ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dangerous love legend ตำนานรักอันตราย [ภาคพิเศษ]

    ลำดับตอนที่ #2 : Part Junior : ใครชนะ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 825
      6
      10 พ.ค. 56

     

     Part ‘Junior’

    ใครชนะ

     

    พระอาทิตย์ดวงโตแขวนลอยอยู่เหนือศีรษะ อุณหภูมิหนาวเย็นยะเยือกจนน่าตกใจ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้แห้งแกร็นสีน้ำตาลเรียงรายตามข้างทาง ไร้ยอดใบสีเขียวประดับดาเพื่อแสดงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ แทนที่จะให้ความรู้สึกแห้งแล้งน่าเบื่อ แต่เปล่าเลย เพราะต้นไม้เหล่านั้นมันทอดกิ่งก้านแห้งๆ ไปในอากาศ หยัดรากลงสู่พื้นดินที่มีหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่ว พร้อมทั้งภาพเบื้องหลังเป็นท้องฟ้าสีครามนั้นมันกลับส่งคลื่นความสดชื่นมาสู่หัวใจของผู้ที่ได้พบเห็น

    แต่หากว่าภายในคฤหาสน์หลังโตที่ปลูกสร้างเด่นตระหง่านดูหมองหม่นมืดมัวแม้ในยามกลางวัน ในสวนกว้างปลูกซากุระต้นใหญ่ไว้หลายต้น ใต้ต้นซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะซึ่งแผ่กิ่งก้านสาขาทุกทิศทางนั่นยังถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เมื่อมองไปยังอีกด้านหนึ่งมีดอกไฮเดรนเยียบานเป็นพุ่มเมื่อถึงฤดูแห่งซึมเซา ตามทางคดโค้งมีน้ำเจิ่งนองเพราะการละลายตัวของเกล็ดหิมะ ภายใต้บรรยากาศมืดครึ้มด้วยกิ่งก้านซากุระปกคลุม แต่ทุกอย่างดูบานสะพรั่งสดใสดูงดงามแตกต่างจากคฤหาสน์อย่างน่าประหลาด ระเบียงทางเดินทอดยาวมืดสลัว ขื่อเพดานเก่าคร่ำไปด้วยเขม่าดิน

    ชายหนุ่มร่างสูงเรือนผมสีดำสนิทข้างหน้าตัดเป็นทรงวีคัด ด้านหลังยาวสไลด์ระต้นคอ สวมเสื้อสีดำทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวผับแขนเสื้อขึ้นจนเห็นรอยสักที่ต้นแขนข้างขวา กำลังนั่งไขว้ห้างอยู่บนโซฟาสีแดงซึ่งอยู่มุมสุดของห้อง

    ผมคือ โยชิซาว่า ฮิโรกิ จูเนียร์ ซึ่งกำลังมองดูไอ้เจซีเอาหัวไถไปกับโต๊ะ มันขยับยุกยิกไปมาเหมือนพยายามหามุมหลับสบายอย่างเต็มที่ ทั้งๆ ที่มันเป็นพ่อคนแล้ว แต่ไอ้นิสัยนิ่งเป็นหลับขยับเป็นนอนของมันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักที ส่วนไอ้ฝาแฝดจอมป่วนตอนนี้กำลังไปปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ชิบูย่า

    วันนี้โรงเรียนอนุบาลสนุกไหมลูก

    ฉันเนื้อหอมมาเลยล่ะ... วันนี้ก็เพิ่งขอหมั้นนากิจังไปด้วย

    เอ๊ะ... เมื่อวานก่อนลูกก็เพิ่งขอหมั้นหนูนานะจังไปไม่ใช่เหรอจ๊ะ

    ก็ใช่

    แม่ว่าไม่ดีเลยนะ ลูกไม่ควรไปขอหมั้นเด็กผู้หญิงหลายคนแบบนั้นเลย

    มีเอาไว้เผื่อเลือกไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลยนี่

    โยชิซาว่า ฮิโรยูกิคือชื่อของเจ้าเด็กนั่น แม้ตอนแรก ฮิโระ หรือ โยชิซาว่า ฮิโรกิ พ่อของผมจะตั้งชื่อให้มันว่า ฮิโรกิ ซีเนียร์ ก็เถอะ แต่ผมไม่คิดว่าชื่อซีเนียร์จะเหมาะสมกับเด็กผู้ชายตรงไหน หรือไม่ก็ผมอาจจะอยากให้หมอนี่เติบโตมาเป็น ปีศาจที่เข้าใจความเจ็บปวดเป็นอย่างดีผมก็เลยตั้งชื่อเล่นให้มันว่า เดวิลก็ได้ล่ะมั้ง

    ใช่แล้ว... ไอ้เด็กปีศาจนั่น คือลูกชายแก่แดดแก่ลมของผมเองแหละ เพราะต่อหน้าคนอื่นจะเรียกตัวเองว่า ผม แต่กับที่บ้านจะเรียกว่า ฉันเฉยๆ ซ้ำตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งพูดได้ หมอนี่ (?) ไม่เคยเรียกผมว่า พ่อเลยสักครั้ง

    จูเนียร์... ทำไมนายกลับมาเร็วจัง

    แน่นอนนี่ไม่ใช่คำพูดของยัยคานาเมะ ไอหรอก แม้จริงๆ ยัยนี่จะชื่อ ปิ่นโต แต่ตอนอยู่ในญี่ปุ่นต้องใช้ชื่อนี้ แม้จะไม่ได้คาดหวังให้คนพรรค์นี้เรียกว่าพ่อ แต่อย่างน้อยๆ มันก็ควรเคารพผมในฐานะเป็นคนให้กำเนิดมันสิ

    เมื่อผมมองพฤติกรรมของไอ้เจ้าลูกตัวดี ทำให้ย้อนคิดไปถึงตัวเองเมื่อวัยเด็ก มันไม่ต่างจากผมเลยสักนิด หมอนี่เหมือนผมที่ต่อต้านพ่อในตอนเด็กเลยจริงๆ

    ปล่อยมือออกจากเมียฉันผมพูดกับเจ้าลูกตัวดีที่สวมกอดร่างของยัยนี่เอาไว้แน่น

    “อิจฉาเหรอไง” ไอ้เด็กแสบยักคิ้วให้ผมอย่างกวนประสาท นี่ถ้าหากผมไม่ใช่คนให้กำเนิดมันมาล่ะก็ ปากแบบนี้คงโดนผมเอาขี้เถ้ากรอกปากไปแล้ว

    “จูเนียร์... นายก็เป็นได้แค่สามี แต่ฉันเป็นลูก... ลูกที่มาจากสายเลือดเดียวกับไอจังเลยล่ะ”

    ไอจังที่ว่านี่เป็นแม่ของมันไม่ใช่เหรอ แล้วอีกอย่างเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของมันครึ่งหนึ่งก็มาจากผมด้วย

    “...” คราวนี้ผมเงียบ ได้แต่นั่งกอดอกมองลูกตัวแสบที่ยังทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างมาให้อย่างเต็มที่

    “พอเถียงไม่ได้ก็เงียบใส่ คนแบบนี้เหรอที่เป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลชื่อดัง”

    ใครก็ได้บอกให้มันหุบปากที ก่อนที่ผมจะกลายร่างเป็นฆาตกร

    “...”

    “เพราะนายเป็นแบบนี้ไง ไอจังถึงได้รักฉันมากกว่า”

    อยากพิสูจน์ดูไหมว่าไอจังจะรักใครมากกว่ากัน ผมยกยิ้มที่มุมปากอย่างร้ายกาจก่อนจะเอ่ยเรียกภรรยาของตัวเองเสียงเรียบ

    “มานี่สิคานาเมะ ไอ”

    พอผมเรียก เท่านั้นแหละยัยนี่ก็ดึงตัวลูกชายออกแล้วเดินเข้ามาหาผมอย่างเร็วๆ ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ดึงต้นแขนของร่างบางกระชากร่างนั้นให้มาอยู่บนตักและอ้อมกอดของผมอย่างง่ายดาย

    “อย่างน้อยๆ นายก็ทำอย่างฉันไม่ได้” ผมพูดเสียงเรียบพร้อมกับกระชับร่างบางเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น

    “จูเนียร์!

    “หึ” ผมเพียงแค่ร้องหึออกไปเท่านั้น

    “จูเนียร์ฉันอึดอัดนะ” ร่างในอ้อมกอดเริ่มประท้วงเมื่อผมกอดร่างเธอไม่ยอมปล่อย

    “ฉันจะไปฟ้องโอจี้ซัง!” ว่าแล้วร่างน้อยๆ ก็วิ่งหายไป

    คิดว่าจะไปฟ้องฮิโระแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาเหรอไง เพราะอย่างน้อยๆ ทุกคนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าผมไม่สนใจหมอนั่นเลย

    “จูเนียร์ปล่อยฉันได้แล้ว ฉันจะไปเตรียมอาหารเย็น”

    “...” ผมไม่ตอบอะไร แต่คลายท่อนแขนออกจากร่างบางอย่างง่ายดาย เมื่อร่างของตัวเองเป็นอิสระ ยัยนี่ก็เดินก้าวฉับๆ ออกไปจากห้องอีกคน

    เอาล่ะ... รอให้ไอ้เด็กแสบนั่นกลับมาดีกว่า และแล้วสามนาทีให้หลังร่างสูงโปร่งที่สวมเสื้อยืดสีดำทับด้วยแจ็กเก็ตสีเดียวกัน เส้นผมสีเทาระต้นคอ และมีดวงตาสีเดียวกัน แต่ทว่านิ่งเฉยไร้อารมณ์ กำลังเดินจูงมือมากับไอ้เด็กชายที่ถอดแบบรูปลักษณ์ภายนอกออกมาราวกับฝาแฝด

    “นายสองคนนี่เหมือนเป็นพ่อลูกกันเลยนะ” ผมแสยะยิ้มเหยียด แม้จะรู้ว่ามันไม่จริงอย่างที่พูด เพราะฮิโระกับเดวิลนิสัยไม่เหมือนกันเลยสักนิด และผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้นิสัยแบบนี้ของไอ้เด็กแสบนั่นมันถอดแบบมาจากไหน ไม่เหมือนทั้งผมและก็ฮิโระเลยสักอย่าง

    “ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากจะเป็นลูกชายของโอจี้ซังมากกว่านายเสียอีก” ไอ้เด็กแสบนั่นพูดพร้อมกับเบ้ปากให้

    “หึ... อยากเอาหมอนั่นเป็นพ่อก็เชิญเลยเถอะ เพราะยังไงนายก็เหมือนหมอนั่นมากกว่าฉันอยู่แล้ว” ผมพูดพลางยักไหล่ขึ้นลงเหมือนชาวต่างชาติ และไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรนักที่หมอนี่จะไปเป็นลูกของหมอนั่นน่ะ

    แต่ฮิโระเพียงแค่ยืนจ้องผมอย่างเงียบๆ ดวงตาสีเทาแน่นิ่งไม่มีแม้แต่ปฏิกิริยาอะไรเลย

    “ที่เหมือนเพราะมันมาจากพันธุกรรมต่างหาก” ไอ้เด็กแสบนั่นเถียง

    “...” แต่ผมเงียบพร้อมกับนั่งเท้าคางฟังบ้างไม่ฟังบ้าง

    “ซึ่งเป็นการถ่ายทอดลักษณะต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตจากรุ่นสู่รุ่น โดยมีหน่วยควบคุมที่เรียกว่ายีน ซึ่งมีทั้งยีนที่ควบคุมลักษณะเด่น และยีนที่ควบคุมลักษณะด้อย” ฮิโระพูดแทรกขึ้นมาซึ่งยาวมากกว่าปกติ หึ...เริ่มมีปฏิกิริยาแล้วอย่างนั้นเหรอ

    “และความคล้ายคลึงบางอย่าง เช่นสีของตานั้นถูกถ่ายทอดออกมาจากการควบคุมโดยคำสั่งของ ยีน เรียกว่าพันธุศาสตร์ต่างหากล่ะ” แล้วไอ้เด็กแสบก็ต่อประโยคให้จบเพียงเสี้ยววินาที

    จากนั้นทั้งคู่ก็เงียบไป แล้วจ้องมาที่ผมเป็นตาเดียว ผมรู้ว่าสองคนนี้ต้องการอะไร ต้องการให้ผมแสดงประสิทธิภาพของคนที่เกิดมาจากตระกูลโยชิซาว่าสินะ

    “ดูๆ ไปแล้วตรงหน้าของฉันกำลังมีสิ่งมีชีวิตที่ใกล้เคียงมนุษย์มากที่สุดและเป็นสิ่งที่ยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย ซึ่งหนึ่งก็คือกอริลลาและสองก็ชิมแปนซี ...หึ”

    เมื่อผมพูดคำว่า กอริลลา ก็ปลายตามองไปที่ฮิโระ และพอ ชิมแปนซีก็ปลายตามองเจ้าเด็กแสบนั่น

    “จูเนียร์! ฉันไม่ได้เป็นชิมแปนซีนะ!

    ผมไม่ได้พูดออกไปสักคำว่ามันเป็นชิมแปนซี...หึ

    “ฉันก็ไม่ใช่กอริลลา” ฮิโระพูดด้วยใบหน้านิ่งสนิทแต่ดวงตากลับวูบไหวออกมา แม้จะเพียงเล็กน้อยก็เถอะ 

    หึหึ...คุณคิดว่าการโต้เถียงครั้งนี้ใครชนะ

    เพราะผมดูออกเลยว่าตัวเองชนะโดยสมบูรณ์  J















     อย่าลืมคอมเม้นท์กันด้วยนะคะ ไรเตอร์จะได้รู้ว่ามีคนอ่านเรื่องนี้อยู่หรือเปล่า เพราะนิยายเรื่องนี้แต่งเอาขำๆ จริงๆ แฮะๆ แล้วก็ตอนต่อไป เดวิลจะถูกจับตัวไปแล้วล่ะ แอร๊ย...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×