ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    :( เต๋า คชา(yaoi ) ):-Prince cat-รักนายเจ้าชายแมวเหมียว

    ลำดับตอนที่ #9 : Prince cat-รักนายเจ้าชายแมวเหมียว ตอนพิเศษ I

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 55


     

         

     

     

     

     

     

              คนตัวเล็กยืนอยู่ในห้องแต่งตัวเพียงลำพัง สายตาทอดมองภาพสะท้อนจากกระจกเงาแล้วก็รู้สึกใจหายระคนตื่นเต้น ไม่ต้องยกมือเรียวยกขึ้นทาบหน้าอกก็รู้ว่าหัวใจมันเต้นแรงแค่ไหน อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าก็จะถึงเวลาสำคัญในชีวิตแล้ว มันไม่ใช่นาทีที่สำคัญของคชาคนเดียวเพราะมันยังเป็นนาทีที่สำคัญของเต๋าด้วย............

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    .

    ..

     

     

             หลังจากมาถึงนครแมกโนเลียคชาก็แทบจะไม่ได้ออกไปไหนเรียกได้ว่าไม่กล้าแม้แต่จะก้าวออกจากห้องเลยมากกว่า ที่โลกนี้ต่างจากที่ที่คชาจากมามากทั้งการแต่งกาย อาหารการกิน สภาพอากาศ พลังพิเศษของแต่ละคนและที่สำคัญคือธรรมเนียมปฏิบัติของที่นี่ไม่ได้ห้ามให้มีคู่รักต่างเพศ ทุกคนสามารถรักกันได้อย่างเปิดเผยและอิสระ เมื่อคชาเข้ามาพร้อมกับเต๋าทุกคนที่นี่ยิ่งปฎิบัติกับคชาต่างจากคนอื่นๆ มากยิ่งขึ้นไม่ใช่เพราะความสัมพันธ์แบบชายรักชายแต่เป็นเพราะคชาถึอว่าเป็นคนของเต๋าซึ่งเป็นถึงองค์ราชา วันวันหนึ่งคชาก็แทบจะไม่ได้คุยกับใครเลยนอกนอกจากนางกำนันสี่ห้าคนที่คอยอยู่ข้างๆ ตลอดทั้งวัน

     

     

     

     

    ตอนแรกคชาก็คิดว่าจะได้อยู่กับคนในครอบครัวคนอื่นๆ ด้วยแต่เพียงแค่อาทิตย์เดียวพ่อก็ขอกลับเพราะอยากกลับไปทำงานต่อ ทุกๆ คนก็ขอกลับกันหมดทั้งแม่ อาม่า และเค้นท์ที่บ่นคิดถึงคอมพิวเตอร์ทุกวัน คชาจึงต้องอยู่โดยไม่มีเพื่อนสักคน ส่วนเต๋าก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องทำหลายอย่างกว่าจะได้เจอกันก็เฉพาะตอนเช้ากับกลางคืนเท่านั้น

     

     

     

     

    ยังไม่นอนอีกเหรอคชา “ เต๋าเดินเข้ามาสวมกอดคนตัวเล็กที่กำลังยืนมองทิวทัศยามค่ำคืนตรงระเบียง

     

    เต๋า~ ทำงานเสร็จแล้วเหรอ “ คนตัวเล็กพลิกตัวกลับมาเผชิญหน้า

     

    อืม....ชายังไม่นอนอีกเหรอ “

     

    ไม่ง่วงแล้วก็อยากรอ... “ คนตัวเล็กเอานิ้วจิ้มออกแกร่งเบาๆ

     

    รอเต๋าเหรอ? “

     

    “ …..” พยักหน้าตอบรับเบาๆ

     

    น่ารักจัง “ ร่างสูงรวบคชาเข้ามาแนบอก

     

    อื้อ...” ร่างบางปล่อยให้กอดและซุกหน้าลงกับอก

     

    เหงาหรือเปล่าเต๋าไม่ค่อยมีเวลาให้เลย “

     

    ก็....นิดหน่อย “

     

    ขอโทษนะ “

     

    ไม่เป็นไร...ชาเข้าใจว่าเต๋าทำงาน “

     

    ขอบคุณนะที่เข้าใจเต๋า “ มือหนายกขึ้นลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ

     

    อืม “ คชาเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวานให้เต๋า

     

    จูบนะ “ เอ่ยขอแต่คนตัวเล็กไม่ทันที่จะบอกอนุญาตร่างสูงก็ช่วงชิงเอาลมหายใจไปจนหมดสิ้น

     

     

     

    ......................................................................

     

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้นคชาลืมตาตื่นขึ้นมาพบว่าคนข้างๆ นอนกอดตัวเองอยู่เหมือนเช่นทุกวัน คนตัวเล็กพลิกตัวหันมาปลุกอีกคนให้ลุกขึ้นไปทำงาน

     

     

     

    เต๋าตื่นเถอะครับเช้าแล้วนะ “

     

    อื้ม~ “ ครางตอบรับนิดหน่อยก่อนจะนอนนิ่งเหมือนเดิม

     

    เต๋าฮวยจ๋าตื่นนะครับ “ มือเล็กยังพยายามที่จะเขย่าตัวให้ร่างสูงตื่น

     

    อืม.....”

     

    ต๋าว!...“ พอเรียกอีกครั้งก็ถูกดึงให้ลงไปนอนอยู่บนอก

     

    ไม่อยากตื่นเลย “ ร่างสูงปรือตาขึ้นมามองใบหน้าสวยที่อยู่ใกล้เพียงนิดเดียว

     

    มีงานต้องทำนะ เดี๋ยวก็โดนว่าเอาหรอก “

     

    ใครจะกล้าว่าราชารูเซียกันฮึ! “

     

    ก็ชาไง! ชาเป็นเจ้านายเต๋านะ “

     

    ชาเป็นเจ้านายงั้นเหรอ “

     

    อืม “ คนตัวเล็กยิ้มน้อยๆ

     

    งั้นถ้าไปทำงานแล้วได้อะไรตอบแทนล่ะ “ คนเจ้าเล่ห์ยิ้มกริ่ม

     

    อืม....ไม่มีหรอก “

     

    มีสิ “

     

    อย่ามายิ้มแบบนี้นะ! “

     

    ยิ้มแบบไหนเหรอ.... “

     

    ยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้ไง “ มือเล็กดึงแก้มทั้งสองข้างของร่างสูงด้วยความหมั่นไส้

     

    เจ็บนะชา....อย่างนี้ต้องเก็บค่าจ้างซะแล้ว “

     

    เต๋า!! ….อย่านะ! “ เต๋าไม่ฟังเสียงห้ามแม้แต่นิด พลิกร่างตัวเองให้อยู่เหนือร่างบางทันที

     

    จะทำอะไร... ไม่ยอมทำงานเดี๋ยวประชาชนก็ไม่รักหรอก” มือสองข้างดันอกแกร่งไว้ไม่ให้เข้าใกล้ได้มากกว่านี้

     

    ก็บอกไปแล้วว่าจะเก็บค่าจ้าง “ ร่างสูงโน้มตัวลงมาแนบชิดพร้อมทั้งตรึงมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กไว้เหนือหัว

     

    ไม่ได้นะ.....”

     

    หึหึหึ! “

     

    เต๋าฮวย....อื้อ~ “

     

     

     

     

    หลังจาก 'เก็บค่าจ้าง' จากเจ้านายเรียบร้อยคนตัวสูงก็ปล่อยให้เจ้านายนอนหลับพักผ่อนส่วนตัวเค้าก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพราะวันนี้มีประชุมก่อนจะเดินทางออกไปดูงานที่ฝายกั้นน้ำที่หัวเมืองในตอนเย็น

     

     

     

     

    กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงเหล่านางกำนันเข้ามาปรนิบัติจับคชาอาบน้ำแต่งตัวทำราวกับเค้าเป็นเด็กๆ แต่คชาก็ชินเสียแล้วตอนนี้ เพราะถึงแม้จะปฏิเสธไปยังไงก็ไม่ได้อยู่ดี เหล่านางกำนันก็เอาแต่อ้างว่าองค์ราชาสั่งไว้ถ้าไม่ทำตามพวกนางจะโดนลงโทษคชาจึงต้องยอมทำตาม

     

     

     

     

    ทำไมถึงต้องใสชุดนี้ล่ะครับ “ คชามองชุดที่เหล่านางกำนันจัดให้งงๆ เพราะชุดวันนี้มันดูค่อนข้างเป็นทางการกว่าทุกครั้ง

     

    องค์ราชาทรงรับสั่งให้จัดเตรียมชุดเพื่อเสด็จออกนอกวังเพคะพระชายา “

     

    ไปนอกวังเหรอครับ “

     

    เพคะ “

     

    พอจะรู้มั๊ยครับว่าไปที่ไหน “

     

    วันนี้องค์ราชาจะทรงเสด็จป่าต้นน้ำที่หัวเมืองเพคะ “

     

    ขอบคุณนะครับ “ คชายังคงรู้สึกงงอยู่นิดหน่อยเพราะไม่คิดว่าจะได้ตามไปดูงานกับเต๋าด้วย

     

     

    ..........................................................

     

     

     

    รถม้าเคลื่อนตัวออกไปเรื่อยๆ คนตัวเล็กนั่งมองทิวทัศน์สองข้างอย่างไม่รู้จักเบื่อเพิ่งรู้ว่าธรรมชาติภายนอกปราสาทจะสวยงามและบริสุทธิ์ขนาดนี้ มือเล็กนุ่มนิ่มทำหน้าที่เกาคางให้เจ้าแมวตัวโตที่กำลังหลับอุตุ

     

     

     

    เต๋าหลับตาพริ้มปล่อยให้คชาเกาคางอย่างไม่ถือสาและหลับอย่างเป็นสุขบนตักของคนรักไม่เหลือคราบองค์ราชาผู้หน้าเกรงขามสักนิด ต่อหน้าคชาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เต๋าจะยอมปล่อยตัวปล่อยใจเป็นอิสระได้

     

     

     

     

    จวบจนบ่ายคล้อยทั้งคณะก็ถึงที่หมายเหล่าข้าราชบริพารที่เดินทางล่วงหน้ามาก่อนได้จัดเตรียมที่พักไว้ให้องค์ราชากับพระชายาเรียบร้อยแล้ว เมื่อลงมาจากรถม้าเต๋าก็แยกออกไปดูงานที่ฝายต้นน้ำทันทีแต่ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะสั่งคนรักเอาไว้

     

     

     

     

    ชารออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวค่ำๆ เต๋าจะกลับมากินข้าวด้วย “

     

    ได้สิ~ ตั้งใจทำงานนะชาจะรอ “

     

    ครับ “ เต๋ายิ้มรับก่อนที่จะออกเดินทาง

     

    คงจะมีเพียงพระชายาเพียงพระองค์เดียวนะเพคะที่ทรงทำให้องค์ราชาแย้มพระโอษได้

     

    “ หัวหน้านางกำนันบอกกับคชาเมื่อเต๋าจากไปแล้ว

     

    ทำไมล่ะ? “ คชาถามอย่างสงสัย

     

    ก็หม่อมชั้นไม่เคยเห็นองค์ราชาแย้มพระโอษแบบนี้สักครั้งเลยเพคะ “

     

    อย่างนั้นเหรอ “ คนตัวเล็กตอบรับอย่างแปลกใจ ก็คนอย่างเต๋าน่ะเหรอไม่ค่อยยิ้มทำไมเวลาอยู่กับเค้าถึงได้ยิ้มบ่อยนักล่ะ

     

     

     

    เมื่อพลบค่ำคณะของราชารูเซียก็กลับมาถึงที่ประทับ …...

     

     

     

    เหนื่อยมั๊ยเต๋า “ คชาเดินถือผ้าชุบน้ำผืนบางรี่เข้ามาเช็ดหน้าให้คนรักอย่างขมักเขม้น

     

    เหนื่อยสิ... “ ร่างสูงพยักหน้ารับและปล่อยให้คนตัวเล็กเช็ดหน้าซับเหงื่อให้ต่อไป

     

    งั้นนั่งพักให้หายเหนื่อยก่อนนะ เดี๋ยวเราค่อยกินข้าวกัน “

     

    ถ้านั่งพักอย่างเดียวมันไม่หายเหนื่อยจะทำไงล่ะ “

     

    ไม่...รู้สิ “ มือเล็กหยุดเคลื่อนไหว เมื่อได้ยินเต๋าพูดแบบนี้คชาก็พอจะเดาทางได้ว่าอีกคนจะทำอะไร

     

    ขอหอมหน่อยได้มั๊ย “ คนตัวสูงเอ่ยขอออกมาง่ายๆ

     

    เอ่อ.....ไม่ได้หรอกคนอยู่เยอะแยะ “ คชาก้มหน้างุดรู้สึกอายที่เต๋าพูดแบบนี้กับตนต่อหน้าธารกำนัน

     

    ได้ยินแล้วก็ออกไปสิ! “ เต๋าหันไปสั่งนางกำนันทุกคนจึงรีบออกไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นคนร่างบางก็ถูกรวบเข้ามากอดและบังคับให้นั่งบนตัก

     

    เต๋า!! ทำงั้นทำไม....เค้าออกไปกันหมดเลยเห็นมั๊ย “ มือเล็กหยิกไปที่แขนแกร่งหนึ่งทีแต่คนตัวสูงก็ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไร

     

    หรือคชาอยากให้เต๋าทำอย่างนี้เวลาอยู่ต่อหน้าพวกนั้น “ พูดจบแก้มนิ่มก็ถูกหอมเข้าเต็มรัก

     

    ต๋าว....”

     

    อยากให้คนอื่นเห็นเหรอแบบนี้น่ะ “ พูดจบอีกคำก็ฉกไปที่แก้มนิ่มอีกข้างก่อนจะไล้ริมฝีปากไปขบเม้มที่ติ่งหูเบาๆ

     

    อื้อ!~ ต๋าวว.... อย่า..“

     

    อย่าดิ้นสิ! “ ออกคำสั่งอีกคำก่อนจะปลดกระดุมเสื้อของคนตัวเล็กและไล่ซุกไซ้มาที่ต้นคอขาว

     

    ไม่เอานะเต๋า....เดี๋ยวใครก็เข้ามาเห็นพอดะ.ดี...อือ....เมื่อเช้ายังไม่พออีกหรือไง ” มือเล็กพยายามปัดป้องดันใบหน้าหล่อออกจากลำคอของตัวเองสุดฤทธิ์

     

    ไม่พอ “ เงยหน้าขึ้นมาบอกสั้นๆ หนึ่งคำแล้วก็ก้มลงจูบดูดดื่มร้อนแรงจนคนตัวเล็กเผลอคล้อยตาม

     

    ขออนุญาต......เออ...ขอประทานอภัยพะย่ะค่ะ “ องครักษ์หนุ่มเดินเข้ามาขัดจังหวะได้พอดิบพอดี

     

    มีอะไรเจมส์!! “ ร่างสูงหันมาถามอย่างอารมณ์เสีย ส่วนคชาก็รีบผละออกจากอ้อมกอดของเต๋าแล้วเข้าไปจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อยข้างหลังม่าน

     

    เอ่อ...หม่อมชั้นจะมาบอกว่าหม่อมชั้นเตรียมม้าให้พระองค์เรียบร้อยแล้วพะย่ะค่ะ “ เจมส์บอก

     

    จะมาบอกเรื่องแค่นี้เนี๊ยนะ! “

     

    พะย่ะค่ะ “ เจมส์พยักหน้ารับ

     

    เข้าใจแล้ว....จะออกไปไหนก็ไป!! “

     

    หม่อยชั้นทูลลา “ เจมส์รีบถอยออกจากที่ประทับไปอย่างรวดเร็ว

     

    เฮ้อ~ “ เต๋าถอนหายใจอย่างอารมณ์เสียแต่ก็นึกขำใบหน้าของคนรักตอนตกใจและท่าทางเร่งรีบหลบฉากออกไปเมื่อกี๊ไม่หาย

     

     

     

    ..............................................................

     

     

     

    หลังจากเหตุการณ์เมื่อครู่ผ่านไปเต๋าก็พาคชาออกมาทานอาหารค่ำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอคชาเห็นเจมส์ก็แอบหลบหลังเต๋าโดยไม่รู้ตัว เมื่อทานอาหารค่ำเสร็จเรียบร้อยคชาก็เตรียมตัวกลับเข้าไปในที่พักแต่เต๋าห้ามไว้ก่อน

     

     

     

    เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป “

     

    มีอะไรเหรอเต๋า “

     

    มานี่สิ “ บอกพลางดึงมือคนรักมาที่ม้า

     

    จะไปไหนเหรอ “

     

    เจ้าไปเอาผ้าคลุมกันลมมาให้พระชายาซิ! “ เต๋าหันไปสั่งนางกำนันคนหนึ่งแทนแล้วทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินที่คชาถาม

     

    เพคะ “ นางกำนันวิ่งหายเข้าไปในที่ประทับไม่นานก็กลับออกมาพร้อมผ้าคลุมไหล่กันลมผืนใหญ่ เต๋ารับผ้ามาแล้วคลุมลงบนไหล่บาง

     

    จะพาไปไหนเหรอเต๋า “ คชาถามอีกครั้ง

     

    เอาน่าเดี๋ยวก็รู้ “ เต๋ากระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังม้าสีขาวตัวใหญ่ก่อนจะจับมือคชาแล้วฉุกให้ขึ้นมานั่งด้วยกัน

     

    บอกหน่อยสิ...ว่าจะไปไหน “ คนตัวเล็กหันมาอ้อนอีกครั้ง

     

    ไม่บอกหรอกไม่ต้องมาอ้อนเลย “

     

    งื้อ~ เต๋าฮวยบ้า! “ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมบอกจริงๆ ก็หันหน้ากลับมาแล้วบ่นเบาๆ

     

     

     

     

    เต๋าควบม้าออกไปตามเส้นทางเล็กๆ ทั้งสองข้างทางมีแต่ต้นไม้ใหญ่คชามองไปมาอย่างตื่นเต้น ไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำไหลคาดว่าข้างหน้าคงจะมีลำธารอยู่เป็นแน่ เดินทางต่อมาได้อีกซักระยะร่างสูงก็หยุดและกระโดดลงจากหลังม้า

     

     

     

    ถึงแล้วเหรอ “ คนตัวเล็กถาม

     

    “ ….........” มีเพียงรอยยิ้มที่ส่งกลับมาแทนคำตอบ

     

     

     

    ร่างสูงอุ้มร่างเล็กลงมาจากหลังม้าแล้วจูงมือพาให้เดินตามมาตรงทางที่แคบลง นี่คงเป็นสาเหตุที่ต้องลงจากหลังม้าเพราะหนทางข้างหน้าค่อนข้างลำบากแต่ก็เป็นเพียงช่วงระยะสั้นๆ พอสุดทางตรงป่าทึบนั้นแล้วเต๋าก็หยุดเดินทำให้คนที่มุ่งมั่นในการเดินมาเบรกไม่ทันและชนเข้ากับแผ่นหลังของอีกคนเข้าอย่างจัง

     

     

     

    โอ้ย! เจ็บจัง “ คนตัวเล็กลูบหน้าของตัวเองเบาๆ “ หยุดทำไมล่ะเต๋า “

     

    ดูนี่สิ “ ร่างสูงเบี่ยงตัวให้คนตัวเล็กเห็นภาพตรงหน้า

     

     

     

    ภาพเบื้องหน้าทำให้คนตัวเล็กแทบจะอ้าปากค้าง ลานกว้างครึ่งวงกลมมีน้ำตกและผาสูงเป็นฉากหลังตรงกลางแอ่งน้ำมีเกาะกลางขนาดย่อมที่มีต้นไม้ต้นใหญ่ขึ้นอยู่เพียงต้นเดียวและต้นไม้ต้นนั้นกำลังเรืองแสงระยิบระยับราวกับติดไปคริสมาสต์

     

     

     

     

    สวยจัง “ คชามองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตา

     

    มานี่สิ “ เต๋าจูงมือคชาให้เดินข้ามสะพานไม้เล็กๆ เพื่อไปยังเกาะกลางแห่งนั้น คนตัวเล็กก้มลงมองผืนน้ำเบื้องล่างที่ใสราวกับกระจก

     

     

     

     

    เมื่อเดินมาหยุดใต้ต้นไม้ใหญ่เต๋าก็ปล่อยมือคชาเพื่อท่องมนต์อะไรบางอย่าง แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงดนตรีจากที่ไหนสักแห่งขับกล่อมดังระงมไปทั่วบริเวณ

     

     

     

    ทำได้ไง~ “ คชามองไปรอบๆ แล้วถามออกมาอย่างแปลกใจ

     

    หึ! “ เต๋ายิ้มให้กับท่าทางน่ารักของคนตัวเล็ก “ คชา “

     

    หืม... “ คนละความสนใจจากสิ่งรอบข้างแล้วหันมาหาเต๋า

     

    คชาคะ “ เต๋าดึงมือของคนตัวเล็กขึ้นมาจับไว้ แล้วมองเข้าไปในดวงตาคู่สวย

     

    คะ “ คชามองตอบดวงตาคม นึกแปลกใจว่าเต๋าจะทำอะไร

     

    จะยอมอยู่กับเต๋าตลอดไปได้ไหม...อยู่ด้วยกันตลอดไป “

     

    “ …อยู่ด้วยกันตลอดไป..........”

     

    คชาจะอยู่เป็นคู่ชีวิตของเต๋าตลอดไปได้ไหม “

     

    คู่ชีวิต.....”

     

    อยู่เป็นเจ้าชีวิต.....คู่ชีวิตของเต๋านะ “

     

    อื้ม...คชายอมอยู่เป็นคู่ชีวิตของเต๋าตั้งนานแล้ว “ คนตัวเล็กพยักหน้าแล้วยิ้มทั้งน้ำตา

     

     

     

     

    คำพูดที่ตอบกลับมาของคนตัวเล็กจุดรอยยิ้มสว่างไสวขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา หลังจากนั้นทั้งบริเวณก็เกิดแสงกระพริบคล้ายๆ หิ่งห้อยบินไปทั่วก่อนแสงดวงเล็กเหล่านั้นจะมารวมกันเป็นดวงเดียวตรงกลางระหว่างคนทั้งคู่ แสงไฟดวงงามที่ส่องสว่างไม่อาจทำให้สายตาที่เชื่อมกันระหว่างคนทั้งคู่ถอดถอนไปได้

     

     

     

     

    เต๋ารักคชานะคะ “

     

    คชาก็รักเต๋าเหมือนกันค่ะ “

     

     

     

    ดวงไฟตรงหน้าคล้อยต่ำลงมาสัมผัสบนมือของของคนทั้งสอง มันแปลสภาพกลายเป็นเชือกถักเกลียวเส้นเล็กก่อนจะพันธนาการเข้ากับนิ้วนางข้างซ้ายของทั้งคู่ เป็นสายใยที่เชื่อมโยงคนทั้งคู่เข้าหากันก่อนจะหายไปหลงเหลือไว้เพียงลายสลักเหมือนแหวนที่จะติดตรึงอยู่บนนิ้วนั้นตลอดไป

     

     

     

    เมื่อกระบวนการแห่งมนต์วิเศษจบสิ้นลงเต๋าก็โน้มหน้าเข้าไปมอบจุมพิศแสนหวานที่ตราตรึง พันผูก และหลอมรวมจิตวิญญาณแห่งรักแท้เป็นดั่งคำปฏิญาณสัญญาว่าจะมีเพียงคนคนนี้คนเดียวตลอดไป.........

    .

    .

    .

    .

     

    .

    .

    .

    .

    .

    .

     

    .

    .

     

    องค์ราชินีได้เวลาแล้วเพคะ “ เสียงของนางกำนันปลุกให้คชาตื่นขึ้นมาจากความคิดคำนึงถึงเหตุการณ์เมื่อวันนั้น 'วันที่ทั้งแต่งงานกับเต๋า'

     

     

     

     

    คชาไม่รู้มาก่อนว่าที่โลกแห่งนี้เค้ามีธรรมเนียมการปฏิบัติเช่นไร ไม่รู้มาก่อนว่าการที่จะแต่งงานกับผู้ที่เป็นราชาของอาณาจักรต้องเข้าไปทำพิธีกรรมอย่างเช่นวันนั้น พิธีกรรมสำคัญที่จะติดตรึงอยู่ในความทรงจำของคชาไปจนชั่วชีวิต

     

     

     

     

    แม้ต่อเนื่องจากวันนั้นก็ถือว่าเต๋าและคชาเป็นคู่ชีวิตของกันและกันอย่างสมบรูณ์ แต่พิธีในวันนี้ก็เป็นอีกพิธีที่สำคัญมากเช่นกันเพราะมันเป็นตัวกำหนดถึงรัชทายาทในอนาคตของคนทั้งคู่ ถ้าคชาผ่านพิธีนี้ไปไม่ได้ชาวเมืองก็ไม่อาจยอมรับได้

     

     

     

     

    คชาเดินตามนางกำนันไปยังรถม้าเพื่อเดินทางต่อไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใจกลางเมือง ระหว่างทางชาวเมืองต่างพากันมาคอยรับเสด็จราชินีองค์ใหม่ เสียงกล่าวสรรเสริญดังระงมเซ็งแซ่ ธงเล็กๆ โบกสะบัดไปทั่วตลอดทางที่รถม้าของราชินีเคลื่อนผ่าน หัวใจดวงน้อยตื่นเต้นจนบอกไม่ถูกใครจะคิดว่าในชีวิตหนึ่งของคนธรรมดาจะเกิดมาพบกับเหตุการณ์อะไรแบบนี้

     

     

     

     

    เมื่อมาถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านักเวทก็เชิญเสด็จองค์ราชินีไปยังแท่นบูชา เวทต่างๆ ถูกร่ายออกมาอย่างต่อเนื่องเนิ่นนานจนผ่านมาถึงขั้นตอนสุดท้าย หัวหน้านักเวทย์เฮมอสเมอร์ลินผู้ซึ่งเป็นพระอาจารย์ขององค์ราชาเดินมาหยุดตรงหน้าแล้วยืนธนูกับลูกศรให้คชาหนึ่งดอก

     

     

     

     

    ขอให้องค์ราชินีจงประสบโชคที่ดี “ เอ่ยคำอวยพรสั้นๆ พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนก่อนจะถอยหลังไปปล่อยให้คชายืนอยู่กลางลานพิธีเพียงลำพัง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงสั่นไหว ที่ได้ศึกษามาก่อนหน้านี้คชารู้ว่าตัวเองต้องใช้ธนูยิงนกที่บินอยู่ในข่ายอาคมเวทบนท้องฟ้าลงมาให้ได้เพื่อทำนายและร่ายเวทการมีบุตร

     

     

     

    ก่อนหน้านี้เต๋าก็ช่วยฝึกให้คชายิงธนูเป็นแล้ว คชาเฝ้าฝึกซ้อมยิงลูกน้ำเต้าซึ่งแขวงไว้บนต้นไม้แทนนกทุกวันจนชำนาญ คนตัวเล็กหันไปมองคนรักที่นั่งให้กำลังใจตัวเองอยู่ไม่ไกล

     

     

     

    ต้องทำเพื่อเต๋า....ต้องทำเพื่อเต๋า “ คชาท่องไว้เตือนใจก่อนจะง้างธนูและเล็งไปที่นกตัวหนึ่ง

     

     

     

    แต่พอเห็นว่ามันบินไปบินมาหาทางออกคชาก็เริ่มไม่แน่ใจ เค้าไม่กล้าพอ.....ไม่กล้าทำร้ายมัน เมื่อคันธนูถูกลดลงก็เกิดเสียงพูดคุยระงมดังไปทั่วบริเวณ คชาหันไปมองหน้าเต๋าอีกครั้งก็พบว่าเต๋ายังคงยิ้มอ่อนโยนมาอย่างให้กำลังใจ

     

     

     

    ผมตัดสินใจแล้วครับ “ คชาหันไปบอกกับเฮมอสเมอร์ลิน

     

    ว่ายังไงขอรับองค์ราชินี “

     

    ผมยิงมันลงมาไม่ได้ “ คชายื่นคันธนูคืนให้

     

    ทำไมล่ะพระองค์ “

     

    มันเป็นสิ่งมีชีวิต...ผมไม่อยากให้ลูกต้องเกิดมาพระการเบียดเบียนชีวิตของใครก็ตาม “

     

    แม้ว่ามันจะเป็นนก? “

     

    ใช่!...แม้ว่ามันจะเป็นนก “ คชากำลังจะเดินออกจากลานพิธีท่ามกลางเสียงวิภาควิจารณ์

     

     

    แต่ทันใดนั้นก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้นเมื่อนกนางนวลตัวหนึ่งบินลงมาเกาะที่แขนขององค์ราชินี คนตัวเล็กมองมันนิ่งด้วยความงุนงงและจู่ๆ นกตัวนั้นก็กลายร่างเป็นแผ่นกระดาษหนึ่งแผ่น คชาหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นมามองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะยื่นให้เฮมอสเมอร์ลิน

     

     

     

    ชีวิต!!! “ ผู้เฒ่าตะโกนก้องเมื่อก้มลงอ่านจบ

     

    เฮ!!!!~ สำเร็จแล้ว “ เสียงผู้คนโห่ร้องอย่างดีใจ

     

    มันเกิดอะไรขึ้น “ คชาหันไปมองนักเวทผู้เฒ่าอย่างไม่เข้าใจ

     

    ท่านเป็นราชินีที่สมบรูณ์ด้วยความเมตตาของท่าน “ ผู้เฒ่าโค้งคำนับให้กับคชาหนึ่งครั้งก่อนจะหลีกทางให้องค์ราชาแทรกผ่านมาหาตัวคนรัก

     

    เต๋า! สำเร็จแล้วเหรอ “ คชาถามคนรักอย่างมึนงง

     

    สำเร็จแล้ว! เก่งมากๆ เลยคนดี “ เต๋ากอดคนตัวเล็กแน่น

     

    ได้ไง? ชาไม่ได้ทำอะไรเลย “ คชาก็ยังคงมึนงงอยู่ดี

     

    ไม่ต้องกังวลอะไรแล้วนะชา ชาเป็นราชินีของเต๋าอย่างสมบรูณ์แล้วนะ “

     

    อื้อ~ “ คนตัวเล็กยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ คิดว่าตัวเองจะเป็นสาเหตุทำให้เต๋าต้องลำบากเสียแล้ว

     

    กลับกันเถอะเนอะ “ เต๋าอุ้มคชาขึ้นมาแล้วเดินไปที่รถม้า

     

    เต๋า!! ไม่ต้องอุ้มหรอก ชาเดินเองได้ “

     

    ต้องอุ้มสิ! ต้องดูและดีๆ หัดไว้ไงเผื่อท้องไส้ขึ้นมาทำไง “

     

    บ้าแล้ว!! “

     

    ไม่ได้บ้านะ..ก็ท้องได้แล้วจริงๆ นี่ “

     

    บ้าๆๆๆ “

     

    ไม่เชื่อเดี๋ยวจะพิสูจน์ให้ดูมั๊ย “ ร่างสูงยิ้มกริ่ม

     

    ไม่เอา!! ไม่พิสูจน์แล้ว...พิสูจน์ทีไรเป็นเรื่องทุกที “

     

    เอาน่าของแบบนี้มันต้องพิสูจน์ “ ร่างสูงวางคนตัวเล็กลงในรถม้าก่อนจะเข้าไปแล้วปิดล็อคประตูแน่นหนา

     

    ต๋าวฮวย!!!!!!

     

     

    ...............................................................................................................

    สวีสดีค่ะ

    ตอนพิเศษตอนที่ 1 เรียบร้อยแล้ว งงกันหรือเปล่า เข้าใจกันหรือเปล่าคะ ถ้างงก็ถามได้นะอินกลัวว่ารวบเป็นแบบนี้แล้วจะงงกันอ่ะ  รอตอนต่อไปนะคะ ตอนพิเศษตอนหน้าขอแง้มว่ามีฉาก..... (-.,-).....รออ่านเด้อ 5555

     

    ขอบคุณทุกคนที่ตามกันมาถึงตอนนี้แม้จะลงช้าไปอะไรไปก็ยังเข้ามาอ่านกัน  ช่วงนี้อินเปิดเรียนแล้วอาจจะไม่ค่อยได้ลงบ่อยเหมือนตอนปิดเทอมต้องขอโทษด้วยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×