คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] BangDae - Vodka Killer [1/?]
บนดาดฟ้าของโรงแรมหรูชื่อดังใจกลางกรุงโซล ย่านธุรกิจทีมีเงินสะพัดวันละไม่ต่ำกว่าหลายพันล้าน มีร่างเล็กร่างหนึ่งกำลังเหม่อมองออกไปยังเบื้องหน้าด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก ก่อนจะหันกลับมามองด้านหลังตัวเองทันทีเมื่อได้ยินฝีเท้าที่แผ่วเบาของใครบางคนเดินมา
“ป๊าให้มาตามนายไปพบ บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย”
“อืม”
“รีบๆหน่อยหล่ะ เหมือนป๊ากำลังหงุดหงิด อย่าปล่อยให้ท่านอารมณ์เสียไปมากกว่านี้เลย เดี๋ยวชีวิตจะบรรลัยเอานะ แดฮยอน”
ยูยองแจ หัวเราะเบาๆอย่างนึกขำ แต่คนตรงหน้าของเขากลับตีหน้านิ่งตอบกลับ ก่อนจะมองออกไปเบื้องหน้าอย่างไร้จุดหมายเหมือนเดิม ยองแจได้แต่ส่ายหน้าเบาๆอย่างเอือมระอา
เขาและ จองแดฮยอน ถูกเก็บมาเลี้ยงด้วยมาเฟียใหญ่ที่มีชื่อคนหนึ่ง พวกเขาไม่รู้ว่าอดีตของตัวเองเป็นยังไง? เพราะตั้งแต่จำความได้พวกเขาก็อยู่ที่นี่มาตลอด
ยองแจเป็นคนร่าเริง ชอบพบปะผู้คน ชอบเข้าสังคมและชอบงานสังสรรค์ แตกต่างจากแดฮยอนที่เป็นพวกโลกส่วนตัวสูง ชอบเก็บตัว หาตัวจับยากและไม่สุงสิงกับใคร
แดฮยอนเป็นเด็กผู้ชายที่พระเจ้าช่างบรรจงสรรค์สร้าง ใบหน้าเรียวได้สัดส่วนรับกับตากลมโต จมูกโด่งรั้นกับริมฝีปากอิ่มกว่าคนทั่วไป ใบหน้าที่สวยงามน่ารักมากกว่าผู้หญิงบางคน ที่ใครๆได้เห็นเป็นต้องหลงไหล อีกทั้งร่างกายที่บอบบางน่าทะนุถนอมที่ใครๆต่างก็อยากเป็นเจ้าของ
แดฮยอนเป็นเด็กผู้ชายที่สวยงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องราคาแพง แต่ใครก็ตามที่ได้สัมผัสเป็นต้องชักมือหนีกันทุกคน ไม่ใช่เพราะทรงคุณค่าและไม่สามารถเป็นเจ้าของได้ แต่เพราะสัมผัสที่เย็นเยียบราวกับไร้วิญญาณของจองแดฮยอน ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะแตะหรือสัมผัส
'เย็นชา เรียบเฉย ไร้หัวใจ' คือคำนิยามของ จองแดฮยอน
แดฮยอนเดินลงมาจากดาดฟ้าพร้อมยองแจ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานห้องใหญ่ แดฮยอนเปิดประตูเข้าไปภายในห้องโดยไร้การเคาะหรือบอกกล่าวใดๆ ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา อายุห่างจากแดฮยอนและยองแจเพียงแค่ 13 ปี ละสายตาจากเอกสารตรงหน้าขึ้นมามองพวกเขา
“ต้องให้ป๊าบอกอีกกี่ครั้งว่าควรเคาะห้องก่อนเข้ามา?”
คิมฮิมชาน ขยับแว่นสายตาที่ใส่อยู่เล็กน้อย พลางมองแดฮยอนด้วยสายตาตำหนิ แต่คนที่ถูกมองนั้นกลับตีหน้าเรียบเฉยตอบกลับมาเหมือนทุกครั้งและนั่นก็ทำให้ฮิมชานถอนหายใจออกมาอย่างเอือมกับลูกบุญธรรมคนนี้ของเขา
แม้ว่าเขากับเด็กทั้ง 2 คนนี้อายุจะห่างกันไม่มาก แต่ด้วยวุฒิภาวะที่สูง และหน้าที่รับผิดชอบที่ได้รับมอบหมายทำให้ฮิมชานดูโตกว่าอายุจริงมาก เขาให้แดฮยอนและยองแจเรียกเขาว่าป๊าแทนที่จะเป็นพี่ชาย นั่นเพราะเขาคิดว่า เขาจะสามารถดูแลและควบคุมเด็กทั้ง 2 คนนี้ได้ดีกว่า และนั่นก็ทำให้แดฮยอนและยองแจเรียกเขาว่าป๊ามาตั้งแต่เด็ก
“ป๊ามีอะไร?”
แดฮยอนถามฮิมชานด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก ฮิมชานเคยนึกเสียดายและโทษตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ที่เลี้ยงดูแดฮยอนให้ไร้จิตใจ ใบหน้าสวยหวานราวกับภาพเขียนนั้นช่างน่ามอง เขาจินตนาการไม่ออกจริงๆว่าถ้าใบหน้านั้นของแดฮยอนถูกแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มมันจะน่ามองขนาดไหน? ตั้งแต่เขาเลี้ยงแดฮยอนมา เขาไม่เคยเห็นเด็กคนนี้ยิ้มเลยสักครั้ง นอกจากรอยยิ้มที่เหมือนยิ้มเยาะ ประชดโลก
เขายังหวังว่าซักวัน เขาจะใส่หัวใจลงในตุ๊กตากระเบื้องตัวนี้ได้สำเร็จ...
เขายังหวัง... ว่าซักวันหนึ่ง แดฮยอนจะยิ้มอย่างจริงใจให้เขา
“ยองแจไปชงกาแฟให้ป๊าหน่อยสิ”
ฮิมชานไม่ตอบ แต่หันไปบอกยองแจที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆแดฮยอน ยองแจพยักหน้ารับอย่างรู้หน้าที่ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานห้องใหญ่ หลังจากประตูปิดลง ฮิมชานก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เดินมาหาแดฮยอนที่ยังคงยืนนิ่งเป็นหุ่นราวกับร่างไร้วิญญาณ ร่างสูงก้าวเท้าช้าๆเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าลูกบุญธรรมของตัวเอง มือหนายกขึ้นไล้ปลายนิ้วลงบนใบหน้าสวยของแดฮยอนเบาๆ
“ป๊ารู้สึกเสียใจที่เลี้ยงแดฮยอนให้ไร้หัวใจแบบนี้...”
“ป๊ามีอะไรก็พูดมาสิครับ”
ฮิมชานไล้ปลายนิ้วลงบนริมฝีปากอิ่มของแดฮยอน ริมฝีปากที่เขาเคยลิ้มลองไม่รู้กี่ครั้ง แม้ว่ามันจะเย็นเยียบ ไร้ความรู้สีก แต่มันก็ยังคงสร้างความตื่นเต้นให้กับเขาอยู่เสมอ แม้ว่าคิมฮิมชานจะเป็นผู้ชายในฝันของผู้หญิงเกือบทั้งประเทศ แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใครหรือคิดจะมีคนรักจริงๆจังๆ นั่นเป็นเพราะว่าเขาหลงรักตุ๊กตากระเบื้องที่อยู่ตรงหน้าของเขาตัวนี้...
ใช่แล้ว...
...คิมฮิมชานหลงรักจองแดฮยอน ตุ๊กตากระเบื้องผู้ซึ่งมีสถานะเป็น ลูกชาย ของเขา
“ฮิมชานจับแขนแดฮยอนให้เดินตามตัวเองไปยังโซฟาตัวใหญ่สีดำสนิทภายในห้อง ก่อนจะรั้งร่างบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง สองแขนแกร่งโอบเอวคนตัวเล็กเอาไว้อย่างหวงแหน จมูกโด่งฉกฉวยหอมแก้มนิ่มของคนตัวเล็กกว่าทันทีเมื่อคนตัวเล็กนั่งลงมาบนตักของตัวเอง
เงียบ... ไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบ...
“ลูกแมวน้อยของป๊า... ยิ้มให้ป๊าได้มั้ย?”
“พูดธุระมาเถอะครับ”
แดฮยอนยังคงเป็นแดฮยอน ยังคงเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่ไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม ฮิมชานถอนหายใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจับตัวแดฮยอนให้หันมาเผชิญหน้ากับตัวเอง
“ป๊าจะส่งแดฮยอนไปอยู่กับใครคนหนึ่ง ที่นั่นแดฮยอนจะได้ใช้ชีวิตในแบบที่แดฮยอนไม่เคยได้เจอหรือสัมผัสมาก่อน...”
ฮิมชานล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะยื่นรูปใบหนึ่งให้กับแดฮยอน ในรูปนั้นเป็นรูปของฮิมชานที่ยืนยิ้มอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆใครบางคนที่เขาไม่รู้จัก แดฮยอนเงยหน้าขึ้นมองคนที่เขาเรียกว่าพ่อ สายตาของฮิมชานเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลายหลายเกินกว่าจะอธิบายได้ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มเหี้ยมเกรียม ก่อนเสียงทุ้มจะดังออกมา ด้วยน้ำเสียงที่เฉีบขาด
“...งานของแดฮยอนก็คือ ทำให้คนในรูปคนนั้นรัก... แล้วฆ่าเขาซะ!”
แดฮยอนเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องพักสุดหรูในคอนโดแห่งหนึ่ง ใบหน้านิ่งมองแผนที่ในมือสลับกับเลขหน้าห้องเพื่อความแน่ใจ ก่อนที่นิ้วเรียวจะกดออดหน้าห้องซ้ำ 2 ครั้ง ซักพักประตูบานใหญ่ก็เปิดออก...
แดฮยอนชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเห็นหน้าคนแปลกหน้าที่มาเปิดประตูให้เขา ผู้ชายคนนี้ดูดีกว่าที่เขาเคยเห็นในรูปภาพที่ฮิมชานเคยให้ดู ร่างสูงโปร่ง ใบหน้าคมแสนหล่อเหลา และ... รอยยิ้มที่ดูอบอุ่นถูกส่งมาให้เขานั้น ทำให้แดฮยอนรู้สึกแปลกๆบริเวณอกข้างซ้าย ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นปกติ
แดฮยอนยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้เขาโดยไม่พูดอะไร คนตัวสูงกว่าเลิกคิ้วเป็นคำถาม พลางคลี่กระดาษในมือออกอ่าน ก่อนจะยิ้มออกมา
“จองแดฮยอน ลูกแมวน้อยของฮิมชานเหรอ? ฉันชื่อ บังยงกุก จากนี้เป็นเวลา 3 เดือน ป๊าของนาย ฝากให้ฉันติวเข้มให้นายเพื่อสอบเข้ามหาลัย ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จัก ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองนะ เข้ามาก่อนสิ”
ยงกุกผายมือเชิญแดฮยอนเข้าไปยังห้องหรูของตัวเอง แดฮยอนเดินเข้าไปตามคำเชิญก่อนจะมองสำรวจไปทั่วห้อง ภายในห้องตกแต่งด้วยโทนสี ขาว-ดำ ดูเรียบหรู ตกแต่งแบบง่ายๆ แต่ดูคลาสสิคและมีรสนิยม คนตัวเล็กกว่ามองสำรวจรายละเอียดทั่วห้อง ก่อนจะหยุดสายตาที่คนตัวสูงตรงหน้า
“มีอะไรเหรอ?”
“...”
“ว่าไงหล่ะ?”
“...ห้องนอน”
เสียงหวานแผ่วเบาถูกส่งออกมาจากริมฝีปากอิ่ม ยงกุกทำหน้าเหมือนนึกขึ้นได้ก่อนจะยิ้มแห้งๆส่งกลับมาให้
“บ้านฉันมีห้องนอนห้องเดียวหน่ะ อีกห้องฉันใช้เป็นห้องทำงานไปแล้ว นายคง... ไม่รังเกียจใช่มั้ยถ้าจะนอนห้องเดียวกับฉัน?”
คนตัวเล็กกว่านิ่งไปนิดหน่อยกับคำพูดของคนตรงหน้า ตากลมโตมองคนตัวสูงกว่าด้วยสายตาที่เดาความหมายไม่ออก สายตาที่แดฮยอนมองบังยงกุกไร้ซึ้งความหวาดกลัว เป็นสายตาที่มองเขาด้วยความเปิดเผยและตรงไปตรงมา แต่มันกลับว่างเปล่า ไม่มีอะไรอยู่ในแววตานั้นเลยสักนิดจนยงกุกรู้สึกแปลกใจ
“...ห้ามลวนลามผม”
ปากอิ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งสนิท ยงกุกหลุดหัวเราะออกมา ก่อนจะเอื้อมมือมาหมายจะลูบหัวกลมของแดฮยอนอย่างรู้สึกเอ็นดู แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อแดฮยอนเบี่ยงตัวหลบทันทีที่ยงกุกยื่นมือมาใกล้เขา
“ด้วยเกียรติของฉัน จะไม่ทำอะไรนายแน่นอน”
ยงกุกยิ้มให้แดฮยอนก่อนจะคว้ากระเป๋าในมือของคนตัวเล็กกว่ามาถือแล้วเดินนำเข้าห้อง แดฮยอนเดินตามบังยงกุก พลางสังเกตคนที่เดินตรงหน้าไปด้วยเงียบๆ
แผ่นหลังกว้าง ไหล่ลาดอย่างลูกผู้ชาย รูปร่างสูงโปร่ง ลำแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม ช่างเป็นหุ่นที่ชวนให้หลงไหลได้ไม่ยาก รอยสักที่ดึงดูดสายตา ไหนจะหน้าตาที่หล่อเหลา กับรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นนั่นอีก แดฮยอนเชื่อว่าเขาคนนี้เป็นที่หมายปองของใครหลายๆคน เขาดูเป็นมิตรมากกว่าจะเป็นศัตรู แล้วทำไมพ่อบุญธรรมของเขาถึงอยากกำจัดคนๆนี้กัน?
“โอ๊ะ!”
อาจเป็นเพราะแดฮยอนมัวแต่สังเกตคนที่เดินอยู่ข้างหน้าตัวเอง ทำให้เขาไม่ทันได้ระวังตัว แดฮยอนเดินชนแผ่นหลังของยงกุกอย่างแรง ก่อนจะเซล้มลงไปกองกับพื้น คนตัวเล็กนิ่วหน้า ก่อนจะกุมจมูกตัวเองไว้ด้วยความเจ็บ ยงกุกรีบวางกระเป๋าแล้วเข้ามาดูอาการของแดฮยอนทันทีด้วยความเป็นห่วง
“เจ็บตรงไหนบ้างรึเปล่า?”
แดฮยอนส่ายหน้าเป็นคำตอบ พลางถูจมูกตัวเองแรงๆ ยงกุกจับมือแดฮยอนออกก่อนจะประคองใบหน้าสวยนั้นเข้ามาดูใกล้ๆ
“อย่าถูสิ มันจะยิ่งช้ำนะรู้มั้ย?”
“...”
ยงกุกสัมผัสได้ถึงความนิ่งของอีกฝ่ายก่อนที่เขาจะเริ่มรู้ตัวเอง... ตอนนี้ใบหน้าของเขากับแดฮยอนห่างกันไม่ถึงคืบ ยงกุกสามารถรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่ายที่กระทบกับใบหน้าตัวเอง
ยงกุกเคยได้ยินมาว่าลูกบุญธรรมของฮิมชานงดงาม ไร้ที่ติทั้ง 2 คน โดยเฉพาะเด็กที่ชื่อ จองแดฮยอน ที่ถูกบอกเล่ากันมาปากต่อปากว่างดงามราวกับตุ๊กตากระเบื้องราคาแพงของพวกผู้ดีในชนชั้นสูง ดึงดูดให้ใครต่อใครหลงไหล ใครหลายคนหมายปองตุ๊กตากระเบื้องตัวนี้ แต่ไม่มีใครทำสำเร็จ เพราะฮิมชานที่ขึ้นชื่อว่าหวงแดฮยอนยิ่งกว่าอะไร และ... ความเย็นเยียบของตุ๊กตากระเบื้องเคลือบตัวนี้ที่ทำให้ใครต่อใครขยาดไม่กล้าเข้าใกล้
“...คุณ คุณยงกุก”
กลีบปากอิ่มเอ่ยเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบาเหมือนเป็นการเรียกสติ ยงกุกรีบผละออกจากแดฮยอนทันทีเมื่อรู้สึกตัว อีกเพียงนิด... ริมฝีปากของเขาก็จะสัมผัสกับกลีบปากอิ่มของแดฮยอน เขาไม่อยากคิด ถ้าแดฮยอนไม่เรียกเขา จะมีอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น
แดฮยอนรีบหันหน้าหนีไปอีกทางทันทีที่เขาผละออก แต่ยงกุกก็ตาไวพอที่จะเห็นแก้มเนียนของแดฮยอนขึ้นสีจางๆ ร่างสูงอมยิ้มเล็กน้อย ใครกันที่บอกว่าแดฮยอนไร้หัวใจ? แดฮยอนเป็นแค่เด็กที่ไร้เดียงสาคนหนึ่งก็เท่านั้น
“หิวมั้ย? นายอาบน้ำทำธุระของตัวเองก่อนแล้วกัน เดี๋ยวฉันไปเตรียมอาหารให้”
แดฮยอนพยักหน้ารับคำยงกุกเล็กน้อยโดยไม่ยอมมองหน้า เมื่อแน่ใจว่ายงกุกออกจากห้องไปแล้ว แดฮยอนก็หันกลับมานั่งก้มหน้าเงียบอยู่นาน
เขารู้สึกแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันชวนอึดอัด แต่มันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีผีเสื้อนับร้อยตัวกำลังบินว่อนอยู่ในท้องของตัวเอง
“...ไม่ชอบเลย ความรู้สึกแบบนี้”
แดฮยอนเดินเช็ดผมออกมาจากห้องนอน ตากลมมองดูแผ่นหลังคนตัวสูงที่กำลังฮัมเพลงเบาๆ มือขวาถือตะหลิวผัดอะไรไปมาอยู่ในกระทะ กลิ่นของอาหารเรียกให้กระเพาะของจองแดฮยอนทำงานได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กเดินไปนั่งรอยังโต๊ะทานข้าวขนาดพอดีในครัว โดยที่ตากลมโตคู่นั้นยังคงจับจ้องไปยังแผ่นหลังกว้างของคนที่กำลังทำอาหารอย่างอารมณ์ดี
ยงกุกเทพาสต้าใส่ในจานทั้งของเขาและแดฮยอน ก่อนจะยกอาหารง่ายๆที่เขาพอทำได้มาวางตรงหน้าคนตัวเล็กที่นั่งท้าวคางมองเขาอยู่
“มันอาจจะไม่อร่อยเท่าไหร่ แต่ฉันคิดว่ามันคงจะทำให้นายอิ่มได้อีกหลายชั่วโมง”
ยงกุกพูดพลางส่งยิ้มให้แดฮยอน คนตัวเล็กกว่าได้แต่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง กลิ่นหอมของพาสต้าชวนให้เขาลิ้มลอง แต่เพราะแดฮยอนคือแดฮยอน เขาไม่มีทางไว้ใจอะไรง่ายๆอยู่แล้ว
“ไม่หิวเหรอ? ทำไมไม่กินหล่ะ?”
ยงกุกถามแดฮยอนที่เอาแต่นั่งมองพาสต้าที่อยู่ในจาน คนตัวเล็กกว่าตวัดสายตาขึ้นมองเขาสลับกับพาสต้าตรงหน้า ก่อนที่ยงกุกจะยิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อย
คนตัวสูงกว่าเอื้อมมือมายังจานของคนตัวเล็ก ก่อนจะใช้ส้อมจิ้มชิ้นพาสต้าในจานเข้าปากตัวเอง พลางเคี้ยวด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม
“กินเถอะ ฉันไม่ใส่ยาพิษลงไปหรอก”
เพียงแค่นั้นแดฮยอนก็รับส้อมคืนจานยงกุกและตักพาสต้าเข้าปากตัวเองบ้าง ก่อนที่คนตัวเล็กจะทำตาโตด้วยความแปลกใจ
“เป็นยังไงบ้าง? พอกินได้มั้ย?”
ยงกุกถามแดฮยอนที่ดูเหมือนจะตื่นเต้นกับพาสต้าตรงหน้าของตัวเอง แดฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตาเขาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย
“อร่อย...”
เพียงแค่แปบเดียวที่ยงกุกเห็นประกายตื่นเต้นในแววตาของแดฮยอน ยงกุกยิ้มออกมาอย่างพอใจก่อนจะนั่งมองแดฮยอนที่ตักพาสต้าเข้าปากตัวเองคำแล้วคำเล่า
หลังจากมื้อเล็กๆมื้อนั้นจบลง แดฮยอนก็เป็นคนอาสาล้างจานเป็นการตอบแทนที่ยงกุกทำพาสต้าให้กิน แม้ว่ายงกุกจะปฏิเสธเท่าไหร่แต่แดฮยอนก็ยังยืนยันที่จะทำ เขาจึงปล่อยให้คนตัวเล็กกว่าจัดการทุกอย่างในครัว แล้วตัวเขาเองกลับมานั่งทำงานที่ห้องนั่งเล่น
หลังจากที่เก็บกวาดทุกอย่างเสร็จแล้ว แดฮยอนก็ขอออกไปข้างนอก โดยที่ๆเขาเลือกไปคือดาดฟ้าของคอนโดหรูแห่งนั้น แดฮยอนชอบขึ้นไปมองทิวทัศน์บนดาดฟ้า เพราะเขาคิดว่ามันคือที่เดียวที่ทำให้เขามองโลกได้กว้าง และเป็นที่เดียวที่เขารู้สึกเป็นอิสระมากที่สุด
แดฮยอนหลุดออกจากความคิดของตัวเองเมื่อสมาร์ทโฟนเครื่องสวยดังขึ้น มือเล็กกดรับสายด้วยความเคยชิน มีไม่กี่คนหรอกที่มีเบอร์เขา และมีแค่ไม่กี่คนหรอกที่กล้าโทรหาเขา
“ครับ”
(เป็นยังไงบ้างแดฮยอน?)
เมื่อรู้ว่าใครโทรมา แดฮยอนก็ถอนหายใจแผ่วเบา ก่อนจะกรอกเสียงลงไปตามสาย ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาเหมือนที่เคยทำ
“สบายดีครับ”
(ยงกุกไม่ได้ลวนลามแดฮยอนใช่มั้ย?)
“ไม่ครับ”
(ป๊าคิดถึงแดฮยอนนะครับ)
“...”
เมื่อไม่มีการตอบรับจากคนที่ตัวเองคิดถึง ฮิมชานก็ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม แดฮยอนก็ยังเลือกที่จะเย็นชาใส่เขาเสมอ
(อย่าลืมหน้าที่ของตัวเองหล่ะ ยิ่งทำให้ยงกุกรักแดฮยอนเร็วเท่าไหร่ งานของแดฮยอนจะยิ่งจบเร็วเท่านั้น...)
“...ครับ”
(รีบๆทำให้มันจบหล่ะ ป๊ารอแดฮยอนกลับมาหาป๊าอยู่นะครับ)
ฮิมชานวางสายไปแล้ว แดฮยอนได้แต่กำโทรศัพท์ไว้แน่น ปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง ตากลมโตฉายแววเจ็บปวด ในสมองมีเรื่องราวต่างๆผุดขึ้นมามากมาย
“เมื่อไหร่กัน...?”
กว่าแดฮยอนจะลงมาจากดาดฟ้าก็ค่อนข้างดึก เขาพบว่ายงกุกยังคงนั่งทำงานอยู่ที่เดิม แดฮยอนมองยงกุกนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าครัวไปทำอะไรบางอย่าง
ยงกุกเงยหน้ามองแดฮยอนที่ยื่นกาแฟมาให้เขา แดฮยอนยังคงจ้องเขานิ่ง สายตาว่างเปล่าที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็เดาความหมายไม่ออกของแดฮยอนทำให้ยงกุกรู้สึกแปลกใจทุกทีที่ได้มอง แดฮยอนจ้องเขาอยู่นานก่อนที่ปากอิ่มจะขยับพูดอย่างแผ่วเบา
“...แทนคำขอบคุณเรื่องพาสต้า”
ยงกุกรับถ้วยกาแฟจากแดฮยอนก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี พลางยกกาแฟในมือขึ้นจิบ ยงกุกขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างแปลกใจ กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล แดฮยอนรู้ได้ยังไงว่าเขาชอบกาแฟแบบนี้? แดฮยอนมองคนตัวสูงนิดหน่อยก่อนจะทรุดตัวนั่งลงข้างๆอีกคน
“ไม่ง่วงเหรอ?”
ยงกุกพับโน๊ตบุคลง ก่อนจะบิดตัวยืดเส้นยืดสายนิดหน่อย แดฮยอนส่ายหน้าให้แทนคำตอบ
“นอนไม่หลับหรอก”
“แปลกที่สินะ แต่พยายามทำตัวให้ชินหล่ะ นายยังต้องอยู่กับฉันอีกตั้ง 3 เดือน”
ยงกุกพูดพลางส่งยิ้มให้ แดฮยอนยังคงนั่งเงียบ แต่สายตาของคนตัวเล็กกลับจับจ้องมายังเขาแบบเปิดเผย ยงกุกไม่เคยเจอใครที่กล้าจ้องหน้าเขาตรงๆแบบแดฮยอน เขารู้สึกว่าแดฮยอนไม่เหมือนใครหลายๆคนที่ผ่านมา
แดฮยอนหน่ะ... ทำให้รู้สึกพิเศษทุกครั้งที่อยู่ใกล้
“มีอะไรงั้นเหรอ?”
“...แฟนคุณไปไหน?”
ยงกุกชะงักนิดหน่อยกับคำถามที่ตรงไปตรงมาของแดฮยอน ก่อนจะยิ้มให้เจ้าของคำถาม นั่น... เป็นรอยยิ้มที่แดฮยอนดูก็รู้ว่าฝืนยิ้มออกมา
“ฉันไม่มีแฟนหรอก เลิกกันไปนานแล้วหล่ะ”
แดฮยอนเอียงคอมองอีกคนเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ แม้ว่าเขาจะเป็นเด็ก แต่เขาก็รู้ดีว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควรพูด แดฮยอนลุกขึ้นก่อนจะดึงแขนเสื้อยงกุกไว้แล้วกระตุกเล็กน้อย ยงกุกได้แต่มองแดฮยอนอย่างแปลกใจ
“นอนกันเถอะ”
“ฉันยังไม่ง่วง นายนอนก่อนเลย”
“...โตแล้ว อย่าดื้อได้มั้ยครับ?”
ยงกุกสะอึกเล็กน้อยกับคำพูดของแดฮยอน แน่นอนว่าไม่เคยมีใครพูดกับเขาแบบนี้ คนตัวเล็กกว่ายังคงกระตุกแขนเสื้อของเขาไม่หยุด ยงกุกยิ้มให้แดฮยอนก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงของตัวเอง
“โอเค ฉันนอนก็ได้”
“...”
“มีอะไรรึเปล่า?”
“...”
แดฮยอนเลือกที่จะไม่พูดอะไร ก่อนที่คนตัวเล็กจะหันหลังเดินนำเขาเข้าห้อง ยงกุกมองตามแดฮยอนเล็กน้อย ก่อนจะเดินตามไปเงียบๆ
แดฮยอนขยับเข้านอนชิดด้านในพร้อมหันหน้าเข้ากำแพงโดยเว้นที่ว่างอีกเกือบค่อนเตียงให้ยงกุก จนคนตัวโตกว่าอดยิ้มออกมาไม่ได้
“ไม่ต้องขยับเข้าไปชิดผนังขนาดนั้นก็ได้ เตียงฉันใหญ่พอให้นายนอนกลิ้งได้สบายน่า”
“...”
ยงกุกยิ้มกว้างออกมาอีก เมื่อคนตัวเล็กกว่าหันกลับมามองเขาสลับกับที่นอนของตัวเอง ก่อนจะพูดออกมาอย่างรู้ทัน
“ฉันไม่ทำอะไรนายหรอก สาบานได้เลย”
“...ถ้าลวนลาม ผมเอาคุณตายแน่”
ยงกุกยิ้มให้กับคำขู่นั้นก่อนที่ร่างสูงจะล้มลงนอนยังฝั่งของตัวเอง ยงกุกเลือกที่จะนอนหันหลังให้อีกคน แดฮยอนมองแผ่นหลังกว้างของยงกุกนิดหน่อย ก่อนจะขยับออกมาให้ห่างจากผนังเพื่อที่ตัวเองจะได้นอนได้สบายขึ้น
ยงกุกลืมตาขึ้น เมื่อรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวข้างหลังตัวเอง ร่างสูงหันกลับไปมองคนตัวเล็กกว่าที่นอนพลิกกลับไปมาอย่างกระสับกระส่าย ก่อนที่คนตัวเล็กกว่าจะลุกขึ้นนั่งกลางความมืด
ยงกุกเอื้อมไปเปิดโคมไฟบริเวณหัวเตียง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองอีกคน หน้าผากมนของคนตัวเล็กชื้นไปด้วยเหงื่อ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณตื่น”
“นอนไม่หลับเหรอ?”
ยงกุกถามคนตัวเล็กกว่าด้วยความเป็นห่วง เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะยื่นมือออกไปเช็ดเหงื่อที่เกาะอยู่บนใบหน้าสวยนั้นเบาๆ แดฮยอนทำท่าจะหลบมือเขาในตอนแรก แต่ก็ยอมอยู่นิ่งๆให้เขาเช็ดเหงื่อออกแต่โดยดี
“...ผมฝันร้าย”
แดฮยอนนั่งก้มหน้า ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาฝันแบบนี้ ฝันที่เต็มไปด้วยสีเลือด เหตุการณ์ในฝันเหมือนมันเคยเกิดขึ้น เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่ว่าเขาจะนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก ทุกครั้งที่เขาฝันถึงมัน ความกลัวจะแล่นเข้ามาในจิตใจของแดฮยอน เขากลัวมาก จนบางคืนเขาต้องพึ่งยานอนหลับ
“...ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร? แต่มันเป็นฝันร้ายซ้ำๆที่ผมฝันถึงมันตั้งแต่จำความได้”
เสียงที่สั่นน้อยๆของแดฮยอนทำให้ยงกุกรู้ว่าแดฮยอนไม่ได้โกหก แดฮยอนไม่เคยเล่าให้ใครฟังถึงความฝันของเขา แม้แต่ยองแจ คนที่เขาสนิทที่สุด แต่เขากลับเลือกที่จะเล่าให้ยงกุก คนที่เพิ่งรู้จักกันฟัง
ยงกุกเปลี่ยนจากเช็ดเหงื่อให้แดฮยอน เป็นลูบหัวกลมของคนตัวเล็กกว่าเบาๆ แดฮยอนมีอาการสั่นน้อยๆเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง
“ฉันอยู่กับนาย เพราะฉะนั้นไม่มีอะไรต้องกลัว ฉันจะปกป้องนายเอง”
ยงกุกพูดพลางส่งยิ้มให้คนตัวเล็กกว่าที่เอาแต่ก้มหน้าเงียบ ยงกุกลังเลอยู่สักพักก่อนจะดึงเอาคนตัวเล็กกว่าเข้ามากอดปลอบเบาๆ วงแขนแกร่งรวบตัวคนตัวเล็กกว่าเข้ามาชิด แก้มเนียนของแดฮยอนซบอยู่ตรงไหล่ของเขา แดฮยอนหลับตาลงอย่างต้องการที่พึ่ง
มือเรียวสวยที่ลูบหลังแดฮยอนเบาๆทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย ความอบอุ่นจากอกแกร่งของยงกุกช่วยให้แดฮยอนรู้สึกปลอดภัยได้อย่างเหลือเชื่อ จากอาการกลัวในตอนแรก ถูกแทนที่ด้วยความอบอุ่น จนแดฮยอนผล็อยหลับไปในที่สุด
ลมหายใจที่สม่ำเสมอบ่งบอกว่าแดฮยอนหลับไปแล้ว ยงกุกก้มมองเสี้ยวหน้าสวยของแดฮยอนเล็กน้อย มือหนาลูบผมนิ่มอย่างเอ็นดู แดฮยอนมีอดีตที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาเชื่อแบบนั้น มันแปลกที่เขาเพิ่งจะเจอแดฮยอน แต่เขากลับรู้สึกว่า...
จองแดฮยอนไม่เหมือนกับผู้หญิงหรือผู้ชายคนที่ผ่านๆมาของเขา แม้แต่คิมฮิมชาน
เขาอยากปกป้อง และดูแลแดฮยอนไปตลอดชีวิต...
ยงกุกขยับตัวเองนอนลงเบาๆโดยที่ยังมีแดฮยอนหลับอยู่บนอก คนตัวสูงจับแดฮยอนหนุนแขนตัวเองก่อนจะฉวยโอกาสรั้งเอวบางเข้ามากอดจนอกเล็กของอีกคนแนบชิดกับอกแกร่งของตัวเอง
กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของแดฮยอนทำให้เขารู้สึกดีอย่างประหลาด มันช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลาย จนยงกุกเผลอฝังจมูกกับปากตัวเองลงบนแก้มเนียนที่แอบป่องเล็กน้อยของคนตัวเล็กกว่าในอ้อมกอดอย่างลืมตัว
ร่างเล็กในอ้อมกอดขยับตัวเล็กน้อยเรียกสติคนที่กำลังฉวยโอกาสให้กลับคืนมา ยงกุกรีบผละออกโดยเกรงว่าเขาจะทำให้คนที่ตัวเองกำลังกอดอยู่นั้นตื่นขึ้นมา ในอกข้างซ้ายมีบางอย่างกำลังเต้นรัว
เป็นความรู้สึกที่หายไปนาน
เป็นความรู้สึกที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร?
แดฮยอนตื่นขึ้นมาด้วยความเคยชิน ก่อนที่แก้มของคนตัวเล็กจะขึ้นสีจางๆเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองนอนซุกอกยงกุกตลอดทั้งคืน กลิ่นโคโลญจ์อ่อนๆจากคนตัวสูงกว่าทำให้แดฮยอนใจเต้นรัวอย่างไม่มีเหตุผล แดฮยอนเผลอตัวขยับเข้าซุกอกกว้างก่อนจะหลับตาลงเหมือนลูกแมวที่ต้องการไออุ่นจากเจ้าของ
ยงกุกที่ตื่นก่อนนานแล้วอมยิ้มด้วยความเอ็นดู มือหนารั้งเอวบางเข้ามาใกล้ แดฮยอนลืมตาด้วยความตกใจก่อนจะดันอกของยงกุกออกทันทีด้วยสัญชาตญาณ แต่ยงกุกกลับกอดเอวบางนั้นแน่นขึ้นพลางมองคนตัวเล็กกว่าด้วยสายตาขบขัน ตากลมโตตวัดขึ้นมองหน้าเขา ปากอิ่มยู่เข้าหากันเล็กน้อย
“คุณกำลังลวนลามผม”
“นายลวนลามฉันก่อนนะ”
“ผมไม่ได้ลวนลามคุณนะ!”
“แล้วที่ขยับเข้ามาซุกอกฉันหล่ะ เรียกว่าอะไร?”
“คุณยงกุก!”
ยงกุกหัวเราะเบาๆเมื่อลูกแมวที่เขาฉวยโอกาสกอดนั้นดิ้นขลุกขลัก มือเล็กทั้งผลักทั้งทุบอกเขา แดฮยอนที่เหมือนจะเย็นชาตลอดเวลา กลับมีมุมหลุดๆแบบนี้ให้เขาเห็น บอกได้คำเดียวว่า... น่ารัก
เมื่อแกล้งคนตัวเล็กกว่าจนพอใจแล้ว ยงกุกก็ปล่อยแดฮยอนให้เป็นอิสระ พอพ้นจากวงแขนแกร่งของคนตัวสูงกว่าได้ แดฮยอนก็คว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเองพลางขยับหนียงกุกไปจนชิดกับกำแพงทันที ตากลมโตมองเขาอย่างหาเรื่อง แต่มือเล็กนั้นกลับกระชับผ้าห่มไว้แน่น ยงกุกหัวเราะออกมาทันทีกับท่าทางของแดฮยอน
ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูไร้เดียงสาไปซะหมด
“หัวเราะอะไรของคุณ?!”
“ฮ่าๆๆ เปล่านี่”
“คุณยงกุก ผมจะโกรธคุณแล้วนะ”
แดฮยอนก็แค่ไม่ชอบเวลาที่รู้สึกว่าตัวเองเป็นรองคนอื่นๆ แดฮยอนไม่รู้ว่าต้องทำตัวยังไง? เขาชินกับการอยู่คนเดียว ชินกับการไม่มีความรู้สึกมากกว่า
“โอเคๆ ฉันขอโทษ เอาเป็นว่าฉันจะพานายไปเลี้ยงเค้กเป็นการไถ่โทษแล้วกัน โอเคมั้ย?”
ยงกุกพยายามทำหน้าให้เป็นปกติเมื่อคนตัวเล็กตรงหน้าเขาเม้มปากจ้องหน้าเตรียมตะปบเขาเต็มที่ แดฮยอนเอียงคอมองเขาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“นายไปอาบน้ำก่อนเลย เดี๋ยวฉันไปเตรียมอาหารเช้าให้”
แค่ได้ยินคำว่าอาหาร แดฮยอนก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะรีบทำหน้าให้เป็นปกติแล้วรีบลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำทันที เมื่อเห็นยงกุกจ้องมองตัวเองไม่ละสายตา
แดฮยอนเข้าห้องน้ำไปแล้ว ยงกุกสะบัดหน้าตัวเองเบาๆอย่างเรียกสติ แดฮยอนยิ้ม... แม้จะเป็นเพียงเวลาสั้นๆ แตต่เขายังคำรอยยิ้มนั้นได้ติดตา
ถ้าเขาไม่อยากให้แดฮยอนยิ้มให้คนอื่น มันจะผิดมั้ยนะ?
มื้อเช้าง่ายๆจบลงโดยที่แดฮยอนยังคงกินได้เยอะเหมือนเดิม เพราะยงกุกอยู่ตัวคนเดียว การทำอาหารจึงเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เขาพอจะทำเมนูง่ายๆได้แต่ไม่คิดว่าแดฮยอนจะชอบฝีมือการทำอาหารของเขา
ยงกุกพาแดฮยอนมายังร้านเบเกอรี่เล็กๆ บรรยากาศน่ารักของรุ่นน้องคนสนิทของเขา แดฮยอนดูจะชอบกับบรรยากาศของร้านนี้มาก ยงกุกสังเกตได้จากตากลมโตของคนตัวเล็กที่มองสอดส่องไปทั้งร้านอย่างเป็นประกาย
“น่ารักจัง”
“ชอบมั้ย?”
“ครับ ผมชอบร้านนี้”
แดฮยอนหันมายิ้มบางๆให้ยงกุกแทนคำขอบคุณ แดฮยอนเป็นแบบที่ใครต่อใครพูดว่าเขายิ้มไม่เป็น แต่ตอนนี้เขากำลังยิ้มให้ยงกุก แดฮยอนไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากยิ้มให้ผู้ชายตัวสูงคนนี้ เขารู้แค่ว่า ใจของเขาสั่งให้ยิ้ม เพียงแค่นั้น
ยงกุกนิ่งไปนิดหน่อยเมื่อแดฮยอนยิ้มให้ ถึงจะเป็นรอยยิ้มบางๆ แต่เขาก็ดีใจที่คนตัวเล็กเลือกยิ้มให้กับเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้จักแดฮยอน เพราะคำพูดที่ถูกส่งกันมาปากต่อปากที่บอกว่าแดฮยอนเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่เย็นชา ไร้หัวใจ และยิ้มไม่เป็น แม้แต่ฮิมชาน ที่ชอบบ่นกับเขาบ่อยๆเรื่องแดฮยอน ก็ยังไม่เคยเห็นลูกบุญธรรมคนนี้ยิ้มเลยสักครั้ง
“สวัสดีครับพี่ยงกุก หายหน้าหายตาไปนานเลยนะ วันนี้ลมอะไรหอบพี่มาถึงทีนี่ได้ครับ?”
ชเวจุนฮง รุ่นน้องของยงกุก เจ้าของร้านเค้กร้านนี้ เอ่ยทักทายลูกค้าที่มาใหม่ทั้งสอง รุ่นน้องตัวสูงยิ้มให้ยงกุกก่อนจะหันไปมองคนตัวเล็กที่ยืนข้างๆรุ่นพี่ของตัวเอง
“ใครเหรอครับพี่? น่ารักจัง แฟนพี่เหรอ?”
“ไม่ใช่แฟนหรอก ลูกบุญธรรมของฮิมชานหน่ะ มาให้พี่ติวหนังสือให้ แดฮยอน นี่จุนฮง เจ้าของร้านเค้กร้านนี้”
ยงกุกบอกจุนฮงในประโยคแรกและหันมาแนะนำจุงฮงให้เขารู้จัก แดฮยอนหน้านิ่งทันทีก่อนจะก้มหัวให้คนตัวสูงตรงหน้าเล็กน้อยตามมารยาท
“ผมชื่อ จองแดฮยอน”
“ตุ๊กตากระเบื้องที่เขาพูดถึงกันงั้นเหรอ? ผม ชเวจุนฮง ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะ แดฮยอนน่ารักจัง”
“พอแล้วน่าจุนฮง มีอะไรอร่อยแนะนำบ้าง?”
อาจเป็นเพราะสายตาที่จุนฮงมองแดฮยอนทำให้ยงกุกรู้สึกไม่พอใจอย่างหาสาเหตุไม่ได้ เขาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล แต่ครั้งนี้หาเหตุผลไม่ได้จริงๆ
“ชีสเค้กครับ ผมเพิ่งทำเมื่อกี๊เลย เดี๋ยวผมมาเสิร์ฟให้นะ”
จุนฮงหันไปยิ้มให้แดฮยอนเล็กน้อยก่อนจะเดินไปตักเค้กมาให้ลูกค้าคนพิเศษทั้งสอง ยงกุกพาแดฮยอนไปนั่งยังมุมในสุดของร้านที่คนไม่ค่อยพลุ้งพล่าน แดฮยอนนั่งลงตรงข้ามเขา ก่อนจะมองเหม่อออกไปนอกร้าน
ยงกุกไม่ชอบให้แดฮยอนเย็นชา เขาชอบเวลาแดฮยอนพูด หรือทำท่างอนเขามากกว่า เวลาที่แดฮยอนเงียบ เหมือนแดฮยอนขังตัวเองไว้ในโลกที่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้แม้แต่เขาเอง
“ชีสเค้กมาเสิร์ฟแล้วครับ~”
“แดฮยอน”
คนที่ถูกเรียกหันมามองหน้าเขา สายตาของแดฮยอนเต็มไปด้วยความว่างเปล่าจนยงกุกถึงกับทำอะไรไม่ถูก ก่อนจะส่งยิ้มให้คนตัวเล็กกว่าเล็กน้อย
“ลองชิมเค้กของจุนฮงดูสิ จุนฮงทำเค้กอร่อยมากนะ”
แดฮยอนมองขนมที่อยู่ตรงหน้าของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าจุนฮงสลับกับยงกุก คนตัวสูงเข้าใจดีว่าแดฮยอนต้องการจะสื่ออะไร? ยงกุกตักชีสเค้กเข้าปากตัวเองก่อนจะยิ้มให้แดฮยอนเป็นเชิงว่า ชีสเค้กชิ้นนี้กินได้
แดฮยอนลังเลนิดหน่อยก่อนจะตักชีสเค้กเข้าปาก ตากลมโตฉายแววตื่นเต้นเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าเจ้าของร้านเค้กตัวสูงที่ยืนรอฟังคำติชมฝีมือตัวเองอยู่ข้างๆ
“อร่อย...”
รอยยิ้มบางจากริมฝีปากอิ่มถูกส่งให้จุนฮง ทำเอาเจ้าของร้านเค้กถึงกับเสียศูนย์ทันที ลูกค้าตัวเล็กของเขาคนนี้น่ารัก ยิ่งเวลายิ้มแบบนี้ยิ่งน่ารักน่ามองเข้าไปอีก ถึงจะเป็นรอยยิ้มบางๆ แต่ก็สามารถขโมยหัวใจของเขาได้ง่ายๆ
“นายไปดูแลลูกค้าคนอื่นได้แล้วจุนฮง”
ยงกุกเอ่ยปากไล่หนุ่มรุ่นน้องที่ยืนทำหน้าแดงบิดไปบิดมาให้กับประโยคสั้นๆของแดฮยอน ยงกุกแค่ไม่ชอบ... เขาไม่อยากให้ใครเห็นรอยยิ้มของแดฮยอนจริงๆ
“จงออบมันดูแลได้ครับ ผมไม่เจอพี่ตั้งนาน ให้ผมคุยกับพี่ก่อนดิ”
จุนฮงพูดพลางถือวิสาสะ ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆยงกุกทั้งที คนเป็นพี่ได้แต่มองอย่างไม่ค่อยชอบใจนัก แต่ก็ไม่ได้ออกปากไล่แต่อย่างใด
“ผมไม่เจอพี่นานเลย ตั้งแต่พี่กับพี่ฮิมชานเลิกกันอ่ะ ก็นึกว่าลืมผมแล้วซะอีก”
คำพูดของจุนฮงเรียกให้แดฮยอนเงยหน้าจากชีสเค้กมามองได้ไม่ยาก สายตาว่างเปล่าจากคนตัวเล็กชวนให้ยงกุกเป็นกังวล แดฮยอนนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะก้มหน้าตักชีสเค้กกินเหมือนไม่ใส่ใจอะไร
“พอดียุ่งๆเรื่องงานหน่ะ”
“เลิกกับพี่ฮิมชานมาก็หลายปีแล้ว หาใครคนใหม่ที่ถูกใจเจอรึยังครับ?”
“...ฉันไม่มีเวลาไปหาใครหรอก”
“ไม่มีเวลาหรือว่ารักพี่ฮิมชานมากจนหาใครมาแทนไม่ได้กันแน่?”
ยงกุกรู้สึกอยากจะหาอะไรยัดปากจุนฮงให้เงียบๆเสียที เขาก็ไม่รู้หรอกนะ ว่าทำไมถึงรู้สึกแคร์คนตัวเล็กที่กำลังกินเค้กอยู่ตรงหน้าคนนั้น ทั้งๆที่เพิ่งจะเจอกัน แต่ยงกุกไม่อยากให้แดฮยอนเข้าใจหรือคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องของเขาและฮิมชานจริงๆ
แดฮยอนวางช้อนลงหลังจากตักชีสเค้กคำสุดท้ายเข้าปากเสร็จ ตากลมโตมองไปยังเจ้าของร่างเค้กตัวสูงที่แทบจะมองเขาอยู่ตลอดเวลา
“อร่อยมากเลยครับ”
“ผมดีใจนะที่แดฮยอนชอบ มากินเค้กร้านผมบ่อยๆนะครับ”
แดฮยอนพยักหน้าให้เป็นคำตอบ ใบหน้าที่ไร้รอยยิ้ม หันมองยงกุกอีกครั้ง
สายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและว่างเปล่า...
“ผมจะออกไปเดินเล่น คุณกลับก่อนก็ได้นะครับ”
“รอไปพร้อมกันสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“ผมอยากไปคนเดียว”
แดฮยอนพูดแค่นั้นก่อนจะหันไปโค้งให้จุนฮงเล็กน้อยเป็นการบอกลา คนตัวเล็กเดินออกจากร้านทันทีโดยที่ไม่คิดจะหันกลับมามองยงกุกสักนิด ยงกุกถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเขกหัวทุยๆของจุนฮงไปหนึ่งที
“ผมเจ็บนะพี่!”
“ใครบอกให้พูดแบบนั้นต่อหน้าแดฮยอนหล่ะ?”
“ทำไมอ่ะ? พี่จีบแดฮยอนอยู่รึไง?”
รุ่นน้องตัวสูงลูบหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะถามคนอายุมากกว่าที่นั่งจ้องหน้าเขาด้วยสายตาไม่พอใจ คำถามของจุนฮงทำให้ยงกุกถึงกับชะงัก
“แดฮยอนเป็นลูกฮิมชานนะ ฉันจะจีบลูกชายเขาได้ไง?”
“ก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆนี่ ถ้าพี่ไม่จีบ งั้นผมจีบเอง”
“ไอ้จุนฮง!”
“ทำไมครับ? เลิกกับพ่อเขาแล้วจะคบลูกเขาแทนงั้นเหรอ? ไม่ดีมั้งพี่? ถ้าพี่ฮิมชานรู้จะคิดยังไงหล่ะ?”
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไง”
ยงกุกปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แม้ว่าในใจของเขาจะรู้สึกลังเลก็ตาม จุนฮงยิ้มมุมปากส่งให้คนเป็นพี่เล็กน้อย
“พี่พูดเองแล้วนะ งั้นแดฮยอนหน่ะ ผมจีบนะครับ”
แดฮยอนกลับมาที่บ้านของยงกุกอีกทีก็เกือบดึก คนตัวเล็กไม่พูดอะไร กลับมาถึงก็พุ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จก็เข้านอนทันทีโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาพูดคุยด้วยเลยสักนิด ยงกุกได้แต่มองแผ่นหลังเล็กที่หลับไปแล้วก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ร่างสูงเดินออกจากห้องเงียบๆก่อนจะปิดไฟห้องให้แดฮยอน รอพรุ่งนี้เขาจะปรับความเข้าใจกับแดฮยอนให้ได้
ยงกุกตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองเผลอฟุบหลับอยู่ในห้องทำงานยันเช้า ยงกุกเดินกลับเข้าห้องตัวเองก็พบว่าแดฮยอนไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว ร่างสูงขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อตามหาอีกคน
บนกระจกบานใหญ่ภายในห้องน้ำ มีโพสต์อิทแปะไว้ ยงกุกดึงมันออกมาอ่านทันที
‘ออกไปหาเพื่อนนะครับ จะกลับบ่ายๆ – แดฮยอน - ’
เป็นอีกครั้งที่ยงกุกถอนหายใจออกมาก่อนจะขยำโพสต์อิทแผ่นนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี วันนี้เขามีประชุมทั้งวัน แถมยังต้องไปดูงานที่ต่างจังหวัดอีก ยงกุกพลาดเองที่ไม่ได้ขอเบอร์แดฮยอนเอาไว้
“เอาไว้ก่อนแล้วกัน”
แดฮยอนกลับมาอีกทีในช่วงบ่าย หลังจากที่นัดยองแจออกมาเที่ยวด้วยแล้ว เขาก็ขอตัวกลับโดยที่ยองแจยังคงเดินเล่น ซื้อของต่อ
แดฮยอนใช้คีย์การ์ดที่ยงกุกให้ไว้เปิดประตูเข้าไปข้างใน เก็บของที่ซื้อมาให้เข้าที่ ก่อนที่เจ้าตัวจะมานั่งนิ่งๆอยู่ในห้องนั่งเล่น ยงกุกไปประชุมและอาจจะไม่กลับวันนี้ เขาเจอโพสต์อิทที่ยงกุกแปะไว้หน้าทีวี เรื่องที่เขาได้รับรู้เมื่อวานทำให้แดฮยอนหยุดคิดไม่ได้ ถ้ายงกุกกับฮิมชานเคยเป็นแฟนกัน แล้วพ่อบุญธรรมของเขาต้องการให้เขาฆ่ายงกุกทำไม?
แดฮยอนถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองไปยังโน๊ตบุคสีเงินของยงกุกที่ถูกวางทิ้งไว้ มือเล็กกดเปิดอย่างถือวิสาสะ ยงกุกใส่รหัสล็อคเอาไว้ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของแดฮยอน เขาถูกฮิมชานปลูกฝังให้แฮ็คและเจาะระบบคอมพิวเตอร์ตั้งแต่เด็ก เมื่อเขาปลดล็อครหัสได้ แดฮยอนก็เริ่มค้นโน๊ตบุคของยงกุก เขาเพียงแค่ต้องการหาอะไรทำฆ่าเวลา ไม่ได้ต้องการล้วงข้อมูลอะไรของยงกุกทั้งนั้น แต่ด้วยความที่เขาเติบโตขึ้นมาในสังคมที่เต็มไปด้วยความสกปรกและสิ่งที่ผิดกฏหมาย การค้นข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม กลายเป็นความเคยชินของแดฮยอนไปเสียแล้ว แดฮยอนเปิดดูอะไรไปเรื่อยๆก่อนจะสะดุดเข้ากับโฟลเดอร์หนึ่งที่ตั้งชื่อไว้ว่า ‘MINE’ แดฮยอนคลิกเข้าไปดูทันทีและสิ่งที่อยู่ในนั้นก็ทำให้เขาหน้าชาโดยไม่มีเหตุผล
ภาพภ่ายซึ่งเป็นรูปคู่ของคนที่เขารู้จักทั้งสองคนในอิริยาบทต่างๆที่ดูสิทสนม ยงกุกและฮิมชาน ไม่ว่าจะเป็นรูปที่ทั้งสองเที่ยวด้วยกัน ทำอาหารร่วมกัน อยู่ด้วยกันในสถานที่ต่างๆ ภาพที่ทั้งคู่กอดกัน จูบกัน ไม่เว้นแม้แต่ภาพบนเตียงที่คนตัวสูงคนนั้น กอดพ่อบุญธรรมของเขาอย่างแสนรักและหวงแหน โดยที่คนทั้งคู่เปลือยท่อนบน ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าก่อนหน้านั้นมันเกิดอะไรขึ้น?
แดฮยอนไล่ดูภาพพวกนั้นก่อนจะเม้มปากแน่น ความรู้สึกแปลกๆตีวนขึ้นมาภาพในอก มันเป็นความรู้สึกที่ทำให้เขาหายใจไม่ออก หัวใจบีบรัดแน่นจนเขารู้สึกอึดอัด แดฮยอนกุมหน้าอกตัวเองไว้ ฟันคมกัดริมฝีปากตัวเองจนห้อเลือด
“อะไรกันความรู้สึกแบบนี้...?”
แดฮยอนปิดโฟลเดอร์นั้นลง ก่อนจะตัดสินใจปิดโน๊ตบุควางไว้ที่เดิม ในขณะที่เขากดปิดเครื่องนั้นเอง ตากลมโตที่ไวต่อสิ่งผิดปกติก็เหลือบไปเห็นโฟลเดอร์หนึ่งที่ซุกซ่อนปนๆกันงานต่างของของยงกุก
‘คดีฆาตรกรรม 13 ปีก่อน’
อะไรบางอย่างทำให้แดฮยอนตัดสินใจกดเปิดโฟลเดอร์นั้นขึ้นมาดู ในนั้นมันมีทั้งข้อมูลและรูปถ่ายที่ถูกเก็บเอาไว้ แดฮยอนไล่ดูภาพพวกนั้นทีละภาพ ตากลมโตเบิกกว้างกับสิ่งที่ได้เห็น ความทรงจำที่หลับไหลอยู่ภายใต้จิตใต้สัมนึกของเขาถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกต่างๆตีกันจนแดฮยอนไม่สามารถตอบได้ว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร? มือเล็กกำเข้าหากันแน่นอย่างลืมตัว
“นี่มัน... อะไรกัน?”
TO BE CONTINUED...
------------------------------------------------------------------------
ยาวขนาดนี้เรียก SF ได้มั้ย? เราไม่รู้เหมือนกันว่าจะจบภายในกี่ตอน แต่จะไม่ให้เกิน 3 หรือ 4 นะคะ ^^ ตอนแรกว่าจะไม่อัพแล้ว แต่สุดท้ายก็อัพอยู่ดี อย่าลืมอ่านฟิคเราเยอะๆน้า เมนได้น้า เราจะได้มีกำลังใจเขียนตอนต่อไป แฮ่~
ป.ล. สนใจรับตุ๊กตากระเบื้องซักตัวมั้ยคะ?
:) Shalunla
ความคิดเห็น