[Fic Boyfriend]Be yourself, Be mine.
ความเปลี่ยนแปลงของคนที่ชื่อ โน มินวู กับคนสำคัญที่เข้ามาในชีวิตของเขา
ผู้เข้าชมรวม
354
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
คนเราไม่สามารถเป็นเด็กได้ตลอดไป
เมื่อทุกอย่างมันมาถึงจุดเปลี่ยนแปลง ตอนที่เขาอายุย่างก้าวเข้า 20 ปี
เมื่อความเป็นผู้ใหญ่ก้าวเข้ามาในชีวิต
อะไรคือตัวตนที่เขาอยากเป็น และสิ่งไหนที่เขาต้องการกันแน่
ปล.เป็นฟิคที่แต่งแบบอิงโมเมนท์จริงๆเยอะมากๆค่ะ 555+ มีอิงคลิปไหนบ้างใส่คลิปกับลิ๊งค์ต่างๆไว้ท้ายตอนน๊า
เมนท์ซักนิดจะเป็นกำลังใจแก่ไรท์เตอร์(ชื่อ อิ๊งค์)มากมายค่ะ TwT
ติดต่อมาคุยกันได้ที่ทวิต @Inkka_tako น๊า
ขอบคุณทุกๆคนมากๆนะคะ
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ปีนี้เป็นปีที่ผมอายุ 20 ปี
เป็นปีที่กำลังก้าวผ่านจากการเป็นเด็กสู่การเป็นผู้ใหญ่
ไม่ใช่แค่ผม แต่มันดูจะเป็นจุดเปลี่ยนของใครอีกหลายๆคนเช่นกัน
ทำไมต้องคิดมากน่ะหรือ คำว่าผู้ใหญ่น่ะ มันมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย ทั้งเรื่องวง เรื่องเพื่อนๆ เรื่องแฟนคลับ ทุกอย่างก็ผ่านมาเกือบจะ 4 ปีแล้ว...
พอผมคิดว่าจะเล่นสนุกเป็นเด็กๆเหมือนเมื่อก่อน ความนึกคิดบางอย่างมันก็ต่อต้านขึ้นมาในใจ จนแสดงออกหลายๆอย่างออกมาได้ไม่เหมือนเดิม
ช่วงที่โปรโมทอัลบั้ม obsession ผมโดนถามหลายครั้งว่า “มินวูที่กำลังกลายเป็นผู้ใหญ่” คืออะไร
อาจจะเพราะผมพยายามทำตัวเคร่งขรึมขึ้น เท่ขึ้น แสดงให้เห็นว่า ผมแมนแล้วนะ นี่คือภาพลักษณ์ใหม่แมนๆของพวกเรา ซึ่งก็ตามคอนเซปต์เพลงนอรันยอจาด้วย
จนผมพึ่งมารู้ทีหลังว่าผมไม่เป็นตัวของตัวเองจนหลายคนจับสังเกตได้
.
.
.
.
ตรงข้ามกับผมคือกวังมิน
การก้าวสู่อายุ 20 ปีของเขา เหมือนเขาได้ค้นพบตัวตนที่ตัวเองอยากเป็น ตัวตนที่เริงร่า สนุกสนาน มอบพลังงานและรอยยิ้มแก่คนรอบข้าง ทำทุกอย่างในสิ่งที่ตัวเองอยากทำ จะว่าไป เหมือนเขาย้อนกลับไปเป็นเด็กยังไงยังงั้น
บางครั้งผมก็อดอิจฉาไม่ได้
ทั้งหมด...อาจจะเพราะนิสัยและพฤติกรรมของผมเองด้วย ผมรู้สึกถึงความรับผิดชอบได้ตั้งแต่ที่ผมทนเห็นเพื่อนๆทำห้องรกสกปรกไม่ได้ บางครั้งเวลาประชุมแผนการสำคัญผมก็ต้องเป็นตัวตั้งตัวตี บางครั้งคนสั่งอาหารก็เป็นผมซะส่วนใหญ่ด้วยซ้ำไป
แต่ทั้งหมดที่ว่ามาไม่มีอะไรมากกว่า การที่พี่ดงฮยอนให้ความเอ็นดูกวังมินมากขึ้น มากขึ้น
ใช่ นั่นคือจุดที่ลึกๆแล้ว ผมอิจฉาที่สุด
ทุกครั้งที่พี่ดงฮยอนทำท่าเล่นกับกวังมินแล้วหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน มันก็มักทำให้ผมนึกไปถึงตอนที่ผมกับพี่เขาเคยออกไปจ่ายตลาดด้วยกัน หรือที่ผมเขินกับเรื่อยเล็กๆน้อยๆ อย่างช่วงตอนเดบิวต์ปีแรกๆ
ตอนนั้นทุกอย่างดูโลกสวยไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ไปเสียหมด
.
.
.
.
เอาตรงๆผมเริ่มคิดจริงจังกับพี่เขามากขึ้นตั้งแต่ตอนที่ผมเสียจูบแรก ยอมรับว่าตอนนั้นทั้งอายมาก เขินมาก แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจก็เหมือนถูกเติมเต็ม ผมก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันคืออะไร ที่ผมช็อคกว่าคือพี่ดงฮยอนเค้าดูจะคิดจริงจังกับผม จริงๆผมก็มองผ่านสายตาพี่เขาตลอด ก็รู้สึกได้ว่าพี่เค้าไมได้รู้สึกกับผมแค่รุ่นพี่รุ่นน้องในวงธรรมดาแน่ๆ แต่เรื่องทุกอย่างก็ถูกปล่อยผ่านไป ทุกอย่างก็ดำเนินมาเรื่อยๆ ไม่มีอะไรในวงที่เปลี่ยนแปลงเด่นชัดขนาดนั้น พี่ฮยอนซองกับพี่จองมินก็เหมือนเดิม กวังมินกับยองมินก็เหมือนเดิม
จนทุกอย่างมันก้าวย่างเข้าตอนที่ผมอายุ 20 ปีนั่นแหละ…
.
.
.
.
.
.
อย่างที่บอกไว้ มีคนจับสังเกตได้ว่าผมไม่เป็นตัวของตัวเอง หนึ่งในนั่นคือพี่ดงฮยอน
ผมยังจำวันนั้นได้อยู่ วันที่เค้าเดินเข้ามาคุยวันนั้น
เขาได้บอกกับผมว่า ผมนั้น ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ยังเป็นเด็กอยู่ ตอนนั้นผมรู้สึกโกรธในใจมาก ถ้าเสียงแบบนี้ หน้าแบบนี้ สิ่งของที่เกิดจากกรรมพันธุ์นี่มีส่วนทำให้ผมยังเป็นเด็กด้วย งั้นจนแก่มีลูกผมก็จะยังเป็นแบบนี้อยู่สินะ มันคงจะไม่มีหนทางที่จะทำให้สายตาพี่ผมดูเปลี่ยนไปเลยงั้นสินะ
แต่บทสนทนาที่ตามมากลับทำให้ตัวเขานั้นอึ้งไป ความโกรธเมื่อกี้แปรเปลี่ยนเป็นน้ำตาที่ไหลริน
พี่เขาขอคบกับผม
พี่เขาบอกว่าถ้าเป็นตัวผมในตอนนี้จะต้องจริงจังกับความรู้สึกของพี่เขาแน่ๆ
และคำพูดเมื่อกี้ของพี่มันหมายถึง ไม่ว่าผมจะเปลี่ยนแปลงไปยังไง ผมก็ยังน่ารักน่าทะนุถนอมในสายตาเค้าเสมอ
แต่พี่เขาก็พูดว่า ผมช่วงนี้ก็ไม่เป็นตัวของตัวเองจริงๆ ว่าจะพูดตั้งนานแล้วแต่ก็ยังไมได้พูด
เขาบอกว่าชอบรอยยิ้มของผม ชอบเวลาที่ผมเขิน ชอบที่ผมเต็มที่กับงาน มีเหตุผล และใส่ใจต่อความรู้สึกทุกๆคนเสมอ
เขาบอกให้ผมยิ้ม เลิกคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ปล่อยวางเรื่องที่อยากจะเท่ อยากจะแมน ของอย่างงั้นน่ะ ถ้าถึงวัยหรือถึงฉากที่มันจะออกมา มันก็จะออกมาจากข้างในได้ด้วยตัวเองกันทั้งนั้น
ตอนนั้นเหมือนหัวสมองของผมว่างเปล่า ผมเข้าใจที่พี่เค้าพูด แต่ผมก็ยังไม่รู้จะทำตัวยังไงดี ก่อนที่ผมจะได้คิดอะไรต่อ เขาก็ประทับริมฝีปากอวบอื่มลงมา
แปลก....มันเป็นจูบเหมือนกันแท้ๆ แต่มันต่างกับตอนนั้นอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่จูบที่ผ่านการแสดง แต่เป็นจูบที่มาจากความรู้สึกจริงๆ ผมหลับตา ปล่อยร่างกายให้มันเป็นไปตามสัญชาติญาณ
สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้คือ ผมโอบกอดพี่เขาไว้แน่น ราวกับไม่อยากให้เขาจากไปไหนอีก
.
.
.
.
.
.
หลังจากนั้น ผมก็ลองทำสิ่งที่คู่รักเขาทำกันบ้าง เช่นส่งเมสเสจราตรีสวัสดิ์ก่อนนอนกับพี่เขาทุกคืน ส่งสติ๊กเกอร์หัวใจให้ หรือช่วยเหลืออะไรพี่เขาเท่าที่เราจะช่วยได้ คุยกันให้กำลังใจกัน จนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ที่ผมดูจะกลับมาทำตัวเป็นธรรมชาติมากขึ้น ผมพยายามยิ้มอย่างที่พี่เขาบอก ซึ่งเอาตรงๆมันไม่ต้องพยายามยิ้มเลยซักนิดเดียว เพราะผม...ขอแค่ได้อยุ่กับพี่ก็มีความสุขมากแล้ว
นี่อาจจะเป็นตัวตนจริงๆของผมในขณะก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่ก็ได้ล่ะมั้ง ?
อย่างไรก็ตาม เรื่องกวังมินก็วนกลับมาในหัวผมอีกครั้ง
ผมว่าเขารู้ลึกๆว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราสองคน เพราะเรายังไม่ได้เปิดเผยเรื่องที่เราคบกันจริงจังให้เมมเบอร์คนอื่นรู้ เอาจริงๆเขาเป็นคนที่ไอคิวสูงอันดับต้นๆในบรรดาหมู่ไอดอล ผมรู้ว่าจริงๆเขาฉลาด ฉลาดมากๆ
เรื่องมันเริ่มตอนงานแฟนไซน์อัลบั้ม Witch ที่พึ่งผ่านไปไม่นาน มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก หึง
พอดีว่าแฟนๆก็ตะโกนเรียกเพื่อนๆในวงอะไรก็ว่าไป แล้วมันมีเสียงเรียกกวังมินขึ้นมา แล้วพี่เขาก็เรียกตาม กวังมินอา เสียงแบ๊วๆ ตามแฟนๆประมาณนี้
ตอนนั้นผมที่กำลังถ่ายเซลพี่กับเพื่อนๆในวงอยู่ พอถ่ายจบอีกรูปก็วางไม้เซลพี่นั่นทันที..
ไม่รู้ทำไม ผมตัดสินใจเข้าไปหยิกแก้มพี่ แล้วพูดว่า แบ๊วจังเลยนะครับ(แอก-โย = ทำท่าแอ๊บแบ๊ว ประมาณนั้น)
มันเป็นความรู้สึกแกมหึงแกมประชด เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่เขาตัดสินใจเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน ซึ่งเขาเขินมากจน จน ทำได้แค่แตะแก้มพี่เขาเบาๆเท่านั้น -///-
ทันใดนั้น พี่เขาก็หันมาหยิกแก้มผมกลับแล้วมองผมด้วยสายตาเอ็นดู
แล้วกวังมินก็เข้ามาเลียนแบบคำพูดที่ผมพูด แต่หยิกที่คอผมแทน ทำเอาพี่ดงฮยอนต้องไปกำราบ
ปกติ เมื่อก่อน ถ้าพี่เค้าจะมีซีนหวานๆกับผม ส่วนใหญ่จะเป็นแฟนๆขอมา
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมสัมผัสได้ว่าพี่เขาหึงหวงในตัวผมจริงๆ
จริงๆแล้ว มันมีเรื่องตอนที่ถ่ายชุดฮาโลวีนในรายการ mnet อีก ที่ผมกำลังถ่ายรูปกับพี่ดงฮยอนกันสองต่อสองแล้วกวังมินก็เข้ามาแจมในซีน ซึ่งเอาเหอะ ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมก็รู้ว่าเขาก็อยากให้พี่ดงฮยอนสนใจในตัวเค้า พอๆกับที่ผมอยากให้พี่เขาสนใจในตัวผมนั้นแหละ แค่ความรู้สึกของเค้าน่าจะตรงไปตรงมากกว่าผมเท่านั้น
.
.
.
.
.
.
อย่างไรก็ตาม ผมก็สัมผัสได้มากขึ้นจริงๆว่าพี่เขาพยายามแสดงออกต่อหน้าสื่อมากขึ้นว่าพี่เค้ารักและเอ็นดูผมขนาดไหน
มันจะมีตอนที่...มีตติ้งกับแฟนๆหลังเข้าไปอัดรายการ พี่เขาก็ลงมายืนข้างๆผม ชูป้ายชื่อของผมราวกับเขาเป็นแฟนบอยตัวยงของผมยังไงยังงั้น(ซึ่งมันก็คือเรื่องจริงมั้ยล่ะ -///-)
หรืออย่างวันฮาโลวีนที่ผ่านมา ที่พวกเราไปแสดงกันที่ lotte mall ช่วงแนะนำตัว พอผมพูดจบ เขาไม่ลังเลที่จะตะโกนชมผมว่าน่ารักจัง(คิยอบตะ = น่ารัก ลองไปฟังคลิปกันนะ ชัดมาก 555+)
ไม่รู้ทำไม เพียงคำพูดแค่นั้นของเขา ก็ทำให้ผมมีพลังขึ้นมาอีกไม่รู้เท่าไหร่
ตอนนี้ ไม่มีใครตั้งข้อสงสัยอีกแล้วว่า ผมจะเป็นผู้ใหญ่หรืออย่างไร
มีคนมากมายมองผมว่าน่ารัก แต่ก็มีอีกหลายๆมุมที่มีคนชมผมว่าเท่
ซึ่งมันไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะผมรู้แล้วว่า ตอนนี้ผมพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่ รอยยิ้มของผม ความสุขของผม แฟนๆที่อยู่คอยสนับสนุนพวกผมและเพิ่อนๆ และ...คนที่คอยอยู่เคียงข้างผมเสมอ
ขอบคุณมากนะครับ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฟิคนี้เป็นฟิคอิงเหตุการณ์จริงสุดๆ ทุกอย่างเคยเกิดขึ้นจิรงเกือบทั้งหมด(ยกเว้นเรื่องขอคบอ่ะนะ มั้ง 5555555+ จากไทม์ไลน์น่าจะเกิดก่อนไปญีปุ่่นอ่ะ ขอคบเนี่ย เพราะตอนนั้นมินวูดูดี๊ด๊าละ ตอนมาไทยยิ่งน่ารักสุดๆ ♥♥)
เป็นฟิคแต่งคั่นเวลาเพราะไรท์เตอร์อยากแต่งดงวูมาก แต่ฟิคหลักคงอีกพักนึงกว่าดงวูจะมา 55
อ้างอิงมานะ
>>เรื่องที่มินวูบ่นเรื่องเสียง ลักษณะของตัวเอง และคำถาม มินวูที่เป็นผู้ใหญ่ืคออะไร พร้อมคำตอบต่างๆ(มีซับ)
https://www.youtube.com/watch?v=_JbxTClY9zg
>>ส่งข้อความราตรีสวัสดิ์ และส่งหัวใจให้ผ่านบทสนทนาในมือถือ
https://www.youtube.com/watch?v=MGy01_Mgpqw
>>กวังมินแย่งซีนตอนถ่ายรูป
https://www.youtube.com/watch?v=8BxmqTEsfXw
>>โมเมนท์หยิกแก้มอันเลื่องลือ
https://www.youtube.com/watch?v=b_lXxQt7Khw
>>ลีดตะโกนว่าน่ารักตอนมินวูพูดแนะนำตัวจบ(คอนเสิร์ตกลางแจ้ง)
https://www.youtube.com/watch?v=2a8zWGiPyWE
>>ลีดถือป้ายมินวูในรูปถ่ายออฟฟิเขียล
https://twitter.com/G_BoyFriend/status/522689001963003904/photo/1
ผลงานอื่นๆ ของ Inkka_tako ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Inkka_tako
ความคิดเห็น