ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cheesecake Cafe by Jung Daehyun

    ลำดับตอนที่ #9 : [SF] LoDae - Poison Passion

    • อัปเดตล่าสุด 2 ส.ค. 60




     




     

    คาเฟ่เล็กๆบรรยากาศน่ารักแห่งหนึ่งใจกลางย่านกังนัมที่เต็มไปด้วยผู้คนพลุ้งพล่าน ด้วยวันนี้เป็นวันหยุด บรรดาคู่รักหรือเหล่าวัยรุ่น ต่างพากันเลือกมานั่งพักผ่อนกันที่นี่ เนื่องด้วยรสชาติของขนมและเครื่องดื่มที่ถูกปาก ทำให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นที่นิยมของคนหมู่มาก แม้จะเป็นเพียงร้านเล็กๆก็ตาม

    “ห๊ะ?! พี่พูดว่าอะไรนะ?”

    คนตัวเล็กถามพี่ชายตัวสูงตรงหน้าเสียงดังอย่างลืมตัว จนคนทั้งคาเฟ่หันมามอง พี่ชายตัวสูงตรงหน้ารีบดึงคนเป็นน้องให้นั่งลงก่อนจะหันไปโค้งขอโทษคนทั้งร้านเล็กน้อย

    “ใจเย็นก่อนน่า... ก็อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ ช่วยพี่หน่อยนะแดฮยอน”

    คิมฮิมชาน ลงทุนยกมือไหว้ลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง นี่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่อยากรบกวนน้องชายของเขาคนนี้หรอก

    “แล้วทำไมต้องเป็นผมหล่ะ? ทำไมพี่ไม่หาคนอื่น?”

    จองแดฮยอน ขยับแว่นสายตาบนใบหน้าของตัวเอง หัวคิ้วขมวดเป็นปมอย่างคนใช้ความคิดอย่างหนัก

    “พี่หาใครไม่ได้อีกแล้ว และแดฮยอนก็มีคุณสมบัติตามที่ทีมงานเขาต้องการด้วย ช่วยพี่เถอะนะแดฮยอน พี่ไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้วจริงๆ”

    แดฮยอนเม้มปากแน่น ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วยลูกพี่ลูกน้องของเขาคนนี้ พี่ฮิมชานเป็นพี่ชายที่ดีกับเขามาก ไม่ว่าเขาอยากได้อะไร คนๆนี้เป็นต้องหามาให้เขาตลอด เขาจึงรักพี่ชายคนนี้มาก แต่สิ่งที่ฮิมชานขอร้อง มันทำให้เขาทำใจยอมรับได้ลำบาก

    คิมฮิมชาน เป็นซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังโด่งดังและมีชื่อเสียงมากในตอนนี้ ไม่ว่าใครก็คงไม่รู้จักเขา ทั้งใบหน้าที่หล่อเหลา สมบูรณ์แบบ แถมนิสัยยังเป็นเลิศ ทำให้คิมฮิมชานเป็นที่รักของใครมากมาย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาหนักใจของแดฮยอนที่มีพี่ชายเป็นดาราดัง แต่เป็นเพราะสิ่งที่ฮิมชานขอเขาต่างหาก

    ฮิมชานได้รับเลือกให้ถ่ายแบบให้กับร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดัง โดยคอลเล็คชั่นใหม่ที่เขาได้รับเลือกให้ถ่ายเป็น คอลเล็คชั่นต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ โดยมีธีมที่ใช้ในการถ่ายครั้งนี้คือ ความสุข + อิสระ = ความรัก

    ในตอนแรกฮิมชานเข้าใจว่าเป็นการถ่ายแบบธรรมดา แต่พอได้ยินเจ้าของแบรนด์ดังบอกว่า มันเป็นการถ่ายในธีม ชายรักชาย และผู้ชายที่จะมาถ่ายแบบคู่กับเขาต้องเป็นคนที่ ตัวเล็ก ผิวสีแทนไม่ต้องขาวมาก ตาโต จมูกโด่ง ปากอิ่ม หน้าสวย ถ้าหานายแบบอีกคนไม่ได้ตามที่ต้องการ เขาจะไม่ให้ฮิมชานถ่ายแบบในครั้งนี้ ซึ่งฮิมชานหวังกับการถ่ายแบบครั้งนี้มาก เพราะเสื้อผ้าแบรนด์นี้ทำให้ดาราหลายคนก้าวเข้าสู่วงการภาพยนต์ของฮอลลีวูดมาแล้ว และฮิมชานก็หวังมากเช่นกันว่าตัวเองจะได้ก้าวไปยืนยังจุดนั้น

    หลังจากที่ฮิมชานและเมเนเจอร์ของเขาตระเวนหานายแบบที่จะมาถ่ายคู่กับเขาไปให้ ยูยองแจ เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า ‘J-YOO’ เจ้าของงานในครั้งนี้ดูตัว กลับไม่เป็นที่พอใจของยองแจเลยสักคน สร้างความหงุดหงิดให้กับยองแจไม่น้อย จนเขาออกปากว่า ภายใน 3 วันถ้าฮิมชานและทีมงานของเขาหานายแบบไม่ได้ เขาจะปลดฮิมชานออกจากการเป็นนายแบบครั้งนี้ และนั่นคือเหตุผลที่ฮิมชานต้องมาขอร้องแดฮยอน

    “แดฮยอนก็รู้ว่าความฝันของพี่คือการไปเป็นนักแสดงที่ฮอลลีวูด”

    ฮิมชานพยายามโน้มน้าวจิตใจแดฮยอนโดยการพูดถึงความฝันของตัวเอง แม้จะดูเห็นแก่ตัว แต่เขาไม่มีทางเลือกแล้วจริงๆ

    “ผม... คงไม่ใช่คนที่คุณยูเขาต้องการหรอกครับ”

    แดฮยอนขยับแว่นสายตาของตัวเองให้อยู่ในองศาที่พอดีอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วยฮิมชาน แต่เขาหน่ะ ไม่มีอะไรที่ตรงกับความต้องการของคนที่ชื่อ ยูยองแจ นั่นเลยสักอย่าง เขาชอบใส่กางเกงตัวใหญ่ๆ เสื้อตัวโคร่ง ไหนจะแว่นสายตาหนาเตอะนี่อีก ดูยังไงก็แดฮยอนก็คงไม่เป็นที่พอใจของยองแจแน่นอน

    “อย่าเพิ่งพูดแบบนั้นสิ พี่ขอร้องนะแดฮยอน แค่ไปให้คุณยูดูตัวก็ได้ พี่ขอแค่นี้จริงๆ”

    ฮิมชานส่งสายตาที่เต็มไปด้วยประกายขอร้องมายังเขา ซึ่งมันยากเหลือเกินสำหรับคนขี้เกรงใจอย่างแดฮยอนที่จะปฏิเสธ คนเป็นน้องได้แต่พยักหน้ารับเบาๆอย่างจำยอม

    “แค่ดูตัว... แค่นั้นใช่มั้ยครับ?”

    “ใช่! แค่ดูตัว แดฮยอนจะช่วยพี่ใช่มั้ย?”

    ฮิมชานถามแดฮยอนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง และเมื่อน้องชายตัวเล็กของเขาพยักหน้าเท่านั้นแหละ...

    “...ครับ ผมจะช่วยพี่ฮิมชาน”

    “เย้!!!

    ฮิมชานร้องลั่นออกมาอย่างเผลอตัวก่อนจะรีบตะครุบปากตัวเองแล้วรีบหยิบแว่นตาสีดำและหมวกใบใหญ่ขึ้นมาใส่ เมื่อคนทั้งร้านหันมามองเขาทั้งสองอีกครั้ง

    “งั้นพรุ่งนี้สิบโมง พี่จะไปรับแดฮยอนที่บ้านนะ”

     

     

     

    ฮิมชานมารับแดฮยอนตามเวลานัด น้องชายของเขายังคงแต่งตัวได้เสมอต้นเสมอปลาย กางเกงยีนส์ตัวหลวมกับเสื้อยืดตัวใหญ่ สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นและแว่นตากรอบดำหนาเตอะ อาจจะดูเฉิ่มๆ เชยๆ ไร้เสน่ห์สำหรับคนทั่วไป แต่กับฮิมชาน ที่เห็นน้องชายคนนี้มาตั้งแต่เด็ก เขารู้ดีว่าเด็กแบบแดฮยอนมีเสน่ห์มากแค่ไหนเวลาถอดแว่นแล้วทำตัวสดใส

    เมื่อคืนแดฮยอนนอนไม่หลับ เขาทั้งกังวล ทั้งตื่นเต้นกับการดูตัวครั้งนี้ แดฮยอนออกอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัดจนฮิมชานต้องเอื้อมมือมากุมมือเล็กของน้องชายเอาไว้อย่างปลอบประโลม

    “อย่าคิดมากเลย คิดซะว่าไปส่งพี่ทำงานเหมือนทุกครั้งสิ”

    รอยยิ้มที่อบอุ่นของฮิมชานถูกส่งมาให้น้องชายตัวเล็กที่นั่งมือเย็นแต่เหงื่อซึมชื้นไปทั้งหน้าผาก ปากอิ่มเม้มเข้าหากัน ก่อนจะพยักหน้าลงเบาๆ

    ฮิมชานเลี้ยวรถเข้าไปจอด เมื่อถึงสตูดิโอของยูยองแจ แดฮยอนยังคงมีท่าทีที่วิตก ฮิมชานดับเครื่องยนต์ก่อนจะหันมามองลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง

    “ไม่เอาน่า ไม่เครียดสิ ถ้าเสร็จงานแล้วพี่จะพาแดฮยอนไปกินชีสเค้ก โอเคมั้ย?”

    แดฮยอนก็ยังคงเป็นแดฮยอน น้องชายตัวเล็กยิ้มกว้างทันทีเมื่อพี่ชายของตัวเองพูดถึงสิ่งที่ตัวเองชอบ ก่อนจะพยักหน้ารัว

    “พี่พูดแล้วนะ ผมขอชีสเค้ก 5 ชิ้นเลย”

    10 ชิ้นยังได้เลย แต่ต้องเสร็จงานก่อนนะ”

    แดฮยอนชอบชีสเค้กมาก มากถึงขนาดที่ว่าจะกินก็ยังเสียดายและกลัวว่ามันจะหมด ฮิมชานมักจะเอาชีสเค้กมาล่อแดฮยอนทุกครั้งเวลาที่น้องชายตัวเล็กของเขาอยู่ในอารมณ์เศร้า เครียด กังวลหรือหวั่นวิตก เพราะมันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้แดฮยอนร่าเริงขึ้นมาได้

     

    ฮิมชานพาแดฮยอนเข้าไปยังสตูดิโอ ผู้ช่วยของยูยองแจบอกให้เขารออยู่ที่ห้องรับรอง แดฮยอนนั่งกำมือตัวเองอย่างข่มความเครียด

    “พี่ฮิมชานครับ ผมขอไปเข้าห้องน้ำได้มั้ย?”

    แดฮยอนหันไปถามฮิมชานที่กำลังนั่งเล่นคุ๊กกี้รันอย่างสบายอารมณ์ ซึ่งต่างกับเขา

    “ได้สิ ออกประตูนี้ไปแล้วเลี้ยวขวา เดินไปให้สุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายนะ ห้องน้ำผู้ชายจะอยู่ทางขวา”

    แดฮยอนพยักหน้ารับ ก่อนจะรีบเดินไปห้องน้ำตามที่ฮิมชานบอก

    “เดินไปให้สุดแล้วเลี้ยวซ้าย... อ่ะ!

    แดฮยอนล้มลงกับพื้นทันทีเมื่อเลี้ยวไปชนใครบางคนเข้า แว่นสายตากรอบดำกระเด็นหลุดจากใบหน้า ทำให้แดฮยอนมองอะไรไม่ชัด

    “ผมขอโทษนะครับ ผมขอโทษจริงๆ”

    แดฮยอนรีบขอโทษคนๆนั้น มือเล็กพลางควานหาแว่นสายตากับพื้น แดฮยอนเห็นคนที่เขาชนนั่งลงกับพื้นก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างขึ้นมา

    “ไม่เป็นไรครับ คุณไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย?”

    “อ่า... ผมไม่เป็นไรครับ”

    เสียงทุ่มแหบห้าว เหมือนเด็กเพิ่งแตกหนุ่มดังขึ้นตรงหน้าเขา แดฮยอนพยายามเพ่งมองคนที่นั่งตรงหน้า แต่สายตาของเขาสั้นเกินกว่าจะมองอะไรได้ชัด แม้จะเป็นระยะที่ห่างกันไม่ถึงเมตร

    “คุณพอจะเจอแว่นสายตาของผมมั้ยครับ? ผมมองอะไรไม่ชัดเลย”

    แดฮยอนได้ยินคนตรงหน้าหัวเราะก่อนที่คนตัวเล็กจะผงะเล็กน้อย เมื่อบุคคลตรงหน้าลูบแก้มเขาเบาๆ

    “เหมือนว่าคุณจะลำบากมากนะถ้าไม่มีมัน อย่าทำมันหล่นอีกนะครับ”

    บุคคลปริศนาสวมแว่นสายตาให้เขาก่อนจะลุกขึ้นและเดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยที่แดฮยอนไม่ทันได้สังเกตเห็นหน้า คนตัวเล็ก ขยับแว่นสายตาให้เข้าที่พลางมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินไปไกล ผิวขาวซีด ผมสีเทาควันบุหรี่ กับส่วนสูงที่สูงจัด แม้จะเป็นเพียงด้านหลังแต่แดฮยอนก็รู้สึกว่าคนๆนั้นต้องดูดีมากแน่ๆ

    “เอ่อ... ขอบคุณนะครับ!

    แดฮยอนเลือกจะตะโกนตามหลังเพราะถ้าให้เขาวิ่งตามไปก็คงไม่มีประโยชน์เพราะผู้ชายคนนั้นเดินไปไกลมากแล้ว แดฮยอนได้แต่มองตามแผ่นหลังนั้นจนลับสายตาก่อนจะรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุดเพราะตัวเองเสียเวลาไปมากแล้ว

     

    แดฮยอนเดินกลับมายังห้องรับรองอีกครั้งก็พบว่าฮิมชานกำลังนั่งคุยกับใครบางคนอยู่ แม้จะเป็นผู้ชาย แต่คนๆนั้นกลับมีใบหน้าที่สวยหวานราวกับผู้หญิง จนแดฮยอนอดที่จะมองอย่างละสายตาไม่ได้ และเมื่อทั้งสองหันมามองแดฮยอน เขาก็ยิ้มให้แดฮยอนอย่างเป็นมิตร

    “แดฮยอน นี่คุณยูยองแจ เจ้าของงานในครั้งนี้ไง คุณยูครับ นี่น้องชายของผมเอง จองแดฮยอน”

    แดฮยอนเรียกสติของตัวเองกลับคืนมาเมื่อฮิมชานแนะนำเขาให้อีกฝ่ายรู้จัก แดฮยอนก้มลงต่ำทันทีก่อนจะฝืนส่งยิ้มให้อีกคนตรงหน้า

    “ผม... จองแดฮยอนครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”

    “จองแดฮยอนเหรอ? เสียงหวานใช้ได้นะ ไหนเงยหน้าขึ้นหน่อยซิ”

    ไม่พูดเปล่า ยูยองแจก็ตะปบมือเล็กเข้ากับข้างแก้มทั้งสองข้างของแดฮยอน จับให้เขาสบตากับตัวเอง ยองแจสูงพอๆกับเขา แต่เหมือนว่ายองแจจะแรงเยอะกว่าเขามาก และไม่ทันที่แดฮยอนจะได้พูดอะไร ยองแจก็ดึงแว่นสายตาของเขาออก ก่อนจะจับหน้าเขาพลิกซ้ายพลิกขวามองอย่างสำรวจ ปลายนิ้วเล็กลากไล้ไปทั่วใบหน้าของแดฮยอน ก่อนจะเปิดผมหน้าที่ปรกตาแดฮยอนไปเกือบครึ่งขึ้น

    “คิ้วสวย ตาโตใช้ได้ จมูกรั้นสวย แก้มกลมดี อืม... แต่ที่มีเสน่ห์ที่สุดก็คงจะเป็นนี่แหละ...”

    ไม่พูดเปล่า ยองแจยังไล้หัวแม่มือไปบนริมฝีปากอิ่มของแดฮยอนไปมาเบาๆ

    “...อวบอิ่ม สีสวย มีเสน่ห์ชวนจูบดี”

    แดฮยอนผงะทันทีเมื่อยองแจพูดจบ ก่อนจะเม้มปากตัวเองแน่น เรียกเสียงหัวเราะจากยองแจได้ไม่น้อย

    “โดยรวมแล้วน้องชายคุณคิม หน้าตาสวยมากนะครับ แล้วหุ่นหล่ะ?”

    แดฮยอนมั่นใจว่ายองแจเป็นพวกปากว่ามือถึง เพราะทันทีที่พูดจบ ยองแจก็คว้าหมับเข้าที่เอวของเขาแล้วลูบขึ้นลงช้าๆทำเอาแดฮยอนสั่นสะท้านเบาๆได้ไม่ยาก

    “เอวบางดีนะ ขอดเล็กดีด้วย เหมือนผู้หญิงมากเลย นายเป็นผู้หญิงรึเปล่าแดฮยอน?”

    และเป็นอีกครั้งที่ยองแจแสดงอาการปากว่ามือถึงโดยการวางมือทั้งสองทาบบนหน้าอกเล็กของแดฮยอนก่อนจะบีบเบาๆอย่างต้องการพิสูจน์โดยที่แดฮยอนไม่ทันได้ตั้งตัว

    “พ... พอแล้ว! ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ!

    แดฮยอนรีบเด้งตัวเองไปไกลจากตรงนั้นทันที ก่อนที่สองแขนเล็กจะยกขึ้นมากันอกตัวเองไว้ แก้มเนียนขึ้นสีเรื่อก่อนจะหันไปมองฮิมชานด้วยสายตาขอความช่วยเหลือ ถ้าเขารู้ว่าต้องมาให้ยูยองแจลวนลาม แดฮยอนจะไม่มีวันมาเด็ดขาด!

    “เอ่อ... คุณยูครับ น้องผมเป็นผู้ชายจริงๆนะครับ ว่ายังไง? คนนี้พอจะผ่านมั้ยครับ?”

    ยองแจหัวเราะเบาๆให้กับอาการของแดฮยอน เขาคืนแว่นให้แดฮยอนที่ยืนมองเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ  ก็แค่แกล้งแหย่แมวเล่น ไม่คิดว่ามันจะสนุกขนาดนี้

    “ผมถูกชะตากับแดฮยอนมากเลย ตกลงผมเอาคนนี้แหละ อีกสองวันผมจะเริ่มถ่ายแล้ว เตรียมตัวให้พร้อมด้วยนะครับคุณคิม คุณจอง”

    ยูยองแจยิ้มให้ฮิมชานและแดฮยอนก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าเขาทั้งสองคน ฮิมชานที่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ รีบจับมือยองแจทันทีก่อนจะหันไปมองแดฮยอน น้องชายตัวเล็กของเขามองยองแจเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือไปจับบ้าง แต่แดฮยอนก็ต้องรีบชักมือกลับทันทีเมื่อยองแจไล้ปลายนิ้วโป้งลงบนหลังมือของเขาเบาๆ

    “ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ”

     

     

     

    แดฮยอนนอนกลิ้งไปมาบนเตียงของตัวเองอย่างคนกำลังเครียดจัด พรุ่งนี้จะเป็นวันถ่ายแบบให้กับแบรนด์ของยองแจ เขาไม่คิดว่ายองแจจะตกลงให้เขาเป็นนายแบบคู่กับฮิมชาน อย่าว่าแต่ถ่ายแบบเลย แค่ถ่ายรูปตัวเองแดฮยอนยังไม่เคยมีความมั่นใจ แล้วเขาจะทำงานใหญ่ๆแบบนั้นได้เหรอ? อีกทั้งเสื้อผ้าแบรนด์ของยองแจก็ติดอันดับต้นๆของเกาหลี แล้วถ้าเขาทำงานครั้งนี้ล่มหล่ะ? และอีกหลายๆคำถามที่ประดังเข้ามาให้หัวของแดฮยอนไม่หยุด เรื่องถ่ายแบบว่าเครียดแล้ว แต่พอคิดว่าจะได้ร่วมงานกับคนมือไวใจเร็วแบบยองแจเท่านั้นแหละ กว่างานจะเสร็จ เขาได้เสียตัวให้ยองแจก่อนแน่นอน

     

    แค่คิดก็ปวดหัว แดฮยอนอยากกัดลิ้นตัวเองตายตอนนี้จริงๆ

     

    แดฮยอนหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมากดรับเมื่อมีใครบางคนโทรเข้ามา

    “ครับพี่ฮิมชาน”

    (ตื่นเต้นมั้ยแดฮยอน? พรุ่งนี้แล้วนะ พี่ตื่นเต้นมากๆเลย)

    น้ำเสียงของฮิมชานทั้งแจ่มใสและร่าเริง ผิดกับแดฮยอนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยความเครียด

    “ตื่นเต้นครับ พี่ฮิมชาน... ผมไม่พร้อม...”

    (ได้ยังไงกันหล่ะแดฮยอน? งานจะเริ่มพรุ่งนี้แล้ว เปลี่ยนใจไม่ได้แล้วนะ เอาน่า... อย่าเครียดสิ ร่าเริงเข้าไว้ ยิ้มๆๆๆ พี่เชื่อว่าแดฮยอนทำได้นะ อย่าลืมสิว่าแดฮยอนเป็นน้องชายของดาราดังเชียวนะ)

    ฮิมชานพยายามปลอบแดฮยอน เขารู้ว่าแดฮยอนเครียดแค่ไหน? เพราะนี่เป็นงานแรกของน้องชายเขาและเขายังฝากความหวังไว้ที่น้องชายตัวเล็กของเขาด้วย

    “...ผมจะพยายามครับ”

    (นี่... ฟังพี่นะแดฮยอน นายแค่ทำให้เต็มที่เท่าที่นายคิดว่าจะทำได้ จะดีจะร้ายยังไง ขอแค่ว่านายจะไม่มานั่งเสียใจทีหลังก็พอ คิดซะว่าทำสนุกๆนะ)

    “อือ... สนุก”

    (คืนนี้อย่านอนดึกหล่ะ วิตามินที่ให้ไปก็กินด้วยนะ พรุ่งนี้พี่จะไปรับ แล้วเจอกันนะครับ ฝันดีนะเด็กดีของพี่)

    “ฝันดีครับ”

    แดฮยอนถอนหายใจยาวหลังจากวางสายฮิมชานแล้ว ถ้าฮิมชานกลับมานอนที่บ้าน เขาคงไปขอนอนกับพี่ชายตัวโตของเขาแล้ว แต่เพราะฮิมชานติดถ่ายละครเลยต้องนอนกับผู้จัดการของเขาที่คอนโดใกล้กองถ่าย แดฮยอนเลยต้องนอนคนเดียวอย่างช่วยไม่ได้

    “หวังว่าพรุ่งนี้จะผ่านไปได้ด้วยดีนะ...”

     

     

     

    ที่สตูดิโอของยูยองแจดูวุ่นวายแต่เช้า แดฮยอนมานั่งรอฮิมชานเกือบชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าพี่ชายของเขาจะโผล่มา เมื่อเช้าฮิมชานโทรบอกแดฮยอนว่าเขาจะให้ผู้จัดการส่วนตัวไปรับแดฮยอนเพราะฮิมชานติดธุระด่วนกระทันหันทำให้มารับเขาไม่ได้ ให้แดฮยอนไปรอที่สตูดิโอก่อนแล้วเขาจะตามไปทีหลัง

    “พี่ซอกกูครับ เมื่อไหร่พี่ฮิมชานจะมา?”

    แดฮยอนหันไปถาม คังซอกกู ผู้จัดการส่วนตัวของฮิมชานที่นั่งข้างๆเขา ซอกกูได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    “เดี๋ยวก็คงมานั่นแหละ ฮิมชานไม่ใช่พวกผิดนัด นายสบายใจเถอะ”

    “คุณจองคะ เชิญไปเตรียมตัวด้วยค่ะ”

    แดฮยอนจำเป็นต้องลุกขึ้นเดินตามพี่สาวสไตล์ลีสอย่างช่วยไม่ได้ ในใจได้แต่ภาวนาให้ฮิมชานรีบมาสักที เพราะเขาไม่อยากอยู่ที่นี่คนเดียวท่ามกลางคนที่ไม่รู้จักมากมายแบบนี้

     

     

     

    “สวัสดีครับคุณยู”

    “อ้าว! คุณจุนฮง มาถึงที่นี่ได้ไม่ใช่เพราะคิดถึงผมใช่มั้ยครับ?”

    ยูยองแจทักทายผู้มาใหม่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ชเวจุนฮง คือนายแบบหนุ่มที่กำลังมาแรงในตอนนี้ ชื่อของเขาอยู่ในระดับแนวหน้าของวงการโมเดล แม้ว่าจุนฮงจะอายุยังน้อย แต่ฝีมือและความสามารถของเขากลับมีมากจนเหมือนเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวของเขามา นายแบบหนุ่มเพิ่งทำงานให้กับยองแจในคอลเล็คชั่นที่แล้ว และนั่นก็ทำให้เสื้อผ้าในคอลเล็คชั่นนั้นของยองแจขายดีจนผลิตไม่ทัน ซึ่งเป็นที่พอใจสำหรับยองแจเป็นอย่างมาก

    “มาทำธุระแถวนี้หน่ะครับเลยแวะมาเยี่ยม วันนี้ถ่ายแบบคอลเล็คชั่นใหม่เหรอ?”

    “ใช่ครับ ธีมต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่จะมาถึงนี่หน่ะ ถ้าคุณไม่มีธุระที่ไหน จะดูการถ่ายแบบครั้งนี้ด้วยก็ได้นะครับ”

    “งั้นผมขอรบกวนด้วยนะครับ”

    จุนฮงพูดพลางส่งยิ้มที่ประดับด้วยลักยิ้มเล็กๆตรงข้างแก้ม ที่ได้เห็นต่างก็หลงไหลให้ยองแจ จนคนตัวเล็กกว่าอดไม่ได้ที่จะเขินรอยยิ้มนั้น

    “เอ่อ... ขอโทษนะครับคุณยู คือ... ฮิมชานไม่สามารถมาตามเวลาที่นัดได้ เขาขอเลื่อนการถ่ายแบบออกไปอีกซัก 2 ชั่วโมงได้มั้ยครับ?”

    คังซอกกูเดินมาหายองแจด้วยท่าทีประหม่า ใครๆก็รู้ว่ายองแจเป็นคนที่ถ้าได้โวยวายหรือไม่พอใจอะไรแล้ว ไม่ว่าใครก็หยุดเขาไม่ได้ และเมื่อเจ้าตัวได้รับรู้ว่า นายแบบของเขาขอเลื่อนการถ่ายแบบ เสียงหวานก็โวยวายขึ้นมาทันที

    “อะไรกัน? คนของคุณทำไมไม่มีระเบียบวินัยเอาซะเลยหล่ะ? เลื่อนการถ่ายงั้นเหรอ? คุณรู้มั้ยว่าผมเสียเวลาและเสียเงินไปเท่าไหร่แล้ว? คิดว่าเป็นดาราดังแล้วจะทำอะไรตามใจชอบก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”

    “เอ่อ... คือฮิมชานมาตอนนี้ไม่ได้จริงๆครับ”

    “แล้วใครจะรับผิดชอบงานของผมหล่ะ? ผมเสียไปตั้งเท่าไหร่? อยู่ดีๆจะมายกเลิกงั้นเหรอ?”

    ยูยองแจไม่มีท่าทีว่าจะหยุดโวยวายได้ง่ายๆ แดฮยอนที่นั่งอยู่ในห้องแต่งตัวก็พอจะจับใจความได้ว่า คิมฮิมชาน ไม่สามารถมาถ่ายแบบได้ตามเวลานัด แม้ว่าเขาจะกังวลเพราะตัวเองถูกทิ้งให้อยู่ที่นี่คนเดียวแล้ว เขายังเป็นห่วงฮิมชานอีกด้วย มือเล็กกดเบอร์โทรหาพี่ชายของตัวเองไม่ว่ากี่ครั้งก็ไม่สามารถติดต่อได้ จนแดฮยอนเริ่มท้อใจ

    “เสร็จแล้วค่ะ สวยมากเลย เหมือนตุ๊กตาสุดๆ อ๊าย~ น้องแดฮยอนเป็นผู้ชายจริงๆเหรอคะเนี้ย?”

    แดฮยอนมองตามโคดี้นูน่าที่แตะริมฝีปากของเขาเบาๆเพื่อเกลี่ยลิปกลอสให้เข้ากันก่อนจะมองหน้าเขาด้วยสายตาเป็นประกาย แดฮยอนหันไปมองตัวเองในกระจกก่อนที่ตาโตๆจะจ้องค้างอยู่แบบนั้น...

     

    ในกระจกนั่น... เขาจริงๆเหรอ?

     

    ทรงผมที่เคยยาวปรกหน้าปรกตาถูกตัดแต่งและเซตอย่างดี เปลี่ยนจากสีน้ำตาลเข้มเป็นสีชมพูอ่อนดูเหมือนสายไหมนุ่มนิ่ม คิ้วถูกกันให้เข้ารูป ปัดด้วยมาสคาร่าสีน้ำตาลอ่อนดูละมุน แว่นตาถูกเปลี่ยนเป็นคอนแทคเลนส์ ตากลมโตที่ใครๆก็บอกกว่ามีเสน่ห์ แต่งแต้มด้วยอายไลน์เนอร์สีเข้ม ช่วยขับให้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นยามที่ถูกจ้องมอง และริมฝีปากอิ่มสีแดงฉ่ำที่ชวนหลงไหล แวววาวไปด้วยลิปกลอส เหมือนผลเชอรรี่สดเชิญชวนให้ลิ้มลอง

    แดฮยอนอยู่ในสเวตเตอร์คอกว้างสีขาวแขนยาว ชายเสื้อคลุมปรกไปยังขาของเขา ปิดกางเกงขาสั้นที่สั้นจนเหมือนเขาไม่ได้ใส่ และรองเท้าบู้ทข้อสั้นสีน้ำตาลเข้ม ทำให้แดฮยอนเหมือนพวกตุ๊กตาจากเมืองผู้ดีราคาแพงที่ใครได้เห็นต่างก็อยากจับจองเป็นเจ้าของ

    แดฮยอนโค้งตัวขอบคุณโคดี้นูน่าเล็กน้อยก่อนจะออกจากห้องแต่งตัวไปหาคังซอกกูทันที เขาแค่กลัวว่าถ้าอยู่ต่อนานอีกนิด เขาอาจจะโดนเหล่าโคดี้นูน่ารุมทึ้งเอาก็เป็นได้

    “พี่ซอกกูครับ พี่ฮิมชานยังไม่มาอีกเหรอ?”

    แดฮยอนเดินมาแตะแขนผู้จัดการตัวอ้วนของคิมฮิมชานที่ยืนเหงื่อตกฟังยูยองแจบ่นด้วยใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ ยูยองแจหยุดโวยวายทันทีก่อนจะมองแดฮยอนด้วยสายตาพอใจมากถึงมากที่สุด

    “นี่มัน พอร์ซเลน(ตุ๊กตากระเบื้อง)มีชีวิตชัดๆ!

    ยองแจพูดพลางจับแดฮยอนหมุนซ้ายหมุนขวา สีหน้าที่แสดงออกว่ายองแจพอใจกับผลงานชิ้นนี้สุดๆทำให้คังซอกกูคลายกังวลได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด

    “สวย! สวยมาก! สวยสุดๆ ใช่มั้ยคุณจุนฮง?”

    ยองแจพูดชมแดฮยอนไม่หยุดปาก ทำเอาแก้มเนียนของคนถูกชมขึ้นสีได้ไม่ยาก ก่อนที่ยองแจจะหันไปถามคนแปลกหน้าที่แดฮยอนไม่รู้จักแดฮยอนมั่นใจว่าเขาทำงานในวงการบันเทิงแน่ๆ เพราะใบหน้าที่หล่อเหลา สีผิวที่ขาวจัด ผมสีเทาควันบุหรี่ที่ดูคุ้นตา อีกทั้งรูปร่างที่สูงโปร่งเหมือนนายแบบ ที่ดูเหมือนจะสูงกว่าเขามาก แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาแดฮยอนได้ดีที่สุด ก็คงจะเป็นรอยยิ้มนั้น ที่กำลังส่งยิ้มละมุนส่งมาให้แดฮยอน

    “ใช่ครับคุณยู สวยมาก”

    เพียงแค่นั้นก็ทำให้แดฮยอนหน้าขึ้นสีเข้าไปอีก เสียงแหบห้าวของเขาทำให้แดฮยอนรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แต่นึกเท่าไหร่ เขาก็นึกไม่ออก

    “แต่ว่าได้นางแบบสวยขนาดนี้กลับไม่มีนายแบบ มันน่าหงุดหงิดชะมัด”

    ยองแจพูดออกมาก่อนจะมองไปยังคังซอกกูด้วยสายตาเหวี่ยงๆ ผู้จัดการตัวอ้วนได้แต่หลบหลังแดฮยอนอย่างกลัวถูกดุ ชเวจุนฮงที่เหมือนจะเข้าใจสถานการณ์ในตอนนี้ เขาลุกขึ้นเดินมาหยุดข้างแดฮยอน มือเรียวมาวางบนไหล่บางของแดฮยอนเบาๆ ตาคมบนใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้ม ยังไม่ละสายตาไปจากแดฮยอนตั้งแต่ที่คนตัวเล็กเดินออกมา

    “คุณยูจะว่าอะไรมั้ยครับถ้าผมจะขอเป็นนายแบบให้กับคอลเล็คชั่นนี้?”

    ทุกคนหันไปมองหน้าจุนฮง ไม่เว้นแม้แต่แดฮยอน คนตัวสูงส่งสายตาว่าที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ยูยองแจยิ้มออกมาเหมือนพอใจมาก เขาสั่งให้เหล่าโคดี้ พาจุนฮงไปแต่งตัว ก่อนที่คนตัวสูงจะไปเตรียมพร้อมตัวเอง เขาแตะไหล่แดฮยอนเล็กน้อย เป็นเชิงเรียก

    “ครับ?”

    แดฮยอนเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า จุนฮงยื่นมือไปตรงหน้าเขา

    “ผม ชเวจุนฮง ครับ”

    “อ่า... ผม จองแดฮยอนครับ”

    แดฮยอนดูเหมือนจะตกใจเล็กน้อยกับการแนะนำตัวแบบกระทันหันของเขา ก่อนจะยื่นมือไปจับมือใหญ่ของจุนฮงเบาๆอย่างเป็นมารยาท จุนฮงยิ้มให้แดฮยอนอีกครั้ง

    “ผมดีใจนะครับที่ได้ร่วมงานกับคุณ”

    “ผม... ก็ยินดีครับ”

    แดฮยอนส่งยิ้มให้คนตรงหน้า จุนฮงยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะยกมือเรียวขึ้นลูบแก้มแดฮยอนเบาๆแล้วเดินจากไป ทิ้งให้แดฮยอนยืนอึ้งอยู่กับที่

    “...สตูดิโอนี้มีแต่พวกฉวยโอกาสรึไงกัน?!

     

     

     

    ก่อนการถ่ายทำจะเริ่มขึ้น แดฮยอนเลี่ยงออกไปกดโทรศัพท์หาฮิมชานอีกครั้ง แดฮยอนรู้สึกใจชื้นขึ้นเมื่อติดต่อปลายสายได้ เขาถือสายอยู่นาน ก่อนที่ฮิมชานจะกดรับ

    “พี่ฮิมชาน พี่เป็นอะไรรึเปล่าครับ?”

    (พี่ขอโทษนะแดฮยอน ที่ไม่ได้ไปตามนัด)

    เสียงของฮิมชานฟังดูเหนื่อยมากจนแดฮยอนรู้สึกเป็นห่วง

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่พี่ฮิมชานเถอะ เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า? ปกติพี่ไม่เคยมาสายนะ”

    (แซรนหน่ะ...)

    “...น้องอาการแย่เหรอครับ?”

    (ใช่... เมื่อเช้าพี่กำลังจะไปรับแดฮยอน แต่ที่โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าแซรนหัวใจหยุดเต้นอีกแล้วหล่ะ)

    แดฮยอนเงียบเมื่อรู้เหตุผลที่ทำให้ฮิมชานยอมเบี้ยวนัดถ่ายแบบที่เขาหวังกับมันมาตลอด คิมแซรน เป็นน้องสาวของฮิมชาน แซรนเป็นเด็กที่ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ เธอมีโรคประจำตัวที่ทำให้ฮิมชานต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมารักษาน้องสาวของตัวเอง แดฮยอนรู้จักแซรนดี เพราะเขาชอบแวะไปเล่นกับแซรนที่โรงพยาบาลบ่อยๆ ในชีวิตของฮิมชาน นอกจากเขาแล้วก็มีแซรนเท่านั้นที่ฮิมชานเหลืออยู่

    “ตอนนี้น้องเป็นยังไงบ้างครับ?”

    (กลับมาหายใจแล้วหล่ะ แต่อาการยังน่าเป็นห่วงอยู่... พี่ขอโทษจริงๆนะแดฮยอน)

    “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมเข้าใจ ถ้าแซรนตื่น บอกเธอด้วยนะว่าเสร็จงานแล้ว ผมจะแวะเข้าไปเล่นด้วย เพราะงั้นเธอต้องรีบๆหาย”

    (พี่จะบอกแซรนให้นะ... แดฮยอน...)

    “ครับ?”

    (...ขอบคุณนะ)

    แดฮยอนถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาเก็บสมาร์ทโฟนของตัวเองลงกระเป๋าก่อนจะฝากไว้กับคังซอกกู เขารู้ดีว่าฮิมชานหวังกับงานนี้มากแค่ไหน? แดฮยอนเม้มปากเล็กน้อยอย่างใช้ความคิด พอดีกับที่ยองแจเดินผ่านมา

    “คุณยูครับ...”

    “ว่าไง?”

    ยองแจหยุดมองแดฮยอนที่อยู่ในอาการประหม่า โดยที่ไม่ลืมจะคว้าเอวเล็กนั้นเข้ามาใกล้ แดฮยอนสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะแกะมือปลาหมึกของยองแจออกเบาๆ แต่ปลาหมึกก็คือปลาหมึก ยองแจกลับกอดเอวเขาแน่นกว่าเดิมจนแดฮยอนรู้สึกอ่อนใจ

    “คือ... เรื่องพี่ฮิมชานหน่ะครับ”

    “ทำไม?”

    “ถ้าผมถ่ายแบบให้คุณ คุณจะรับปากผมได้มั้ยว่างานหน้าคุณจะให้โอกาสพี่ฮิมชาน?”

    แดฮยอนรีบเข้าเรื่อง เขาอยากพูดให้มันเสร็จๆไปก่อนที่ตัวเองจะเปลืองตัวให้ยองแจไปมากกว่านี้ จากมือที่โอบเอวเขาอยู่ กลายเป็นมือที่ลูบเอวเขาไปมาจนแดฮยอนรู้สึกอึดอัด

    “แล้วฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่างานหน้าหมอนั่นจะไม่เบี้ยวนัดฉันอีก?”

    จริงๆแล้วยองแจรู้เหตุผลว่าทำไมฮิมชานถึงเบี้ยวนัดถ่ายแบบครั้งนี้ เพราะเจ้าตัวโทรมาคุยกับเขาแล้วเรียบร้อย แต่เขาอยากรู้ว่าแดฮยอนจะทำยังไงก็แค่นั้น

    “พี่ฮิมชานไม่ใช่คนที่ชอบเบี้ยวนัดใคร แล้วเขาก็หวังอยากร่วมงานกับคุณมากๆนะครับ ผมรับรองเลยว่าพี่ฮิมชานจะไม่เบี้ยวนัดอีกแน่นอน”

    “อืม... ฉันจะเชื่อนายดีมั้ยนะ?”

    ยองแจรู้สึกสนุกทุกครั้งที่ได้แกล้งแมวน้อยตัวนี้ แดฮยอนเป็นคนที่มีเสน่ห์ แล้วก็น่ารักมากจนใครๆก็หลงเสน่ห์ได้ไม่ยาก ไม่เว้นแม้กระทั่งเขา

    “คุณยูครับ ให้โอกาสพี่ฮิมชานเถอะนะ”

    แดฮยอนมองเขาด้วยสายตาขอร้อง ซึ่งสำหรับยองแจ มันดูยั่วยวนอยู่ในที เขายิ้มเล็กน้อยก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มแดฮยอนฟอดใหญ่โดยที่ไม่ให้เจ้าตัวได้ตั้งตัวทัน ซึ่งเป็นไปตามคาดแก้มเนียนของแ ดฮยอนขึ้นสีจัดทันที ก่อนที่ตากลมโตนั้นจะเบิกกว้างด้วยความตกใจ

    “คุณยู!

    “เอาเป็นว่าฉันตกลง”

    แดฮยอนได้แต่ถอนหายใจอย่างโล่งอก เขาภาวนาให้งานนี้ผ่านไปเร็วๆ เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะโดนลวนลามอีกเมื่อไหร่? แดฮยอนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่รับงานนี้ ถ้ารู้ว่าต้องมาให้คนที่นี่ลวนลาม แดฮยอนจะไม่มีวันรับงานนี้เด็ดขาด

     

     

     

    เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อม การถ่ายทำก็เริ่มขึ้น จุนฮงออกมาในชุดกางเกงขายาวสีครีมกับสเวตเตอร์ผ่าหน้าสีน้ำตาลอ่อน ทำให้เขาดูเป็นผู้ชายอบอุ่นและโรแมนติกได้ไม่ยาก

    ในสตูดิโอถูกเซ็ตให้กลายเป็นห้องนอนที่ดูอบอุ่น โดยมีหน้าต่างบานใหญ่และระเบียงเล็กๆเป็นพร๊อพประกอบฉาก ผ้าม่านถูกตีด้วยลมเบาๆ จนแดฮยอนเผลอคิดว่ามันคือห้องนอนของคู่รักจริงๆ

    “เอาหล่ะ เซ็ตแรก คู่รักต้องไปยืนข้างกันที่ระเบียง เหมือนทั้งคู่เพิ่งตื่นนอนแล้วออกไปรับลมและแสงแดดยามเช้า ทั้งสองคนหยอกล้อกันเล่นด้วยท่าทางที่เต็มไปด้วยความสุด ทั้งสองคนจะอยู่ในอารมณ์ที่เต็มไปด้วยความรักและหลงไหลในตัวของกันและกัน โดยเรื่องทั้งหมด จะเป็นสตอรี่ ไลฟ์ พวกคุณต้องแสดงออกมากันเองว่าพวกคุณเป็นคู่รักที่รักกันจริงๆ เราจะไม่เซ็ตท่าทางให้นะ ส่วนฉากสุดท้ายของเซ็ตแรกจะเป็นฉากที่หยอกล้อกันเสร็จ แล้วทั้งสองคนก็หันหน้ามามองกัน โดยที่ฝ่ายหญิงเงยหน้ามองฝ่ายชายที่ก้มลงมามองตัวเอง”

    “คุณยูครับ ผมไม่ใช่ผู้หญิงนะ”

    แดฮยอนหน้าขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อถูกเรียกว่าเป็นผู้หญิง ยองแจได้แต่อมยิ้มส่งให้ ก่อนจะเดินไปเช็คกล้องเพื่อเตรียมถ่ายแบบที่กำลังจะเริ่มขึ้น

    แดฮยอนเริ่มมีอาการประหม่า เขาไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้เพราะเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน และเพราะฮิมชานไม่อยู่ที่นี่ด้วย

    จุนฮงสังเกตท่าทีของแดฮยอนอยู่นาน เขาได้ยินโคดี้นูน่าบอกว่าแดฮยอนเพิ่งรับงานนี้เป็นงานแรก ไม่แปลกที่คนตัวเล็กจะมีอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้

    “โอเคมั้ยครับ?”

    ชเวจุนฮงถามแดฮยอนด้วยท่าทีเป็นห่วง แดฮยอนไม่ตอบอะไร ปากอิ่มเม้มเข้าหากัน คิ้วสวยขมวดเป็นปมจนจุนฮงอดขำไม่ได้ ปลายนิ้วเรียวกดคลึงหัวคิ้วอีกคนเบาๆ

    “ลองหลับตาสิครับ”

    แดฮยอนเอียงคอมองอีกคนอย่างสงสัย แต่ก็ยอมทำตามที่จุนฮงบอก เมื่อเปลือกตาบางปิดลง จุนฮงก็ประคองข้างแก้มของแดฮยอนทั้งสองข้างไว้เบาๆ

    “ขอให้ความตื่นเต้นและความประหม่าจงหายไปจากจองแดฮยอนด้วยนะครับ เพี้ยง!

    แดฮยอนลืมตาขึ้นทันทีเมื่อสัมผัสได้ถึงความนุ่มหยุ่นของอะไรบางอย่างที่ทาบลงบนหน้าผากของเขา แล้วแก้มเนียนของคนตัวเล็กก็ขึ้นสีจัด เมื่อรู้ว่าสิ่งที่ทาบลงบนหน้าผากของตัวเอง คือริมฝีปากของอีกคน

    “ค... คุณจุนฮง...”

    “รู้สึกดีขึ้นบ้างมั้ยครับ?”

    จุนฮงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยแก้มเนียนนั้นไปมา แดฮยอนก้มหน้างุด แม้ว่าเขาจะตกใจที่อยู่ๆคนตัวสูงตรงหน้าจูบหน้าผากเขา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความประหม่าที่เคยมี หายไปได้ราวกับว่าจุนฮงใช้เวทย์มนต์กับแดฮยอน

    “คุณใช้เวทย์มนต์ใช่มั้ย?”

    “ถ้าผมมีเวทย์มนต์จริงๆ ผมจะใช้มันกับแดฮยอนคนแรกเลย”

    จุนฮงตอบแดฮยอนพลางส่งยิ้มให้คนตัวเล็กกว่า แดฮยอนได้แต่เอียงคอมองอีกคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม ซึ่งจุนฮงกลับมองว่าเหมือนลูกแมวที่กำลังสงสัยมากกว่า

     

    จองแดฮยอนหน่ะ เหมือนลูกแมว ที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็น่ารัก...

     

    “ทำไมหล่ะครับ?”

    “ก็เพราะว่าผมหน่ะ...”

    “นายแบบนางแบบ เข้าฉากได้แล้วครับ”

    เสียงของยองแจดังขึ้นพลางจ้องมาที่พวกเขาเป็นเชิงเร่ง จุนฮงได้แต่ยีผมคนตัวเล็กกว่าเบาๆ ก่อนที่มือหนาของเขาจะเลื่อนมากุมมือเล็กของแดฮยอนไว้พลางฉุดให้เขาไปเข้าฉาก

    “ในการถ่ายแบบครั้งนี้ ผมต้องขอโทษแดฮยอนก่อนล่วงหน้านะครับ พยายามทำตัวให้สบายเข้าไว้ แดฮยอนทำได้อยู่แล้ว มาพยายามด้วยกันนะครับ”

    จุนฮงส่งยิ้มอบอุ่นให้แดฮยอนอีกครั้ง ทำเอาคนตัวเล็กอดเขินไม่ได้ เมื่อช่างกล้องส่งสัญญาณ จุนฮงก็รวบเอวเล็กของแดฮยอนเข้ามาใกล้จนอกเล็กของแดฮยอนชนเข้ากับแผงอกกว้างของจุนฮง ตากลมโตเงยขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่าด้วยความตกใจ แต่จุนฮงกลับส่งยิ้มละมุนมาให้เขา ทำเอาแดฮยอนหน้าขึ้นสีอีกครั้ง

    “แบบนั้นแหละ รักกันไปเรื่อยๆ แสดงกันไปเรื่อยๆ พวกเราจะเก็บรูปเอง แดฮยอน! ยิ้มหน่อยสิ มีความสุขหน่ะ ทำเป็นมั้ย? คุณจุนฮงเค้ามีแฟนเป็นคนนะ ไม่ใช่ตุ๊กตา แสดงอารมณ์ออกมาสิ”

    ยูยองแจรู้สึกขัดใจเมื่อแดฮยอนแสดงท่าทีขัดเขินทำให้ภาพที่ออกมาไม่เป็นธรรมชาติ และเมื่อถูกดุ แดฮยอนก็หน้าเสียไปเล็กน้อย ความประหม่าเริ่มกลับมาอีกครั้ง

    “แดฮยอนชอบอะไรมากที่สุดเหรอครับ?”

    “ห๊ะ? อ๋อ... ผมชอบชีสเค้กครับ”

    เมื่อถูกถามแบบไม่ทันตั้งตัว แดฮยอนที่กำลังเหม่อลอยเพราะกำลังคิดมาก สะดุ้งเบาๆก่อนจะมองเจ้าของคำถามที่กำลังหัวเราะเบาๆในลำคอ

    “ถ้างั้น... เสร็จงานแล้วเราไปหาชีสเค้กกินกันมั้ยครับ?”

    แดฮยอนทำตาโตทันทีเมื่อจุนฮงบอกว่าจะพาเขาไปกินชีสเค้ก คนตัวเล็กกว่าส่งยิ้มกว้างจนตาหยี ก่อนจะพยักหน้ารับด้วยท่าทีร่าเริงจนจุนฮงยิ้มตามได้ไม่ยาก

     

    ปกติที่ว่าเหมือนลูกแมวแล้ว พอยิ้มแบบนี้ยิ่งเหมือนลูกแมวเข้าไปอีก แดฮยอนจะรู้บ้างมั้ยนะว่าจุนฮงต้องข่มจิตใจตัวเองแค่ไหนเพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอจับลูกแมวตรงหน้ามาฟัดอย่างที่ใจนึก

     

    “น่ารักสุดๆเลย แดฮยอนอ่า...”

    เหล่าโคดี้นูน่าพากันกรี๊ดเบาๆให้กับท่าทีที่น่ารักของแดฮยอน ยองแจยิ้มออกมาอย่างพอใจ เขานึกชมความเป็นมืออาชีพของจุนฮงที่สามารถทำให้อีกฝ่ายเลิกประหม่าและแสดงท่าทางออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้

    จุนฮงเปลี่ยนจากโอบเอวแดฮยอน เป็นโอบไหล่แล้วรั้งให้คนตัวเล็กซบไหล่ของตัวเอง ตาคมที่จ้องมองแดฮยอน ชวนให้คนที่ถูกมองรู้สึกเขินได้ไม่ยาก ทุกครั้งที่จุนฮงมองเขา แดฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองโดนสายตาที่ร้อนแรงของผู้ชายตัวสูงตรงหน้าแผดเผาจนแทบจะละลายลงไปยังตรงนั้น

    จากโอบไหล่ จุนฮงเปลี่ยนไปนั่งตรงขอบระเบียงแล้วดึงแดฮยอนเข้ามากอดในอ้อมแขน แผ่นหลังเล็กชนกับอกกว้าง จุนฮงกระชับกอดก่อนจะค่อยๆลากริมฝีปากของตัวเองตั้งแต่ช่วงไหล่บางของแดฮยอนขึ้นไปยังคอเนียนสีน้ำผึ้งอย่างช้าๆ ทุกครั้งที่ลมหายใจร้อนของอีกฝ่ายกระทบกับต้นคอ แดฮยอนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังจะละลาย คนตัวเล็กปรือตามองอีกฝ่ายที่จูบลงบนต้นคอของตัวเองอย่างบรรจง มือหนาของอีกคนที่วางบนไหล่เขา ค่อยๆสอดเข้าไปในคอเสื้อของเขา ก่อนจะลูบไล้ไปจนทั่วแผ่นอกบางจนแดฮยอนร่างกายสั่นสะท้านทุกครั้งที่มือเรียวนั้นลากผ่าน

    แดฮยอนนึกโกรธตัวเองในใจที่เป็นคนไวต่อการสัมผัสแบบนี้ สัมผัสจากจุนฮง ไม่ต่างอะไรกับยาพิษที่กำลังมอมเมาเขาให้หลงไหล และกำลังพรากเอาสติของเขาไปทีละนิดๆ จุนฮงละริมฝีปากจากคอของคนตัวเล็กในอ้อมแขน ก่อนจะมองตอบแดฮยอนด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมาย

    “คัท! โอเคเลย เซ็ตแรกเยี่ยมมาก!

    เหมือนยูยองแจเป็นยาแก้พิษ ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา แดฮยอนก็รีบผละออกจากวงแขนใหญ่ของจุนฮงทันที ก่อนจะหลบสายตาของคนตัวสูงที่มองมาพร้อมรอยยิ้มที่แสนละมุนนั้น จองแดฮยอนไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองหน้าแดงแค่ไหน? แต่เขามั่นใจว่ามันแดงมากแน่ๆ

    เหล่าโคดี้พากันกรูเข้ามาเติมเครื่องสำอางค์ให้แดฮยอน แดฮยอนถูกรุมจนเขารู้สึกอึดอัด โคดี้นูน่าจับเขาแต่งตัวเหมือนกำลังเล่นแต่งตัวตุ๊กตา แดฮยอนเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อสีขาวแขนสามส่วนกับกางเกงขาสั้นสีชมพูสด และหมวกสีเดียวกับกางเกง เปลี่ยนจากพอร์ซเลนที่ดูสูงค่า เป็นเด็กหนุ่มที่สดใสรับกับฤดูใบไม้ผลิ

    จุนฮงอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนยาวสีชมพูอ่อนกับกางเกงขายาวสีขาว ไม่ว่าคนตัวสูงจะแต่งชุดอะไรก็ดูมีเสน่ห์ชวนมองจนแดฮยอนนึกอิจฉาในความหล่อเหลาของชายหนุ่ม ต่างกับเขา ที่ไม่ว่าจะแต่งยังไงก็ดูเฉิ่มเชย ไม่ก็เหมือนเด็กมัธยมทั่วไปมากกว่า

    “เซ็ตที่สอง คู่รักต้องเล่นด้วยกันบนเตียงนะ เช็ตนี้ขอแนวน่ารัก สดใส อีโรติกหน่อยๆก็ดี”

    แดฮยอนได้แต่อ้าปากค้างกับคอนเซ็ปถ่ายแบบชุดที่สองที่เขาต้องแสดง ไอ้อีโรติกที่ยองแจหมายถึง มันต้องอีโรติกถึงขั้นไหนกัน? ที่ผ่านมามันยังอีโรติกไม่พออีกเหรอ? แต่กว่าจะรู้ตัว แดฮยอนก็โดนวงแขนใหญ่สอดเข้ามาคว้าเอวเขาอุ้มลงนอนบนเตียงแล้วเรียบร้อย

    “อย่ากังวลไปเลยครับแดฮยอน ผ่อนคลายเข้าไว้”

    เป็นอีกครั้งที่แดฮยอนโดนสายตาที่ร้อนแรงจากบุคคลตรงหน้าแผดเผา จุนฮงเปรียบเสมือนแดดที่อบอุ่นในยามเช้าของฤดูใบไม้ผลิ แต่ในขณะเดียวกัน คนตัวสูงคนนี้กลับร้อนแรงเหมือนไฟ ที่สามารถละลายเขาลงไปได้ง่ายๆเพียงโดนสัมผัสแค่ปลายนิ้ว

    “พร้อมนะครับ เริ่ม!

    ในชุดนี้จุนฮงเริ่มด้วยการนั่งอยู่ปลายเตียงพลางเอี้ยวตัวมามองแดฮยอนที่นอนอยู่ในอ้อมแขนแข็งแรงที่เขาใช้กักคนตัวเล็กเอาไว้ แววตากลมโตดูใสซื่อ เงยขึ้นสบกับตาเรียวคมที่จ้องมองมาด้วยความรักใคร่ มือหนายกขึ้นลูบแก้มคนตัวเล็กกว่าเบาๆ ก่อนจะบรรจงจุมพิศลงบนหน้าผากมนนั้นอย่างแสนรัก จนแดฮยอนอดที่จะหลับตารับกับสัมผัสนั้นไม่ได้

    จุนฮงประคองคนตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นนั่งอีกครั้งก่อนจะจูบแก้มเนียนนั้นไปเบาๆ ริมฝีปากบางลากไล้อยู่ที่ข้างแก้มของคนตัวเล็กกว่าจนคนที่ถูกกระทำเผลอเม้มริมฝีปากของตัวเองแน่น

    “แดฮยอนครับ”

    เสียงแหบทุ้มต่ำกระซิบข้างหูคนในอ้อมกอดเบาๆ แดฮยอนได้แต่ครางตอบรับในลำคออย่างคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จุนฮงใช้โอกาสนี้จับคนตัวเล็กให้พลิกขึ้นมานั่งคร่อมตักของตัวเองเอาไว้ พลางจับแขนเล็กนั้นวางบนไหล่ของตัวเองอย่างเสร็จสรรพ

    “ลองมองผม ด้วยสายตาที่มองชีสเค้กดูสิครับ ลองคิดว่าผมคือชีสเค้กชิ้นโปรดของแดฮยอน แล้วแสดงความรู้สึกสื่ออารมณ์ออกมา”

    แดฮยอนกลับมารู้สึกประหม่าอีกครั้งก่อนจะมองอีกคนตรงหน้า ในระยะที่ใกล้ไม่ถึงคืบ แดฮยอนเห็นเงาตัวเองในแววตาอีกคนชัดเจน มือหนาของจุนฮงไม่ปล่อยให้ตัวเองว่าง บรรจงลูบไล้ไปยังเอวขอดเล็กของแดฮยอนเบาๆ ก่อนจะสอดมือนั้นเข้าไปใต้เสื้อของแดฮยอน สัมผัสกับผิวกายโดยไร้เสื้อผ้าปิดบัง

    ทุกสัมผัส ทุกการลากไล้ของมือหนานั้นทำเอาแดฮยอนสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ตากลมโตปรือลงมองสบตากับคนที่อยู่ด้านล่าง แววตาหวานฉ่ำปรอย ดูยั่วยวนจนคนที่ได้จ้องมองถึงกับใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยเหมือนเชิญชวนให้คนด้านล่างได้ลิ้มลองดูสักครั้ง

    “เยลลี่...”

    แดฮยอนเหมือนคนโดนยาพิษเล่นงาน แขนเล็กที่วางอยู่บนไหล่แกร่งเปลี่ยนเป็นโอบรอบคอหนาของคนตรงหน้า สายตายั่วยวนที่จ้องมองกับผิวกายนิ่มๆภายใต้เสื้อตัวหลวมทำให้จุนฮงเหมือนคนโดนยาพิษเล่นงานกลับ ร่างกายเล็กที่เบียดเข้ามาจนส่วนล่างแนบชิดกันไปหมดทุกส่วน

     

    และถ้าแดฮยอนคือยาพิษ ก็คงเป็นยาพิษที่แล่นเข้าสู่หัวใจ ทำงานกับความรู้สึกของเขาโดยตรง

    จุนฮงกำลังถูกมอมเมาโดยยาพิษที่ชื่อ จองแดฮยอน

     

    “ผมว่าเซ็ตนี้ไม่มีแล้วน่ารักสดใส นี่มันอีโรติกสุดๆ”

    คังซอกกูกระซิบยองแจเบาๆโดยที่สายตายังไม่ละไปจากคู่นายแบบนางแบบที่ยังคงนัวเนียกันไม่หยุดอยู่บนเตียง เพราะเสื้อที่แดฮยอนใส่คอกว้างพอควร ทำให้คอเสื้อหลุดไหล่ลงไปข้างหนึ่ง เหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้จุนฮง ทำอะไรๆได้สะดวกมากขึ้น ยองแจได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจ เพราะสิ่งที่ทั้งสองคนนั้นกำลังแสดงออกมา คือสิ่งที่เขาต้องการ

    นายแบบหนุ่มจูบซับตามกระดูกไหปลาร้าของคนตัวเล็กก่อนจะลากริมฝีปากของตัวเองขึ้นไปสัมผัสรับความหวานจากต้นคอสีน้ำผึ้งเนียน เหมือนเป็นการตอบรับไปแบบอัตโนมัติ คนตัวเล็กกว่าเอียงคอให้อีกคนได้ลุกล้ำตัวเองมากขึ้น เปลือกตาบางปิดลงพร้อมกับปากอิ่มที่เม้มเข้าหากันแน่น

    “...อือ”

    เสียงครางเบาๆจากคนตัวเล็กกว่าดันให้อารมณ์ของคนที่โดนความหอมหวานเล่นงานให้พุ่งสูงเข้าไปอีก แม้ว่าเขาจะเคยถ่ายแบบแนวนี้มามาก แต่จุนฮงไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับนายแบบหรือนางแบบคนไหนมาก่อน

     

    แดฮยอนคือคนแรก ที่ทำให้เขารู้สึกพิเศษ...

     

    จุนฮงหันไปมองยองแจเป็นเชิงขออนุญาต เมื่อยองแจพยักหน้าให้ จุนฮงก็ประคองใบหน้าสวยของคนตัวเล็กกว่าให้จ้องตาตัวเอง

    “แดฮยอนเคยรู้สึกตกหลุมรักใครตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเขามั้ยครับ?”

    คนตัวเล็กกว่าได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ มือเล็กลูบไล้ข้างแก้มของคนตัวสูงกว่าอย่างหลงไหล จุนฮงจับมือข้างนั้นของแดฮยอนมาจูบเบาๆ

    “ผมก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับใครนะ จนได้มาพบกับแดฮยอน...”

    “อ... อะไรนะครับ?”

    คนตัวเล็กกว่าทำตาโตทันทีอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง จุนฮงอาศัยจังหวะนั้นโน้มตัวเข้ามาขบเม้มริมฝีปากอิ่มเบาๆอย่างหลงไหล ริมฝีปากบางยังคงส่งยิ้มที่ไม่ว่าแดฮยอนจะดูยังไงก็เป็นอันตรายต่อหัวใจของเขามาให้

     

    เหมือนต่างฝ่ายต่างก็เป็นยาพิษที่อันตราย แต่กลับเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ

    ทำปฏิกิริยาโดยตรงกับความรู้สึก แล่นตรงเข้าสู่หัวใจทันที

    ชวนลุ่มหลงและมัวเมา หลงไหลไม่ได้สติ

     

    “มอมเมาผมให้หลงแล้ว รับผิดชอบผมด้วยนะครับ”

    แดฮยอนไม่รู้ว่าการถ่ายแบบในครั้งนี้จะจบลงเมื่อไหร่? แต่มันคงจะยาวนานมากพอที่จะทำให้แดฮยอนหลอมละลายอยู่ในยาพิษตรงหน้านี้ได้ไม่ยาก พอๆกับจุนฮง เขาสาบานกับตัวเองว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายสำหรับเขากับคนตัวเล็กคนนี้ เขาจะขอเสพติดยาพิษตรงหน้า แม้ว่ายาพิษนี้จะทำร้ายเขาจนตายเขาก็ยอม

     

    ขอแค่ให้เขาตายในอ้อมกอดของคนที่ชื่อ จองแดฮยอน ก็พอ

     



    --------------------------------------------------------------------------


    จบแบบมึนๆ มาแบบงงๆ ไม่สนุกยังไงต้องขออภัยนะครับ

    รีบปั่นมากก แต่ก็ยาวมากกกกกกก แก้บนครับแก้บน แก้ล่างต้องยกให้เป็นหน้าที่ของหมาที่จะจัดการกับแมว(?)

    บนไว้ 3 เรื่อง เอาไปก่อนเรื่องนึงเนอะ พรุ่งนี้จะตามมาอีกเรื่องแน่ๆครับ

    ดีใจมากกกกก ที่บีเอพีชนะ 

    วันหลังจะไม่บนอะไรกับฟิคอีกแล้ว บนทีไรได้ทุกที เดือดร้อนตัวเองเลยไง ฮ่าๆๆๆๆๆ

    เอ็นจอยรีดดิ้งนะครับ ชอบหรือไม่ชอบยังไงบอกได้นะ

    เจอกันเรื่องถัดไปพรุ่งนี้นะครับผม!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×