ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Harry Potter] The troublesome stick

    ลำดับตอนที่ #3 : ระเบิดครั้งที่ 2 l A cat burglar

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.68K
      37
      16 พ.ค. 66

    02 l 100%

    TW : —


     

    เด็กชายมีผมสั้นสีบลอนด์สว่างที่หยิกเป็นลอน ดวงตาสีฟ้าเขียวน้ำทะเล และใบหน้าท่าทางที่ดูทะเล้นซึ่งมีพลาสเตอร์ยาแปะอยู่ที่แก้ม ทุกอย่างที่กล่าวมาเข้ากันอย่างลงตัว และมันคงจะทำให้เขาโดดเด่นไม่ใช่น้อยหากไม่ได้อยู่ในสถานการณ์อัดเสียด และเรเทียน่าก็พร้อมที่จะชมเขาว่าหล่อคำโต หากไม่ใช่ว่าคนที่กำลังกอบกุมข้อมือเธออยู่ด้วยแรงที่ชวนนิ่วหน้าไม่ใช่บุคคลที่ว่ามา

     

    เด็กสาวยิ้มเย็นก่อนจะหมุนแขนของตัวเองไปอีกทาง ส่งผลให้แขนของเด็กชายผมสีบลอนด์เกือบจะบิดไปผิดรูป ดีที่เขายอมปล่อยมือจากเธอเสียก่อน ใบหน้ามีแววของเขาบิดเบี้ยวไปจากเดิมเพราะความเจ็บ

     

    "อย่ามากล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐานสิ" เรเทียน่ากอดอก

     

    "ไม่ต้องมาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยนะ!"

     

    "ห้ะ?"

     

    "ผมยาวสีดำเหมือนกันขนาดนั้น แถวนี้ก็มีแค่เธอคนเดียวเท่านั้นแหละ!" เขาพูดเองเออเองอย่างเอาแต่ใจ แสดงออกถึงความไม่พอใจไม่ต่างกันกับคู่สนทนา

     

    เด็กสาวแทบจะหมดความอดทน เสียงแหลมหวานตะโกนตอบกลับไปด้วยแรงอารมณ์ "เอ๊ะ ผมยาวสีดำอะไรของนาย แหกตาดูเองก็น่าจะรู้นี่ว่าผมฉันสั้นน่ะ!"

     

    "…"

     

    "…"

     

    "ก็… ก็…"

     

    "อือ ไม่ใช่เธอหรอก" คราวนี้คนที่พูดไม่ใช่เด็กหนุ่มคนเดิม แต่เป็นอีกคนหนึ่ง สีผมสีขาวแปลกตากับผิวซีดตัดกับเสื้อผ้าสีดำสนิทที่เขาสวมอยู่อย่างลงตัว เรเทียน่าไม่แน่ใจนักว่าดวงตาของเขาเป็นสีอะไรเพราะมันต้องมองผ่านเลนส์แว่นที่ตอนนี้มีไอเกาะจนขาวโพลน แต่นั่นไม่สำคัญเท่าเรื่องที่เด็กชายผมบลอนด์เสียมารยาทกับเธอ

     

    คนผมขาวตบบ่าเพื่อนของตนเหมือนเป็นทั้งการปลอบใจและเป็นการปรามให้ใจเย็น ๆ ไปด้วย ก่อนจะถอดแว่นของตนออกมาเช็ดเล็กน้อยแล้วสวมมันเข้าดังเดิม เด็กสาวจึงได้มองเห็นดวงตาสีม่วงประกายคู่นั้นอย่างชัดเจน

     

    "ขอโทษแทนเขาด้วย ปกติแพทเป็นคนใจเย็นกว่านี้นะ เนอะ?" เขาว่าพลางระบายรอยยิ้มบางก่อนจะกระทุ้งศอกเข้าที่เพื่อนข้าง ๆ คนที่ชื่อแพทได้แต่ถลึงตามองอย่างหงุดหงิดเพราะเขาเป็นฝ่ายต้องขอโทษจริง ๆ

     

    "ก็ได้… โทษที ฉันเข้าใจผิดเอง" เด็กชายว่าต่อเมื่อเห็นว่าเด็กสาวยังคงดูไม่พอใจกับคำขอโทษ "จะชดใช้ให้ด้วย"

     

    "…จะชดใช้ให้เลยเหรอ?"

     

    "แน่นอน" เป็นคำยืนยันที่กัดฟันตอบ

     

    "อะไรก็ได้เลยใช่ไหม"

     

    "..." เขาอ้ำอึ้ง "ก็ถ้ามันไม่เกินกำลังที่ฉันจะให้ได้"

     

    เรเทียน่ายิ้มกว้าง

     

     

     

    "ไปซื้อไอศกรีมมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"

     

    เอเลนคนพี่หันไปถามเด็กสาวข้าง ๆ ตัวอย่างสนอกสนใจหลังจากที่ยัดพวกสัมภาระทั้งหมดลงไปในกระเป๋าสีดำสนิทของเขาที่ร่ายเวทขยายพื้นที่ไว้แล้ว

     

    พวกเขาออกมาอยู่หน้าร้านตัวบรรจงและหยดหมึกได้สักพักแล้ว ตอนแรกเรเทียน่าจะเดินออกมาเฉย ๆ โดยไม่ได้บอกอะไรรูเบน ทว่าเมื่อนึกถึงตอนที่อีกคนขี้มูกโป่งเพราะคลาดกันก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมา สุดท้ายเลยวิสาสะฝ่าคลื่นมนุษย์ไปบอกเจ้าตัว รออยู่ไม่นานนักของชดใช้ความผิดของพ่อหนุ่มผมบลอนด์ก็ส่งถึงมือ และต่อมารูเบนก็ออกมาจากร้าน

     

    "ความลับน่ะค่ะ สนใจสักโคนไหม" เรเทียน่าว่าพลางยื่นไอศกรีมรสองุ่นเลม่อนในมือให้อีกฝ่าย ความจริงแล้วเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารสชาติของมันคืออะไรกันแน่ แต่ต้องยอมรับเลยว่าไอศกรีมในครอกนี่มันอร่อยจนติดใจ เพราะฉะนั้นมันไม่ถือเป็นปัญหาอะไรใหญ่โต

     

    คุณชายตระกูลเอเลนรับน้ำใจนั้นมาด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ

     

    "เธอตัวเล็กมากรู้ไหม เป็นเด็กต้องนอนเยอะ ๆ กินเยอะ ๆ นะ"

     

    เรเทียน่าหรี่ตาลงเล็กน้อย เธอเงยหน้ามองคนตัวสูงกว่า อดคิดไม่ได้ว่าเขาเองก็อายุไม่ห่างจากเธอมากนัก

     

    "ก็พี่ตัวสูงแล้วนี่นา-- แน่นอน แน่นอน สูงได้มากกว่านี้อีกนั่นแหละ หวังว่านะ" เขากระแอม "เอาเป็นว่าพี่อยากให้เธอกินอิ่มนอนหลับนะ รู้ไหมว่าพี่อยากมาเที่ยวกับน้องสาวมาตลอดเลย"

     

    เด็กสาวไม่ได้ตอบอะไรกลับไป ครอบครัวเอเลนเป็นครอบครัวที่อบอุ่น บรรยากาศนั้นทำให้นึกถึงบ้านที่มีโรเช็ตต้า แต่เธอก็ยังไม่ชินอยู่ดี

     

    รูเบนชวนเรเทียน่าคุยตลอดทาง พวกเขาแวะดูนู่นนี่บ้างตามประสา จนกระทั่งมาถึงหน้าร้านซอมซ่อแห่งหนึ่ง มันไม่ได้ดูเก่าจนรับไม่ได้ เรียกว่าขลังคงจะถูกกว่า แรกเริ่มเด็กสาวไม่ได้รู้สึกคุ้นตาอะไร เธอไม่สนจะอ่านตัวอักษรลอก ๆ บนประตูด้วยซ้ำ แต่เมื่อประตูถูกเปิดออก เสียงกระดิ่งดังเหมือนกำลังเตือนพนักงานในคาเฟ่ว่าลูกค้ามาแล้ว ทว่านี่ไม่ใช่ร้านกาแฟและไม่ใช่ร้านหนังสือด้วยแม้จะมีกลิ่นอับเบาบาง เพราะเมื่อเพ่งมองของที่อยู่บนชั้นวางด้านหลังเคาท์เตอร์นั้น มันก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่าที่นี่คือร้านไม้กายสิทธิ์ และร้านไม้กายสิทธิ์ที่โด่งดังที่สุดในตรอกไดแอกอนคงไม่พ้น...

     

    "คุณโอลลิแวนเดอร์ครับ?" รูเบนเอ่ย เสียงเขาก้องเล็กน้อยเพียงพอให้สิ่งมีชีวิตในร้านนี้ได้ยิน

     

    "สวัสดีหนุ่มน้อย" เสียงของชายชราดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาสองพี่น้องสะดุ้งโหยง รูเบนเหมือนจะหลุดคำสบถออกมาครึ่งคำ โชคดีที่เขายังยั้งปากของตัวเองทัน "ผ่านมาสองปีแล้วใช่ไหมที่เธอเข้ามาซื้อไม้กายสิทธิ์ในร้านของฉันคุณเอเลน ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีกครั้งในเร็ววัน ไม้เกาลัดสิบสามนิ้วมีปัญหาหรือ"

     

    "สวัสดีครับคุณโอลลิแวนเดอร์ เปล่าครับ ตรงกันข้ามเลย มันเข้ามือผมมาก" เด็กหนุ่มตอบ เขาดันตัวเรทียน่าไปข้างหน้าเล็กน้อย "นี่น้องสาวผม เรเทียน่าครับ เธอต้องใช้ไม้กายสิทธิ์"

     

    โอลลิแวนเดอร์ทำปากอ๋อแต่ไม่มีเสียงเปล่งออกมา เขาเดินเข้าไปใกล้เด็กน้อย "โอ้ ใช่ เรเทียน่า เอเลน หน้าเหมือนป้าราวกับพิมพ์เดียวกัน" ดวงตาสีเงินจ้องเรเทียน่าไม่กะพริบ

     

    "คุณรู้จักป้าหนู"

     

    "รู้จักสิ โรเช็ตต้าได้ไม้เรดโอ๊กไป สิบสองนิ้วพอดี ไม้อารมณ์ร้อนเอาใจยากแต่ทรงพลังในการดวลคาถา" เขาเว้นวรรค "ในขณะที่พ่อเธอได้ไม้โรวัน เหมาะอย่างยิ่งในการร่ายคาถาป้องกันเหมือนคนในตระกูลเอเลนส่วนใหญ่ นาน ๆ ครั้งจะมีประเภทแบบโรเช็ตต้าหรือรูเบนให้ฉันได้เห็นในประวัติศาสตร์ของเอเลน"

     

    ในจังหวะเดียวกันที่เขาเล่า สายวัดลอยได้ก็เริ่มทำงานของตัวเอง มันวัดความยาวของตัวเด็กสาว และส่วนอื่น ๆ ไม่ต่างจากการวัดเพื่อตัดชุด แถมมันยังสะกิดที่แขนของเรเทียน่าเล็กน้อยเมื่อเธอไม่ได้ยื่นแขนออกมาให้มันวัดความยาวด้วย

     

    "เอาล่ะ คุณเอเลน บอกฉันซิว่าเธอจะถือไม้กายสิทธิ์ด้วยมือข้างไหน"

     

    สายวัดที่ยังคงลอยไปลอยมารอบ ๆ ตัวทำให้สมาธิของลูกค้าตัวน้อยจดจ่อไปกับมัน เธอเงียบไปสักพักหนึ่ง แต่ก็ยังดึงสติกลับมาตอบคุณเจ้าของร้านได้ "ข้างซ้ายค่ะ หนูถนัดซ้าย"

     

    โอลลิแวนเดอร์ขยับเล็กน้อยก่อนจะหยิบกล่อง ๆ หนึ่งออกมาจากชั้นวาง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่สายวัดหยุดขยับและลงไปกองบนพื้น "เอ้า นี่ ไม้มะเดื่อ แกนกลางหัวใจมังกร ยาวสิบสองนิ้วครึ่งและยืดหยุ่นอย่างประหลาด ลองโบกดูคุณเอเลน"

     

    เรเทียน่าลองโบกไม้ในมือดูตามคำขอ มันรู้สึกเหมาะมืออย่างประหลาดตั้งแต่หยิบขึ้นมา พอโบกปุ๊บก็มีพลุสีฟ้าพุ่งออกมาแล้วแตกเป็นสายฝนประปรายที่ระยิบระยับเหมือนกากเพชร

     

    คุณโอลลิแวนเดอร์ทำหน้าประหลาดใจ "คุณเหมือนป้ามากกว่าที่ฉันคิดนะคุณเอเลน" เขาว่าพลางหยิบไม้กายสิทธิ์ของเรเทียน่าใส่กล่อง "มีบ้างที่พ่อมมดแม่มดได้ไม้กายสิทธิ์ที่เหมาะมือตั้งแต่อันแรกที่ฉันหยิบให้ แต่ก็ยังเป็นจำนวนที่น้อยอยู่ดี ไม่คิดว่าจะได้เห็นกับกรณีของเธอ"

     

    เด็กสาวยิ้มเก้อเขิน ก่อนที่รูเบนจะวางเงินเจ็ดเกลเลียนลงบนเคาท์เตอร์ไม้ตรงหน้าของโอลลิแวนเดอร์ เขาหยิบกล่องไม้กายสิทธิ์มาแล้วกล่าวขอบคุณ

     

    "ต่อไปก็อย่างสุดท้ายแล้ว" รูเบนบิดขี้เกียจระหว่างพูดแล้วหันมาถามเรเทียน่า "มีสัตว์เลี้ยงที่อยากได้ในใจหรือเปล่า"

     

    "หนูไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่"

     

    คนตัวสูงยิ้มตอบพลางพยักหน้าน้อย ๆ เขาเดินนำเด็กสาวไปทางร้านสัตว์วิเศษ ข้าง ๆ มีร้านนกฮูกอายล็อปส์ตั้งอยู่ และพอก้าวเข้าไปในร้านกลิ่นสาบก็โชยหึ่งจนสองพี่น้องต้องย่นจมูก ซึ่งแม่มดเจ้าของร้านที่เห็นก็ไม่พอใจกับการเสียมารยาทของเด็กสองคนเท่าไหร่

     

    "ไปเดินดูก่อนก็ได้ เดี๋ยวพี่ขอคุยกับเจ้าของร้านก่อน" เรเทียน่าพยักหน้าแล้วปลีกตัวออกจากคนพูด ถึงแม้ยังไงร้านมันก็เล็กจนมองเห็นคนในร้านได้อย่างทั่วถึงก็ตามที

     

    ในร้านมีสัตว์แปลก ๆ มากกว่าที่เรเทียน่าคิด (เทียบกับขนาดของร้าน) แถมเสียงของพวกสัตว์ยังดังประสานกันระงมพาให้รู้สึกหนวกหู มันไม่ได้ถูกแยกประเภทไว้อย่างชัดเจน เห็นได้จากงูตัวสีเขียวที่เปล่งประกายราวกับเกล็ดมันเป็นเพชรกำลังพยายามฉกไก่กรงใกล้ ๆ อย่างเอาเป็นเอาตาย

     

    หลังจากเดินไปทั่วก็ยังไม่เจออะไรที่ถูกใจสักที เด็กสาวรู้สึกได้เลยว่าแม่มดเจ้าของร้านกำลังจ้องเขม็งมาที่เธอด้วยสายตาทิ่มแทง จนเริ่มคิดว่าจะลองยื่นแขนออกแล้วหมุนตัวสุ่มชี้เอาให้จบ ๆ ไปดีไหม ทว่าเสียงกรงที่ตกลงไปนอนกลิ้งอยู่กับพื้นก็ทำให้เรเทียน่าหันไปสนใจมันเสียก่อน

     

    เธอรีบเดินไปหยิบกรงของมันไปวางที่เดิมอย่างดีพลางพิจารณาสัตว์ตัวนั้นดี ๆ ข้างในเป็นนกฮูกขนสีน้ำตาลแซมดำและขาว ดวงตาสีส้ม เธอไม่แน่ใจว่ามันเป็นสายพันธุ์อะไร แต่ที่ดึงดูดสายตาที่สุดคือตาของมันที่บอดข้างหนึ่ง อนุมานได้ว่ามันอาจจะโดนอะไรคม ๆ บาดเข้าให้ เพราะมันยังคงมีรอยแผลเป็นทางยาวหลงเหลืออยู่

     

    "ตัวนั้นเป็นนกฮูกพันธุ์ยูเรเซียนอีเกิล" รูเบนที่โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงทำให้เรเทียน่าสะดุ้งโหยงเป็นรอบที่สองของวัน "แต่ถ้าเรย์จะซื้อนกฮูกไปเลือกที่ร้านนกฮูกอายล็อปส์ไม่ดีกว่าเหรอ" เขาว่าพลางเพ่งมองตาข้างที่บาดเจ็บของนกฮูกตัวโตในกรงที่ยังคงพยายามสะบัดปีกหวังจะหนีออกจากที่คุมขัง

     

    เด็กสาวส่ายหน้าเบา ๆ "เอาตัวนี้นี่แหละค่ะ"

     

    "เอาตัวนี้ครับ" เอเลนคนพี่บอกแม่มดเจ้าของร้านหลังจากที่ยกกรงนกฮูกไปให้เธอดู เขาวางกรงลงเมื่อกำลังจะจ่ายเงิน ทว่านกฮูกแสนดื้อรั้นในกรงก็กระพือปีกมันไปมาจนตกลงไปบนพื้นอีกรอบ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเหตุการณ์ปบบนี้เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน

     

    รูเบนยื่นเหรียญเกลเลียนให้แม่มดก่อนที่จะรีบหยิบกรงนกฮูกขึ้น บนพื้นข้างใต้กรงที่ถูกยกไปนั้นเรเทียน่าเห็นใบปลิวบางอย่าง เธอหยิบมันขึ้นมาดูด้วยความสนอกสนใจ ก่อนจะมาที่นี่ก็คงมีไม่ค่อยนักหรอกที่คุณจะเจอรูปถ่ายเคลื่อนที่ได้


     

    หัวขโมย!

    พบติดต่อ ...

     

    เหมือนมันจะไม่ใช่ใบปลิวแต่เป็นประกาศจับมากกว่า ในกระดาษมีภาพประกอบด้วยแต่เพราะคนในรูปสวมผ้าคลุมสีดำสนิทจึงมองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน ที่เด่นคงจะเป็นผมยาวสีดำที่โผล่ออกมาจากฮู้ดของผ้าคลุมเท่านั้น

     

    ใบประกาศนี่ฝีมือเด็กผมบลอนด์คนนั้นหรือเปล่านะ?

     

    "เอาล่ะ อย่าลืมตั้งชื่อให้มันด้วยนะ" เสียงเตือนของรูเบนทำให้เรเทียน่าละความสนใจออกจากใบประกาศในมือ เธอพยักหน้าแทนคำตอบก่อนจะขยำใบปลิวแล้วใส่มันลงในกระเป๋า

     

     

     

    ...

     

    *ยังไม่ตรวจคำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×