คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : [SF] LoDae ft. BangDae - Beside You
“ผมออกไปข้างนอกนะแม่”
เด็กหนุ่มตะโกนบอกแม่ที่อยู่ในครัว
พลางหยิบรองเท้าคู่โปรดมาใส่ คนเป็นแม่เดินมาหาเขาพร้อมกับอะไรบางอย่างในมือ
“จะไปเล่นที่บ้านพี่ยงกุกหล่ะสิ?
อ่ะ... แม่ฝากขนมไปให้พี่เขาด้วยนะ ทำตัวดีๆหล่ะลูก อย่าดื้ออย่าซน อย่าสร้างความวุ่นวายให้พี่เขาปวดหัวหล่ะ”
“แม่อ่ะ! ผมไม่ได้ดื้อขนาดนั้นสักหน่อยนะ”
เด็กหนุ่มบ่นอุบก่อนจะยิ้มตอบคนเป็นมารดา
พลางรับถุงขนมมาไว้ในมือ
แค่พูดถึง
‘คนๆนั้น’ ก็สามารถเรียกรอยยิ้มจากริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่สดของเด็กหนุ่มได้
‘จองแดฮยอน คือชื่อของเด็กหนุ่มคนนี้
เขาเป็นเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าสวย อาจจะสวยยิ่งกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ ตัวเล็กๆ สีผิวที่ไม่ได้ขาวมากอย่างคนเกาหลีทั่วไป
แต่กลับเนียนนุ่มน่าสัมผัส กับรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเขา ทำให้ใครต่อใครที่ได้เห็น
เป็นต้องตกหลุมรักเด็กคนนี้ได้ไม่ยาก ถึงมีคนมากมายที่พากันรุมล้อมเขา
แต่เขาก็ไม่เคยสนใจใคร นอกจาก ‘คนๆนั้น’ เพียงคนเดียว...
บังยงกุก หรือที่เขาเรียกติดปากว่า พี่ยงกุก คือ คนๆนั้น
คนที่ทำให้แดฮยอนสามารถยิ้มออกมาได้โดยไม่รู้ตัวทุกครั้งที่คิดถึง
คนที่สามารถทำให้แดฮยอนลืมเรื่องร้ายๆได้เพียงแค่เขามีคำพูดอ่อนโยนให้ โดยที่แดฮยอนเองก็ไม่เข้าใจว่าอาการเหล่านี้มันคืออะไร??
กิ้งก่อง!!
เด็กหนุ่มค่อยๆบรรจงกดออดหน้าบ้าน พี่ยงกุก อย่างตั้งใจ และไม่นานนัก เจ้าของบ้านก็เดินออกมา
พร้อมกับรอยยิ้มที่ส่งมาให้แดฮยอน
และรีบมาเปิดประตูให้ทันทีที่รู้ว่าคนที่มากดออดหน้าบ้านคือใคร?
“พี่ยงกุก!! หวัดดีครับ~”
เด็กหนุ่มทักทายบุคคลตรงหน้า
และเขาก็ได้รอยยิ้มตอบกลับมาเหมือนเช่นทุกครั้ง แดฮยอนไม่รู้ว่าตัวเองจะเห็นแก่ตัวไปรึเปล่า?
ถ้าเขาอยากจะเก็บรอยยิ้มนี้ไว้เป็นของเขาเพียงคนเดียว
“ว่ายังไงเด็กดี?”
คำนี้เป็นคำที่พี่ยงกุกใช้ทักทายเขาอยู่เสมอ
พร้อมกับฝ่ามือหนาแต่กลับนุ่มน่าจับวางลงมาบนศีรษะของเขา ซึ่งแดฮยอนไม่ได้ปฏิเสธการกระทำแบบนี้
ตรงกันข้าม เขากลับชอบมันด้วยซ้ำ แดฮยอนรู้สึกดีทุกครั้งที่พี่ยงกุกขยี้ผมสีน้ำตาลสว่างอ่อนนุ่มของเขาเล่น
และแดฮยอนก็อยากจะให้พี่ยงกุกทำแบบนี้กับเขาเพียงแค่คนเดียว
“แม่ให้เอาขนมมาให้หน่ะครับ
แม่กลัวว่าคนแก่ตัวคนเดียว อยู่บ้านคนเดียวแบบพี่ยงกุกจะหิว”
แดฮยอนพูดพร้อมกับยิ้มจนตาหยีให้กับชายหนุ่มตรงหน้า
เขาไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าตอนนี้ แก้มขาวๆของเขา ขึ้นสีเป็นสีชมพูไปแล้วเรียบร้อย
“ฝากขอบคุณ คุณแม่ด้วยนะ... เข้ามาข้างในก่อนสิ”
เสียงของพี่ยงกุกช่างอบอุ่นเหลือเกิน
แดฮยอนชอบทุกอย่างที่เป็นชายคนนี้เสียจริงๆ แดฮยอนยิ้มตอบเขา
ก่อนจะเดินตามเข้ามาในบ้านอย่างเงียบๆ
บ้านของพี่ยงกุกตกแต่งแบบเรียบๆ
แต่น่าอยู่มาก ก็คงจะเหมือนกับเจ้าของบ้าน... ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าของแดฮยอนคนนี้
ที่ดูเรียบๆ แต่ก็น่าอยู่ด้วยที่สุด
แดฮยอนจะรู้สึกเขิน ประหม่า
ตื่นเต้น อ่อนไหว บางทีก็เครียด หรืออาจจะนิ่ง... ความรู้สึกที่ปะปนกันจนบอกไม่ถูกพวกนี้มักจะเกิดขึ้นตอนที่เขาอยู่ใกล้ๆพี่ยงกุกเสมอ
ราวกับมีผีเสื้อนับร้อยตัวบินอยู่รอบๆตัวของเขา... โดยเฉพาะเมื่อพี่ยงกุกมองเขา...
แดฮยอนเป็นคนชอบอ่านหนังสือ
และประโยคหนึ่งที่แดฮยอนเคยอ่านเจอก็คือ...
‘ดวงตาของบางคน
มีผลต่อการเต้นของ หัวใจ’
พี่ยงกุกจะรู้มั้ยนะ
ว่าตาเรียวคมช่างดูมีพลังราวกับจะทำให้คนถูกมองต้องยอมแพ้ให้กับสายตานั้นของพี่ยงกุก
กำลังจะทำให้แดฮยอนคนนี้แทบจะเป็นบ้า ถ้าแดฮยอนไม่อยากให้พี่ยงกุกมองคนอื่นเหมือนที่มองแดฮยอน...จะได้มั้ยนะ?
“คิดอะไรอยู่เหรอเด็กดี? พี่เห็นแดมเหม่อ
ไม่ยอมพูดยอมจา ขนมก็ไม่ยอมกินแบบนี้หลายนาทีแล้วนะ”
ยงกุกถามแดฮยอนเสียงนุ่ม พลางลูบหัวกลมๆของคนอายุน้อยกว่าเบาๆ
แดฮยอนส่ายหน้ารัวทันที
“เปล่าครับไม่ได้คิดอะไรเลย ขนมน่ากินจัง
ผมกินแล้วน้า ~”
ยงกุกยิ้มออกมาเล็กน้อยกับท่าทางของแดฮยอน
เด็กคนนี้ช่างสดใสเหลือเกิน... ทุกการกระทำของแดฮยอนช่างน่ารัก น่ามอง
เขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแดฮยอนถึงคว้าหัวใจของใครหลายๆคนไว้ได้ รวมทั้ง...
“พี่ยงกุกไม่กินเหรอครับ?”
แดฮยอนเงยหน้าจากจานขนมพลางถามเขา
คนตัวโตกว่าส่ายหน้าให้เป็นคำตอบเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมา
“พี่เห็นแดมกิน พี่ก็อิ่มแล้วหล่ะ”
ใช่แล้ว... เขาชอบมองแดฮยอนเวลากินขนม
เพราะแดฮยอนจะดูมีความสุขมาก ทั้งสายตาที่ดูเป็นประกายเวลาที่มองขนมนั่น... มันน่ารักและชวนเอ็นดูมากๆสำหรับเขา
“กระเพาะเราบลูทูธกันได้รึไงเล่า...
พี่ยงกุกนี่ก็”
“นี่แดม...”
ยงกุกเรียกแดฮยอนเบาๆก่อนจะนั่งลงตรงที่วางแขนขอบโซฟา
สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่คนตัวเล็กกว่าอย่างไม่คิดจะละสายตาไปไหน
“ว่าไงครับ?”
แดฮยอนเงยหน้าขึ้นมาจากขนม
พลางมองหน้าเขาตาแป๋ว เหมือนลูกแมวที่กำลังมองเจ้าของ
“แดมอยากไปเที่ยวที่ไหนรึเปล่า?”
“ที่ไหนก็ได้ครับ ขอแค่มีขนมให้ผมเยอะๆก็พอ”
แดฮยอนตอบเขาแทบจะทันที ทำให้ยงกุกหัวเราะออกมาน้อยๆ
เขารู้สึกเอ็นดูกับความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้เสียเหลือเกิน
“พี่มีขนมให้แดมกินตลอดอยู่แล้วครับเด็กดี”
“นี่... ทำไมพี่ยงกุกถึงชอบเรียกผมว่าเด็กดีหล่ะครับ?
ผมอาจจะเกเร เป็นเด็กไม่ดีก็ได้นะ”
“ก็แดมเป็นเด็กดีเวลาอยู่กับพี่นี่ครับ
แค่นั้นก็พอแล้วหล่ะที่พี่จะเรียกแดมว่าเด็กดี”
ยงกุกตอบออกมาอย่างอารมณ์ดี
และนั่นก็ทำให้แดฮยอนโผเข้ากอดเขาทันที ยงกุกลูบหัวแดฮยอนเบาๆ เขาชอบลูบผมของแดฮยอน
ผมสีน้ำตาลอ่อนแต่นิ่มมือ...
“ทำไมพี่ยงกุกใจดีจัง?”
“ไม่รู้สิ... ก็คงจะใจดีกับแดมคนเดียวหล่ะมั้ง....”
“พี่ยงกุกไม่รำคาญผมหรอที่ชอบมาหาบ่อยๆแบบนี้?”
“ไม่หรอก... ดีซะอีกพี่จะได้ไม่เหงา...”
“ทำไมพี่ไม่รำคาญหล่ะครับ?”
“ก็เพราะว่า....”
บังยงกุกเว้นระยะนิดหน่อย
เขาเบรกตัวเองไว้ก่อนที่จะเผลอพูดอะไรที่ไม่สมควรออกไป...
“เพราะว่าอะไรครับ?”
แดฮยอนยังคงทำตาแป๋วถามเขา ยงกุกเลือกที่จะยิ้มออกมา
ก่อนจะยีผมคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยว
“เพราะว่า... แดมเป็นน้องของพี่ไงครับ
แล้วเราหน่ะ ขี้อ้อนเหมือนแมวซะขนาดนี้ ใครเขาจะไปรำคาญกัน?”
“...งั้นเหรอครับ?”
คำตอบของยงกุกทำเอาแดฮยอนถึงกับหุบยิ้มทันที
เขาไม่อยากเป็นน้องของยงกุก ไม่อยากเป็นเลยซักนิด... แดฮยอนไม่อยากจะยอมรับความจริงที่ว่า
เขาคิดเรื่องทั้งหมดไปเองคนเดียว แดฮยอนพยายามหลอกตัวเองมาตลอดว่าพี่ยงกุกต้องคิดกับแดฮยอนเกินน้อง
แต่เมื่อได้ฟังความจริงจากปากของพี่ยงกุกแล้ว...
…ทำไมมันรู้สึกเจ็บแบบนี้นะ?
‘บางครั้งแดฮยอนก็ยังสงสัย
พระเจ้าจะให้เรา เจอ กันทำไม? ถ้าไม่อนุญาตให้เรารักกัน
ถ้าไม่ทำให้อีกฝ่ายมีใจจะรักเขา
แล้วจะทำให้เขารู้สึกอยู่ฝ่ายเดียวทำไม?’
เมื่อเห็นคนข้างๆเงียบไป ยงกุกก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรต่อ
ความจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการจะตอบแบบนั้น แต่เป็นเพราะอะไรหล่ะ?
เขาถึงไม่กล้าที่จะพูดความจริง??
“แดมหิวรึยังครับ?”
ยงกุกถามแดฮยอนเบาๆหลังจากเงียบไปนาน
และคำถามนั้นก็ทำให้แดฮยอนยิ้มออกมา
“หิวแล้วหล่ะครับ”
เขายิ้มตามเด็กหนุ่มตัวเล็กตรงหน้า
พอพูดถึงของกิน เด็กคนนี้ก็จะกลับมาสดใสได้เหมือนเดิม แดฮยอนเป็นคนกินเก่ง
ขนาดจัดการขนม 2-3 จานตรงหน้าจนหมด
แต่ก็ยังหิวได้อีก
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปทำอะไรให้แดมกินก็แล้วกันนะ”
“งั้นผมไปช่วยพี่ยงกุกนะครับ”
“ตามสบายเลยครับเด็กดี...”
ยงกุกยิ้มให้แดฮยอน ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าเด็กหนุ่ม
แดฮยอนมองมือนั้นเล็กน้อยอย่างไม่เข้าใจ
“นี่คือการปล้น! ส่งมือมาให้พี่ซะดีๆครับ”
เพียงแค่นั้นแดฮยอนก็ถึงกับยิ้มกว้างออกมาจนแก้มขึ้นขีดเล็กๆเหมือนหนวดแมว
ก่อนจะเอื้อมมือไปวางไว้บนมือหนาของยงกุกที่รออยู่ก่อนแล้ว
“แดมยอมแล้วคร๊าบ~”
เด็กหนุ่มพูดออกมาอย่างร่าเริง ก่อนที่ทั้งสองจะเดินเข้าครัวไป ยงกุกจับมือแดฮยอนไว้แน่น
ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมด ให้แดฮยอนรับรู้...
'รอก่อนนะแดฮยอน... แล้วพี่จะบอกแดฮยอนเอง
ว่าพี่....'
“ผมไปเรียนก่อนนะฮะแม่”
“จ้า ดูแลตัวเองด้วยนะลูก”
“ครับผม!!”
เช้านี้เป็นอีกวันที่แดฮยอนอารมณ์ดี
เพราะเมื่อคืนพี่ยงกุกโทรมาบอกว่า จะไปรับเขาที่โรงเรียนวันนี้ แดฮยอนเดินฮัมเพลงไปตลอดทาง
และพอเลี้ยวตรงมุมโค้งปุบ แดฮยอนก็เจอคนๆหนึ่ง...
“ไอ้เจลโล่! หวัดดี~”
แดฮยอนทักทายผู้ชายตัวสูงตรงหน้าอย่างร่าเริง
ก่อนจะเดินไปหาเขาที่กำลังรอแดฮยอนอยู่ก่อนแล้ว
“อือหวัดดี~”
“กำลังจะไปโรงเรียนเหมือนกันเหรอ? กูก็กำลังจะไปเหมือนกัน
เรามาเดินไปด้วยกันนะ?”
เพียงคำชวนสั้นๆของแดฮยอน ก็ทำให้เขารู้สึกดีใจได้
เจลโล่ยิ้มตอบแดฮยอนก่อนจะตอบตกลง
เขากับแดฮยอนเป็นเพื่อนกันมานาน
เขาคือเพื่อนเพียงคนเดียวของแดฮยอนที่สนิทกับแดฮยอนที่สุด และเป็นคนที่แดฮยอนไว้ใจมากที่สุดด้วย
เพราะแดฮยอนคบกับใครได้ไม่นาน ด้วยความน่ารัก สดใสของคนตัวเล็ก ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆเป็นต้องตกหลุมรักแดฮยอนทุกราย
ยกเว้นเขา... เจลโล่คนนี้ ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้หลงเสน่ห์ของคนตัวเล็กตรงหน้า
แต่เพราะเขาไม่อยากเสียแดฮยอนไป
เขาไปอยากเสียสิ่งมีชีวิตเล็กๆที่เรียกรอยยิ้มจากเขาได้ทุกครั้งที่มอง เขาอยากเก็บแดฮยอนไว้ข้างๆตัวเขาตลอดไป
“เย็นนี้ไปกินไอติมกันมั้ยแดม?
ร้านโปรดของมึงไง เราไม่ได้ไปที่นั่นมานานเท่าไหร่แล้วนะ?”
เจลโล่พูดพลางยกแขนคล้องคอแดฮยอนไว้
ทำเอาคนตัวเล็กเสียหลักไปนิดหน่อย
“โว้ยไอ้บ้า! ถ้ากูล้มใครจะรับผิดชอบ?
ตัวอย่างกับไททั่นคิดว่ากูจะเอามึงไหวเหรอ?”
แดฮยอนหันไปแว้ดใส่เจลโล่ทันที
คนตัวเล็กขมวดคิ้วพองแก้มใส่เขา ช่างเป็นภาพที่น่าดูเอามากๆสำหรับเจลโล่ และนั่นก็ทำให้คนที่ตัวโตกว่าหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี
“ถ้ามึงเอากูไม่ไหวก็ให้กูเอามึงแทนก็ได้นี่”
“อ... ไอ้หมาปากเสีย! ไม่ได้หมายความแบบนั้นโว้ย!”
“ฮ่าๆๆๆๆ ถ้ามึงล้ม กูก็จะจับมึงไว้เอง
กูไม่ยอมให้มึงต้องเจ็บเพราะกูหรอกน่า...”
ด้วยประโยคที่เหมือนไม่มีอะไรประโยคนี้...
ใครจะรู้บ้างว่ามันทำให้คนฟังอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง
และคนพูดเองก็ตื่นเต้นเหมือนหัวใจจะหลุดออกมาให้ได้
“มึงมันบ้าที่สุดเลยเจลโล่...”
แดฮยอนบ่นอุบพร้อมกับก้มหน้าเพื่อซ่อนใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม
“ฮะๆๆ แล้วตกลงว่าไงหล่ะ?”
“วันนี้กูคงไปกับมึงไม่ได้หว่ะ
เย็นนี้พี่ยงกุกจะมารับกูที่โรงเรียน...”
แดฮยอนตอบกลับเจลโล่ด้วยอาการติดเขิน
เจลโล่สะอึกไปนิดหน่อยเมื่อได้ฟังคำตอบจากแดฮยอน
ไหนจะท่าทางเขินอายที่หาดูได้ยากนั่นอีก
หัวใจของเขาเจ็บแปล๊บขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“...ว้า! แย่หว่ะ! นี่กูอดไปเที่ยวกับมึงอีกแล้วหรอ?”
เจลโล่แกล้งบ่น ทั้งๆที่ในใจของเขาตอนนี้หม่นหมองไม่เหมือนกับท่าทางที่เขาแสดงออกมาเลยสักนิด
“ขอโทษนะ...”
“เฮ้ย! จะขอโทษทำไมกัน? มึงนี่ติงต๊อง”
เจลโล่แกล้งทำเป็นขัดใจนิดหน่อย
ก่อนจะจับหัวคนตัวเล็กโยกไปมา เขารู้...ไม่ใช่ไม่รู้ว่าแดฮยอนรักใคร?
แต่เขาก็ยังฝืน...
เพียงไม่กี่ก้าวที่กู ' ช้า' กว่าเขา เพียงแค่นั้น เขาก็เป็นคนได้มึงไปครอง
“เอางี้ป่ะ... พรุ่งนี้เราค่อยไปกินไอติมด้วยกันนะ
กูก็อยากไปเที่ยวกับมึงเหมือนกัน... นะๆๆๆ”
แดฮยอนพูดพลางเขย่าแขนเจลโล่อย่างติดอ้อน
คนตัวโตกว่าอดยิ้มออกมาไม่ได้ เพราะแดฮยอนเป็นแบบนี้ไงหล่ะ... เขาถึงโกรธแดฮยอนไม่ลงเลยสักครั้ง
“ก็ได้ๆ เลิกเขย่าแขนกูได้แล้วเว้ย! เดี๋ยวมันก็หลุดหรอก”
“อะไรกันวะ? มึงไม่ใช่ตุ๊กตานะ
จะได้บอบบางขนาดนั้น ตัวก็โตออก ทำเป็นสำออยไปได้”
และทุกครั้งที่แดฮยอนบ่นเขา คนตัวเล็กจะทำแก้มป่องทุกครั้ง
ในสายตาของเจลโล่ เขามองว่ามันน่ารักมากกว่าน่ารำคาญ
และเขาก็ชอบที่จะแหย่ให้คนตัวเล็กข้างๆเขาให้บ่นและงอนทุกครั้ง
“แหม... มึงครับ ถึงจะตัวโต แต่เจลโล่ก็คนนะคร๊าบ!!”
เจลโล่พูดยิ้มๆ ก่อนจะดึงแก้มป่องๆพองๆของแดฮยอนเล่น
“โอ๊ย!! นี่แก้มคนนะไม่ใช่ยางยืด จะได้ดึงเอาๆแบบนี้หน่ะ!”
“ฮ่าๆๆๆ มึงมันขี้บ่นจริงๆ มึงมันเป็นลูกแมวขี้บ่น!”
“เงียบปากไปเลยนะไอ้หมาป่าเจ้าเล่ห์!”
“ฮ่าๆๆๆ คร๊าบๆ เจลโล่ยอมแล้วคร๊าบ!!! ป่ะ... ขึ้นห้องเรียนกันเถอะมึง เดี๋ยวจะสาย”
เจลโล่ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
ก่อนจะชวนคนตัวเล็กสงบศึก เขาชอบแบบนี้มากกว่า... แค่ให้เขาได้แหย่แดฮยอน แกล้งแดฮยอน
และอยู่ข้างๆแดฮยอนแบบนี้ เขาก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
แม้จะเป็นได้เพียงแค่เส้นขนานที่ไม่มีวันมาบรรจบกัน
...แต่อย่างน้อยก็ยังได้เดินเคียงข้างกันไปจนสุดทาง
“เที่ยงนี้กินอะไรกันดี?”
เจลโล่ถามแดฮยอน
ในระหว่างที่เก็บหนังสือเข้ากระเป๋า
“ตามใจมึงเลย”
“กินมึงได้รึเปล่า?”
“ไอ้ห่า! กูหมายถึงข้าวเว้ย!”
แดฮยอนหันขวับมาทำตาขวางใส่คนตัวโตกว่าทันที
ก่อนจะเปลี่ยนเป็นส่งยิ้มให้ และในระหว่างนั้นเองก็มีบุคคลที่ 3 เดินเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วย ซึ่งเจลโล่ทำหน้าไม่พอใจออกมาทันที
‘จะมาก่อกวนอะไรอีกหล่ะวะ?’
“แดฮยอน~
จะไปกินข้าวหรอ? ฉันไปด้วยคนสิ”
บุคคลที่ 3 นั่งลงตรงหน้าเขาและแดฮยอน
พลางเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี และนั่นก็ทำให้เจลโล่ตอบกลับทันทีโดยไม่ต้องคิด
“ไม่!!”
“เฮ้ๆ กูถามแดฮยอน ไม่ได้ถามมึง”
“บอกว่าไม่ก็คือไม่สิ!”
“ย้ำอีกครั้งนะ... กู ถาม แด ฮยอน!”
พูดจบก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้ บุคคลตรงหน้าพยายามกวนประสาทเขา
และเขาก็ไม่ใช่คนใจเย็นซะด้วยสิ
“มึงจะมายุ่งกับพวกเราทำไมฮะซูอุง?”
เจลโล่พยายามบังคับเสียงให้เป็นปกติ
เขาไม่ชอบหน้าไอ้เพื่อนคนนี้เลยจริงๆ ลีซูอุง หมอนี่ชอบทำท่าทางเจ้าเล่ห์ใส่แดฮยอน
ชอบทำตัวมีลับลมคมใน และชอบกวนประสาทเขาที่สุด!
“มึงคงฟังไม่รู้เรื่องสินะ... กูจะบอกอีกครั้งก็ได้ว่า
กู ถาม แด ฮยอน โอเค๊?”
ซูอุงพูดพร้อมยักคิ้วให้เจลโล่อีกครั้ง
เขาไม่ชอบหมอนี่จริงๆ ให้ตายสิ!!
“ว่ายังไงครับคนสวย?”
เจลโล่ได้แต่นั่งทึ้งผมตัวเองอย่างหัวเสีย
ถ้าไม่ติดว่าแดฮยอนนั่งข้างๆ เขาคงลุกไปต่อยซูอุงแล้ว แต่เพราะแดฮยอนไม่ชอบความรุนแรง
เขาเลยต้องมานั่งทึ้งผมตัวเองแบบนี้อย่างทำอะไรไม่ได้
“อ่า... ตามใจเจลโล่ดีกว่านะ...”
แดฮยอนตอบพลางยิ้มหวานอย่างนางฟ้าส่งซูอุง
ก่อนจะหันมายิ้มให้เจลโล่ เขายิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ คนตัวโตกว่าจับมือแดฮยอนพลางฉุดให้ลุกขึ้น
ก่อนจะมองหน้าซูอุงแล้วยิ้มอย่างสะใจ
“ถ้าแดมมันว่าอย่างนั้น... มื้อนี้ก็คงมีแค่กูกับแดมแล้วหว่ะ”
“ยิ้มอะไรคนเดียวหน่ะ?”
แดฮยอนถามเจลโล่ขึ้นมาหลังจากที่เขาสังเกตอยู่นาน
ตอนนี้ทั้ง 2 อยู่ที่โรงอาหาร
และกำลังกินข้าวกันอยู่ 2 คน
“คนเขาอารมณ์ดี ยิ้มไม่ได้รึยังไง?”
เจลโล่ตอบแดฮยอนแบบกวนๆ ทำให้แดฮยอนทำแก้มป่องทันที
“ถ้ารู้ว่าจะตอบกวนประสาทแบบนี้นะ...
กูชวนซูอุงมาด้วยก็ดี”
“อะไร? มึงถอนคำพูดเมื่อกี๊เลยนะ...”
“ก็มึงกวนประสาทกูอ่ะ”
“โอเคครับโอเค กระผมไม่กวนประสาทคุณแดฮยอนแล้วคร๊าบ~”
เจลโล่ยกมือขึ้นอย่างยอมแพ้
เขาจะยอมก็แค่คนเดียวนี่แหละ... ยอมให้เฉพาะ จองแดฮยอน แค่คนเดียว
“เรียกแดมนั่นแหละดีแล้ว
รู้มั้ยว่ามีแค่ 2 คนเท่านั้นนะที่กูให้เรียกแดม”
แดฮยอนบอกเจลโล่พลางเคี้ยวข้าวไปด้วยตุ้ยๆ
เจลโล่มองภาพนั้นอย่างมีความสุข ไม่ว่าแดฮยอนจะทำอะไร ก็ดูดี ชวนมองไปซะหมดจริงๆ
“กูควรดีใจมั้ยวะ?”
“ไอ้บ้านี่! เดี๋ยวกูก็ไม่ให้มึงเรียกว่าแดมเลยนี่
ชื่อก็ไม่ต้องเรียก เรียกนามสกุลไปเลย!”
และเป็นอีกครั้งที่เขายั่วโมโหคนตัวเล็กตรงหน้าได้
จะมีใครว่าเขาโรคจิตเขาก็ยอม แต่ท่าทางน่ารักๆแบบนั้น... เขาอยากจะเก็บไว้ดูเพียงคนเดียวจริงๆ
“อย่างอนดิ... กูอยากเรียกมึงว่าแดมนะ”
“กูก็อยากเรียกมึงว่าเจลโล่เหมือนกันนะ
คุณชเวจุนฮง”
เจลโล่ทำทุกอย่างเพื่อรอยยิ้มนี้เพียงรอยยิ้มเดียวจริงๆ
เขาสัญญากับตัวเองไว้ว่า ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
เขาจะไม่มีวันทำให้คนตัวเล็กตรงหน้าเขาต้องเสียใจเพราะเขาเด็ดขาด...
...เขาสัญญา
“เจลโล่! กูไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ยงกุกเขาจะรอ”
แดฮยอนรีบเก็บของลงกระเป๋าพลางบอกเจลโล่
เขาได้เพียงแค่ยิ้มให้ แม้ในใจอยากจะรั้งแดฮยอนไว้แค่ไหนก็ตาม
เขาชอบทุกครั้งที่ไปโรงเรียน เพราะนั่นเป็นเพียงเวลาเดียวที่เขาจะได้อยู่กับแดฮยอน
“เดินดีๆหล่ะ...
แล้วก็ถ้าใครมาทำรุ่มร่ามใส่ให้ตะโกนดังๆเลยนะ กูจะรีบไปช่วย”
“กูไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ...”
“แต่ก็ไม่รู้จักโตสักที...”
“เจลโล่!!”
“ครับผม~”
“...ฮึ!! เชอะ!!”
แม้แดฮยอนอยากจะด่าคนตัวสูงกว่ามากแค่ไหน
แต่พอเห็นรอยยิ้มที่ยิ้มจนตาหยีของเจลโล่แล้ว แดฮยอนก็ทำใจด่าไม่ลงจริงๆ คนตัวเล็กเลยเลือกที่จะไม่ต่อปากต่อคำกับเพื่อนตัวสูงของตัวเองต่อ
“แล้วมึงจะไปไหนต่อเหรอ?”
“ก็...
คงไปไถบอร์ดเล่นมั้ง”
เจลโล่ตอบอย่างเบื่อๆ
เขาแค่ไม่รู้จะไปไหน ยิ่งไม่มีแดฮยอนด้วยแล้ว เหมือนชีวิตของเขาขาดสีสัน
ขาดชีวิตชีวาไปเลย
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะ”
“อืม กูจะไปรับมึงที่บ้านนะ”
“อื้ม! แล้วเจอกันนะเจลโล่”
แดฮยอนยิ้มให้เจลโล่
ก่อนจะรีบวิ่งไปที่หน้าโรงเรียน ไม่รู้ว่าพี่ยงกุกมารึยัง? แต่การปล่อยให้พี่ยงกุกรอนานๆ
มันคงไม่ดีแน่ๆ
แดฮยอนวิ่งมาถึงหน้าโรงเรียนแล้ว
แต่เขาก็ไม่เจอคนที่เขาอยากเจอ ไร้วี่แววของคนที่บอกว่าจะมารับเขาเย็นนี้
และนั่นก็ทำให้แดฮยอนร้อนใจ
‘พี่ยงกุกอาจจะกำลังเดินทางมาก็ได้’
แดฮยอนพยายามคิดในแง่ดีเข้าไว้ เพราะทุกทีที่พี่ยงกุกนัดอะไรไว้
ไม่มีเลยที่จะเบี้ยวนัด แดฮยอนยังคงเชื่อใจในตัวพี่ยงกุก ว่าพี่ยงกุกจะไม่ทำให้เขาต้องรอ...
ตอนนี้ก็ 6 โมงเย็นแล้ว...
แดฮยอนยังนั่งอยู่ที่เดิม ไม่เห็นวี่แววของพี่ยงกุกเลยสักนิด เขาไม่อยากจะคิดว่าพี่ยงกุกลืมเขาแล้วจริงๆ
เขาพยายามหาเหตุผลต่างๆมากมายยกขึ้นมาอ้าง เพื่อที่จะปลอบใจตัวเอง
‘พี่ยงกุกอาจจะติดธุระ แล้วก็กำลังมาก็ได้นะ’
‘พี่ยงกุกคงกำลังเคลียร์งานอยู่
สงสัยเป็นงานด่วนแน่ๆ เลยมารับเราตามนัดไม่ได้’
‘พี่ยงกุกอาจจะกำลังแวะซื้อขนมมาฝากเราอยู่ก็ได้’
และอีกหลายๆเหตุผลที่แดฮยอนพยายามสรรหามาเพื่อปลอบใจตัวเอง แดฮยอนกระชับวงแขนที่กอดตัวเองไว้ให้แน่นขึ้นอีกนิด
ท้องฟ้าในตอนนี้ แสงสว่างกำลังโรยตัวลงทุกขณะ ความืดเริ่มคืบคลานมาทีละน้อย
พร้อมกับลมหนาวที่พัดมา เขาอยากจะกลับบ้าน แต่ก็กลัวว่าถ้าพี่ยงกุกมาแล้วไม่เจอเขา
พี่ยงกุกอาจจะเป็นห่วงก็ได้
แดฮยอนมองโทรศัพท์ในมือ เขากดเบอร์ยงกุกหลายครั้งแต่ก็ไม่ได้กดโทรออกไป
เพราะเขากลัวว่าจะรบกวนยงกุก เขาเลยเลือกที่จะถือมันไว้อย่างนั้น
และเหมือนพระเจ้าจะเมตตาเด็กหนุ่มตัวเล็กๆแบบเขา เมื่อโทรศัพท์ที่เขาถืออยู่สั่นขึ้นมา
และเบอร์ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ คือเบอร์ของคนที่เขากำลังรออยู่นั่นเอง แดฮยอนอดไม่ได้ที่จะบังคับไม่ให้น้ำตาไหล
เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาต้องร้องไห้? เพราะดีใจที่พี่ยงกุกโทรมา?
หรือเพราะ.... น้อยใจ?
“...ครับพี่ยงกุก”
แดฮยอนพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น แต่มันก็ทำได้ยากเย็นเหลือเกิน
(ตอนนี้อยู่ที่ไหนหรอแดม?)
แดฮยอนอยากจะโกรธพี่ยงกุกจริงๆ ก็เป็นพี่ยงกุกเองไม่ใช่หรอที่บอกเขาว่าจะมารับที่โรงเรียน?
แล้วทำไมเขาถึงถามคำถามนี้?
“...”
แดฮยอนไม่ได้ตอบยงกุก แต่เขาพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้ลอดเขาไปในโทรศัพท์
เขาไม่อยากให้พี่ยงกุกได้ยิน ไม่อยากให้พี่ยงกุกเห็นด้านที่อ่อนแอของตัวเอง
(อย่าบอกนะว่า... ยังอยู่ที่โรงเรียน?)
“...ป... เปล่านะ... ฮึก! กลับบ้านแล้วครับ”
แดฮยอนเลือกที่จะโกหก เพื่อให้พี่ยงกุกสบายใจ... แม้ว่าตัวเขาเองในตอนนี้จะรู้สึกเจ็บแค่ไหนก็ตาม
(งั้นก็ดีแล้วหล่ะครับ พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปรับ แค่นี้ก่อนนะครับ
พี่มีธุระสำคัญที่ต้องทำ)
พี่ยงกุกวางสายไปแล้ว ทิ้งให้แดฮยอนอยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดที่มาเยือนทุกขณะ
แดฮยอนซบหน้าลงกับมือตัวเองพลางร้องไห้ มีอะไรที่สำคัญกว่าเขางั้นเหรอ?
มีอะไรที่สำคัญถึงขนาดที่พี่ยงกุกทิ้งแดฮยอนไว้แบบนี้ด้วย?
“ฮึก!
ทำไม? พี่ยงกุก...”
หิมะเริ่มตกลงมา โดยมีแดฮยอนนั่งที่เดิมไม่ได้ไปไหน ไม่ใช่ว่าแดฮยอนไม่หนาว
แต่เพราะเขาไม่มีแรงจะลุกไปไหนต่างหาก
“เฮ้ย! แดม! มึงมานั่งทำอะไรตรงนี้? ทำไมมึงยังไม่กลับ??”
เจลโล่ที่เพิ่งเล่นสเก็ตบอร์ดเสร็จ และกำลังจะกลับบ้าน
ต้องแปลกใจเมื่อเห็นร่างเล็กๆร่างหนึ่งที่คุ้นตาเขาเป็นอย่างดี นั่งอยู่ท่ามกลางหิมะที่กำลังตก
และพอเจลโล่เดินเข้าไปแตะไหล่แดฮยอนแค่นั้นแหละ แดฮยอนก็โผเข้ากอดเจลโล่ทันที คนตัวสูงอึ้งไปเล็กน้อย
ก่อนจะรู้สึกถึงความเปียกตรงหน้าอก
‘แดฮยอนร้องไห้?’
เจลโล่จับตัวแดฮยอนให้ออกห่างเขา แสงไฟจากเสาไฟตามถนน
เผยให้เห็นใบหน้าเนียนซีดของแดฮยอนเต็มไปด้วยคราบน้ำตา เจลโล่ค่อยๆใช้นิ้วเช็ดน้ำตาให้แดฮยอน
ก่อนจะดึงแดฮยอนมากอดไว้แน่น
“อย่าร้องไห้สิ... มันไม่เหมาะกับหน้าสวยๆของมึงเลยรู้มั้ย?”
“เจลโล่...”
“หนาวมั้ย? ดูสิ ตัวก็บาง เสื้อก็บาง เดี๋ยวก็ไม่สบายกันพอดี”
เจลโล่ทำเป็นบ่นคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดเขา แดฮยอนได้แต่กอดเจลโล่แน่น
คนตัวสูงกระชับเสื้อของเขาเข้ามาให้คลุมตัวแดฮยอนเอาไว้
“เจลโล่... ฮึก! พี่ยงกุก...
ลืมกูหล่ะ ฮึก!
ตลกมั้ย? ฮะๆ”
แดฮยอนพยายามพูดให้มันเป็นเรื่องตลก แต่เขาขำไม่ออก เขารู้ดีว่าแดฮยอนจะรู้สึกยังไงตอนนี้?
เจลโล่เลือกที่จะไม่ตอบ เพราะผู้ชายคนนั้นงั้นเหรอที่คนตัวเล็กคนนี้ยอมลงทุนนั่งรอ?
ยอมทนหนาวเพื่อรอผู้ชายคนนั้น แต่สุดท้ายเขาก็ไม่มา เจลโล่กัดปากตัวเองแน่น เขาโมโห
เขาโมโหทุกคนที่ทำให้แดฮยอนต้องเสียใจ เขาเกลียดทุกคนที่ทำให้แดฮยอนต้องมีน้ำตา
และเขาก็โมโหตัวเอง... ที่ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
“ทำไมไม่เข้าไปหากูที่ยิม? ช่างมันเถอะ! ไปหาอะไรอุ่นๆดื่มกัน ขืนยืนตากหิมะนานกว่านี้ มีหวังได้ไม่สบายกันทั้งคู่แน่ๆ”
เจลโล่พยายามเลี่ยงคำพูดที่จะกระทบจิตใจของแดฮยอน ถ้าเป็นไปได้ เขาอยากรับเอาความเจ็บปวดของแดฮยอนเอาไว้
แต่เพราะว่าเขาทำมันไม่ได้ เขาเลยเลือกที่จะไม่ตอกย้ำให้แดฮยอนต้องเจ็บกว่าเดิม
“กูรู้แล้วหล่ะว่าทำไมมึงถึงตัวโตเจลโล่?”
แดฮยอนที่ตอนนี้หยุดร้องไห้แล้ว พูดขึ้นมาในระหว่างที่ทั้ง 2 เดินไปหาคอฟฟี่ช็อปใกล้ๆ
เพื่อหนีหิมะที่ทำท่าว่าจะตกหนักขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมหล่ะ?”
“เพราะว่ามึงจะได้ให้ความอบอุ่นกูได้ไง คิกๆ”
คนตัวเล็กที่อยู่ข้างๆเขาตอนนี้เริ่มกลับมาช่างจ้อเหมือนเดิมแล้ว
หลังจากที่เงียบไปนาน แค่นี้เขาก็ดีใจแล้วหล่ะ แค่แดฮยอนกลับมายิ้ม
กลับมาหัวเราะแบบนี้ก็เพียงพอแล้วจริงๆ
“กูเปล่าตัวโตนะ มึงต่างหากหล่ะที่ตัวเล็กเอง”
“ไอ้เจลโล่!”
“มึงต้องกินเยอะๆนะรู้มั้ย?”
“จะให้กูกินเยอะได้ไงวะ? ในเมื่อมึงคอยแย่งกูกินหมด”
แดฮยอนบ่นอุบแต่ก็ยังคงยิ้ม ก่อนที่แดฮยอนจะดึงมือเจลโล่ให้ตามเขาเข้าไปในคอฟฟี่ช็อปแห่งหนึ่ง
“มึงจะเอาอะไร?”
แดฮยอนหันมาถามเจลโล่ ซึ่งพบว่าคนตัวโตจ้องเขาอยู่ก่อนแล้ว
“มึง”
เจลโล่ตอบออกมาสั้นๆ ทำเอาแดฮยอนหน้าเห่อร้อนขึ้นมาทันที และนั่นคงจะเป็นการเรียกสติของคนตัวสูงให้กลับมาได้
ก่อนที่เขาจะเผลอพูดอะไรออกไปอีก
“เอ่อ... กูหมายถึงให้มึงสั่งก่อนเลย เดี๋ยวกูขอดูเมนูก่อน”
เจลโล่ตอบบพลางยกเมนูขึ้นมาปิดหน้า แต่ก็ไม่สามารถปิดอาการเขินไว้ได้ แดฮยอนสังเกตเห็นหูของเจลโล่ที่ตอนนี้กลายเป็นสีแดงไปแล้วถึงกับหัวเราะออกมาเล็กน้อย
‘นานๆทีจะหลุดฟอร์ม แต่ก็น่ารักเหมือนกันนะมึงหน่ะ...’
แดฮยอนก็ได้แต่คิด เขาไม่อยากจะพูดอะไรออกไป ให้เจลโล่หาเรื่องแกล้งเขาอีก
แดฮยอนเลยหันไปสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแทน
“เอานมสดร้อนแก้วหนึ่งครับ... แล้วมึงจะเอาอะไร? เลือกได้รึยัง?”
แดฮยอนหันไปสั่งสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก่อนจะหันมาถามคนตัวโตกว่าที่อยู่ข้างๆ
เจลโล่วางเมนูลงก่อนจะเกาหัวนิดหน่อย
“กูจะสั่งอะไรดี?”
“แล้วมึงอยากดื่มอะไรหล่ะ?”
“นั่นหน่ะสิ...”
แดฮยอนส่ายหน้าให้กับคำตอบของเจลโล่ ขนาดคนจะดื่มยังไม่รู้
แล้วเขาจะรู้ได้ยังไง? แดฮยอนเลยหันไปสั่งให้เจลโล่แทนเพื่อเป็นการตัดปัญหา โดยทุกการกระทำของทั้งสอง มีพนักงานและเจ้าของร้านคอฟฟี่ช็อปยืนมองและส่งยิ้มให้อย่างรู้สึกเอ็นดู
“เอาโกโก้ร้อนอีกแก้วนะครับ”
หลังจากที่สั่งเครื่องดื่มแล้ว ทั้ง 2 ก็พากันไปหาโต๊ะ แดฮยอนเลือกโต๊ะในสุด เพราะเขาต้องการความเป็นส่วนตัว
และเจลโล่ก็ไม่ขัด ดีเสียอีกจะได้หลบสายตาของคนในร้านที่มองไปที่แดฮยอนอย่างกับจะกลืนกิน
“หนาวจังเลยเนอะ...”
แดฮยอนพูดออกมาเบาๆ พลางกอดตัวเองแน่น เจลโล่มองแดฮยอนก่อนจะส่ายหัวนิดหน่อย
คนตัวสูงถอดเสื้อแจ็คเก็ตตัวหนาออกแล้วคลุมตัวแดฮยอนไว้
“มึงไม่หนาวหรอ?”
แดฮยอนถามเจลโล่อย่างสงสัย
“ไม่อ่ะ กูแข็งแรง”
เจลโล่ตอบกลับอย่างกวนๆ และคนตัวเล็กตรงหน้าเขาก็ทำแก้มป่องทันที
“จะบอกว่าไขมันที่อยู่ในตัวมีเยอะใช่มั้ยหล่ะ ถึงได้ไม่หนาวหน่ะ? ไอ้หมาอ้วน!”
“ไขมันบ้าบออะไรกัน? ออกจะหุ่นนายแบบขนาดนี้”
“เฮอะ!
หลงตัวเองหว่ะ”
แดฮยอนพูดก่อนจะทำแก้มป่องกว่าเดิมพร้อมยู่ปากอิ่มๆของตัวเองเข้าหากัน
เจลโล่อยากจะขย้ำคนตัวเล็กตรงหน้าเสียเหลือเกิน เพราะน่ารักแบบนี้ไงหล่ะ
เขาถึงไม่อยากปล่อยแดฮยอนไว้ตามลำพัง ไม่อยากเสียแดฮยอนให้กับคนอื่น
แต่เขาก็รู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้
“เจลโล่... ขอบคุณนะ”
อยู่ๆแดฮยอนก็พูดขึ้นมา ทำเอาเจลโล่ถึงกับงง คนตัวสูงขมวดคิ้วเป็นเชิงถาม
“ก็... ตอนที่กูไม่มีใคร มึงจะโผล่มาทุกครั้ง มึงไม่เคยปล่อยให้กูต้องอยู่คนเดียวเลย...”
แดฮยอนพูดพลางกระชับเสื้อที่เจลโล่คลุมให้ตัวเองเข้ามาอีก
“...ถ้าตอนนั้นมึงไม่ออกมาเจอกู กูก็คงจะหนาวตายกลายเป็นผีอยู่หน้าโรงเรียนแน่ๆเลย...
ขอบคุณนะ”
แดฮยอนยิ้มให้เจลโล่อย่างจริงใจ
เขาไม่คิดว่าจะได้คำขอบคุณจากคนตัวเล็กคนนี้ เพราะทุกอย่างที่เขาทำ เขาเต็มใจ...
“เรื่องเล็กน่า... ก็... มึงเป็นเพื่อนกูนี่ ถ้ากูไม่ดูแลมึงแล้วใครจะดูแลกันหล่ะวะ?”
“งั้นมึงดูแลกูตลอดไปเลยได้มั้ย? กูไม่มีใครแล้วนี่นา... มึงจะเป็นเพื่อนกูตลอดไปใช่มั้ย?”
คำพูดของแดฮยอนเป็นเหมือนเวทย์มนต์ ที่สามารถสาปให้เจลโล่ใจเต้นแรงได้ในประโยคแรก
และทำให้หัวใจของเจลโล่จะเต้นช้าลงเมื่อได้ยินประโยคหลัง นั่นหน่ะสินะ... เขาคงเป็นได้แค่เพื่อนของแดฮยอนเท่านั้น...
“อื้อ! ได้ดิวะ”
เจลโล่ฝืนยิ้มให้คนตรงหน้า เขายอมทำทุกอย่างให้คนตรงหน้าสบายใจ
เขายอมทุกอย่างจริงๆ
ยอม... แม้ว่าเขาจะเจ็บปวดมากก็ตาม...
“มึงจะแวะไปเล่นเกมที่บ้านกูก่อนมั้ย?”
เจลโล่ถามแดฮยอน ตอนนี้พวกเขาออกมาจากคอฟฟี่ช็อปแล้ว
และตอนนี้ก็ทุ่มกว่าแล้ว หิมะยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆด้วย
“ได้สิ บ้านมึงอยู่ใกล้แถวนี้นี่นา กูคงไม่ให้มึงเดินตากหิมะไปส่งกูที่บ้านตอนนี้หรอก
เสื้อกันหนาวก็ไม่มี กูไม่อยากได้ชื่อว่ารังแกหมา”
แดฮยอนพูดพลางทำหน้าทะเล้น เจลโล่พยายามข่มใจไม่ให้จับคนตรงหน้ามาฟัด
เขาใช้สติเยอะมากจริงๆเวลาอยู่กับแดฮยอน
“ใครบอกว่ากูจะเดินไปส่งมึงที่บ้าน?”
“ไอ่เจลโล่!!”
พอโดนเจลโล่แหย่เข้าหน่อย แดฮยอนก็ทำหน้างอนขึ้นมาทันที ทำให้คนแหย่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่อยู่
พลางขยี้ผมของคนตัวเล็กเล่นอย่างหมั่นเขี้ยว
“กูล้อเล่นน่า... มึงก็รู้ว่ายังไงกูก็ต้องไปส่งมึงอยู่แล้ว”
เจลโล่พูดพลางจับมือแดฮยอน แต่เขาก็ต้องชะงัก เมื่อคนตัวเล็กไม่ยอมเดินต่อ
เขาคิดว่าแดฮยอนคงจะโกรธที่เขาจับมือ แต่พอหันไปมองแดฮยอน ก็พบว่าคนตัวเล็กกำลังมองอะไรบางอย่างอยู่
แดฮยอนกำลังมองคน 2
คนกำลังกอดกันอยู่ แม้ว่าเขาจะเห็นไม่ชัดแต่ก็พอจะรู้ว่าทั้ง 2 คนนั้นเป็นคนหน้าตาดี เขาไม่สนใจคนทั้ง 2 เท่าไหร่ แต่คนตัวเล็กข้างๆเขานี่สิ
ยืนนิ่งไม่ยอมไปไหน
แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อคนแปลกหน้าทั้ง 2 ตรงหน้าเขาเคลื่อนใบหน้าเข้าหากันก่อนจะจูบกันอย่างดูดดื่ม
ภาพนั้นทำเอาแดฮยอนถึงกับทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันที และนั่นก็ทำให้เจลโล่ตกใจมาก
“แดม! มึงเป็นอะไร?!”
เจลโล่ละล่ำละลักถาม พลางเขย่าตัวแดฮยอน ดวงตาคู่สวยของแดฮยอนมีน้ำตาไหลออกมา
ทำให้เจลโล่ตกใจหนักเข้าไปอีก
“พี่... ยงกุก...”
แดฮยอนพูดออกมาอย่างแผ่วเบา พี่ยงกุก อย่างนั้นหรอ? เจลโล่หันไปมองคน 2 คนนั้นทันที...
“พี่ยงกุกบอกว่ามีธุระสำคัญ... มารับกูไม่ได้หล่ะเจลโล่... ฮึก!”
แดฮยอนพูดก่อนจะซบหน้าลงกับฝ่ามือ เขาพอจะรู้ว่าความรู้สึกของแดฮยอนตอนนี้เป็นยังไง?
เจลโล่กดหัวแดฮยอนลงกับไหล่ของตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าคนไหนคือพี่ยงกุกของแดฮยอน ผู้ชายตัวสูงนั่นหรือ? หรือว่า...คนที่ตัวเล็กกว่านั่น? เจลโล่ฉุดแดฮยอนให้ลุกขึ้นก่อนจะเดินไปหาผู้ชาย
2 คนนั้นช้าๆ ทั้ง 2 ผละออกจากกันเมื่อมีบุคคลที่ 3 และ 4 เดินเข้ามา
ก่อนจะมองมาที่เขากับแดฮยอน และเมื่อเห็นแดฮยอนเท่านั้นแหละ ผู้ชายที่ตัวสูงกว่าก็ถึงกับตาโตทันที
“แดม?”
เจลโล่เดาไม่ผิด
ผู้ชายคนนี้คือ บังยงกุก หรือ พี่ยงกุก ของแดฮยอนนั่นเอง แล้วผู้ชายตัวเตี้ยกว่าเล็กน้อยที่ยืนอยู่ข้างๆเขานั่นหล่ะ...
เป็นใคร?
“นี่หรอครับ
ฮึก! ธุระสำคัญ... ของพี่ยงกุก?”
แดฮยอนมองภาพตรงหน้าอย่างเจ็บปวด
ทำไมพี่ยงกุกไม่เคยบอกเขาเลยว่ามีคนรักอยู่แล้ว? แบบนี้ใช่มั้ยถึงทำให้พี่ยงกุกคิดกับเขาแค่น้องคนหนึ่ง?
ทำไมพี่ยงกุกไม่เคยบอกเขาเลยหล่ะ?
“ใครหรอยงกุก?”
ผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาแต่มีเค้าโครงของความหวานอีกคนที่ยืนข้างๆยงกุกถามเขาด้วยอาการงงๆ
มองมองหน้าแดฮยอนกับเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนข้างๆสลับกันไปมา
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
แล้ว... คนนี้ใครหรอแดม?”
ยงกุกไม่ตอบคำถามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
แต่กลับจ้องเจลโล่เขม็งพลางถามแดฮยอนด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงอาการไม่พอใจ
“คนเนี้ยเหรอพี่ยงกุกของมึงอ่ะแดม?
ไอ้ผู้ชายเสียงต่ำอย่างกับเทปยานๆถูกเปิดในท่อคนนี้เนี้ยนะ?”
เจลโล่ถามแดฮยอนโดยไม่แคร์บุคคลที่ยืนอยู่ตรงหน้า
ยงกุกทำหน้าไม่พอใจนิดหน่อยที่เจลโล่ว่าเขาเสียงเหมือนแทปยานๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
แดฮยอนพยักหน้าน้อยๆ พลางจับมือเจลโล่ไว้แน่น
“ทำไมไม่กลับบ้าน?
ไหนบอกพี่ว่ากลับบ้านไปแล้วไงครับ?”
ยงกุกถามแดฮยอนด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น
เจลโล่มองภาพตรงหน้าด้วยอาการไม่พอใจ ก่อนจะชิงตอบคำถามของยงกุกแทนแดฮยอน
“ก็เพราะใครหล่ะที่บอกว่าจะมารับแดม
แล้วปล่อยให้แดมนั่งรอหน้าโรงเรียนตั้ง 4 ชั่วโมงกลางหิมะที่กำลังตก?
เพราะใครกันหล่ะ?!?!”
“เจลโล่...
พอเถอะ...”
แดฮยอนเขย่าแขนเจลโล่พลางพูด
เขาไม่อยากให้พี่ยงกุกรู้ว่าเขาโกหก เขาไม่อยากให้พี่ยงกุกรู้สึกไม่ดี โดยที่แดฮยอนไม่ได้คิดว่า
สิ่งที่พี่ยงกุกของเขาทำอยู่ตอนนี้... มันก็ทำให้เขาเจ็บปวดไม่แพ้กัน
“จริงหรอแดม?
ที่ไอ้เด็กแหมบคนนี้พูด... จริงเหรอ?”
ยงกุกเดินมาจับแขนแดฮยอนพลางถาม
แต่แดฮยอนก็สะบัดออกทันทีที่คนอายุมากกว่าจับ ตอนนี้เขาเจ็บปวดเหลือเกิน พี่ยงกุกไม่คิดจะอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง
แต่กลับมาคาดคั้นคำตอบจากเขา โดยที่ไม่ถามความรู้สึกของเขาเลยว่ารู้สึกยังไง?
เจ็บปวดไปหมด ความรู้สึกชาจนไม่เหลือชิ้นดี
“พี่ยงกุก
ฮึก! จะมาสนใจผมทำไม? ในเมื่อผม... เป็นแค่น้อง...
พี่ยงกุกไม่ต้องสนใจผมหรอกครับ...”
แดฮยอนพยายามพูดออกมา
ทำไมมันยากเย็นเหลือเกินกับการพูดประโยคแบบนี้? แดฮยอนทั้งเจ็บปวด ทั้งน้อยใจ
ทำไมพี่ยงกุกถึงทำแบบนี้กันนะ? ทำไมกัน?
“จะไม่ให้พี่สนใจแดมได้ยังไง
ในเมื่อพี่... ช่างเถอะ! แดม...
ฟังพี่นะ...”
“ผมไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น! ผมรู้แล้ว... ผมรู้แล้วครับพี่ยงกุก รู้แล้วว่าที่ผ่านมา
ผมคิดไปเองคนเดียวทั้งหมดเลย...”
แดฮยอนพูดออกมาพลางเช็ดน้ำตา
เจลโล่จับมือแดฮยอนไว้แน่น แม้เขาอยากจะต่อยยงกุกมากแค่ไหน เขาก็ทำไม่ได้
เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของเขา เขาทำได้แค่คอยปลอบใจคนตัวเล็กข้างๆ อย่างน้อยก็ทำให้แดฮยอนรู้ว่ายังมีเขาอยู่อีกทั้งคน
“คนพิเศษของนายหรอยงกุก?”
คนข้างๆยงกุกถามมาเบาๆ
ยงกุกมองหน้าแดฮยอน ก่อนจะมองคนที่อยู่ข้างๆ และไปหยุดที่เจลโล่
“เปล่าหรอก...
ไม่ใช่คนพิเศษหรอก คนพิเศษของฉันคือนายเท่านั้น ฮิมชาน...”
คำพูดของยงกุกเหมือนใบมีดนับพันเล่มที่กรีดลงมากลางใจของแดฮยอน
นั่นสินะ... เขาไม่มีทางเป็นคนพิเศษของพี่ยงกุกได้หรอก
วันนี้เขารู้แล้วว่าเขาอยู่ในฐานะอะไร? เขาคงต้องยอมรับความจริงแล้วสินะ
“หรอครับพี่ยงกุก?
ขอบคุณนะ... ขอบคุณที่ทำให้ผมได้รู้ความจริงสักที... ไปกันเถอะเจลโล่...”
แดฮยอนฝืนยิ้มให้ยงกุกก่อนจะดึงมือเจลโล่ให้เดินออกจากตรงนั้น
เจลโล่เดินตามแดฮยอนได้ประมาณ 2-3 ก้าวก่อนจะหยุด
เขาหันไปมองหน้ายงกุกอีกครั้ง พลางพูดช้าๆแต่ชัดเจนทุกคำ
“ไม่รักษาสัญญา
ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ควรจะ รักษาใจ ของคนที่เคยให้สัญญา ถ้านายไม่ได้รักเขา
ก็อย่าให้ความหวังเขา แดฮยอนหน่ะ... ฉันจะดูแลเขาเอง”
เจลโล่ดึงแดฮยอนไปโอบไว้
ก่อนจะเดินออกไป ยงกุกมองแดฮยอนกับเจลโล่ที่เดินไปไกล ฮิมชานตบไหล่ยงกุกเบาๆ
เป็นเชิงให้กำลังใจ
“นายไม่ควรพูดอย่างนั้น...
ที่ไอ้เด็กตัวซีดนั่นพูดก็ถูกนะ นายไม่รักษาสัญญาไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ควรจะรักษาใจของคนที่นายให้สัญญา
ฉัน... ไม่ควรมาเจอนายเลยจริงๆ”
“ฉันรู้...
แต่ที่ฉันพูด ฉันหมายความอย่างนั้นจริงๆ และอีกอย่าง ไม่ว่ายังไงฉัน...
ก็ต้องเลือกนายอยู่วันยังค่ำ”
ยงกุกมองฝ่าเข้าไปในความมืด
แม้ว่าตรงนั้นจะไม่มีแดฮยอนก็ตาม เขาเจ็บไม่น้อยไปกว่าแดฮยอน แต่ที่เขาทำ
เขาก็มีเหตุผล แม้ว่ามันจะเป็นการทำร้ายอีกฝ่ายที่เขา ‘รัก’
ก็ตาม ยงกุกแค่นยิ้มออกมาเหมือนจะหัวเราะให้กับโชคชะตาทั้งหมดของตัวเอง พลางพูดขึ้นมาเบาๆ
“แดฮยอนไม่ใช่คนพิเศษของฉัน
แต่แดฮยอนคือคนสำคัญของฉัน แดม... พี่ขอโทษ...”
เจลโล่พาแดฮยอนมาที่บ้านของตัวเอง แดฮยอนร้องไห้มาตลอดทางและเขาก็ทำได้เพียงแค่ปลอบใจ
จนตอนนี้แดฮยอนก็ยังไม่หยุดร้อง ตากลมสวยบวมช้ำเพราะการร้องไห้อย่างหนัก
“หยุดร้องได้แล้ว... หน้ามึงเลอะน้ำตาหมดแล้วนะ
ขี้เหร่หมดแล้วเนี้ย”
เจลโล่พูดประโยคนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
แต่คนตัวเล็กก็ยังไม่ยอมหยุดร้องไห้สักที เจลโล่นั่งลงตรงหน้าแดฮยอน
ที่ตอนนี้นั่งอยู่ตรงปลายเตียงของเขา ก่อนจะค่อยๆใช้ปลายนิ้วไล้ไปที่ขอบตาของแดฮยอนช้าๆ
แดฮยอนจับมือเจลโล่ไว้ก่อนจะมองหน้าคนตัวสูงผ่านม่านน้ำตา
“ทำไมมึงถึงดีกับกูจังเลยเจลโล่?”
เจลโล่ส่งยิ้มให้คนตัวเล็กเบาๆ
ก่อนจะลูบหัวแดฮยอนอย่างปลอบประโลม
“เพราะว่า... กูเกิดมาเพื่อดูแลมึงมั้ง?
ถ้ากูไม่ดีกับมึงแล้วใครจะดีกับมึงกันหล่ะแดม?”
“เจลโล่....”
“หยุดร้องไห้ได้แล้วนะ... ถ้ามึงไม่หยุดร้อง
กูจะตีมึงจริงๆ”
“มึงกล้าตีกูเหรอ...?”
แดฮยอนถามเจลโล่ด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ
ตากลมโตยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ปากอิ่มเบะเล็กน้อย เจลโล่ชะงักไปนิดหน่อย
ก่อนจะมองคนตรงหน้าอีกครั้ง
‘ขืนมึงทำแบบนี้บ่อยๆ
มีหวังกูได้ปล้ำมึงแน่ๆเลยแดม’
เจลโล่ได้แต่คิดในใจ
ไม่ได้เอ่ยออกไป เพราะเขากลัวว่าถ้าพูดออกไปแล้ว แดฮยอนได้ตีเขาหัวแตกแน่ๆ
“เจลโล่... มึงมานั่งข้างๆกูทีสิ...”
แดฮยอนพูดพลางขยับที่ให้เขา ตอนนี้แดฮยอนหยุดร้องไห้แล้ว
แต่บนใบหน้ายังคงมีคราบน้ำตาอยู่ เจลโล่งงนิดหน่อย แต่ก็ทำตามโดยดี
และพอเขาขึ้นไปนั่งข้างๆแดฮยอนแล้ว เขาก็ต้องนั่งตัวแข็งทันที เมื่อแดฮยอนเอียงหัวมาซบกับไหล่ของเขาเอาไว้อย่างอ่อนล้า
“ขอกูอยู่อย่างนี้ซักแปบนะ...”
แดฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยๆ เจลโล่ลังเลเล็กน้อย
ก่อนจะตัดสินใจยกแขนขึ้นมาโอบไหล่แดฮยอนเอาไว้ กลิ่นหอมอ่อนๆจากตัวของแดฮยอน
ช่างเหมือนคาราเมลอันหอมหวานชวนให้ลิ้มลอง เส้นผมสีน้ำตาลสว่างอ่อนนุ่มที่เคล้าอยู่ตรงต้นคอของเขาทำให้เจลโล่หายใจไม่ถนัด
ทุกอย่างที่เป็นแดฮยอนคนนี้ ทำให้เจลโล่แทบจะกลายเป็นบ้า!
“แดม...”
เจลโล่เรียกแดฮยอนเบาๆ แดฮยอนขานรับในลำคอ
ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา เจลโล่เช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของแดฮยอน
ก่อนจะมองหน้าแดฮยอนนิ่ง...
เขาไล่มองแดฮยอนตั้งแต่คิ้ว
ดวงตาสวยคู่นั้นบอบช้ำจากการร้องไห้อย่างหนัก แก้มใสๆ จมูกที่โด่งเชิด
ทำให้ใบหน้าของเจ้าของดูเป็นคนรั้นๆ และสายตาของเขาก็มาหยุดอยู่ตรงริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่สด
ชวนให้ลิ้มลอง...
เหมือนมีแรงดึงดูดมหาศาลที่แผ่ออกมาจากริมฝีปากนั้น
เขาบังคับตัวเองไม่ได้ที่จะก้มหน้าลงไปหาริมฝีปากอิ่มนั้น
ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะแตะลงบนริมฝีปากของแดฮยอน...
ริมฝีปากของเขาเล่นซนอยู่บนกลีบปากของแดฮยอน
ขบหยอกล้อกันอยู่อย่างนั้น ก่อนที่เขาจะขบริมฝีปากแดฮยอนเบาๆเป็นเชิงขออนุญาติ แดฮยอนเผยอปากขึ้นเล็กน้อย
ให้เจลโล่สอดลิ้นอุ่นเข้าไปควานหาความหวานภายใน ลิ้นทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันไปมา
พลางหยอกล้อกันเล็กๆ เจลโล่พยายามซึมซับความหวานจากแดฮยอนเอาไว้... เหมือนเป็นดั่งพรจากพระเจ้าที่เขาต้องรีบคว้าเอาไว้ก่อนที่มันจะหายไป
เจลโล่ค่อยๆเอนตัวแดฮยอนลงกับที่นอน
โดยไม่ยอมถอนปากของตัวเองออกมาจากปากอิ่มของแดฮยอน...ก่อนที่มือหนาจะเล่นซนลูบไปทั่วร่างกายเล็กของแดฮยอน
คนตัวเล็กครางออกมาอย่างแผ่วเบา และนั่นเหมือนจะทำให้เจลโล่ได้ใจ
มือหนาของเขาค่อยๆลูบเข้าไปใต้เสื้อของแดฮยอน
เพื่อสัมผัสกับผิวนุ่มโดยไม่มีอะไรปิดกั้น...
“อืออ จ... เจลโล่...”
เสียงหวานของแดฮยอนที่ดังเล็ดออกมาจากริมฝีปากอิ่มสวยนั้นเหมือนเรียกสติของเจลโล่ให้กลับคืน
เขาผละออกจากแดฮยอนทันที ก่อนจะนั่งหน้าแดงอยู่ตรงขอบเตียงโดยหันหลังให้แดฮยอน
เจลโล่ค่อยๆหันไปมองแดฮยอน ตอนนี้คนตัวเล็กหน้าแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงสุก
โดยที่มือเล็กดึงผ้าห่มมาคลุมตัวเองเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆเหลือบมองเจลโล่
“เอ่อ/เอ่อ...”
ทั้งสองไม่รู้จะพูดอะไร
เลยได้แต่เงียบใส่กัน เจลโล่ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าปล่อยให้เหตุการณ์เมื่อครู่ผ่านไปเรื่อยๆแล้ว...
อะไรจะเกิดขึ้นต่อ?
“...แดม... มึงหิวมั้ย?
ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ”
เจลโล่ชวนแดฮยอนออกมาอย่างเขินๆ
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้หน้าของเขาหายแดงแล้วรึยัง? แต่สังเกตได้จากแดฮยอน
ที่ตอนนี้หน้ายังไม่หายแดงเลย แสดงว่าหน้าเขาก็คงจะแดงไม่แพ้กัน
“...อ... อื้อ! หิวแล้ว...”
แดฮยอนตอบเบาๆ เขารู้สึกอาย
ไม่กล้าสบตาเจลโล่ สัมผัสจากเจลโล่เมื่อครู่ยังคงเหลืออยู่ เขาอดตื่นเต้นไม่ได้ แดฮยอนเคยฝันว่าอยากมีจูบแรกที่หวาน
นุ่ม โรแมนติกกับคนที่เขารัก แม้ว่าเจลโล่จะไม่ใช่... แต่สัมผัสเมื่อกี้ก็ทำให้แดฮยอนรู้สึกดีไม่น้อย
แดฮยอนเดินตามเจลโล่ลงมาชั้นล่างเงียบๆ
เขาพบพ่อของเจลโล่นั่งดูทีวีอยู่ตรงห้องรับแขก ก่อนที่พ่อของเจลโล่จะหันมามองเขาทั้งสอง
“พาสาวที่ไหนเข้าบ้านหน่ะไอ้บุนฮง?”
พ่อของเจลโล่ทักลูกชายของตัวเอง ก่อนจะมองคนตัวเล็กที่ยืนข้างๆลูกชายของตัวเองอย่างแปลกใจเล็กน้อย
“อย่าเรียกผมแบบนั้นสิครับพ่อ โถ่...”
เจลโล่บอกพ่อของตัวเองพลางเหลือบมองแดฮยอน
ที่ตอนนี้แอบยิ้มกับฉายาที่พ่อมักเรียกเขาอยู่เสมอ
“นี่แดมครับ เป็น... เพื่อนผม
อีกอย่างแดมก็เป็นผู้ชายนะพ่อ ไม่ใช่ผู้หญิง”
เจลโล่แนะนำแดฮยอนกับพ่อของเขา แดฮยอนโค้งตัวให้พ่อของเจลโล่
ก่อนจะยิ้มออกมา
“อย่าแต่งตัวเป็นผู้หญิงหล่ะหนู
เดี๋ยวอาชญากรรมจะเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว”
“พ่อ!!”
“ฉันรู้แล้วว่าแกเป็นลูก
ไม่ต้องเรียกบ่อยๆก็ได้ ไปๆ พานังหนูไปหาอะไรกินเถอะไป แล้วรีบๆนอนกันหล่ะ
นอนดึกเดี๋ยวจะไม่สบาย”
แดฮยอนอดยิ้มให้กับครอบครัวของเจลโล่ไม่ได้
เขารู้แล้วหล่ะว่าเจลโล่ได้นิสัยมาจากใคร?
“กูต้องขอโทษแทนพ่อด้วยนะ พ่อกูก็เป็นแบบนี้แหละ...”
เจลโล่พูดขึ้นมาหลังจากที่พาแดฮยอนมายังห้องครัว
คนตัวเล็กรีบส่ายหน้ารัว
“ไม่เป็นไรหรอก พ่อมึงน่ารักจะตาย...”
แดฮยอนพูดไปตามที่คิด ก่อนจะยิ้มให้เจลโล่
“นั่งรอตรงนี้แปบนึงนะ เดี๋ยวกูจะโชว์ฝีมือ
ทำสปาเกตตี้ให้กิน อ้อ! ขนมอยู่ในตู้นะ กินเลยตามสบาย”
เจลโล่พูดอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะเดินเข้าครัว แดฮยอนเดินไปหาขนมกินตามที่เจลโล่บอก อย่างน้อยๆของหวานๆ
น่าจะช่วยให้อารมณ์ของเขาสดใสขึ้น และเมื่อเดินไปยังมุมที่เจลโล่ใช้เก็บขนม เขาก็พบขนมมากมายอยู่ทั้งในตู้และตู้เย็น
‘มิน่าหล่ะ...ตัวถึงได้โตนัก’
แดฮยอนคิดขำๆ เจลโล่เป็นอีกคนที่ขึ้นชื่อว่ากินเก่ง
กินได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า แดฮยอนคิดย้อนไปถึงเรื่องเก่าๆที่เขาเคยทำกับคนตัวโตคนนั้น
ส่วนมากก็ไม่พ้นเรื่องกินนี่แหละ
‘เจลโล่หรอ?... จะเป็นเจลโล่ได้มั้ยนะ?’
แดฮยอนยกมือขึ้นมาแตะริมฝีปากของตัวเอง
ความอบอุ่นยังคงหลงเหลืออยู่ มันยากที่จะทำใจให้ลืมได้... แดฮยอนสะบัดหน้าไล่ความคิดทั้งหมด
ก่อนจะเลือกขนมออกมา 2-3 อย่าง แล้วเดินไปที่ครัว ยืนพิงกับขอบประตูดูเจลโล่ทำอาหาร
คนตัวสูงทำอาหารด้วยท่าทางคล่องแคล่ว
นี่หล่ะมั้งที่เขาว่ากันว่าคนชอบกินมักจะชอบทำอาหาร? สีหน้าของเจลโล่ดูมีความสุขทุกครั้งเวลาได้อยู่กับอาหาร
“เลือกขนมได้แล้วหรอ?
รองท้องไปก่อนนะ เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว...”
เจลโล่พูดอย่างอารมณ์ดี แดฮยอนยิ้มตอบเขา
ก่อนจะลงมือแกะขนมในมือ
“เจลโล่... มึงรู้มั้ยวะ? ว่านั่นเป็นจูบแรกของกูเลยนะ...”
อยู่ๆแดฮยอนก็พูดขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ทำเอาคนฟังถึงกับทำตะหลิวหลุดมือทันที
“อ๊ะ! โทษทีๆ”
เจลโล่ลนลานตอบแดฮยอนก่อนจะหยิบตะหลิวขึ้นมาถือไว้
แดฮยอนยิ้มให้เขาน้อยๆ เจลโล่ก้มหน้านิ่งเหมือนสำนึกผิด ก่อนจะพูดขึ้นมาเบาๆ
“ขอโทษนะ...”
“...”
“...”
“...เลิกทำหน้าเหมือนหมาไม่ได้กินข้าวแบบนั้นได้แล้ว
กูยังไม่ว่าอะไรมึงเลยนะ อย่าคิดมากดิ...”
แดฮยอนพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะมองเจลโล่ด้วยสายตาที่จริงใจแสดงถึงความขอบคุณ
“กูต้องขอบคุณมึงด้วยซ้ำ ที่คอยอยู่ข้างๆกูตลอดเวลา
มึงทำให้กูลืมความทุกข์ต่างๆได้ มึงทำให้กูยิ้มได้ตลอดเลย ขอบคุณมากนะเจลโล่...”
เจลโล่นิ่งเงียบไป
มือหนาเอื้อมไปปิดเตาก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับคนตัวเล็กกว่าด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“ในเมื่อกูไม่เคยทำให้มึงเสียใจอย่างเขา
แล้วทำไมมึงถึงไม่เลือกกูวะ?”
“...”
“กูมั่นใจว่ากูรักมึงมากกว่าเขา
กูมั่นใจว่ากูจะดูแลมึงได้ แดม... มึงไม่คิดจะให้โอกาสกูเลยเหรอ?”
เมื่อได้ฟังคำสารภาพจากปากของเพื่อนสนิท
แดฮยอนก็ถึงกับนิ่งไปทันที ใช่... เขาไม่เคยคิดเลยสักนิดว่าเจลโล่จะชอบเขา
เขาคิดแค่เพียงว่าทุกอย่างที่เจลโล่ทำ เป็นเพราะคนตัวสูงคนนั้นเห็นเขาเป็นเพียงแค่เพื่อนคนหนึ่งเท่านั้น
“ตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ...?”
“ก็ตั้งแต่แรกที่กูรู้จักมึง”
“...”
“ให้โอกาสกูหน่อยได้มั้ยแดม?
ให้กูเป็นคนนั้นที่มึงรักจะได้รึเปล่า?”
แดฮยอนเงียบไปอีกครั้ง
บางทีเขาอาจจะมองแต่สิ่งที่อยู่ไกลตัวจนมองข้ามสิ่งที่อยู่ใกล้ๆตัวเองไป
เจลโล่คนที่แสนดีกับเขาทุกอย่าง คนที่ทำให้เขายิ้มอยู่เสมอ
เหตุผลเพียงแค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วไม่ใช่เหรอกับการจะรักใครสักคน
ใช่... มันน่าจะเพียงพอแล้ว
ถ้าไม่ติดที่ว่า...
“มึงขอโอกาสจากกู
ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่าทั้งใจของกูรักใครเนี้ยนะ...”
ครั้งนี้กลับกลายเป็นเจลโล่ที่เป็นคนเงียบ
ทำไมเขาจะไม่รู้หล่ะ? เขารู้อยู่เต็มอกว่าแดฮยอนรักใคร? เจลโล่ยิ้มออกมา
เป็นยิ้มมุมปากที่เหมือนต้องการจะท้าทายโชคชะตาของตัวเอง
“ใครจะสนหล่ะ?
ขอแค่เป็นมึง และแค่กูรักมึง มันก็เป็นเหตุผลที่มากพอแล้วที่กูจะขอโอกาสจากมึงไม่ใช่เหรอ?”
คำตอบที่ฟังดูแสนจะมั่นใจของเจลโล่ทำให้แดฮยอนรู้สึกสับสนอีกครั้ง
อะไรที่ทำให้เจลโล่มั่นใจได้ถึงขนาดนั้น?
ทำไมเจลโล่ถึงมั่นใจว่าเป็นเขา
ทั้งๆที่ผ่านมาเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อคนตัวสูงคนนี้เลย
“กูรู้ว่ามึงกำลังเสียใจ
และกูก็ไม่ควรที่จะฉวยโอกาสตอนที่มึงกำลังอ่อนแอ มึงยังไม่ต้องตอบกูก็ได้ ขอแค่มึงเปิดใจและลองมองกูในมุมมองอื่นๆที่ไม่ใช่เพื่อนดูบ้าง
ยังไงกูก็ยืนยันคำเดิมนะแดม ว่ากูจะไม่มีวันทำให้มึงเสียใจเป็นอันขาด”
แดฮยอนยิ้มออกมาเล็กน้อย
เขามีคำตอบให้กับเจลโล่แล้ว ไม่ใช่เพราะความสงสารหรือเพราะว่าเขากำลังอ่อนแอ
แต่เป็นเพราะว่าเวลาที่ผ่านมานั้นช่วยยืนยันและพิสูจน์เรื่องราวระหว่างเขากับคนตัวสูงตรงหน้าคนนี้มามากพอแล้ว
“คำตอบของกูคือ
ไม่ หว่ะเจลโล่...”
เจลโล่รู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นๆถังใหญ่สาดเข้าที่ใบหน้า
รู้สึกชาตั้งแต่เส้นผมจรดปลายเท้า แค่คำพูดสั้นๆของแดฮยอน
ก็แทบจะทำให้คนตัวโตอย่างเขาล้มลงได้ไม่ยาก หรือเขาต้องยอมรับความจริงว่าเรื่องราวระหว่างเขากับแดฮยอนมันไม่มีทางเป็นไปได้จริงๆ
“...งั้นเหรอ?”
“อืม...
ที่กูบอกว่า ไม่ หน่ะ หมายถึงว่ากูจะไม่รออะไรอีกแล้ว
แค่ที่ผ่านมามันก็มากพอแล้วที่จะทำให้กูหน่ะ... ให้โอกาสมึง”
“หมายความว่า...?”
“ต่อจากนี้ก็ดูแลกูด้วยนะเจลโล่
ดูแลกู... ในฐานะอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน”
“มึงพูดจริงใช่มั้ยแดม?
มึงไม่ได้กำลังโกหกกูใช่มั้ย? ขอบคุณเว้ย! กูรักมึงนะแดม กูโคตรรักมึงเลย!”
เจลโล่รวบเอาร่างเล็กตรงหน้าเข้ามากอดไว้แน่นอย่างดีใจ
เพียงแค่แดฮยอนให้โอกาสเขา เขาก็พร้อมที่จะทำตามสัญญาที่ให้ไว้อย่างไม่รู้สึกอิดออด
เพราะการที่เขามีแดฮยอนอยู่ข้างๆหน่ะ มันคือโชคดีที่สุดในโลกของเขาแล้วจริงๆ
เมื่อประตูแห่งความสุขบานเก่าปิดลง
ประตูแห่งความสุขบานใหม่ก็จะถูกเปิดออก...
เจลโล่ยืนอยู่หน้าบ้านของใครบางคน
บ้านที่ตกแต่งเรียบๆแต่น่าอยู่ เขามาที่นี่แต่เช้าเพื่อจัดการธุระของตัวเองก่อนจะไปรับแดฮยอนที่บ้าน
รออยู่ครู่ใหญ่ ใครบางคนที่เขาอยากพบก็ออกมา
สายตาแปลกใจจากเจ้าของบ้านถูกส่งมายังเจลโล่
เด็กหนุ่มตัวสูงยิ้มให้กับชายหนุ่มตรงหน้าเล็กน้อย
“รู้จักบ้านฉันได้ยังไง?”
เสียงทุ้มต่ำถูกส่งออกมาจากริมฝีปากสีหม่นของเจ้าของบ้าน
เจลโล่มองไล่คนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า คนแบบนี้เองเหรอที่แดฮยอนรัก?
เขาก็ไม่อยากปฏิเสธหรอกว่าบังยงกุกเป็นคนที่ดูดีมากคนหนึ่ง ท่าทางสุขุม
ดูเป็นผู้ใหญ่ แฝงไว้ด้วยความใจดีและความเฉียบขาดอยู่ในตัว
แต่เขาจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ
“ฉันจะรู้จักบ้านของนายได้ยังไงมันก็เรื่องของฉัน
วันนี้ฉันแค่จะมาบอกนาย...”
ยงกุกมองเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้าด้วยสายตาที่ไม่บ่งบอกถึงความรู้สึก
ถึงเจลโล่จะเด็กกว่าเขา แต่ก็ไม่ได้ให้ความเคารพเขาเลยสักนิด
ไหนจะท่าทางที่ดูเปิดเผยไม่กลัวใครนั่นอีก เด็กนี่มีธุระอะไรกับเขากัน?
“ว่ามาสิ”
“เรื่องของแดมหน่ะ...”
“แดมทำไม?”
ยงกุกถึงกับชะงักเมื่อได้ยินเด็กหนุ่มตัวสูงตรงหน้าเอ่ยชื่อของใครบางคนออกมา
ผู้ชายตัวเล็กๆที่เขาเฝ้าทะนุถนอม โดยที่เขาเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าในตอนนี้จะยังเป็นเขาอยู่รึเปล่าที่คนตัวเล็กคนนั้นต้องการ
“ฉันกับแดมเรากำลังคบกันอยู่
เพราะฉะนั้นต่อไปนี้นายเลิกยุ่งกับแดมได้แล้ว”
เหมือนโลกทั้งใบของยงกุกหยุดหมุน
สิ่งที่ไอ้เด็กแหมบตรงหน้านี่บอก... เป็นความจริงงั้นเหรอ?
“ทำไมฉันต้องทำตามที่นายบอกหล่ะ?”
“นายคงไม่อยากเห็นแดมร้องไห้อีกครั้งหรอกจริงมั้ย?”
เหตุผลของเจลโล่เป็นคำตอบที่เขายากจะปฏิเสธ
แต่ไม่หรอก... ในเมื่อเขาเจอแดฮยอนก่อน เขาจะไม่ยอมปล่อยแดฮยอนไปแน่ๆ
ขอแค่รอเวลาให้ภาระที่เขายังติดพันอยู่จบลงเพียงแค่นั้น
“ตอนนี้ฉันอาจจะไม่อยู่ในฐานะที่จะดูแลแดมได้ก็จริง
แต่สักวันหนึ่ง ฉันจะมาทวงแดมคืนจากนาย เตรียมตัวเอาไว้เถอะ”
“งั้นฉันก็จะบอกไว้ตรงนี้เลยแล้วกันว่าไม่มีวันนั้นสำหรับนายแน่นอน”
ยงกุกกับเจลโล่ยังคงมองหน้ากันด้วยสายตาที่ไม่มีใครยอมใคร
ใช่... นี่มันเป็นเพียงแค่บทเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเจลโล่หรือใครก็ตาม
เขาไม่มีวันยกแดฮยอนให้แน่ๆ
ไม่ต่างจากเจลโล่
เขาจะไม่มีวันยอมให้ใครมามีบทบาทกับแดฮยอนมากไปกว่าเขาแน่นอน
ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต เจลโล่ก็จะรักษาแดฮยอนเอาไว้ เพราะแดฮยอนสำหรับเขาหน่ะ
ไม่มีอะไรมาทดแทนได้
ไม่มีวัน!
#ฟิน ????
---------------------------------------------------------------------------------
เหมือนเป็น SF แกล้งรีดเดอร์เนอะว่ามั้ย? ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ต้าเหมียวจะจบแบบนี้จริงๆเหรอ??
เสือกับหมาจะไม่กัดกันเหรอ??
แล้วใครจะได้แดฮยอนไปหล่ะ???
เอาเป็นว่าจบแค่นี้ก่อนแล้วกันนะครับ ไว้ถ้ามีเวลา ต้าเหมียวจะทำภาคสองต่อ
จริงๆแล้วมันเป็นหนึ่งในซีรี่ย์ที่ต้าเหมียวเขียนไว้หล่ะ
มันไม่ได้มีแค่ตอนเดียวหรอก ก็ขึ้นชื่อว่าซีรี่ย์อ่ะเนอะ
ช่วงนี้เบลอมากมายเลย เอาเป็นว่าไว้แก้ตัวใน SF เรื่องหน้านะครับ
เอาแบบฟินๆเลย(?)
อย่าด่าต้าเหมียวกันนะ!! #แต่ก็ทำตัวน่าให้ด่ามากกกก
เอาเป็นว่า ไปปั่น SF เรื่องอื่นต่อดีกว่าาาาาา
ไว้เจอกันเรื่องหน้านะครับ!!
ความคิดเห็น