คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : Prince cat-รักนายเจ้าชายแมวเหมียว ตอนพิเศษ II
" เคยรู้สึกไหม....เวลาไม่มีใครแล้ว จะมองไปทางไหนไม่มีใครให้พูดจา ไม่มีเลย.....สักคน จะหันมามองและเข้าใจคนคนนี้ที่มันไม่มีอะไร...... "
เสียงเพลงหวานหูล่องลอยแผ่วเบามาตามสายลม ท่วงทำนองและเนื้อร้องบ่งบอกถึงความรู้สึกของคนที่ร้องว่า " เหงา " ออกมาอย่างชัดเจน ตอนนี้คชากำลังเหงาไม่ใช่เพิ่งเหงาแต่เหงามาได้สักระยะหนึ่งแล้ว ต้นเหตุที่เหงาจะมาจากใครได้นอกจาก 'เต๋าคนเดียว'
" ราชินีเพคะ เข้าข้างในเถอะนะเพคะ น้ำค้างเริ่มลงแล้วเดี๋ยวจะไม่สบายเอาได้ " นางกำนันคนสนิทบอกอย่างเป็นห่วง
" ผมอยากอยู่ต่ออีกนิดน่ะแพรวา " บอกปฏิเสธไปไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ก่อนจะหันกลับมาชะเง้อคอมองคนที่คอยให้กลับมากินข้าวเย็นด้วยกันตั้งแต่หัวค่ำ
" แต่น่าจะเข้าไปเสวยอะไรสักนิดนะเพคะ ดึกมากแล้วหม่อมชั้นว่าองค์ราชาคงจะ......" ยังไม่ทันพูดจบก็โดนเด็กดื้อแทรกขึ้นก่อน
" ผมจะรอ! ก็เต๋าสัญญาไว้แล้วนี่ "
" แต่นี่มันดึกมากแล้วนะเพคะ "
" ไม่เป็นไร ผมจะรอ "
...........ก็เต๋าสัญญาไว้แล้วนี่ว่าจะกลับมากินข้าวพร้อมกัน.............
ไม่นานหลังจากนั้นร่างสูงที่รอคอยก็กลับมาพร้อมกับใบหน้าเคร่งเครียด คนตัวเล็กรีบตรงปรี่เข้าไปหาคนรักทันทีด้วยความดีใจ
" กลับมาแล้วเหรอเต๋า "
" ชา! มาทำอะไรตรงนี้ "
" ก็มารอเต๋าไง "
" มารอเต๋าทำไมดึกแล้วทำไมไม่ไปนอน รู้อยู่ว่าเต๋ากลับดึกทุกวันเดี๋ยวก็ไม่สบายเอาหรอก " ร่างสูงโอบประคองคนรักเข้าไปด้านใน
" ก็วันนี้เต๋าบอกชาว่าจะกลับเร็วนี่ "
" ตายล่ะ! เต๋าขอโทษนะ ลืมไปสนิทเลยว่าบอกชาไว้อย่างนั้น งานมันยุ่งเต๋ามัวทำอะไรต่อมิอะไรจนเผลอลืมไป " ร่างสูงบอกอย่างรู้สึกผิด
" ไม่เป็นไร ชาเข้าใจว่าเต๋างานยุ่ง แล้ววันนี้เหนื่อยมั๊ย " มือเล็กทำหน้าที่ช่วยปลดกระดุมเสื้อคลุมไปด้วยในขณะที่ถาม
" ก็นิดหน่อยน่ะ " เต๋าปล่อยให้คชาถอดเสื้อคลุมให้เสร็จแล้วก็ทิ้งตัวนั่งบนโซฟาตัวยาว
" เต๋ากินอะไรมาหรือยัง วันนี้ชาสั่งให้แม่ครัวเตรียมอาหารที่เต๋าชอบไว้เยอะเลย " คนตัวเล็กส่งเสื้อคลุมให้นางกำนันเอาไปเก็บก่อนจะมานั่งลงข้างๆ เต๋า ชายหนุ่มจึงเอนลงนอนตักคนรักแล้วหลับตาลง มือเล็กก็ทำหน้าที่นวดขมับให้อย่างรู้งาน
" เต๋ากินมาแล้วน่ะ "
" เหรอ...... " คำตอบของเต๋าทำให้คชาชะงักไปนิดนึงก่อนจะนวดต่อ
" แล้วชาล่ะกินแล้วใช่มั๊ย "
" อื้ม.....ชากินแล้ว " คำโกหกที่ส่งออกมาทำให้แพรวานางกำนันคนสนิทมีท่าทีกระวนกระวายเพราะความเป็นห่วง คชาจึงโบกมือเป็นสัญญาณให้ทุกคนออกไปจากห้อง
" ดีแล้ว กินเยอะๆ จะได้แข็งแรง "
" ครับ "
" แล้วคราวหลังก็ไม่ต้องไปรออยู่ข้างนอกอย่างนั้นอีกนะ ชาไม่สบายบ่อยเต๋าเป็นห่วง "
" ครับ...รู้แล้ว " คนตัวเล็กตอบรับหงอยๆ
" เต๋าไปอาบน้ำดีกว่า "
" ให้ชาไปช่วยมั๊ย "
" ชาไปรอนอนรอเถอะเดี๋ยวไม่สบายนี่ก็ดึกมากแล้วด้วย "
" ก็ได้..... "
คนตัวเล็กเดินคอตกกลับไปที่ห้องเมื่อร่างสูงผละออกไปแล้ว แอบน้อยใจที่อีกคนลืมสัญญาแต่ก็พยายามเข้าใจว่าเต๋าทำงานหนัก และยิ่งกว่านั้นยังรู้สึกขัดใจตัวเองที่ช่วงนี้ไม่สบายบ่อยเหลือเกินเพราะใกล้เข้าช่วงหน้าหนาวของที่แมกโนเลียแล้ว
" หลับแล้วเหรอชา "
กว่าเต๋าจะอาบน้ำเสร็จคชาก็หลับไปแล้ว คนตัวสูงมองดูคนรักนอนหลับแต่คิ้วกลับขมวดเป็นปมจึงก้มลงไปจูบระหว่างคิ้วเบาๆ เพื่อคลายปมที่ขมวดกันยุ่ง
" ฝันดีนะครับ "
เช้าวันต่อมาคชาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกในแบบที่ไม่ชอบเพราะรู้ว่าตัวเองกำลังจะไม่สบายอีกแล้ว อาการเมื่อยขบ ตาร้อน และที่สำคัญคือปวดหัวมากมันบอกชัดเจน
" ราชินีตื่นแล้วเหรอเพคะ "
" เต๋าไปแล้วเหรอ " ตื่นขึ้นมาไม่เห็นคนข้างๆ ก็ถามหาทันที
" เสด็จแต่เช้าแล้วเพคะ วันนี้เห็นว่าเมืองกาซีลมาส่งบรรณาการเพคะ "
" เหรอ...งั้นเราต้องไปด้วยสินะ ทำไมไม่มีใครปลุกเลย " ทุกครั้งที่มีการส่งบรรณาการคชาจะต้องไปกับเต่าทุกครั้งตามหน้าที่
" ราชารูเซียเห็นว่าราชินีคชาไม่สบายก็เลยสั่งห้ามใครรบกวนเพคะ "
" เราไม่เป็นอะไรมากหรอก ไปเตรียมชุดเถอะเดี๋ยวเราจะออกไปช่วยเต๋าต้อนรับคณะทูตแห่งกาซีล "
“ แต่ว่า....”
“ มีอะไรหรือเปล่า แพรวา “ คชาถามขึ้นเมื่อเห็นว่าแพรวาแสดงท่าทีแปลกๆ
“ มะ...ไม่มีอะไรเพคะ เอ่อ....ราชินีอย่าไปเลยนะเพคะ หม่อมชั้นกลัวองค์ราชาจะกริ้วที่ไม่ดูแลให้พระองค์พักผ่อน “
“ แต่ว่าเราอยากไปนี่...”
“ เชื่อหม่อมชั้นสักครั้งนะเพคะ “
“ ก็ได้....” คชามักยอมใจอ่อนทุกครั้งที่ถูกขอร้อง
“ งั้นราชินีคชาสรงน้ำก่อนนะเพคะ เดี๋ยวหม่อมชั้นจะให้เด็กๆ ยกเครื่องเสวยกับโอสถมาถวาย “
“ อืม...” คนตัวเล็กยอมทำตามที่แพรวาบอกอย่างว่าง่ายแม้จะรู้สึกเสียดายอยู่บ้างก็ตามแต่ก็อยากจะหายป่วยเร็วๆ
หลังจากกินข่าวกินยาเสร็จคนตัวเล็กก็ออกไปเดินในอุทยานแก้เบื่อ แต่ในขณะที่กำลังเดินเดินอยู่นั้นก็พลันได้ยินคนสองคนแอบคุยกันโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ เจ้าว่าหนุ่มน้อยที่เมืองกาซีลส่งมาบรรณาการให้แก่ราชารูเซียของเราเป็นยังไงนะ!! “
“ รูปโฉมงามหาตัวจับยากทีเดียวเชียวล่ะ “
“ แล้วราชารูเซียมีท่าทีอย่างไรบ้าง “
“ ไม่รู้สิ....แต่ท่าทางน่าจะพึงใจอยู่พอควร “
“ แย่ล่ะ! แล้วเรื่องนี้ราชินีคชารู้เรื่องหรือไม่ “
“ คงยังไม่รู้ล่ะมั้ง พระองค์ประชวรนี่วันนี้ถึงไม่ได้ไปที่ท้องพระโรงด้วย “
“ ราชินีประชวรบ่อยน่าสงสาร ท่านคงไม่คุ้นชินกับอากาศของที่นี่ “
“ นั่นคงเป็นสาเหตุหนึ่งล่ะมั้งที่คณะทูตต่างเมืองส่งหนุ่มรูปงามมาให้องค์ราชา “
“ เกี่ยวอะไรกันเล่า “
“ ก็ราชินีคชาทรงประชวรบ่อยจึงมีรัชทายาทยากยังไงล่ะ “ ถึงตรงนี้นางกำนันก็กระซิบเสียงให้เบาลงอีก
“ ที่แท้เมืองกาซีลก็หวังผลเช่นนี้นี่เอง “
“ เจ้าก็อย่าไปพูดที่ไหนล่ะ “
“ รู้แล้วล่ะน่า...แต่ถ้าองค์ราชาเกิดหลงว่าที่สนมคนใหม่ขึ้นมาละก็แย่แน่ๆ “
“ นั่นสิ..สงสารราชินีคชานะ พระองค์ทรงดีกับพวกเรามากๆ เลย “
“ ก็ได้แต่หวังไม่ให้เป็นแบบนั้นแล้วกันนะ “
เมื่อถึงตรงนี้เสียงของสองสาวก็เงียบหายไปคาดว่าคงเดินจากไปแล้ว คชาหันหลังกลับมาหาแพรวาน้ำตานองหน้า ไม่พูดอะไรสักคำก็เดินกลับเข้าที่พักทันที
หลังจากที่ได้ยินเรื่องที่นางกำนันสองคนนั้นพูดคชาก็แทบไม่เป็นอันทำอะไร นั่งเหม่อลอยบางทีก็เดินวนไปมา คิดกระวนกระวายทั้งยังนึกโมโหตัวเองที่ร่างกายไม่แข็งแรง คชาไม่อยากให้เต๋ามีสนมเพิ่มจริงๆ แต่ถ้ามันจำเป็นคงต้องยอมเหรอ จนกระทั่งคิดได้ว่าจะคุยกับเต๋าให้รู้เรื่องถ้าเต๋ากลับมาเย็นนี้
รอแล้วรอเล่าจากเย็นย่ำเป็นค่ำมืดก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเต๋า แพรวาก็ช่วยปลอบใจไม่ให้คิดมากแต่ก็ช่วยไม่ได้สักเท่าไหร่ จนในที่สุดที่ก็มีใครคนหนึ่งเข้ามาที่ห้อง
“ กลับมากแล้วเหรอ..ตะ....องครักษ์เจมส์ “ สีหน้าผิดหวังอย่ารุนแรงเห็นได้ชัดเจน
“ ขอประทานอภัยราชินีคชา ราชารูเซียทรงมีรับสั่งให้หม่อมชั้นมาทูลพระองค์ว่าคืนนี้จะอยู่ร่วมงานเลี้ยงรับรองคณะทูตของเมืองกาซีลและจะค้างที่ตำหนักหน้าเลยพะย่ะค่ะ “
“ ค้างที่ตำหนักหน้าเหรอ..... “
“ พะย่ะค่ะ องค์ราชาให้หม่อมชั้นมาทูลเพราะกลัวว่าพระองค์จะรอ “
“ ....”
“ งั้นหม่อมชั้นทูลลานะพะย่ะค่ะ “
“ ขอบใจท่านองค์รักษ์มากนะที่มาส่งข่าว... “ คชากล่าวขอบใจเสียงเบา เจมส์ทำความเคารพครั้งหนึ่งก่อนจะจากไป
“ พระองค์...” แพรวาเข้ามาประคองคนตัวเล็กที่ยืนโงนเงนให้ไปนั่งที่เตียง
“ เจ้าออกไปพักผ่อนเถอะแพรวาข้าจะ...พักผ่อนแล้ว “
“ ให้หม่อมชั้นอยู่ดูและพระองค์ดีไหมเพคะ “
“ ขอบใจเจ้ามากนะ.....แต่เราอยู่คนเดียวได้ “
“ เพคะ “
หลังจากแพรวาออกจากห้องบรรทมไปแล้ว คนตัวเล็กก็ทิ้งตัวซบหน้าลงกับหมอนและร้องไห้ออกมาอย่างหนัก คิดน้อยใจที่เต๋าไม่ได้มีแค่ตนคนเดียวอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ แต่เพราะพิษไข้ที่มีอ่อนๆ ทำให้ไม่นานก็เหนื่อยและหลับไปในที่สุด.........
ผ่านไปหลายวันอาการป่วยทางกายของคนตัวเล็กก็หายไปเหลือเพียงอาการป่วยทางใจที่เพิ่มขึ้นๆ ทุกวันจนคนรอบข้างเป็นห่วง และยิ่งแย่ที่สุดคือองค์ราชาทิ้งให้ราชินีของพวกนางอยู่คนเดียวมาเป็นเวลาหลายวันไม่กลับตำหนักตั้งแต่คืนนั้น อ้างแต่ว่ามีราชการงานด่วนต้องนอนค้างที่ตำหนักหน้าทั้งที่ข่าวลือหนาหูกลับบอกว่าราชารูเซียหลงสนมองค์ใหม่จนหาทางกลับตำหนักใหญ่ไม่ถูก
คนตัวเล็กนั่งซึมอยู่ในอุทยานใบหน้าหม่นหมองเศร้าสร้อยคล้ายจะมีอิทธิพลกับหมู่มวลดอกไม้ให้พลอยดูเฉาไปด้วย จนในที่สุดนางกำนันคนสนิทก็ทนไม่ไหว
“ ราชินีคชาเพคะ “
“ ว่ายังไงแพรวา “
“ หม่อมชั้นว่าพระองค์ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะเพคะ ปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้แล้ว! “
“ แล้วแพรวาจะให้เราทำยังไงล่ะ “
“ พระองค์ต้องไปพูดกับองค์ราชาให้รู้เรื่อง “
“ แต่ถ้าเต๋าไม่รัก...เราแล้วล่ะ “
“ ไม่จริงหรอกเพคะ “
“ แล้วเราจะทำไงดีล่ะ “
“ พระองค์ต้องใช้สิทธิความเป็นเบอร์หนึ่งของพระองค์ทวงเอาองค์ราชากลับมาเพคะ อย่าให้พวกสนมหน้าใหม่มันทำได้ใจอย่างนี้ “
“ เจ้าจะให้เราทำไง “
“ อย่างนี้เพคะ......... “ เสียงกระซิบแผ่วเบาที่ได้ยินเพียงแค่สองคนทำให้คนตัวเล็กถึงกับตาโต
“ เราทำไม่ได้หรอก!! “
“ ต้องได้สิเพคะ “
“ แต่...”
“ ไม่งั้นองค์ราชาก็ไม่กลับมาหาพระองค์แน่ๆ พระองค์ต้องทำได้ “
“ อะ..อืม เราทำตามที่แพรวาบอกก็ได้ “
ท่ามกลางพายุฝนที่โหมกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก ราชารูเซียควบม้าห้อตะบึงตรงกลับปราสาทด้วยความร้อนใจ แม้เม็ดฝนและลมจะกรรโชกแรงแค่ไหนก็มิอาจดับความร้อนรุ่มภายในใจของเค้าลงไปได้ เมื่อได้ทราบข่าวจากวังหลวงว่าราชินีสุดที่รักของพระองค์ทรงประชวรอย่างหนัก
หลายวันมานี้เค้าลอบออกมาที่ค่ายหน้าด่านนอกเมืองเพื่อสืบราชการลับด้วยตัวเองและหารือเรื่องการตั้งตัวเป็นกบฏของเมืองกาซีล โดยวางอุบายให้องครักษ์เจมส์สวมรอยเป็นตนเองเพื่อรับหน้าคณะทูตที่ถูกส่งมาถวายบรรณาการเพื่อตบตา ส่วนตัวเค้าเองก็ออกไปตลบหลังวางแผนอยู่ภายนอก
แผนการอันแยบยลนี้ถูกปิดเป็นความลับน้อยคนนักที่จะล่วงรู้ และคชาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เค้าปิดเรื่องนี้เอาไว้ไม่ได้บอกทั้งยังกันให้คชาอยู่แต่ในพื้นที่ตำหนักของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกลอบสังหาร แต่ไม่คิดว่าในขณะที่ว่าราชการอยู่นั้นคนตัวเล็กจะป่วยหนักเค้าจึงรีบกลับมาหาและมอบหน้าที่ไว้ให้คนอื่นรับผิดชอบดูแลไปก่อน
เมื่อมาถึงที่หมายร่างสูงก็รีบเข้าไปหาคนรักด้วยความเป็นห่วงทันที........
ปึ้ง!!!
" องค์ราชา! " นางกำนันสาวที่กำลังจะเดินออกจากห้องบรรทมของราชินีต้องตกใจที่เห็นราชารูเซียเปิดประตูเข้ามาเนื้อตัวเปียกปอนไปหมด
" คชาอยู่ที่ไหนแล้วอาการเป็นยังไงบ้าง! " เค้ารีบถามนางกำนันด้วยความร้อนใจ
" เอ่อ,,,,ราชินีคชาอยู่ที่ระเบียงเพคะ "
" คชาไม่สบายแล้วพวกเจ้าปล่อยให้ไปยืนตากฝนอยู่ที่ระเบียงได้ยังไง!!! "
" มะ,,,หม่อมชั้น...ขอประทานอภัยเพคะ " นางกำนันรีบคุกเข่าก้มหน้าเพราะกลัวความผิด
" ไม่ได้เรื่อง!! จะไปไหนก็ไป!! " ร่างสูงตวาดเสียงดัง
" เพคะ " นางรีบลุกขึ้นและกุลีกุจอออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ไปหาคนรักที่ระเบียงและก็ได้พบกับร่างบางที่ยืนกอดอกนิ่งทอสายตามองออกไปในความมืดไหล่บางยังคงสั่นน้อยๆ แม้จะมีผ้าคลุมไหล่เอาไว้แล้วก็ตามแต่มันก็ไม่อาจช่วยคลายความหนาวเย็นลงได้
" คชา....ไม่สบายแล้วออกมายืนข้างนอกแบบนี้ทำไมหืม... " พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะจับที่ไหล่บางแล้วดึงให้หันกลับมา
" เต๋า!...." ด้วยตาคู่สวยเอ่อล้นไปด้วยน้ำตาเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนจะตั้งสติได้และรีบเช็ดน้ำตาลวกๆ
" เป็นอะไร...ร้องไห้ทำไมคะคนดี " เต๋าถามด้วยความตกใจ
" ........." คนตัวเล็กได้แต่ก้มหน้าหลบ
" ใครทำอะไรให้ชาไม่พอใจ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่าบอกเต๋าซิ "
" ........." เมื่อถูกเอ่ยถามอย่างนั้นใบหน้าสวยก็เงยหน้าขึ้นมอง " อยากกลับบ้าน...... " คนตัวเล็กบอกเสียงแผ่ว
" อะไรนะ.. "
" ชาอยากกลับบ้าน "
" ชาคิดถึงบ้านเหรอ คิดถึงป๊ากับม๊าเหรอคะ "
" ชาไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว "
" หมายความว่าไงชา....เต๋าไม่เข้าใจ " พอเจอแบบนี้ร่างสูงถึงกับงงงวยทำอะไรไม่ถูก
" ชาไม่ออยาก......อึก...อยู่ที่นี่แล้ว ให้ชากลับบ้านนะ " ทั้งที่เป็นคนพูดเองแต่ไม่รู้ทำไมคนตัวเล็กถึงรู้สึกเสียใจและเจ็บปวดขนาดนี้ น้ำตาเจ้ากรรมยังคงไหลออกมาไม่หยุด
" นี่มันอะไรกัน ไหนว่าชาไม่สบายแล้วที่บอกจะกลับบ้านคืออะไร...เต๋างงไปหมดแล้วนะ เข้ามาพูดกันข้างในได้เถอะโดนละอองฝนแล้วเดี๋ยวจแย่ลงไปอีก "
" ชาไม่ได้เป็นอะไร ชาหายป่วยแล้ว...."
" ชาเป็นอะไร " ร่างสูงดึงให้คนตัวเล็กเดินตามเข้ามาข้างในเพราะไม่อยากให้โดนละอองฝนแต่คชาก็ขืนตัวเองไว้ไม่ยอมเดินตาม
" ไม่ได้เป็นอะไร...."
" เต๋าไม่เชื่อหรอก " ร่างสูงมองอย่าไม่เข้าใจ
" ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว....จะกลับบ้าน "
" เต๋าไม่ให้ชากลับหรอกนะ...บอกมาเถอะว่าเป็นอะไร....อย่าทรมานกับแบบนี้ได้ไหม "
" ชาจะกลับ! "
" ไม่ได้!! ก็บอกแล้วไงว่าไม่ให้ไป "
" ทำไมจะไม่ได้! เต๋ามีสิทธิอะไรมาบังคับชา "
" ชาเป็นของเต๋า เป็นคนของเต๋าทำไมจะไม่มีสิทธิ!! พูดแบบนี้เห็นใจกันบ้างหรือเปล่า " ด้วยความไม่เข้าใจว่าอีกคนเป็นอะไรพอถามก็พูดแค่ว่าจะกลับบ้านร่างสูงจึงเริ่มน้อยใจและหงุดหงิดขึ้นมา
" เต๋าล่ะ! ทำแบบนี้เห็นใจชาบ้างมั๊ย....อึก....เต๋ามีคนอื่นแล้วจะเก็บชาไว้ทำไม!..คนใจร้าย...ฮึก " คนที่น้อยใจยิ่งกว่าพูดออกมาอย่างเหลืออด หลายวันมานี้ได้แต่คิดซ้ำไปซ้ำมาว่าเต๋าไม่รักกันแล้ว
" หมายความว่าไงมีคนอื่นแล้ว "
" ก็สนมคนใหม่ของเต๋าไงล่ะ "
" สนมคนใหม่ ..."
" ปล่อยชาไปเถอะนะ...อย่าทำแบบนี้เลย ชาเจ็บ....ชาไม่ใช่คนดีอะไร ชาแบ่งคนรักให้กับใครไม่ได้หรอก....ฮืออ " พูดเสร็จก็เอามือปิดหน้าแล้วปล่อยโฮออกมา
" เพราะเรื่องนี่นี่เอง " ในที่สุดเต๋าก็เข้าใจเรื่องที่คชาพูดถึง
" ชาทนไม่ไหว....จริงๆ ขอร้องเถอะนะเต๋าปล่อยชาไป " มันยากมาที่ต้องเลือกเป็นคนเดินจากไปเองแต่ก็คิดซะว่ายอมเจ็บคนเดียวดีกว่าต้องเจ็บไปกันหมดทุกคน
" เด็กโง่...." ร่างสูงดึงคชาเข้ามาไว้ในอ้อมกอด " ใครเป็นคนบอกชาเรื่องสนมใหม่ "
" ใครๆ เค้าก็รู้กันทั้งนั้น ชาไม่ได้โง่นะ " พยายามจะดิ้นออกจากอ้อมกอดแต่ก็ทำไม่สำเร็จ
" เต๋าไม่รู้หรอกนะว่าความรักที่เต๋ามีมันจะมากหรือน้อย แต่ทั้งหมดที่มีมันเป็นของชารู้มั๊ย "
" ......"
" ที่พูดนี่เข้าใจหรือเปล่า " เห็นคนในออมกอดนิ่งไปจึงถามดูให้แน่ใจ
" แล้ว.....สนมใหม่ล่ะ "
" สนมที่ไหนกัน "
" ก็บรรณาการจากเมืองกาซีลน่ะ " คชาบอกเสียอ้อมแอ้ม
" มันเป็นกบฏ...เต๋ายกให้เจมส์จัดการไปแล้ว "
" กบฏหรือ "
" ใช่! เป็นกบฏ พวกนั้นมันส่งเจ้าน้อยธนษิตให้มาลอบฆ่าเต๋า "
" ลอบฆ่า!! " คชาตกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน อารมณ์น้อยใจ เสียใจได้ถูกเปลี่ยนแปลงไปหมดสิ้น
" แต่ไม่ต้องห่วงนะเต๋าจัดการเรียบร้อยแล้ว "
" เรียบร้อยแล้วแน่นะ "
" แน่ครับ....ทีนี้สบายใจได้หรือยังคนขึ้หึง " เต๋ายิ้มล้อเลียนอีกคน
" อืม... " คนตัวเล็กพยักหน้า
" เด็กน้อย.. ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้วดูซิ " เต๋าก้มลงไปจูบซับน้ำตาใอีกคนเบาๆ
" เดี๋ยวก่อนนะ! ทำไมเต๋าตัวเปียกอย่างนี้ล่ะ "
" ก็มีคนส่งข่าวไปบอกว่าราชินีตัวน้อยไม่สบายเต๋าก็เลยรีบมาน่ะสิ ขี่ม้ามาจากด่านที่นอกเมืองเลยนะ "
" เปียกหมดเลยไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะนะ ว่าแต่ใครบอกว่าไม่สบายชาหายตั้งหลายวันแล้วนะ "
" ไม่รู้สิ..มีคนส่งข่าวไปบอก "
" อืม...." คชานึกขึ้นได้ทันทีว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแพรวา เพราะวันนั้นที่อุทยานแพรวาบอกให้คชาแกล้งไม่สบายแต่สุดท้ายคนตัวเล็กก็ไม่เห็นด้วยที่จะเรียกร้องความสนใจแบบนั้น
" ถึงหายแล้วแต่มายืนตากฝนแบบนี้เดี๋ยวต้องเป็นอีกแน่ๆ เข้าข้างในเถอะ "
" เต๋าก็ไปอาบน้ำนะเดี๋ยวเป็นหวัด ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่มั๊ย หิวหรือเปล่า เดี๋ยวชาบอกให้นางกำนันจัดสำรับมาให้นะ "
" ไม่เอา...ไม่อยากกินข้าว "
" แล้วจะกินอะไรล่ะ บอกมาเดี๋ยวชาทำให้ก็ได้ "
" อยากกินชาได้หรือเปล่า " ร่างสูงกระซิบที่หูคนตัวเล็กเบาๆ
" มะ...ไม่ได้ "
" อาบน้ำให้หน่อยสิชา "
" อาบเองสิ "
" อาบให้หน่อยนะคะคนดี "
" ไม่เอา " คนตัวเล็กรีบเดินหนี
" ห้ามปฏิเสธนะ " รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นที่ใบหน้าหล่อเหลาแล้วร่างสูงก็ตรงเขาไปอุ้มร่างบางก่อนจะรีบตรงไปยังห้องน้ำ
" ต๋าวฮวย!! " โวยวายไปก็เท่านั้นเพราะยังไงก็รู้ว่าขัดใจอีกคนไม่ได้อยู่ดี เมื่อมาถึงเต๋าก็อุ้มคนตัวเล็กลงไปในสระอาบน้ำขนาดใหญ่ที่มีกลีบดอกไม้ลอยเต็มไปหมด
" เต๋า! ชาเปียกหมดแล้วเห็นมั๊ย " มือเล็กตีไปที่หน้าอกแกร่งทีนึง
" เห็นสิ....เห็นหมดเลย " เสื้อบางๆ เมื่อเปียกน้ำก็เห็นอะไรต่อมิอะไรที่ไม่สมควรเห็นจนหมด
" อย่ามองอย่างนี้นะ คนลามก! " ยิ่งห้ามก็ยิ่งถูกมองด้วยสายตาร้อนแรง
" ก็มันน่ามองนี่นา " มือหนาเริ่มลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังบาง
" คนบ้า! "
" บ้าแล้วรักมั๊ยคะ " ร่างสูงยิ้มทะเล้น
" .....ไม่รู้.... " แก้มเนียนสองข้างแดงปลั่งเพราะสะเทิ้นอาย
" ชาจ๋า..ให้เต๋า 'กอด' ให้หายคิดถึงหน่อยนะ ไม่ได้ 'กอด' มาหลายวันแล้วคิดถึงแทบขาดใจอยู่แล้ว "
" ไม่เอาหรอก...อยากทิ้งชาไว้คนเดี๋ยวตั้งหลายวันปล่อยให้ขาดใจตายไปเลย "
" ขัดได้เหรอ "
" เอาแต่ใจตัวเอง "
" ถอดเสื้อให้หน่อยสิ " เต๋าบอกอ้อนๆ
" เอาแต่ใจที่สุดเลย " ปากก็บ่นอุบอิบแต่มือเรียวก็ยอมแกะกระดุมให้อย่างตามใจ
" น่ารักที่สุด " มือหนาข้างหนึ่งเริ่มลูบไล้ข้างในเสื้อที่เปียกน้ำและไปสะกิตจุดอ่อนไหวบนเนินอก ส่วนอีกข้างก็เปิดสาบเสื้อออกก่อนจะประคองร่างบางไว้และก้มลงไปจูบเม้มซอกคอ
" ตะ...ต๋าว...ชาแกะ..อ่า....กระดุมไม่ถนัด อื้อ! หยุดก่อน " ระบบประมวลผลในสมองเริ่มตีกันจนยุ่งวุ่นวาย มือไม้ทำงานไม่ได้อย่างใจ กระดุมเสื้อเต๋าคชาเองก็เคยช่วยปลดให้อยู่เป็นประจำทำไมตอนนี้ถึงปลดยากนักก็ไม่รู้
" ช่างมันเถอะน่า "
" อื้อ!! "
http://story.niyay.com/story-57681/ อ่านตัวสีแดงค่ะ
" ชาจ๋า~ “
“ จ๋า~ “
“ รักชานะ...รักที่สุด “ ร่างสูงห่มผ้าให้คนรักก่อนจูบที่หน้าผากมนเบาๆ
“ ชาก็รักเต๋าเหมือนกัน “
“ เชื่อใจเต๋านะ.....เต๋าไม่คิดมีใครอีกแล้วเคยบอกแล้วใช่มั๊ยว่า 'ชีวิตนี้เต๋าให้ชาคนเดียว' “
“ ครับ....ชาเชื่อแล้ว “
คนตัวเล็กเอาแขนคล้องคอแล้วดึงเต๋าลงมาจูบ ร่างสูงก็ยอมรับสัมผัสจากคนตัวเล็กอย่างเต็มใจ แม้จะถอนจูบออกแล้วแต่ใบหน้าของทั้งสองก็อยู่ใกล้กันจนจมูกชิด
“ นอนกันเถอะตาเต๋าจะปิดอยู่แล้วสงสัยวันนี้จะใช้พลังงานมากไปหน่อย...หึหึหึ “
“ เต๋าบ้า!...” คชาดันอกเต๋าให้ออกห่างแล้วนอนหันหลังให้ ร่างสูงจึงสวมกอดคนตัวเล็กจากด้านหลัง
“ ชาจ๋า~ อยากไปทำงานกับเต๋ามั๊ย “
“ เต๋าจะให้ชาไปช่วยได้เหรอ “ คชาหันกลับมาอย่างรวดเร็ว
“ ก็เต๋าเห็นว่าชาอยู่แบบนี้คงจะเบื่องั้นต่อไปไปช่วยเต๋าทำงานแล้วกันนะ “
“ ครับ....ดีใจจัง “ คนตัวเล็กยิ้มจนตาหยี
“ ดีใจขนาดนั้นเชียว “
“ อื้ม...” ใบหน้าหวานประดับไปด้วยรอยยิ้ม “ ต่อไปก็จะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของเต๋าแถมยังได้อยู่กับเต๋านานด้วยขึ้น “
“ แต่ให้ช่วยแค่นิดๆ หน่อยๆ นะ ไม่ได้ให้ภาคสนาม “
“ ยังไงก็ได้ชาทำได้หมดเลย “
“ น่ารักจริง....”
“ นอนกันเถอะนะชาเริ่มง่วงแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆ ไปทำงานกับเต๋าด้วย...ฝันดีนะต๋าวฮวย “
“ แหมรีบจริงเชียว...ฝันดีครับชา “ คนตัวเล็กนอนหันหน้าเข้าหาร่างสูงและซุกอกแกร่งหลับไปอย่างรวดเร็ว เต๋าเองก็หลับไปพร้อมๆ กับคนรักเหมือนกัน...............
..................................................................................................................
สวัสดีค่ะ
โหยังไม่ทันได้ให้เต๋าฮวยแก้ตัวเลยโกรธกันใหญ่เลยน้า55555
ขอบคุณที่ตามอ่านกัน รอกันจนเหลืออีกแค่ตอนเดียวแล้ว
รอติดตามด้วยนะคะ
ความคิดเห็น