ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOT7 ﹁ UNLUCKY ﹂ ┏ JARK ┓

    ลำดับตอนที่ #3 : { 03 } - re write -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.73K
      124
      13 มิ.ย. 59







    O W E N TM.




    CHAPTER 3




    เครื่องบินแลนดิ้งลงสู่ผืนดินได้อย่างสง่างามนุ่มนวลชนิดที่มาร์คไม่รู้สึกสะเทือนกับแผลที่เบื้องหลัง แว่วเสียงกัปตันประกาศเตรียมตัวลงจอดบอกมาร์คว่าจุดหมายปลายทางที่เรากำลังจะสัมผัสนั้นก็คือ ‘ฮ่องกง’

    ไม่ต้องเดินทางไปที่จุดรับผู้โดยสารขาเข้าเหมือนเช่นคนทั่วไป เพราะทันทีที่ล้อเครื่องบินนิ่งสนิทบนรันเวย์คาราวานรถหรูห้าคันก็มาจอดเรียงรายอยู่ตรงหน้า�

    “จะยืนบื้ออะไรอยู่ตรงนี้ เข้าไปสิ” มาร์คปัดมือที่ตบก้นเป็นสัญญาณให้เดินทิ้งก่อนร่างโปร่งเพรียวก้าวเข้าไปในรถคันหรูที่มีชายชุดดำเปิดประตูไว้รอท่า ลมเย็นปะทะแก้มทำให้รู้ว่ารถคันนี้เปิดแอร์ไว้เย็นฉ่ำต่างจากอากาศข้างนอกที่ค่อนข้างจะร้อนอ้าว�

    “จะพาผมไปที่ไหนน่ะ...” ตาคมเหลือบมองของฝากจากแอลเอที่เบียดกับประตูรถจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวแล้วนึกขัน ตากลมทำแข็งแต่มือที่เกาะข้างประตูไว้สั่นหงึก ๆ�

    “ฉันจะไปประชุม” เมื่ออีกฝ่ายถามดี ๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องสวมบทผู้ร้าย คนอย่างหวังแจ็คสันไม่ใช่คนใจร้ายใจมาร แต่เป็นคนที่อยากได้อะไรแล้วก็ต้องได้เฉย ๆ�

    อาจจะดูไม่ร้ายกาจนักแต่เอาแต่ใจใช้ได้

    “แล้วผมล่ะ...” มาร์คไม่รู้จุดยืนของตัวเองในตอนนี้...ทางที่ดีควรจะรู้จักคนพวกนี้ไว้ให้มากที่สุดถ้าหากคำถามของตัวเองในตอนนี้ยังคงเป็นการหนีออกจากไปที่นี่อยู่

    “กลับไปรอที่เซฟเฮ้าท์”�

    นั่นเรียกว่าคำตอบหรือคำสั่ง...

    ถ้าหากไม่รู้ว่านายแจ็คสันเจ้านายคงนึกว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์มาเฝ้ามาร์คซึ่งเป็นนักโทษวีไอพีของคุกหรูหราที่ไหนสักแห่ง ไหนจะบอดี้การ์ดอีกสี่คันรถที่ประกบล้อมรถจนแทบจะหนีไปไหนไม่ได้อีก !!

    แล้วก็เป็นดังคาดเมื่อบรรยากาศในรถเงียบสนิท สายแจ็คสันนั่นก้มอ่านอะไรสักอย่างในแท็ปเลทเครื่องยักษ์พร้อมกับจิมแชมเปญเย็น ๆ ที่ถูกนำมาเสิร์ฟให้ทันทีที่ขึ้นรถหรู

    ชวนให้สับสนไปหมดเพราะทุกอย่างมันนิ่งเงียบและดูเป็นธรรมชาติจนมาร์คสงสัยว่าคณะของแจ็คสันนี่เค้าจับคนมาเล่นด้วยแบบนี้บ่อย ๆ เหรอ แล้วคนที่ถูกจับเค้าพยายามทำอะไรกัน ? อยู่นิ่ง ๆ ไม่ขัดขืน หรือกระโดดหน้าต่างหนีให้รถทับตายบนถนน...�

    คิดไม่ตก...หยาดเหงื่อไหลลงจากข้างขมับด้วยความขลาดกลัว มาร์คก็เป็นแค่เด็กอายุ 19 คนหนึ่งที่แค่รักสนุกชอบท่องเที่ยวยามราตรีก็เท่านั้น...ไม่เคยคาดคิดว่าผลมันจะพามาร์คข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่ในตอนนี้�

    และสุดท้ายนี้ก็มีทางเลือกให้มาร์คสองทางเท่านั้น...คือระหว่างจะพูดคุยกับอีกฝ่ายดี ๆ หรือจะอาละวาดเหวี่ยงหมัดชกอีกฝ่ายให้คางแตกก่อนจะเค้นคอถามว่า ‘จะปล่อยกูกลับบ้านได้ยัง ?’ แบบเถื่อน ๆ �

    “คุณ...ผมอยากกลับบ้าน” แน่นอนว่าความเสียดหน่วงชวนอึดอัดนั่นยังคั่งค้างอยู่ในช่องทางด้านหลัง ดังนั้นตัวเลือกที่สองจึงถูกตัดทิ้งไปทันที...การพูดจาดี ๆ จึงเริ่มต้นขึ้น�

    “ก็กลับสิ...”

    “งะ...” มาร์คเกือบจะยิ้มกว้างแล้วหากที่ฝ่ายไม่ส่งประโยคเรียกโทสะนั่นมาเสียก่อน

    “แต่จนกว่านายจะชดใช้ให้ฉันจนสาสม” ปากอิ่มหุบฉับฟันขาวขบกันดังเป็นเสียงกรอด ๆ รับกับเส้นประสาทของมาร์คที่ปวดกระตุก...กับผู้หญิงของมัน...มาร์คยังไม่ได้เอาเลยสักครั้ง แล้วมันที่เอามาร์คไปแล้วสองครั้งน่ะ...ไม่เรียกสาสมอีกหรือ

    “แต่ผมเป็นผู้ชายและนี่มันก็เรียกว่าการกักขังหน่วงเหนี่ยว” มาร์คเพียรนับหนึ่งถึงร้อยในใจเพื่อตั้งสติ สิ่งที่เสียไปแล้วก็เสียไป แค่คิดจะถามหาความยุติธรรมจากโลกใบนี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ผิดแล้ว

    “ตามที่ฉันบอกนายนะหนุ่มน้อย นายเอาผู้หญิงของฉันไป นายก็ต้องมาทำหน้าที่แทน” แขนกำยำนั่นกระชากมาร์คเข้ามาใกล้รุนแรงเสียจนมือที่จับช่วงประตูไว้หลุด เลขในหัวเหมือนจะขาดหายปนกระโดดกระดอนชวนให้ต้องหายใจลึก ๆ เข้าปอดไปเฮือกใหญ่�

    “แต่ผมไม่ใช่ผู้หญิงเข้าใจมั้ย ? แถมที่คุณทำกับผมมันก็สาสมมากพออยู่แล้ว... ผมจะย้ำอีกครั้งนะ...ผมเป็นผู้ชาย !” แทนเทินอะไรกัน ! มาร์คมีสัดส่วนหรืออะไรเหมือนกับผู้หญิงงั้นเหรอ ?!

    “ฉันเลือกแล้ว...นายคงไม่คิดว่าฉันได้ผู้หญิงคนนั้นมาฟรี ๆ หรอกใช่มั้ย ?” ลมหายใจเกลี่ยตรงข้างแก้มจนขนลุกซู่ มือบางอยากจะผลักไสแต่จะเอาอะไรไปสู้กับคีมเหล็กเนื้อร้อนของอีกฝ่าย “ห้าสิบล้านที่ฉันเสียไป เพราะอย่างนั้นฉันว่านายทำตัวดี ๆ ว่าง่าย ๆ จนฉันพอใจจะดีกว่านะ”

    “แต่นี่มันเรียกว่าขืนใจนะ แล้วผู้หญิงคนนั้นผมก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับเธอไปมากกว่าที่คุณเห็น...สาบานได้เลยว่าผมจะแจ้งความ” ต่อให้ต้องต้องติดคุกด้วยกันจนต้องอับอายมาร์คก็ยอม...อำนาจล้นฟ้าแค่ไหนแต่บ้านเมืองไม่ได้ไร้กฏหมาย จะทำอะไรมันก็ต้องมีขื่อมีแปทั้งนั้น�

    ยิ่งอีกฝ่ายบอกว่าเสียเงินซื้อผู้หญิงคนนั้นมา...นี่มันขบวนการณ์ค้ามนุษย์ชัด ๆ�

    “คิดว่าจะมีสถานีตำรวจไหนในประเทศนี้ที่ยอมช่วยเธอเหรอ...”�

    “...”

    “ฉันอ่านแววตาของเธอออก เธอไม่ใช่เด็กโง่ แต่เธอเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ เหรอ...ฉันถามให้คิดนะ...ไม่ได้ขู่”�

    ...เจ็บใจ...ทุกความคิดของมาร์คนั้นหยุดลงพร้อมกับมือที่กำหมัดแน่น...เสียงของแจ็คสันไม่มีคำว่าล้อเล่นเจืออยู่เลยสักนิด...เหมือนกับเอาไม้ซีกไปงัดกับไม้ซุงอันโต...แทบจะเป็นไปไม่ได้...�

    “ฉันบอกทางเลือกง่าย ๆ ให้นายไปแล้ว ที่นี่ก็สุดแล้วแต่จะเลือกเดินแล้วกัน... หรือเอาแบบนี้ดีมั้ย..ถ้าเธอมีปัญญาหนีออกไปจากที่นี่ได้ฉันจะปล่อยนายไป...แต่ถ้าไม่...โทษของการหยามคนอย่างหวังแจ็คสันก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น” น้ำเสียงเย็นทุ้มหูนั่นสำทับ ริมฝีปากอุ่นนั่นแนบจูบข้างแก้มมาร์คทั้งที่ร่างผอมบางบนตักหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ

    …เรื่องของเรามันพึ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น !�

    นิ้วเรียวแหวกฟองในอ่าง...ขาเรียวตีเบา ๆ จนน้ำอุ่นสบายตัวกระเพื่อมล้น...�

    หลังจากพาเจ้าพ่อไปส่งเข้าประชุดเสร็จ มาร์คก็ถูกย้ายคันรถขึ้นหนึ่งในเมอร์ซิเดสเบนซ์ทั้งสี่ มาที่วิลล่าขนาดใหญ่...�

    จากที่มองออกมานอกกระจกรถ วิลล่าแห่งนี้ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของตึดสไตล์โมเดิร์นสีเทาสลับดำที่มีความเรียบหรู การตกแต่งส่วนใหญ่ที่มองจากสายตาคล้ายกับจะเป็นสีดำไปเสียทั้งหมด หากซาตานจากแดนนรกมีวิลล่าสักหลังหนึ่งบนโลกมนุษย์ มาร์คคิดว่ามันก็คือที่แห่งนี้...�

    การตกแต่งภายในก็ไม่ได้แตกต่างจากภายนอกมากนัก...ลิฟต์จอดส่งมาร์คที่ชั้นบดสุด ก่อนหญิงสาวในชุดเมดจะผายมือให้มาร์คเข้ามาในห้องน้ำสีทึบมีส่วนประกอบเป็นเครื่องกระเบื้องสีดำสนิท

    น้ำมันหอมระเหยและบาร์ธบอมบ์สีสวยถูกเตรียมไว้รอมาร์คอยู่แล้ว กลิ่นหอมอ่อน ๆ นั่นช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายขึ้น มือบางเลิกชายเสื้อขึ้นก่อนจะชะงักเมื่อเห็นภาพเมดสาวสะท้อนอยู่ในกระจก�

    “ผมจะอาบน้ำ”�

    “ค่ะ ดิฉันจะช่วยคุณอาบน้ำเองค่ะ”�

    เธอตอบกลับมาอย่างใส่ซื่อเสียจนมาร์คโมโหเธอไม่ลง ร่างกายเหนื่อยล้าแสดงสัญลักษณ์ปฏิเสธด้วยร่างกาย พยายามขุดภาษาจีนที่กลายเป็นความทรงจำจาง ๆ ไปแล้วเพื่อบอกเธอให้หยุด เมื่อมือนิ่มในถุงมือลูกไม้นั่นพยายามจะช่วยมาร์คถอดเสื้ออาบน้ำอย่างไม่เข้าใจ จนในที่สุดเธอก็ยอมทิ้งมาร์คเอาไว้ที่นี่ลำพัง�

    น้ำวนไหลเอื่อย ๆ ผ่านร่างผสมกับยาคลายกล้ามเนื้ออ่อน ๆ ทำให้ความปวดหน่วงที่เกาะกินอยู่ตามร่างกลายคล้ายจะหายไปกับสายน้ำ เบาสบาย... มีหลายครั้งที่มาร์คคิดถึงนิยายผู้หญิงที่มีเรื่องราวคล้ายคลึงกับอะไรแบบนี้... พวกเธอส่วนใหญ่มักจะยืนร้องไห้อยู่กลางสายน้ำ ขัดเนื้อขัดตัวจนเป็นรอยแดงช้ำ...�

    ถามว่ามาร์คอยากที่จะทำอย่างนั้นบ้างมั้ย...

    ก็ไม่นะ...

    ช่องทางด้านหลังปวดระบมจนไม่อยากจะทำอะไรนอกจากนั่งนิ่ง ๆ รอเพื่อถูตัวให้สะอาด เนื้อความที่คุยกันก่อนจะออกจากรถมายังติดตรึงตราอยู่ในสมอง...

    มันอาจจะผิดที่มาร์คไปลูบคมคนอย่างแจ็คสันหวังเข้า... มองจากภายนอกแล้ว คนอย่างหมอนั่นคงไม่กระทบกระเทือนกับเงินห้าสิบล้านบาท...ที่ลงทุนซื้อผู้หญิงคนนั้นมา เธอก็เป็นแค่ของเล่นคนรวยทั้งนั้น...และมันก็ไม่ได้มีแต่แจ็คสันที่อ่านแววตาของมาร์คออก...คำว่าทดแทนของมาเฟียนั่นก็คือทดแทน อีกฝ่ายเห็นมาร์คเป็นแค่ของเล่นชิ้นหนึ่งจริง ๆ�

    ก่อนหน้านี้หวังแจ็คสันเสนอทางเลือกให้มาร์คสองข้อ...คืออยู่ที่นี่จนกว่าจะเบื่อ และหนีำไปจากที่นี่ถ้าหนีได้ ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่มาร์คจะหนีไปจากที่นี่ได้ยังไง ? อยู่ท่ามกลางคนที่เดินทางไปไหนมาไหนพร้อมกับบอดี้การ์ดสี่คันรถ อาศัยอยู่ในตึกที่ระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนาพอ ๆ กับเพนตากอน หรือแม้จะจังหวะที่ปล่อยหนึ่งคันให้มาส่งมาร์คที่นี่ สถานที่ปลายซึ่งมีบอดี้การ์ดยั้วเยี๊ยะเต็มบ้านก็ไม่ได้เข้าใกล้กับคำว่าหนีเลย�

    ทางเลือกเดียวคืออยู่ที่นี่ไปจนเบื่อเท่านั้น...แล้วงั้นมาร์คควรจะตั้งรับอย่างไรดี ?

    ความแสบตึงของแผลที่ด้านหลังยังเสียดชัด กว่าจะเช็ดทำความสะอาดน้ำของอีกฝ่ายออกก็แทบจะใส่กางเกงกลับแล้วออกไปตีกับหวังแจ็คสันให้รู้เป็นรู้ตายไปข้าง ทำไม่มีถนอมเลยสักนิด ทั้งที่...หน้าก็หล่อ ลีลาก็ดี แต่คงเป็นเพราะสันดานเสีย ๆ ส่วนบุคคลมากกว่า...

    ....แต่ที่บอกว่าลีลาดีไม่ได้หมายความว่าชอบ...ถูกกระทำหรอกนะ...�

    หากยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ถ้าไม่นับความเจ็บเพราะครั้งแรกและในส่วนที่มาร์คขัดขืน แจ็คสันก็เป็นคนที่ทำให้เซ็กส์สนุกไม่เบา เพราะระหว่างเรามันก้ำกึ่งอยู่บนความสัมพันธ์อันแปลกประหลาด ถ้ามาร์คเป็นรับสักคนที่มีจิตมีใจสมยอมผู้ชายตรงหน้ามันอาจจะเป็นเซ็กส์ที่ดี...แต่ว่ามาร์คไม่ได้ชอบผู้ชาย...

    ดังนั้นมันจึงแต่มันไม่ใช่สำหรับมาร์ค...

    มาร์คยังคงเป็นผู้ชายแท้ ๆ ดึ๋งดั๋งกับนมและมีความรู้สึกกับสาว ๆ อยู่...

    แต่ทางเลือกของมาร์คมีเพียงแต่ยอม...ยอมเป็นของเล่นจนกว่าแจ็คสันจะเบื่อ...

    งั้นมาร์คก็ควรจะทำตัวเป็นของเล่นน่าเบื่อใช่มั้ย...ปล่อยให้อีกฝ่ายทำอย่างที่อยาก ทำตามใจ ยินยอม ไม่ดื้อไม่พยศใด ๆ ยอมรับให้ทุกอย่างเป็นไป โดยที่ไม่ขัดขืนท้าทาย... โอนอ่อนว่างายคล้ายกับตุ๊กตา...

    จะยังอยากปล้ำมาร์คอยู่อีกมั้ย ถ้าหากมาร์คเต็มใจยอมให้กระทำ�

    จะยังอยากเล่นอยู่มั้ยกับของเล่นที่ทำตัวเหมือนเดิมซ้ำ ๆ�

    เดิมพันครั้งนี้มาร์คคงไม่มีอะไรให้เสียไปมากกว่านี้อีกแล้ว... ในเมื่อจะหนีก็ไม่ได้ งั้นก็มีแต่พุ่งชนเข้าไปจนกว่าจะมีใครคนหนึ่งพินาศไปก่อนก็เท่านั้น !!�

    ขาเรียวก้าวขึ้นจากน้ำ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของบาร์ธบอมบ์ติดกายขึ้นมาก่อนจะพาร่างฉ่่ำชื้นมายืนเปลือยกายอยู่หน้ากระจก

    ไม่มีส่วนไหนในตัวมาร์คที่เหมือนผู้หญิง...�

    มือบางไล้คางตัวเองเพื่อสัมผัสถึงตอหนวดที่เริ่มขึ้นเป็นไรจางสีเขียว ไหนเสียงทุ้ม ๆ� น่องแข็ง ๆ ซิกแพคบาง ๆ ไรขนตามตัว หรือแม้แต่ความหยาบกร้านของผิวเนื้อตามฉบับผู้ชายอีก...

    ไม่ใกล้เคียง และไม่มีแนวโน้มจะเข้าใกล้คำว่า ผู้หญิง เลยด้วยซ้ำ�

    “รวยจนเพี้ยนไปแล้วล่ะมั้ง...”�

    “นินทาเจ้านายผม ผมได้ยินนะครับคุณมาร์ค หากไม่ได้กำลังพยายามฆ่าตัวตายรบกวนออกมาจากห้องน้ำได้แล้วล่ะครับ”�

    ร่างผอมแห้งสะดุ้งเฮือก เมื่อเสียงของใครอีกคนดังมาจากหน้าห้องพร้อมกับเสียงเคาะประตูหนัก ๆ ทั้งเจ้านายทั้งลูกน้องนี่เกิดมาเป็นคู่บุญกับจริง ๆ คนอยู่ในห้องน้ำก็ยังจะแอบฟัง เคยเข้าใจเรื่องสิทธิมนุษยชนบ้างมั้ยวะ�

    “ไม่ใส่”�

    คิมยูคยอมมองผู้หญิงคนใหม่ของบอสที่ตอนนี้วงหน้าดูดีนั่นหงิกยิ่งกว่าแง่งขิงแล้วนึกทึ่ง นับว่าจิตแข็งใช้ได้ที่ถูกจับมาแบบนี้แล้วยังไม่สติแตก�

    “ใส่เถอะครับ คุณอย่าดื้อนักเลย” ความแมนของมาร์คตอนนี้สั่นไปหมดเมื่อมองเสื้อเชิ้ตสีชมพูหวานแหววตรงหน้าที่มาพร้อมเสื้อสูทสีขาวและกางเกงเข้าชุดกัน...�

    ตุ๊ดมาก...ตุ๊ดที่สุด...ใส่แล้วกลายเป็นผัวบาร์บี้แน่ ๆ มันดูสำอางค์และหวานจ๋าเกินไป เฮ้ เค้าไม่ใช่บอยแบนด์ทางแถบเอเชียนที่แต่งอะไรแบบนี้เป็นเรื่องปกติน่ะ

    หรือจริง ๆ แล้วไอ้มาเฟียหื่นนั่นกระหายอะไรแบบนี้ลึก ๆ ที่บอกว่าจริง ๆ แล้วหาผู้หญิงแต่จริง ๆ แล้วต้องการเพื่อนสาว...หรือแม้แต่วันดีคืนดีจะชวนกันแต่งหญิง...

    เมื่อคิดถึงภาพที่อีกฝ่ายแต่งตัวเป็นผู้หญิง ใส่วิกผมทองแบบบาร์บี้ ใส่เสื้อสีชมพู...(สติแตก)

    “ไม่ ไม่ ไม่ ไม่” แทบจะกลายเป็นเครื่องจักรที่เกิดมาเพื่อพูดปฏิเสธเท่านั้น...ความคิดก่อนที่จะออกมาจากห้องน้ำหายวับกลายเป็นควันต้องลมไปทันตาเมื่อประกอบกับจินตนาการเพริ้สแพร้วในหัวสมอง...�

    “ใส่มันเถอะครับ...เพื่อความปลอดภัยของร่างกายคุณ” เป็นความหวังดีที่มีให้ของคิมยูคยอม จากที่ตอนแรกคิดว่าอีกฝ่ายเก่งที่สามารถรักษาสติเอาไว้ตอนนี้คงจะต้องเปลี่ยนใหม่ เมื่อเด็กตรงหน้าปั้นหน้ายาก สีหน้าซีดสลับแดงไปอย่างคาดเดาไม่ถูก ไม่รู้ตอนนี้คิดไปถึงไหนแล้วนั่น...

    “จำเป็นมั้ยที่ผมต้องใส่สูท ?” มาร์คสูดลมหายใจลึกกระชากสติกลับมา ปัดภาพกระเทยร่างยักษ์ผมทองที่เต้นยั่วยวนนั่นทิ้งแล้วมองชุดสูทสีขาวตรงหน้าอีกครั้ง�

    “ถ้านายท่านสั่ง ต่อให้ไม่จำเป็นคุณก็ต้องใส่”�

    “ผมใส่ก็ได้...แต่ว่า...จำเป็นต้องชุดนี้ด้วยเหรอ ?” ให้ตายสิ...ขอทางเลือกหน่อย ไหน ๆ ก็ขนสูทออกมาให้เลือกตั้งสามสี่ราวแบบนี้...

    “ไม่ครับ...ผมหยิบมาให้เพราะคิดว่าคุณคงทำหน้าตลกดีตอนที่เห็นมัน”�

    ไอ้.................................................................

    มาร์คหมดคำพูดและเกือบจะแถมคำด่าออกไปให้ด้วย.. ได้ยินเสียงบอดี้การ์ดหนุ่มตัวโตหลุดหัวเราะออกมาแผ่วเบาก่อนอีกฝ่ายจะเดินไปเลือกชุดสูทตัวใหม่มาให้แก่คุณของเล่นกิตติมศักดิ์�

    สุดท้ายคุณของเล่นตัวเล็กก็มาอยู่ในชุดสูทกึ่งทางการชนิดกระดุมสองเม็ดสีน้ำเงินนี่จนได้...และไหน ๆ ได้แต่งสูธเป็นคุณชายทั้งทีมาร์คก็อดไม่ได้ที่จะเสยผมตัวเองขึ้นไปจนเห็นโครงหน้าชัด...�

    ชัดมากเรื่องความแมน...�

    ไม่มีผมหน้าม้าปรกหน้า ไม่มีอะไรมาเสริมให้หน้าดูหวาน แล่อยมีแต่สเน่ห์แบบชายหนุ่มเท่านั้นที่จะล้นทะลักออกมา...�

    “หล่อมากเลยนะนั่นน่ะ...หึ”�

    หวังแจ็คสันกระตุกยิ้มทันทีที่เห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาในห้อง...มาร์คหล่อมาก...ยิ่งวันนี้เสยผมขึ้นก็ยิ่งเห็นโครงหน้าชัด...แต่ไอ้ท่าเสยผมแล้วเก็กหน้านิ่งนั่นขอซื้อได้มั้ย...�

    มันทำแล้วดูน่ารัก...

    วันนี้แจ็คสันปิดโซนของร้านอาหารชั้นดาดฟ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในเครือตระกูลหวังเพื่อทานข้าวเย็น ไม่มีนัยยะใดแอบแฝงนอกจากเอาลูกเค้ามาแล้วก็ต้องเลี้ยงดูปูเสื่ออาหารการกินให้มันดี สมกับเป็นคนตระกูลหวังสักหน่อย...�

    แล้วก็...ยังอยากจะถามอะไรเพิ่มเติมด้วย...�

    ขืนถามในเพนเฮ้าส์ หรือในรถ มีหวังได้ถูกกวนอารมณ์จนตีกันอีกยกสองยกก่อนจะได้รู้คำตอบ�

    แต่ถ้าหากว่าไม่ยอมตอบดี ๆ อาจจะมีการปิดชั้นดาดฟ้าเพื่อปราบแมวพยศก็ได้นะ...หึ�

    “เธอหิวรึยัง ?” เอ่ยถามร่างเพรียวที่ทรุดลงบนเก้าอี้ มองวงหน้าดูดีที่ไม่ถูกปิดบังด้วยไรผมเกะกะตาแล้วนึกถูกใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    “หิวแล้วครับ” เกือบจะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ มาร์คลดท่าทีผยองเป็นแมวขนพองลง ก่อนจะตอบออกมาอย่างว่าง่าย โดยที่แจ็คสันไม่คิดว่าคำตอบจะเป็นอย่างนั้น ก่อนออกมาเมดรายงานว่าคนตรงหน้ากินขนมเยอะแยะแต่ไม่ยอมกินข้าว ตอนนี้ถ้าเจาะเลือดออกมาอาจจะหวานกว่าเวลคัมดริ๊งค์หวานชื่นใจที่มาร์คพึ่งจิบไปเมื่อครู่ก็ได้ �

    “งั้นหรอ...งั้นก็หิ้วท้องรอไปอีกหน่อยแล้วกัน”�

    แปะแปะ !�

    มาเฟียหนุ่มปรบมือสองครั้งเป็นจังหวะ ก่อนพื้นที่ว่างตรงด้านหน้าโต๊ะจะถูกใช้งาน มันเป็นโชว์กายกรรมพิเศษที่ถูกจัดเตรียมขึ้นเพื่อโชว์ในโรงแรมเพื่อสร้างความหฤหรรษ์ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกให้มาทานข้าวที่นี่ในวันนี้�

    “ว้าว...” เสียงร้องในลำคอและดวงตากลมโตที่เบิกกว้างอย่างตื่นตาตื่นใจขณะที่นักแสดงชายควงกระบองเหนือถังที่กลิ้งไปมาเรียกสายตาของแจ็คสันให้หันมอง...วงหน้านิ่งคลายสีหน้าลงจนเหมือนเด็กน้อยน่าเอ็นดู�

    แจ็คสันชะงักกับความคิดที่ว่านั่นแล้วพบว่าในเวลาไม่ถึงสิบนาทีที่เด็กนั่นเดินเข้ามาตัวเองเผลอชมอีกฝ่ายไปแล้วไม่ต่ำกว่าสามครั้ง...�

    แต่กระนั้นก็ไม่อาจละสายตาจากวงหน้าเปี่ยมสเน่ห์นั่นได้...

    ยอมรับว่าของที่เสียไปเทียบไม่ได้กับของใหม่ที่ได้มาเลยแม้แต่น้อย... มาร์คไม่จำเป็นต้องเข้าหาแจ็คสันเหมือนใครหลาย ๆ คน วงหน้านิ่งเฉยที่หลุดแสดงกริยาเล็ก ๆ น้อย ๆ นั่นชวนให้หลงใหลมากกว่าที่คิด...�

    อืม... ดูเหมือนแจ็คสันจะให้เงื่อนไขกับมาร์คยากไปหน่อย...�

    จะปล่อยให้หนีก็คงไม่ใช่...แล้วถามว่าเบื่อมั้ย...�

    ตอนนี้ไม่มีเบื่อ....






    Talk;
    เอาไปเท่านี้ก่อนนนนนน�
    ปั่นไม่ทัน ตันลื้มมมม�


    **มาต่อแล้ววว�
    ไม่รู้จะทอล์กอะไรรรรร�
    ไว้เจอกันนนนนนนน

    อย่าลืม คอมเม้นหรือ #unluckyJARK นะแจ๊ะส์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×