ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 ﹁ UNLUCKY ﹂ ┏ JARK ┓

    ลำดับตอนที่ #9 : { 09 } -100%-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.28K
      101
      23 ม.ค. 61













     

    CHAPTER 9 



     

     



    ในที่สุดมาร์คก็ได้ออกจากไอ้โรงพยาบาลนี่สักที !!


    คนป่วยยิ้มร่าหลังจากที่พยาบาลปลดสายน้ำเกลือที่หลังมือบางให้ ก่อนจะหุบยิ้มฉับเมื่อเหลือบไปเห็นไอ้บอสใจทรามที่มองมาที่ตัวเอง 


    อย่ามายกยิ้มมุมปากแบบนั้นนะ... มาร์คไม่ใช่เด็กสักหน่อย 


    “ผมไปรับยาของคุณมาร์คกับบอสมาแล้ว ตอนนี้รถจอดรอเราอยู่ด้านหน้าครับ” 


    “อืม... ไปสิ” 


    ประโยคแรกหวังแจ็คสันพูดกับยูคยอม แต่ประโยคสุดท้ายกลับแตะไหล่มาร์คเป็นเชิงที่บอกว่าให้เดินนำไปด้านหน้า 


    ซึ่งมาร์คก็ไม่หูหนวกตาบอดจนเมื่อกี้ไม่ได้ยินว่ามียาของใครอีกคนด้วย... 


    “คุณเป็นอะไร ทำไมถึงมียาด้วย” มาร์คถามขณะที่แทรกตัวเข้าไปในรถ คนถูกถามทำเพียงปรายตามามองนิดหน่อยก่อนจะถามคำถามที่ทำให้มาร์คได้แต่มองค้อน


    “ทำไม...หนูเป็นห่วงป๋าหรอ” 


    “ไม่ได้เป็นห่วงโว้ย แต่กลัวว่าจะเป็นยากินบำรุงเส้นผมอะไรประมาณนั้น ถึงคุณจะยังไม่แก่มากแต่ผมข้างหน้าก็เริ่มบางแล้วนะ” 


    มาร์คละล่ำละลักเถียง ทั้งที่หวังแจ็คสันกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ราวกับมหาโจร ซึ่งมาร์คไม่อยากจะยอมรับจริง ๆ ว่าแม่งเป็นยิ้มตัวโกงที่หล่อมาก แต่นั่นแหละ ความเลวร้ายของหวังแจ็คสันยังไม่จบแค่นั้น... 


    เพราะมาร์คถูกต้อนจนติดประตูรถก่อนจะมีเสียงกระซิบแหบพร่าที่น่ารำคาญสิ้นดีแนบลงที่ใบหูจนขนอ่อนลุกชัน... 


    “เป็นห่วงก็พูดว่าเป็นห่วงสิ... เถียงทั้ง ๆ ที่หน้าแดงแบบนี้...”


    “…”


    “…อยากให้ฉันฝ่าฝืนคำสั่งหมอตั้งแต่คืนแรกเลยหรือไง” 










    “…อ๊ะ…ไอ้คนเจ้าเล่ห์” 


    เพราะหมอห้ามไม่ให้ทำกิจกรรมอย่างว่า...แต่ใช่ว่าคนอย่างหวังแจ็คสันจะหยุดทำตัวหื่นกาม.. 


    มาร์คโดนเบียดริมฝีปากตั้งแต่ก้าวเข้ามาในห้องนอน ท่อนขาเรียวบางแทบไม่ติดพื้นเพราะถูกแขนข้างหนึ่งช้อนก้นจนตัวลอย 


    ตลอดจนถูกปลดเสื้อเหลือเพียงแค่กายเปล่าเปลือยล่อนจ้อนที่ถูกรูดรั้งความปารถนาจนแข้งขาอ่อน คนป่วยครางปนหอบ มือขาวที่เคยกำอยู่บริเวณหัวไหล่แน่นอ่อนแรงไหลลูบลงจนมาถึงต้นแขน 


    “อ๊ะ...อ๊า... เร็ว...” 


    มันร้อนแรงเกินกว่าจะปฏิเสธ... 


    มาร์คหน้าแดงหูอื้อดวงตาพร่างพราว แสงไฟระยิบระยับกลับกลายเป็นกลุ่มดาวที่ระเบิดออกจนเลอะฝ่ามือหนา 


    ความเหนื่อยล้าทำให้วงหน้าสวยซุกลงกับไหล่ลาดเพื่อพักหายใจ รู้ตัวอีกครั้งก็ถูกพามานอนบนเตียง นอนมองหวังแจ็คสันที่เดินไปเอาทิชชู่เช็ดมือก่อนจะเริ่มปลดเสื้อผ้าทีละนิด 


    “ไปนุ่งผ้าเช็ดตัวไป... เดี๋ยวเข้าไปช่วยฉันอาบน้ำหน่อย”


    “พิการรึไง ผมป่วยอยู่นะ” 


    “บอบบางแย่เลย”


    ไม่มีใครบอกมาร์คมาก่อนเลยว่ามาเฟียน่ะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้ประชด คนตัวบางกลิ้งจากเตียงด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งทั้งที่ตัวเปลือยล่อนจ้อน ก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเข้ามาสวมที่เอว รู้ดีว่าอีหรอบนี้ต่อให้ขัดใจยังไงก็คงจะโดนหิ้วไปอาบน้ำด้วยอยู่ดี 


    “แขนคุณไปโดนอะไรมา..” 


    จนได้เงยหน้าขึ้นมามองนั่นแหละ... ถึงได้เห็นว่านอกจากผ้าขนหนู (ที่อุส่ายอมเอามาคาดเอวกันอุจาดตาให้มาร์ค) ที่ต้นแขนข้างขวาของหวังแจ็คสันมีผ้าพันแผลกรังเลือดพันอยู่


    “กระสุนปืนถาก” 


    “ห๊ะ !”


    “เสียงดัง” 


    บ้าน่า... มาร์ครู้ว่าตัวเองต้องทำหน้าเหรอหราออกไปแน่ ๆ แต่แสดงว่าตั้งแต่ที่อยู่ที่โรงพยาบาลตอนที่ป้อนข้าวมาร์ค... หรือแม้แต่ตอนที่อุ้มมาร์คเมื่อกี้... 


    แขนนั่นก็เจ็บมาตลอดเลยหรอ 


    “แล้วคุณเป็นบ้ารึไง แขนเนี่ยไม่เจ็บหรอ” 


    ถึงได้ว่า...เสื้อเชิ้ตที่ใส่ตอนนี้กับเมื่อเช้าเป็นคนละตัวกัน...


    ก็ชอบเรียกว่าไอ้ควายไบซันในใจบ่อย ๆ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าไอ้บอสมันจะถึกเหมือนควายขนาดนี้ มาร์คเห็นรอยแผลตามตัวอีกฝ่ายอยู่ว่ามีไม่น้อย แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่เฉยชาจนแทบจะปกติเหมือนที่หวังแจ็คสันทำตัวอยู่...


    “ถามมากน่า”


    “เอ้า ! ก็ถูกยิงนะเว้ย ไม่ใช่ถูกมดกัด” 


    เป็นใครก็ต้องโวยวายมั้ยล่ะ ถูกยิงเชียวนะ มาร์คขมวดคิ้ว ไม่รู้ตัวเลยว่าหน้ายุ่ง ๆ ของตัวเองมันทำให้มาเฟียหนุ่มต้องหลุดยิ้มมุมปากออกมาเมื่อไหร่


    …อืม...ตั้งแต่เมื่อไหร่นะ...ที่ไม่มีคนถามคำถามนี้กับแจ็คสัน...


    “…นี่…เจ็บจนเอ๋อไปแล้วเหรอคุณ มองหน้าผมอยู่ได้” 


    “เปล่า” 


    “ก็เห็นชัด ๆ ว่าคุณมองหน้าผม ช่างเถอะ ๆ จะให้ผมช่วยอาบน้ำใช่มั้ย รีบ ๆ มาอาบได้แล้ว จะได้กินยานอนทั้งคุณทั้งผม... “


    “…อืม”


    “ยังจะมาอืมอีก... ผมล่ะเชื่อจริง ๆ หนังคนรึหนังควายวะเนี่ย... ทนได้ทนดี” 


    ถึงจะแอบคิ้วกระตุกกับเสียงบ่นของคนที่เดินนำเข้าไปในห้องน้ำ แต่เพราะเห็นแก่ความอบอุ่นอันไร้สาเหตุแผ่นอกหวังแจ็คสันจะยอมละเว้นให้รอบหนึ่งก็ได้ 


    ต้วนอี๋เอินนี่จะว่าแสบก็แสบ...แต่บางทีก็ดู...น่ารักดี








    หลังจากที่อาบน้ำโดยที่สภาพร่างกายของมาร์คปลอดภัยไม่ถูกทำให้ช้ำเพิ่ม มาร์คกับแจ็คสันก็กินยาก่อนนอนกันไปคนละเม็ดสองเม็ด ตัวมาร์คน่ะไม่เท่าไหร่เพราะแค่อ่อนเพลียคิดว่าได้รับการพักผ่อนก็คงหาย 


    แต่คนที่น่าเป็นห่วงน่ะก็คือหวังแจ็คสัน ถึงก่อนหน้านี้จะเก็กทำเป็นไม่เจ็บก็เถอะ แต่คืนนี้แผลน่าจะเริ่มระบมบ้างแล้ว ฮึ่ย 


    แล้วนี่มาร์คจะต้องนอนยังไงวะ... ปกติเคยเข้านอนแบบปกติสุขที่ไหน ไม่เหนื่อยจนสลบไป ก็เป็นมาร์คที่นอนก่อนแจ็คสัน ว่าแต่อีกฝ่ายจะเป็นยังไงแล้วมันเรื่องอะไรของมาร์ควะ... 


    คิดไปก็ปวดหัว มาร์คดิ้นคลุกคลักอยู่บนเตียงก่อนจะถูกแขนและขาของมาเฟียหนุ่มลากเข้าไปซุกแผ่นอก


    กลีบปากนุ่มเกือบจะร้องโวยวายออกมาแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงบ่นงึมงำเหมือนหมีจำศีลของอีกฝ่าย...


    “อืม...อย่านอนดิ้นสิ” 


    เห็นแก่ว่าที่ป้อนข้าวให้หรอกนะ... หวังแจ็คสัน !!








    วันนี้มาร์คตื่นเพราะอากาศมันเหมือนจะร้อนกว่าทุกวัน... 


    อืม...ไม่ร้อนได้ยังไงล่ะ...ลองมีควายไบซันตัวเท่าตึกใบหยกมานอนรัดเป็นงูเหลือมจนหน้าจมอกดูสิ !!


    “คุณ…” 


    มาร์คขยับตัว จริง ๆ อยากจะดิ้นแต่เพราะตัวของมาเฟียหนุ่มทั้งใหญ่ทั้งหนัก... ดิ้นไปก็เหมือนปลาถูกทุบอยู่ดี 


    “เฮ้... คุณ ตื่นหน่อยน่า...ผมปวดฉี่” 


    ถึงจะแปลกใจที่วันนี้อีกฝ่ายเป็นคนที่ตื่นช้ากว่าแต่มาร์คก็ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าห้องน้ำในตอนนี้ อ่า...ปวดฉี่เป็นบ้า 


    “ฮึ่ม...อย่าขยับมากสิ” 


    ในที่สุดอีกฝ่ายก็เริ่มรู้สึกตัว... หวังแจ็คสันพึมพัมไม่เป็นคำ ผมหน้าสีดำสนิทที่มักจะถูกเสยจนเห็นวงหน้าคมคายปรกลง ใบหน้าเปลือยสดที่ปราศจากหัวคิ้วขมวดมุ่น และดวงตาคมกริบทำให้อีกฝ่ายเด็กลงสักสิบปีได้


    “ก็ผมปวดฉี่...ปล่อยก่อน” 


    “…ขออีกแปป”


    “นี่...คุณจะให้ผมฉี่ลงบนเตียงมั้ย” 


    ร้อยมาเฟียหรือจะสู้คนปวดฉี่ หวังแจ็คสันยอมคลายอ้อมกอดแต่โดยดีเพราะมาร์คหน้าเบี้ยวจนน่าสงสาร ซึ่งพอปล่อยไอ้ตัวแสบปุ๊บมาร์คก็วิ่งดุ๊ก ๆ ไปเข้าห้องน้ำ...


    มาเฟียหนุ่มบิดกายยืดกล้ามเนื้ออยู่บนเตียง...นึกประหลาดใจตัวเองเหมือนกัน ที่คนนอนหลับยากแบบเค้ากลับหลับลึกจนเจ้าลูกแมวตัวแสบนั่นร้องประท้วง 


    ตัดมาที่ห้องน้ำ ทันทีที่มาร์คได้เจอกับสุขภัณฑ์แสนรัก อาวุธลับที่รอการปลดปล่อยก็ถูกชักออกมาเบ่งของเหลวอย่างสุขใจ ตากลมหลับพริ้มปล่อยให้มือบางจับประคองจัดที่ทางให้อยู่ในองศาที่ถูกที่ควรด้วยความฟินนะเล่...ก่อนจะสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงกระซิบข้างหู ! 


    “พึ่งเคยเห็นตอนปกติ....เล็กกว่าที่คิดนะเนี่ย”​


    “นี่ !!! คุณ…. ไอ้….!!!”


    มันเกินไปแล้วนะ....มันเกินไปแล้วจริง ๆ 


    มาร์คสะดุ้งจนไอ้ที่อยู่ในมือหดกลับ หวังแจ็คสันนี่เป็นมาเฟียหรือแมวขโมยฝีเท้าเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ทันทีที่มาร์คลืมตาขึ้นมาก็เห็นมาเฟียหนุ่มยืนแปรงฟันอยู่ข้าง ๆ ดวงตาคู่นั้นเหล่มองมาที่น้องชายของมาร์คที่กำลังเด็ดดอกไม้อยู่... 


    ไหนจะไอ้สายตาดูถูกนี่อีก... ของตัวเองใหญ่ตายแหละ


    ไอ้บ้าเอ้ย...(แต่ก็ใหญ่จริง...เถียงไม่ออกอีกนั่นแหละ)


    “เสร็จแล้วก็ออกมาคุณ... คิดว่าตัวเองอยากทำธุระคนเดียวหรอ” 


    มาร์ครู้เลยว่าหน้าตัวเองกำลังแดงไปหมดเพราะมันร้อนจี๋ ไม่ใช่เพราะเขินอายแน่นอน แต่เพราะโกรธ โกรธมาก ๆ 


    “ถ้าคุณอยากอาบก็อาบไปก่อนเลย ไอ้บ้า”


    “อ้าว ไม่อาบพร้อมกันหรอ” 


    “ไม่โว้ย”


    ไอ้หวังแจ็คสัน ไอ้มาเฟียกวนประสาท มาร์คยังไม่ทันออกจากห้องน้ำมาเลย เสียงหัวเราะทุ้มนั่นก็ไล่ตามหลังมาแล้ว ! 



     










    “ในส่วนของเขตที่พักของเราจะอยู่ในเขตฮ่องกง แต่ที่เรากำลังจะไปวันนี้อยู่ในเขตเกาลูนครับ...”


    เสียงยูคยอมพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหน้าไม่ได้ทำให้มาร์คสนใจนัก วันนี้มาร์คถูกพาออกมาจากที่พัก ถูกจับแต่งตัวด้วยชุดแบรนด์เนมแพงระยับที่แบมแบมพาไปถลุงมาเมื่อวานก่อนจะนั่งตัวลีบอยู่มุมนึงในรถ... 


    อืม... ก็จะเพราะอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้คนที่นั่งไถไอแพดหน้านิ่งอยู่ข้าง ๆ นี่ ! 


    มันเรียกว่าอะไรไม่รู้แหละ แต่มาร์คไม่อยากจะมองหน้าหวังแจ็คสันเลยให้ตาย... มันกระอักกระอวน... 


    ยอมรับก็ได้ ไม่คิดว่าคนอย่างหมอนั่นจะหัวเราะเป็น แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่ามันจะกวนตีนผสมขี้แกล้งแบบนี้ ...


    นี่มันชักจะฉีกกฏนิยายมาเฟียมากเกินไปแล้วนะ !


    ส่วนยูคยอม...บอดี้การ์ดหนุ่มน้อยเหล่มองคนสองคนที่นั่งนิ่งผ่านกระจกหลัง วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เจ้านายของเค้าดูจะอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน... แตกต่างจากมาร์ค ที่บอดี้การ์ดหน้าห้องถึงกับสะดุ้งเฮือกเพราะของเล่นของมาเฟียหนุ่มแผดเสียงดังทะลุประตูห้องออกมาตั้งแต่เช้า 


    นายการ์ดหมายเลขหนึ่งเกือบจะพังประตูและม้วนหน้าเข้าไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าได้ยินเสียงทุ้มแหบของบอสหัวเราะตามหลังไล่มาก่อน... 


    อืม...เท่านั้นแหละแทบจะม้วนหลังกลับแทบไม่ทัน... 


    ไม่มีใครกล้าพูดถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าเพราะว่ายังอยากจะมีเงาอยู่บนหัวอยู่ แต่มันก็อดปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ามาร์คทำให้เจ้านายของพวกเค้ามีอารมณ์อย่างอื่น นอกจากมาดนิ่งและขรึม 


    อ่า... นานขนาดไหนแล้วนะที่ยูคยอมไม่เคยเห็นบอสยิ้ม 


    ก่อนที่จะคิดมากไปกว่านั้น ยูคยอมตบไฟเลี้ยวเมื่อเริ่มเข้าสู่เขตเมืองเก่า ฮ่องกงเป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่แต่มีอะไรให้ค้นหาเยอะ ถึงจะอยู่อาศัยที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ยูคคยอมก็ยังต้องยอมรับกับตัวเองว่ายังไม่รู้จักมันครบทุกซอกทุกมุม 


    อย่างไรก็ดี ทั้งหมดนี่ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับที่ที่หวังแจ็คสันสั่งให้ยูคยอมพาตัวเองและมาร์คมาที่นี่ในวันนี้... 


    คาร์ดิแลคคันสวยล้อมรอบด้วยเมอซิเดสเบนซ์สี่คันเช่นเดิมแล่นมาจอดที่ลานจอดรถอย่างนุ่มนวล ยูคยอมวิ่งลงมาเปิดประตูให้เจ้านาย ก่อนที่มาร์คถูกมาเฟียหนุ่มลากให้เดินตามมาโดยปราศจากลูกน้องคนอื่น 


    นัยน์ตากลมใสได้แต่กวาดมองพื้นที่รอบข้าง ซึ่งประกอบด้วยสิ่งสีแดงและสถาปัตยกรรมแบบจีน ซึ่งพอจะอนุมานได้ว่าที่นี่คือวัด ด้านหน้าประกอบด้วยรูปปั้นนักษัตรทั้ง 12 องค์ ดูน่าเกรงขามแต่ก็สวยงามไปพร้อม ๆ กัน 


    มาร์คสาวเท้าตามหลังมาเฟียหนุ่ม ก่อนจะถูกดึงแขนให้มาเดินเคียงข้างกันเมื่อเห็นว่ามาร์คเดินได้ไม่ทันใจ หวังแจ็คสันพามาร์คลัดเลาะผ่านฝูงชนที่เข้ามาทำพิธีไหวศักการะ รู้ตัวอีกทีก็โผล่ออกมาทางด้านหลังที่ดูสงบต่างจากทางด้านหน้า มีแค่เสียงสวดมนต์เบา ๆ ทีลอยตามลมมาเท่านั้น


    “นี่คุณพาผมมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” 


    “ไม่รู้สักเรื่องคงไม่เป็นไรมั้ง”


    มาร์คยู่ปาก ขณะที่หวังแจ็คสันยังคงพามาร์คก้าวไปต่อ ระยะทางที่ไม่รู้ว่าสั้นหรือยาว เพราะมาร์คไม่รู้จักวัด...หรืออันที่จริงมาร์คแทบไม่รู้จักฮ่องกงเลยสักนิด 


    เพราะชีวิตเปลี่ยนไปตั้งแต่ได้พบกับคนตรงหน้า... 


    สัมผัสของมือร้อนจัดที่สากแข็งแบบผู้ชายทั่วไปมันใหญ่จนกอบกุมฝ่ามือมาร์คได้ทั้งมือ ดวงตากลมใสเลื่อนไปมองเสี้ยวหน้าคมของมาเฟียหนุ่ม ละเลียดสังเกตมันอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน


    ดวงตาสีดำสนิทใต้แพรขนตาเส้นสั้น สันจมูกโด่งชันลากใต้ระหว่างคิ้วเข้มนั้นกั้นแสงและเงา... ริมฝีปากสีธรรมชาติที่มักจะยกยิ้มกวนประสาทมาร์คเสมอ... 


    หวังแจ็คสันนั้นประกอบด้วยลักษณะของผู้นำอย่างไม่มีข้อแม้ 


    และมันคงเนิ่นนานมากพอที่หวังแจ็คสันจะรู้ตัว... 


    เพราะงั้น...วินาทีที่ดวงตาสีดำสนิทนั้นมองกลับมาสบกับมาร์ค ความรู้สึกประหลาดก็แล่นพล่านจากปลายเท้าจรดเส้นผม...


    ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก... 


    เสียงข้างในดังก้องจนมาร์ครู้สึกตัว... ของเล่นตัวน้อยเลื่อนสายตาหนีก่อนจะก้าวต่อไปข้างหน้า...


    ไม่อยากคิดถึงเหตุผล หรือคิดถึงสาเหตุที่มา...


    มาร์คภาวนาให้มันเรียกว่า...โรคหัวใจก็แล้วกัน...






    -100%-




    เย้ !!!!!!!!!

    จบตอนนี้สักที

    จะพยายามเข็นตอนต่อไปมาให้ไวขึ้นนะคับ


    รักน้าส์




    คยองอิน


    #unluckyJARK

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×