คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทที่ 1 เอาจริงงั้นเหรอ !? 100%
บทที่ 1 เอาจริงงั้นเหรอ !?
ดินแดนแห่งหนึ่งมีนามว่า ยูนิเรี่ยน เป็นดินแดนแห่งแรกที่สถาปนาขึ้นมาตั้งแต่เกิดซุเปอร์โนวาในอวกาศเมื่อกว่า 12000 ล้านปีก่อน ตัวตนของคนที่นี่เกิดจารกแสงของซูเปอร์โนว่านั่น พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์ที่เจริญด้านดาราศาสตร์และเวทมนตร์ศาสตร์มาตั้งแต่อดีตกาล พวกเรามักใช้เวทมนตร์ของเราในการเดินทางไปเชื่อมสัมพันธ์ไมตรีกับดาวอื่นๆ ดาวบางดวงที่เราไปสำรวจก็ต่างจากดาวเรา บางดวงก็เหมือนเรา โดยเฉพาะดาวล่าสุดที่เราพึ่งไปสำรวจและพยายามหาทางเชื่อมสัมพันธ์อยู่ เป็นดาวที่เราให้ฉายาว่า Blue sky แต่รายละเอียดยังไม่มีอะไรมากนัก นอกจากที่ว่ามันเป็นดาวสีฟ้า.....
“ เจ๋งมั้ยล่า ~ ชั้นบอกแล้วไง...ว่าชั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้ราวนักปราชญ์ “ บาเรียชี้นิ้วชี้ใส่ตัวเองและเต๊ะท่าท่าทางอวดดีสุดฤทธิ์
ท่าทางของยัยนี่ดูต่างจากเมื่อกี้ลิบลับเลยแฮะ...ว่าแต่...เรากำลังอยู่ที่ไหนล่ะนี่...
“ เออ....บาเรีย...นี่พวกเรากำลังอยู่ที่....?”
“ ที่นี่คือเมืองเมเทียร์จ้า ~ ไม่รู้ก็จำใส่หัวสมองซะน้า ~ “
เออ....ยัยนี่กัดเจ็บแปลกๆว่ะ มิกะคิดในใจ แต่พอเธอคิดไปคิดมา เธอก็คิดว่า ยัยนี่มันก็คงพูดกัดเจ็บๆได้แค่ชม. นี้เท่านั้นแหละ และซักพักมันก็คงเลิกกัดเจ็บๆเอง....มั้ง.....
พอฌธอเองหันไปมองทางซ้าย เอก็เห็นบ่อน้ำร้างคนอยู่ตรงหน้า แสงตะวันสีส้มเฉิดฉาย ผ่านตึกรามบ้านช่องที่เก่าคร่ำครา ลมเบาๆพัดผมที่มัดแกละต่ำของเธอสองข้างปลิวไสว เสียงเพลงชวนนุ่มหู ล่องลอยมาตามสายลม ใครกันนะ ใครกันนะที่เล่นเพลงได้ไพเราะเช่นนี้ ?
“ นี่ๆ ไปเที่ยวงานในเมืองกันเถอะ !!! “ บาเรียสะกิดมิกะที่ดูท่าทางเหม่อลอย พร้อมๆกับฉุดเธอให้เดินไปทางงานเทศกาล แต่ระหว่างที่เธอโดนฉุด ช่วงที่ตัวเธอลอยชั่วครู่นั่นเอง....
“ บาเรีย เธอเห็นคนท่าทางแปลกๆ อยู่ที่บ่อน้ำนั้นรึเปล่า !? “ มิกะชี้นิ้วไปทางบ่อน้ำนั้น ก่อนที่เธอจะลงพื้น เธอก็เห็นคนนั่งอยู่บนบ่อน้ำนั่น คนๆนั้น เธอรู้สึกได้......ว่าไม่ธรรมดา......
“ หืมม์....อารายนะ คนเหรอ ? “ บาเรียหันไปทางบ่อน้ำตามคำบอกของมิกะ ก็ไม่เห็นมีคนอยู่เลยนิ....
“ ก็ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนี่นา...มิกะรู้สึกไปเองมั้ง...”
“ อืม...สงสัยจะเป็นยังงั้นแหละ...”
แต่ทำไมกันนะ...ทำไมเราถึงเห็น...หรือเรา.....รู้สึกไปเองจริงๆ....
บาเรียหันหน้าใสซื่อมาทางมิกะ เหมือนเรียกร้องความสนใจ มิกะยอมแพ้ต่อดวงตาใสซื่อนั่นจึงตัดสินใจเดินตามบาเรียไปในที่สุด
ณ จัตุรัสดิวโฟกลางเมือง เหล่าผู้คนมากมายกำลังเพลิดเพลินกับงานเทศกาลนี้ งานเทศกาลที่มีชื่อว่า....celebrate song หรือ งานเทศกาลแห่งเสียงเพลง ทุกๆปีในที่แห่งนี้ จะมีเสียงเพลงปริศนาท่าทางคึกคักล่องลอยมา ไม่มีใครรู้ว่าเสียงเพลงนี้ใครเป็นคนเล่น แต่ถึงกระนั้น...เหล่าชาวเมืองก็ต่างเฉลิมฉลองในเพลงๆนี้ทุกๆปี ฉะนั้น...มันก็เลยกลายเป็นประเพณีสืบทอดกันมาตั้งแต่นาน...นานจนไม่มีใครรู้...
กัมบังบินฮุน ยังเฮๆ เสียงร้องประหลาดๆดังก้องขึ้นตอบรับเสียงทำนองปริศนา ดูท่าชาวเมืองพวกนี้จะเพลิดเพลินกับเพลงบ้าๆนี่มาก.....
มิกะมองรอบๆตัวด้วยท่าทางเหม่อลอย...เธอไม่เคยรู้สึกแปลกๆกับผู้ชายถึงขนาดนี้มาก่อน ทำไมกันนะ.....ทำไมเธอถึงอยากรู้จักผู้ชายคนนั้นมาก....ถึงขนาดนี้...
“ มิกะ วันนี้เธอดูเหม่อลอยแปลกๆพิกลนะ ! “ บาเรียทักมิกะเสียงดังๆ พลางคิดไปว่า ทำไมมิกะถึงเหม่อลอยขนาดนี้หนอ....
“ อืม...มีเรื่องคิดนิดหน่อยนะ...” เสียงเย็นๆของมิกะ ตอบรับมาพร้อมกับสีหน้าที่แสนไร้ความรู้สึกของเธอ
นั่นทำให้บาเรียหวาดผวาหน่อยๆ
ทว่า...บรรยากาศรอบข้างเปลี่ยนแปลงไป เงียบไปอย่างผิดปกติ ทำไมกันล่ะ...นี่มันกลางงานเทศกาลไม่ใช่เหรอ !?
“ หลบเร็ว !! “ คำพูดที่ดังมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยของมิกะ มาพร้อมกับการฉุดแขนสุดกำลัง บาเรียลอยคว้างกลางอากาศไปตามแรงฉุดนั่น นี่มันกรรมตามสนองหรือไร !?
กระสุนมากมายถาโถมเข้าใส่ผู้คนในงาน เลือดไหลนองพื้นไปทั่วบริเวณ เสียงผู้คนดังแซ่ไปทั่ว พวกเขาพากันวิ่งหนีเอาชีวิตรอดกันอย่างไม่ลืมหูลืมตา บ้างก็วิ่งเร็วเกินจนพลาดพลั้งสะดุดหกล้ม บ้างก็วิ่งช้าไปจนโนกระสุนทะลุกลางลำตัว ในหัวของมิกะตอนนี้นั้นกำลังเกิดการสับสนทางความคิดอย่างหนัก เธอต้องการเรื่องตื่นเต้นอยู่หรอก แต่เรื่องตื่นเต้นทีเธออยากได้ ไม่ใช่แบบนี้....แบบที่เกี่ยวพันกับชีวิตคน ซะหน่อย
หอคอยสูงเด่นกลางเมือง เหล่าผู้คนสวมใส่ผ้าคลุมท่าทางเป็นปริศนา กำลังเล็งปืนมาทางประชาชนผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ทั้งหลาย พวกเขาต่างคนต่างก็เหนี่ยวไกปืนด้วยสีหน้ารึความรู้สึกราวหุ่นยนต์กันทั้งนั้น เว้นก็แต่สาวน้อยคนนึง ที่ดูเหมือนจะเหนี่ยวไกปืนด้วยความรู้สึกกล้ำกลืนและไม่เต็มใจเป็นอย่างมาก.....
“ เธอ...ทำไมถึงมาเข้าหน่วยสังหารที่ 20 ล่ะ ? “ ชายหนุ่มร่างท้วมที่กำลังยิงปืนด้วยท่าทางซังกะตาย หันมาถามสาวน้อยคนนั้นด้วยความรู้สึกสงสารจับจิต
“ เหตุผลก็แค่...อยากปกป้องใครซักคน...” สาวน้อยคนนั้นร้องไห้ออกมา เสียงตอบของเธอในตอนนั้นยังสะท้อนก้องในใจบางคน...เสมอ
ชายหนุ่มร้างท้วมคนนั้นและสาวน้อยคนนั้น...ก็ยังเหนี่ยวไกปืนคร่าชีวิตคนต่อไปกับพรรคพวกอย่าง..ไม่หยุดยั้ง ถึงมันจะเจ็บปวดใจมากก็ตาม....
ตัดมาทางบาเรียกับมิกะ ทั้งสองยังคงวิ่งหนีกระสุนที่พุ่งมามากราวห่าฝนอยู่ คนเริ่มล้มเกลื่อนเมืองขึ้นเรื่อยๆ พวกที่ยิงมานี่คิดจะก่อสงครามโลกรึไงกันฟะ..แต่เอ...ทำไมพอฉัน....มิกะคนนี้หันไปทางบาเรีย..ยัยนั่นขมุบขมิบปากอะไรฟะ
ทันใดนั้น ! กระสุนลูกหนึ่งก็พุ่งตรงมาทางพวกเรา 2 คน ด้วยความเร็วสูงสุดๆ มันไม่น่าจะหลบทัน แต่ว่า !!!!
อ๊าก ~ อะไรกันนี่....ทำไมๆ เด็กท่าทางเด๋อๆด๋าๆนั่นถึงหลบกระสุนได้ แถมหลบด้วยท่าแบบแมททริกซ์อีกต่างหาก นี่ฉันหลงยุครึเปล่านี่ !?
“ มิกะ.....ช็อกอะไรเหรอ ? “ ยังมีหน้ามาตีหน้าเซ่ออีกเรอะ !? รู้ตัวมั้ยว่าเธอทำอะไรลงปาย ~
“ หรือว่าช็อกเรื่องเวทมนตร์เมื่อกี้ ? “
................อะไรนะ !? เวทมนตร์งั้นเรอะ !?
“ นี่ๆ เธอใช้เวทมนตร์ได้ด้วย ? “
“ แหง ซะ...เซ่ ! “ บาเรียขยับนิ้วนิดหน่อย กระสุนที่พุ่งตรงมาทางพวกเราก็พากันเปลี่ยนทิศทางไปหมด แต่ดูเหมือนระหว่างที่เธอขยับนิ้ว เสียงเธอจะกระตุกนิดหน่อยนะ....
“ แล้วทำไมเธอมีของเด็ดแบบนี้ทั้งที ไมไม่โชว์ตั้งแต่แรกเล่า ! “
“ ของเด็ด ? อย่าบอกนะว่า มิกะไม่รู้จักเวทมนตร์นำวิถี “ บาเรียตอบด้วยสีหน้าที่แสนใสซื่อ แต่ความใสซื่อในคราวนี้มันพาเธอช็อกเนี่ยสิ....
“ ไว้คุยกันทีหลังเถอะ ! ตอนนี้น่ะ...หนีก่อนเถิดพี่น้อง ~ “
..........................................................................................................
ณ ชานเมือง
“ ในที่สุดก็พ้นพายุกระสุนซักที...แฮ่กๆ “ มิกะตอบไปพลางหอบแฮ่กๆไป เธอล้มตัวลงพิงกำแพงเมืองอย่างเหนื่อยอ่อน สายตาของเธอสอดส่องมองไปรอบๆ เพื่อเช็คดูว่ามีใครน่าสงสัยเหลืออยู่อีกหรือไม่ เมื่อไม่เห็รใครน่าสงสัยเหลืออยู่แล้ว เธอก็เอียงตัวเตรียมตัวนอน โดยมีหญ้านุ่มๆบริเวณนั้นเป็นที่พักพิง เธอหลับตาลงและเตรียมจะหลับอย่างเป็นสุขอยู่แล้วแท้ๆ แต่ว่า...
“ มิกะ ซื้อน้ำมาให้กินเน่อ ~ อ๋อ มีเรื่องคุยด้วยล่ะ “
ชิชะ ยัยนี่ขัดความสุขคนอื่นจริง มิกะคิด
“ แล้วเธอมีเรื่องอะไรจะคุยด้วยล่ะ ? “
บาเรียชี้ไปทางตึกๆนึง ชั้นพอเข้าใจ อยู่ในนั้นมันคงจะปลอดภัยกว่าสินะ....ชั้นคิดแบบนั้นก็เลยเดินไปในตึกนั้น บาเรียก็เดินตามชั้นมาติดๆด้วยท่าทางกระดี๊กระด๊าแปลกๆ แต่ชั้นก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก เลยเดินไปในตึกนั้นต่อไปอย่างไม่ใส่ใจอะไร
พอเดินเข้ามาในตึกได้ซักพัก บาเรียก็ชี้ไปที่ห้องๆนึง ชั้นก็เดินเดินเข้าไปข้างใน แต่พอบาเรียซึ่งเดินตามหลังฉันไม่ไกลนัก เดินเข้าไปในห้อง เสียงดังกึกกักก็ดังสะเทือนไปทั่วห้อง ประตูทั่วห้องต่างถูกโดนล็อก ห้องมืดลงทันตาเห็น แต่ทว่าหลังจากห้องมืดลงเพียงแปปเดียว ก็มีแสงจากโคมไฟที่ไหนก็ไม่รู้ส่องมากลางห้อง เผยให้เห็นสาวน้อยร่างเล็ก ซี่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน บาเรียนั่นเอง
“ ยินดีต้อนรับสู่การพิพากษาคดีพิเศษศาลปุ๊กกี้ ~ ในคดี !!!! “
“ พอก่อน ! ชั้นขี้เกียจฟังเธอพล่ามแล้ว...บาเรีย...” มิกะกล่าวออกมาอย่างเซ็งสุดฤทธิ์ นั่นทำให้บาเรียทำท่าเหมือนจะร้องไห้
“ อะไรกันน่ะ...แค่จะทำอะไรสนุกๆ ฮึก ~ “ เสียงสะอึกสะอื้นของบาเรียดังมาไม่ขาดสาย จนมิกะแทบจะต้องอุดหู แต่ความอดทนมันก็ต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง มิกะก็เลย.....
“ ยัยงั่ง !! เลิกร้องไห้ซะที ชั้นเบื่อ... “ พอเธอพูดจบปุ๊บ สิ่งที่ตามมาทันทีก็คือ...
“ แง ~ มิกะใจร้าย มิกะใจร้าย คนบ้า ฮือ ~ “ เสียงครางจากบาเรียดังขึ้นไม่หยุด เธอบ่นซ้ำไปซ้ำมาจนมิกะทนไม่ไหว เตรียมเปิดประตูออกนอกห้องเพื่อปัดความน่ารำคาญจากสิ่งมีชีวิตเอ๋อๆอย่างเธอ แต่พอเธอจะเปิดประตู เธอกลับเปิดไม่ออก เธอเลิกเปิดประตูและหยุดคิดเพื่อหาสาเหตุที่เปิดประตูไม่ได้ พอเธอคิดไปคิดมา เธอก็คิดได้ว่าตอนที่บาเรียเข้าห้องมา มีเสียงเหมือนห้องถูกโดนล็อก มิน่าล่ะ...
“ บาเรีย ! นี่เธอทำอะไรกับห้องนี้เนี่ย !? “
บาเรียที่เห็นมิกะเรียกเธอ ก็เงยหน้าขึ้นมามองและหัวเราะคิกๆอย่างสะใจ ดูท่ามิกะจะไม่รู้เรื่องเวทมนตร์เลยจริงๆแฮะ
“ ชั้นพนันได้เลย ว่ามิกะต้องมาจากดาวอื่นแน่ ! “ บาเรียทำท่าแบบคุณปัญญาในรายการแฟนพันธุ์แท้ แล้วตีหน้ามั่นใจสุดฤทธิ์ว่าสิ่งที่เธอคิดต้องถูกแน่ๆ
“ มิกะมาจากดาวอะไร ? “...................
มิกะที่เห็นบาเรียถามแบบนั้นก็งงหน่อยๆ แต่เธอก็พอจะมีสติปัญญามากพอที่จะรู้ว่าเธอควรจะตอบไปว่าอะไร
“ มาจากดาว earth “ มิกะตอบ ที่เธอตอบแบบนี้ก็ไม่ใช่เพราะอะไร ก็เพราะชื่อนี้เป็นภาษาสากลที่ทั่วโลกเค้าใช้เรียกดาวโลกนี่ !!!
“ มาจากดาวธาตุดินเหรอ !? “ เอาแล้วไง....ยัยบาเรียตีหน้าเซ่อมาอีกแล้ว หรือว่าที่นี่ earth มันแปลว่าดินหว่า เอ๊ะ ! ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนโลกเราน่ะสิ !!
ดูเหมือนที่นี่จะมีอะไรบางอย่างที่เหมือนโลกเราซะแล้ว....
“ แต่ชั้นขอถามหน่อยเถอะ ถ้าอย่างนั้นเธอพาชั้นมาที่นี่ทำไม ? “
“ เพื่อเช็คว่ามิกะใช่คนดาวนี้รึเปล่าน่ะจิ อ๋อ ! เพื่อสร้างความสนุกด้วยน้า ~ “ บาเรียตอบหน้าด้านๆ
“ สร้างความสนุกโยการปลอมตัวเป็นผู้พิพากษษแล้วให้ชั้นเป็นจำเลยเนี่ยนะ ! สนุกมาก...เลยเนอะ ! “ มิกะพูดออกมาอย่างประชดประชันสุดขีด แต่นั่นก็ทำให้บาเรียแอบตกใจนิดหน่อย เพราะดูเหมือนมิกะก็ไม่ได้บ้านนอกซักเท่าไหร่เลย
“ อย่าพึ่งอารมณ์เสียจิ มิกะ จะบอกเรื่องที่จะคุยจิงๆให้ก็ได้เอ้า ! “
“ บอกมาก่อนว่าเธอทำอะไรกับห้องนี้กันแน่ ! “ มิกะจ้องหน้าด้านชามาทางบาเรีย เมื่อบวกกับน้ำพเสียงดุๆด้วยแล้ว สาวน้อยที่คงไม่มีแรงสู้ใครเขาอย่างบาเรียก็ต้องยอมจำนนไปตามระเบียบ
“ คือ.....ห้องนี้เนี่ยนะ...วางอาคมป้องกันกระสุนไว้น่ะ...” น้ำเสียงสั่นระริกราวนักโทษที่กำลังสารภาพความผิดไม่ปานของสาวสุดเตี้ยอย่างบาเรีย ถ้าใครมาเห็นตอนนี้คง...อนาถ
“ แล้วไงต่อ ? “
“แต่พอดีอยากให้มันหนุกขึ้น.....ก็เลย.....”
“ ก็เลยอะไร ! ? “
“ เพิ่มเวทมนตร์แสงสีเสียงเข้าไป...ให้มันดูน่าตื่นเต้นน่ะ...”
“ ไม่ต้องพูดแล้ว....ชั้นพอเดาเรื่องได้แล้ว จบ “ มิกะพูดตัดพ้อสุดขีด บาเรียก็เตรียมบ่อน้ำตาแตกรอบสอง เห็นแล้วมันน่ารำคาญเว้ย !
แล้วจะทำยังไงให้ยัยนั่นไม่ร้องไห้ดีล่ะนี่......อ๊ะ! จริงสิ
“ บาเรีย.....เธอพอจะรู้เบาะแสพวกที่ยิงปืนใส่พวกเราเมื่อช่วงเย็นมั้ย ? “ มิกะถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์นิดๆ แต่ดูท่าสีหน้าเจ้าเล่ห์แบบนั้นจะไปกระตุกต่อมฮาบาเรียมากกว่า
“ 555 ชั้นคิดว่าน่าจะเป็น 55 พวกโจรสลัดต่างดาวนะ 555 แค่ก “ [เรียไอค่อกแค่ก สงสัยกรรมตามทัน(มุขนี้อีกแล้วเรอะ คนเขียน)
แต่เอ....โจรสลัดต่างดาว...ทำไมยัยนี่พูดยังกะนี่เป็นนิยาย...
เฮ้ย ! ไม่จิงน่า !!!
..............................................................................................................
คุยกับคนเขียน
ไม่มีอะไรมาก แค่อยากบอกว่า ตอน 2 จะมาเสิร์ฟทุกท่านช่วงค่ำวันนี้(14 มี.ค. 50) แน่นอนค่ะ อดใจรอกันหน่อยน้า ~
ตอนนี้ขอตัวไปอ่านฟิค POT ก่อนน้า(กะลังติด) ชา...แว๊บ !
ความคิดเห็น