คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 10
CHAPTER 10
“แบมแบมหรอ”
(ใช่ฮะ พี่แจ็คสัน)
“เอ้อ ไม่ต้องห่วงนะ ยูคยอมอยู่กับพี่เอง”
(ก็ดีแล้วล่ะฮะ ตาหมีเป็นยังไงบ้าง)
“ก็ไม่แย่มากเท่าไหร่ แล้วเราล่ะเป็นไง อย่าเครียดมากนะมันส่งผลต่อเด็กในท้อง”
(ก็พยายามไม่เครียดอยู่ฮะ แต่พี่ก็รู้ใช่มั้ย ว่านี่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแบมมาก)
“อืม พี่เข้าใจ พรุ่งนี้ถ้ามันสร่างแล้วพี่จะไล่มันกลับบ้านแล้วไปคุยกันดี ๆ นะ”
(ฮะ... พี่แจ็คบอกตาหมีโง่นั่นนะ ว่าลูกแบมแบมก็รัก พรุ่งนี้กลับมาซื้อกล้วยแขกทอดมาให้ด้วย อยากกิน)
“ได้เดี๋ยวจะบอกให้ แล้ววันไหนว่าง ๆ จะหิ้วของบำรุงไปฝาก”
(ฮะ เจอกัน สวัสดีฮะ)
งานที่มาร์คกำลังทำอยู่ มันแทบจะไม่ผ่านสมองเลยสักนิดเดียว...
เงาที่สะท้อนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์คือแจ็คสันที่กำลังคลี่ยิ้มอ่อนให้คนในโทรศัพท์ วงหน้าคร้ามเข้มด้วยไรหนวดเขียวจางดูอ่อนโยนลดความดุดันลง
มันทำให้มาร์คคิด... ว่าถ้าตอนนั้นตัวเองมีแจ็คสันอยู่เคียงข้างเรื่องราวมันจะเป็นแบบไหน
แบบที่ไม่ต้องกอดหมอนร้องไห้คนเดียว...
แบบที่ไม่ต้องทุกข์ทรมาณจากอาการแพ้ท้องจนกินอะไรไม่ได้...
แบบที่ไม่ต้องเศร้าเพราะคิดถึงพ่อของลูกที่ไม่มีวันกลับมา...
เรื่องมันจะกลายเป็นแบบไหนกันนะ...
“ขอโทษด้วยนะมาร์คที่ทำให้วุ่นวาย”
“อืม”
แจ็คสันตัดสายโทรศัพท์จากแบมแบม อย่างน้อยก็ยังโล่งใจที่แบมแบมก็รักลูกตัวเองไม่ต่างอะไรกับที่น้องชายเค้ารัก
ถึงกระนั้น...แจ็คสันก็ยังคงสร้างภาระให้มาร์คอยู่ดี
“อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ มาร์คจำแบมแบมได้มั้ย ที่เคยมาให้ยูคยอมมันติวแพทเลขให้จนกลายเป็นแฟนกันน่ะ”
มาร์คจำได้...
เพราะยูคยอมเป็นน้องชายที่สนิทกับแจ็คสัน ถึงแม้ว่าฐานะจะไม่ถึงกับขัดสน แต่เจ้าตัวก็ยังแบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วยการรับจ็อบสอนพิเศษ จนสุดท้ายกลายเป็นสมภารกินไก่วัด คาบเด็กเรียนพิเศษของตัวเองไปเป็นแฟน
“อืม”
“พอจะนึกออกใช่มั้ย...ก็อย่างที่มาร์คได้ยินนั่นล่ะ ไอ้ยูคยอมมันทำน้องเค้าท้อง แล้วก่อนจะออกมานี่ก็ทะเลาะกันแรงมาก มาร์คเห็นที่แก้มมันมั้ย แดงเป็นรูปรอยนิ้วเลย”
ในตอนที่หันไปดูหน้ายูคยอม... มาร์คก็เหมือนถูกแจ็คสันยืนโอบอยู่หลังเก้าอี้อยู่แล้ว...
ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของใครสักคนหรอก... แต่มันเป็นความเคยชินของเรา
“เราก็ไม่อยากรบกวนมาร์คหรอก แต่มันก็ไม่มีที่จะไปแล้วจริง ๆ”
“…”
“ขอโทษด้วยนะ ที่เอาแต่รบกวนอยู่เรื่อย”
“ช่างมันเถอะ... เราจะไปนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์”
และมันผิด...ที่มาร์คยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาเอง
เสียงถอนหายใจออกดังพอ ๆ กับเสียงกรนของคนที่นอนอยู่บนโซฟา
แจ็คสันพลิกตัวอยู่บนพรมแบน ๆ หน้าทีวี มีหมอนและผ้าห่มพันรุงรังอยู่ที่ขา... แต่ความแข็งกับความเย็นของอากาศไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แจ็คสันนอนไม่หลับหรอก...
แต่มันเป็นเพราะตัวเองเอาแต่ทำให้มาร์คอึดอัดต่างหาก
ถึงปัญหาของยูคยอมจะยังไม่จบ แต่มันก็โล่งไปเปราะหนึ่ง แจ็คสันก็กลับมาคิดถึงเรื่องของตัวเองต่อ
ปัญหาที่ก่อขึ้นเมื่อวานยังไม่ทันหาย วันนี้แจ็คสันก็เข้าไปใกล้จนมาร์คอึดอัดอีกแล้ว...
แจ็คสันไม่รู้ว่ามาร์คต้องการอะไร เพราะสิ่งที่เคยทำไว้มันทำให้แจ็คสันไม่กล้าคิดถึงการให้อภัยด้วยซ้ำ
ถ้าผิดมันคงผิดที่แจ็คสันยกเลิกจองโรงแรมแล้วเดินมาเคาะประตูที่ห้องห้องนี้...
“กลับไปอยู่โรงแรมดีกว่ามั้ยวะ...”
“ฮือ... แบมแบมอย่าตบพี่”
แต่ก่อนจะถึงพรุ่งนี้ แจ็คสันจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไงดีกว่า...
“ขอบคุณมากนะครับพี่มาร์ค”
ยูคยอมที่สภาพเน่าเป็นผ้าขี้ริ้วก้มหัวปลก ๆ ให้มาร์คอยู่ในครัว ตรงหน้ามีกาแฟดำรสชาติเข้มจัดวางไอร้อนลอยขึ้นรอให้ดื่มแก้เมา
“อืม ไม่เป็นไร หิวอะไรก็หยิบกินเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปดูลูกก่อน”
จะว่าคุ้นเคยกันดี หรือเพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้วก็ได้ แต่ยูคยอมก็ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไร จะมีก็แต่ความเกรงอกเกรงใจที่มีต่อมาร์ค...
เพราะยูคยอมไม่ได้อยู่ในสถานะของน้องคนสนิทของแฟนมาร์คอีกแล้ว...
“ได้เวลาหม่ำๆ แล้วครับคนเก่ง”
มัวแต่คิดในใจสะระตะรู้ตัวอีกที ยูคยอมก็เห็นมาร์คอุ้มเด็กชายตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยลงมาวางที่เก้าอี้เด็กในห้องครัวแล้ว
เจ้าลูกหมูตัวน้อยของมาร์คตอนนี้หอมฉุย เพราะถูกคุณแม่จับอาบน้ำปะแป้งใส่ชุดหมีสีอ่อน เด็กชายมาร์เจย์ยิ้มแก้มตุ้ย ก่อนมือน้อย ๆ จะยกโบกมือโบกไม้ให้แขกที่ไม่คุ้นหน้า
“มะ...มะ...ไค”
เสียงอ้อแอ้ไม่ค่อยเป็นคำทำให้มาร์คยิ้มกว้าง ก่อนจะแนะนำแขกผู้มาใหม่ให้กับเจ้าตัวเล็กฟัง
“เค้าชื่อคุณน้ายูคยอมครับ ไหนมาร์เจย์ทักทายเร็วครับ”
“ฮะฮะ” มันคงจะเป็นภาษาเด็กที่ยูคยอมไม่เข้าใจ แต่พอยื่นมือเข้าไป ก็ถูกอุ้งมือนุ่มคว้าไว้ไปกำแน่น ก่อนดวงตากลม ๆ เป็นลูกหมาของเด็กตัวน้อยจะยิ้มตาหยีน้ำลายย้อยส่งมาให้
“ยอมยอม”
“ครับ ๆ ยอมยอมครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าตัวเล็ก”
“อื้อ ยอมยอม...หมี”
มาร์เจย์แกว่งนิ้วที่อยู่ในกำมือไปมา ปากนุ่มนิ่มร้องเรียกมาร์คแล้วพูดว่าหมี ทำเอาคนเป็นแม่หัวเราะร่วน จับเจ้าตัวน้อยเช็ดปากก่อนจะวางชามข้าวผัดสารพัดสีลงตรงหน้าเด็กน้อย
“ยอมยอมไม่ใช่หมีครับ เอาคนเก่งกินข้าวก่อนเร็ว”
แน่นอนว่ามาร์เจย์ยอมฟังคุณแม่แต่โดยดี มือนุ่มนิ่มยอมปล่อยนิ้วของยอมยอมก่อนจะเปลี่ยนมากำช้อนและส้อมทั้งสองข้าง
“เก่งมากครับ”
มาร์คจิ้มแก้มลูกก่อนจะนั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อยทานข้าวอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปถามแขกอีกคน
“กินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่ทำเผื่อ”
“ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ว่าแต่น้องกี่เดือนแล้วล่ะครับ”
ยูคยอมส่ายหัว ตอนนี้ในฐานะว่าที่คุณพ่อ ยูคยอมจำได้ถึงสัมผัสของมือนุ่ม ๆ ที่รวบไปจับ และแววตาใสแจ๋วที่มองมาอย่างไร้เดียงสา
“ขวบกว่าแล้วล่ะ กำลังอยู่ในช่วงหัดพูดเลย”
คนเป็นแม่ตอบด้วยรอยยิ้มทั้งที่ลูกน้อยกำลังทำข้าวหกเลอะเทอะเต็มโต๊ะ กว่ามาร์เจย์จะส่งข้าวเข้าปากได้คำนึงโต๊ะเด็กสีสดใสก็เต็มไปด้วยข้าวผัดสามสี
“ดูเหมือนจะเลี้ยงง่าย แต่แกท่าจะซนน่าดูเลยนะครับ”
ยูคยอมหลุดหัวเราะร่วนเมื่อเจ้าตัวน้อยเคี้ยวข้าวหยับ ๆ ทั้งที่บนเหงือกแดงแจ๋ฟันก็มีแค่สองสามซีก แต่กับเคี้ยวข้าวจนแก้มกะเพื่อม
“ไม่รู้ได้เชื้อซนใครมาเหมือนกัน แล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“ก็เรื่อย ๆ ครับ”
“อืม... สู้หน่อยนะ”
“พี่รู้แล้วใช่มั้ยครับ ?”
มาร์คพยักหน้า ในแววตาไม่ได้มีแววตำหนิหรืออะไร เสียงนุ่ม ๆ ใจดีเพียงแค่อยากให้กำลังใจ...
“มันอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่พอเราได้เห็นเค้าเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เค้าจะเหมือนกับของขวัญที่สวรรค์ส่งมาให้เราเลยล่ะ”
“…”
“กลับไปก็ไปคุยกับแฟนดี ๆ มีกันสองคนก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ปัญหา เราโตกว่าเราก็ต้องเป็นหลักให้น้อง เข้มแข็งเพื่อเจ้าตัวน้อยในท้องของแฟนเรา”
“ครับ”
ยูคยอมได้แต่ขานรับในลำคอ ก่อนจะส่งสายตาให้คนที่ยืนพิงประตูฟังที่มาร์คพูดอยู่ทางด้านหลัง...
งานหนักแล้วมึง..พี่แจ็คสัน
“แล้วพี่มาร์คอยู่กับลูกแค่สองคนหรอครับ... ก่อนทีตาลุงจะมาอยู่ด้วย ?”
“อื้อ...พี่เลี้ยงลูกคนเดียวน่ะ”
แววตาของมาร์คเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิมเพียงเสี้ยววิ
“งั้นผมขอถามหน่อยได้มั้ย... พ่อของเด็กเป็นใครหรอพี่ ?”
ยูคยอมเลือกโยนหินถามทาง... มาร์คเงียบ...
หน้าตาของมาร์เจย์แค่มองแว้บแรกก็พอจะเห็นเคล้าลางพ่อมันมาแล้ว หน้าผากเหม่ง ๆ กลม ๆ เป็นสัญญลักษณ์ของอาเสี่ย ไหนจะตากลม ๆ ใส ๆ ดูก็รู้ว่าโขกออกมาจากไอ้พี่แจ็คสัน
“แจ๊ะ....แอ้”
ขณะที่สายตาและความเงียบกำลังจะกดดันให้มาร์คตอบ เจ้าลูกหมูก็ร้องเรียกคนที่ยืนพิงอยู่ด้านหลัง มือป้อมชูช้อนส้อมโบกไหว ๆ เรียกคนที่เข้ามาใหม่ให้เข้ามาใกล้กัน
“หม่ำ ๆ ต้ะ”
“มาแล้วเหรอแจ็คสัน ยูคยอมกินข้าวเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน”
และมันสร้างโอกาสอันแสนจะไม่เนียนให้มาร์ค...
คิดว่ามาร์คไม่รู้หรือไง...ว่าทำไมยูคยอมถึงเลือกถามแบบนี้...
(มาร์ค เค้าว่าตัวไม่ไหวแล้วนะ)
“เค้าก็ไม่รู้จะทำยังไงดีอะจินยอง... มาร์เจย์ครับ ขอม๊าคุยกับจูจูก่อน... อ๊ะ เคี้ยวไม่ได้นะครับ”
มาร์คนั่งขัดสมาธิดูลูกนั่งละเลงสีเทียนลงบนกระดาษเป็นภาพยึกยือ มือไม้พัลวันเพราะเจ้าลูกหมูคอยแต่จะส่งสีเทียนเข้าปาก หูแนบกับไหล่ต่อสายโทรศัพท์คุยกับเพื่อนสนิท
(แจ็คสันไม่ได้โง่นะมาร์ค หน้าลูกก็เหมือนขนาดนั้นอะ คิดว่าจะทำเนียนแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน)
“ก็เราไม่อยากให้แจ็คสันรู้... แต่จริง ๆ แจ็คสันกับพีเนียลก็หน้าคล้ายกันอยู่นะ”
(นั่นมันก็ใช่ ตัวน่ะ สเปคเดิม ๆ แต่ดูหน้าลูกด้วยมาร์ค บนหัวเหม่งตาหนูแทบจะเขียนว่าลูกแจ็คสัน)
“…แต่”
(ไม่ต้องมาแต่เลยมาร์ค...)
“เอ้ย... ตัว แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวเค้าโทรไปใหม่”
มือบางตาลีตาเหลือกอุ้มเด็กตัวกลมลงจากตักทันทีที่ตัดสายจินยองไปอย่างไม่รอคำตอบ มาร์คเกร็งคอ หลบมือน้อย ๆ ที่กำสีเทียนก็เปลี่ยนจากเขียนกระดาษเป็นจะมาเขียนหน้า กลีบปากจิ๋ว ๆ ร้องตะโกนให้แม่สนใจ
“ดั๊กกี้ ๆ”
มีเสียงแปะ ๆ ตบลงบนกระดาษสีขาว มาร์คมองลายสีเหลืองที่ละเลงเป็นคลื่นยึกยือที่พอจะอนุมานได้ว่าคงเป็นภาพเป็ดในอ่างอาบน้ำ ผลงานของสุดยอดศิลปินเอกพุงพลุ้ยแก้มยุ้ยตัวฉกาจ
“โอ้โห วาดเสร็จแล้วหรอครับ เก่งจังเลย”
“นมนม ๆ”
เพราะได้เห็นแม่ชม เจ้าลูกหมูจึงร้องท้วงราวกับจะร้องขอรางวัล ปากนิ่มยื่นทำปากบู้ตะกายขึ้นตักคลำอกมาร์ค....
“ข้าวก็กินแล้ว ยังจะกินนมอีกหรอครับ”
พฤติกรรมนี้เห็นกี่ทีมาร์คก็กลุ้มใจ มาร์เจย์ขวบกว่าแล้วแต่ยังติดนมแม่อยู่ ต่อให้บางทีไม่ดูด แต่เจ้าลูกหมูก็ชอบคลำ ชอบจับ เป็นแบบนี้นมมาร์คเลยไม่หมดสักทีเหมือนกัน
“พอรู้ว่าทำตาใสแล้วม๊าใจอ่อนก็ทำใหญ่เลยนะ เจ้าแสบ”
มาร์คอุ้มลูกมาหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะเปิดเสื้อให้เจ้าตัวน้อยมุดเข้าไปทำอย่างใจอยาก...
จะว่าไปมันก็เหมือนขว้างงูไม่พ้นคอ...
มาร์ครู้ว่าแจ็คสันจะต้องระแคะระคายเรื่องลูก แต่ที่ไม่คาดคั้นมาบังคับให้ยอมรับก็เพราะว่าอีกฝ่ายมีชะนักติดหลังอยู่เหมือนกัน...
สิ่งที่มาร์คทำต่อไปนี้มันอาจจะร้าย... แต่ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อก่อกำแพงระหว่างเราให้มันหนามากขึ้นเท่านั้น...
เพื่อไม่ให้ความรู้สึกของมาร์เจย์ต้องแตกสลายเหมือนที่มาร์คเคยเป็น...
ปลายนิ้วกดเบอร์โทรออกต่างประเทศของคนคุ้นเคยที่ไม่ได้คุยกันมานาน...
Calling… Peniel
“ลูกมึงแน่นอนอะเฮีย”
“กูถ่ายรูปส่งให้หม่าม๊าก็บอกกูแบบนั้น”
“เฮ้อ…”
ยูคยอมติดรถออกมาพร้อมกับแจ็คสันที่ออกไปทำงาน มือที่กำพวงมาลัยสั่น...แจ็คสันเห็นสีหน้าตอนที่ยูคยอมถามชัด...
…มาร์คคงไม่อยากให้เป็นลูกเค้าจริง ๆ นั่นแหละ
“แล้วจะเอาไงอะ”
“ก็ถามตัวเองอยู่อะนะ ว่ากูมีสิทธิ์อะไรในตัวลูกด้วยเหรอ”
“เฮีย..”
“ถ้ากูไม่น่าด้านมาขอเค้าอยู่ กูจะรู้มั้ยว่าเค้ามีลูก หรือถึงกูรู้แล้วยังไง”
“…”
“ลูกหน้าเหมือนกูอย่างกับแกะแบบนี้ เค้ายังไม่ให้สิทธิ์กูได้เป็นพ่อ”
“…”
“กูว่ากูโดนมาร์คเอาคืนแล้วล่ะว่ะ...เอาคืนแบบที่เค้าไม่ต้องลงแรงอะไรด้วยซ้ำ...”
“…”
“…แม่งเจ็บชิบหายเลยว่ะยูคยอม”
แจ็คสันหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทาง หัวซบพวงมาลัย ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลรึเปล่าแต่เสียงโคตรปวดร้าว... ยูคยอมทำได้แค่บีบไหล่สั่น ๆ เป็นเชิงปลอบ
มีคำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของแจ็คสัน...
มันก็จริง... ต่อให้เด็กเป็นลูกของแจ็คสันแล้วยังไง ?
แจ็คสันกล้าจะเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นพ่อหรอ ?
คำว่าอภัยของแจ็คสันมาร์คยังไม่รับ...แล้วลูกที่เรามีด้วยกัน...มาร์คจะยอมให้แจ็คสันมีส่วนร่วมในครอบครัวหรอ ?
...ทุกอย่างดูเหมือนจะผลักแจ็คสันออกไปไกลจากมาร์คมากขึ้นทุกที..
จินยองมองสายโทรศัพท์ที่ตัดไปก่อนจะถอนหายใจออกมา...
หัวใจมาร์คดูเหมือนจะไม่ไหวเข้าไปทุกที...
ปาร์คจินยองรู้จักมาร์ค อี๋เอิน ต้วนดีพอ ๆ กับที่รู้จักตัวเอง... ยิ่งความเป็นคนแข็งนอกอ่อนในก็ยิ่งรู้ดีที่สุด...
แจ็คสันไม่ได้โง่เหมือนพระเอกละครน้ำเน่า... ส่วนมาร์คถึงจะปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ก่อกำแพงขังตัวเองเอาไว้ทั้งที่ใจโหยหาแสงตะวันมากกว่าใคร...
…สงสารก็แต่เจ้าลูกหมูของจูจู...
“คิดอะไรอยู่ครับจินยอง”
แต่แล้วเสียงนุ่มและอ้อมกอดอุ่นที่จินยองรักที่สุดในโลกดึงออกจากภวังค์ เจ้าของเนื้อนุ่มจมลงสู่อ้อมแขนแกร่ง...
“พี่แจบอม”
“คิดเรื่องมาร์ค”
“ห่วงเพื่อนหรอ ?”
อิมแจบอมกดจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยง ตัวเองก็รู้จักกับทั้งมาร์คและแจ็คสันเป็นอย่างดี... ก็แจ็คสันกับแจบอมน่ะเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายกันมาก่อนนี่นา..
“อืม... เพื่อนพี่อะใจร้าย ไม่ยอมปล่อยมาร์คไปสักที”
จินยองตบแปะลงบนแผ่นอกแน่น ดวงตากลมเกลี้ยงที่มีรอยยับเป็นเอกลักษณ์มองค้อนจนแจบอมจนหลุดหัวเราะร่วน...
“คนมันเกิดมาคู่กันแล้วมันก็หนีไปไม่พ้นหรอกจินยอง”
“ผมไม่ยกเพื่อนผมให้พี่แล้ว”
“ถึงเราจะไม่ยกให้ แต่เค้าก็มีโซ่ทองคล้องใจกันแล้วนะ”
ฝ่ามืออุ่นลูบลงบนกลุ่มผมนิ่มอย่างแสนรัก... ดวงตาประสานกัน...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแจบอมอยากจะมีโซ่ทองคล้องจินยองไว้มากแค่ไหน...
“ทำหน้ายุ่งเรื่องคนอื่นไปเราก็ช่วยเค้าไม่ได้หรอก..”
“…”
“…มายุ่งกับเรื่องที่เราช่วยพี่ได้ดีกว่า”
“เฮ้ย !! พี่แจบอมจะทำอะไรอะ”
จินยองร้องเสียงหลงเมื่อถูกช้อนตัวอุ้ม แต่พอเงยหน้าของคุณสามีที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้แล้วก็ได้แต่เลยตามเลย...
“ปฏิธินบอกว่าวันนี้เป็นวันไข่ตก...ปะ.... ไปทำโซ่ทองคล้องจินยองกันดีกว่า”
“ฮื่อ...พี่แจบอมทะลึ่ง”
ขอบ่นหน่อย.... แต่ก็ไม่ขัดขืนแล้วล่ะ...
มาครบแล้วเด้อ
มาเร็วเป็นประวัติการณ์ ฮือ
นี่ไม่ได้เขียนเพื่อคอมเม้น
แต่ทุกคอมเม้นคือกำลังใจ คือแรงผลักดัน คือความภูมิใจของเลา
ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็ฝากยูกหมูและผู้ใหญ่เจ้าปัญหาเหล่านี้ด้วยนะคะ
ด้วยรัก
คยองอิน aka ซอนย่าเอง
#jarkEX
ความคิดเห็น