ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    got7 。.·♡ ˋ HELLO MY EX ˊ #jark #yugbam #bnyoung

    ลำดับตอนที่ #4 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 3

    • อัปเดตล่าสุด 18 มี.ค. 59







    O W E N TM.




    HELLO MY EX
    CHAPTER 3









     

    “คิดว่าทนฟังคำตอบได้มั้ย ?” 



     

    ในแววตาของแจ็คสันมีแต่ความสับสน เกลียวคลื่นของความคลางแคลงใจหมุนวนจนบรรยากาศอึดอัดจนสัมผัสได้ 



     

    “คือลูกเราใช่มั้ย...” มาร์คมองคนปากเก่งทั้งที่ตั้งรับกับสถานการณ์ตรงหน้ายังไม่ถูก แจ็คสันแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองบีบพวงมาลัยรถแน่นแค่ไหน... 



     

    “แล้วคิดว่าใช่มั้ยล่ะ...” แจ็คสันพิจารณาเด็กน้อยตัวป้อมที่เค้าหน้าคุ้นเคยกับตัวเอง แว้บแรกก็คิดว่าใช่ แต่ก็ตัดทิ้งไปเพราะมาร์คท้องไม่ได้ ซึ่งในวินาทีนี้มันไม่ใช่อีกแล้ว...



     

    “ให้ตายเถอะ !! แค่พูดออกมามันจะยากอะไรนักหนาฮะมาร์ค !!” ฝ่ามือที่ครองพวงมาลัยเปลี่ยนมาตบลงที่หน้าตัวเองแรง ๆ จนมาร์เจย์สะดุ้งจนเผลอคายปากจากนมที่หม่ำอยู่ ตาแป๋วแหววมองสถานการณ์รอบข้างอย่างงงงวย คราบนมขาว ๆ เปื้อนแก้มยุ้ยจ้ำม่ำไปหมด 



     

    “แล้วอยากให้ใช่หรือไม่ใช่ล่ะ ?” ไม่ใช่แค่แจ็คสันที่อยู่ในอารมณ์สับสน...มาร์คก็เช่นกัน...สัญชาติญาณความเป็นแม่สั่งให้มือบางโอบกระชับลูกน้อยแน่น 



     

    มาร์เจย์มองผู้ใหญ่ทะเลาะกันด้วยสายตางุงนงง เด็กน้อยที่ไม่ชอบเสียงดังซุกตัวเข้าหามาร์คแล้วกอดแน่น แขนป้อม ๆ รัดร่างของมาร์คไว้ให้พ้นจากเงื้อมือคุณลุงขี้โมโห 



     

    “...ถามให้ได้อะไรเหรอมาร์ค...ถ้าเป็นลูกเราก็แค่บอกมาก็เท่านั้นเอง” 

     



    ไม่ใช่แค่แววตาเท่านั้น แต่น้ำเสียงนั่นมันพาให้กองหิมะทับถมลงในใจจนหนาวเหน็บแจ็คสันเพียงแค่ถามขึ้นมาประดุจมันเป็นเรื่องดินฟ้าอากาศ อาการโมโหในตอนแรกถูกกลืนหายไปในดวงตาคู่คม เหลือเพียงความอยากรู้ละคนสงสัยก็เท่านั้น...

     



    “ก็แค่ถามเท่านั้นเอง...จะใช่เราก็บอกไปนานแล้ว...ไม่รอให้เวลามันผ่านมานานขนาดนี้หรอก” มาร์คกล้ำกลืนทุกอย่างให้หายไปในลำคอเพื่อพูดคำโกหกออกมา แม้้ก้อนสะอื้นจะตีรวนสวนขึ้นมาราวกับมาร์คเป็นคนอ่อนแอเดิมไม่ต่างจากสามปีก่อนเลยก็ตาม... 



     

    “...แล้วใครคือพ่อเด็กล่ะ...” ม่านน้ำตาเอ่อคลอทำให้ภาพทุกอย่างมัวเบลอในสายตา ในสมองมาร์คตอนนี้รู้เพียงแค่ว่าตัวเองต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้เพื่อเจ้าลูกหมูตัวน้อยในอ้อมแขน มือบางกระชับมือป้อมแน่นจนได้รับเป็นแรงบีบเบา ๆ จากมือมาร์เจย์ที่ส่งผ่านราวกับจะมอบกำลังใจกลับมา



     

    “...พีเนียลน่ะ”

     



    ปึ๊ก !!!!!!!!! 

     



    “...ฮึก...ฮึก...แง้ !!!!!!!!!!!!!!! “ 

     



    เสียงกระแทกพวงมาลัยของแจ็คสันแทบจะดังขึ้นมาทันทีพร้อมกับเสียงเจ้าลูกหมู น้ำตาเม็ดโตไหลเลอะลงมาที่แก้มกลมยุ้ย ปากจิ้มลิ้มนุ่มนิ่มเหมือนชิ้นเยลลี่อ้าออกแล้วแผดเสียงดังเหมือนเปิดสวิชต์ ตะกอนความอึดอัดของผู้ใหญ่ที่ทะเลาะกันกลับส่งผลเข้ากับเด็กน้อยอย่างจังจนผู้ใหญ่สองคนต้องรีบตั้งสติ 



     

    “ชู่...มาร์เจย์ไม่ร้องนะ” มาร์คจับเจ้าลูกหมูขึ้นเขย่าเบา ๆ ทั้งที่น้ำตาเม็ดสวยกลิ้งกลอกลงจากเปลือกตาบาง เสียงนุ่มกล่อมโอ๋เจ้าลูกหมูอย่างเชื่องช้า ทั้งลูบหลัง ทั้งจับเจ้าลูกหมูเขย่าเบา ๆ ให้คลายตระหนก 



     

    ดวงตาคมกริบที่แฝงด้วยแรงสับสนมองภาพตรงหน้าอย่างปวดร้าว... ความเจ็บปวดที่สันฝ่ามือยังเต้นตุบ ๆ ชวนให้นิ่วหน้า...แต่มาร์คคงไม่รู้หรอกว่าในใจของแจ็คสันนั้นมันสับสนมากแค่ไหน...

     



    ในอกวูบโหวงเหมือนคนที่ลอยขึ้นและวูบโหวงลงอย่างรวดเร็ว ใจในตอนแรกใกล้ปักใจเชื่อว่ามาร์เจย์คือลูกชาย แต่ความโกรธมากมายกลับสาดปะทุเมื่อรู้ว่ามาร์คตั้งใจจะปิดบัง... แต่แล้วความคิดมากมายของแจ็คสันก็ฟุ้งกระจายคล้ายเป็นฝุ่นไร้ค่า...



     

    ถ้าเป็นลูกไอ้พีเนียล...แล้วจะถามเหมือนให้ความหวังกันทำไม... 

     







     

     

     

    มือเย็นของผู้ใหญ่สองคนเป็นไปด้วยความเงียบงัน โดยมีเจ้าลูกหมูหลับคอพับด้วยความเหนื่อยอ่อนอยู่ข้าง ๆ อาหารเรียบง่ายราคาปานกลางรสชาติสมราคาจึงมีแต่เสียงจากคนรอบข้างที่ดังผสมกับเสียงช้อนกระทบจานเท่านั้น 



     

    “...พอเลิกกันแล้วก็คบกับมันทันทีเลยเหรอ...” เนื้อผัดซอสในปากรสชาติฝืดเฝื่อนทันทีที่คำถามเริ่มต้นขึ้น มาร์คประวิงเวลาเพื่อหาคำตอบโดยการหยิบแก้วน้ำขึ้นมาอย่างเชื่องช้าขณะที่ในสมองคิดหาคำตอบ 



     

    “...พีเนียลก็ดีนะ...” สุดท้ายก็ตอบได้แค่เท่านั้นจริง ๆ มาร์คเลือกที่จะตัดอาหารทานต่อทั้ง ๆ ที่แจ็คสันวางส้อมและช้อนลง ตาคมเงยหน้ามองมาร์คอย่างไม่เชื่อสายตา... 



     

    ไม่มีประโยคใดดังลอดออกมาจากฝีปากคม จากเรื่องในอดีตแล้ว แจ็คสันไม่มีสิทธิแม้เพียงสักนิดที่จะถือโทษโกรธมาร์ค เพราะคนที่ผิดสัญญาก่อนจนเรื่องมันพังคาราคาซังกันแบบนี้ก็คือแจ็คสัน 

     



    “...แล้วมันไปไหน...ทำไมปล่อยให้เลี้ยงลูกคนเดียว” 

     



    “อยู่อเมริกา...ไปทำงานน่ะ...” 

     



    โกหกสิ้นดี... มาร์คตอบเหมือนท่องบท ในอกกลวง ๆ เอาแต่เฝ้าหาเหตุผลว่าแจ็คสันจะถามให้มันได้อะไรขึ้นมา...

     



    “มันอยู่ในห้องนั้นด้วยใช่มั้ย...” น้ำเสียงเจ็บปวดและความปวดร้าวในสายตาสาดกระทบจนมือบางสั่นระริก...แววตาเจ็บปวดชวนให้ใจนั่นขมขื่นนั่นมันทำให้อยากจะกรีดหัวใจของแจ็คสันออกมาดูมันเป็นอย่างไรแน่... 



     

    ถามแค่ยังรักยังห่วงหรือถามเพียงเพราะแค่อยากจะรู้กันแน่...

     



    “อยู่สิ...” 

     



    “...อื้ม...”

     



    “...ก็ดีแล้ว...” 

     



    อาหารเย็นมื้อนั้นจบลงอย่างฝืดเฝื่อน แจ็คสันไม่ได้ลงมือทานอาหารหรือถามอะไรมาร์คต่อ ชายหนุ่มเพียงแค่นั่งมองมาร์คกินข้าวและเสมองภาพเจ้าลูกหมูยามหลับบ้างเป็นบางหน 



     

    ตลอดทางในรถที่แค่เสียงวิทยุเบา ๆ ที่ดังคลอไม่ให้บรรยากาศอึดอัดก็เท่านั้น จนรถยนต์คันหรูแล่นไปจอดเลียบเข้าช่องซองหยุดสนิท มาร์คถึงได้เริ่มปลุกเจ้าหมูตัวกลมที่นอนซบอกจนมาร์คแขนชาขึ้นมา 

     



    “มะ...อุ้ง...ฮ้าววววว ~” เจ้าลูกหมูตาปรือ ปลายจมูกแดงก่ำ ตากลมกระพริบปริบ ๆ ปากนุ่มนิ่มหาววอดโชว์เหงือกแดงที่มีฟันเล็ก ๆ เปลือกตาช้ำปรอยร่วงปรอยหล่นจนแทบลืมไม่ขึ้น แก้มนิ่มเบียดเข้ากับอกมาร์คก่อนจะผลอยหลับไปอีกหน 



     

    มาร์คส่ายหัวอย่างอ่อนอกอ่อนใจ ที่ตั้งใจว่าจะช่วยแจ็คสันถือของก็เป็นอันต้องเป็นหมัดเพราะต้องกระเตงเจ้าลูกหมูที่ซุกอยู่บนอกเข้าไปนอน 



     

    “เอาของวางไว้นั่นแหละ...เราดูลูกเสร็จแล้วเดี๋ยวจะกลับออกมาจัดการเอง ห้องน้ำก็ใช้ห้องข้างนอกไปแล้วกันนะ” มาร์คจับเจ้าลูกหมูเช็ดตัวทำความสะอาด เปลี่ยนผ้าอ้อมใหม่ทั้งที่เจ้าตัวเล็กยังหลับ พอออกมาอีกครั้งก็เห็นเพื่อนรวมบ้านคนใหม่นอนแผ่อยู่บนโซฟาแล้วเรียบร้อย



     

    “...อื้ม...” คนบนโซฟารับคำเพียงเล็กน้อยทั้งที่ตาปรือจะหลับ... มาร์คสะบัดหน้าเหมือนเห็นพฤติกรรมที่ดูท่าทางจะก็อปปี้กันมาอย่างเห็นได้ชัด...



     

    กับคนลูกมาร์คยังจับเช็ดตัวให้ได้เพราะยังเด็กนัก..แต่กับคนพ่อ...



     

    “แจ็คสันไปอาบน้ำ...”

     



    “ฟี้....”

     



    ปล่อยเลยตามเลยแล้วกัน...

     

     



     

    -50%-




     

     

     

    ทำได้ที่ไหนกันล่ะ... 



     

    มาร์คโมโหตัวเองจริง ๆ หลังจากที่เข้าไปอาบน้ำในห้องนอน แอบจุ้บหน้าผากเจ้าลูกหมูเบา ๆ หนึ่งทีแล้ว รู้ตัวอีกทีก็ถือรีโมทแอร์และกาละมังออกมาอยู่ที่ห้องนั่งเล่นนี่แล้ว... 



     

    ผ้าชุบน้ำสะอาดแตะเบา ๆ ที่แก้ม ความเย็นสดชื่นทำให้คนที่ผลอยหลับปรือตาขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะหลับลงไปต่ออย่างรวดเร็ว... 



     

    เนื้อผ้าเย็นถูซับไปตามใบหน้าจนสะอาดเอี่ยม ตามคอตามข้อพับพอให้หลับสบาย 



     

    มันก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยมหาลัยแล้ว...บางวันที่แจ็คสันเหนื่อยก็กลับมาสลบที่ห้องอย่างนี้อยู่เป็นประจำ สิวผื่นเลยพาขึ้นตามคอตามแก้มจนมาร์คอดรนทนไม่ไหวต้องจับมาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนนอนให้อยู่บ่อยครั้ง 



     

    คล้ายกับเรื่องราวพึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...ภาพทุกภาพมันยังชัดเจนอยู่ในความคิด...



     

    รวมถึงแววตาหมอง ๆ ที่ลานจอดรถนั่น...



     

    “จะทำหน้าเศร้าทำไมกัน...คนที่ร้องไห้มันต้องเป็นเรานะแจ็คสัน...” 





     

     

     

     

     

    “จะไปทำงานแล้วเหรอ...” 

     



    “อืม...” 



     

    มาร์คกำลังทำอาหารเพื่อเป็นมื้อเช้าให้กับตัวเองและเจ้าลูกหมูที่ตอนนี้ยังคงนอนยิ้มหวานน้ำลายย้อยอยู่บนเปลเด็ก เอ่ทักใครอีกคนที่เดินเข้าห้องมาพร้อมกับกลิ่นกายหอมฟุ้งในชุดเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขายาว...ที่มองดูก็รู้ว่ากำลังจะออกไปทำงาน...



     

    ไม่มีบทสนาที่ต่อยอดออกไปมากกว่านั้น...ตะกอนขุ่นยังคงปกคลุมม่านน้ำภายในใจ



     

    “แล้วมาร์คไม่ออกไปทำงานเหรอ...” แจ็คสันอดถามไม่ได้ ก่อนเลิกกันมาร์คได้งานทำในสำนักพิมพ์ที่อยากทำมาตั้งนาน...นึกว่าจะยังทำอยู่เสียอีก 



     

    “เราลาออกนานแล้ว...” คุณแม่มาร์เจย์ตอบเสียงนิ่ง สุดท้ายมันแทบจะกลายเป็นเสียงเงียบสนิทที่คลอเบา ๆ ไปกับเสียงน้ำมันในกะทะเท่านั้น 



     

    “…ทำไมถึงลาออกล่ะ” มันเป็นสำนักพิมพ์ที่มาร์คใฝ่ฝัน สมัยเรียนมาร์คตามเก็บมันแทบจะทุกฉบับ 



     

    “เรา...ออกมาเลี้ยงลูกน่ะ...” 



     

    “…อืม...” แม้จะสงสัยว่าพีเนียลไปไหน หรือช่วยอะไรมาร์คบ้างแต่เหมือนก้อนสิ่งที่เรียกว่าทิฐิมันจะพองแน่นอยู่เต็มลำคอ 



     

    “เอาคีย์การ์ดไปด้วยสิ” มาร์คหรี่ไฟลงแล้วเอาฝาครอบหมูผัดซอสในกะทะ ...ก่อนจะวางคีย์การ์ดห้อยพวงกุญแกตัว W บนมือของแจ็คสัน... 



     

    หัวใจเหมือนเต้นผิดจังหวะ มันสะดุดพอ ๆ กับที่ในท้องวูบโหวง...แจ็คสันไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเผลอแสดงสีหน้าแบบไหนออกไป แต่มันทั้งกึ่งแย่แต่ก็รู้สึกดีใจ...



     

    ที่มาร์คยังให้มันได้อยู่ที่เดิม...

     



    “อื้ม...” 



     

    แจ็คสันดีใจ...แม้มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดูโง่จนไร้สาระมากก็ตาม



     

    ไม่มีใครพูดอะไรหลังจากนั้น...มาร์คทำกับข้าวเหมือนทุกเช้า...แจ็คสันหยิบขนมปังออกมาทาแยมเพื่อเตรียมตัวออกไปทำงาน... 



     

    ก็เป็นอีกหนึ่งวัน...แค่นั้นเอง... 










     

     

     

    “ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ” มาร์คก้มลงเขี่ยแก้มเจ้าตัวเล็กที่นอนหาววอดจนตายิ้มอยู่บนเปล ปากเล็กนั่นเคี้ยวน้ำลายแจ็บ ๆ ก่อนจะเปล่งเสียงอู้อี้ 

     



    “อุ้งงงงง ~” 

     



    มาร์คหลุดหัวเราะเมื่อเช้าตัวเล็กอ้อนแต่เช้า มาร์เจย์อยู่ในเริ่มพูดเหมือนเด็กขวบต้นทั่ว ๆ ไป พูดได้เป็นพยางค์สั้น ๆ ค่อย ๆ เรียนรู้คำศัพท์ไปเรื่อย ๆ ได้พวกคำพื้นฐานที่มาร์คพูดด้วยบ่อย ๆ  



     

    แขนป้อมในชุดนอนนุ่มนิ่มยื่นออกมาหามาร์คประกอบคำพูดออดอ้อน จนมาร์คอดไม่ได้ที่จะจับแก้มกลมนุ่มนิ่มมาฟัดรับอรุณให้หายหมั่นเขี้ยว 



     

    “ผ้าอ้อมหนักอึ๋งเลย อาบน้ำกันก่อนดีกว่าเน้อะ” ขาเรียวเดินพาเจ้าลูกหมูเข้าห้องน้ำ พร้อมกับเสียงเล็กที่รับคำแข็งขัน มาร์เจย์ชอบเล่นน้ำ เลยไม่ค่อยงอแงเวลาพามาอาบน้ำเท่าไหร่...

     



    จริง ๆ มาร์เจย์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมาเลยหลังจากอายุผ่านสามเดือนแรกมา...สามเดือนที่ยากลำบากที่สุดในการเป็นแม่คนของมาร์ค...สามเดือนที่แม้จะนอนหลับตาก็ยังทำไม่ได้สนิท...  



     

    แต่แล้วเสียงอ้อแอ้ของเจ้าตัวกลมในอ้อมกอดก็ดึงสติกลับมาสู่ปัจจุบัน คุณแม่ตัวเล็กจับเจ้าลูกหมูตัวกลมขาวจั๊วะเหมือนก้อนโมจิหย่อนลงไปในอ่างอาบน้ำแล้วก็ลงมือฟอกสบู่เจ้าหมูน้ำให้ทั่วทุกซอกทุกมุม มาร์คไล้สบู่ไปตามผิวนิ่มให้เนื้อนุ่มหอมฉุย มองอุ้งนิ้วนุ่มนิ่มแตะฟองกลม ๆ เป่าเล่นก่อนจะหัวเราะคิกคัก สลัดภาพเจ้าลูกหมูที่งอแงจนแก้มแดงก่ำกลายเป็นเด็กน้อยร่าเริงที่ยิ้มหวานโชว์เหงือกนุ่มนิ่ม



     

    “ดัคกี้ ~” ล้างฟองทั่วตัวยังไม่ทันเสร็จดีเท่าไหร่ มือกลมตีน้ำป๋อมแป๋มร้องหาดัคกี้ ตุ๊กตาเป็ดสีเหลืองที่พอบีบแรง ๆ แล้วก็จะมีเสียงปี๊ป ๆ ของเล่นโปรดของมาร์เจย์ช่วงนี้ 

     



    “มีความสุขจังเลยน้าเจ้าหมูน้ำ” ปลายนิ้วเขี่ยแก้มกลม...พินิจมองโครงหน้าที่เหมือนกับสายเลือดอีกครึ่งหนึ่งเข้าทุกวัน... 

     



    ยิ่งยิ้มก็ยิ่งเหมือนกัน...

     



    จะรู้ตัวเมื่อไหร่กันนะ... 

     

     

     






     

     

     

    จากนั้นไม่นานมาร์คก็พามาร์เจย์กินข้าว เล่นหนังสือภาพก่อนจะพานอนกลางวันไป...เก็บทำความสะอาดบ้านอีกนิดหน่อยก่อนจะได้เดิมลงมือทำงานของตัวเองบ้าง 



     

    งานทำหนังสือเป็นอีกงานหนึ่งที่มาร์ครัก ถึงแม้จะไม่ได้เป็นบรรณาธิการอย่างที่ใฝ่ฝันเพราะต้องออกจากงานนั่งโต๊ะมาเลี้ยงลูกหมูมาร์คก็ยังจะเลือกเดินทางสายนั้น... 



     

    ปัจจุบันนอกจากงานแปลหนังสือชั่วครั้งชั่วคราวแล้วก็มีงานเขียนหนังสือลงคอลัมน์เล็กให้กับสำนักพิมพ์ มันเป็นเรื่องยากไม่น้อยที่จะต้องละทิ้งความฝันของตัวเองเพื่อออกมาเลี้ยงดูใครอีกคน ใครอีกคนที่ทำให้มาร์คกินอะไรไม่ได้เลยในช่วงสามเดือนแรก ทำให้มาร์คต้องเดินอุ้ยอ้าย หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายตลอดระยะเวลาหลังจากนั้น



     

    ทำให้ผู้ชายคนหนึ่งที่พึ่งจะพ้นวัยรุ่นได้ไม่นานให้กลายมาเป็นแม่...

     



    RRRRRRRRRR 



     

    “สวัสดีครับ มาร์คครับ” 



     

    (สวัสดีค่ะ คุณมาร์คคะนี่จอยจากสำนักพิมพ์ A นะคะ วันนี่ช่วงเย็นว่างมั้ยคะอยากให้เข้ามาฟังสัมภาษณ์มิสเตอร์คิมหน่อยค่ะ)



     

    “อ่อ เรื่องที่จะให้เขียนสำหรับลงหนังสือเดือนหน้าใช่มั้ยครับ” 



     

    (ใช่ค่ะ พอดีมิสเตอร์คิมมีคิวว่างพอดี)



     

    “อ่า...” ตากลมมองเจ้าลูกหมูที่ยังหลับกลางวันไม่รู้ร้อนรู้หนาว จะเอาไปฝากคุณยายคุณยายก็ยังไม่กลับมาจากต่างจังหวัด...จะหอบไปด้วยก็กลัวว่าจะลำบากผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ 

     



    แต่การสัมภาษณ์มิสเตอร์คิมก็สำคัญ.... 



     

    “อีกสิบนาทีผมโทรไปให้คำตอบนะครับ” 



     

    …ไม่อยากจะต้องติดหนีบุญคุณอะไรกันอีกเลย... 



     

    มือเรียวกดเข้าแอพพลิเคชั่นสีเขียว...เลื่อนหาใครบางคนที่เคยบล็อกไว้... 




     

    ….CALLING JACKSON 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    +++++++

     

     

     

     Talk2;
    พาร์ทหลังไม่ค่อยมีอะไรเลยค่ะ ฮือ
    ช่วงนี้เราต้องทำโปรเจคมาต่อช้าหน่อย 
    อย่าพึ่งหนีกันไปก่อนน้า 

    เจอกันพาร์ทหน้าค่ะ 

     

     

    Talk;

    เอาเจ้าลูกหมูมาส่งแล้วค่ะป้า ๆ 
    อย่าใส่อารมณ์กับพ่อมันมากนะคะ เดี๋ยวคีย์บอร์ดสึก 
    ครึ่งหลังเจอกันเมื่อหายตันแล้ว 

    เอ็นดูลูกหมูผ่าน คอมเม้น หรือ #่jarkEX นะคะ 


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×