนั่นก็เหมือนเป็นข่าวดีสำหรับผม
“ตัวเล็กครับ”
“อะไร?!”
ผมยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม
ก่อนจะกอดคนที่อยู่บนตักของผมแน่นๆอย่างแสนรัก
“ผมจะเรียกพี่แดฮยอนว่าตัวเล็กเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
เพราะฉะนั้นช่วยชินกับชื่อนี้เร็วๆด้วยนะครับ ลูกแมวตัวเล็กของผม”
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 5 : อยู่ในระดับเดียวกับแมว (นั่งหรือนอนให้ตัวเสมอกับแมว
จะทำให้แมวรู้สึกเป็นมิตรกว่า)
ความสัมพันของผมกับพี่แดฮยอนดีขึ้นเรื่อยๆ
ผมเรียกพี่แดฮยอนว่า ตัวเล็ก บ่อยๆ
จนตอนนี้เจ้าของชื่อที่ผมตั้งให้เริ่มชินกับสรรพนามที่ผมใช้เรียก
มีบ่อยครั้งที่ผมเผลอเรียกต่อหน้าเมมเบอร์คนอื่นๆ
และนั่นก็ทำให้พี่แดฮยอนหันมาพองขนขู่ผมฟ่อๆอย่างน่ารัก
วันนี้เป็นอีกวันที่เรามีเวลาว่างในช่วงตอนค่ำ
เมมเบอร์คนอื่นๆยกเว้นพี่ยงกุก พากันนั่งเล่น
นอนเล่นอยู่หน้าทีวีเครื่องใหญ่ตรงห้องนั่งเล่นภายในหอพัก
โดยพี่ยองแจกับพี่จงออบกำลังแข่งกันเล่นเกมในไอแพดจนเครื่องแทบไหม้
และพี่ฮิมชานที่คอยก่อกวนพี่จงออบอยู่ไม่ห่าง แต่ถ้าถามถึงลูกแมวของผมแล้วหล่ะก็
นอนเหยียดยาวอยู่บนโซฟาหัวเราะคิกคักกับการ์ตูนที่เจ้าตัวเปิดดูในไอแพดของตัวเองอย่างไม่คิดจะสนใจเมมเบอร์คนอื่นๆ
ผมวางสมุดเล่มเยินๆที่ขีดๆเขียนๆแต่งเนื้อเพลงลง
ก่อนจะเดินเงียบๆไปหาลูกแมวที่ยังคงยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้กับหน้าจอสี่เหลี่ยมที่อยู่ในมือ
ก่อนจะนั่งลงกับพื้นข้างๆโซฟาที่แมวเหมียวตัวเล็กนอนอยู่
ความน่ารักน่าเอ็นดูของพี่แดฮยอนทำให้ผมอดที่จะเอื้อมมือไปลูบหัวทุยๆนั้นไม่ได้
“ดูอะไรอยู่ครับตัวเล็ก?”
“ไม่บอกหรอก คิ~”
ผมหยิกแก้มกลมๆนั้นไปเบาๆอย่างหมั่นเขี้ยวพลางเกยคางกับโซฟามองหน้าอีกคนที่ยิ้มให้กับการ์ตูนเรื่องโปรดของตัวเอง
พี่แดฮยอนเหลือบมองผมเล็กน้อยก่อนจะขยับหนีให้ใบหน้าของตัวเองออกห่างจากผม
“อ... อะไร? มองอะไร?”
“มองคนน่ารัก”
ประโยคสั้นๆของผม
ทำเอาคนได้ฟังถึงกับหน้าขึ้นสีได้ไม่ยาก
มือเล็กถูกส่งมาดันหน้าของผมให้ออกห่างทันที
“อย่ามาเสี่ยวนะ”
“แล้วเสียวมั้ยหล่ะ?”
“ส... เสียวอะไรของนายเนี้ย?
อย่ามาพูดจาสองแง่สองง่ามนะ”
ว่าแล้วมือเล็กนั่นก็ฟาดลงบนสันดั้งที่ไม่ค่อยจะมีของผมไม่แรงและไม่เบาจนเกินไป
ผมหัวเราะให้กับคนที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะรวบมือข้างนั้นของอีกคนมาจูบเบาๆ
“น่ารัก”
“อะไรอีก?”
พี่แดฮยอนทำท่าจะงับหัวผมให้ได้ สองแก้มกลมขึ้นสีจัดน่ามอง
ตากลมๆมองผมอย่างไม่พอใจแต่กลับดูเขินอายเกินกว่าจะมองผมแบบตรงๆ
“ตัวเล็กของผมน่ารัก”
“ฉันเป็นของนายตอนไหน? อย่ามามั่วนะ”
“แล้ว... อยากเป็นตอนนี้เลยมั้ยครับ?”
ผมยิ้มกว้างเมื่อพี่แดฮยอนหันกลับไปซุกหน้าเข้ากับโซฟาอย่างพยายามซ่อนใบหน้าแดงๆที่แดงจัดลามไปถึงใบหูให้พ้นสายตาของผม
พี่แดฮยอนจะรู้มั้ยว่าเขาทำให้ความอดทนในตัวของผมลดลงทุกที?
“ตัวเล็ก”
“...อือ”
“มองกันหน่อยสิครับ”
กว่าพี่แดฮยอนจะยอมหันกลับมามองผมได้ก็ต้องคะยั้นคะยออยู่นานเหมือนกัน
ปากอิ่มเบะออกเล็กน้อยแต่ก็ยอมหันกลับมามองผมแต่โดยดี
ผมเกยคางกับโซฟาพลางจ้องสบกับตากลมๆคู่นั้น
แววตาสดใสเหมือนลูกแมว ดูน่ารักและไร้เดียงสา จมูกโด่งรั้นชวนหมั่นเขี้ยว
ริมฝีปากอวบอิ่มที่มักยั่วยวน ชวนให้เป็นเจ้าของอยู่เสมอยามที่ได้จ้องมอง
สีผิวที่ไม่ได้ขาวมาก อาจจะเข้มกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แต่กลับดูเซ็กซี่มีเสน่ห์ ตัวเล็กๆแต่ไม่ได้ผอมบาง มีมัดกล้ามอย่างผู้ชายทั่วไป ถึงจะไม่มาก
แต่ก็ยังดูตัวเล็กมากอยู่ดีเมื่อเทียบกับผม
ไหล่เล็กๆชวนให้เจ้าตัวกลับดูตัวเล็กลงไปอีก น่าทะนุถนอม น่าปกป้อง...
ผมรัก...
รักทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นคนๆนี้
ผมรักทุกอย่างที่เป็นพี่แดฮยอน
ไม่รู้ว่าเพราะแรงดึงดูดจากสายตาอ้อนๆนั่น
หรือเป็นเพราะริมฝีปากอิ่มที่เผยอออกยั่วยวนเชิญชวนผม
ทำให้ผมค่อยๆเคลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้าหาอีกคน ระยะห่างระหว่างเราลดลงทีละนิด
จนในที่สุด...
ช่องว่างระหว่างผมกับพี่แดฮยอนก็หมดลง เมื่อริมฝีปากของเราทั้งสองคนสัมผัสกัน
ผมบดริมฝีปากของตัวเองลงบนริมฝีปากอิ่มของคนตรงหน้าเป็นจังหวะอย่างแผ่วเบา
ไร้ซึ่งการรุกล้ำ
แต่กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผมอยากส่งผ่านให้กับพี่แดฮยอนได้รับรู้
เนิ่นนานแต่อ่อนโยน
ผมผละออกเล็กน้อยให้คนตรงหน้าที่ผมแสนจะรักคนนี้ได้มีโอกาสหายใจ
ก่อนจะเคลื่อนตัวเข้าไปครอบครองริมฝีปากอิ่มสีสดนั่นอีกครั้งอย่างที่ผมเคยฝันอยากจะทำมานาน
“ไอ้ลูกแมวโว้ย!
มาหาพี่หน่อยเร็ว มีอะไรจะให้ดู”
เสียงของพี่ฮิมชานช่วยเรียกสติที่หลุดลอยของเราสองคนให้กลับมาได้เป็นอย่างดี
พี่แดฮยอนผลักผมออกอย่างแรงก่อนจะรีบซุกหน้าเข้ากับโซฟาทันทีอย่างคนเขินจัด
“ไอ้เหมียว!!”
“ผ... ผมกำลังจะไป แปบนึงสิ”
พี่แดฮยอนละล่ำละลักตอบพี่ฮิมชานก่อนจะรีบลุกวิ่งไปหาพี่ฮิมชานทันทีอย่างไม่คิดจะสนใจผมเลยสักนิด
ผมยิ้มให้ตัวเองอย่างรู้สึกถึงความสำเร็จที่อยู่ใกล้เพียงแค่เอื้อมมือ
ถ้าผมไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหล่ะก็...
พี่แดฮยอนเองก็คิดเหมือนผมใช่มั้ยครับ?
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 6 : จ้องตา (ถ้าแมวจ้องตา ให้จ้องกลับ และกระพริบตาถี่ๆ)
พี่แดฮยอนไม่ยอมคุยกับผมตั้งแต่เมื่อวานแล้วครับ
เรื่องของเรื่องทั้งหมดนั่นเป็นเพราะพี่แดฮยอนเห็นผมเล่นกับพี่ยองแจมากเกินไปต่อหน้ากล้อง
ผมจะคิดเข้าข้างตัวเองได้มั้ยครับว่าพี่แดฮยอนกำลังหึงผม?
ผมพยายามเข้าไปเล่นด้วย ชวนพี่แดฮยอนคุย
แต่เจ้าตัวกลับตอบผมกลับมาเป็นความเงียบ ใบหน้าไร้รอยยิ้ม อาจมีบ้างที่ตอบผมกลับมา
แต่นั่นก็เหมือนเป็นมารยาทเพื่อไม่ให้คนอื่นๆสงสัยมากกว่า บางทีก็เดินหนีผมไปเล่นกับพี่จงออบเอาเสียอย่างนั้น
อา...
รู้ว่าต้องง้อ แล้วผมจะทำยังไงดีครับ?
ผมนั่งคิดไม่ตกอยู่ตรงโซฟา ในมือยังคงสไลด์หน้าจอสมาร์ทโฟนเล่นไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย
เข้าแอปฯนั้น ออกแอปฯนี้ ก่อนที่แอปพลิเคชั่นรูปกล้องสีน้ำตาลจะส่งแจ้งเตือนมายังผม
เมื่อใครบางคนที่ผมตั้งแจ้งเตือนเอาไว้โพสอะไรบางอย่างในแอปพลิเคชั่นนั้น
ผมไม่ลังเลที่จะกดเข้าไปดู
สิ่งที่พี่แดฮยอนโพสนั้นทำเอาผมถึงกับหน้าชา
‘dh_jung_bap : ดีจริงๆเลยนะ
น้องชายที่รัก. มาสู้กันเถอะ!! ขอบใจนะ!! #ซูอุง #โซนยอนคงฮวากุก
#น้องของผม’
พี่แดฮยอนโพสภาพบทสนทนาในโปรแกรมแชทของเขาที่คุยกับใครบางคนที่ผมพอจะได้ยินชื่อมาบ้าง
บทสนทนาในนั้นถึงแม้จะไม่มีอะไรมาก แต่ก็ทำให้ผมหน้าชาและรู้สึกหงุดหงิดได้ไม่ยาก
ถ้ามีเวลาออกมาเจอกันน๊า
(??)
ครับพี่
เยิฟๆน๊า (??)
เค้าก็ด้วย (???!)
แค่ 3 ประโยคนี้ก็ทำให้ผมหงุดหงิดมากพออยู่แล้ว
แต่ผมดันสายตาดี
เหลือบไปเห็นเงาของบทสนทนาเก่าที่พี่แดฮยอนกับใครคนนั้นคุยกันก่อนหน้า
ความหงุดหงิดที่มีก็แปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจทันที
พี่เป็นของผมนะ
(???!!)
ผมได้แต่กัดปากตัวเองจนกรามขึ้นเป็นสันนูน
ไม่รอช้าที่จะโพสภาพลงในแอปพลิเคชั่นนั้นด้วยความรวดเร็วทันที
บ่งบอกว่าผมกำลังไม่พอใจอยู่นะ
พี่แดฮยอนยังคอยยั่วผมโดยการโพสต์ภาพบทสนทนากับคนๆนั้นอยู่เรื่อยๆสร้างความหงุดหงิดให้ผมเป็นอย่างดี
แถมเจ้าตัวก็ยังไม่เปิดโอกาสให้ผมได้ถามอะไรด้วย ผมไม่ยอมหรอกนะถ้าจะมีใครมาแย่งพี่แดฮยอนไปจากผมหน่ะ
บอกเลยว่าชเวจุนฮงคนนี้ไม่มีทางยอมแน่ๆครับ
“จะไปไหนครับตัวเล็ก?”
ผมเงยหน้าขึ้นมาจากหน้าจอสมาร์ทโฟนที่กำลังเช็คข่าวสารของเบบี้จากโลกโซเชี่ยลเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องเปิดออก
พร้อมทั้งใครบางคนที่ก้าวออกมา ก่อนจะถามลูกแมวขี้งอนที่แต่งตัวหล่อถือกระเป๋าเดินออกมาจากห้อง
ตากลมโตนั้นปรายหางตามามองผมเล็กน้อย ปากอิ่มตอบผมมาสั้นๆอย่างไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
“ธุระ”
“ที่ไหน? กับใครครับ? ผมไปส่งมั้ย?”
“ธุระส่วนตัว”
พี่แดฮยอนปิดการสนทนาแบบไม่เปิดโอกาสให้ผมถามอะไรต่อ
ในระหว่างที่ไม่มีใครพูดอะไร เสียงเรียกเข้าจากมือถือของพี่แดฮยอนก็ดังขึ้น
พี่แดฮยอนมองชื่อที่บนหน้าจอก่อนจะยิ้มออกมา
“ว่าไง?.... พี่กำลังจะออกไป นายอยู่ไหนแล้ว?....
โอเคพี่กำลังจะลงไป รอแปบนึงนะ ซูอุง”
บทสนทนาสั้นๆนั้นเหมือนน้ำเย็นๆที่สาดเข้ามาที่หน้าของผม
พี่แดฮยอนเดินเร็วๆเพื่อเลี่ยงผม แต่ผมดันไวกว่า
ผมรีบยื่นมือไปคว้าแขนของพี่แดฮยอนเอาไว้ทันที
ผมกำลังไม่โอเค
ทำไมผมถึงได้รู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้นะ?
“คืนนี้เป็นคืนสิ้นปีนะครับ
ตัวเล็กอยู่เคาท์ดาวน์กับผมก่อนสิ”
“ฉันมีนัดกับซูอุงแล้ว”
“คุยกับผมก่อนได้มั้ยครับ? ตัวเล็กเป็นอะไร?
ไม่พอใจอะไรผมก็บอกมาสิครับ อย่าเงียบใส่กันแบบนี้สิ”
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนาย ปล่อยฉันได้แล้ว”
พี่แดฮยอนพูดพลางพยายามแกะมือผมออก
และนั่นก็ทำให้ผมเผลอเพิ่มแรงบีบที่ต้นแขนของคนตัวเล็กเข้าไปอีก
ผมไม่รู้ว่าตัวเองบีบต้นแขนเล็กนั้นไปแรงแค่ไหน?
แต่ผมเห็นพี่แดฮยอนได้แต่เบ้หน้าด้วยความเจ็บ
“ผมจะไม่ให้ตัวเล็กไปไหนทั้งนั้น
ถ้าเรายังคุยกันไม่รู้เรื่องแบบนี้”
“นี่นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี้ย?”
“ใช่ครับ ผมกำลังบ้า
ที่ผมเป็นแบบนี้เพราะตัวเล็กคือเหตุผล ผมกำลังบ้าเพราะผมไม่พอใจครับ
ผมกำลังหงุดหงิดที่ตัวเล็กไม่ยอมคุยกับผมแล้วก็กำลังจะไปกับผู้ชายคนอื่น”
“ซูอุงไม่ใช่ผู้ชายคนอื่น เขาเป็นน้องชายของฉัน”
“น้องชายอะไรกันครับถึงได้คุยกันหวานขนาดนั้น?”
“น้องชายที่ฉันสนิทไง ทำไมจะคุยแบบนั้นไม่ได้
ปล่อยฉันนะจุนฮง ฉันเจ็บ!”
ผมปล่อยแขนพี่แดฮยอนก่อนจะลูบหน้าตัวเองไปมาอย่างพยายามข่มความคุกรุ่นที่สุมอยู่ในใจ
พอเห็นพี่แดฮยอนทำขอบตาแดงๆเหมือนคนกำลังพยายามกลั้นร้องไห้แล้วผมยิ่งรู้สึกโมโห
ผมกำลังโมโหตัวเอง
พี่แดฮยอนได้แต่ก้มหน้า
ลูบต้นแขนตรงที่โดนผมบีบไปมาเงียบๆ ความรู้สึกผิดแล่นเข้าสู่หัวใจของผม
ก่อนที่ผมจะเลือกทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าพี่ตัวเล็กคนนั้น สองมือเลื่อนไปกุมมือเล็กนั้นเอาไว้เบาๆอย่างต้องการทะนุถนอม พี่แดฮยอนดูเหมือนจะตกใจกับการกระทำของผม
ตากลมโตมองผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม
“ท... ทำอะไรของนาย?”
“ผมขอโทษนะครับตัวเล็ก”
ผมพูดพลางซบแก้มลงบนหลังมือนิ่มๆของมือคู่นั้น
“ผมรู้สึกกระวนกระวายที่ตัวเล็กไม่ยอมคุยกับผม
ผมแค่รู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเล็กเมินผมและกำลังจะออกไปกับผู้ชายคนอื่น
ผมคิดว่าผมกำลังหึง...”
ผมสารภาพออกไปตามตรงก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากลมๆที่จ้องมองผมอยู่ก่อนแล้วอย่างอึ้งๆ
ก่อนจะบรรจงจูบลงบนหลังมือนั้นอย่างรักใคร่
“อย่าไปไหนเลยนะครับ อยู่กับผมเถอะนะ
อยู่ในผมง้อก่อนนะครับ...”
ผมส่งสายตาอ้อนพี่แดฮยอนที่เอาแต่ยืนเม้มปากตัวเอง
แก้มกลมๆนั้นเริ่มขึ้นสีชมพูจางๆอย่างน่ารัก
ผมยิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นจูงมืออีกคนไปที่โซฟา นั่งลงบนโซฟาตัวนิ่มก่อนจะรั้งคนตัวเล็กกว่าให้นั่งบนตักของตัวเองแล้วกอดเอวเอาไว้อย่างหวงแหน
“ตัวเล็กโกรธอะไรผม ไหนลองบอกมาสิครับ”
“...”
“ถ้าไม่บอก ผมก็ไม่รู้ ผมง้อไม่ถูกนะ”
แม้ผมจะรู้ดีอยู่แล้วว่าพี่แดฮยอนงอนเรื่องอะไร
แต่ผมก็ยังคงตีมึนทำเป็นไม่รู้ต่อไป
บางทีผมก็อยากได้ยินอะไรดีๆจากปากของคนปากแข็งอย่างพี่แดฮยอนบ้างก็เท่านั้นเอง
“นาย...”
“ผมทำไมครับ?”
“...”
“ว่ายังไงครับ? ผมทำไมเหรอ?”
“นาย... กับยองแจ...”
พี่แดฮยอนหลบตาผมก่อนจะเม้มปากอิ่มๆของตัวเองเอาไว้
อาการของพี่แดฮยอนทำให้ผมยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม
ผมกระชับกอดลูกแมวตัวนิ่มบนตักของตัวเองเอาไว้อย่างแสนรัก
“ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ยองแจเลยนะครับ ตัวเล็กสบายใจได้เลย”
“ฉัน...”
“...ครับ?”
“ฉัน... ไม่ชอบ”
พี่แดฮยอนพูดประโยคหลังเบาๆ
แต่มันกลับดังชัดเจนสำหรับผม พี่แดฮยอนน่ารัก ผมบอกแล้วไงครับ
ไม่ว่าจะทำอะไรก็น่ารัก โดยเฉพาะตอนที่กำลังหน้าแดงเพราะผมแบบนี้ด้วยหล่ะก็...
น่ารักจนอยากจับมาฟัดหนักๆเท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้เลยหล่ะครับ
ผมจับปลายคางของคนบนตักให้เงยขึ้นมาสบตากับตัวเอง
ริมฝีปากยังคงระบายยิ้มให้กับคนตรงหน้า
เพราะอะไรกันนะถึงทำให้ผมรักเขามากเหลือเกินแบบนี้?
“ตัวเล็กครับ”
“อะ... ไร?”
“ผมคิดกับพี่ยองแจแค่พี่ชายจริงๆนะครับ ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่ยองแจเกินไปกว่าคำว่าพี่ชายกับน้องชายเลยจริงๆนะ”
“...อือ”
“เพราะความรู้สึกทั้งหมดของผมหน่ะ
มีให้ได้แค่คนๆเดียว ผมให้ตัวเล็กไปหมดแล้ว
และมันจะยังคงเป็นตัวเล็กเพียงคนเดียวอยู่แบบนั้น”
พี่แดฮยอนที่ใบหน้าขึ้นสีจัดมองผมด้วยสายตาที่เป็นอันตรายต่อหัวใจของผมเอามากๆ
ตากลมโตที่จ้องมองมาดูเว้าวอนอยู่ในที ริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยอย่างตั้งใจยั่วยวน
ผมรัก...
รักคนๆนี้เหลือเกิน
“ให้ผมดูแลตัวเล็กอย่างที่ผู้ชายคนหนึ่งดูแลคนที่เขารักได้มั้ยครับ?”
พี่แดฮยอนก้มหน้าลงก่อนจะเงียบไปนานจนผมรู้สึกใจเสีย
หรือว่า... พี่แดฮยอนจะปฏิเสธผม? ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วผมจะทำยังไงหล่ะ?
ในเมื่อผมไม่ได้อยากเป็นแค่น้องชายของเขาจริงๆ
ในระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรมากมายอยู่คนเดียวเงียบๆนั้น
พี่แดฮยอนก็เงยหน้าขึ้นมามองผมเล็กน้อยก่อนจะขานรับเบาๆในลำคอเป็นเชิงตอบรับ
เพียงแค่นั้นผมก็ยิ้มกว้างออกมา
สองแขนรวบตัวคนตัวเล็กที่อยู่บนตักเข้ามากอดแน่นๆอย่างแสนรักทันที
ตอนนี้ผมกำลังเป็นคนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
ผมจ้องตาคนบนตักที่จ้องผมอยู่ก่อนแล้วเล็กน้อย
พี่แดฮยอนยังคงเปล่งประกายสวยงามอยู่เสมอ แข็งแกร่ง ดูเด็ดเดี่ยว
แต่ชวนให้ปกป้องทะนุถนอม ผมเคลื่อนใบหน้าตัวเองเข้าไปละเลียดชิมริมฝีปากอิ่มที่ผมหลงไหล
ครั้งแล้วครั้งเล่า ก่อนจะเปลี่ยนจากชิมเป็นจูบอย่างจริงจังสักที
พี่แดฮยอนมีท่าทีเคอะขินเล็กน้อย
แต่ก็จูบตอบกลับผมมาอย่างคนที่ไม่ค่อยประสีประสามากเท่าไหร่
สองลิ้นตอบรับกันได้เป็นอย่างดี เสียงครางอืออึงเบาๆในลำคอของพี่แดฮยอนช่วยพรากสติของผมให้ออกจากตัวเองไปทีละนิด
ผมไล้มือหนาของตัวเองไปตามแผ่นหลังบาง เอวขอดเล็ก
และหน้าท้องแบนราบที่มีมัดกล้ามเล็กน้อยนั้นอย่างหลงไหล
ผมอุ้มร่างเล็กๆนั้นกลับเข้าไปในห้องโดยที่ริมฝีปากของเราไม่ได้ผละออกจากกันเลยแม้แต่นิด
ล็อคประตูห้องอย่างเงียบเชียบก่อนจะอุ้มคนตัวเล็กวางลงบนเตียงนอนอย่างทะนุถนอมก่อนจะผละออกจากริมฝีปากอิ่มนั้นอย่างอ้อยอิ่ง
สายตาที่พี่แดฮยอนมองผมนั้นช่างเป็นภัยกับผมเหลือเกิน...
พอๆกับสายตาของผมที่จ้องมองพี่แดฮยอน
สายตาที่ผมมั่นใจว่าเขาต้องดูออกว่าผมปรารถนาในตัวของเขาและหัวใจของเขามากแค่ไหน?
ผมถอดเสื้อของพี่แดฮยอนออกไปให้พ้นตัว
ก่อนจะมองไปทั่วร่างกายเล็กที่สั่นสะท้านเบาๆนั้นอย่างต้องการครอบครองและเป็นเจ้าของ
และตอนนี้
ผม... กำลังจะก้าวข้ามเส้นทุกอย่างไปยังข้อสุดท้ายของการเลี้ยงแมว
“จุนฮง...”
น้ำเสียงหวานๆติดจะเว้าวอนนั้นทำให้ผมไม่ลังเลที่จะแสดงความเป็นเจ้าของลูกแมวคนสวยตรงหน้า
ตามวิธีตีสนิทกับแมวข้อสุดท้ายที่ผมได้ศึกษามา
วิธีตีสนิทกับแมว
ขั้นที่ 7 : ช่วงติดสัด (แมวไม่ได้ติดสัดบ่อยๆ อย่าปล่อยให้ช่วงเวลานี้ผ่านไปง่ายๆ
ควรเฝ้าระวังเป็นพิเศษ)
“พี่แดฮยอนครับ ของขวัญปีใหม่ปีนี้... ผมขอเป็น
พี่แดฮยอน ได้มั้ยครับ?”
ผมถามคนตัวเล็กที่ยังคงนอนอยู่ใต้ร่างของผมพลางขบเม้มที่ใบหูนั้นไปเบาๆ
ร่างกายเล็กที่น่าทะนุถนอมของพี่แดฮยอนสั่นสะท้านเบาๆอย่างน่ามอง ทุกอย่างของพี่แดฮยอนดูดึงดูด
ชวนหลงไหลอยู่ตลอดเวลา ตาแป๋วๆ
กลมๆดูเป็นประกายสดใสมองสบกับผมด้วยแววตาที่ยั่วยวนอยู่ในที การได้มองคนที่เรารักในมุมนี้หน่ะ
มันเป็นอะไรที่น่ามองมากจริงๆนะครับ
“ว่ากันว่าแมวดำจะนำความโชคร้าย
แต่ถ้าแมวดำตัวนั้นคือตัวเล็ก ผมก็พร้อมที่จะเป็นคนโชคร้ายไปตลอดชีวิตเลยครับ”
“นี่นายด่าว่าฉันดำเหรอ?”
“เป็นของผมนะครับพี่แดฮยอน
เป็นลูกแมวที่ผมรักไปตลอดชีวิตของผมเลยนะครับ”
ปากอิ่มที่แหวผมมาเมื่อสักครู่หุบเม้มอย่างคนใช้ความคิด
ตากลมๆดูเป็นประกายมองผมเล็กน้อยอย่างชั่งใจ แก้มเนียนขึ้นสีจัดชวนมอง
“...อือ จะเป็นของนาย...
จะเป็นโชคร้ายของนายตลอดชีวิตเลย”
ผมยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ
ถ้าพี่แดฮยอนเป็นโชคร้าย
ก็เป็นโชคร้ายที่ผมยินดีและเต็มใจรับมากที่สุดในชีวิตเลยหล่ะครับ
ผมก้มลงจูบปากอิ่มๆนั่นไปอย่างแสนรัก แน่นอนครับว่าผมไม่ปล่อยโอกาสดีๆแบบนี้ให้หลุดมือไปแน่นอน
ชเวจุนฮงรับประกันได้เลย ก็นี่แหละ วิธีเลี้ยงแมวที่ชื่อ จองแดฮยอน
ในแบบฉบับของผมหล่ะ
----------------------------------------------------------------------------------
HAPPY NEW YEAR 2016 ครับรีดเดอร์ทุกคน!!!!
ขอให้รีดเดอร์สมหวังกับสิ่งที่หวัง ที่สำคัญขอให้มีตังค์ไว้ปรนเปรอบีเอพีเยอะๆนะครับ
อย่าลืมติดตามฟิคของต้าเหมียวด้วยนะครับ
ปีนี้ เรามาสู้ไปพร้อมๆกับบีเอพีด้วยกันนะ
รักรีดเดอร์ทุกคนเลย จุ๊บบบบ
ความคิดเห็น