คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : { 07 } - re write -
CHAPTER 7
มันเริ่มจากในรถ...แต่ไปจบที่ระเบียง
ความกระดากอายเจืออยู่บนผิวแก้มเนียนยามที่วงแขนแข็งแรงนั่นช้อนมาร์คในชุดหลุดลุ่ยกลับเข้ามาที่เพนเฮ้าส์ ก่อนทุกอย่างจะจางหายไปอีกครั้งเมื่อวงหน้าคมคร้ามด้วยตอหนวดซุกไซ้ลงบนผิวเนียนครั้งแล้วครั้งเล่า
อากาศเย็นริมระเบียงกลางตึกสูงเสียดฟ้าไม่อาจจะทำอะไรสองร่างที่แนบชิดเคล้าเชลียกันอยู่บนเตียงหวายได้... จนอสูรร้ายจอมเอาแต่ใจได้ระบายความอุ่นร้อนครั้งที่สาม... ฝ่ามืออุ่นนั่นถึงได้เปลี่ยนจากเค้นเอวมาร์คไปเป็นเกี่ยวก้านแก้วไวน์ขึ้นจิบขณะดูดาวบนท้องฟ้า
ปากแดงเจ่อหอบหายใจถี่ กิจกรรมตลอดสามชั่วโมงที่ผ่านมาราวกับจะพรากความแข็งแรงของมาร์คไปหมด อดนึกหมั่นไส้มาเฟียหนุ่มที่สามารถจิบไวน์ชมบรรยากาศดื่มด่ำได้หน้าตาเฉยไม่ได้... ก็ใช่สิ คนที่สะโพกระบมมันคือมาร์คคนเดียวนี่หว่า ส่วนคนที่โล่งตัวแล้วก็สบายไป...
“หึ...พูดออกมาเลยก็ได้ ถ้าหน้าเธอจะหงิกขนาดนี้”
เสียงเย้าของคนที่นอนราบอยู่เคียงข้างดังราวกับรู้ทัน มาร์คค้อนประหลับประเหลือก อยากจะขอให้สัญญาเหลือเกินว่าถ้ามาร์คด่าทุกอย่างในสิ่งที่คิดออกไปจริง ๆ จะไม่สั่งให้การ์ดมากระชากลิ้นมาร์คออกจากปากไปโยนให้หมากิน
“เห็นผมร่วมมือด้วยหน่อยคุณก็ใส่ไม่ยั้งเลยนะ” เสียงนุ่มบ่นกระเง้ากระงอดเท่าที่บ่นออกมาได้ ทั่วทั้งร่างที่ผ่านศึกหนักคล้ายจะเคล็ดขัดยอกไปเสียหมด
“งั้นก็นั่งดี ๆ สิ” เพราะยังไม่ได้ที่ที่สบายตัวสักทีแจ็คสันเลยจับร่างผอมแห้งให้เอนเข้ามาใกล้ กดกลุ่มผมยุ่งให้ซบกับต้นแขนแกร่ง
“เผด็จการ”
“ถ้าไม่อยากจะต่ออีกรอบก็จิบไวน์นี่แล้วดูดาวไป”
…ถ้าอยากจะให้ดูดาวก็ยื่นแก้วไวน์มาอย่างเดียวก็ได้...จูบที่ขมับน่ะไม่ต้อง !!
ภาพเด็กแก้มแดงบ่นอุบอิบหนีไม่พ้นสายตาของแจ็คสัน...
มันน่าเอ็นดูจนอดไม่ได้ที่จะวาดท่อนแขนไปโอบกระชับมาร์คเข้ามาใกล้ มองแก้มเนียนแดงก่ำและไรผมชื้นเหงื่อ ก็ได้แต่ยอมรับว่าหลงไหลในตัวของเล่นคนใหม่ไม่ใช่น้อย... สามครั้งในหนึ่งคืนอย่างวันนี้มันก็ควรจะเบื่อได้แล้ว แต่กลับเลือกที่จะจรดริมฝีปากลงไปที่ข้างขมับเสียอย่างนั้น
“สุนทรีย์มากมั้ยล่ะคุณ”
เจ้าของกลุ่มผมนิ่มไม่ได้ผละหนี แต่เลือกที่จะอยู่นิ่ง ๆ เพื่อตั้งรับ มันเป็นครั้งแรกที่มาร์คไม่ได้เผลอหลับไปหลังจากเสร็จกิจกรรมเหมือนทุกครั้ง เลยไม่ชินกับความรู้สึกประหลาด ๆ ที่มาพร้อมกับอ้อมแขนอุ่น ๆ ยามค่ำคืน
แม้จะยังไม่สนิทใจ แต่มันก็อดยอมรับไม่ได้ว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวอย่างประหลาด...ท่อนแขนกับแผ่นอกของแจ็คสันอุ่นพอดี ตัดกับสายลมจาง ๆ ที่พัดผ่านยอดตึก แกล้มด้วยรสชาติของไวน์แดงที่อีกฝ่ายยื่นให้...รสชาตินุ่มลึกของมันช่วยเรียกเลือดลมในสูบฉีดเข้ากับอากาศที่เริ่มเย็น...เป็นโอกาสให้นัยน์กลมได้มองท้องฟ้าเต็มตาครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ถูกจับมา...
ท้องฟ้าที่ฮ่องกงไม่ได้ต่างจากที่แอลเอมากนัก แล้วมันก็ไม่ได้สวยงามหรือมีดาวนับล้านแข่งกันอวดโฉมเหมือนมองในที่โล่งกว้าง แต่แสงไฟที่ส่องประกายจากป่าคอนกรีตด้านล่าง กับเสียงจอแจของเมืองที่ไม่เคยหลับมันก็เป็นบรรยากาศอีกแบบที่ทำให้ค่ำคืนนี้ดูไม่เงียบเหงามากเกินไปนัก
“หึ...แล้วเธอชอบมั้ยล่ะ”
เสียงทุ้มกระซิบถามข้างหูพร้อมกับปลายนิ้วของมาเฟียหนุ่มเกลี่ยกลุ่มผมนิ่มแผ่วเบา ดูแตกต่างจากไอ้มาเฟียใจโหดที่เจอกันวันแรกอย่างจริงจัง...
ไม่มีคำตอบ...พร้อมกับแจ็คสันที่ไม่ได้เค้นถามกลับกันอสูรตัวร้ายกลับปล่อยให้เปลือกตาของของเล่นตัวน้อยปิดลงแต่โดยดี... ยอมปล่อบให้คำตอบของคำถามนั้นปลิวไปตามสายลม...
มันคงมีบางสิ่งบางอย่างชัดขึ้นสักอย่างหนึ่งหลังจากนี้...
สุนทรีย์ ? ชอบ ?
มันไม่ใช่คีย์เวิร์ดที่ควรจะเกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ... มาร์คคือเหยื่อที่ไม่เต็มใจ...และแจ็คสันเป็นคนใจร้ายที่จับอีกฝ่ายมาเอาคืน...
เหยื่อไม่ควรถามคนใจร้ายว่าสุนทรีย์มั้ยฉันท์ใด คนใจไร้ทำไมจำเป็นจะต้องสนความชอบของเหยื่อฉันท์นั้น...
บางทีหากหลับไปเลยเหมือนทุก ๆ ครั้งก็คงจะดีกว่า...
คืนนั้นมาร์คจำไม่ได้ว่าผลอยหลับไปเมื่อไหร่...
ของเล่นตัวน้อยตื่นขึ้นมาอีกครั้งพอดีกับที่มาเฟียหนุ่มกลับมาจากออกกำลังกายยามเช้า...มันแปลกตานิดหน่อยเพราะว่าอีกฝ่ายอยู่ในชุดเสื้อกล้ามพอดีตัวกับกางเกงกีฬาผ้าโปร่งพร้อมกับเหงื่อโทรมกาย แตกต่างจากทุกครั้งที่จะเห็นอีกฝ่ายในชุดที่เป็นทางการเสมอ...
ไม่นับตอนอย่างว่ากับตอนนอนน่ะนะ...
ก็หวังแจ็คสันใส่ชุดนอนนอนที่ไหนกัน...ใส่แค่ชุดคลุมอาบน้ำพอถึงเตียงก็ถอดแล้วนอนเลย...
“คุณก็ไม่รู้จักเหนื่อยนะ เมื่อคืนก็หนัก...ขนาดผมที่หลับไปก่อนยังตื่นที่หลังคุณเลย”
ได้แต่กระตุกยิ้มมุมปากให้กับของเล่นตัวขาวบนเตียง...มันก็แปลกดีเหมือนกัน นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่มีคนถามแจ็คสันว่าเหนื่อยมั้ยพอ ๆ กับที่ไม่มีใครมาชวนกวนประสาทกันตั้งแต่ตื่นเช้า...
“ถ้าบอกว่าเหนื่อยแล้วเธอจะช่วยอะไรฉันได้ล่ะ ?” เสียงทุ้มตอบอย่างไม่มีอะไรแต่มาร์คแน่ใจว่ามันมีกระแสความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้นกับคนตรงหน้า
“ให้ผมช่วยอาบน้ำมั้ยปะป๊า ~” ดูเหมือนหลัง ๆ มาร์คจะเริ่มทำหน้าที่ผู้หญิงของแจ็คสันได้เก่งขึ้น ไม่รู้ว่าตั้งใจกวนประสาท หรืออะไร...แต่มันก็ทำให้รู้สึกท้าทายดี
มาร์คเป็นคนที่เรียกได้แปลกกว่าใครที่เคยเจอมา.... เด็กหนุ่มปรับตัว เรียนรู้...แต่สิ่งที่ไม่เคยจางหาย แม้จะพยายามสงวนท่าทีเพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยดีมากขึ้น คือแววตาดื้อพยศกับกลีบปากเชิ่ด ๆ นั่นก็มักจะหลุดแสดงออกมาเสมอ
แจ็คสันชอบมัน....
“…อันนี้ก็เรียกว่าการเรียนรู้อีกแล้วใช่มั้ย ?”
จะเรียกว่าทันกันหรืออะไรก็ได้... แต่วงหน้าคมที่เคลื่อนเข้ามาใกล้บนเตียงคราวนี้มันดูละมุนตามากกว่าทุกครั้ง... นัยน์ตากลมโศกของมาเฟียหนุ่มมันวิบวับชวนให้ใจเต้นจนน่าประหลาด...
“โอ้โห...คุณก็รู้ทันอีกแล้ว... แต่ผมเปลี่ยนใจล่ะ... เมื่อคืนยัง--- เฮ้ย !” ของเล่นปากเก่งที่กำลังจะดริฟฟ์เกมส์กลับกับไม่ทันมือของมาเฟียหนุ่ม... สุดท้ายร่างขาวนุ่มนิ่มเลยถูกช้อนเข้าห้องน้ำไปด้วยตั้งแต่เช้า...
“ไหน ๆ ตื่นแล้วก็อาบน้ำพร้อมกันไปเลยนะ”
“โว้ย.. ไอ้บ้า ไอ้ตัณหากลับ... เมื่อคืนก็เอาจนสะโพกพังยังไม่พออีกหรอวะ” โอนอ่อนมันไปทุกอย่างก็ไม่ใช่มาร์คแล้วล่ะ... ของเล่นตัวบางลืมไปเลยว่าคิดจะตั้งใจยินยอมให้คนตรงหน้าทำตามใจ ก็สะโพกมันครางประท้วงเสียขนาดนี้ ไอ้ที่คิดว่าจะทนมันก็พาลจะทนไม่ไหว
“นี่เธอคิดไปถึงไหนแล้วมาร์ค”
“โว้ย ! ไม่คิดได้ไง มือคุณ !! ไอ้ !!”
ความคิดตะเลิดเปิดเปิงไปพร้อมกับที่เสียงล้งเล้งโวยแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นในบริเวณอาศัยของมาเฟียหนุ่มดังขึ้นแต่เช้า... ยูคยอมลดมือลงเมื่อคิดได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันอาจจะได้ไม่คุ้มเสียหากเข้าไปขัดจังหวะเจ้านายในตอนนี้...
เอาน่า...ขึ้นแท่นมาตั้งหลายปีบอสก็ยังไม่เคยสาย...ถ้าหากวันนี้บอสจะสาย...ก็จะยอมทำเป็นมองเมินให้สักวันแล้วกันนะ
วันนี้บอสอารมณ์ดี... ใคร ๆ ก็รู้สึกได้
บอสลงมาช้ากว่าปกติราวครึ่งชั่วโมง ซึ่งมันไม่ได้เป็นปัญหาดั่งที่ยูคยอมคาดการณ์ไว้ แต่เพราะมันเกิดขึ้นครั้งแรก และมันไม่ใช่เรื่องปกติที่บอสจะนั่งเช็คแท็ปเลทไปพร้อม ๆ กับพรมนิ้วเป็นจังหวะเพลงที่กำลังบรรเลงอยู่ในรถ...
“เอกสารของคุณมาร์ค ที่สั่งให้คุณเลขาปาร์คจัดการ คุณปาร์ดแจ้งมาว่าวางอยู่บนโต๊ะบอสแล้วเรียบร้อยนะครับ”
“อื้ม...”
บอสรับคำคล้ายยังจมอยู่ในห้วงความคิด
สำหรับเหตุการณ์ภายในห้องน้ำ ถ้าเอาไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับแจ็คสันหวัง...
ภาพคนปากเก่งร้องโวยวายอย่างสิ้นท่าเหมือนลูกแมววายร้ายที่อยู่ในอุ้งมือหนา ทำได้แค่วาดเขี้ยว วาดเล็บจิ๋ว ๆ ไปในอากาศร้องตะแง้ว ๆ ประนามว่าเค้าเป็นมาเฟียใจร้าย หื่นกาม โรคจิต วิตถารเด่นชัดยิ่งกว่าตัวเลขในแท็ปเลทตรงหน้า
จากที่คิดว่าจะลากอีกฝ่ายมากวนอารมณ์ตอนอาบน้ำกลับเลยเถิดจนฟัดปากนิ่มจนแดงช้ำ เผลอลดการระวังตัวช่วงที่อีกฝ่ายจูบตอบ จนรู้ตัวอีกทีมือบางยกฝักบัวฉีดน้ำอัดหน้าแจ็คสัน เรียกได้ว่าพยศเหลือร้าย...
สุดท้ายก็จัดการไปอีกรอบก่อนไปทำงานจนได้...เหนื่อยกว่าที่ตื่นไปออกกำลังกายในฟิตเนสเสียอีก...
“วันนี้ดูท่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นนะครับ ร้อยวันพันปี บอสยิ้มเป็นกับเค้าที่ไหน”
ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าวันนี้ที่เดินเข้าบริษัทมานั้นทำให้พนักงานตกใจมากแค่ไหน... ตลอดทางจากที่เดินลงจากรถมาถึงลิฟท์ผู้บริหาร วงหน้าคมของเจ้านายผู้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยมฉายแววละมุนผิดจากวันทั่ว ๆ ไป ราวกับต้นฝิ่นออกลูกเป็นสตอเบอร์รี่ คนอย่างแจ็คสันหวังเนี่ยะนะ แจกยิ้มเรี่ยราดให้พนักงาน
แม้จะตกอกตกใจขนาดไหน เหล่าพนักงานก็ได้แต่เก็บอาการไว้ ใครจะไปกล้าทักท่านให้อารมณ์เสีย...จะเว้นก็แต่...คนที่ยืนอยู่หน้าแจ็คสันตอนนี้...
เลขาปาร์ค...
“ฉันก็ยิ้มออกจะบ่อยไป” มาเฟียหนุ่มบอกปัดขณะที่หยิบแฟ้มเอกสารขึ้นมาดู สองสามวันนี้จินยองบินไปญี่ปุ่นมาเพื่อจัดการเรื่องเซ็นต์สัญญาคู่ค้า... และแจ็คสันก็คิดว่าวันนี้อีกฝ่ายจะไม่เข้าพบเพราะฝากเรื่องเอกสารบอกผ่านมาทางยูคยอม “ตามตารางวันนี้ไม่เข้าบริษัท”
“วันนี้ก็ตั้งใจจะไม่เข้าบริษัทหรอกครับบอส”
“แล้วเข้ามาทำไม”
แจ็คสันละสายตาจากเอกสารเพื่อมองหน้าเลขาคู่ใจ ตารางงานของจินยองก็ยุ่งเหยิงพอ ๆ กับเจ้านาย หน้าที่ติดตามคอยบอกตารางงานจึงถูกโยนไปให้ยูคคยอม ไม่บ่อยเลยจริง ๆ ที่จะมีอะไรมาทำให้จินยองต้องทำตัวผิดแผน
“พวกมันเคลื่อนไหวแล้วล่ะบอส..”
และใช่...มันมากพอที่จะทำให้เกิดการผิดแผนขึ้นมาจริง ๆ
ตอนนี้ราว ๆ สองทุ่ม...และมาร์คกำลังเบื่อจนทนไม่ไหว...
หลังจากที่ตื่นมาอีกครั้งด้วยร่างกายเปลือยเปล่าในผ้าห่ม(อีกแล้ว) มาร์คก็กินข้าวกลางวันที่เมดจัดมาให้ ถึงจะแปลกใจที่วันนี้ไม่มีวี่แววของคิมยูคยอมมาคอยอยู่เฝ้า แต่มองออกไปก็ยังเห็นฝูงบอดี้การ์ดเดินยั๊วเยี๊ยะอยู่เต็มบ้านอยู่ดี
ดังนั้นมาร์คที่กำลังจะเป็นบ้าก็จะไม่ยอมอยู่เฉย ๆ
“นี่ ~ ไม่มีอะไรให้ทำจริง ๆ เหรอ”
ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก การ์ดคนที่อยู่ใกล้ประตูมากที่สุดซึ่งมาร์คเรียกอีกฝ่ายว่าคุณหมายเลขหนึ่งจึงเป็นเหยื่อที่ถูกงอแงใส่มากที่สุด
“งั้นผมช่วยยืนเฝ้าเป็นเพื่อนแล้วกัน”
เอากับเค้าสิ !
จากที่แค่ชะโงกหัวออกมาถามจนเห็นแค่กลุ่มผมยุ่ง ๆ เหมือนแมวขึ้เกียจไร้พิษภัยจึงได้ก้าวออกมาทั้งตัว... ไม่รู้ว่าไม่สนใจ หรือไม่รู้ว่ามันอันตราย ร่างนุ่มนิ่มถึงเลือกแค่เสื้อไหมพรมตัวใหญ่โคร่งของมาเฟียหนุ่มมาใส่กับกางเกงขาสั้น ที่จำเป็นจะต้องมัดทบจนต้นขาเลิกขึ้นสูง จะโทษก็ไม่ได้ เพราะว่านอกจากราวสูทสามราวที่ยูคยอมจัดหามาให้ มาร์คก็แทบจะไม่ได้ใส่เสื้อผ้าจริง ๆ จัง ๆ สักที
แน่นอนว่ามันทำให้เจ้าตัวดูน่าเอ็นอย่าบอกใคร คุณการ์ดหมายเลขหนึ่งคิดถึงถ้อยคำที่คุณยูคยอมกำชับไว้แล้วท่องรัวในใจ อันตราย อย่าไว้ใจ เป็นตัวแสบ เป็นจอมวายร้ายที่จะเคลิ้มไปด้วยไม่ได้ !
“...ไม่เบื่อเหรอ”
คำตอบมันชัดเจนว่าน่าเบื่อมากแต่แทนที่จะตอบคำถาม คุณการ์ดหมายเลขหนึ่งกลับได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากครีมอาบน้ำราคาแพง มันกลิ่นเดียวกับของบอสแต่พออยู่บนตัวมาร์คกลับดูขี้เล่นซุกซนกว่า และใช่...มันช่วยให้คุณบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งคิดถึงสีหน้าเวลาที่บอสโกรธเอาไว้เป็นการเรียกสติ จากที่เกือบจะเคลิ้มเพราะกลิ่นหวาน ๆ
“คุณกลับเข้าไปในห้องดีกว่านะครับ”
นี่ก็เป็นเรื่องที่ใครต่อใครพากันสงสัย...
สองชั้นถัดลงไปจากชั้นนี้เป็นชั้นที่มีการแบ่งห้องหับให้ผู้หญิงของบอสอยู่ มันหรูหราและครบครันไม่ต่างอะไรกับฮาเร็มของสุลต่าน...ทั้งที่เป็นของเล่นแท้ ๆ แต่บอสกลับให้อีกฝ่ายเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในห้องด้วยแบบนี้...ซึ่งมันเป็นครั้งแรก...ไม่สิ...ครั้งที่สองแล้วต่างหากที่เกิดขึ้น
“ก็มันน่าเบื่อนี่ !! ฉันเบื่อจะตายอยู่แล้ว นี่เจ้านายคุณจับผมทำอะไรแค่นี้เองเหรอ เรื่องตื่นเต้นที่สุดในแต่ละวันที่ผมเจอคืออาหารแต่ละมื้อที่เมดจะมาเสิร์ฟกับวันนี้จะเลือกสูทสีไหนไปงานเลี้ยง นี่พวกคุณหอบผมมาฮ่องกงเพื่อทำแค่นี้จริง ๆ ดิ” เสียงบ่นยาวราวกับอัดอั้นรัวออกมาจากปากอิ่ม แต่ยังไม่ทันที่บอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งจะอธิบาย...
“โวยวายอะไรเสียงดัง”
ตายยากกว่าแมลงสาปก็บอสนี่ล่ะ
ของเล่นตัวดื้อเงียบสนิทเมื่อเสียงของมาเฟียหนุ่มดังแทรกเข้ามา ปลายเท้านุ่มค่อย ๆ ย่องเตรียมตัวกลับเข้าห้องนอน ทำตัวเงียบกริ๊บราวกับเมื่อกี๊ไม่ได้ร้องโวยวายเสียงดัง
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ”
แจ็คสันส่งสูทให้แม่บ้าน สงสัยพักหลังจะใจดีกับอีกฝ่ายมากไปจนถึงขั้นออกมาเล่นกับบอดี้การ์ดข้างนอกแบบนี้ แล้วไหนจะชุดนั่นอีก
“แล้วชุดดี ๆ ไม่มีใส่หรือไง”
มุมปากของมาเฟียหนุ่มยกขึ้นในความหมายที่ต่างจากการยกยิ้ม สายตาคมกริบนั่นกราดตามาตั้งแต่หัวจรดเท้า เหมือนลูกแมวปอน ๆ ไม่มีผิด
“ก็ในตู้เสื้อผ้าคุณมีอะไรให้ผมใส่บ้างล่ะ”
…อึก...
การ์ดหลายคน...ไม่สิ...ทุกคนกลืนน้ำลายลงคอ ไม่บ่อยจริง ๆ ที่จะมีคนพูดจายอกย้อนบอสแล้วจะยังมีชีวิตรอด... ไม่โดยตรงก็โดยอ้อมส่วนใหญ่ล้วนไม่ค่อยจะมีจุดจบในชีวิตที่ดี
“…งั้นก็เป็นความผิดของฉันสินะ”
ฝูงบอดี้การ์ดที่ขนลุกขึ้นมาถึงต้นคอมองบอสหรี่ตาลงพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาใกล้...เวลาที่บอสดูใจเย็นน่ากลัวกว่าเวลาที่แสดงออกว่าโมโหร้าย ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าคาดเดาชะตากรรมของเล่นอันใหม่ของเจ้านาย...
“ก็คุณพาผมมาไว้ที่นี่...แล้วในห้องนั่นก็มีแต่เสื้อผ้าคุณ...คุณจะให้ผมใส่อะไรล่ะครับ” ทำเป็นพูดเสียงอ้อมแอ้มอธิบายเหตุ จริง ๆ มาร์คก็กลัวตายเหมือนกันนั่นแหละ แถมการ์ดแต่ละคนยังทำหน้าอย่างกับกลืนยาขมลงแบบนี้....
บางที...มาร์คอาจจะได้ลงไปเล่นกับปลาที่ก้นอ่าววิคตอเรียในคืนนี้เลยก็ได้
“ยูคยอม !”
“ครับ”
ตายแน่ !
เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือกทว่าก็พร้อมขานรับ ถึงจะสนิทกับบอสมากกว่าใคร ๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นคุยงานกับบอสได้เป็นธรรมชาติแบบพี่จินยอง เพราะงั้นการที่บอสเรียกชื่อแบบนี้...
ไม่ดี... ไม่ดีแน่ ๆ
“พรุ่งนี้พามาร์คไปจัดการเรื่องเสื้อผ้าด้วยล่ะ”
ผิดคาดกันทั้งหมด...
“แต่พรุ่งนี้..”
“ฉันสั่ง”
เสียงทุ้มสำทับจนยูคยอมหมดทางเลือก การที่บอสยอมรับอย่างง่าย ๆ ไม่เคยอยู่ในสารบบความคิดมาก่อน...แล้วพรุ่งนี้...เป็นตารางการตรวจโกดังนอกเมืองแล้วด้วย...
“ได้ครับ”
ถึงจะไม่เห็นด้วยแต่เมื่อบอสสั่งมายูคยอมก็ต้องทำ...
“ส่วนเธอ...มานี่”
มือหนาสะบัดมือเป็นเชิงไล่ให้ทุกคนไปพักผ่อนได้ พร้อมกับเอวบางที่โดนรวบขึ้นบ่าจนหัวทุยห้อยต่องแต่ง มือกำชายเสื้อเชิ้ตแน่นจนมันหลุดลุ่ยออกนอกกางเกง...
ยูคยอมไม่ได้หันกลับไปมองว่าบอสทำอะไร... แต่เสียงเพี๊ยะแรง ๆ พร้อมกับเสียงร้องเหมือนเด็กโดนฟาดก้นนี่มันกลับลอยเข้าหูมาเองโดยไม่ต้องทำอะไร..
"นี่คุณจะทำอะไรของคุณน่ะ"
“กะขนาดก้นเธอ คืนนี้ฉันจะหาเสื้อผ้าให้เธอใส่"
-ไม่รู้ว่ามันเป็นพาร์ทที่น่าเบื่อหรือเขียนได้น่าเบื่อ
ฝากคุณการ์ดหมายเลขหนึ่งสุดเซ็กซี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ
คยองอิน
#unluckyJARK
ความคิดเห็น