ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :( TAOKACHA(yaoi ) ): สะดุดรัก(นาย)พี่เลี้ยงจำเป็น

    ลำดับตอนที่ #35 : สะดุดรัก(นาย)พี่เลี้ยงจำเป็น THE END

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.26K
      9
      13 ก.ย. 55

     







                พี่ต้นมารับผมไปแต่งตัวที่บ้านตั้งแต่เช้าอย่างที่แม่บอกจริงๆ ครับ ต้องออกจากบ้านแต่เช้าในวันหยุดเลยยังไม่มีใครตื่น ตอนแรกก็คิดว่าจะไปบอกเต๋าก่อนแต่พี่ต้นบอกให้โทรมาทีหลังก็ได้เห็นบอกว่านัดช่างทำผมไว้ ผมพอเข้าใจอยู่นะครับว่าต้องแต่ตัวให้ดูดีเพราะเห็นว่าเป็นงานค่อนข้างใหญ่แต่ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ ตื่นตั้งแต่เช้ามาทำผมพิถีพิถันกันสุดๆ (=____=)

     

     

     

    กว่าผมกับพี่ต้นจะเดินทางมาถึงยังท่าเรือก็ค่ำแล้ว ความจริงเราก็ไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องกันทั้งวันหรอกครับพอดีว่าก่อนจะไปหาช่างพี่ต้นพาผมไปซื้อของมาด้วย สรุปว่าเราไปช๊อปปิ้งจนบ่ายถึงไปทำผมแล้วแต่งตัวมาที่งาน

     

     

     

    ผมลงจากรถแล้วเดินตามหลังพี่ต้นมายังท่าเรือ ไม่ต้องมองหาให้วุ่นวายก็เพราะมีเรือเทียบท่าอยู่เพียงลำเดียว แต่ผมกลับแปลกใจที่ภายในเรือมืดสนิท

     

     

    พี่ต้นครับ...”

     

    ว่าไงคชา “

     

    ใช่เรือลำนี้แน่เหรอครับ....ทำไมมันมืดจัง “

     

    เรือลำนี้แหละพี่ดูชื่อเรือแล้วไม่ผิดหรอก สงสัยคนยังไม่มาล่ะมั้ง แต่ข้างในห้องรับรองคงมีคนบ้างแล้วล่ะ “ พี่ต้นตอบผมไปพร้อมๆ กับค้นหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า

     

    หาอะไรเหรอครับพี่ “ ผมถามด้วยความสงสัย

     

    แย่ล่ะสิ...พี่ลืมมือถือทิ้งไว้ที่รถ “ พี่ต้นเงยหน้ามาบอกผมคิ้วขมวด

     

    อ่าว! งั้นผมกลับไปเอาให้ก็ได้ครับ “

     

    อืม....จะดีเหรอ “ พี่ต้นมีท่าทางลังเลเล็กน้อย

     

    ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปเอาให้เอง “

     

    อย่าดีกว่า เดี๋ยวพี่กลับไปหยิบเอง...คชาขึ้นไปรอพี่ข้างบนเรือแล้วกัน “

     

    พี่จะให้ชาขึ้นไปก่อนเลยเหรอครับ.....ไปพร้อมกันไม่ดีกว่าเหรอครับพี่ต้น ชาไม่รู้จักใครเลย... “ จะให้ผมเดินขึ้นไปบนงานนั้นคนเดียวไม่เอาด้วยหรอก ยิ่งมีพวกคุณหญิงคุณนายเยอะแยะน่ากลัวจะตายไป

     

    ชาขึ้นไปรอพี่บนเรือนั่นแหละดีแล้ว พี่กลัวว่าเราจะหาโทรศัพท์พี่ไม่เจอ อีกอย่าง....ชาจะได้ลงทะเบียนให้พี่ก่อนด้วยไง “

     

    เอ่อ....ผม “

     

    ไปเถอะน่า~ ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่มีใครทำอะไรเราหรอกน่าบอกเค้าว่าเรามากับพี่ ไปได้แล้วเดี๋ยวพี่กลับไปเอามือถือแป๊บ...ขึ้นไปเลยนะอย่ายืนรออยู่ข้างล่างเข้าใจไหม! “ ถ้าจะบังคับกันขนาดนี้...ฮือ~ T^T

     

    ก็ได้ครับ...แต่พี่ต้นรีบมานะชาไม่อยากอยู่คนเดียว “ อย่าทิ้งข้าพเจ้าไว้คนเดียวนะ ชากลัว....

     

    โอเค~ พี่จะรีบไปรีบมา ชาลงทะเบียนให้พี่ด้วยแล้วกันนะ “

     

    ครับ “ ผมพยักหน้ารับ แล้วพี่ต้นก็เดินกลับไปที่รถ แต่เดินไปไม่กี่ก้าวก็หันมาสั่งอีกคำ

     

    เออ! คชา...”

     

    ครับพี่ “

     

    เดินตามไฟไป “

     

    ห๊ะ? ...อะไรนะครับ “

     

    เดินตามไฟไปแล้วกัน “ แล้วพี่ต้นก็หันหลังเดินจากไปอย่างรวดเร็ว....ทิ้งให้ผมยืนเหวอ

     

    อะไรวะ...เดินตามไฟไป ( -_-)? “

     

     

     

    ผมมองขึ้นไปบนเรือและดาดฟ้าเรือก็ไม่เห็นจะมีไฟสักดวงที่เปิดไว้ มืดอย่างกับเรือผีสิงไม่มีเสียงเพลงเสียงดนตรีเลย นี่มาถูกลำจริงๆ หรือเปล่าวะเนี่ย?...ยืนคิดไปคิดมาก็กลัวว่าพี่ต้นจะกลับมาก่อนผมจึงตัดสินใจขึ้นไปบนเรืออย่าที่โดนสั่งไว้

     

     

     

    ผมก้าวขามาหยุดที่บันไดทางขึ้นแล้วสูดหายใจนิดหน่อย...ก่อนจะก้าวขึ้นบันได พอเท้าเหยียบที่บันไดขั้นแรกดวงไฟสีเหลืองนวลดวงเล็กที่ถูกพันอยู่รอบๆ ราวบันไดที่ใช้ขึ้นไปบนเรือก็ถูกจุดขึ้นเป็นทางขึ้นไปถึงบนเรือทำเอาผมผงะเลยทีเดียว

    หรือนี่จะเป็นเรือผีสิงจริงๆ (=[]=)!......

     

     

     

    แต่ผมก็ยังใจดีสู้ผี(?)เดินขึ้นไปจนในที่สุดก็ยืนอยู่บนเรือได้สำเร็จ มองไปรอบๆ ยิ่งดูวังเวงผมเปิดประตูเข้าไปในห้องรับรอง ภายในไม่มีแต่แขกสักคนเดียวแถมยังมืดสนิทผมจึงรีบออกมายืนที่กราบเรือเหมือนเดิมแล้วเตรียมตัวจะลงไปรอพี่ต้นข้างล่าง ขึ้นผิดลำแน่ๆ ชัดเลยๆ

     

     

     

    พอจะเดินไปที่บันไดที่ผมเพิ่งเดินขึ้นมาบันไตนั้นมันกลับหายไปแล้ว และที่แย่กว่านั้นคือ...คือเรือมันออกจากท่าแล้วนี่สิ!!

     

     

    แว๊กกกกกกกกกกก!!! \( T[]T )/

     

    พี่ต้น!!! ช่วยคชาด้วย!!! “ ฮือ~ ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!! “ พี่โต้นนนนนน!! ช่วยคชาด้วยยยยย!! “

     

     

     

    เรือละใหญ่ค่อยๆ ห่างไกลออกจากท่ามาเรื่อยๆ ทำไงดี ชีวิตของผมต้องดับสูญอยู่บนเรือผีสิงลำนี้แล้วแน่ๆ ผมคงไม่รอดชีวิตกลับไปหาครอบครัวอีกแน่ๆ ฮื้อ~ TT^TT

     

     

    เต๋าจ๋า.... แม่จ๋า...ไตเติ้ล ช่วยชาชาด้วย!! ”

     

     

     

    ไม่มีใครตอบกลับมาหรอกครับและเรือมันก็ค่อยๆ ไกลออกจากฝั่งมาไกลแล้ว อย่าว่าแต่เต๋า แม่ หรือไตเติ้ลเลย แม้แต่คนอื่นๆ เขาก็ไม่รู้หรอกว่าผมติดอยู่บนนี้ ไม่น่าเอาพวกข้าวของฝากไว้ที่พี่ต้นเลย....คชาพลาดแล้ว!

     

     

     

    ในขณะที่ผมกำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะกระโดลงไปในแม่น้ำแล้วว่ายกลับเข้าฝั่งหรือทิ้งตัวนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่ที่กราบเรือดีน จู่ๆ ไฟดวงเล็กที่ติดอยู่กับราวกั้นตรงกราบเรือก็สว่างขึ้นและสว่างเป็นทางยาวไปจนถึงบนดาดฟ้าเรือ

     

     

    เดินตามไฟไป “

     

     

     

    เสียงสั่งครั้งสุดท้ายของพี่ต้นดังขึ้นมาในหัวผม ผมจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปตามดวงไฟเล็กๆ นั่น เดินขึ้นไปจนถึงดาดฟ้าเรือ...และเดินมาหยุดตรงกลางเพื่อมองไปรอบๆ ข้างบนมีเพียงความมืดเท่านั้น ไม่มีใครอยู่.....

     

     

    ไม่เห็นมีอะไร.….. “

     

     

     

    ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบประโยคอยู่ก็มีเสียงดนตรีบรรเลงดังขึ้นมา มันดังขึ้นจากตรงไหนก็ไม่รู้ผมพยายามมองหาต้นกำเนิดของเสียง หรือนี่เป็นเรือผีสิงจริงๆ ใช่ไหม? …..เต๋าช่วยชาด้วย

     

     

    รู้ตัวหรือเปล่า....เธอทำอะไรให้ชีวิตของฉัน

     

    เสียงทุ้มที่แสนคุ้นเคยดังขึ้น.........

     

    มากมายเท่าไหร่ ที่ได้จากการที่มีเธออยู่ข้างกัน

     

    เสียงนี้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น...ผมจำได้ดี

     

    เป็นความอบอุ่นในหัวใจ เป็นความยิ่งใหญ่ของทุกวัน

     

    ความอบอุ่นแผ่ซ่านปัดเป่าความกลัวไปจนหมดสิ้น จนผมหลงลืมไปว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้อย่างไร

     

    เป็นจุดมุ่งหมาย และเรี่ยวแรงอันสำคัญ

     

    ผมหันหลังกลับมาหาเจ้าของเสียงช้าๆ กลัวว่าจะไม่ใช่เขา กลัวว่าจะเป็นคนอื่น และกลัวว่ามันจะหายไป... ผมหันมาในที่สุดและก็พบกับดวงตาคู่นั้น....ใช่เขาจริงๆ ด้วย.....เต๋า

     

    เพราะว่าเธอนั้นคือดวงใจของฉัน “ เต๋าเดินก้าวเข้ามาหาผม

     

    “ …........” ไฟสีนวลดวงเล็กค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มองเห็นว่ารอบๆ ถูกตกแต่งไปด้วยริบบิ้นและช่อดอกไม้สีขาวเต็มไปหมด

     

    ที่ทำให้ทุกๆ วันฉันเดินสู้ต่อ “ ก้าวย่างอย่างสุขุมเข้ามาใกล้ขึ้นอีก

     

    “ …....... ” รอบตัวผมสว่างและอบอุ่นขึ้นอีกครั้ง

     

    ต้องล้มแล้วลุกเท่าไรไม่เคยจะท้อไม่เคยหวั่นไหว “ เต๋าเดินมาจนหยุดอยู่ตรงหน้าผมก่อนจะจับมือผมเอาไว้

     

    ........... “ ผมมองตาของเขา ดวงตาคมที่สื่อความหมายมากมายยิ่งกว่าเนื้อเพลงที่เขาร้องออกมา

     

    ขอเพียงยังมีเธออยู่ด้วยกัน ตลอดไป....”

     

    “ ….......” เมื่อสิ้นเสียงเพลงเต๋าก็เอ่ยอะไรบางอย่างออกมา

     

    ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มในชีวิตของเต๋า ขอบคุณที่เข้ามาเติมเต็มความสุขให้กัน เต๋าอยากให้ชาอยู่ด้วยกันอย่างนี้ อยู่เติมเต็มและเดินเคียงข้างกันแบบนี้ต่อไปจะได้ไหม ”

     

    “ …........ “ ความรู้สึกตอนนี้มันมากกว่าคำว่าหัวใจพองโต มันมากกว่าความตื้นตันใจ มันเป็นอะไรที่ผมไม่สามารถบรรยายได้เพราะความรู้สึกนี้มันล้นปรี่ออกมาจากหัวใจ....และเต๋าก็คุกเข่าลงตรงหน้าผม

     

    คชาครับ..แต่งงานกับเต๋านะ

     

     

     

    ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน ผมไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่อยู่รอบกายได้อีก ไม่สามารถรู้สึกถึงสิ่งอื่นได้เลยเพราะสิ่งเดียวที่ผมรับรู้ตอนนี้คือประโยคคำถามและความรู้สึกทั้งหมดที่ผู้ชายคนหนึ่งหอบมากองไว้ตรงหน้าของผม และเขารอคอย....รอคอยให้ผมรับมันไป

     

     

    อื้อ.....”

     

     

    ผมพยักหน้ารับและตอบตกลงในที่สุด แม้เสียงที่เค้นออกมาจะเหลือน้อยเต็มที เมื่อผมตอบรับเต๋าก็หยิบแหวนเงินเรียบๆ วงหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะสวมมันลงไปที่มือของผม

     

     

    เต๋ารักชานะ “ ริมฝีปากของเต๋าแตะลงบนหลังมือของผมเบาๆ

     

     

    เต๋าลุกขึ้นยืนเต็มความสูงอีกครั้งมาแล้วดึงผมเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ผมเองก็กอดตอบแน่นและซุกหน้าไปกับอกกว้าง ปล่อยโฮออกมาอย่างไม่นึกอาย มือหนาลูบที่หัวผมเบาๆ

     

     

    ชา...อึก...ก็ ชาก็รักเต๋าเหมือนกัน รักที่สุดในโลกเลย...”

     

    ครับๆ อย่าร้องน้า~ โอ๋ๆ นิ่งนะครับคนดีของเต๋า “ ร่างสูงกอดผมแล้วโยกตัวไปมา

     

    ฮื้อ~ ก็มัน...ตื้นตัน.นี่ “ ผมพยายามกั้นสะอึก

     

    นิ่งนะครับ...ดูสิไม่อายคนอื่นๆ หรือไงหืม~ “

     

    ไม่อาย...” นาทีนี้จะไปอายใครอีกล่ะครับ ไม่ต้องไปอายมันแล้ว

     

    ไม่อายจริงเหรอ “ เต๋าถามอีกครั้ง....เดี๋ยวนะ! คนอื่นๆ เหรอ? สมองรีบประมวลผลอย่างรวดเร็ว

     

    ไหน....” คนอื่นๆ เหรอ (O_O)!

     

    นั่นไง “

     

     

     

    เต๋าปล่อยผมออกจากอ้อมกอดแล้วชี้มือให้ผมมองไปรอบๆ ทุกๆ คน ไม่ว่าจะเป็น แม่ผม แม่เต๋า นายธีร์ ป้าเจี๊ยบ เฟรม คุณครูแพรวา ป้าอิฐ นกน้อย พี่เต้ พี่อ้น พี่ไทด์ เจมส์ พี่ต้นและไตเติ้ล

     

     

    มา.....มากันได้ไง “ ก็ตอนแรกไม่เห็นมีใครอยู่สักคน

     

    พวกเราขึ้นมาแอบบนเรือตั้งนานแล้วชาชา “ ไตเติ้ลวิ่งเข้ามาเกาะชายเสื้อผมก่อนจะพูดล้อเลียน “ บุ้ยบุ้ย! ชาชาขี้แยร้องไห้ขี้มูกโป่งเลย “

     

    งื้อ~ ( -3-) “ ยังจะมาล้อเค้าอีก

     

    ไตเติ้ลอย่าไปล้อชาชาสิลูก “ เต๋าบอกลูกแต่ตัวเองก็แอบหัวเราะเบาๆ ส่วนคนอื่นๆ ก็ยืนหัวเราะไปด้วย

     

    ดีนะที่แต่งหน้ามาดีไม่งั้นเครื่องสำอางเลอะแย่เลย “ พี่ต้นยืนยิ้มชื่นชมผลงานของตัวเอง

     

    แล้วนี้..ยังไม่มีใครบอกผมเลยว่ามากันได้ยังไง “

     

    ก็ทุกคนช่วยกันเซอร์ไพรซ์คชาน่ะลูก “ แม่เป็นคนตอบแทน

     

    แผนพี่ต้นกับคุณแม่เอ๋น่ะ “ พี่เต้เฉลย

     

    ทุกคนวางแผนหลอกผมเหรอ “

     

    ใช่แล้ว~ วางแผนตั้งนาน ดีนะคชาไม่รู้ตัว “ พี่อ้นเสริมอีกคน

     

    แต่เกือบจะพลาดหลายทีแล้วนะ “ พี่ไทด์หันมากบอก

     

    ใช่เลยครับโดยโฉพาะตอนที่ไตเติ้ลร้องไห้อยากตามชาชาไปสปาร์ “ เจมส์บอก

     

    เติ้ลไม่ได้ร้องไห้ตามชาชานะคุณหมี...” เจ้าตัวเล็กหน้ามุ้ยทันทีที่โดนพาดพิง

     

    จริงหราา~ ไตเติ้ล “ เจมส์ถามเจ้าตัวเล็กด้วยเสียงคางยาน

     

    ก็....พอชาชาไม่อยู่แล้วมันเหงานี่ “ ไตเติ้ลบ่นอุบอิบก่อนจะซุกหน้าไปกับชายเสื้อของผม ผมจึงลูบหัวทุยของเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูก่อนจะนึกขึ้นได้อีกว่า...

     

    นี่...สปาร์นั่นก็แผนด้วยเหรอครับ “ ผมโดนหลอกมาเป็นเดือนเลยเหรอเนี่ย!!

     

    ใช่ๆ เจ้าต้นบอกว่าคอร์สเจ้าสาว แต่พี่ว่ามันวุ่นวายนะตอนแรกกลัวคชาจะไม่ยอมไป “

     

    วุ่นวายอะไรไทด์...นี่ถ้าฉันไม่พาคชาไปเข้าคอร์สพวกแกจะมีเวลาปรึกษาเตรียมงานกันไหมล่ะ! “ พี่ต้นพูดเหวี่ยงๆ

     

    โอเคๆ คุณต้นทำถูกทุกอย่าง แล้วก็สปาร์นี่เจ้าเต๋าก็คงถูกใจ ถือว่ายกผลประโยชน์ให้น้องไปแล้วกัน “ พี่ไทด์บอกยิ้มๆ

     

    พี่ไทด์...อย่าแซวสิครับ ” ผมหันไปมองหน้าเต๋าที่ขึ้นสีเรื่ออย่างไม่เข้าใจ

     

    ทำไมเหรอเต๋า “

     

    ไม่..ไม่มีอะไรหรอกชา “ เต๋ารีบบอกปัดทันที

     

    ผมนี่โง่จริงๆ เลย...โดนหลอกตั้งนานไม่รู้ได้ไง...โอ้ยๆ จะบ้าตาย “

     

    อย่าพูดอย่างนั้นสิลูก คชาไม่ได้โง่เสียหน่อย คชาแค่ซื่อ...” เอ่อ....แม่จะบอกว่าชาซื่อบื้อใช่ไหม ( =__=)/

     

    แต่ก็เอาเถอะนะลูกคชา...ที่พวกเราหลอกหนูก็เพราะอยากให้ทุกอย่างมันออกมาน่าประทับใจอย่างนี้ไงล่ะ...อีกอย่างขืนรอให้เจ้าเต๋าคิดเองไม่รู้เมื่อไหร่จะได้แต่ง “ แม่เอ๋อธิบาย

     

    นั่นสิ! เจ้าเต๋ามันก็คงอายม้วนทำอะไรไม่ถูกเหมือนเดิม “ พี่ต้นบอกขำๆ

     

    หนูคชาน่ารัก “ แม่เอ๋เดินเข้ามาหาแล้วจับมือผมเอาไว้ “ แม่อยากได้หนูมาเป็นลูกของแม่เร็วๆ อย่าโกรธพวกเราเลยนะลูก “

     

    ผมไม่โกรธหรอกครับ....ต้องขอบคุณถึงจะถูก “

     

    นี่ไงล่ะ! น่ารักอย่างนี้ไงถึงอยากได้มาเป็นลูกเพิ่มอีกคน “ แม่เอ๋ดึงผมมากอดไว้แล้วพูดต่อ “ ขอต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเรานะลูก “

     

    ครับแม่ “ ผมกอดท่านตอบก่อนที่เราจะผละออกจากกัน

     

    เต๋าต้องดูแลน้องดีๆ นะลูก “ แม่เอ๋บอกกับลูกชายของตัวเอง

     

    ครับ “ เต๋ายิ้มรับคำแม่

     

    คชาลูก “ แม่ของผมเดินเข้ามากอดผม

     

    แม่.... “

     

    คชาโตแล้ว มีครอบครัวแล้ว...คชาตัวน้อยของแม่ “ แม่พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

     

    ถึงโตแล้วชาก็ยังเป็นคชาของแม่เหมือนเดิมแหละครับ ”

     

    ดูแลกันดีๆ นะลูก หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก หนทางข้างหน้าจะยังมีอะไรอีกมากมายให้เราสองคนฟันฝ่า ต้องเห็นอกเห็นใจกันให้มากๆ “ แม่ปล่อยผมแล้วหันไปพูดกับเต๋า “ เต๋าแม่ฝากดูแลน้องด้วยนะลูก “

     

    ครับ..ผมจะดูแลคชาให้ดีที่สุด ยิ่งกว่าชีวิตของผม แม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ “

     

    แม่ฝากด้วยนะลูก “

     

     

     

     

    แล้วงานเลี้ยงก็เริ่มขึ้นแม้จะมีเพียงแค่แขกไม่กี่คน เป็นงานเลี้ยงเล็กๆ แต่มันก็อบอุ่นมากเพราะมีแต่คนที่ผมและเต๋ารัก ทุกคนต่างก็หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับเราสองคน ทุกความทรงจำดีๆ ไม่รู้จะเก็บได้อย่างไรหมด ทุกวินาทีผ่านไปอย่างมีค่า ผมรู้สึกโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ ได้เกิดมาเจอผู้คนเหล่านี้ ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ และที่สำคัญได้เกิดมาเจอไตเติ้ลกับเต๋า

     

     

     

    เขาว่ากันว่าสมองเป็นเครื่องมือที่ใช่ในการจดจดจำสิ่งต่างๆ แต่จะเป็นไปได้ไหม จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่ผมจะเลือกใช้หัวใจจดจำความทรงจำเหล่านี้ ความทรงจำแสนดี....เพิ่งได้รู้ว่าการที่เป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกมันเป็นอย่างไรก็วันนี้นี่เอง

     

     

    คิดอะไรอยู่ครับ “ เต๋าเดินมากอดผมจากด้านหลังในขณะที่ผมกำลังยืนทอดอารมณ์อยู่ที่หัวเรือ

     

    กำลังคิดว่า...ตัวเองโชคดี “ ผมหันมาเผชิญหน้ากับร่างสูง

     

    โชคดียังไง “

     

    ก็โชคดีที่ได้มาเจอกับคนดีๆ ได้มาเจอกับเต๋า...ผมบอกเต๋าก่อนจะเขย่งตัวขึ้นจูบเบาๆ ที่จมูกโด่ง

     

    เต๋าโชคดีกว่าอีก... “ เต๋าว่าแล้วจูบกลับที่จมูกของผมเหมือนกัน มือก็รั้งเอวผมกอดไว้แน่น

     

    ชาโชคดีกว่า..” เรื่องอย่างนี้จะยอมกันได้ที่ไหน คราวนี้ผมหอมที่แก้มขาวของคนตัวเผือก

     

    ต้องเต๋าสิ..ที่โชคดีกว่า “ เต๋าเองก็หอมกลับแต่สองข้างทีเดียว

     

    ชาต่างหาก ….เต๋าอย่าเถียง “ ผมจูบที่ปลายคาง

     

    ไม่ใช่หรอก เต๋าต่างหาก “

     

     

     

    เต๋าก้มลงจูบที่กลีบปากของผมเบาๆ ก่อนจะผละออกมา เราสองคนมองจ้องตากันเนิ่นนาน ลมหายใจของผมเริ่มขาดห้วง ใบหน้าของเต๋าเคลื่อนเข้าใกล้มาเรื่อยๆ และเขากำลังจะช่วงชิงลมหายใจของผมไป.....

     

     

    แต่ทว่า.........

     

     

    คิคิ “ เสียงหัวเราะของใครบางคนเรียกให้เราสองคนหันไปมอง

     

    ไตเติ้ล “ เต๋าเรียก แล้วเจ้าเปี๊ยกก็โผล่ออกมาจากที่ซ่อน ผมจึงดันตัวออกจากอ้อมกอดของเต๋า

     

    เอ่อ...เติ้ลไม่ได้มาแอบดูนะครับ แต่เติ้ลจะมาบอกว่าพ่อกับชาชาน่ะ โชคดีทั้งคู่ แหละครับไม่ต้องแย่งกัน “ เจ้าตัวเล็กรีบแก้ตัว ก่อนจะเอามือปิดปากหัวเราะ

     

    มานี่เลยๆ เจ้าตัวแสบ “ เต๋าเดินไปคว้าตัวของลูกขึ้นมาอุ้มแล้วจั๊กจี๋ โดยมีผมช่วย5555 โทษฐานขัดจังหวะชาชาผู้นี้! อุ่ย!ลืมตัว.....ว่าแต่เขินเหมือนกันนะ ( >/////<)

     

    5555555...คุณพ่อหยุดก่อน...ชาชาช่วยด้วย...ชาชา..ช่วยด้วย 55555 ” ตายซะเถอะวะฮะฮ่า!

     

    เต๋าพอแล้ว! เดี๋ยวลูกขาดใจตายกันพอดี “ ช่วยเด็กมันเสียหน่อยแล้วกัน

     

    โอเคๆ พอก็ได้ เจ้าตัวแสบ “ เต๋าปล่อยลูกลงแล้วขยี้หัวด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

    แล้วตกลงที่มาหานี่มาแอบดูใช่ไหมครับ “ ผมย่อตัวลงถาม

     

    เปล่าหรอก...คือมีเรื่องจะบอกชาชาน่ะ แต่.... “ เจ้าตัวเล็กมีท่าทีอ้ำอึ้ง

     

    งั้นเดี๋ยวพ่อมานะไปหาน้ำมาให้ดื่มกัน ชาชาคงหิวน้ำแล้วล่ะ “ เต๋ารู้ว่าลูกชายคงเขินจึงเลือกที่จะแยกตัวออกไปก่อน

     

    ทีนี้อยู่กับชาชาสองคนแล้ว บอกมาสิครับว่ามีเรื่องอะไรจะคุยกับชาชา “

     

    คือว่า....เติ้ล...”

     

    ว่าไงครับ “

     

    เติ้ล...รักชาชานะครับ “ เจ้าตัวเล็กอายม้วนจนแก้มป่องสองข้างแดงไปถึงหู

     

    ชาชาก็รักไตเติ้ลนะครับ “

     

    ขอบคุณนะครับชาชาที่ดูแลเติ้ล “ เจ้าตัวเล็กโผเข้ากอดคอผมแน่น ผมจึงกอดตอบแล้วลูบหลังเด็กน้อยเบาๆ

     

    ชาชาต่างหากที่ต้องขอบคุณไตเติ้ล “

     

    ทำไมล่ะชาชา “ เจ้าตัวเล็กดันตัวออกมามองหน้าผม

     

    เพราะถ้าไม่มีไตเติ้ลชาชาก็คงไม่ได้มาเจอเรื่องดีๆ แบบนี้ไงล่ะครับ “

     

     

     

    ใช่แล้วครับ ถ้าไม่มีเด็กคนนี้ผมก็จะไม่ได้มาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก และก็ไม่มีวันได้เจอคนดีๆ ไม่มีวันได้พบเต๋าและไม่มีวันที่มีความสุขแบบนี้...

     

     

    อ๋อ~ อย่างนี้นี่เอง “ เจ้าตัวเล็กพยักหน้า

     

    อื้ม! “

     

    ชาชาครับ “

     

    ว่าไงครับ “

     

    เติ้ลเพิ่งนึกออก “

     

    เรื่องอะไรครับ “

     

    คือว่ามีคนที่เขาอยากจะบอกขอบคุณชาชาอีกคนหนึ่งด้วยล่ะ “

     

    หา? “ แล้วเจ้าตัวเล็กก็ล้วงอะไรบางอย่างในกระเป๋ากางเกง

     

     

    นี่อย่าบอกนะ! อย่าบอกนะว่าจะ....จะเอามันออกมา...ใช่มันใช่ไหม ใช่เธอหรือเปล่า~ TT^TT ร้องไห้รอเลยคร้าบบ!! บรรยากาศแบบเดิม ความรู้สึกแบบเดิมกลับมาอีกครั้ง มันเหมือนเป็นสัญชาติญาณน่ะครับ ชารู้ชาเห็น!

     

     

    เซบัสเตียนก็อยากของคุณชาชาเหมือนกัน “

     

    นั่นไง! ว่าแล้ว “ โอยๆๆ หน้ามืด

     

    นี่ไง “

     

     

    เจ้าเด็กแสบยื่นเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานมาที่ผม งานนี้ชาชาของลา...ขอลาจริงๆ ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหว! ….. เอ่อทุกคนครับ ผมขออนุญาตเป็นลมแป๊บนะ! คร่อก!....

     

     

    ชาชา! ชาชา!....ชาชาเมาเรือก็ไม่บอก เซบัสเตียนยังไม่ได้ขอบคุณเลย แต่ไม่เป็นไรเอาไว้ไปคุยกันที่บ้านก็ได้ เรายังมีเวลาขอบคุณชาชาไปอีกนานเลย คิคิ~ ”

     

     

    แล้วเจ้าเด็กน้อยก็วิ่งไปตามคุณพ่อที่จนจบเริ่งก็ยังไม่รู้อะไรเลย.....ช่างน่าเศร้าใจนัก ( “=___=)

     

     

    คุณพ่อครับ! “

     

    ว่าไงลูก คุยกับชาชาเสร็จแล้วเหรอ “

     

    ยังครับชาชาเป็นลมไปซะก่อน “

     

    อะไรนะ! เป็นลม? “

     

    ใช่ครับ..สงสัยจะเมาเรือ “

     

    ชา! “ เต๋ารีบวิ่งไปหาเจ้าสาว(?)หมาดๆ ทันที แต่ก็ไม่ลืมหันมาสั่งทุกคนในงานที่กำลังยืนหน้าตาตื่นกันอยู่ “ บอกเขาให้เอาเรือกลับเข้าฝั่งเลย! เมียผมเมาเรือ!! (>O<)/ “

     

     

    (สวัสดี)

     

    ขอบคุณค่ะ

    ขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมากถึงตอนจบ ที่อาจจะไม่ซึ่ง ไม่ประทับใจเท่าไหร่

    แต่ขอยืนยันว่านี่เป็นตอนจบที่อินคิดว่าสมบรูณ์ที่สุดแล้วค่ะ ^^

    ใช้เวลาหลายเดือนกับฟิคเรื่องนี้ ผูกพันธ์กับทั้งตัวละครและคนอ่านทุกคน

    ยังรู้สึกหวิวๆ อยู่เลยที่ใจที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนจบ แต่ก็ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกราใช่ไหมคะ

    ที่ผ่านมาหลายๆ ตอนอาจจะพิมพ์ผิด และผิดพลาดเยอะ ต้องขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ

    และสุดท้ายขอขอบคุณ ขอบคุณอีกครั้งที่อ่านเรื่องที่อินเขียน ขอบคุณทุกคนเลย

    ขอบคุณเต๋าคชาด้วย ที่ทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งเวิ่นได้มากขนาดนี้ 55555

    เจอกันในผลงานเรื่องต่อๆ ไปนะคะ สวัสดีค่ะ ^^

    อินอิน นา
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×