คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Five : The Mission
Five : The Mission
“หิว”
ดอนเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นด้วยสภาพสมกับเป็นคนเพิ่งตื่นนอน
ออสเพรย์มองนาฬิกา สิบเอ็ดโมงครึ่ง... เขาไม่รู้ว่านี่เป็นเวลาตื่นปกติของดอนหรือเปล่า แต่ถ้าใช่ก็ดูจะสายไปหน่อยสำหรับหัวหน้าขององค์กรเล็กๆแต่ไม่ธรรมดาอย่างเซคเตอร์ยู
ดอนหาว หาวจนน้ำตาเล็ด หัวยุ่งๆโคลงไปมาพยายามให้ตัวเองตื่น เสื้อกาวน์เนี้ยบเรียบกริบคลุมทับเสื้อเชิ้ตและกางเกงสแล็คยับยู่ยี่ที่ไม่ได้เปลี่ยนตั้งแต่เมื่อวานดูขัดตา ดอนเดินลากสลิปเปอร์ไปในส่วนของครัว หยุดลงตรงหน้าเครื่องชงกาแฟแล้วยืนหาวหวอดอยู่อย่างนั้น
เดรคผุดลุกขึ้นจากโซฟาแล้วเข้าหาหมายเอาใจ
“ให้ผมชงให้เถอะบอส อย่าลำบาก— เฮ้ย!!”
เสียงเดรคร้องดังลั่นทำให้เขาต้องหันไปดู แล้วก็ต้องร้องออกมาไม่ต่างกัน
ใบหน้าของดอน บนมุมปาก
รอยช้ำห้อเลือดสีเข้มปรากฏอยู่บนนั้น
“ใครเป็นคนทำ?” เดรคจับไหล่ดอนแล้วถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง นิ่งจนเขาต้องแปลกใจ มันน่าแปลกน้อยเสียเมื่อไหร่เมื่อคนที่มักจะเป็นเดือดเป็นร้อนในเรื่องของดอนมากที่สุดในเวลานี้ดูนิ่งจนน่าแปลก
“เรื่องของฉัน” ดอนปัดมือเดรคออกไปแล้วหันไปวุ่นวายกับเครื่องชงกาแฟต่อ ไม่สนใจสีหน้าที่เคร่งเครียดขึ้นเรื่อยๆของเดรค
“ฮาวนด์ใช่ไหม?”
ดอนถอนหายใจแล้วตวัดสายตามองเดรค
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย”
“เจ้าหมาบ้านั่น!!” เดรคสบถก่อนจะวิ่งไปที่ประตู
“ไปตอนนี้ก็ไม่เจอหรอก” เดรคชะงัก สะบัดหน้าหันมามองคนพูด “หมอนั่นไปแล้ว” ดอนพูดเรียบๆแล้วยกกาแฟขึ้นจิบ ท่วงท่าสบายๆนั่นยิ่งดูเหมือนจะเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ เดรคกัดฟันกรอด มองบอสของตนด้วยความไม่เข้าใจ
“งั้นผมก็จะไปหารัสตี้!”
เดรควิ่งออกไปแล้ว ดอนมองภาพนั้นแล้วไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ
“ไปได้ก็ดี ตัวหนวกหูลดไปหนึ่ง” ดวงตาสีดำเบนมาสบกับเขาแล้วถาม “หวังว่านายคงจะไม่โวยวายแบบเจ้าหมอนั่นไปอีกคนหรอกนะ”
ออสเพรย์ส่ายหน้า
“ดี” ดอนจิบกาแฟ ก่อนจะนิ่วหน้าแล้วร้องออกมาเบาๆเพราะความเจ็บแปลบที่มุมปาก
เห็นแบบนั้นแล้วเหมือนจะอยู่เฉยไม่ได้ยังไงชอบกล... ออสเพรย์เดินไปที่ตู้เย็น เปิดส่วนของช่องแช่แข็ง หยิบเจลสำหรับประคบแผลมาให้ดอน ฝ่ายนั้นดูจะงงๆแต่ก็รับไปประคบแต่โดยดี
“ตกลง...” ออสเพรย์เริ่ม “มีเรื่องอะไรกันแน่ครับ?”
ดอนเลิกคิ้ว เลื่อนแผ่นเจลแล้วพูด “บอกแล้วไงว่านี่มันเรื่องของฉัน ไม่เกี่ยวกับพวกนาย” ดวงตาตวัดไปมองคนพูดไม่รู้เรื่อง แต่พอเห็นสีหน้าเหมือนหมาเวลาโดนทิ้งก็ต้องถอนหายใจออกมา “ฉันกับหมอนั่นทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ เดรคมันก็งี่เง่าของมันเป็นเรื่องปกติ นายไม่จำเป็นต้องมาสนใจมากหรอก รกสมองเปล่าๆ”
แปลก...
ถึงเขาจะเพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกได้ไม่ครบ 24 ชั่วโมงแต่มองยังไงๆก็รู้สึกแปลก
ถึงจะไม่รู้ว่าแปลกตรงไหน แต่มันเหมือนมีอะไรสะกิดใจประหลาด
ยิ่งคิดออสเพรย์ยิ่งสับสน ก่อนจะละความสนใจมันไปโดยสิ้นเชิงเมื่อดอนหยิบคอร์นเฟลคในตู้มาเทลงชามแล้วราดนมตามลงไป เอาช้อนคนไปคนมาแล้วก็หิ้วไปนั่งกินหน้าทีวี
จริงน่ะ?...
บอสแห่งองค์กรลับกินคอร์นเฟลคเป็นข้าวเช้า?
เยี่ยม...
ออสเพรย์พยายามไม่คิดอะไรอีก หยิบขนมปังปิ้งสองสามแผ่นทาเนยแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา ดอนที่กำลังหาช่องหันมามองเล็กน้อยก่อนจะหยุดลงที่ CW*
ในโทรทัศน์กำลังฉายโฆษณาของ Supernatural season 8*
“นายว่ามันจะเป็นยังไงต่อ?” ดอนถาม “ฉันยังไม่ได้เริ่มดูซีซั่น 8 แต่ในตอนจบของซีซั่น 7 ที่ดีนไป—
ว่าแต่นายดูเรื่องนี้หรือเปล่าน่ะ?”
อันที่จริงมันต้องถามก่อนไม่ใช่เหรอว่าเขาดูหรือเปล่า…
“เรื่องนี้ไม่ได้ดูครับ” เขาพูด “แต่ถ้า The Walking Dead ก็ดูอยู่บ้าง”
ดอนพยักหน้าแล้วหันกลับไปสนใจทีวีอีกครั้ง
ออสเพรย์เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย
หลังจากนั่งดูโฆษณาไปเรื่อยๆดอนก็หงุดหงิดจนปารีโมทลงพื้น (แน่นอนว่าไม่ถึงขั้นกระจายเป็นชิ้นๆแต่ก็ถือว่าปาอยู่ดี แต่ตรงจุดนี้ทำให้เขาคิดว่าดอนคงโมโหแต่ก็เสียดายรีโมทไม่น้อยเช่นกัน) แล้วเดินไปหยิบแผ่นบลูเรย์มาใส่แทน
“เรื่องอะไรน่ะครับ?” ออสเพรย์ขยับตัว
“Person of Interest*”
“สนุกเหรอครับ?”
“มาก”
ผ่านไปแล้ว 20 นาที
ดังนั้นเดรคก็หายไปร่วมยี่สิบนาทีกว่าๆ
เรื่องที่ดอนกึ่งบังคับให้เขาดูก็น่าสนใจจริงตามที่ดอนว่า
แต่เดรคหายไป...ตั้ง 20 นาทีเชียวนะ?
ออสเพรย์ขมวดคิ้ว หลังจากลังเลมานานก็ตัดสินใจถามในที่สุด
“เหมือนกันหมดทุกคนเลยหรือเปล่าครับ?”
ดอนเลิกคิ้ว แต่ยังไม่ละสายตาจากจอ “เหมือนอะไร? อะไรที่เหมือน? ถ้าหมายถึงเรื่องนี้มันก็คล้ายแบทแมนนะ แต่ก็ไม่เชิง คิดง่ายๆว่าเป็นแบทแมนแบบไม่ใส่แบทสูทก็แล้วกัน”
“เวลาโกรธ เหมือนกันทุกคนเลยหรือเปล่าครับ?”
ดอนมองออสเพรย์ด้วยหางตาแล้วกลับไปดูต่อ “บอกเจตนามา”
“...ผมสงสัย” ออสเพรย์กลืนน้ำลาย “ตอนคุณโกรธรัสตี้เมื่อวานก็เป็นแบบนี้ วันนี้เดรคโกรธคุณก็เป็นแบบนี้”
“เป็นอย่างนี้น่ะเป็นอย่างไหน?”
“นิ่ง”
“นิ่ง?”
“ครับ” เขาพยักหน้า “เวลาโกรธจะนิ่งๆทั้งคุณทั้งเดรค ผมเลยสงสัยว่าเป็นอย่างนี้กันทุกคนเลยหรือเปล่า”
คราวนี้ดอนหันกลับมามองเต็มๆตา “ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”
“ไม่รู้สิครับ...” ออสเพรย์ขยี้หัว ไม่รู้จะอธิบายยังไง “ผมแค่รู้สึกแปลกๆ” ใช่ เขารู้สึกแปลกๆ บอกตามตรงว่าความรู้สึกนี้มันรบกวนเขามาตั้งแต่เดรคเริ่มสงครามประสาทกับดอนในทีแรก ตอนนั้นมันรู้สึกแปลกๆ พอปล่อยไว้มันก็ยิ่งแปลก
ดอนจ้องเขาอยู่สักพักแล้วถอนหายใจ “ไม่หรอก ปกติเดรคมันจะโวยวาย ครั้งนี้มันมีเรื่องอื่นอีกหลายเรื่องเลยดูเครียดๆไปล่ะมั้ง” ว่าแล้วดอนก็ละสายตากลับไปยังจอโทรทัศน์
“แต่เดรคดูโกรธมาก”
ดอนกดรีโมทปิด ยืนขึ้น แล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆ
“ฉันไม่เข้าใจเจตนาของนาย” ดอนกอดอก เลิกคิ้ว แล้วใช้น้ำเสียงกดดัน “อย่ามาทำตัวงี่เง่า มีปัญหาอะไรพูดมาให้หมด”
น้ำลายในลำคอมันฝืดเฝื่อน
“วิธีการที่คุณปฏิบัติกับเดรคมันดูไม่แฟร์เลย” เขาเริ่ม “ถึงผมจะเพิ่งรู้จักพวกคุณ แต่ในสายตาผมสิ่งที่คุณทำมันไม่ยุติธรรมกับเดรคเลยสักนิด”
ดอนเลิกคิ้ว ส่งสัญญาณให้เขาพูดต่อ
“หมอนั่นเล่าให้ฟังว่าที่นี่เป็นยังไง คุณเป็นยังไง ทำงานกันแบบไหน” ถึงตรงนี้ออสเพรย์เงียบไป นึกถึงบทสนทนาเมื่อสอง-สามชั่วโมงก่อน
‘ตื่นเช้านี่’ เดรคทัก สภาพวันนี้ไม่ต่างจากเมื่อวาน สูทของเดรคเมื่อวานไม่เรียบร้อยยังไงวันนี้ก็ยังไม่เรียบร้อยอยู่อย่างนั้น ‘ถ้าเสื้อผ้าในตู้ไม่พอก็ไปเอาที่ห้องเดิมเหมือนเมื่อวานล่ะ’
เขาพยักหน้า นึกไพล่ไปถึงเมื่อวาน
หลังจากที่พวกเขากลับมาถึงดอนก็แยกตัวลงลิฟท์ไปในทันทีพร้อมกับลั่นวาจาประกาศิตไว้ว่าจะนอน เดรคที่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าเขายังขาดข้าวของจำเป็น จึงบังคับให้เขาไปยังห้องเสื้อเป็นที่แรก
ห้องที่เดรคพาเข้ามาเป็นคนละห้องกับที่ดอนพาไปเปลี่ยนเป็นสูทก่อนเจอพวกเพนตากอน ห้องนี้ไม่กว้างแต่เป็นแนวยาวลึกเข้าไป สองฝั่งมีตู้เสื้อผ้าแทนผนัง เดรคพาเดินลึกเข้าไปแล้วเปิดตู้ ในตู้เต็มไปด้วยเสื้อผ้าเรียบๆจำนวนมากเรียงตามไซส์และสี เดรคสั่งให้เขาเลือกไปจำนวนหนึ่งแล้วหันไปเปิดตู้ข้างหลังที่เต็มไปด้วยกางเกงพร้อมสั่งแบบเดิม
ออสเพรย์ใช้เวลาเลือกไม่นาน เขาไม่ใช่คนพิถีพิถันเรื่องการแต่งกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นขอแค่อะไรใส่ได้แล้วไม่ประหลาดจนเกินคนก็พอ
แต่ดูเหมือนเดรคจะไม่คิดอย่างนั้น...
‘ไว้พรุ่งนี้ฉันจะขอดอนให้ออกเงินเดือนล่วงหน้าให้นาย แล้วขอร้องเลยนะ ไปซื้อเสื้อผ้าที่เหมาะกับนายมาซะ ไปสั่งตัดสูทดีๆเลยยิ่งแจ่ม ดูของฉันสิ! สูทของ ฮิวโก้ บอส เชียวนะ!’
ออสเพรย์เลิกคิ้ว ‘ยี่ห้อเดียวกับนาฬิกาฉัน?’
คราวนี้เดรคชักสีหน้า ทำท่าทางรังเกียจเขาชัดเจน ‘อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องในเมื่อแกจงใจเลือกนาฬิกาแพงสุดในสี่เรือนนั้น อย่ามาแก้ตัวด้วยว่าไม่รู้’
‘แพงสุด?’ ออสเพรย์ทวนเสียงสูงแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาพิจารณา ‘คาสิโอเรือนนั้นน่าจะแพงกว่าเห็นๆ...’
‘ไอ้โง่เอ๊ย!’ เดรคสบถ ‘คาสิโอเรือนนั้นมันดูอลังการเฉยๆ ดูเผินๆฮิวโก้ที่นายหยิบมามันธรรมดาก็จริงแต่ไม่เห็นความเรียบหรูของมันหรือไง?! นี่นายเหมาะจะเป็นสไนเปอร์จริงๆหรือเปล่าเนี่ย? ให้ตายเหอะ ฉันจะไปบอกดอนให้ดอนไล่นายออก!!’
นั่นมันเจตนาของนายตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่เรอะ...
ออสเพรย์คิดแบบนั้น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก
เดรคที่ชงกาแฟเสร็จก็หันมาหาแล้วชวนคุยเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่าไปยังไงมายังไงถึงลามมาเรื่องรายละเอียดอะไรหลายๆอย่างในเซคเตอร์ยูแทน โดยกำชับว่าถ้าดอนถามเขาว่า เดรคอธิบายอะไรบ้างหรือยัง? ก็ให้ตอบกลับไปว่า ‘อธิบายแล้ว รู้เรื่องดีมาก เดรคมีประโยชน์สุดๆ’ เป็นการแลกเปลี่ยน
สิ่งแรกที่เดรคพูดถึงคือเงินเดือน
‘เซคเตอร์ยูเงินเดือนไม่สูงหรอกนะ’
ออสเพรย์เลิกคิ้ว
‘ปีนึงนายจะได้รายได้ขั้นต่ำจากเซคเตอร์ยูอยู่ประมาณ 3 หมื่นดอลล์’ เดรคจิบกาแฟแล้วเอ่ยต่อ ‘จริงๆแล้วถ้าเก็บเงินดีๆนายก็ซื้อรถได้สบายๆอยู่น่ะนะ แต่นั่นก็หมายความว่านายต้องเก็บเงินดีๆ ฉันหมายถึง ‘ดีๆ’ แบบจริงจัง’
‘หมายความว่ายังไง?’
‘ต้องอธิบายให้นายรู้ก่อนว่าเซคเตอร์ยูค่อนข้างเลี้ยงดี อันที่จริง บอสน่ะใจดี’ สีหน้าเดรคดูจะเทิดทูนบูชาดอนขึ้นมาวูบหนึ่ง ‘เสื้อผ้าถ้านายไม่เรื่องมากก็ไปเอาในตู้มาใส่ อาหารถ้านายไม่เรื่องมากก็กินของที่บอสสั่งเข้ามา เวลาว่างถ้านายไม่เรื่องมากก็ดูหนังที่บอสเก็บไว้ ที่นอนถ้านายไม่เรื่องมากก็ใช้เตียงในห้องที่มีอยู่ สรุปแล้วถ้านายไม่เรื่องมากก็สามารถอยู่ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายอะไร ชีวิต 0 ดอลล์โดยสิ้นเชิง’
ออสเพรย์ขมวดคิ้ว ‘มันดูขัดๆกับที่นายพูดมาทีแรกรึเปล่าน่ะ?’ จริงๆแล้วมันขัดกันสุดๆเลยเหอะ...
เดรคยักไหล่ ‘ไปดูในตู้เย็นเอาเอง’
ออสเพรย์เปิดตู้เย็น นิ่งค้าง แล้วปิด
เดรคขยับปากเป็นเชิงว่า ฉันบอกแล้ว
โอเค... เอาใหม่
ออสเพรย์เปิดตู้เย็น คราวนี้ทำใจอยู่ได้ซักระยะ แล้วก็ปิดกลับไปอีกรอบ
‘ถามจริง...’ เขาหันไปถามเดรค ‘ใครซื้อ?’
เดรคไหวไหล่ ‘บอสไง’
‘จริง?’
‘จริง’
‘ให้ตาย...’ ออสเพรย์สบถ ‘Jack Link’s* เนี่ยนะ...’
เดรคบอกว่าคนที่สั่งซื้อมันเข้ามาเป็นจำนวนมากคือดอน ดอนกินทุกวันจนแทบจะเป็นอาหารเช้า สาย กลางวัน บ่าย เย็น ค่ำ ดึก เหตุผลง่ายๆคืออร่อย(สำหรับดอน คนอื่นไม่รู้ว่าคิดยังไง)และเร็ว เพราะอย่างนั้นจึงซื้อมาเพียบ แล้วยัดไว้ในตู้เย็นเพราะมันจะอร่อยเวลาเอาเข้าเวฟซักครั้งก่อนกิน
‘อย่างที่บอก ถ้านายไม่เรื่องมากก็กินแจ็คลิงค์สไป แต่ถ้าทนไม่ได้ก็ไปซื้ออาหารแช่แข็งมา มีตู้สำหรับแช่โดยเฉพาะอยู่ในสุด’
ออสเพรย์พยักหน้า เข้าใจแล้วว่าทำไมเดรคถึงย้ำถ้าไม่เรื่องมากบ่อยนัก
‘อย่าทำหน้าแบบนั้น’ เดรคหัวเราะ ‘อยู่กับดอนไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก อันที่จริงสบายสุดๆด้วยซ้ำ’
เขาทำหน้าไม่เชื่อ เดรคที่เห็นดังนั้นก็ยิ่งหัวเราะหนักเข้าไปใหญ่
‘นายไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดอนเลย ออสเพรย์’
แล้วเดรคก็เริ่มเล่า
“เดรคบอกว่าคุณช่วยเหลือเขา” ดวงตาสีเพริดอตของออสเพรย์ดูคมกล้า “เดรคบอกว่าทุกคนที่นี่ถ้าไม่ถูกคุณช่วยไว้แบบผม ก็จะอยู่เพราะพันธะและบุญคุณของคุณ”
ดอนนั่งเท้าคาง ไม่ตอบอะไร
“เดรคบอกผมว่าคุณใจดี คุณเป็นคนดี” ถึงตรงนี้อดรู้สึกขัดๆไม่ได้ คนใจดี? ที่เตะเขาซี่โครงหักทั้งยังบาดเจ็บ? “ผมยอมรับว่าไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ แต่เดรคเชื่ออย่างนั้น หมอนั่นเชื่อคุณมาก รักคุณมาก มากจนผมแปลกใจ”
ดวงตาของดอนเย็นวาบ และยังไม่ตอบอะไรกลับมา
“หมอนั่นยังพูดอีก...” ออสเพรย์ชะงัก ก่อนจะค่อยๆพูด
“หมอนั่นยอมตายได้ ...เพื่อคุณ”
ถึงตรงนี้บรรยากาศในห้องยิ่งแย่ลงไปอีก ดอนเงียบมาตั้งแต่เมื่อกี้ ส่วนเขาหลังจากหลุดปากออกไปเพราะอารมณ์ก็ได้แต่เงียบ
ความกดดันดำเนินไปเกือบนาที ก่อนจะถูกทำลายด้วยเสียงแค่นหัวเราะของดอน
“ปัญญาอ่อน”
ออสเพรย์หันไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา
ดอนแค่นหัวเราะ มุมปากกระตุกเป็นเชิงเยาะหยัน “ปัญญาอ่อนสิ้นดี เดิมทีฉันก็รู้อยู่แล้วนะว่าหมอนั่นไม่ได้ฉลาดสักเท่าไหร่ แต่พอมาพูดแบบนี้แล้วฉันคงสรุปได้เลยว่ามันโง่” เสียงหัวเราะของดอนเย็นเยียบ “แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณที่อุตส่าห์คาบข่าวมาบอก ทำตัวสมเป็นหมาดี แต่ไม่สมกับชื่อเลยนะ ออสเพรย์”
“คุณพูดได้ยังไง?” มือของออสเพรย์กำแน่นจนสั่น “ผมรู้ว่าตัวเองยังไม่รู้จักคุณดี แต่ผมเชื่อว่าคุณเองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรเท่าไหร่ แล้วคุณพูดแบบนั้นออกมากับคนที่เทิดทูนบูชาคุณขนาดนั้นได้ยังไง?”
“ทำไมฉันจะพูดไม่ได้?” ดอนแค่นเสียง “ในเมื่อฉันเป็นเจ้านาย พวกแกเป็นลูกน้อง เวลาลูกน้องทำตัวโง่ๆทำไมฉันจะด่าไม่ได้?”
“คุณ—!”
“อีกอย่างหนึ่ง”
ดวงตาสีดำสนิทหรี่ลง
“ฉันไม่เคยขอ ให้มันยอมตายเพื่อฉัน”
[---I'm sexy and I know it --- I'm sexy and I know it ---]
ดอนรับโทรศัพท์ “ว่าไง?”
-บอส อเลสเตอร์ติดต่อมา- เดรคโทรมา เสียงที่คุ้นเคยติดห้วนจนน่าโมโห
“มันมีธุระอะไร? ถ้าเรื่องคดีเมื่อวานด่ากลับไปเลยนะว่ามันโง่มากที่โทรมาถามวันนี้เพราะคิดว่าคนอื่นเขาเคลียร์คดีแล้ว ไปตายซะ”
-หมอนั่นพูดถึงงานใหม่-
“งานใหม่?” ดอนเลิกคิ้ว “ตลกละ งานปัจจุบันฉันยังไม่เริ่มก็อย่าคิดว่าฉันจะรับงานใหม่ ไร้สมองสิ้นดี”
-แต่งานนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเมื่อวานนะดอน ยังไงๆนายก็ต้องรับอยู่ดีนั่นแหละ อย่าดื้อไปหน่อยเลยน่า-
เพราะเสียงที่ตอบกลับมาเปลี่ยนไป ทำให้อารมณ์ของดอนขุ่นมัวยิ่งขึ้น
“แกแฮคสายฉัน”
-เปล่านะ อย่าใส่ความกันสิ รัสตี้โอนให้เองเลยต่างหาก เนอะ-
“รัสตี้”
-อย่าโทษฉัน โทษตัวเองเหอะดอน หมอนั่นไม่มีอารมณ์จะคุยกับนายต่อหรอก-
-โว้ว มีเรื่องอะไรกันอยู่น่ะ?- อเลสเตอร์แสร้งอุทานแล้วเอ่ยเสียงเยาะ -เดรคของนายถึงขนาดไม่อยากจะพูดกับนาย เรื่องใหญ่ไม่ใช่เล่นเลยนา-
-ก็แค่ทิฐิกับความลำเอียงของคนบางคนน่ะ อย่าสนใจเลย-
-หืม? ลำเอียง? งั้นฉันว่าฉันเข้าใจแล้วล่ะ ร้ายไม่ใช่เล่นนะดอน พอเป็นเรื่องของฮา— -
“หุบปากอเลสเตอร์”
-โอ๊ะ โกรธแล้วล่ะ โกรธแล้ว แปลว่าใช่จริงด้วย-
“รัสตี้ ตัดสาย”
-โอเค ไม่แหย่แล้ว มีงานน่ะ-
ดอนขมวดคิ้ว
-เชื่อเหอะว่านายต้องสนใจ รับประกันได้เลย-
ประตูห้องบัญชาการเปิดออก ดอนก้าวเข้ามาพร้อมกับออสเพรย์ที่สีหน้าดูจะกรุ่นๆผิดปกติ แปลก? ปกติเจ้าคนใหม่นี่ออกจะนิ่ง นิ่งแบบนิ่ง นิ่งไปเลย จะมีหลุดบ้างก็เป็นสีหน้างงๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะหน้านิ่ง แล้วไหงวันนี้ดูแปลกๆ รัสตี้มองภาพนั้นแล้วเลิกคิ้ว
“นี่อย่าบอกนะว่าพวกนายก็เพิ่งจะมีเรื่องกันมา”
ดวงตาสีดำตวัดมามอง “อย่ามาสอด”
ใช่เลย เป๊ะชัวร์...
ดอนนั่งลงบนเก้าอี้หมุนตัวใหญ่ เงยหน้าขึ้นมองมอนิเตอร์ เจ้าตัวน่าโมโหยังยิ้มระรื่นอยู่ในนั้น น่าหงุดหงิดสิ้นดี... พอหันไปมองมุมห้องก็เห็นเดรคยืนกอดอกอยู่ ไม่แม้แต่จะชายตามองเขา ไอ้นี่ก็น่าหงุดหงิด วันนี้มีแต่อะไรน่าหงุดหงิด พอชักสีหน้าความเจ็บแปลบที่มุมปากก็วิ่งเข้าสูสมอง นี่ก็...น่าหงุดหงิดอย่างร้ายกาจ
ดอนพ่นลมหายใจระบายความหงุดหงิดแล้วถามเจ้าคนหน้าเป็นในมอนิเตอร์ “มีอะไรก็ว่ามา”
อเลสเตอร์ฉีกยิ้มน่าหมั่นไส้ สั่งให้รัสตี้เอาข้อมูลขึ้นแล้วเริ่มสาธยาย -American Trading International, Inc นี่เป็นเป้าหมายที่นายต้องเข้าไปจัดการ-
“อะไร?” ดอนท้วง “บริษัทนั่นไม่มีอะไรปกติ แล้วทำไม—”
ดอนชะงัก กวาดสายตามองข้อมูลบนจอ ในขณะที่รอยยิ้มของอเลสเตอร์กว้างขึ้นเรื่อยๆ
“ให้ตาย...” บอสแห่งเซคเตอร์ยูทิ้งตัวลงไปจมอยู่กับพนัก “ก็ได้ ฉันรับงานนี้”
-นายนี่มันน่ารักจริงๆ ดอน แอดเดอร์ กลับมาหาฉันดีกว่ามา-
“ให้แกตายก่อนแล้วฉันจะกลับไป”
-โห่...-
“ส่งรายละเอียดมา เสร็จงานแล้วฉันจะติดต่อไป”
อเลสเตอร์รับปาก แต่ก่อนที่จะตัดสัญญาณหมอนั่นก็ทำหน้าเหมือนจะนึกอะไรได้แล้วรีบรั้งไว้
-ดอน ฉันลืมบอกไปเรื่องหนึ่ง-
ดอนเลิกคิ้ว
-คราวนี้เตรียมตัวให้ดีหน่อย-
อเลสเตอร์เว้นจังหวะ สีหน้ายียวนกวนประสาทหายไปแล้ว หมอนั่นดึงเอาความจริงจังเฉพาะเวลาอยู่ด้วยกันสองคนขึ้นมาแทน
-คดีนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับ อัลริค-
After that
เดรคออกไปสักพักแล้ว ออสเพรย์ก็ตามไปติดๆ ในห้องบัญชาการเย็นยะเยือกเหลือแค่ดอนกับรัสตี้เท่านั้น
เสียงเครื่องปรับอากาศดังหึ่งๆ อุณภูมิในห้องลดลงไปอีกด้วยรีโมทในมือของหัวหน้าที่ใจไม่สงบพอ
รัสตี้มองภาพนั้นแล้วได้แต่ถอนหายใจ หมุนเก้าอี้ตัวเองไปเผชิญหน้าแล้วถาม
“นายจะเอายังไง?”
“ไม่เอายังไงทั้งนั้นแหละ” ดอนตอบด้วยเสียงราบเรียบ “ได้งานมาก็ต้องทำ แค่นั้น จบ”
“ฉันหมายถึงเรื่องของฮาวนด์”
“ฉันหมายถึงงาน”
รัสตี้ขยี้หัว ไม่นึกอยากต่อล้อต่อเถียงกับหมอนี่เท่าไหร่
“งั้นนายก็เริ่มคิดเรื่องนี้ได้แล้ว นายปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ หมอนั่นต่อยนายอันนี้ฉันเฉยๆ แต่กับเดรคมันไม่ใช่” ปลายนิ้วของเขาเคาะเข้ากับแผงควบคุม “นายก็รู้ว่าเดรคเป็นยังไง มองดูนายถูกฮาวนด์ทำร้ายง่ายๆ เรื่องอย่างนี้มันไม่ยอมหรอก วันนี้ก็ถึงขั้นบุกมาหาฉัน เค้นเอาที่อยู่ของฮาวนด์จนกระทั่งอเลสเตอร์ติดต่อมานั่นแหละ”
ดวงตาของดอนเย็นเยียบ
“แล้วนายให้ไปหรือเปล่า?”
“เปล่า” รัสตี้ตอบ “ตามที่นายสั่งทุกอย่าง”
“ก็ดี” อีกฝ่ายรับคำแล้วหลับตาลง ดวงตาสีดำที่หายไปหลังเปลือกตาดูอ่อนล้าจนน่าห่วง
“แล้วนายจะทำยังไงเรื่องของเดรค?”
“ปล่อยไป”
“เรื่องของออสเพรย์?”
“ก็ปล่อยไป...”
“ไหนจะเรื่องงานเมื่อวานอีก อย่าบอกนะว่าจะปล่อยไป?”
“ปล่อยไปก่อน...”
รัสตี้มองภาพนั้นแล้วเงียบ ตัดสินใจปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่กับตัวเอง เพราะดอนสภาพนี้ถึงจะเคยเจอกับตัวมาบ้างแต่เขาก็ไม่คุ้นเลยจริงๆ
สภาพที่เหมือนกับคนที่อยากหายไปเต็มที
เปลือกตาของดอนสั่นระริก แล้วค่อยๆลืมขึ้น
รัสตี้เลิกถามแล้ว เขาเข้าใจว่าเพราะอะไร
แต่ช่างเถอะ เรื่องอะไรก็ช่างมัน
จะเรื่องเดรค เรื่องออสเพรย์ เรื่องฮาวนด์
ช่างมัน
ตอนนี้ปล่อยไปก่อน
แล้วค่อยจัดการในทีเดียว
- The Mission - ชื่อตอนมาจากภาพยนต์เรื่อง The Mission ในปี 1986 มีเนื้อหาเกี่ยวกับมิชชันนารีในศตวรรษที่ 18 ที่ประเทศอเมริกาใต้ ได้รับรางวัล Palme d'Or and the Academy Award for Best Cinematography
- CW - สถานีโทรทัศน์ฟรีทีวีช่องหนึ่งของสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี 2549
- Supernatural - ซีรี่ย์ขายดีโคตรๆเรื่องหนึ่งของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส 1 ซีซั่นมี 22-23 ตอน ปัจจุบันดำเนินมาถึงซีซั่นที่ 8 เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสองพี่น้องตระกูลวินเชสเตอร์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันเท่าไหร่ออกไล่ฆ่าผีตามหาพ่อไปทั่ว ในอดีตแม่ของพวกเขาถูกปีศาจฆ่าตาย พ่อเลี้ยงให้โตมาเป็นนักล่าแต่แซม(น้องชาย)ดันไม่ปลื้ม หนีไปอยู่คนเดียว ผ่านมาหลายปีพ่อหายตัวไปดีน(พี่ชาย)จึงมาบอกแล้วให้แซมตามหาพ่อด้วยกัน สนุกนะเรื่องนี้ อนันต์รับรอง แต่ซีซั่นหลังๆอนันต์ว่าไม่สนุกเท่าแรกๆเท่าไหร่...
- Person of Interest - ซีรี่ย์จากช่อง CBS เริ่มฉายตั้งแต่ปี 2011 ปัจจุบันถึงซีซั่น 2 มีจำนวนตอน 22-23 ตอนต่อหนึ่งซีซั่น เนื้อเรื่องเกี่ยวกับสุดยอดซอฟแวร์อัจฉริยะที่ตรวจหาการก่ออาชญากรรมล่วงหน้าได้กับผู้สร้าง ฟินช์ และอดีตซีไอเอ รีส มาร่วมมือกันเพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดอาชญากรรม เรื่องนี้สนุกมาก การันตีด้วยเรต 8.3 ใน IMDb และผู้กำกับโนแลนด์ ผู้ฝากผลงานด้านบทไว้กับแบทแมนไตรภาค แถมเสียงของมิสเตอร์รีสก็เซ็กซี่สุดๆเลยด้วย
- Jack Link’s - ถ้าจะให้ขยายความ สิ่งที่อยู่ในตู้เย็นคือ Jack Link’s Premium Cuts Original Beef Jerky เพื่อความเข้าใจง่ายขออธิบายอย่างง่ายๆว่ามันเป็นเนื้อแห้ง จัดเป็นสแนคอย่างหนึ่งของอเมริกา ได้รับความนิยมสูงมาก จริงๆแล้วไม่จำเป็นต้องเข้าเวฟก่อนกิน มันกินทั้งๆอย่างนั้นเลย ส่วนตัวแล้วอนันต์ว่ามันก็อร่อยดี
อ้างอิงสูทของเดรค http://hugoboss.scene7.com/is/image/hugoboss/06_hbna50229482_021_10?$re_detail$
'Pasolini/Movie' | Classic Fit, Virgin Wool Suit by BOSS : HUGO BOSS
Model Pasolini/Movie US_2 50229482 Dark Grey
****************************************************
อนันต์ปวดหลังว่ะ...
ในตอนนี้ขอเปลี่ยนจาก ออสเปรย์ เป็น ออสเพรย์ แทน จริงๆมันไม่ได้ผิดหรอก มันขึ้นอยู่กับการออกเสียงมากกว่า ซึ่งพอเช็คโฟเนติคและการออกเสียงจริงๆก็พบว่ามันออกเป็น ออส-พรี / เพรย์ แต่บางพื้นที่มีการออกเสียงเป็น ออส-เปรย์ ดังที่อนันต์ใช้มาตลอด คือจริงๆไม่เปลี่ยนก้ได้ แต่อนันต์เจอจุดๆหนึ่งให้แทรกได้เพราะงั้นอนันต์จึงเปลี่ยน แล้วจะกลับไปแก้ไขตอนเก่าๆเพื่อไม่ให้สับสน
ขออภัยที่ตอนนี้มาได้ช้ามาก แบบว่าอนันต์ติดงาน ชีวิตวุ่นวายมา ณ ตอนนี้ อยากดูฮันนิบาลสุดๆ //ไม่ใช่...
ขอชี้แจงก่อนว่าสำหรับเรื่องนี้อนันต์แต่งสดตอนต่อตอน คืออนันต์ยอมรับผิดเลยว่าอย่างนี้มันไม่ดีสำหรับเรื่องที่มีรายละเอียดเยอะแยะ ดังนั้นเหตุที่ตอนนี้มาช้ามากก็เพราะอนันต์คิดไม่ออกนั่นเอง
นอกจากชื่อของออสเพรย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงการออกเสียงในภาษาไทยไปแล้ว อนันต์ขอเปลี่ยนคำบอกจำนวนตอน จากที่ใช้ว่า Chapter อนันต์จะตัดออก แล้วเปลี่ยนเป็นการสะกดตัวเลขแทน
ในจุดนี้ไม่มีเหตุผลอะไรมาหรอก อนันต์แค่อยากเฉยๆ พอดีไปอ่านนิยายเมกา (ย้ำว่าเมกา เมกาจริงๆ ซื้อจากคิโนะและเป็นภาษาอังกฤษล้วน) เลยติดมา
อนันต์ไม่รับประกันอะไรในตอนหน้า เพราะอนันต์ไม่รู้ว่างานอนันต์มีค้างไหม ถ้าค้างก็ต้องเคลียร์ แถมตอนนี้อนันต์ติดฮันนิบาล สนุกมาก เวิ่นสุดๆ เรื่องบ้าไรไม่รู้ดูแล้วโคตรติด ตอนนี้เลยหลบไปแปลฮันนิบาลด้วยซะงั้น โอเค อนันต์สำนึกผิดล่ะ
ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตาม เจอกันใหม่อีกทีเมื่ออนันต์หายปวดหลัง
อนันต์
ความคิดเห็น