คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #23 : { 23 } 100%
เดี๋ยวค่ะ !!!!
ก่อนจะเลื่อนไปอ่านเนื้อเรื่องดิฉันขอขายของก่อน
DayDream Vol.2
พร้อมส่งแล้วค่า เหลืออีกไม่ถึงสิบเล่ม
ราคาเล่มละ 350 บาทเท่านั้น !!!!!
ใครไม่มีตำด่วนจ้า (อร้าง ! จิ้มนุเบาเบา)
CHAPTER 23
“อ้าว...”
“…”
“…ไม่เจอกันนานเลยนะเกอ”
“Glad to see you too”
แจ็คสันถึงกับถอนใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องอยู่ในห้องขังที่มีหวังอี้ป๋อ ญาติในไส้ที่มีต้นตระกูลเดียวกัน
ให้กล่าวสั้น ๆ ก็คือหวังอี้ป๋อนั้นทายาทคนสำคัญของตระกูลหวังบนแผ่นดินใหญ่
ตระกูลหวังนั้นบริบูรณ์ไปด้วยทรัพย์สิน ครอบคลุมหลายธุรกิจจนสามารถแตกแขนงหลายสาย เช่นเดียวกับที่จีนแผ่นดินใหญ่ ผลประโยชน์มหาศาลที่ควบคุมหัวใจหลักในอนาคตไว้อยู่ในมือทายาทสายตรงเลือดบริสุทธิอย่างหวังอี้ป๋อ
จุดที่อันตราบไม่ต่างจากแจ็คสัน...หรือบางทีอาจจะมากกว่า
เขตการปกครองพิเศษฮ่องกงมีขนาดเล็กกว่ามากเมื่อเทียบกับจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ก็เป็นที่ทราบกันดีว่ารัฐบาลจีนพยายามแทรกแทรงการเมื่องฝั่งฮ่องกงด้วยหลักการปกครองแบบ 1 ประเทศ 2 ระบบ สาเหตุมาจากการที่ยังไม่มีหัวเมืองไหนสามารถพัฒนาระดับเศรฐษกิจได้ทัดเทียมฮ่องกง
จนนำมาถึงการก่อม็อบประท้วงขึ้น เป็นเรื่องหน้าม่านที่รับรู้กันในระดับโลก
แต่หลังม่านนั้นกลับเผ็ดร้อนยิ่งกว่า
เพราะฉะนั้น...แจ็คสันจึงไม่แปลกใจเลยสักนิดที่พวกมันสามารถก่อเหตุอุกฉกรรจ์กลางวันแสก ๆ ได้
“โดนอะไรมา”
“วางยาสลบในหมวกกันน็อค”
เสียงน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ทำเอาแจ็คสันเกือบหลุดขำ รู้กันอยู่ว่าบังคับให้ตายยังไงหวังอี้ป๋อก็จะไม่ยอมเลิกแข่งมอเตอร์ไซค์ ไหนจะสภาพที่เสื้อยืดด้านบนมีรอยเท้าเต็มตัวกับท่อนล่างที่เป็น Racing suit ที่ใช้ในแข็งขัน นั่นก็ทำให้หวังอี้ป๋อหงุดหงิดมากพอดู...
ต้องมาโดนสิ่งที่ตัวเองชอบย้อนเกล็ด...พวกมันกล้าดีถึงขนาดนั้น
“แล้วเกอล่ะ...กลิ่นเหมือนขยะ”
แต่หวังอี้ป๋อ...ก็คือหวังอี้ป๋อ
วาจาขวานผ่าซากเมื่อประกอบกับวงหน้าเรียวคมสุดจะนิ่งเฉยก็ยังไม่เกรงใจใครเหมือนเดิม แต่ต่อให้แจ็คสันอยากโกรธ แต่ก็โกรธไม่ลง
เพราะหลังกำแพงที่หนาที่สุดของหวังอี้ป๋อ...หากพังทลายเข้าไปได้ก็จะเจอที่โล่่งกว้างที่ใหญ่ที่สุด ที่มีเด็กชายหวังอี้ป๋ออาศัยอยู่เพียงลำพัง
“ก็เหม็นขยะนั่นแหละ”
จะว่าไป...สภาพแจ็คสันตอนนี้ก็ไม่ได้ดีกว่าอี้ป๋อสักเท่าไหร่ เป็นครั้งแรกที่แจ็คสันหลุดจากมาดประธานใหญ่ คิดแล้วยังนึกถึงตอนที่มาร์คบอกให้ยูคคยอมขับรถไต่ขึ้นไปบนกองขยะ
มาร์คไม่เสียจังหวะเลยสักนิด วงหน้าเรียวสวยนั้นมีชีวิตชีวาตัดสินใจแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เด็ดขาด ขั้นตอนไหนควรปล่อย ขั้นตอนไหนต้องพุ่งชน
มาร์คฉลาด...ที่รู้ดีว่าเป้าหมยของพวกมันไม่ใช่การหมายเอาชีวิต แต่มันจำเป็นต้องพาแจ็คสันกลับไปทั้งที่มีชีวิต เป็นโชคร้ายที่พวกมันเลือกยิงยูคยอมไม่ใช่แจ็คสัน แววตาสับสนในตอนแรกจึงไม่เหลือความลังเลเลยสักนิด
ใช้เวลาชั่วครู่ระดับอดรีนาลีนในตัวแจ็คสันก็ลดลง กลิ่นขยะเจ้าปัญหาเริ่มรบกวนจนแจ็คสันต้องโยนเสื้อนอกออกไปไกล ๆ เผยแผลฉกรรจ์ที่ต้นแขนออกมา
หากไม่เห็นคราบเลือดเกอระกรังติดอยู่ในเสื้อเชิร์ตอี้ป๋อก็ยังไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเองโดนกระสุนถากแขนเป็นแผล
‘ถึกเหมือนควายไบซันจริง ๆ’
ถ้าหากมาร์คอยู่ตรงนี้คงไม่พ้นที่กลีบปากบางต้องเอ่ยคำประชดประชัน ดวงตากลมใสมองค้อน ห่วงให้ตายยังไงก็คงไม่พูดออกมา ความคิดถึงก็เรียกรอยยิ้มบางให้ปรากฏอยู่บนวงหน้าคร้ามคม
ด้วยรู้และยอมศิโรราบอย่างเต็มใจ...ไม่เคยตกหลุมรักใครแบบนี้มาก่อน
รอยยิ้มไร้ที่มาเรียกความสงสัยขึ้นในใจอี้ป๋อ ถึงจะเรียกว่าญาติกันแต่การพบปะหน้ากันก็มีเพียงปีละครั้งที่สมาชิกตระกูลหวังทุกคนจะต้องมาไหว้เจ้าร่วมกันเพื่อซึมซับพลังจักรวาลตามความเชื่อที่เกาะฮ่องกง
เป็นเส้นขนานที่ไม่ลุกล้ำกันและกัน
...แจ็คสันไม่ยุ่งกับแผ่นดินใหญ่ อี้ป๋อก็ไม่สนใจสิ่งใดที่ฮ่องกง
“น่าจะมาถึงในอีก 10 นาที”
“ปลุกด้วยแล้วกัน”
“อืม”
แจ็คสันไม่แปลกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นในปากของอี้ป๋อ เปลือกตาของมาเฟียเกาะฮ่องกง หลับตาลงอย่างไว้วางใจ
อี้ป๋อขบฟันลงที่ฟันกรามด้านหลังได้ยินเสียงบางสิ่งแตกออก กระตุ้นให้นาโนชิปที่ฝังอยู่ทำงาน ไม่ถึงเสี้ยววินาทีตำแหน่งที่อยู่ของสองพี่น้องก็ถูกส่งออกไปอย่างทันที !
1 ชั่วโมงก่อนสัญญาณระบุพิกัดจะส่งออก
“โถ่เว้ย !!”
“ใจเย็นก่อนยูคยอม”
ภาพแจ็คสันร่วงลงไปนั้นถูกบันทึกด้วยดวงตาแดงก่ำ ในฐานะการเป็นบอดี้การ์ดคู่ใจ สิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ยูคยอมไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้จริง ๆ
หวังแจ็คสัน....คนที่เป็นทั้งเจ้านายและพี่ชาย
“แบมปล่อย !”
ไม่บ่อยนักที่คนอ่อนโยนมีรอยยิ้มติดปากคนนี้จะหลุดพูดถ้อยคำไม่สนนายบ่าวด้วยความโกรธจัด แบมแบมได้แต่ใช้สองแขนรั้งตัวให้ยูคยอมที่ตอนนี้คลั่งเป็นหมาบ้าไม่ให้พาตัวเองไปตายเสียมากกว่า
ซ่า !
ทว่าอยู่ดี ๆ กลับมาน้ำเย็นจัดสาดเข้ามาโดนยูคยอมเต็ม ๆ น้ำแข็งที่ลอยปะปนอยู่ภายในกระแทกลงมาทั้งเจ็บและชา แต่มันมากพอที่จะเรียกสติยูคคยอมกลับมามองที่สาเหตุของมัน รวมถึงเตือนให้นึกถึงแผลที่ถูกยิงที่ตอนนี้ยังไม่ได้รับการรักษา
“ไปอาบน้ำซะ”
“…”
“…เป็นหมาบ้ามันช่วยชีวิตใครไม่ได้”
ประกาสิทธิ์ของหงษ์ดำเฉียบขาด กลิ่นไอของความกดดันทำให้กลุ่มคนที่กระจัดกระจายถูกจัดระเบียบขึ้นอย่างรวดเร็ว มีทั้งส่วนที่กำลังเรียกกำลังเสริมและประสานงาน ปาร์คจินยองที่น่าจะรู้ข้อมูลฝ่ายศัตรูมากที่สุดกำลังจะเดินทางมา
ริมฝีปากอวบอิ่มโดนขบด้วยฟันขาว...
หากมันไม่ลังเลที่จะเอาชีวิตมาร์ค มาร์คก็จะไม่ลังเลที่จะยิงเหมือนกัน !
30 นาทีก่อนสัญญาณระบุพิกัดจะถูกส่งออก
ปาร์คจินยองเดินทางมาที่เซฟเฮาส์ในอีก 30 นาทีถัดมา
เมื่อเคลียร์สรุปสถานการณ์ในเบื้องต้นแล้ว จินยองก็ถูกแบมแบมตามไปดูน้องชายนอกไส้อีกคน
เจ้าคิมยูคยอม
“หมดสภาพเลยนะ”
เด็กหนุ่มในสภาพที่อาบน้ำทำแผลเรียบร้อยแล้วนั่งอยู่บนโซฟา ดวงตายังคงแดงก่ำด้วยความสั่นสะเทือนและวิตกกังวล
ยูคยอมไม่เคยทำงานพลาดขนาดนี้มาก่อน
“ได้พิกัดจากอี้ป๋อแล้ว”
“…อือ…รู้แล้ว”
“แล้วก็รู้ด้วยใช่มั้ยว่าแจ็คสันจะไม่โกรธ”
ตระกูลคิมของยูคยอมรับหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้ตระกูลหวังฮ่องกงมาเนิ่นนาน โดยเริ่มจากเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยข้ามชาติที่ตระกูลหวังเข้ามาสนับสนุนเงินทุน จนกลายเป็นสัญญาใจที่สืบต่อรุ่นต่อรุ่นเรื่อยมา
ยิ่งกว่าความภักดี...คือความผูกพันธ์ไม่ต่างสายเลือด
“เดี๋ยวแผนชิงตัวประกันจะเริ่มแล้ว...”
“…ผมจะไปด้วย”
จินยองส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของน้องชายอีกคน แขนข้างที่โดนยิงเป็นด้านที่ถนัด ถึงยิงได้ทั้งสองมือประสิทธิภาพของมันก็ลดลงแน่นอน
“ให้มากที่สุดคือตามไปสังเกตการ ความดื้อรั้นไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้น”
“แต่…”
“อย่าให้ต้องจับมัดเหมือนตอนเด็ก ๆ”
ยูคยอมรู้ดีว่าปาร์คจินยองคนนี้เอาจริง ถึงงานส่วนใหญ่จะเป็นหน้าที่ของเลขาแต่ในเวลาที่จำเป็นต่อให้มีเพียงปากกาก็ฆ่าคนได้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะจับยูคยอมมัดไว้กับเสาไม่ให้คนเจ็บออกไปเพ่นผ่านล่อกระสุนปืนเล่น
ทีมเฉพาะกิจครั้งนี้เป็นการรวมทีมของบอดี้การ์ดและทหารรับจ้าง แต่ละคนรูปร่างสูงใหญ่ มีบรรยากาศกดดันจนทำให้แบมแบมที่ไม่ค่อยได้เข้ามาผจญความเดือดของโลกเบื้องหลัง
บรรยากาศที่กระสุนปืนทุกนัดพร้อมจะดีดออกจากรังเพลิงสังหารใครก็ตามที่อยู่ตรงหน้า
แม้จะรู้ดีถึงคำทำนายของมังกรขาวว่าเปี่ยมไปด้วยอำนาจ บารมี ที่ไม่ว่าวัน เดือน ปีเกิด เวลาตกฟากล้วนส่งเสริมความเข้มแข็ง มีคนมากมายอาศัยร่มเงาใต้ปีกของมังกรขาว
แต่เหรียญนั้นมีสองด้านเสมอ...ความรุ่งโรจน์ของผู้อื่นที่มิใช่ตนนั้นยากนักที่จะร่วมยินดี
ฟันเฟืองของดวงชะตาให้มังกรขาวและหงส์ดำเวียนมาบรรจบ...ยามนั้นหากคิดจะผงาดล้ำเหนือตระกูลหวังก็มิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป
สถานการณ์ที่ผ่านมามาร์คพิสูจน์แล้วถึงความเฉียบขาด กล้าได้กล้าเสีย แต่นั่นไม่เพียงพอสำหรับการปกครองผู้คน การตัดสินใจของแจ็คสันแต่ละครั้งเป็นดั่งหินที่ถูกโยนลงไปในน้ำ...แรงกระแทกของมันก่อให้เกิดวงคลื่นมากมายเปลี่ยนทิศกระแสน้ำ ต้านทานกระแสลม สั่นฟ้า สะเทือนดิน
ต่างเติมเต็มในส่วนที่ขาด สร้างวงกลมอันทรงพลังค้ำจุนกันและกัน
มังกรขาวหงส์ดำตำนานว่า
เป็นคู่สร้างกันมาแต่หนหลัง
เงาพบแสงหยินพบหยางประสานพลัง
ดั่งสวรรค์ลิขิตไว้ให้คู่ครอง
หนึ่งแข็งกร้าวหนึ่งอ่อนรับสลับกัน
หนึ่งคงมั่นหนึ่งพลิ้วไหวไม่แยกสอง
รวมเป็นหนึ่งเมื่อใดในครรลอง
พิภพต้องสยบให้ในกำมือ
“มันไม่ได้พยายามฆ่าแจ็คสัน...มันต้องการอะไรกันแน่”
“เพื่อต่อรอง...”
“…”
“งานนี้เกี่ยวกับคนใหญ่คนโตของทั้งจีนและฮ่องกง คนที่น่าสงสัยที่สุดคือรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของจีนที่เกลียดฮ่องกงเข้าไส้ เสนอให้ใช้อาวุธกับผู้ชุมนุมตั้งแต่แรก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ดินและสัมประทานรังนกที่แจ็คสันได้ไปก่อนหน้า”
จุดเริ่มต้นของมันเกิดขึ้นเมื่อหกเดือนก่อน...
รถยนต์ที่หวังแจ็คสันนั่งเป็นประจำถูกวางระเบิดอุณหภูมิ ที่ตัวจุดฉนวนจะเริ่มทำงานเมื่อตัวรถวิ่งไปได้ระยะหนึ่งจนเครื่องร้อนก่อนจะระเบิดออกมา ตัวคนขับเสียชีวิตคาที่ส่วนแจ็คสันกระโจนออกมาจากรถทัน ยูคยอมที่ขับรถอีกคันตามหลังมาวิ่งเข้ามาดูอาการเจ้านายทันที
‘ฉันไม่เป็นไร’
แม้จะพูดออกมาเช่นนั้น...แจ็คสันรู้ตัวดีว่าได้ไปทำตัวขัดแข้ง ขัดขาใครสักคนเข้าแล้ว ตอนนี้สาเหตุของมันยังไม่เป็นที่ชัดเจนเท่าไหร่ จึงมอบหมายหน้าที่ให้จินยองตามสืบเรื่องนี้อย่างลับ ๆ
พร้อมกับเพิ่มความเข้มงวดในการคุ้มกันให้มากขึ้น โดยวางกลยุทธให้ขบวนรถคุ้มกันโดดเด่นสะดุดตาเหมือนและจิตวิทยาที่แสดงออกให้รู้ว่ามาเฟียหนุ่มรักตัวกลัวตาย พอดีกับที่ผลักดันข้อเสนอสัญญากับบริษัทต่างชาติสำเร็จ จึงบินไปสหรัฐอเมริกาแล้วหิ้วมาร์คกลับฮ่องกงมาเป็นของที่ระลึก
แต่แผนการณ์ของมันไม่จบแค่นั้น...
พักหลังการลอบกัดของมันหนักข้อขึ้นทุกวัน การเดินทางโดยใช้ขบวนรถที่โดดเด่นเรียกสายตาให้ผู้คนจดจ้องเริ่มไม่ได้ผล ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกมันเริ่มอยู่กันไม่สุข วิธีการถึงเริ่มหยาบกระด้างขึ้นทุกวัน
“แล้วเกี่ยวอะไรกับหวังอี้ป๋อ ?”
“มีเหตุผลที่เป็นไปได้หลายอย่าง หวังอี้ป๋อถูกวางตัวในฐานะทายาท ซึ่งเรื่องแค่นั้นก็มากพอที่จะทำให้ถูกลักพาตัวไปได้ง่าย ๆ”
“…”
“เด็กนั่นยังยอมหัก ไม่ยอมงอ อะไรที่บอกว่าไม่ บังคับขืนใจให้ตายก็ไม่มีวันกลายเป็นคำว่าใช่”
“ขวางหูขวางตาทั้งพี่และน้อง”
“ใช่”
“ถ้ามันจับไปเพื่อต่อรอง...ตอนนี้พวกมันคงยังไม่ทำอะไร”
“จะให้ทีมบุกเลยมั้ย”
“ส่งคนไปสังเกตการณ์ดูก่อน...แต่อีกเดี๋ยวน่าจะมีข้อต่อรองเรื่องตัวประกันออกมา”
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่... คำสั่งที่ออกมาจากริมฝีปากบางสวยนั่นเป็นดั่งคำประกาสิทธิไม่ต่างจากแจ็คสัน จินยองพยักหน้าให้ทีมการ์ดไปปฏิบัติตามทันที ส่วนตัวเองนั้นคิดถึงคำทำนายบทหนึ่งที่เคยได้ยินมาเมื่อนานแสนนาน
“มีพิกัดแจ้งเข้ามา...เกาะ Shichong ครับ!”
“จะฝ่าออกไปเลยมั้ย”
“อืม”
เสียงฝีเท้ามากมายดังมาจากด้านนอก แจ็คสันพักสายตาลงไปครู่เดียวก็ต้องลืมตาขึ้น สองพี่น้องลุกขึ้นปัดเนื้อปัดตัว แจ็คสันถลกแขนเสื้อเชิ้ตขึ้น อี้ป๋อรั้งชุดแข่งขึ้นมาให้กระชับ ต่างคนต่างเรียงลำดับแผนการเอาคืนไว้ในใจ
หวังอี้ป๋อใช้มือคว้าลูกกรงด้านบนก่อนจะยันตัวถีบบริเวณกุญแจแรง ๆ สองสามครั้ง ตัวไม่กุญแจไม่ได้หลุดในครั้งเดียว ทว่าสภาพก็บูดเบี้ยวเสียรูป พอได้เสียงกระแทกดังมาจากด้านใน พวกมันคนหนึ่งเลยเดินเข้ามาดู เห็นหวังอี้ป๋อที่กำลังพังกุญแจก็กำลังจะเดินเข้ามาจัดการ
ไม่รู้เลยว่าแจ็คสันที่อยู่ในมุมอับสายตาใช้เสื้อนอกกลิ่นขยะนั่นรัดรวบเข้าที่คอ กระตุกแรงจนไม่ถึงกับคำหักแต่ก็สลับเหมือดในทันที
“ไม่มีกุญแจ”
“งั้นต้องงัดเอง”
แจ็คสันมองหาของนอกห้องขัง เห็นไม้ถูพื้นวางอยู่ไม่ไกลนัก ใช้มือเอื้อมไปหยิบด้ามไม้ถูพื้นเข้ามาใกล้ ๆ จนเมื่อใกล้ถึงแม่กุญแจ ตัวด้ามไม้ก็ถูกสอดผ่านสลักเหล็กรูปตัว n ที่ลงสลักล็อคเอาไว้แน่น ทะลุลผ่านซี่กรง คราวนี้อี้ป๋อเปลี่ยนจากยันตัวถีบโดยตรงเป็นกระทือลงที่ปลายไม้แทน ให้น้ำหนักตัวและไม้ม็อครวมพลังกัน แยกกุญแจเหล็กสลักลายไว้ออกเป็นสองส่วน จนแม่กุญหลุดสะบั้น
“รวมหรือแยก ?”
“แยก”
ไม่มีใครทำตัวเป็นภาระใคร อี้ป๋อวิ่งไปทางซ้าย แจ็คสันวิ่งไปทางขวา ต่างคนต่างมีวิธีการรับมือเป็นของตัวเอง
“เฮ้ย จะหนีไปไหน !”
พอมันรู้ตัวประกันพังกรงออกมา สถานการณ์ยิ่งทวีความโกลาหล แจ็คก้มหัวหลบหมัดที่พุ่งเข้ามา ก่อนจะยกขาถีบเสยคางมันขึ้นไป จากนั้นโยกตัวหลบไปทางขวา คว้าหัวพวกมันอีกคนกระแทกกับกำแพง อีกมือฉวยเก้าอี้ข้างทางขึ้นฟาดซ้ำอีกครั้ง
เปลี่ยนจากเสียงฝีเท้ามากมายให้กลายเป็นเสียงกระดูกลั่นแทน
หลังจากฟาดพวกมันจนสลบคาทีไปเกือบสิบคน แผนผังทางเดินทั้งที่อยู่ตรงหน้าและที่เห็นผ่านตอนที่พาเข้ามาถูกแจ็คสันคิดวิเคราะห์ พอสบโอกาสจึงจับเหยื่อผู้โชคร้ายเขวี้ยงทะลุกระจกแทนการเลื่อนบานหน้าต่าง เห็นทั้งอ่าวกลางทะเลและเฮลิคอปเตอร์สองลำที่บินอย่างรักษาระดับอยู่ห่าง ๆ
ต้องขึ้นไปบนดาดฟ้า
พอคิดได้ดังนั้นทิศทางการหลบหนีของแจ็คสันก็ถูกจัดระเบียบใหม่ทันที ปัจจัยหลักคือเลี่ยงการปะทะและขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าให้เร็วที่สุด
“มันอยู่นั่น !”
...และมันไม่ง่ายอย่างที่คิด
ยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งมีคนตามมาสมทบมากขึ้นเรื่อย ๆ แจ็คสันใจเปลี่ยนเส้นทาง วิ่งหนีขึ้นบันไดหนีไฟที่มีพื้นที่ปิดทึบและแคบกว่าใช้ประโยชน์จากบันไดและราวบันไดพาตัวเองขึ้นไปให้ไวที่สุด
“ไปดักมันไว้ !”
พั๊วะ !
“เฮ้ย !”
ลูกเตะถูกส่งมาจากด้านบนโดนปัดทิ้งไปพาดอยู่กับราวบันได แจ็คสันเทคตัวเองขึ้นสูงรองเท้าหนังมันปราบเหยียบเข้าที่กระดูกขาจนได้ยินเสียงลั่น ก้าวสูงทะยานขึ้นไปโดยใช้หัวมันเป็นบันไดขั้นที่สองคว้าราวจับนำหน้าพวกมันไปอีกขั้น ใช้เวลาไม่กี่วินาทีที่ทำให้การจราจรบนนั้นเป็นอัมพาต
เหนื่อยเป็นบ้า...แต่ว่าแจ็คสันคิดถึงเจ้าตัวดีที่ร้องแย้ว ๆ อยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้ว
2 นาทีหลังได้รับสัญญาณ
“ทีมสอดแนมเข้าสู่พื้นที่แล้วครับ”
5 นาทีหลังได้รับสัญญาณ
“เจอตัวคุณอี้ป๋อกับคุณแจ็คสันแล้วครับ”
6 นาทีหลังได้รับสัญญาณ
“เฮลิคอปเตอร์ที่จะตามไปสมทบพร้อมแล้วครับ”
“ฉันไปด้วย !”
“คุณมาร์ค !”
ความมีระเบียบอันแสนเร่งรีบเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วินาทีแรกที่สัญญาส่งมาถึง มาร์คที่พึ่งได้โอกาสก็วิ่งตามออกไปพร้อมกับทีมสนับสนุน ว่องไวเสียจนแบมแบมและจินยองคคว้าตัวเอาไว้ไม่ทัน
“ออกตัวเลย”
แล้วพอไปอยู่ตรงนั้น...ใครจะกล้าขัดว่าที่นายหญิงของบอสตัวเองล่ะ?
นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งที่วิ่งตามมาได้ทันใช้ฝ่ามือที่ตบลงไปบนบ่าของคนบังคับเฮลิคอปเตอร์อย่างเข้าอก อกใจ
...ระห่ำกว่านี้เมียบอสเอ็งก็ทำมาแล้วโว้ย !
“อีกนานมั้ยกว่าจะถึง”
“เราต้องออกจากฮ่องกงเข้าไปกลางทะเลจีนใต้ มันอยู่ระหว่างฮ่องกงและมาเก๊าท์ ไม่น่าเกิน 10 นาทีครับ”
“แล้วสถานการณ์ตอนนี้ล่ะ”
“สัญญาณวิทยุตรงนี้มันขาด ๆ อาจจะต้องเข้าใกล้มากกว่านี้ถึงจะรู้เรื่องครับ”
หงษ์ดำรับคำด้วยการพยักหน้าแล้วไม่ถามอะไรต่อ ปล่อยให้คนอื่นกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง
“ไม่แน่ว่าพอเราไปถึง ทุกอย่างอาจจะเรียบร้อยแล้วก็ได้นะครับ”
“นั่นสิ...”
“…”
“…ต้องปลอดภัยอยู่แล้วแหละ”
“…”
“…บอสของพวกนาย...ถึกกว่าควาย ตายยากกว่าแมลงสาบ”
“เอ่อ…ครับ”
นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งได้แต่หัวเราะแห้ง ส่วนคนขับเฮลิคอปเตอร์สติหลุดไปจนคันบังคับถึงกับเบี้ยว
พริกที่ว่าเผ็ดยังกลายเป็นของหวานสำหรับเด็กไปเลยเมื่อคำพูดแสบคันนั่นหลุดออกมาจากปากมาร์ค
ถ้าไม่รักมากจริง ๆ ก็คงจะโดนฆ่าโบกปูนโยนทิ้งอ่าววิคตอเรียไปแล้ว !
“นั่นคุณแจ็คสัน !”
นายบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งที่เห็นคนโดนถีบทะลุออกมาจากหน้าต่างก็จำลูกถีบของเจ้านายตัวเองได้ทันที มองเทียบกับความสูงของตึก จากตรงนี้จะต้องขึ้นไปอีกสามชั้นเพื่อไปถึงดาดฟ้า
ไม่ต้องมีคำสั่ง ทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองทันที คันบังคับถูกยกขึ้นสูง พาเฮลิคอปเตอร์ก็ไต่ระดับขึ้นไปรอแจ็คสัน มาร์คตาโตเมื่อเห็นคนโดนถีบออกมาจากหน้าต่างเป็นระยะเหมือนการระบุตำแหน่งของคุณมาเฟีย เจ้าตัวแสบยิ้มร่ารับบันไดลิงจากบอดี้การ์ดหมายเลขหนึ่งโยนตามลงไปทันที
“ป๋าจ๋า หนูมาแล้ว”
เสียงร่าเริงจนแจ็คสันที่พึ่งถีบทั้งประตูและคนจนกระเด็นถึงกับหลุดยิ้ม ขณะเดียวกันก็รับกำปั้นที่ชกเข้ามาจับบิดและจับทุ่มคนร้ายจนลงไปนอนร้องโอดโอย จากนั้นก็คว้าบันไดลิงที่ส่งลงมาพร้อมกับเฮลิคอปเตอร์ที่เบี่ยงออกตัวออกจากตึก มุ่งหน้ากลับสู่ฮ่องกง
talk
ลงครบแล้วค่า
มาต่อครึ่งหลังนี้มันดูเหมือนจะสั้นไปหน่อย
เพราะตัดจนที่ซีนนี้
ไม่งั้นตอนนี้จะยาวมาก เลยตัดสินใจแยกตอนดีกว่า
ขึ้นตอนหน้าให้สาสม(?)กับความคิดถึงของคุณมาเฟีย
ใครยังอ่านอยู่เม้นบอกหนูหน่อยนะ
หรือจะมาทางแฮชแทคก็ได้จ้ะ
ฉลองไหดองแตกให้หนู
_________________________
นุมาต่อแล้วนะแม่ !
จริง ๆ ตอนนี้เขียนเสร็จไว้แล้ว 80%
เหลืออีก 20% ที่จะต้องกลบหลุมให้เรียบร้อย
ซึ่งอีตอนซ่อมเนี่ยมันยากกว่าสร้าง
ตอนนี้เลยมาต่อช้าหน่อย
ครึ่งหลังจะพยายามลงให้ไวขึ้น
(อีกแล้ว!)
ปล. กลอนในเรื่องเป็นผลงานของย่ามุก @mookrada1 นะจ๊ะ
แวะเอาน้ำแดงไปเซ่นไหว้ได้
-----------------------
หสยไปนานหน่อยอย่าโกรธกันเลยนะคะ
อีกครี่งจะพยายาม...มาต่อให้ไวขึ้น
อย่าทิ้งกันไปก่อนน้า
กราบขอคอมเม้นและ #unluckyjark
คยองอิน
ความคิดเห็น