คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : Prince cat-รักนายเจ้าชายแมวเหมียว ตอนพิเศษ III
สองร่างตระกองกอดกันแนบชิด หัวกลมๆ วางเกยไว้บนอกแกร่งของร่างสูง ดวงตาคู่สวยหลับพริ้มอย่างเป็นสุขไม่รู้สึกตัวเลยว่าดวงตาคมของใครอีกคนเพ่งพิสใบหน้าของตนเองเมื่อยามหลับใหลอย่างรักใคร่ มือหนาช่วยปัดผมหน้าม้าที่ปรกหน้าผากออกไปด้านข้างอย่างเบามือเป็นจังหวะเดียวกับที่คนตัวเล็กรู้สึกตัวตื่นอย่างงัวเงีย ตากลมใสเหลือบมองขึ้นไปพบรอยยิ้มของคนรักที่ส่งมาให้ตนก็มอบยิ้มหวานส่งคืนไปให้
“ เต๋าทำให้ชาตื่นหรือเปล่า “
“ เปล่า...ชาตื่นเอง “ คนตัวเล็กส่ายหน้า “ เต๋าตื่นนานแล้วเหรอ “
“ อืม~ ตื่นได้สักพักแล้วล่ะ “
“ …...” คนตัวเล็กปีนขึ้นไปนอนทับบนอกแล้วแระทับจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากของร่างสูง “ มอนิ่งคิส~ >< “
“ หึหึ~ “ ร่างสูงแปลกใจเล็กน้อยก่อนวงแขนแกร่งจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น ร่างบางจึงเหมือนถูกบังคับให้ซบอยู่กับอกของคนตัวสูง
“ ไม่ได้ตื่นมาเจอเต๋าแบบนี้นานแล้ว ”
“ นั่นสินะ....ครั้งสุดท้านที่เต๋าตื่นขึ้นมานอนเล่นกับชาแบบนี้ก็เมื่อนานมาแล้ว “ ร่างสูงยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบหัวคชาเบาๆ
“ ก็เจ้าแมวน้อยเต๋าฮวยงานยุ่งนี่เนอะ....ช่วยไม่ได้~ “ คชาผงกหัวขึ้นมาพูดกับเต๋า
“ ขอโทษ....ต่อไปเต๋าฮวยจะให้เวลากับเจ้านายมากกว่านี้นะ “
“ สัญญาแล้วนะ! “
“ สัญญาครับ “
“ งั้นร้องเหมียว เหมียว .ให้ฟังก่อนซิ “
“ ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย “ ร่างสูงลุกขึ้นนั่งเมื่อถูกขอให้ทำอะไรที่มันน่าอายแล้วดันให้คชาลุกขึ้นตามอย่างช่วยไม่ได้
“ เต๋าฮวยทำก่อน....ทำเหมือนตอนที่เป็นแมวน้อยตอนนั้นน่ะ “
“ ไม่เอาด้วยหรอก! น่าอายจะตายไป.... “
“ ทำให้ดูหน่อยสิ..ร้องเหมียว เหมียวน่ะ “ คนตัวเล็กยังคงรบเร้าต่อไป
“ ไม่ได้หรอก “ เต๋าส่ายหัวปฏิเสธ
“ ทำไมล่ะ “
“ มันน่าอายจะตายไป “
“ ไม่เป็นไรหรอกไม่มีใครเห็นหรอกน่า “ คชาปีนขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักมือทั้งสองข้างก็คล้องคอของเต๋าเอาไว้เพื่อไม่ให้เจ้าตัวหนีไปไหนได้
“ เล่นอย่างนี้เลยเหรอชา “
“ นะต๋าวฮวย~ ทำท่าเหมียว เมียว น่ารักให้ชาดูหน่อยสิ นะคะ......นะคะ~ “ คนตัวเล็กเอาหัวถูไปบนไหลของคนรักอย่างออดอ้อน ก่อนจะกลับมาจ้องตาแป๋ว
“ เฮ้อ~...ก็ได้ๆ แต่ครั้งเดียวนะ “ เจอมุขลูกอ้อนเข้าไปหน่อยราชาก็ราชาเถอะ ต้องยอมสยบทุกที
“ อืมๆ ทำเลย!!~ ^O^ “
“ เหมี๊ยว~ เหมี๊ยว~ เจ้านายครับ “ ร่างสูงพยายามดัดเสียงให้เล็กลงแล้วร้องเหมียวๆ เหมือนลูกแมว
“ เต๋าฮวยน่ารักจัง~ >O< “ คชาหอมแก้มขาวของเต๋าฟอดใหญ่
“ เฮ้อ~ ให้ทำอะไรก็ไม่รู้ “ ร่างสูงรู้สึกอายจนต้องยกมือขึ้นเกาหัว
“ หน้าแดงไปหมดเลยเจ้าเหมียว~ “ คนตัวเล็กดึงแก้มของคนรักทั้งสองข้าง
“ ผมเจ็บน้า~ อย่าดึงสิเจ้านาย “ เต๋าประท้วง
“ ไม่ดึงก็ได้...แต่เต่าฮวยน่ารักน่าหมั่นเขี้ยวจริงๆ นี่นา รู้งี้ให้ทำตั้งนานแล้ว “ เสียงใสเจรจาเจื้อยแจ้ว
“ หึหึ~ น่ารักขนาดนั้นเขียว “
“ อื้ม! “ คชาพยักหน้ารับ “คราวหลังทำให้ดูอีกนะ
“ พอเลยๆ ไปอาบน้ำดีกว่า “ ร่างสูงยกคชาออกจากตักก่อนจะรีบลุกหนีไปอาบน้ำเพราะกลัวว่าคชาจะอ้อนให้ทำอะไรแปลกๆ อีก
“ ต๋าวฮวย!!~ รอก่อนสิจะหนีไปไหน “ คนตัวเล็กกระโดลงจากเตียงแล้วรีบตามไปแกล้งร่างสูงต่อทันที
วันนี้อากาศดีหลังจากอาบน้ำเสร็จเหล่านางกำนันก็พากันยกอาหารเข้ามาจัดให้ที่โต๊ะริมระเบียงและพากันออกไปรอนอกห้องบรรทมอย่างรู้น่าที่
“ ชากินเยอะๆ นะช่วงนี้เต๋าว่าชาดูซูบๆ ไป “
“ ซูบไปเหรอ? ชาว่าไม่นะ “
“ ซูบมากเลยล่ะ ดูแขนสิเหลืออยู่นิดเดียว “ ร่างสูงจับข้อมือเล็กยกให้เจ้าตัวได้เห็น
“ แขนชาเล็กอยู่แล้วนะ “
“ เอวก็เล็กจนแทบจะกำได้รอบด้วยมือเดียวอยู่แล้ว “
“ เอวชาก็. “ ทันทีที่ได้ฟังคนตัวเล็กก็อ้าปากเถียงแต่ถูกขัดก่อน
“ ไม่ต้องเถียงเลย เต๋ารู้ของเต๋าอยู่นะเมื่อคืนนอนกอดชาแทบจะตัวเล็กกว่าหมอนข้างอยู่แล้ว “ เต๋าบอกพลางตักอาหารใส่จานให้คนรักเพิ่มแต่ก็ไม่วายที่จะโดนคนตัวเล้กประท้วง
“ เต๋าพอแล้ว! แค่นี้ชาก็จะกินไม่หมดอยู่แล้วนะ “
“ งั้นก็กินแค่ที่ตักนี่ให้หมด เต๋าจะไม่ตักเพิ่มให้แล้ว “
“ แต่มันเยอะ...”
“ กินไปคุยกับเต๋าไปเดี๋ยวก็หมด “
“ ก็ได้ “ คชามองดูอาหารที่อยู่ในจานของตัวเองแล้วถอนใจ
“ ดีมาก~ เต๋าว่าแต่ก่อนชากินเยอะกว่านี้นะเป็นเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยสบายหรือเปล่า “ เต๋าตั้งข้อสังเกต เค้ารู้ว่าแต่เดิมคชาไม่ใช่คนกินจุอะไรแต่ที่เห็นตอนนี้มันน้อยเกินไป
“ ไม่รู้สิ...คงเป็นอย่างนั้นล่ะมั้ง “ คชาพูดพลางจัดการอาหารในจานของตัวเองไปด้วย
“ กินเยอะๆ จะได้แข็งแรง เพราะเดี๋ยวต้องตามไปทำงานกับเต่าที่หน้าด่านนอกเมืองเป็นอะไรขึ้นมาล่ะยุ่งเลยนะ “
“ ครับๆ ชารู้แล้ว “ คชาพยักหน้ารับรู้และพยายามกินอาหารให้หมดเพราะเต๋ามองดูอยู่แม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกพะอืดพะอมแค่ไหนก็ตาม....
หลังจากมื้ออาหารตอนเช้าคชาก็ตามเต๋าไปเข้าร่วมประชุมกับเหล่าขุนนางที่ท้องพระโรงจนเที่ยง ก่อนจะกลับมาพักทานอาหารที่ตำหนักโดยยังคงมีเต๋าคอยควบคุมปริมารอาหารให้เหมือนเดิม ตกบ่ายก็กลับเข้าไปฟังการประชุมอีกครั้งและกลับออกมาในตอนเย็น
โดยรวมแล้วตอนนี้สถานะการณ์ของอาณาจักรไม่น่าเป็นห่วงเหมือนตอนแรกเพราะควบคุมพวกที่เป็นกบฏได้บางส่วนแล้ว แต่เต๋าก็ยังต้องออกไปราชการที่หน้าด่านหัวเมืองอยู่ดี
“ เราเดินทางกันแต่เช้าพรุ่งนี้แล้วกันชาไหวหรือเปล่า “ เต๋าบอกกับคชาด้วยความเป็นห่วง
“ ชาคิดว่าเราจะไปคืนนี้เสียอีก “
“ วันนี้ชาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วคืนนี้พักผ่อนให้เต็มที่ดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยไปแต่เช้า “
“ เอางั้นเหรอ “
“ อืม...”
“ งั้นก็ตามใจเต๋าแล้วกัน “ คชารู้ว่าเต๋าเป็นห่วงตนก็ไม่คิดจะค้านอะไรอีก
“ แล้วนั่นชาจะไปไหน “ เต่าคิดว่าคชาจะขึ้นเตียงแต่คนตัวเล็กกลับเดินออกจากห้องไป
“ เดี๋ยวชามานะ “ หันมายิ้มให้นิดหน่อยก่อนจะออกไปโดยไม่บอกอะไรอีก
“ ไปไหนของเค้า “
ด้วยความสงสัยร่างสูงจึงเดินตามไปดู เต๋าเดินตามคชามาถึงห้องครัวก็พบคนตัวเล็กกำลังยืนสั่งอะไรกับนางกำนันอยู่ จึงเข้าไปหา
“ ทำอะไรน่ะชา “
“ เต๋า! ตามาทำไม “
“ แล้วนั่นอะไร? ทำอะไรกันอยู่ “ เต๋าถามเหล่านางกำนันที่นั่งห่ออะไรบางอย่างลงไปในถุงผ้าโปร่งๆ ที่มีหลายขนาด
“ กลีบกุหลาบขาวพันปีตากแห้งน่ะเต๋า “ คชาหยิบกลียดอกกุหลาบขาวพันปีที่ตากแห้งจนเป็นสีน้ำตาลขึ้นมาให้เต๋าดู
“ แล้วจะเอาไปทำอะไรกันตั้งมากมายขนาดนั้น “
“ ชาสั่งให้พวกนางกำนันเอาไปตากแล้วเอามาทำชา “
“ ทำชา? “
“ อื้ม~ เอาไว้ต้มน้ำชาน่ะ ชาจะเอาไปด้วยวันพรุ่งนี้ “
“ แล้วมันกินได้เหรอ “
“ กินได้สิ!~ กินสดๆ ยังได้เลย หอมด้วย “ พูดพลางคชาก็หยิบดอกกุหลาบขาวพันปีที่ยังสดอยู่ขึ้นมากินให้เต๋าดู
“ เฮ้ย! ชาทำอะไรน่ะ!? “ เต๋ารีบดึงมือบางไว้
“ ทำไมล่ะเต๋า...มันกินได้นะ “ คนตัวเล็กดึงมือคืนมาแล้วกินให้คนรักดูท่าทางเอร็ดอร่อย “ เห็นไหมว่ากินได้ “
“ แต่เต๋าไม่เคยเห็นใครเค้ากินกันเลยนะชา.... “
“ ก็ชานี่ไงที่กิน ตกใจอะไรกันเล่าไปนอนกันเถอะ “ คนตัวเล็กดันหลังคนรักให้กลับไปที่ห้องแต่ก็ไม่วายจะคว้าถุงดอกไม่แห้งและดอกที่ยังสดติดมือมากินด้วยระหว่างทาง
เมื่อมาถึงที่ห้องคชาก็เอาถุงดอกไม้ตากแห้งวางไว้ข้างๆ หมอน แล้วสวดมนต์ก่อนจะล้มตัวลงนอน เต๋านั่งมองการกระทำแสนประหลาดของคชาด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้คชาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย คนตัวเล้กเห็นเต๋ามองมาด้วยความกังวลใจก็ดึงให้ร่างสูงล้มตัวลงนอนข้างๆ
“ นอนเถอะเต๋า “
“ อืม “
“ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ “ คนตัวเล็กถามเมื่อเห็นเต่าทำคิ้วขมวด
“ ไม่มีอะไรหรอก....นอนกันดีกว่าพรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้า “
“ อืม~ ฝันดีนะเต๋าฮวย “
“ ฝันดีครับชา “ เต๋าจูบหน้าผากมนก่อนจะดึงคนตัวเล้กเข้ามากอด
คชาซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเต๋าแล้วหลับไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าผ่านไปสักพักร่างสูงก็ไม่มีทีท่าว่าจะหลับได้ลง จนในที่สุดก็ต้องลุกขึ้นจากเตียงช้าๆ เพื่อไม่ให้คชาตื่นแล้วตรงไปยังห้องครัวของตำหนักอีกครั้ง
“ องค์ราชา “ นางกำนันลุกขึ้นทำความเคารพองค์ราชาอีกครั้ง
“ แพรววา “ เต๋าเลือกที่จะถามหัวหน้านางกำนันซึ่งเป็นคนสนิทของคชา
“ เพคะ “
“ ใครเป็นคนริเริ่มเอาดอกกุหลาบขาวพันปีมาให้คชากิน “
“ เอ่อ....คือองค์ราชินีคชาทรงไปพบด้วยองค์เองเพคะ แรกเริ่มเดิมทีพระองคืก็ทรงชื่นชอบในกลิ่นหอมของมัน “
“ แล้วยังไงต่อ “
“ แต่ทว่าตอนหลังพระองคืก้เที่ยวขอร้องให้เหล่าแม่ครัวเอาดอกไม้นี้มาทำเครื่องเสวยเพคะ “
“ ทำไมล่ะ “ เต่าถามด้วยความแปลกใจ
“ หม่อมชั้นก็ไม่ทราบเพคะ พอหม่อมชั้นทูลถามราชินีคชาก็เพียงแต่บอกว่าอยากเสวย ยิ่งช่วงหลังมานี่องค์ราชินีแทบจะเสวยทุกมื้อทั้งยังให้เอากลีบดอกไปตากแห้งแล้วทำเป็นน้ำชาด้วยเพคะ ในยามราตรีก็จะเอาถุงดอกไม้ไปวางไว้ข้างๆ หมอนเพราะพระองค์บอกว่าถ้าไม่ได้กลิ่นแล้วนอนไม่หลับเพคะ “ แพรวาอธิบายอาการของคชาให้ฟังอย่างละเอียด
“ อย่างนั้นเหรอ......” เต๋ามีท่าทีครุ่นคิดก่อนจะถามอีกข้อ “ แล้วอาหารอย่างอื่นคชากินได้ตามปกติหรือเปล่า “
“ ถ้าอาหารเหล่านั้นไม่มีกลีบดอกกุหลาบขาวพันปีผสมอยู่ราชินีคชาก็จะไมเสวยเพคะ “
“ เป็นอย่างนี้มานานหรือยัง “
“ ประมาณสองถึงสามเดือนแล้วเพคะ “
“ พรุ่งนี้เจ้าให้ใครไปตามหมอหลวงมาที่ตำหนักแต่เช้าด้วยนะ “
“ เพคะ “
เมื่อซักถามจนได้ความเรียบร้อยแล้วเต๋าก็กลับไปที่ห้องและปีนขึ้นเตียงเงียบๆ วงแขนแกร่งสวมกอดคนรักที่นอนหันหลังให้หลวมๆ แต่ทว่ามือข้างหนึ่งก็ลูบไปที่หน้าท้องของคนตัวเล็กเบาๆ แล้วก็ต้องรู้สึกแปลกใจเพราะอย่างที่เต๋ารู้ว่าคชาร่างกายผอมบางมากตอนนี้ก็ยังผอมอยู่แต่หน้าท้องกลับนูนขึ้นมาเล็กน้อย
ร่างสูงยกยิ้มในความมืด หากที่คิดไว้ไม่ผิดคงจะมีเรื่องที่ทำให้ไม่ได้ออกไปราชการที่หัวเมืองในวันพรุ่งนี้เสียแล้ว....
เช้าที่สดใสแสงแดดส่องกระทบเข้ามาภายในห้องนอนพร้อมกับลมเย็นๆ ที่พัดพาเอาความสดชื่นมาด้วย คชารู้สึกตัวตื่นขึ้นมากระพริบตาถี่ๆ สองสามครั้ง บิดขี้เกียจอีกนิดก่อนจะลืมตาตื่นเต็มตา คนตัวเล็กหันกลับไปเพื่อมองหาร่างสูงของคนรักแต่ก็ไม่พบพอนึกทบทวนดีๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ต้องออกเดินทางไปหัวเมืองคชารีบกระเด้งตัวลุกขึ้นมาทันที
“ จะรีบไปไหนชา “ เสียงทุ้มของเต๋าดังขึ้นเมื่อคชากำลังจะลุกจากเตียง
“ เต๋าตื่นนานแล้วเหรอ “ คชาถามเมื่อเห็นว่าเต๋าแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว
“ ตื่นนานแล้วล่ะ “
“ ทำไมไม่ปลุกชาล่ะ เดี๋ยวก็ไปไม่ทันกันพอดี “ คชาบ่นเบาๆ
“ ไม่ต้องกลัวหรอกชาเพราะเราจะยังไม่ไปไหนทั้งนั้น “ ร่างสูงเดินมานั่งบนเตียงข้างๆ ตัวคชาก่อนจะดันให้คนตัวเล้กนอนลงไปกับหมอนอีกครั้ง
“ ทำอะไรน่ะเต๋า !? “ คชาถามด้วยความแปลกใจ
“ ใจเย็นๆ รอเดี๋ยวนะ นอนนิ่งๆ แป๊บเดียวแล้วเต๋าจะบอก “ เต๋าพูดกับคชาอย่างอ่อนโยนก่อนจะรีบกให้หมอหลวงที่อยู่หน้าห้องเข้ามา
“ อืม “ คชาพยักหน้าอย่างงุนงง
คชานอนนิ่งทำตามคำสั่งหมอหลวงหยิบเครื่องมือประหลาดหลายอย่างที่คชาไม่รู้จักขึ้นมาตรวจวัดนั่นนี่โดยมีเต๋ายืนดูอยู่ข้างๆ มือหนาก็เกาะกุมมือเล็กเอาไว้และบีบให้กำลังใจเป็นพักๆ
“ ทูลองค์ราชารูเซีย “ หลังจากที่เก็บเครื่องมือเรียบร้อยหมอหลวงก็หันมาหาเต๋า
“ ว่ายังไง.....เป็นแบบที่ข้าสงสัยใช่หรือไม่ “ น้ำเสียงและแววตาของร่างสูงดูตื่นเต้นจนปิดไม่มิด
“ พะย่ะค่ะ ตอนนี้องคืราชินีคชาทรงพระครรภ์ได้ราวสามเดือนเศษ “
“ ห๊ะ!! อะไรนะท้อง!!? “ คชาเผลอหลุดปากอย่างไม่อยากเชื่อ
“ หม่อมชั้นขอแสดงความยินดีด้วยนะพะย่ะค่ะ นับว่าเป็นข่าวดีที่น่าปลื้มปิติของชาวเมืองแมกโนเลียในรอบ 25 ปีเลยทีเดียว “
“ ได้ยินหรือเปล่าเราจะมีลูกกันแล้วนะ “ เต๋ากลับมานั่งข้างๆ คชาเหมือนเดิมและบอกอย่างดีใจ ทั้งยังระดมจูบไปบนมือบางด้วยความรักใคร่
“ มีลูกเหรอ...” คนตัวเล็กที่ยังคงทำตัวไม่ถูก ได้แต่ถามอีกครั้งอย่างอึ้งๆ แล้วลูบหน้าท้องของตัวเองเบาๆ
“ ใช่แล้วๆ ลูกของเรา “ เต๋าย้ำอีกครั้ง
“ ลูกของเรา.....” น้ำตาของคชาไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ อย่าร้องนะคนเก่ง “ มือหนาช่วยปาดเช็ดน้ำตาให้คนรักอย่างเบามือ
“ แล้วต่อไปเราต้องทำอย่างไงต่อครับหมอ “ เมื่อนึกขึ้นได้คชาก็หันมาถามหมอหลวง
“ ทูลราชินีคชา เพราะราชินีเป็นเพศชายดังนั้นต่อไปเราจะต้องดูแลพระองค์อย่างใกล้ชิดจนกว่าจะประสูติพระโอรสหรือพระธิดาองค์น้อยพะย่ะค่ะ หม่อมชั้นจะจัดยาบำรุงและจะเข้ามาตรวจพระอาการของพระองค์ทุกๆ วัน พะย่ะค่ะ “
“ ขอบคุณนะครับ “ คชากล่าวขอบคุณหมอหลวง
“ ต่อไปต้องดูแลตัวเองดีๆ รู้ไหม เต๋าก็จะดูแลชากับลูกให้ดีที่สุดเลย “
“ ขอบคุณครับ “
3-4เดือน
แม่ของเจ้ายังคงแพ้ท้องอยู่บ้างเล็กน้อยและอยากกินดอกกุหลาบขาวพันปีเหมือนเดิม แต่เพราะแม่ของเจ้ารู้ว่ายังมีเจ้าอีกคนอยู่ในท้องดังนั้นจึงกินอาหารได้ตามที่พ่อสั่งทุกครั้งแม้จะต้องฝืนพยายามมากก็ตาม แต่โชคดีอยู่อย่างนึงที่แม่ของเจ้าไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียดหงุดหงิดเลย อารมณ์ดีทั้งวันอาจจะติดอ้อนมากกว่าปกติ ดูท่าว่าพ่อจะเดาได้แล้วล่ะว่าเจ้าลูกคนนี้จะเป็นหญิงหรือชาย
“ เต๋าทำท่าเหมียวๆ ให้ชาดูหน่อย!~ นะคะ...นะคะ“
“ เหมี๊ยว~ เหมี๊ยว~ เหมี๊ยว~เจ้านายจ๋า.... “
4-6เดือน
ตอนนี้แม่ของเจ้าเลิกปฏิเสธอาหารแล้วแต่ก็ยังคงกินดอกไม้และออดอ้อนเหมือนเดิมไม่มีผิด เจ้าคงจะตัวโตขึ้นมากแล้วสิท่า ก็ท้องของแม่เจ้าน่ะมันใหญ่ขึ้นจนเห็นได้ชัดแล้ว เมื่อวันก่อนพ่อกับแม่ช่วยกันตั้งชื่อให้เจ้ายังตกลงไม่ได้เลยว่าเจ้าจะใช้ชื่อว่าอะไร ก็แม่เจ้าน่ะดื้อจะให้เลือกแต่ชื่อของตัวเอง เราจึงตกลงกันว่าถ้าเจ้าเป็นชายจะใช้ชื่อที่แม่เจ้าตั้ง แต่ถ้าเจ้าเป็นหญิงจะให้ชื่อที่พ่อเลือก งานนี้แม่เจ้าคงต้องทำใจยอมรับเสันแล้วล่ะเพราะว่ายังไงก็รู้ๆ กันอยู่ว่าลูกน่ะเป็นตัวหญิงตัวน้อยของพ่อแน่ๆ แล้วอีกอย่างอย่าดิ้นแรงมากนะลูกเดี๋ยวแม่เจ็บ
“ ใช้ชื่อที่ชาตั้งให้ไม่ได้เหรอ เต๋าอ่ะอย่าเอาแต่ใจสิ “ หลังจากเถียงกันมาพักใหญ่
“ งั้นเอางี้ ถ้าลูกเป็นผู้ชายให้ใช้ชื่อชา แต่ถ้าเป็นผู้หญิงให้ใช้ชื่อเต๋าตกลงไหม “
“ ตกลง.....โอ้ยๆ สงสัยจะเห็นด้วยนะเนี๊ยดิ้นใหญ่เลย เต๋าจับดูสิ “
“ อย่าดิ้นแรงสิลูกเดี๋ยวแม่เจ้าก็เจ็บแหรอก “
“ เต๋าอย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวลูกตกใจ “
“ จ้าๆ “
6-9เดือน
อีกไม่นานแล้วสินะเราก็จะได้เห็นหน้ากันแล้ว เจ้าจะได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกมาพบแม่และพ่อ สำหรับตัวพ่อนั้นไม่ขออะไรมากพ่อขอแค่ให้เจ้าออกมาแข็งแรง ปลอดภัยทั้งเจ้าและแม่ของเจ้าด้วย ช่วงนี้ท้องใหญ่จนเดินไปไหนมาไหนลำบากเดินไปไหนก็ต้องมีคนคอยประคองแล้วล่ะ รออีกไม่นานเราก็จะได้พบกันแล้วนะลูกรักของพ่อ..........
“ โอ้ย!!!!~ เจ็บท้อง “
“ ชาทำใจดีๆ ไว้นะ “
“ เต๋าชาเจ็บ......อื้ออ~ “
“ ชาหายใจเข้าลึกๆ เต๋าจะอยู่กับชาตรงนี้จะไม่ไปไหน “
“ อยู่กับชานะ...เต๋า....อึก อยู่ กับ.....โอ้ย....ชานะ “
“ เต๋าสัญญา...เต๋าสัญญาจะไม่ไปไหน “
ห้าปีต่อมา......
“ ท่านแม่ครับ~ ลูกอยากช่วยมันลงมาลูกสงสารมัน “ เด็กชายตัวน้อยดึงแขนผู้เป็นแม่ให้เดินไปยังใต้ต้นไม้แล้วชี้ให้ดูลูกแมวตัวน้อยที่ติดอยู่บนกิ่งไม้
“ ลูกปีนขึ้นไปไม่ได้หรอกลูกเดี๋ยวตกลงมา เต้าฮวย “
“ งั้นเราจะทำยังไงดีครับท่านแม่ ลูกสงสารมัน “
“ ไปเรียกท่านพ่อให้มาช่วยมันดีกว่าไหมลูก “
“ นั่นไงครับท่านพ่อมาพอดีเลย “
“ ต๋าว~ “
“ ว่ายังไงแม่ลูกมีอะไรกันหืม... “
“ ท่านพ่อครับ~ ช่วยลูกแมวตัวนั้นหน่อยได้ไหมครับ “ เต้าฮวยชี้ไปที่ลูกแมวตัวขาวบนกิ่งไม้
“ ได้สิลูก “ ร่างสูงร่ายมนต์เพียงนิดเดียวเจ้าแมวน้อยตัวนั้นก็ลงมาอยู่ในอ้อมกอดของเด็กชาย
“ โอ้โห!! “ เด็กน้อยทำตาโตก่อนจะลูบหัวมันเบาๆ
“ อะไรน่ะพี่เต๋าฮวย “ เสียงเล็กๆ ของเด็กผู้หญิงดังขึ้นจากด้านหลังของทั้งสามคน
“ คาลิก้า* มาดูนี่สิแมวน้อยน่ะท่านพ่อช่วยมันเอาไว้ “ พี่ชายกวักมือเรียกน้องสาวฝาแฝดให้เข้ามาดูเจ้าแมวน้อยในอ้อมกอดของตัวเอง
“ ว้าว! น่ารักจังเลยน้องขออุ้มบ้างนะคะ นะคะ~ “น้องสาวออดอ้อนพี่ชาย
“ ได้สิ “ เต้าฮวยส่งแมวน้อยให้น้องก่อนกำชับว่า “ เบาๆ นะเดี๋ยวมันตกใจ “
“ ค่ะ “
“ เราขอเลี้ยงมันไว้ได้ไหมครับท่านแม่ “
“ จะดีเหรอลูก หนูสองคนจะเลี้ยงมันได้เหรอ “ คชามองเต๋าอย่างไม่แน่ใจว่าจะให้ลูกเลี้ยงแมวน้อยตัวนี้ดีไหม
“ นะคะท่านแม่ นะคะท่านพ่อ นะคะ นะคะ...“
“ เอาสิลูกแต่ต้องดูแลมันดีๆ นะ “ เต๋าเป็นฝ่ายอนุญาตเพราะทนลูกอ้อนของลูกสาวตัวน้อยไม่ไหว
“ เย้ๆ ท่านพ่อใจดีที่สุดเลย “
“ เราพามันไปอาบน้ำกันเถอะนะคาลิก้า “ พี่ชายสั่ง
“ ค่ะท่านพี่ “ น้องสาวก็ว่าตามแล้วเด็กทั้งคู่ก็ออกวิ่งไปพร้อมๆ กัน
“ ค่อยๆ เดินไปนะลูก อย่าวิ่ง! “ คชาตะโกนไล่หลังแต่เด็กๆ ดูเหมือนจะไม่ได้ยินเสียงแม่ซะะแล้ว
“ แพรวาไปดูเด็กๆ หน่อยนะ “ เต๋าหันมาสั่งแพรวา
“ เพคะ “
“ อ้าว! แล้วเต๋าจะพาคชาไปไหน “ คชาถามเมื่อเต๋าพาให้คนตัวเล็กเดินตามมาด้วย “ ชาจะไปดูลูก “
“ อย่าเพิ่งดูเลยลูกน่ะดูมาตั้งห้าปีแล้วนะ ดูพ่อมันบ้างสิ “ พูดจบก็หอมแก้มนิ่มแล้วอุ้มคนตัวเล็กขึ้นหลังม้า
“ จะไปไหน “ คชาเอี้ยวตัวมาถามเมื่อเต๋าขึ้นมานั่งซ้อนบนหลังมาอีกคน
“ พาเจ้านายไปพักร้อน “
“ ไม่เอานะ!! “
“ ปฏิเสธได้เหรอเจ้านาย “
“ ต๋าวฮวย!! “
“ หึหึ!~ “ เสียงม้าควบตะบึงออกไปพร้อมกับเสียงหัวเราะของเจ้าเหมียวน้อยเจ้าเล่ห์ เต๋าฮวย
.................................THE END.....................................
สวัสดีค่ะ
ตอนจบมาแล้ว ขอโทษที่ต้องให้มาทวงกันหลายคนเลย ขอโทษจริงๆ ค่ะ อินเพิ่งสอบเสร็จ
ขอบคุณทุกคนที่คอยติดตามกันจนมาถึงตอนจบนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ
ยังไงก็ฝากติดตามผลงานเรื่องอื่นด้วยนะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ ^O^
*Kalycaแปลว่า ดอกกุหลาบตูมเป็นภาษากรีกค่ะ
รูปนี้น่ารักดีค่ะ ไม่รู้ว่าจะให้มีลูกชายหรือลูกสาวดี ให้มีลูกแฝดไปเลย 5555
ขอบคุณแฟนอาร์ตน่ารักๆ ค่ะ
ความคิดเห็น