ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Blue sky สายใยไร้พรมแดน

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เอาจริงงั้นเหรอ !? 100%

    • อัปเดตล่าสุด 14 มี.ค. 50


    บทที่ 1  เอาจริงงั้นเหรอ !?

     

                ดินแดนแห่งหนึ่งมีนามว่า  ยูนิเรี่ยน  เป็นดินแดนแห่งแรกที่สถาปนาขึ้นมาตั้งแต่เกิดซุเปอร์โนวาในอวกาศเมื่อกว่า 12000  ล้านปีก่อน  ตัวตนของคนที่นี่เกิดจารกแสงของซูเปอร์โนว่านั่น  พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์ที่เจริญด้านดาราศาสตร์และเวทมนตร์ศาสตร์มาตั้งแต่อดีตกาล  พวกเรามักใช้เวทมนตร์ของเราในการเดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับดาวอื่นๆ  ดาวบางดวงที่เราไปสำรวจก็ต่างจากดาวเรา  บางดวงก็เหมือนเรา  โดยเฉพาะดาวล่าสุดที่เราพึ่งไปสำรวจและพยายามหาทางเชื่อมสัมพันธ์อยู่  เป็นดาวที่เราให้ฉายาว่า Blue sky แต่รายละเอียดยังไม่มีอะไรมากนัก  นอกจากที่ว่ามันเป็นดาวสีฟ้า.....

     

                เจ๋งมั้ยล่า ~ ชั้นบอกแล้วไง...ว่าชั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้ราวนักปราชญ์ บาเรียชี้นิ้วชี้ใส่ตัวเองและเต๊ะท่าท่าทางอวดดีสุดฤทธิ์

     

                ท่าทางของยัยนี่ดูต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเลยแฮะ...ว่าแต่...เรากำลังอยู่ที่ไหนล่ะนี่...

     

                เออ....บาเรีย...นี่พวกเรากำลังอยู่ที่....?”

     

               ที่นี่คือเมืองเมเทียร์จ้า ~ ไม่รู้ก็จำใส่หัวสมองซะน้า ~ “

     

                เออ....ยัยนี่กัดเจ็บแปลกๆว่ะ  มิกะคิดในใจ  แต่พอเธอคิดไปคิดมา  เธอก็คิดว่า  ยัยนี่มันก็คงพูดกัดเจ็บๆได้แค่ชม. นี้เท่านั้นแหละ  และซักพักมันก็คงเลิกกัดเจ็บๆเอง....มั้ง.....

     

                พอฌธอเองหันไปมองทางซ้าย  เอก็เห็นบ่อน้ำร้างคนอยู่ตรงหน้า  แสงตะวันสีส้มเฉิดฉาย  ผ่านตึกรามบ้านช่องที่เก่าคร่ำครา  ลมเบาๆพัดผมที่มัดแกละต่ำของเธอสองข้างปลิวไสว  เสียงเพลงชวนนุ่มหู ล่องลอยมาตามสายลม  ใครกันนะ  ใครกันนะที่เล่นเพลงได้ไพเราะเช่นนี้  ?

     

                นี่ๆ ไปเที่ยวงานในเมืองกันเถอะ !!! “ บาเรียสะกิดมิกะที่ดูท่าทางเหม่อลอย  พร้อมๆกับฉุดเธอให้เดินไปทางงานเทศกาล  แต่ระหว่างที่เธอโดนฉุด  ช่วงที่ตัวเธอลอยชั่วครู่นั่นเอง....

     

                บาเรีย  เธอเห็นคนท่าทางแปลกๆ อยู่ที่บ่อน้ำนั้นรึเปล่า !? “ มิกะชี้นิ้วไปทางบ่อน้ำนั้น ก่อนที่เธอจะลงพื้น  เธอก็เห็นคนนั่งอยู่บนบ่อน้ำนั่น  คนๆนั้น  เธอรู้สึกได้......ว่าไม่ธรรมดา......

     

                หืมม์....อารายนะ  คนเหรอ ? “ บาเรียหันไปทางบ่อน้ำตามคำบอกของมิกะ  ก็ไม่เห็นมีคนอยู่เลยนิ....

     

                ก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนี่นา...มิกะรู้สึกไปเองมั้ง...

     

               อืม...สงสัยจะเป็นยังงั้นแหละ...

     

                แต่ทำไมกันนะ...ทำไมเราถึงเห็น...หรือเรา.....รู้สึกไปเองจริงๆ....

     

                บาเรียหันหน้าใสซื่อมาทางมิกะ  เหมือนเรียกร้องความสนใจ  มิกะยอมแพ้ต่อดวงตาใสซื่อนั่นจึงตัดสินใจเดินตามบาเรียไปในที่สุด

     

                  จัตุรัสดิวโฟกลางเมือง  เหล่าผู้คนมากมายกำลังเพลิดเพลินกับงานเทศกาลนี้  งานเทศกาลที่มีชื่อว่า....celebrate  song  หรือ งานเทศกาลแห่งเสียงเพลง  ทุกๆปีในที่แห่งนี้  จะมีเสียงเพลงปริศนาท่าทางคึกคักล่องลอยมา ไม่มีใครรู้ว่าเสียงเพลงนี้ใครเป็นคนเล่น  แต่ถึงกระนั้น...เหล่าชาวเมืองก็ต่างเฉลิมฉลองในเพลงๆนี้ทุกๆปี  ฉะนั้น...มันก็เลยกลายเป็นประเพณีสืบทอดกันมาตั้งแต่นาน...นานจนไม่มีใครรู้...

     

                กัมบังบินฮุน   ยังเฮๆ   เสียงร้องประหลาดๆดังก้องขึ้นตอบรับเสียงทำนองปริศนา  ดูท่าชาวเมืองพวกนี้จะเพลิดเพลินกับเพลงบ้าๆนี่มาก.....

     

                มิกะมองรอบๆตัวด้วยท่าทางเหม่อลอย...เธอไม่เคยรู้สึกแปลกๆกับผู้ชายถึงขนาดนี้มาก่อน  ทำไมกันนะ.....ทำไมเธอถึงอยากรู้จักผู้ชายคนนั้นมาก....ถึงขนาดนี้...

     

                มิกะ  วันนี้เธอดูเหม่อลอยแปลกๆพิกลนะ ! “ บาเรียทักมิกะเสียงดังๆ  พลางคิดไปว่า  ทำไมมิกะถึงเหม่อลอยขนาดนี้หนอ....

     

                อืม...มีเรื่องคิดนิดหน่อยนะ...เสียงเย็นๆของมิกะ  ตอบรับมาพร้อมกับสีหน้าที่แสนไร้ความรู้สึกของเธอ

     

                นั่นทำให้บาเรียหวาดผวาหน่อยๆ

     

                ทว่า...บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนแปลงไป  เงียบไปอย่างผิดปกติ  ทำไมกันล่ะ...นี่มันกลางงานเทศกาลไม่ใช่เหรอ !?

     

                หลบเร็ว !! “ คำพูดที่ดังมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของมิกะ  มาพร้อมกับการฉุดแขนสุดกำลัง  บาเรียลอยคว้างกลางอากาศไปตามแรงฉุดนั่น นี่มันกรรมตามสนองหรือไร !?

     

                กระสุนมากมายถาโถมเข้าใส่ผู้คนในงาน  เลือดไหลนองพื้นไปทั่วบริเวณ  เสียงผู้คนดังแซ่ไปทั่ว  พวกเขาพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา  บ้างก็วิ่งเร็วเกินจนพลาดพลั้งสะดุดหกล้ม  บ้างก็วิ่งช้าไปจนโนกระสุนทะลุกลางลำตัว  ในหัวของมิกะตอนนี้นั้นกำลังเกิดการสับสนทางความคิดอย่างหนัก  เธอต้องการเรื่องตื่นเต้นอยู่หรอก  แต่เรื่องตื่นเต้นทีเธออยากได้  ไม่ใช่แบบนี้....แบบที่เกี่ยวพันกับชีวิตคน ซะหน่อย

     

                หอคอยสูงเด่นกลางเมือง  เหล่าผู้คนสวมใส่ผ้าคลุมท่าทางเป็นปริศนา  กำลังเล็งปืนมาทางประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทั้งหลาย  พวกเขาต่างคนต่างก็เหนี่ยวไกปืนด้วยสีหน้ารึความรู้สึกราวหุ่นยนต์กันทั้งนั้น  เว้นก็แต่สาวน้อยคนนึง  ที่ดูเหมือนจะเหนี่ยวไกปืนด้วยความรู้สึกกล้ำกลืนและไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก.....

     

                เธอ...ทำไมถึงมาเข้าหน่วยสังหารที่ 20 ล่ะ ? “ ชายหนุ่มร่างท้วมที่กำลังยิงปืนด้วยท่าทางซังกะตาย  หันมาถามสาวน้อยคนนั้นด้วยความรู้สึกสงสารจับจิต

     

                เหตุผลก็แค่...อยากปกป้องใครซักคน...สาวน้อยคนนั้นร้องไห้ออกมา  เสียงตอบของเธอในตอนนั้นยังสะท้อนก้องในใจบางคน...เสมอ

     

                ชายหนุ่มร้างท้วมคนนั้นและสาวน้อยคนนั้น...ก็ยังเหนี่ยวไกปืนคร่าชีวิตคนต่อไปกับพรรคพวกอย่าง..ไม่หยุดยั้ง  ถึงมันจะเจ็บปวดใจมากก็ตาม....

     

                ตัดมาทางบาเรียกับมิกะ  ทั้งสองยังคงวิ่งหนีกระสุนที่พุ่งมามากราวห่าฝนอยู่  คนเริ่มล้มเกลื่อนเมืองขึ้นเรื่อยๆ  พวกที่ยิงมานี่คิดจะก่อสงครามโลกรึไงกันฟะ..แต่เอ...ทำไมพอฉัน....มิกะคนนี้หันไปทางบาเรีย..ยัยนั่นขมุบขมิบปากอะไรฟะ

     

                ทันใดนั้น ! กระสุนลูกหนึ่งก็พุ่งตรงมาทางพวกเรา 2 คน ด้วยความเร็วสูงสุดๆ มันไม่น่าจะหลบทัน แต่ว่า !!!!

     

                 อ๊าก ~ อะไรกันนี่....ทำไมๆ เด็กท่าทางเด๋อๆด๋าๆนั่นถึงหลบกระสุนได้  แถมหลบด้วยท่าแบบแมททริกซ์อีกต่างหาก  นี่ฉันหลงยุครึเปล่านี่ !?

     

                มิกะ.....ช็อกอะไรเหรอ ? “ ยังมีหน้ามาตีหน้าเซ่ออีกเรอะ !? รู้ตัวมั้ยว่าเธอทำอะไรลงปาย ~

     

                 หรือว่าช็อกเรื่องเวทมนตร์เมื่อกี้ ? “

     

                 ................อะไรนะ !?  เวทมนตร์งั้นเรอะ !?

     

                นี่ๆ เธอใช้เวทมนตร์ได้ด้วย ? “

     

                แหง  ซะ...เซ่ ! “ บาเรียขยับนิ้วนิดหน่อย  กระสุนที่พุ่งตรงมาทางพวกเราก็พากันเปลี่ยนทิศทางไปหมด  แต่ดูเหมือนระหว่างที่เธอขยับนิ้ว  เสียงเธอจะกระตุกนิดหน่อยนะ....

     

                 แล้วทำไมเธอมีของเด็ดแบบนี้ทั้งที  ไมไม่โชว์ตั้งแต่แรกเล่า ! “

     

                ของเด็ด ?  อย่าบอกนะว่า  มิกะไม่รู้จักเวทมนตร์นำวิถี บาเรียตอบด้วยสีหน้าที่แสนใสซื่อ  แต่ความใสซื่อในคราวนี้มันพาเธอช็อกเนี่ยสิ....

     

                 ไว้คุยกันทีหลังเถอะ ! ตอนนี้น่ะ...หนีก่อนเถิดพี่น้อง ~ “

    ..........................................................................................................

     

                              ชานเมือง

     

                 ในที่สุดก็พ้นพายุกระสุนซักที...แฮ่กๆ มิกะตอบไปพลางหอบแฮ่กๆไป  เธอล้มตัวลงพิงกำแพงเมืองอย่างเหนื่อยอ่อน  สายตาของเธอสอดส่องมองไปรอบๆ เพื่อเช็คดูว่ามีใครน่าสงสัยเหลืออยู่อีกหรือไม่  เมื่อไม่เห็รใครน่าสงสัยเหลืออยู่แล้ว  เธอก็เอียงตัวเตรียมตัวนอน  โดยมีหญ้านุ่มๆบริเวณนั้นเป็นที่พักพิง  เธอหลับตาลงและเตรียมจะหลับอย่างเป็นสุขอยู่แล้วแท้ๆ แต่ว่า...

     

                มิกะ  ซื้อน้ำมาให้กินเน่อ ~ อ๋อ มีเรื่องคุยด้วยล่ะ

     

                ชิชะ  ยัยนี่ขัดความสุขคนอื่นจริง มิกะคิด

     

                 แล้วเธอมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยล่ะ ? “

     

                 บาเรียชี้ไปทางตึกๆนึง  ชั้นพอเข้าใจ  อยู่ในนั้นมันคงจะปลอดภัยกว่าสินะ....ชั้นคิดแบบนั้นก็เลยเดินไปในตึกนั้น  บาเรียก็เดินตามชั้นมาติดๆด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊าแปลกๆ  แต่ชั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก  เลยเดินไปในตึกนั้นต่อไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร

     

                พอเดินเข้ามาในตึกได้ซักพัก  บาเรียก็ชี้ไปที่ห้องๆนึง  ชั้นก็เดินเดินเข้าไปข้างใน  แต่พอบาเรียซึ่งเดินตามหลังฉันไม่ไกลนัก เดินเข้าไปในห้อง  เสียงดังกึกกักก็ดังสะเทือนไปทั่วห้อง  ประตูทั่วห้องต่างถูกโดนล็อก  ห้องมืดลงทันตาเห็น  แต่ทว่าหลังจากห้องมืดลงเพียงแปปเดียว  ก็มีแสงจากโคมไฟที่ไหนก็ไม่รู้ส่องมากลางห้อง  เผยให้เห็นสาวน้อยร่างเล็ก  ซี่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บาเรียนั่นเอง

     

                 ยินดีต้อนรับสู่การพิพากษาคดีพิเศษศาลปุ๊กกี้ ~ ในคดี !!!! “

     

                 พอก่อน ! ชั้นขี้เกียจฟังเธอพล่ามแล้ว...บาเรีย...มิกะกล่าวออกมาอย่างเซ็งสุดฤทธิ์  นั่นทำให้บาเรียทำท่าเหมือนจะร้องไห้

     

                 อะไรกันน่ะ...แค่จะทำอะไรสนุกๆ ฮึก ~ “ เสียงสะอึกสะอื้นของบาเรียดังมาไม่ขาดสาย  จนมิกะแทบจะต้องอุดหู  แต่ความอดทนมันก็ต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง  มิกะก็เลย.....

     

                 ยัยงั่ง !! เลิกร้องไห้ซะที  ชั้นเบื่อ... พอเธอพูดจบปุ๊บ สิ่งที่ตามมาทันทีก็คือ...

     

                แง ~ มิกะใจร้าย  มิกะใจร้าย  คนบ้า ฮือ ~ เสียงครางจากบาเรียดังขึ้นไม่หยุด  เธอบ่นซ้ำไปซ้ำมาจนมิกะทนไม่ไหว  เตรียมเปิดประตูออกนอกห้องเพื่อปัดความน่ารำคาญจากสิ่งมีชีวิตเอ๋อๆอย่างเธอ  แต่พอเธอจะเปิดประตู  เธอกลับเปิดไม่ออก  เธอเลิกเปิดประตูและหยุดคิดเพื่อหาสาเหตุที่เปิดประตูไม่ได้  พอเธอคิดไปคิดมา  เธอก็คิดได้ว่าตอนที่บาเรียเข้าห้องมา  มีเสียงเหมือนห้องถูกโดนล็อก  มิน่าล่ะ...

     

                บาเรีย ! นี่เธอทำอะไรกับห้องนี้เนี่ย !? “

     

                บาเรียที่เห็นมิกะเรียกเธอ  ก็เงยหน้าขึ้นมามองและหัวเราะคิกๆอย่างสะใจ  ดูท่ามิกะจะไม่รู้เรื่องเวทมนตร์เลยจริงๆแฮะ

     

                ชั้นพนันได้เลย ว่ามิกะต้องมาจากดาวอื่นแน่ ! “ บาเรียทำท่าแบบคุณปัญญาในรายการแฟนพันธุ์แท้  แล้วตีหน้ามั่นใจสุดฤทธิ์ว่าสิ่งที่เธอคิดต้องถูกแน่ๆ

     

                มิกะมาจากดาวอะไร ? “...................

     

                 มิกะที่เห็นบาเรียถามแบบนั้นก็งงหน่อยๆ แต่เธอก็พอจะมีสติปัญญามากพอที่จะรู้ว่าเธอควรจะตอบไปว่าอะไร

     

                มาจากดาว earth “ มิกะตอบ  ที่เธอตอบแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะอะไร  ก็เพราะชื่อนี้เป็นภาษาสากลที่ทั่วโลกเค้าใช้เรียกดาวโลกนี่ !!!

     

                มาจากดาวธาตุดินเหรอ !? “ เอาแล้วไง....ยัยบาเรียตีหน้าเซ่อมาอีกแล้ว  หรือว่าที่นี่ earth มันแปลว่าดินหว่า  เอ๊ะ ! ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนโลกเราน่ะสิ !!

     

                 ดูเหมือนที่นี่จะมีอะไรบางอย่างที่เหมือนโลกเราซะแล้ว....

     

                  แต่ชั้นขอถามหน่อยเถอะ  ถ้าอย่างนั้นเธอพาชั้นมาที่นี่ทำไม ? “

     

                  เพื่อเช็คว่ามิกะใช่คนดาวนี้รึเปล่าน่ะจิ  อ๋อ ! เพื่อสร้างความสนุกด้วยน้า ~ บาเรียตอบหน้าด้านๆ

     

                  สร้างความสนุกโยการปลอมตัวเป็นผู้พิพากษษแล้วให้ชั้นเป็นจำเลยเนี่ยนะ ! สนุกมาก...เลยเนอะ ! “ มิกะพูดออกมาอย่างประชดประชันสุดขีด  แต่นั่นก็ทำให้บาเรียแอบตกใจนิดหน่อย  เพราะดูเหมือนมิกะก็ไม่ได้บ้านนอกซักเท่าไหร่เลย

     

                   อย่าพึ่งอารมณ์เสียจิ มิกะ  จะบอกเรื่องที่จะคุยจิงๆให้ก็ได้เอ้า ! “

     

                   บอกมาก่อนว่าเธอทำอะไรกับห้องนี้กันแน่ ! “ มิกะจ้องหน้าด้านชามาทางบาเรีย  เมื่อบวกกับน้ำพเสียงดุๆด้วยแล้ว   สาวน้อยที่คงไม่มีแรงสู้ใครเขาอย่างบาเรียก็ต้องยอมจำนนไปตามระเบียบ

     

                  คือ.....ห้องนี้เนี่ยนะ...วางอาคมป้องกันกระสุนไว้น่ะ...น้ำเสียงสั่นระริกราวนักโทษที่กำลังสารภาพความผิดไม่ปานของสาวสุดเตี้ยอย่างบาเรีย  ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คง...อนาถ

     

                    แล้วไงต่อ ? “

     

                    แต่พอดีอยากให้มันหนุกขึ้น.....ก็เลย.....

     

                     ก็เลยอะไร ! ? “

     

                    เพิ่มเวทมนตร์แสงสีเสียงเข้าไป...ให้มันดูน่าตื่นเต้นน่ะ...

     

                       ไม่ต้องพูดแล้ว....ชั้นพอเดาเรื่องได้แล้ว  จบ มิกะพูดตัดพ้อสุดขีด  บาเรียก็เตรียมบ่อน้ำตาแตกรอบสอง  เห็นแล้วมันน่ารำคาญเว้ย !

     

                       แล้วจะทำยังไงให้ยัยนั่นไม่ร้องไห้ดีล่ะนี่......อ๊ะ! จริงสิ

     

                    บาเรีย.....เธอพอจะรู้เบาะแสพวกที่ยิงปืนใส่พวกเราเมื่อช่วงเย็นมั้ย ? “ มิกะถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์นิดๆ  แต่ดูท่าสีหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้นจะไปกระตุกต่อมฮาบาเรียมากกว่า

     

                          555  ชั้นคิดว่าน่าจะเป็น 55 พวกโจรสลัดต่างดาวนะ 555 แค่ก “ [เรียไอค่อกแค่ก  สงสัยกรรมตามทัน(มุขนี้อีกแล้วเรอะ คนเขียน)

     

                            แต่เอ....โจรสลัดต่างดาว...ทำไมยัยนี่พูดยังกะนี่เป็นนิยาย...

     

                           เฮ้ย ! ไม่จิงน่า !!!

    ..............................................................................................................

     

    คุยกับคนเขียน

     

              ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบอกว่า ตอน 2 จะมาเสิร์ฟทุกท่านช่วงค่ำวันนี้(14 มี.ค. 50) แน่นอนค่ะ อดใจรอกันหน่อยน้า ~

              ตอนนี้ขอตัวไปอ่านฟิค POT ก่อนน้า(กะลังติด) ชา...แว๊บ !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×