คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Prince cat-รักนายเจ้าชายแมวเหมียว IV
หลังจากกลับมาจากไปซื้อของคชาก็พาตัวเองขึ้นไปบนห้องทันทีโดยที่มีเต๋าตามไปติดๆ ตลอดทางที่กลับมาบ้านทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันเหมือนกับตอนไปต่างคนก็ต่างตกอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง คชานั่งทบทวนถึงความรู้สึกที่มีต่อเจ้าชายว่าด้วยเหตุใด เพราะอะไรถึงคอยแต่จะทำตามที่อีกฝ่ายบอก ทำไมถึงไม่โกรธหรือโมโหที่ถูกกระทำรุนแรงอย่างไร้ซึ่งเหตุผล และยิ่งแปลกใจในตัวเองมากที่สุดคือการที่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามและหวั่นไหวไปกับรสสัมผัสที่อีกคนมอบให้ราวกับต้องมนต์สะกด พอฉุกคิดมาถึงตรงนี้ในใจก็พลันเกิดความรู้สึกกลัวขึ้นมา
ที่ว่ากลัวไม่ใช่ว่ากลัวเรื่องเวทมนต์ลี้ลับจากใครอีกคน แต่สิ่งที่คชากลัวคือ หัวใจของตัวเอง กลัวว่ามันจะถูกสั่งให้เต้นในจังหวะที่เปลี่ยนไป...........
เมื่อเข้ามาในห้องคชาก็เดินไปนั่งที่โต๊ะหนังสือและนิ่งเงียบไปเป็นเวลานานจนใครอีกที่ตามเข้ามาอดรนทนไม่ไหว รู้สึกร้อนรนจนยากจะอธิบายคิดว่าคนตัวเล็กไม่พอใจและกับเรื่องที่ตนทำลงไป เจ้าชายไม่ชอบเลยที่ต้องมาตกอยู่ในสถานะการณ์อย่างนี้ดูเหมือนคชาจะโกรธจริงๆ เพราะตั้งแต่ได้พบกับคนตัวเล็กและถูกช่วยเอาไว้ยังไม่เคยมีวันไหนที่เห็นคชานิ่งเงียบบึ้งตึงอย่างนี้มาก่อน
เมื่อมานั่งคิดๆ ดูแล้วคนอย่างเจ้าชายรูเซียยังไม่เคยมีสักครั้งที่ต้องมานั่งกังวลและห่วงความรู้สึกของใครอย่างนี้ จะทำเป็นนิ่งซะไม่ต้องสนใจหรือใส่ใจกับท่าทางของคนตัวเล็กก็ไม่ได้ เพราะใจมันคล้ายจะโดนดึงดูดไปที่คนคนนี้ทุกทีไป
..............เห็นทีข้าคงต้องทำอะไนซักอย่าง....................
เมื่อคิดได้ดังนั้นร่างสูงก็เดินตรงไปหาคชา คนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดมีหรือจะรู้ตัวว่าใครเดินมาหยุดอยู่ข้างหลัง ในขณะที่นั่งจิตใจเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คชาก็ถูกใครบางคนโน้มตัวลงมาโอบกอดมาจากทางด้านหลัง ด้วยความตกใจคิดจะขัดขืนแต่ใบหน้าหล่อก็ซุกไปที่ท้ายทอยก่อนจะเลื่อนลงมาเกยที่หัวไหล่เสียก่อน
" คชา " เสียงทุ้มเรียกคนตัวเล็กแผ่วเบา
" หืม....." คนตัวเล็กตอบรับ
" เจ้าโกรธข้าหรือไม่ " ขณะที่ถามใบหน้าหล่อก็คลอเคลียอยู่ที่หัวไหล่มน
" .....ไม่รู้สิ " ที่บอกว่าไม่รู้เพราะคชาไม่รู้จริงๆ ว่าอารมณ์ที่เป็นอยู่นี้ควรจะเรียกว่าโกรธได้หรือไม่ ความรู้สึกมันคล้ายจะน้อยใจมากกว่าที่ร่างสูงไม่ยอมรับฟังตน
" อย่าโกรธข้าเลยนะ ไม่สิ! ต้องบอกว่าอย่าโกรธเต๋าเลยนะ " น้ำเสียงที่เคยเผด็จการตอนนี้มันฟังดูคล้ายกับกำลังอ้อนวอน ส่งผลให้คชาใจอ่อนยวบ
" ความจริง.....ก็ไม่ได้โกรธอะไรเต๋าหรอก "
" จริงหรือเปล่า "
" อืม.....ไม่โกรธ แต่...."
" แต่อะไรเหรอ " ร่างสูงหมุนเก้าอี้ให้คชาหันมาเผชิญหน้า ก่อนจะนั่งคุกเข่าลงให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกัน
" เอ่อ....." เมื่อต้องมาเผชิญกับดวงตาสีเข้มคู่นี้คชาก็เริ่มจะไปไม่ถูก
" หืม ว่ายังไงล่ะ "
" แค่ต่อไป.... อยากให้เต๋าฟังเสียงคชาบ้าง อยากให้ฟังสิ่งที่คชาจะพูด อย่าใช้แต่อารมณ์ได้มั้ย " ดวงตาคู่สวยช้อนมองอีกคนอย่างขอความเห็นใจ
" ขอแค่คชาไม่โกรธ " ใบหน้าหล่อเลื่อนเข้าไปใกล้เพื่อเลียที่ริมฝีปากเล็กและกดจูบเบาๆ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหู " เต๋าก็พร้อมจะทำตามที่คชาขอทุกอย่าง "
" ตะ.....ต๋าว " แก้มนวลขึ้นสีแดงเรื่อดูน่ารัก
" ครับ " เต๋ายิ้มให้คชา
" ไม่ได้อยู่ในร่างแมวแล้วนะ จำไม่ได้หรือไง " คนตัวเล็กบอกก่อนจะก้มหน้างุดอย่างขวยเขิน
" ไม่ได้อยู่ในร่างนั้นก็ดีแล้วนี่ เวลาทำอะไรๆ จะได้สะดวก " จากที่คุกเข่าก็ทรุดนั่งลงกับพื้นแล้วกอดโดยใบหน้าซุกไซ้อยู่ที่กลางลำตัวของร่างบางคล้ายกับแมวน้อยเวลาออดอ้อน
" ต๋าวฮวย!! อย่านะ จั๊กจี๋ "
" เจ้าชีวิตของเต๋าฮวย " ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งยุให้ร่างสูงแกล้งซุกไซ้มากขึ้น
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า โอ้ย!! ไม่ไหวแล้ว หยุดนะต๋าว!! หยุด! " คชากอดร่างสูงเอาไว้เพื่อให้หยุดก่อนที่จะหัวเราะจนขาดใจตาย
" หยุดก็ได้ " ร่างสูงนิ่งลง " แต่ขออยู่อย่างนี้ก่อนได้มั้ย "
" .......อืม "
คนตัวเล็กนั่งบนเก้าอี้ลูบผมหยักโศกเบาๆ โดยที่มีร่างสูงนั่งกับพื้นกอดเอวแล้วซบหน้าลงบนตักราวกับลูกแมวแสนเชื่องตัวน้อยๆ ไม่เหลือคราบให้คิดว่านี่คือเจ้าชายเลยสักนิด แต่ใครเลยจะได้เห็นมุมนี้ของเค้านอกจาก คชา
หนุ่มน้อยที่กุมหัวใจของเจ้าชายรัชทายาทเอาไว้ทั้งดวง.............
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเรียกให้เวลาที่เสมือนถูกหยุดเอาไว้กลับคืนมา คชาดันให้ร่างสูงถอยห่างก่อนจะลุกไปรับโทรศัพท์มือถือ
“ ฮัลโหล~ ว่าไงเบน “
“ คชา!! อยู่ที่ไหนน่ะเบนกับบอสรอนานแล้วนะ “ เสียงเพื่อนถามทันทีที่ได้ยินเสียงเพื่อน
“ เบน....ชาขอโทษนะ พอดีชาลืมบอกว่ามีธุระน่ะเลยกลับมาก่อน “ คชาแก้ตัว
“ อ้าวเหรอ~ “
“ ขอโทษนะเบน “ บอกอย่างรู้สึกผิด
“ มีธุระก็ไม่เป็นไร แต่คราวหลังอย่าลืมบอกด้วยนะบอสมันเป็นห่วงจะแย่แล้วเนี้ย “
“ โอเคๆ ฝากขอโทษบอสด้วยนะ “
“ อืมๆ งั้นแค่นี้ก่อนนะ “
“ อืม “ คชารับคำก่อนวางสายไป
คชาเดินเอาโทรศัพท์ไปเก็บในขณะที่เต๋าก็ลุกย้ายที่มานั่งที่เตียงแทน ร่างสูงนั่งมองคนตัวเล้กเดินดุกดิ๊กไปมาในห้องจนเวียนหัวเหมือนกับคชากำลังหาอะไรบางอย่าง
“ คชาหาอะไรหรือเปล่า “
“ ที่ชาร์ตแบตเต๋าเห็นมั้ย “
“ มันคืออะไร “
“ เอ่อ...ลืมไปเลยว่าไม่รู้จัก ขอโทษที “ คนตัวเล็กนึกขึ้นได้ว่าเต๋าไม่รู้จักสิ่งของหลายอย่างที่อยู่ในโลกนี้
“ ขอโทษทำไม “
“ ก็ลืมไปว่าเต๋าไม่รู้จัก ชาไม่น่าถามเต๋าเลย “
“ เรื่องแค่นี้คชาต้องขอโทษเต๋าด้วยเหรอ “ ร่างสูงถามอย่างแปลกใจ ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะขี้เกรงใจขนาดนี้
“ อืม “ คชาพยักหน้าน้อยๆ “ อยู่นี่ไง!~ เจอแล้ว “ คชาหยิบสายชาร์ตมาเสียบโทรศัพท์
“ นี่น่ะเหรอที่ชาร์ตแบตรูปร่างประหลาด แล้วมันเอาไว้ใช้ทำอะไรล่ะ “ คนตัวสูงเดินมาซ้อนที่ด้านหลังคชาเพื่อดูอุปกรณ์ในมือคนตัวเล็ก
“ อืม...... “ นิ่งคิดหาคำพูดที่จะอธิบายให้อีกคนเข้าใจได้ง่ายๆ “ คือมันเป็นสิ่งที่จะช่วยเติมพลังงานให้กับโทรศัพท์ ไม่ให้มันหมดก่อนไงล่ะ “
“ อ๋อ~ “ คนตัวสูงพยักหน้าเข้าใจ “ โลกนี้ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ข้ายังไม่เข้าใจ “
“ อะไรบางอย่างมันเข้าใจยากแต่ถ้าค่อยๆ เรียนรู้ไปเดี๋ยวก็เข้าใจเองแหละ “ คชาหันมาเผชิญหน้าก่อนจะบอก
“ แล้วถ้าเต๋าพยายามเรียนรู้ที่จะเข้าใจคชา วันนึงเต๋าก็จะเข้าใจคชาเองใช่มั้ย “ สองแขนรั้งเอวบางเข้ามากอดแล้วมองหน้า
“ ..........” คนตัวเล็กไม่อาจทนมองสายตาของอีกคนได้จึงเลือกที่จะก้มหน้าจนคางแทบจะชิดอก
“ คชา... “ เสียงทุ้มเรียกให้คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมา
“ หืม ......”
“ รู้มั้ยว่าตั้งแต่เกิดมา เต๋ายังไม่เคยเจอใครที่เหมือนคชาเลยซักคน “
“ .......”
“ คนที่ดึงดูดเต๋าได้ขนาดนี้เหมือนคชา เต๋ายังไม่เคยเจอเลย “
“ .......”
มือหนาข้างหนึ่งปล่อยจากการเกาะกุมที่เอวบางแล้วเปลี่ยนมาใช้หลังมือไล้ใบหน้าสวยแทน ดวงตาคมมองสำรวจใบหน้าอย่างละเอียด เครื่องหน้าที่ดูน่ารักราวกับผู้หญิงแม้จะไม่ได้สวยที่สุดแต่มันก็คล้ายมีบางอย่างมาคอยตรึงให้สายตาไม่อาจละห่างไปได้นาน ยิ่งดวงตารีที่มีนัยตากลมใสฉายแววอารีคู่นี้ยิ่งทำให้รู้สึกหลงรักเข้าไปใหญ่
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกเหมือนโชคชะตาคล้ายกับขีดเอาไว้ให้เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ขีดเอาไว้ให้เค้าได้มาพบเจอกับคชา คนที่เค้ามั่นใจว่าถูกสร้างมาเพื่อเค้าคนเดียว
คชามองสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักที่ส่งมอบมาให้ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก คิดๆ แล้วอย่างว่าแต่เต๋าเลย คชาเองก็คิดว่าเต๋ามีอะไรบางอย่างที่ดึงดูดให้คชาเข้าไปหา เมื่อแรกที่ค้นพบว่าเป็นคนแปลกหน้าเค้าก็รู้สึกกลัวไม่น้อยแต่นี่ผ่านไปเพียงวันเดียวความรู้สึกนั้นมันกลับหายไป ราวกับว่าเค้ารู้จักกับคนตรงหน้ามานาน นานกว่าที่อยู่ในร่างแมวน้อยมาเป็นเดือนๆ เสียอีก ในความรู้สึกมันชัดเจนเหมือนกับว่านานกว่านั้น
ดั่งมีสายสัมพันธ์บางอย่างที่เชื่อมโยงคนทั้งคู่ให้เข้าหากันจนยากเกินจะถอนตัว ในโลกนี้มีอีกหลายอย่างที่เราไม่เข้าใจ บางเรื่องก็ยากนักที่เราจะเข้าใจ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่จำเป็นต้องเข้าใจ เพียงแค่ใช้หัวใจสัมผัสรับรู้เองก็พอ.......
วันเวลาผ่านไปเร็วเหมือนมีคนคอยหมุนเร่งเข็มนาฬิกา สองอาทิตย์ที่ผ่านมาคชาอยู่บ้านทุกวันและภาพที่เห็นชินตาคือมักจะมีใครอีกคนเดินตามอยู่ข้างๆ ไปซะทุกที่ พูดได้ว่าเห็นคชาที่ไหนก็ต้องเห็นใครอีกคนที่นั่น ในช่วงแรกสมาชิกในครอบครัวก็ตั้งข้อสงสัยและไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ แต่ตอนนี้ทุกคนก็ฟันธงตามคำพูดของอาม่าแล้วว่า
.........ผู้ชายคนนี้เป็นคนพิเศษของอาตี๋ใหญ่..........
ก๊อก!! ก๊อก!! ก๊อก!!
“ เต๋าคชาม๊าเข้าไปได้มั้ยลูก “
ผู้เป็นแม่เคาะเรียกถามก่อนว่าเด็กทั้งสองคนอนุญาตให้เข้าไปในห้องได้ ไม่กล้าที่จะเปิดเข้าไปโดยพลการเหมือนที่เคยเพราะกลัวเปิดไปเจอแจ๊กพอตแตกเหมือนครั้งหนึ่งที่เคยทำ เคยเปิดเข้าไปโดยที่ยังไม่ได้เคาะเรียกด้วยความเคยชิน และสิ่งที่ได้เห็นคือลูกชายคนโตกำลังถูกเพื่อนกดจูบอยู่บนเตียง
“ ครับม๊า “ เสียงตอบรับจากคชาบอกกลับมา
“ ทำอะไรกันอยู่ลูก “ เมื่อเปิดเข้าไปก็พบคชานั่งจัดเสื้อผ้าอยู่บนเตียงส่วนเต๋าก็นั่งดูอยู่ข้างๆ
“ จัดกระเป๋าครับม๊า “
“ ใกล้เสร็จกันหรือยังลูก “
“ จะเสร็จแล้วครับม๊า แล้วม๊ากับเค้นท์จัดเสร็จหรือยังครับ “
“ เสร็จแล้วลูก คชาเตรียมของทุกอย่างให้เรียบร้อยนะลูก พรุ่งนี้เดินทางจะได้ไม่วุ่นวาย “
“ ครับม๊า “
“ คืนนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่นะลูกคชาพรุ่งนี้เดินทางจะได้ไม่เพลีย “ นวลสั่งอีกคำ
“ ครับม๊า “ คชาพยักหน้ารับ
“ เต๋าด้วยนะลูก “
“ ครับม๊า “ ตลอดเวลาที่ผ่านมาร่างสูงค่อยๆ เรียนรู้ที่จะพูดและทำตามแบบที่คชาทำ
“ งั้นม๊าไปนอนก่อนนะเต๋าคชา “
“ ฝันดีครับม๊า “ คชายิ้มให้แม่
“ ฝันดีทั้งสองคนลูก “ พูดจบเธอก็เดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะปิดล็อคห้องให้ด้วย
สักพักคชาก็จัดกระเป๋าเสร็จแล้วยกไปวางคู่กันที่ปลายเตียง ทริปเยี่ยมคุณพ่อที่ญี่ปุ่นครั้งนี้คงต้องถือว่าโชคดีที่อาม่าเลือกที่จะไปเมืองจีนเต๋าจึงได้ตั๋วฟรีเดินทางแทนอาม่า ในตอนแรกก็ติดปัญหาเรื่องวีซ่าของเต๋าแต่ชายหนุ่มก็ยืนยันกับคนตัวเล็กว่าไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้น การที่จะผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองเต๋าจะจัดการเอง เมื่อเต๋ายืนยันอย่างนั้นคชาก็ปล่อยให้เลยตามเลย
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จคชาก็ปีนขึ้นไปนอนบนเตียง ชายหนุ่มร่างสูงนั่งมองคนตัวเล็กมุดเข้าไปในผ้าห่มแล้วนอนหันหลังให้ไม่สนใจตัวเองสักนิด เห็นดังนั้นจึงโถมตัวทับอีกคนจากทางด้านหลัง ใบหน้าหล่อฝังลงไปที่ท้ายทอยก่อนจะขบเม้มผิวเนื้อตรงนั้นเบาๆ
“ ต๋าว~ นอนเถอะพรุ่งนี้ต้องตื่นเดินทางแต่เช้านะ “ คนตัวเล็กขยับตัวให้พลิกหันมาหา
“ เต๋ายังไม่ง่วงเลย “ ชายหนุ่มงอแง
“ นอนเถอะนะ เมื่อกี๊เต๋ารับปากม่าม๊าแล้วจำได้มั้ย “ คนตัวเล้กบอกเตือนความจำ
“ แต่เต๋าไม่ง่วงนี่นา “
“ แล้วจะให้ชาทำยังไงล่ะ ชาง่วงแล้วนะ “
“ เต๋ายังไม่ง่วงแต่ชาง่วง งั้นเรามาหาอะไรทำแก้ง่วงกันมั้ย......รับรองว่าชาหายง่วงแน่นอน “ ริมฝีปาหหยักยกยิ้มอย่ามีเลศนัย
“ ไม่เอาอ่ะ นอนนะเต๋าฮวยอย่าดื้อนะ “ คชาใช้นิ้วเคาะจมูกโด่งของร่างสูงเบาๆ
“ เต๋าไม่ได้เป็นแมวแล้วนะชา “ ใบหน้าหล่อบึ้งตึงขึ้นมา
“ แต่เต๋าก็ยังชอบทำตัวขี้อ้อนเหมือนเดิมเลยนี่นา “ คนตัวเล้กก็เห็นว่าร่างสูงยังชอบออดอ้อนคลอเคลียอยู่กับตนเหมือนเดิม
“ หรือชาอยากให้เต๋ากลับไปโหดเหมือนเดิม “ บอกเสียงเข้มดุดันขึ้นมาข่มขู่
“ ด๋าวฮวยอ่า~ อย่าทำเสียงดุสิ “ แก้มป่องพองลมขึ้นมา นัยตาใสช้อนมองฉายแวววูบไหวเพราะตกใจนิดๆ
“ ใครกันแน่ที่ชอบทำตัวขี้อ้อนเสียยิ่งกว่าแมวอีก ฮึ! “ ร่างสูงบอกก่อนจะงับจมูกรั้นเบาๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว
“ ต๋าววว.....นอนเถอะ “ คนตัวเล็กประท้วง
“ นอนก็ได้ “
“ ดีมากเต๋าฮวย “ รอยยิ้มเล็กๆ เผยออกมาเมื่อคนตัวสูงยอม
“ แต่ก่อนนอนขอกินของหวานก่อนได้มั้ยครับ “
“ อื้อ...อ.. “
ริมฝีปากอิ่มถูกครอบครองและโดนกวาดต้อนเก็บเกี่ยวความหวานภายใน คนตัวเล็กทำได้เพียงส่งเสียงประท้วงเบาๆ เท่านั้นก่อนที่ปลายเล็กจะถูกทำให้มัวเมาในรสสัมผัส แขนเรียวสองข้างยกขึ้นเกาะไหล่หนาไว้แน่นเพื่อยึดเหนี่ยว เนิ่นนานกว่าร่างสูงจะถอนจูบออก
“ เมื่อไหร่จะยอมให้เต๋า 'รัก' ชาจริงๆ ซักที “ ร่างสูงซบหน้าลงที่ซอกคอขาวแล้วเอ่ยถามเบาๆ ยิ่งอยู่ใกล้คชาเท่าไหร่เค้าก็แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“ เต๋าบ้า....” ได้ยินประโยคอุกอาจของชายหนุ่มคนตัวเล็กยิ่งรู้สึกอาย หัวใจเต้นแรงทุกครั้งที่ถูกจุมพิต
“ งั้นนอนกันดีกว่าเนอะ “ ร่างสูงยันตัวขึ้นมา
“ อืม “ คชาพยักหน้ารับ
“ ฝันดีนะชาเจ้าชีวิตของเต๋า “ จูบเบาที่เปลือกตาก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆ และกระชับดึงร่างบางมากอดแนบอก
“ ฝันดีนะเต๋า “ คนตัวเล็กบอกเสียงอู้อี้ ก่อนจะปิดเปลือกตาลงแล้วดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา
ช่วงที่อยู่ด้วยกันถึงแม้เจ้าชายจะรุกเร้าไล่ต้อนคชาสักแค่ไหน แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ได้ล่วงเกินจริงๆ สักครั้งเต๋าอยากให้คชายอมเค้าจริงๆ ไม่ใช่เพราะบังคับให้ได้มาเพราะไม่ว่ายังไง
....เต๋าก็เชื่อว่ามันต้องมีวันนั้น.........
่สวัสดีค่ะ
อัพแล้ว อัพแล้ว~
ดีใจที่ชอบกันนะคะ อินจะพยายามขยันลงเพราะใกล้จะถึงวันเกิดคชาแล้ว
เรื่องนี้คงจะสั้นค่ะ ไม่อาจต่อให้ยาวแล้วถึงแม้จะยากให้เป็นเรื่องยาวแค่ไหนก็ตาม
ส่วนที่บอกถึงคาแรกเตอร์ของอาม่า อินก็คิดตรงกันว่าเหมือนอาม่าของเหมยลี่อ่ะค่ะ555
ยังไงก็ฝากติดตามต่อจนจบด้วยนะคะ
ความคิดเห็น