ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    got7 。.·♡ ˋ HELLO MY EX ˊ #jark #yugbam #bnyoung

    ลำดับตอนที่ #12 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 11

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 61






     
     
     
     
    HELLO MY EX
    CHAPTER 11




     


     

     

     

     

     

     

    “วันศุกร์หน้าจะไปทะเล ?”

     

    “อืม ฝากดูบ้านด้วยนะ”

     

    เพราะจินยองโทรมาชวนเมื่อวันก่อน... ให้มาร์คไปเที่ยวกับตัวเองและพี่แจบอมเพื่อตั้งหลัก มาร์คก็เลยตัดสินใจหอบเจ้าลูกหมูน้ำจืดไปเปลี่ยนบรรยากาศ 

     

    “ได้... ไม่มีปัญหา” 

     

    และมันทำให้เรื่องที่แจ็คสันจะมาบอกถูกกลืนลงไปในลำคอ... 

     

    กระป๋องเบียร์เย็นจัดถูกเปิดขึ้นมากระดกโดยมีข่าวช่วงเย็นคลอไปกับเสียงหวานนุ่มที่เล่นก๊องแก๋งอยู่กับเจ้าหมูจิ๋ว 

     

    แจ็คสันกระดากอายที่จะนั่งบนโซฟา ทั้งที่เจ้าของบ้านตัวจริงอย่างมาร์คนั่งอยู่ที่พื้น... 

     

    “ขึ้นไปนั่งข้างบนก็ได้นะ” 

     

    หางตามาร์คเห็นว่าแจ็คสันอยู่กับพื้นพิงโซฟา จิบเบียร์เย็นดูมาร์เจย์ที่เอื้อมมือมาตะปบบล็อกไม้หลายสี 

     

    มองมือเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ เรียงบล็อกไม้ลงในกล่อง... 

     

    มือที่ดมลงไปคงมีกลิ่นแป้งหอมฉุยผสมกับคราบน้ำลาย.. 

     

    “ร้องไห้ทำไม ?” 

     

    แจ็คสันปาดน้ำตา... 

     

    พึ่งรู้ว่าตัวเองกำลังร้องไห้ก็ตอนที่มาร์คทักนั่นแหละ...

     

    “ข่าวมันเศร้า” 

     

    จะว่าข่าวมันเศร้ามั้ย...มันก็เศร้าจริง ๆ นั่นแหละ... 

     

    ในข่าวกำลังนำเสนอเรื่องของคุณแม่พิการที่ต้องเลี้ยงลูกที่เป็นออทิสติกเพียงลำพัง...ภาพการดำเนินชีวิตไปอยากยากลำบากของคุณแม่ซึ่งปราศจากขาทั้งสองข้างแต่ก็ไม่ย่อท้อให้การทำมาหากินเลี้ยงดูลูกน้อยชวนให้ซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่าแม่...แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คนที่กำลังดื่มเบียร์มองมาร์เจย์เล่นของเล่นอย่างแจ็คสันจะร้องไห้...

     

    แจ็คสันสูดลมหายใจเข้าปอดลึกก่อนจะพยายามถามเสียงไม่ให้สั่น... 

     

    ข้อแก้ตัวงี่เง่าแบบนี้มาร์คเชื่อก็ท่าจะบ้าแล้ว... 

     

    “ฮะฮ่ะ...ไม่ต้องทำหน้าเหมือนไม่เชื่อแบบนั้น...”

     

    “…ก็เปล่า”

     

    “เราเห็นมาร์เจย์แล้วคิดถึงยัยหนูน่ะ....”

     

    แจ็คสันก็เลือกตอบคำถามได้แย่เหลือเกิน... พูดถึงเด็กที่เป็นลูกอีกคนต่อหน้ามาร์ค... 

     

    แต่มันก็ดูจะเป็นเหตุผลที่เป็นไปได้ที่สุดแล้วไม่ใช่หรอ... 

     

    แจ็คสันสามารถบอกมาร์คได้เหรอ...ว่าทั้งที่เห็นลูกอยู่ตรงหน้า...อยากจะสอนให้ลูกรู้จักพ่อ...หรืออยากจะทำหน้าที่พ่อ...แจ็คสันยังไม่กล้าเลยด้วยซ้ำ...

     

    “อื้ม...”

     

    มาร์คตอบเสียงเรียบ แจ็คสันไม่ได้หันไปสบตาตรง ๆ เพราะว่าใจตัวเองก็ยังขี้ขลาดเกินกว่าที่จะยอมรับความจริง... 

     

    ซึ่งก็ดีกับมาร์ค... เพราะความปวดร้าวมันตีตราแผ่ซ่านไปทั่วอก... 

     

    เด็กหญิงคนนั้นไม่ได้ผิดเลยสักนิด...แต่เมื่อมาร์คคิดถึงเธอทีไร...มันก็ไม่ต่างกับอนุสรณ์ที่เฉลิมฉลองให้กับความรักที่พังทลายของมาร์ค...

     

    “ตอนนี้คงอายุใกล้เคียงกับมาร์เจย์ใช่มั้ยล่ะ...”

     

    “ใช่...กำลังอยู่ในวัยช่างพูดเลยล่ะ”

     

    บรรยากาศหม่นเศร้าขึ้นทันตา แม้รายงานข่าวจะถูกตัดจบกลายไปเป็นละครช่วงค่ำแล้วก็ตาม...

     

    ต่างคนต่างรู้ดีว่ามันก็เป็นแค่การถามตอบไปตามมารยาท... ที่ไม่รู้ว่าจะกรีดหัวใจของใครยับเยินไปเสียก่อน...

     

    “อ๊ะ..ได้เวลานอนแล้วเจ้าหมูจิ๋ว เลิกเล่นเร็วคับ”

     

    แล้วมันก็เป็นมาร์คที่ยอมแพ้... 

     

    คุณแม่ลูกหนึ่งตัดสินใจกระเตงเจ้าหมูน้อยที่ยังกำบล็อกแน่นไม่ยอมปล่อยไปอาบน้ำ ก่อนที่กำแพงที่สร้างมันจะเละเทะทั้งที่ยังก่อร่างไม่ถึงไหน... 

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ดื้อจังเลยครับวันนี้” 

     

    วันนี้เป็นวันหยุดของแจ็คสัน...ซึ่งถูกเสียงล้งเล้งยามเช้าของคุณแม่และลูกน้อยตัวกลมปลุกจนตื่น... 

     

    “ขอโทษนะที่เสียงดัง” 

     

    มาร์คละสายตาจากมาร์เจย์ที่ดิ้นแล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ้ากเป็นเจ้าหมูคึกคักอยู่ในชุดสีสันสดใส... 

     

    “อ่า...ไม่เป็นไร...เดี๋ยวแจบอมกับจินยองมารับใช่มั้ย”

     

    “ใช่...จะนอนต่อก็ได้นะ”

     

    “ไม่เป็นไร ตื่นแล้วล่ะ” 

     

    แจ็คสันตัดสินใจลุกสะบัดผ้าห่มแล้วนั่งมองมาร์คที่หัวปั่นอยู่บนโซฟา มาร์เจย์อยู่ที่ในช่วงที่พึ่งเริ่มจะเดินคล่อง เจ้าตัวน้อยเลยตื่นเต้นกับเดินเตาะแตะจับบอลกลม ๆ ร้อนถึงคนเป็นแม่ที่ต้องทั้งเตรียมขวดนมให้ลูก ป้อนข้าว แล้วยังต้องจัดการตัวเอง... 

     

    “มานี่...เราช่วย” 

     

    กระเป๋าเด็กอ่อนถูกฉวยมาจากมือบาง...สายตาคมกริบส่งสัญญาณให้มาร์คไปจัดการป้อนข้าวเจ้าลูกหมูที่ยังเล่นบอลไม่ยอมหยุดแทน...

     

    “รบกวนหน่อยนะ...พอเป็นวันพิเศษแบบนี้มาร์เจย์พลังงานจะเยอะเป็นพิเศษน่ะ” 

     

    มาร์คไม่ได้ปฏิเสธอะไร เพราะเวลามันก็จวนตัวจนใกล้เข้ามาทุกที ของทั้งหมดมาร์คเอามากองรวมกันไว้แล้ว เหลือแค่จัดใส่กระเป๋าให้เป็นระเบียบเท่านั้น... 

     

    “อื้ม...ดูแลลูกคนเดียวลำบากแย่เลยอะดิ”

     

    “อ่า...ใช่...แต่ก็ไม่ได้ลำบากขนาดนั้นหรอก...พีเนียลบินกลับมาช่วยเลี้ยงที่นี่ทุก ๆ สองเดือนน่ะ” 

     

    แจ็คสันกัดลิ้น...รู้สึกเจ็บ ๆ เสียด ๆ ในหัวใจซะจนอยากจะไปให้หมอตรวจ...

     

    “เหรอ...หลังจากนี้...มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะ” 

     

    “ไม่รบกวนแจ็คสันหรอก...ลูกเรา...เราเลี้ยงได้ 

     

    หรือคิดอีกที...ปล่อยให้ตัวเองตาย ๆ ไปทั้งแบบนี้เลยดีกว่าวะ... 

     




     

     

     

    “โอ้โห...ไอเฮียมึง...โคตรขี้แพ้”

     

    “ไอเฮียหรือไอเหี้ยมึงออกเสียงดี ๆ เลยยูคยอม” 

     

    แจ็คสันพลาดจริง ๆ ที่เล่าเรื่องที่ตัวเองเผลอร้องไห้ตอนมองมาร์เจย์ให้คิมยูคยอมฟัง... 

     

    “เฮียสิเฮีย อย่ามองกูในแง่ร้าย” 

     

    ยูคยอมยิ้มกว้าง... นาทีนี้ไม่มีใครน่าสงสารไปกว่าไอ้เฮียเตี้ยหัวล้านขี้ใจน้อยของยูคยอมอีกแล้ว...

     

    ก็เพราะว่าคิมยูคยอมกับแบมแบมตอนนี้ดีกันแล้วน่ะสิ

     

    “…กูว่าถ้ามาร์คกลับจากทะเลกูจะย้ายออกแล้วว่ะ”

     

    แจ็คสันควรจะถอยหลังกลับแล้วปะวะ... จะดึงดันอยู่ไปทำไม เหมือนมันรังแต่จะทำให้มาร์คเสียใจ...

     

    ส่วนเรื่องลูก...แจ็คสันจะยอมกลั้นใจ...แล้วคอยดูแลเด็กชายอยู่ห่าง ๆ 

     

    “อ้าว ทำไมมึงขี้แพ้จังวะเฮีย...” 

     

    “ก็มาร์คเค้าไม่อยากให้กูเป็นพ่อเด็กอะ...”

     

    “แล้วศักดิ์ศรีความเป็นผัว ความเป็นพ่อของมึงล่ะ ?” 

     

    “…กูยังมีสิทธิ์นั้นอีกหรอวะ... กูพังทั้งหมดนั่นเองกับมือ มึงก็รู้”

     

    แจ็คสันเครียดจนหน้าผากย่น หางตาตก ๆ แดงก่ำ ดูก็รู้ว่าแม่งกำลังจะร้องไห้อยู่รอมร่อ... 

     

    …หรือนี่จะเป็นฟิคที่มีพระเอกเป็นฟายเผือกที่ร้องไห้เก่งที่สุดวะ... 

     

    “ก็มึงมันเป็นซะอย่างนี้ไงเฮีย...” 

     

    “…”

     

    “จะหาว่ากูสอนก็ได้นะ...แต่คนเราแม่งก็ต้องมีอะไรที่ทำผิดพลาดกันบ้างแหละ... รู้ว่าในอดีตมึงอะทำผิด...แต่นี่...คือ...กูไม่รู้ว่ะ...”

     

    “…”

     

    “ขนาดลูกกูยังเป็นแค่วุ้น ยังเป็นแค่ก้อนเลือดอยู่ในท้องกูยังรักเค้าเลย...”

     

    “…”

     

    “แล้วนั่นอะ...ลูกมึงนะเฮีย...มีแขนมีขา แดกเก่ง วิ่งได้...”

     

    “…”

     

    “…มึงพลาดขวบแรก ขวบแรกที่มีแค่ครั้งเดียวในการเลี้ยงดูเค้าไปแล้ว...”

     

    “…”

     

    “แล้วมึงจะพลาดขวบที่สอง ที่สาม...มึงจะพลาดไปจนตายเลยอ่อวะ...” 

     

    “…ฮึก…”

     

    “อ้าว...ไอ้เหี้ย...นี่กูพูดให้มึงคิด ไม่ใช่ให้มึงร้องไห้”

     

    “ยูคยอม แกล้งอะไรพี่แจ็คสัน !!”

     

    แล้วนั่นอะไร...เมียท้องวัยฮอร์โมน... ชีวิตกูนี่มัน.... 










    “โอ้โห พี่แจ็คสัน ถ้าแบมเป็นพี่มาร์คพี่โดนแทงตายห่าไปตั้งแต่สองปีที่แล้วแล้ว !”


    “ที่รักครับ ไม่พูดคำหยาบสิเดี๋ยวลูกได้ยิน”


    แล้วไหงมันกลายเป็นแบมแบมที่มานั่งด่าแจ็คสันต่อจากยูคยอมละวะ 


    แจ็คสันมองผัวเมียวัยรุ่นที่นั่งประคับประคองกันอยู่บนโซฟาฝั่งตรงกันข้ามด้วยแววตาหมาจ๋อย ถามว่าพึ่งมาตระหนักเอาว่าตัวเองโง่เง่าขนาดนี้เอาตอนอายุเกือบสามสิบหรือก็ไม่ใช่...


    แต่เพราะรู้ดี ว่าตัวเองมันโง่เง่าขนาดนี้ต่างหากเลยไม่กล้าจะทำอะไรสักอย่าง 


    “ก็หมีดูพี่หมีดิ ตอนนั้นถ้าแบมอยู่ด้วยนะ อีนั่นโดนตบหน้าแหกแน่” 


    “แบม..” 


    อินเนอร์คนท้องพุ่งปรี๊ดเหมือนกาน้ำร้อนตอนเดือน จนยูคยอมต้องส่งเสียงปราม รุ่นน้องของแจ็คสันไม่ค่อยชอบให้แบมแบมพูดคำหยาบ ยิ่งกำลังท้องกำลังไส้ อะไรมันก็ส่งผลถึงเด็ก 


    “ครับ ๆ ลูกครับ...คุณแม่ขอโทษที่พูดคำหยาบนะครับ” 


    ถึงเด็กจะแค่สองเดือนแต่พ่อแม่มือใหม่ก็เริ่มจะเห่อแล้ว มือบางของแบมแบมลูบหน้าท้องเรียบแปล้ก่อนจะกระซิบบอกลูก ส่วนยูคยอมก็เปลี่ยนจากหน้าบึ้งตึงมาเป็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ 


    ดูไม่เหมือนที่ตบกันหน้าหันทะเลาะกันจนไล่ออกจากห้องเลยสักนิด 


    “เอาอย่างนี้... พี่แจ็คสัน พี่ตอบคำถามแบมมานะ ว่าพี่อยากได้ลูกกับเมียพี่กลับคืนมารึเปล่า”


    “…”


    “ไม่ดิ... เริ่มที่เด็กก่อน พี่มั่นใจว่าน้องมาร์เจย์ใช่ลูกพี่จริง ๆ รึเปล่า” 


    เหมือนนักโทษที่ถูกสอบสวน แบมแบมมองตาแจ็คสันแน่นิ่งไม่มีหลบสายตา ระหว่างที่ฟังเรื่องราวที่แจ็คสันกับยูคยอมผลัดกันเล่าให้ฟัง แบมแบมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ค่อยชอบมาพากล 


    แจ็คสันกับมาร์คเหมือนจะรักกันอยู่เต็มร้อย แต่ตัวแปรทั้งหมดของเรื่องก็คือผู้หญิงคนนั้น ที่เป็นเหมือนตราบาป เป็นเหมือนหน้าที่ลูกผู้ชายที่ทำให้แจ็คสันไม่กล้าก้าวกลับไปรักมาร์คอีกครั้ง 


    “จากระยะเวลา มันก็เป็นไปได้ที่มาร์เจย์จะเป็นลูกพี่... แต่อีกนัยน์นึงก็มีสิทธิ์ที่จะไม่ใช่เหมือนกัน” 


    แจ็คสันถอนหายใจยาว... ก่อนจะค่อย ๆ เล่าสิ่งที่ตัวเองคิดมาสักพักให้ยูคยอมกับแบมแบมฟัง..


    “คือรู้ใช่มั้ย...ว่ากูไม่รู้ว่ามาร์คอะ...ท้องได้ แล้วช่วงก่อนงานแต่ง มันเป็นช่วงสุกงอมอะ กูกับมาร์คอยู่ด้วยกันตลอด” 


    “…”


    “คือ...กูไม่รู้ว่ามาร์คท้องตั้งแต่ช่วงนั้นรึเปล่า...”


    “…แล้วถ้าตัดเรื่องเด็กออกไป”


    “…”


    “ไม่ว่ามาร์เจย์จะเป็นลูกใครก็ตาม...เฮียรู้สึกยังไงกับพี่มาร์ค ?” 





    ก้อนหินก้อนหนึ่งก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมกระจายไปทั่วผิวน้ำ...


    แจ็คสันก็บอบช้ำไม่แพ้ใครในวันที่เลิกรา ไม่ต่างจากอดัมและอีฟที่มีแอ็ปเปิ้ลอยู่ตรงหน้า ใครจะอยากเมินความหอมหวานของมัน กรีดหัวใจตัวเองให้เป็นแผลลึก แต่เพราะแจ็คสันกำลังจะเป็นพ่อ... 


    บางที...แค่หัวใจและความรักมันก็ยังไม่เพียงพอ... 


    และด้วยเหตุผลนั้น...ในวันนี้มันเลยกลายเป็นโซ่ตรวนที่คล้องความรู้สึกของแจ็คสัน... 


    ถ้ามีดีแค่รักจะคู่ควรกับมาร์คมั้ย... 


    แล้วกับรอยแผลที่เคยทำไว้...มาร์คจะให้อภัยได้รึเปล่า


    แจ็คสันก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่ง เคยทุ่มเททุกอย่าง เก็บเงินเพื่อสร้างครอบครัวและตั้งใจว่าจะมีชีวิตเคียงข้างไปกับมาร์คจนถึงวาระสุดท้าย... 


    แต่พอทุกอย่างมันผิดแผน โลกสอนให้แจ็คสันรู้ว่ามันไม่มีอะไรมาควบคุมความรู้สึกได้... 


    …มันน่าละอายจนแจ็คสันไม่กล้าข้ามไป... 


    ครืด....ครืด...ครืด... 


    เสียงสั่นของโทรศัพท์ทำให้แจ็คสันหลุดจากภวังค์ มือหน้าหยิบขึ้นมาดูก่อนจะนิ่งไปเมื่อเห็นชื่อที่โชว์บนหน้าจอ... 


    ‘MARK’


    มันไม่ได้สำคัญสักนิดกับคำถามที่ยูคยอมถาม...เพราะรู้ดีอยู่แก่ใจ


    …ต่อให้เด็กคนนั้นจะเป็นลูกของมาร์คหรือไม่...คำตอบมันง่ายจะตาย...


    ….คือแจ็คสันก็จะรักมาร์คอย่างไม่มีเงื่อนไขอยู่ดี... 





    “อยู่บนโต๊ะใช่มั้ย”


    (ใช่ ในกระเป๋าสีกรมน่ะ)


    “เจอแล้ว... แล้วสายชาร์จล่ะ”


    (มันอยู่ในกระเป๋านั่นแหละ...หยิบแฟรชไดรฟ์ที่เป็นรูปสไปเดอร์แมนมาด้วย อยู่ตรงข้างลำโพง)


    “อ่า...โอเค...จะเอาอะไรอีกมั้ย”


    (ไม่มีแล้วล่ะ...)


    “โอเค...เดี๋ยวขับรถเอาไปให้ คิดว่าน่าจะถึงนั่นสักประมาณสี่ทุ่ม” 


    (…ไม่ได้ลำบากใช่มั้ย...)


    “ไม่...ไม่เลยมาร์ค เดี๋ยวเจอกัน”


    (อืม… ขับรถดี ๆ นะ)


    “ครับ..” 


    แจ็คสันกดวางสายจากมาร์ค ก่อนจะหยิบแฟรชไดรฟ์รูปสไปเดอร์แมนอันเก่าที่ใช้จนเริ่มดำใส่กระเป๋า เดินไปเช็คความเรียบร้อยภายในห้องก่อนจะล็อคประตูแล้วขับรถออกมา 


    หลังจากที่รับสายโทรศัพท์เมื่อเย็น แจ็คสันก็รีบขับรถกลับมาที่คอนโดเพราะว่ามาร์คจำเป็นต้องใช้คอมด่วนเนื่องจากงานที่อยู่ดี ๆ ก็ต้องขยับกำหนดส่งให้เข้ามาใกล้ ตอนแรกแจบอมจะเป็นคนขับรถกลับมาส่งมาร์ค แต่เพราะแจ็คสันยังว่างอยู่ เลยเป็นฝ่ายขับเอาไปให้แทน 


    ได้ยินเสียงเจ้าตัวแสบหัวเราะดังลั่นออกมาจากสาย แจ็คสันทนใจร้ายให้เจ้าแก้มอ้วนโดนลดเวลาความสุขลงไปไม่ได้หรอก...​


    อีกอย่าง... แจ็คสันขอยอมรับกับตัวเองในใจ...


    พอได้เจอมาร์คใกล้ ๆ... ก็ไม่อยากจะห่างกันไกลอีกแล้ว 













     


    สารภาพตรง ๆ ค่ะ จริง ๆ ตอนแรกไม่คิดว่าจะแต่งเรื่องนี้ได้อีกแล้ว 

    5555555555555555555555 

    ชีวิตจริงมันเศร้าแต่เรื่องเล่ามันตลกค่ะ 

    แต่เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่มีคนคอมเม้นมาหาเสมอ 

    ว่ารออยู่นะ เวลาที่เห็นคนทวงทุกครั้ง มันก็เกิดแรงฮึบ

    และในที่สุดก็ออกมาเป็น 50% นี้ค่ะ 


    แฮ่ ฟิคเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เป็นฟิคที่ดีเด่อะไร

    แต่สำหรับความรักและกำลังใจที่ให้เรามามันมีค่ามากนะคะ

    อาจจะช้า หรืออาจจะกระท่อนกระแท่นไปหน่อย

    แต่ก็จะพยายามเสิร์ฟเจ้าลูกหมูแสนหวานนี้ให้กับทุกคนไปจนจบค่ะ


    รักจริง ๆ นะ 


    คยองอิน


    ___________________

    มาต่อแล้วค่ะ ฮือ
    ขอเชิญทุกท่านเฆี่ยนตีดิฉันด้วยความรัก

    และได้โปรดอย่าทิ้งลูกหมูไปเลย...



    ด้วยรัก
    คยองอิน aka ซอนย่าเอง

     

    #jarkEX
     



     
     
     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×