คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : { 09 } -100%-
CHAPTER 9
ในที่สุดมาร์คก็ได้ออกจากไอ้โรงพยาบาลนี่สักที !!
คนป่วยยิ้มร่าหลังจากที่พยาบาลปลดสายน้ำเกลือที่หลังมือบางให้ ก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อเหลือบไปเห็นไอ้บอสใจทรามที่มองมาที่ตัวเอง
อย่ามายกยิ้มมุมปากแบบนั้นนะ... มาร์คไม่ใช่เด็กสักหน่อย
“ผมไปรับยาของคุณมาร์คกับบอสมาแล้ว ตอนนี้รถจอดรอเราอยู่ด้านหน้าครับ”
“อืม... ไปสิ”
ประโยคแรกหวังแจ็คสันพูดกับยูคยอม แต่ประโยคสุดท้ายกลับแตะไหล่มาร์คเป็นเชิงที่บอกว่าให้เดินนำไปด้านหน้า
ซึ่งมาร์คก็ไม่หูหนวกตาบอดจนเมื่อกี้ไม่ได้ยินว่ามียาของใครอีกคนด้วย...
“คุณเป็นอะไร ทำไมถึงมียาด้วย” มาร์คถามขณะที่แทรกตัวเข้าไปในรถ คนถูกถามทำเพียงปรายตามามองนิดหน่อยก่อนจะถามคำถามที่ทำให้มาร์คได้แต่มองค้อน
“ทำไม...หนูเป็นห่วงป๋าหรอ”
“ไม่ได้เป็นห่วงโว้ย แต่กลัวว่าจะเป็นยากินบำรุงเส้นผมอะไรประมาณนั้น ถึงคุณจะยังไม่แก่มากแต่ผมข้างหน้าก็เริ่มบางแล้วนะ”
มาร์คละล่ำละลักเถียง ทั้งที่หวังแจ็คสันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับมหาโจร ซึ่งมาร์คไม่อยากจะยอมรับจริง ๆ ว่าแม่งเป็นยิ้มตัวโกงที่หล่อมาก แต่นั่นแหละ ความเลวร้ายของหวังแจ็คสันยังไม่จบแค่นั้น...
เพราะมาร์คถูกต้อนจนติดประตูรถก่อนจะมีเสียงกระซิบแหบพร่าที่น่ารำคาญสิ้นดีแนบลงที่ใบหูจนขนอ่อนลุกชัน...
“เป็นห่วงก็พูดว่าเป็นห่วงสิ... เถียงทั้ง ๆ ที่หน้าแดงแบบนี้...”
“…”
“…อยากให้ฉันฝ่าฝืนคำสั่งหมอตั้งแต่คืนแรกเลยหรือไง”
“…อ๊ะ…ไอ้คนเจ้าเล่ห์”
เพราะหมอห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมอย่างว่า...แต่ใช่ว่าคนอย่างหวังแจ็คสันจะหยุดทำตัวหื่นกาม..
มาร์คโดนเบียดริมฝีปากตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนอน ท่อนขาเรียวบางแทบไม่ติดพื้นเพราะถูกแขนข้างหนึ่งช้อนก้นจนตัวลอย
ตลอดจนถูกปลดเสื้อเหลือเพียงแค่กายเปล่าเปลือยล่อนจ้อนที่ถูกรูดรั้งความปารถนาจนแข้งขาอ่อน คนป่วยครางปนหอบ มือขาวที่เคยกำอยู่บริเวณหัวไหล่แน่นอ่อนแรงไหลลูบลงจนมาถึงต้นแขน
“อ๊ะ...อ๊า... เร็ว...”
มันร้อนแรงเกินกว่าจะปฏิเสธ...
มาร์คหน้าแดงหูอื้อดวงตาพร่างพราว แสงไฟระยิบระยับกลับกลายเป็นกลุ่มดาวที่ระเบิดออกจนเลอะฝ่ามือหนา
ความเหนื่อยล้าทำให้วงหน้าสวยซุกลงกับไหล่ลาดเพื่อพักหายใจ รู้ตัวอีกครั้งก็ถูกพามานอนบนเตียง นอนมองหวังแจ็คสันที่เดินไปเอาทิชชู่เช็ดมือก่อนจะเริ่มปลดเสื้อผ้าทีละนิด
“ไปนุ่งผ้าเช็ดตัวไป... เดี๋ยวเข้าไปช่วยฉันอาบน้ำหน่อย”
“พิการรึไง ผมป่วยอยู่นะ”
“บอบบางแย่เลย”
ไม่มีใครบอกมาร์คมาก่อนเลยว่ามาเฟียน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้ประชด คนตัวบางกลิ้งจากเตียงด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งทั้งที่ตัวเปลือยล่อนจ้อน ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้ามาสวมที่เอว รู้ดีว่าอีหรอบนี้ต่อให้ขัดใจยังไงก็คงจะโดนหิ้วไปอาบน้ำด้วยอยู่ดี
“แขนคุณไปโดนอะไรมา..”
จนได้เงยหน้าขึ้นมามองนั่นแหละ... ถึงได้เห็นว่านอกจากผ้าขนหนู (ที่อุส่ายอมเอามาคาดเอวกันอุจาดตาให้มาร์ค) ที่ต้นแขนข้างขวาของหวังแจ็คสันมีผ้าพันแผลกรังเลือดพันอยู่
“กระสุนปืนถาก”
“ห๊ะ !”
“เสียงดัง”
บ้าน่า... มาร์ครู้ว่าตัวเองต้องทำหน้าเหรอหราออกไปแน่ ๆ แต่แสดงว่าตั้งแต่ที่อยู่ที่โรงพยาบาลตอนที่ป้อนข้าวมาร์ค... หรือแม้แต่ตอนที่อุ้มมาร์คเมื่อกี้...
แขนนั่นก็เจ็บมาตลอดเลยหรอ
“แล้วคุณเป็นบ้ารึไง แขนเนี่ยไม่เจ็บหรอ”
ถึงได้ว่า...เสื้อเชิ้ตที่ใส่ตอนนี้กับเมื่อเช้าเป็นคนละตัวกัน...
ก็ชอบเรียกว่าไอ้ควายไบซันในใจบ่อย ๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าไอ้บอสมันจะถึกเหมือนควายขนาดนี้ มาร์คเห็นรอยแผลตามตัวอีกฝ่ายอยู่ว่ามีไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่เฉยชาจนแทบจะปกติเหมือนที่หวังแจ็คสันทำตัวอยู่...
“ถามมากน่า”
“เอ้า ! ก็ถูกยิงนะเว้ย ไม่ใช่ถูกมดกัด”
เป็นใครก็ต้องโวยวายมั้ยล่ะ ถูกยิงเชียวนะ มาร์คขมวดคิ้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าหน้ายุ่ง ๆ ของตัวเองมันทำให้มาเฟียหนุ่มต้องหลุดยิ้มมุมปากออกมาเมื่อไหร่
…อืม...ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...ที่ไม่มีคนถามคำถามนี้กับแจ็คสัน...
“…นี่…เจ็บจนเอ๋อไปแล้วเหรอคุณ มองหน้าผมอยู่ได้”
“เปล่า”
“ก็เห็นชัด ๆ ว่าคุณมองหน้าผม ช่างเถอะ ๆ จะให้ผมช่วยอาบน้ำใช่มั้ย รีบ ๆ มาอาบได้แล้ว จะได้กินยานอนทั้งคุณทั้งผม... “
“…อืม”
“ยังจะมาอืมอีก... ผมล่ะเชื่อจริง ๆ หนังคนรึหนังควายวะเนี่ย... ทนได้ทนดี”
ถึงจะแอบคิ้วกระตุกกับเสียงบ่นของคนที่เดินนำเข้าไปในห้องน้ำ แต่เพราะเห็นแก่ความอบอุ่นอันไร้สาเหตุแผ่นอกหวังแจ็คสันจะยอมละเว้นให้รอบหนึ่งก็ได้
ต้วนอี๋เอินนี่จะว่าแสบก็แสบ...แต่บางทีก็ดู...น่ารักดี
หลังจากที่อาบน้ำโดยที่สภาพร่างกายของมาร์คปลอดภัยไม่ถูกทำให้ช้ำเพิ่ม มาร์คกับแจ็คสันก็กินยาก่อนนอนกันไปคนละเม็ดสองเม็ด ตัวมาร์คน่ะไม่เท่าไหร่เพราะแค่อ่อนเพลียคิดว่าได้รับการพักผ่อนก็คงหาย
แต่คนที่น่าเป็นห่วงน่ะก็คือหวังแจ็คสัน ถึงก่อนหน้านี้จะเก็กทำเป็นไม่เจ็บก็เถอะ แต่คืนนี้แผลน่าจะเริ่มระบมบ้างแล้ว ฮึ่ย
แล้วนี่มาร์คจะต้องนอนยังไงวะ... ปกติเคยเข้านอนแบบปกติสุขที่ไหน ไม่เหนื่อยจนสลบไป ก็เป็นมาร์คที่นอนก่อนแจ็คสัน ว่าแต่อีกฝ่ายจะเป็นยังไงแล้วมันเรื่องอะไรของมาร์ควะ...
คิดไปก็ปวดหัว มาร์คดิ้นคลุกคลักอยู่บนเตียงก่อนจะถูกแขนและขาของมาเฟียหนุ่มลากเข้าไปซุกแผ่นอก
กลีบปากนุ่มเกือบจะร้องโวยวายออกมาแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงบ่นงึมงำเหมือนหมีจำศีลของอีกฝ่าย...
“อืม...อย่านอนดิ้นสิ”
เห็นแก่ว่าที่ป้อนข้าวให้หรอกนะ... หวังแจ็คสัน !!
วันนี้มาร์คตื่นเพราะอากาศมันเหมือนจะร้อนกว่าทุกวัน...
อืม...ไม่ร้อนได้ยังไงล่ะ...ลองมีควายไบซันตัวเท่าตึกใบหยกมานอนรัดเป็นงูเหลือมจนหน้าจมอกดูสิ !!
“คุณ…”
มาร์คขยับตัว จริง ๆ อยากจะดิ้นแต่เพราะตัวของมาเฟียหนุ่มทั้งใหญ่ทั้งหนัก... ดิ้นไปก็เหมือนปลาถูกทุบอยู่ดี
“เฮ้... คุณ ตื่นหน่อยน่า...ผมปวดฉี่”
ถึงจะแปลกใจที่วันนี้อีกฝ่ายเป็นคนที่ตื่นช้ากว่าแต่มาร์คก็ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าห้องน้ำในตอนนี้ อ่า...ปวดฉี่เป็นบ้า
“ฮึ่ม...อย่าขยับมากสิ”
ในที่สุดอีกฝ่ายก็เริ่มรู้สึกตัว... หวังแจ็คสันพึมพัมไม่เป็นคำ ผมหน้าสีดำสนิทที่มักจะถูกเสยจนเห็นวงหน้าคมคายปรกลง ใบหน้าเปลือยสดที่ปราศจากหัวคิ้วขมวดมุ่น และดวงตาคมกริบทำให้อีกฝ่ายเด็กลงสักสิบปีได้
“ก็ผมปวดฉี่...ปล่อยก่อน”
“…ขออีกแปป”
“นี่...คุณจะให้ผมฉี่ลงบนเตียงมั้ย”
ร้อยมาเฟียหรือจะสู้คนปวดฉี่ หวังแจ็คสันยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดีเพราะมาร์คหน้าเบี้ยวจนน่าสงสาร ซึ่งพอปล่อยไอ้ตัวแสบปุ๊บมาร์คก็วิ่งดุ๊ก ๆ ไปเข้าห้องน้ำ...
มาเฟียหนุ่มบิดกายยืดกล้ามเนื้ออยู่บนเตียง...นึกประหลาดใจตัวเองเหมือนกัน ที่คนนอนหลับยากแบบเค้ากลับหลับลึกจนเจ้าลูกแมวตัวแสบนั่นร้องประท้วง
ตัดมาที่ห้องน้ำ ทันทีที่มาร์คได้เจอกับสุขภัณฑ์แสนรัก อาวุธลับที่รอการปลดปล่อยก็ถูกชักออกมาเบ่งของเหลวอย่างสุขใจ ตากลมหลับพริ้มปล่อยให้มือบางจับประคองจัดที่ทางให้อยู่ในองศาที่ถูกที่ควรด้วยความฟินนะเล่...ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงกระซิบข้างหู !
“พึ่งเคยเห็นตอนปกติ....เล็กกว่าที่คิดนะเนี่ย”
“นี่ !!! คุณ…. ไอ้….!!!”
มันเกินไปแล้วนะ....มันเกินไปแล้วจริง ๆ
มาร์คสะดุ้งจนไอ้ที่อยู่ในมือหดกลับ หวังแจ็คสันนี่เป็นมาเฟียหรือแมวขโมยฝีเท้าเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ทันทีที่มาร์คลืมตาขึ้นมาก็เห็นมาเฟียหนุ่มยืนแปรงฟันอยู่ข้าง ๆ ดวงตาคู่นั้นเหล่มองมาที่น้องชายของมาร์คที่กำลังเด็ดดอกไม้อยู่...
ไหนจะไอ้สายตาดูถูกนี่อีก... ของตัวเองใหญ่ตายแหละ
ไอ้บ้าเอ้ย...(แต่ก็ใหญ่จริง...เถียงไม่ออกอีกนั่นแหละ)
“เสร็จแล้วก็ออกมาคุณ... คิดว่าตัวเองอยากทำธุระคนเดียวหรอ”
มาร์ครู้เลยว่าหน้าตัวเองกำลังแดงไปหมดเพราะมันร้อนจี๋ ไม่ใช่เพราะเขินอายแน่นอน แต่เพราะโกรธ โกรธมาก ๆ
“ถ้าคุณอยากอาบก็อาบไปก่อนเลย ไอ้บ้า”
“อ้าว ไม่อาบพร้อมกันหรอ”
“ไม่โว้ย”
ไอ้หวังแจ็คสัน ไอ้มาเฟียกวนประสาท มาร์คยังไม่ทันออกจากห้องน้ำมาเลย เสียงหัวเราะทุ้มนั่นก็ไล่ตามหลังมาแล้ว !
“ในส่วนของเขตที่พักของเราจะอยู่ในเขตฮ่องกง แต่ที่เรากำลังจะไปวันนี้อยู่ในเขตเกาลูนครับ...”
เสียงยูคยอมพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหน้าไม่ได้ทำให้มาร์คสนใจนัก วันนี้มาร์คถูกพาออกมาจากที่พัก ถูกจับแต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนมแพงระยับที่แบมแบมพาไปถลุงมาเมื่อวานก่อนจะนั่งตัวลีบอยู่มุมนึงในรถ...
อืม... ก็จะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้คนที่นั่งไถไอแพดหน้านิ่งอยู่ข้าง ๆ นี่ !
มันเรียกว่าอะไรไม่รู้แหละ แต่มาร์คไม่อยากจะมองหน้าหวังแจ็คสันเลยให้ตาย... มันกระอักกระอวน...
ยอมรับก็ได้ ไม่คิดว่าคนอย่างหมอนั่นจะหัวเราะเป็น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ามันจะกวนตีนผสมขี้แกล้งแบบนี้ ...
นี่มันชักจะฉีกกฏนิยายมาเฟียมากเกินไปแล้วนะ !
ส่วนยูคยอม...บอดี้การ์ดหนุ่มน้อยเหล่มองคนสองคนที่นั่งนิ่งผ่านกระจกหลัง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เจ้านายของเค้าดูจะอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน... แตกต่างจากมาร์ค ที่บอดี้การ์ดหน้าห้องถึงกับสะดุ้งเฮือกเพราะของเล่นของมาเฟียหนุ่มแผดเสียงดังทะลุประตูห้องออกมาตั้งแต่เช้า
นายการ์ดหมายเลขหนึ่งเกือบจะพังประตูและม้วนหน้าเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงทุ้มแหบของบอสหัวเราะตามหลังไล่มาก่อน...
อืม...เท่านั้นแหละแทบจะม้วนหลังกลับแทบไม่ทัน...
ไม่มีใครกล้าพูดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าเพราะว่ายังอยากจะมีเงาอยู่บนหัวอยู่ แต่มันก็อดปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามาร์คทำให้เจ้านายของพวกเค้ามีอารมณ์อย่างอื่น นอกจากมาดนิ่งและขรึม
อ่า... นานขนาดไหนแล้วนะที่ยูคยอมไม่เคยเห็นบอสยิ้ม
ก่อนที่จะคิดมากไปกว่านั้น ยูคยอมตบไฟเลี้ยวเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตเมืองเก่า ฮ่องกงเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่แต่มีอะไรให้ค้นหาเยอะ ถึงจะอยู่อาศัยที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ยูคคยอมก็ยังต้องยอมรับกับตัวเองว่ายังไม่รู้จักมันครบทุกซอกทุกมุม
อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี่ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับที่ที่หวังแจ็คสันสั่งให้ยูคยอมพาตัวเองและมาร์คมาที่นี่ในวันนี้...
คาร์ดิแลคคันสวยล้อมรอบด้วยเมอซิเดสเบนซ์สี่คันเช่นเดิมแล่นมาจอดที่ลานจอดรถอย่างนุ่มนวล ยูคยอมวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้านาย ก่อนที่มาร์คถูกมาเฟียหนุ่มลากให้เดินตามมาโดยปราศจากลูกน้องคนอื่น
นัยน์ตากลมใสได้แต่กวาดมองพื้นที่รอบข้าง ซึ่งประกอบด้วยสิ่งสีแดงและสถาปัตยกรรมแบบจีน ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่าที่นี่คือวัด ด้านหน้าประกอบด้วยรูปปั้นนักษัตรทั้ง 12 องค์ ดูน่าเกรงขามแต่ก็สวยงามไปพร้อม ๆ กัน
มาร์คสาวเท้าตามหลังมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะถูกดึงแขนให้มาเดินเคียงข้างกันเมื่อเห็นว่ามาร์คเดินได้ไม่ทันใจ หวังแจ็คสันพามาร์คลัดเลาะผ่านฝูงชนที่เข้ามาทำพิธีไหวศักการะ รู้ตัวอีกทีก็โผล่ออกมาทางด้านหลังที่ดูสงบต่างจากทางด้านหน้า มีแค่เสียงสวดมนต์เบา ๆ ทีลอยตามลมมาเท่านั้น
“นี่คุณพาผมมาทำอะไรที่นี่เนี่ย”
“ไม่รู้สักเรื่องคงไม่เป็นไรมั้ง”
มาร์คยู่ปาก ขณะที่หวังแจ็คสันยังคงพามาร์คก้าวไปต่อ ระยะทางที่ไม่รู้ว่าสั้นหรือยาว เพราะมาร์คไม่รู้จักวัด...หรืออันที่จริงมาร์คแทบไม่รู้จักฮ่องกงเลยสักนิด
เพราะชีวิตเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้พบกับคนตรงหน้า...
สัมผัสของมือร้อนจัดที่สากแข็งแบบผู้ชายทั่วไปมันใหญ่จนกอบกุมฝ่ามือมาร์คได้ทั้งมือ ดวงตากลมใสเลื่อนไปมองเสี้ยวหน้าคมของมาเฟียหนุ่ม ละเลียดสังเกตมันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ดวงตาสีดำสนิทใต้แพรขนตาเส้นสั้น สันจมูกโด่งชันลากใต้ระหว่างคิ้วเข้มนั้นกั้นแสงและเงา... ริมฝีปากสีธรรมชาติที่มักจะยกยิ้มกวนประสาทมาร์คเสมอ...
หวังแจ็คสันนั้นประกอบด้วยลักษณะของผู้นำอย่างไม่มีข้อแม้
และมันคงเนิ่นนานมากพอที่หวังแจ็คสันจะรู้ตัว...
เพราะงั้น...วินาทีที่ดวงตาสีดำสนิทนั้นมองกลับมาสบกับมาร์ค ความรู้สึกประหลาดก็แล่นพล่านจากปลายเท้าจรดเส้นผม...
ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...
เสียงข้างในดังก้องจนมาร์ครู้สึกตัว... ของเล่นตัวน้อยเลื่อนสายตาหนีก่อนจะก้าวต่อไปข้างหน้า...
ไม่อยากคิดถึงเหตุผล หรือคิดถึงสาเหตุที่มา...
มาร์คภาวนาให้มันเรียกว่า...โรคหัวใจก็แล้วกัน...
-100%-
เย้ !!!!!!!!!
จบตอนนี้สักที
จะพยายามเข็นตอนต่อไปมาให้ไวขึ้นนะคับ
รักน้าส์
คยองอิน
#unluckyJARK
ความคิดเห็น