ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วันแรกที่(จำใจ)ไปทำงาน
เช้าอันแสนสบายของฉัน บรรยากาศช่างดีเหลือเกิน ได้รับลมหนาวที่พัดผ่านมาอย่างช้าๆ เบาๆ พร้อมๆกับกลิ่นดอกแก้วที่แม่ปลูกไว้ตรงหน้าบ้านหอมฟุ้งมาแตะจมูกฉันชวนให้ผ่อนคลาย และยังเผลิดเพลินไปกับเสียงเพลงสุดคราสสิก โอ้ ~ อะไรจะดีขนาดนี้เนี่ย >,< แต่มันคงดีกว่านี้ถ้าไม่มีเสียงบีบแตรรถของใครบ้างคนที่ชวนให้รำคาญหูเหลือเกิน
ปี้ม! ปี้ม! ปี้ม!
เสียงบีบแตรรถคันหรูของใครคนหนึ่งดังขึ้นสามทีแล้วหยุด ตะโกนใส่ฉันที่หนึ่ง
“นางพญามารร้าย ออกมาจากบ้านได้แล้ว”
หนอยยย ! เพียงแค่ปริปากพูดมาพยางค์เดียวฉันก็รู้แล้วว่าเป็นอีตาบ้าซันฟานปากเสียๆแบบนี้ไม่มีที่ไหน แถมยังจะมาตะโกนเรียกฉันว่านางพญามารร้ายอีก หึ! นายมันดีตายแหละ ปากก็เสียแถมมารยาทก็ไม่ดีอีก มาบีบแตรหน้าบ้านคนอื่นอยู่ได้ ฉันอยากจะให้เจ้าแมวแทมเมอร์กับเจ้าหมาแทมมี่วิ่งไล่กัดตูดสักทีสองทีเพื่อจะได้หลาบจำเสียบ้าง
“นี่ นายมาบีบแตรรถหน้าบ้านคนอื่นแบบนี้มันเสียมารยาทนะ”
“แต่! ฉันเป็นเจ้านายเธอนะ”
“เจ้านาย”
“อืม เจ้านาย” อีตาบ้าซันฟานทวนคำพูดของฉันแล้วยิ้มเย้ยแบบเจ้าเล่ห์
“เจ้านายบ้าบออะไรกัน อย่ามาซี้ซั้วมั่วเล่นๆนะ”
“นี่อย่าบอกนะ ว่าเธอลืม”
โอ๊ะ!! อีตาบ้าซันฟานพูดขึ้นมาแค่นี้สมองฉันก็เริ่มเกิดการประมวลผลทบทวนความจำ แล้วก็ ปิ๊ง ป่อง! หลอดไฟไส้ตะเกียบในสองหมองฉันก็สว่างขึ้นมาทันทีว่าวันนี้ฉันต้องไปทำงานชดใช้ค่าเสียหายให้รถอีตาบ้าซันฟาน ฉันลืมสนิทไปเลย ฉันควรจะทำตามที่คิดไว้ดีไหมนะ ที่โกหกว่าฉันกำลังติดเชื้อ HIV - -*
อีตาบ้าซันฟานคงไม่เชื่อฉันหรอกแต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ~
“ปะ...ปะ...เปล่า ฉันไม่ได้ลืม” อีตาบ้าซันฟานมองหน้าฉันแบบไม่เชื่อคำพูดของฉันสุดๆ
“แล้วทำไมไม่รีบไปอาบน้ำแต่งตัว”
“เอิมมม....ฉันมีอะไรจะบอกนายน่ะ”
(. . )( . .)(. . )( . .)
ฉันก้มหน้าก้มตาพูดเพื่อให้เกิดความสมจริงสมจังและสมกับที่ฉันเคยได้รับตำแหน่งซุปเปอร์แหลตอนอยู่ชั้นมัธยมต้นเมื่อสองปีที่แล้ว ก็ตอนนี้ฉันยังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายแต่หน้าฉันมันบ่งบอกว่าให้อยู่มหาวิทยาลัยซะมากกว่า - -“
“อะไร?”
“คือฉันติดเชื้อ HIV น่ะ ฉันเกรงว่าเชื้อจะเกินการออสโมซิสแพร่กระจายไปสู่นายและคนภายในบ้านนายฉันก็เลยคิดว่า นายน่าจะให้ฉันชดใช้รถนายอย่างอื่นแทนการไปทำงานบ้าน เช่นให้ฉันไปล้างรถให้นายวันล่ะครั้งหรืออาจจะให้ฉันไปทำงานบ้านนายก็ได้แต่ลดเวลาเหลือแค่ 7 วันอะไรอย่างงี้ แหะๆ”
ฉันพูดพร้อมประกอบท่าทางชี้นู่นชี้นี้ไปเรื่อยเปื่อยอย่างกับคนพึ่งฝึกหัดรำลิเก
“นี่ตกลงเธอโง่หรือแกล้งโง่กันแน่เนี่ย”
“.......”
“การที่คนจะติดเชื้อHIVเค้าต้องมีอะไรกันก่อน ยัยโง่!
“กรี๊ดดดด ~ นายด่าฉันว่าโง่อย่างงั้นเหรอ”
“ก็มันจริงนี่ และอีกอย่างฉันว่าอย่างเธอคงไม่ได้ติดเชื้อHIVมาหรอก เพราะผู้หญิงอย่างเธอไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเอาหรอก ฮ่าๆ ^O^”
“อึ้ย ~ทำไมย่ะ ผู้หญิงอย่างฉันไม่ยังไง”
อีตาบ้าซันฟานมองฉันตั้งแต่เท้าจรดหัว เฮ้ย! ไม่ใช่หัวจรดเท้าต่างหากแล้วเอามือมาจับคางยืนเก๊กหล่ออยู่ได้ตั้งนานสองนานก่อนจะปริปากพูด
“ก็ผู้หญิงอย่างเธอมัน....”
“มันยังไง”
“แบน - -“
“อะไรแบน O.o? อย่ามาทะลึ่งกับฉันนะ ฉันก็มีส่วนดีของฉันย่ะ ชิ!”
“พอๆ เอาเป็นว่าเธอรีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้ว”
พอพูดเสร็จอีตาบ้าซันฟานก็เดินเข้ามาจับไหล่ฉันหมุนหลังแล้วก็ผลักออกไปข้างหน้าอย่างเต็มแรงเกิดของพี่แก หน้าฉันแทบจะระนาบกับพื้นไปแล้ว
ณ บ้านทรายทอง(เก๋)ของคุณชายซันฟาน
และแล้วพจมานน้อยผู้หน้าสงสารอย่างฉันก็ต้องยอมจำนงให้คุณชายกลางอย่างนายซันฟานลากตัวมาทำงานที่บ้านจนได้ นี่ถ้านับน้ำตาที่ตกในใจฉันล่ะก็ คงสามารถเอามารถน้ำสวนลำ ไยได้ทั้งสวนเลยแหละ
[คนสวยจะบอกให้ (รู้สึกว่าฉันไม่ค่อยหลงตัวเองเลยนะ - -)]
“พี่โอเชชชชชช ~”
ยังไม่ทันได้เปิดประตูรถเสียงใสๆแจ๋วๆของน้องซอลลี่ก็ดังมาแต่ไกล
“พี่โอเชจะมาทำงานบ้านซอลลี่จริงๆด้วย^^ ดีใจจังเลย”
น้องซอลลี่เปิดประตูรถคันหรูที่ฉันมีบุญบารมีพอที่จะได้นั่งแล้วดึงฉันมากอดใหญ่เลย
เฮ่อ! ตอนนี้ฉันเป็นห่วงว่าเจ้าแมวน่ารักกับหมาน่าเลิฟจะทำลายข้าวของอะไรในบ้านฉันอีก -*-
“อะแห่มๆ “
อีตาบ้าซันฟานมารตัวพ่อกระแอมดัง พร้อมๆกับดึงแขนน้องซอลลี่ที่กำลังได้รับไออุ่นจากอ้อมกอดของฉันให้ถอยออกไปห่างๆก่อนที่จะบอกให้น้องซอลลี่ไปเล่นที่อื่นก่อน หึๆ อีตาบ้าซันฟานคงจะอิจฉาฉันล่ะสิที่ตัวเองเป็นพี่ชายแท้ๆของน้องซอลลี่แต่กลับไม่ได้รับอ้อมกอดจากน้องซอลลี่ ฮ่าๆ คราวนี้ฉันชนะนาย ^O^
น้องซอลลี่ก็ว่าง่ายเหลือเกินนะอีตาบ้าซันฟานพูดแค่นี้ก็เชื่อฟังทำตามที่พี่แกบอก ทำไมน้องซอลลี่ไม่มาขัดขว้างให้ฉันไม่ได้ทำงานบ้านโดยการอยากจะเล่นกับฉันแทน - -
“เธอเริ่มทำงานได้แล้ว”
“ขอให้ฉันทำใจก่อนไม่ได้เหรอ”
“ฉันให้เธอทำงานบ้านนะ ไม่ใช่ให้เธอไปออกรบ”
อีตาบ้าซันฟานพูดเสียงเข้มพรางดึงแขนฉันแล้วลากไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์ตรงหลังสุดของบ้านที่ติดกับสวนหย่อมเล็กๆสวนหนึ่ง
“งานแรกของเธอในวันนี้ คือขัดส้วม”
ยังหายใจไม่ทั่วท้อง หมอนี่ก็อ้าปากออกคำสั่งให้ฉันทำงานขัดส้วม ซึ่งเป็นงานที่ฉันภาวนาขออย่าให้ได้ทำมากทำมากที่สุด ก็ตอนเด็กๆฉันเคยไปขัดส้วมให้แม่แล้วเกิดอาการกลัวแมลงสาบที่เกาะตรงฝาชักโครกขึ้นมา ฉันเลยวิ่งหนี แต่สวรรค์ไม่เข้าข้างฉัน ฉันลื่นล้มหัวฟาดพื้น TOT แต่โชคดีที่ไม่แรงมากเท่าไหร่ เลยรอดปลอดภัยมาได้จนถึงทุกวันนี้
“ฮะ! ขัดส้วมเนี่ยนะ นายจะบ้าเหรอ ถ้าเกินพื้นมันลื่นแล้วฉันล้มหัวฟาดพื้นขึ้นมานายจะทำยังไง เผลอๆฉันอาจสมองเสื่อมไปเลยก็ได้นะแล้วนายก็จะต้องเสียค่ารักษาพยาบาลให้ฉันอีก ฉันว่ามันไม่คุ้มนะ แล้วก็อีกอย่านะ.....บลาๆ”
ฉันสาธยายร่ายข้อเสียของการขัดส้วมให้อีตาบ้าซันฟานฟังจนน้ำลายในปากฉันมันเริ่มแห้งแล้วแต่
หมอนี่ก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักอย่าง ยืนปล่อยให้ฉันพูดคนเดียวอยู่ได้ตั้งนานส่วนตัวเองก็ยืนผงกหัวแล้วทำปากแบะๆเลียบแบบฉัน
“จากที่ฉันฟังเธอพูดมา เหตุผลใช้ได้”
อีตาบ้าซันฟานพูดเอื้อนเสียงแล้วเอามือขวามาจับตรงปลายคางเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่ากำลังครุนคิดอะไรอยู่ แต่ฉันว่ามันต้องได้ผล หมอนี่คงไม่ให้ฉันขัดส้วมแล้วล่ะ เพราะกลัวว่าจะไม่คุ้ม ฮ่าๆ สวรรค์เมตตาฉันถึงแม้จะไม่เต็มที่ก็ตาม ^O^
“แต่”
อึ้ย ~ หมอนี่พูดคำว่า”แต่”อีกแล้ว > < ฉันมีลางสังหรณ์ว่าสวรรค์จะกลั่นแกล้งฉัน คำว่า”แต่”ของหมอนี่มันช่างน่ากลัวอย่างอะไรดี หมอนี่ต้องให้ฉันขัดส้วมแน่ๆเลย แงๆ~ TOT
“ตะ..ตะ..แต่อะไร?”
“แต่...ฉันว่ามันเว่อไป” นั่นไงฉันว่าแล้ว
”แง ~ นายยังจะยืนหยัดให้ฉันขัดส้วมใช้ไหม TOT”
“ใช่”
“แงๆๆ นายมันคนใจร้าย TOT”
“เอาน่า...นิดเดียวเอง”
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น