คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 9
CHAPTER 9
“ผมไม่อยากเจอเธอ คุณพอจะจัดการอะไรได้มั้ย”
(แต่เธอนัดไกล่เกลี่ยมา ฉันคิดว่าคุณควรจะไปเจอเธอ)
“แต่ผมไม่อยากเจอ”
(ฉันรู้ แต่คุณรู้มั้ย ผู้หญิงน่ะซับซ้อนกว่าที่คิด ไม่แน่ถ้าคุณยอมไปคุยกับเธอดี ๆ เธออาจจะยอมเซ็นต์ใบหย่าให้คุณง่าย ๆ ก็ได้)
“ผมไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนั้นเลย”
(ฉันก็ไม่คิด... แต่ในฐานะทนาย ฉันอยากให้คุณลอง)
“...งั้นผมขอตัดสินใจอีกที”
สัญญาณโทรศัพท์ตัดไปพร้อมกับหัวใจที่หนักอึ้ง แจ็คสันไม่อยากให้เรื่องมันยืดเยื้อขนาดนี้ แต่เธอก็เหมือนจะไม่เข้าใจ...
เอกสารบนโต๊ะถูกกวาดลงกระเป๋าเงียบ ๆ เสียงทุ้มบอกลาเลขา แจ็คสันหิ้วกระเป๋าทำงานเดินออกไปลานจอดรถอย่างซังกะตาย...
ทั้งที่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้วแท้ ๆ
ตลอดสองปีที่ผ่านมาชีวิตคู่ของแจ็คสันล้มเหลว... จะว่ามันเป็นความผิดของแจ็คสันเพียงคนเดียวก็ได้ แต่การที่จะต้องอยู่กินกับคนที่ไม่ได้รัก ก็เหมือนอยู่เพื่อรับผิดชอบตามหน้าที่ไปเรื่อย ๆ ลำบากตัวไม่เท่าไหร่...
แต่ใจมันแห้งผากลงทุกวัน
ถึงจะเป็นแบบนั้น...แต่นั่นก็ไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้แจ็คสันหย่ากับเธอหรอก...
“ฮาโหล...ยูคยอมหรอ คืนนี้ออกมากินเหล้ากับเฮียหน่อย”
กลับไปก็ไม่รู้จะไปทำอะไร กินเหล้าย้อมใจกลับบ้านไปจะได้นอนหลับสนิทก็แล้วกัน
มาร์คถอดแว่นตาออกก่อนจะใช้ปลายนิ้วคลึงด้วยความเมื่อยล้า ตัวเลขบนนาฬิกาชี้บอกเวลาใกล้ตีหนึ่ง ตอนนี้ป่านนี้เจ้าลูกหมูตัวอ้วนคงกำลังนอนกรนครอกฟี้ิอยู่ในเปลนอน...
งานของมาร์คพึ่งเสร็จ...
รายจ่ายของแม่เลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องที่ล้อเล่น รายได้ของมาร์คไม่ได้น้อย แต่ก็ไม่ได้สูงอะไรเมื่อเทียบกับภาระค่าใช้จ่ายที่จำเป็น คอนโดห้องนี้ก็ต้องผ่อน ไหนจะเงินสำหรับการศึกษาของเจ้าอ้วนที่มาร์คอยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ การทำงานจนถึงดึกดื่นหลังจากเวลาที่กล่อมเจ้าลูกหมูนอนจึงเป็นเรื่องปกติ
“นอนนอน ได้เวลาอาบน้ำไปนอนกอดลูกหมูแล้ว”
ความเหนื่อยมันคลายหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อคิดถึงเจ้าหมูอ้วนตัวน้อยที่นอนตุ้ยรออยู่บนเตียงนอน แขนเรียวยกบิดขี้เกียจก่อนชุดใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นยืน
ถึงมาร์คจะทำเป็นไม่สนใจว่าคืนนี้แจ็คสันกลับมาที่ห้องนี้ไม่ แต่ก็อดบ่นในใจไม่ได้ แต่ก็ช่างเค้าเถอะ แค่เมื่อเช้ามาร์คไม่ได้ว่าอะไรเรื่องมานอนในห้องด้วยมันก็น่าจะพอแล้ว
มันแทบจะพอดีกัน...เสียงประตูปลดล็อคดังมาจากทางหน้าบ้าน มาร์คถอนหายใจออกมาทั้งที่ข้างในค่อนข้างโล่งใจ ไม่จำเป็นต้องหันไปมองก็รู้ แจ็คสันคงกลับมาแล้ว แต่ทว่าเสียงเท้าที่กระทบลงกับพื้นไม้หน้าประตูกับเสียงของร่วงหล่นทำให้มาร์คจะต้องหันหลังกลับไปมอง
“กลับดึกเราไม่ว่านะ แต่ช่วยเสียงเบา ๆ หน่อย มาร์เจย์นอนหลับไปแล้ว”
หางตาเหลือบไปมองคนเดินงุ่นง่านเซไปเซมาอยู่หน้าประตูอย่างดุ ๆ สภาพที่เห็นมันเป็นภาพที่มาร์คเคยเห็นเป็นประจำตั้งแต่สมัยที่คบกัน หน้าแดงตาปรือแบบนี้ ท่าทางวันนี้แจ็คสันจะดื่มเข้าไปหนัก
“มาร์ค...มาร์ค...ยังไม่นอนหรอ”
กลิ่นแอลกอฮอล์คลุ้งลอยมาพร้อมกับร่างหนาแน่นที่เดินเซแท่ด ๆ เข้ามาใกล้ คนเมาในตอนนี้มีความสามารถในการเดินไม่ต่างอะไรกับลูกปูถูกคลื่นทะเลซัด
“ยังไม่นอนถึงนอนก็ต้องตื่นเพราะเสียงของหล่นนี่อยู่ดี รีบเข้าห้องน้ำไปจัดการตัวเองไป”
กลิ่นแอลกอฮอร์ฉุนจนมาร์คเบ้หน้า คุณแม่ลูกหนึ่งยอมเสียสละให้คนที่พึ่งมาใหม่จัดการตัวเองก่อน ส่วนตัวก็จะออกไปดูตรงประตูสักหน่อยว่าคนเมาก่อความพินาศอะไรไว้บ้าง
“มาร์คคคค”
แต่เสียงแจ็คสันยานคางกลับเรียกรั้งมาร์คไว้ และเพราะง่วนอยู่กับการเก็บตรวจเช็คประตูบ้านไม่ได้หันไปมองจนโดนแรงกอดหนัก ๆ โถมทับ
“อะไรเนี่ยแจ็คสัน”
มาร์ครับคนเมาปลิ้นที่โผเข้าหาจนเนื้อตัวใกล้ชิด กลิ่นน้ำหอมผสมกับแอลกอฮอร์ตลบอบอวลอยู่ที่ปลายจมูก มาร์คย่นคอหนีเจ้าของริมฝีปากสีก่ำที่พยายามจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อพูดอะไรบางอย่าง
ซึ่งมันก็ยังใกล้จนผิวแก้มของมาร์คสัมผัสได้ถึงความร้อน...
“ขอโทษ”
...ลืมหายใจ...
รู้ว่าไม่ควรคิดอะไรแต่เรี่ยวแรงพาลหดหายจนแรงโถมดันร่างกายผอมบางไปติดกับประตูบ้าน...
“ขอโทษที่ทิ้งไป”
...เร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว...
มือไม้ของมาร์คสั่นระริกอย่างทำตัวไม่ถูก นัยน์ตาของแจ็คสันปริ่มไปด้วยน้ำจนไม่เหมือนกับแววตาคนเมาชวนให้มาร์คหลบหนี
แล้วแจ็คสันยอมที่ไหนกัน
“ขอโทษจริง ”
ผิวแก้มอุ่นไปหมดเพราะมือของคนเมาเอื้อมมาลูบเบา ๆ ที่แก้ม... แจ็คสันใช้หัวนิ้วโป้งปาดน้ำตา...มองตาสั่นระริกที่น้ำตากำลังจะล้นทะลักไม่ต่างกัน... ก่อนจะเป็นฝ่ายหนีหน้ามาร์คเอง โดยการซุกหน้าลงกับไหล่บางก่อนจะกอดกระชับเอาไว้แน่น...
“ขอโทษจริง ๆ”
มาร์คสูดลมหายใจชื้นพร้อมกับปาดน้ำตา...
“เมาแล้ว ไปอาบน้ำนอนเถอะแจ็คสัน”
มาร์คเปิดใจรับมันไม่ไหวหรอก...
แขนบางดันคนที่กอดอยู่ออกแม้จะหยดน้ำตาจะเปียกอาบหน้า
คำว่าขอโทษมันมีความหมายก็จริง...แต่เราจะเอาอะไรกับคำพูดของคนเมา แจ็คสันตอนนี้น่ะ ยังยืนให้ตรงด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
หรือถึงมันจะมีความหมายก็แล้วไง...
หัวใจมาร์คไม่มีสิทธิ์หวั่นไหวเพราะคำ ๆ นี้อีกแล้ว
“มาร์ค...”
เสียงลมหายใจสูดลึก มาร์คตั้งสติเพื่อกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังตีขึ้นมาอีกระลอก แขนเรียวพยุงคนที่ยืนโงนเงนโดยที่ไม่มองหน้า...พาไปส่งห้องน้ำ...
“เดี๋ยวเราหยิบเสื้อผ้าให้นะ เปิดน้ำอุ่น ๆ อะ จะได้สร่างเมาไว ๆ”
หลังประตูปิดลง...
ความเข้มแข็งที่มาร์คเคยมีมันก็หมดลง...
ร่างบอบทรุดนั่งลงกองกับพื้นแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนไม่ต่างจากเด็ก
มันมากเกินไป...
จากที่เคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งมากขึ้นแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เคยพอเลยสำหรับเรื่องแบบนี้...
มาร์ครู้ว่าตัวเองยังรักอยู่... มาร์คยังรักแจ็คสันอยู่อย่างเต็มหัวใจ
แต่การที่ยอมรับให้แจ็คสันกลับเข้ามาในชีวิตมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด...
มาร์คอยากให้ระหว่างเราเป็นแค่รูมเมทระยะสั้น ที่แจ็คสันไม่ต้องพยายามฟื้นฟูอะไรระหว่างเราให้มันดีขึ้นมาอีก... เพราะความเป็นเพื่อนมาร์คก็ให้ไม่ได้
มันไม่ได้เพราะมาร์คยังรักอยู่เต็มหัวใจ...
และหัวใจของมาร์คก็ไม่แข็งแรงพอที่จะให้แจ็คสันเป็นมากกว่านั้น...
มาร์คไม่อยากจะถอยหลังกลับไปเจ็บอีกแล้ว....
เช้านี้มันขุ่นมัว...และคุณแจ็คสันไม่พอใจอะไรทั้งนั้น..
ไม่พอใจระดับที่ว่าตั้งแต่ยามหน้าบริษัทยันบอร์ดผู้บริหารระดับสูงก็ยังไม่มีใครเข้าหน้าติด...
“ถ้าศักยภาพในการทำงานของคุณมีแค่นี้ ผมว่าสัญญาล็อตนี้คงจะเป็นล็อตสุดท้าย”
“ตะ...ตะแต่คุณแจ็คสันครับ..”
“ของที่คุณส่งให้ทางเรามันไม่ถูกสเปค ผมอนุญาติให้เปลี่ยนไม่รีเจ็คกลับยกล็อตยังไม่พออีกหรอครับ ?”
“คะ..ครับ”
พนักงานที่มุงอยู่หน้าห้องสลายตัวกันเป็นพัลวันเมื่อประตูห้องทำงานบอสเปิดผลัวะออกมา คุณแจ็คสันก้าวฉับ ๆ สั่งเลขาเสียงเรียบให้เตรียมเอกสารสำหรับออกไปประชุมนอกสถานที โดยมีสายตาเห็นอกเห็นใจของพนักงานที่มอบไปให้เหยื่ออารมณ์ผู้โชคร้ายที่ได้แต่เดินตามหลังมาเอาผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อหัวล้านป้อย ๆ
คุณแจ็คสันระเบิดลงลั่นห้องแบบนี้...เป็นบ่อยที่ไหน
หัวหน้าแผนกมหาประลัยก้าวขึ้นรถตู้ที่มีคนขับรถคอยกระวีกระวาดวิ่งมาเปิดให้ ตำแหน่งที่หวังแจ็คสันอยู่ว่าจะใหญ่ก็ใหญ่เพราะความสามารถที่มีและตัวเงินที่ได้ก็รอเพียงการโปรโมทขึ้นไปเป็นระดับผู้บริหารเท่านั้น
แต่ตอนนี้ตำแหน่งและการยอมรับอะไรมันก็แทนที่ไม่ได้เลย...
“ตรงไปที่ประชุมเลยนะ ระหว่างนี้ช่วยเงียบด้วย ผมอยากคิดอะไรเงียบ ๆ “
คำขอโทษของแจ็คสัน...มาร์คไม่แม้แต่จะยอมรับมันเลย...
ภายในรถนั้นเงียบจนแทบจะมีแต่เสียงลมหายใจ... เลขาสาวนั่งปากปิดสนิทจัดงานของตัวเองต่อภายในแท็บเล็ทขนาดเล็ก ไม่่ต่างอะไรกับคนขับรถวัยกลางคนที่วันนี้จำเป็นต้องขับรถให้นุ่มนวลเป็นพิเศษ ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มทอดสายตายาวมองออกไปนอกรถ...
บ้าเอ้ย...
แจ็คสันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยสักนิด...
พาลพาโล โมโหทุกอย่าง...เพียงเพราะว่าไม่อยากยอมรับว่าทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว....
หากเป็นเมื่อก่อน...เพียงแค่กอดมาร์คเบา ๆ กระซิบขอโทษอย่างจริงใจ คนแข็งนอกอ่อนในอย่างมาร์คก็มักจะให้อภัยเสมอ...
แต่นี่เมื่อวานมันคืออะไร... แจ็คสันเมาหยำเป๋ ไม่ต้องคิดคาดหวังเลยว่ามาจะยอมยกโทษให้และถ้าสมองโง่ ๆ อันนี้จำไม่ผิด...
ภาพมาร์คสะอื้นฮักยังอยู่ในแววตา...
เอกสารที่ถือติดมือมาถูกกำจนยับ...
มือถือเตรียมจะสไลด์เพื่อปลดล็อคหน้าจอเพื่อโทรเรียกยูคยอมมาเป็นเหยื่อปรับทุกข์อีกครั้ง...
แต่ก็ไม่ทันกับสายอีกสายที่โทรสวนกลับมาราวกับรู้ใจ...
“กูจะทำยังไงดีวะเฮีย”
เหล้าในแก้วจืดไปเลยเมื่อยูคยอมพรั่งพรูปัญหาของมันออกมา...
คิมยูคยอมเป็นรุ่นน้องสมัยมหาลัยของแจ็คสัน ตอนนี้ทำงานอยู่บริษัทซอลฟ์แวร์ที่อยู่ใกล้กัน ทำให้แจ็คสันมักจะมียูคยอมคอยเป็นคนปรับทุกข์ด้วยเสมอ...
แต่ตอนนี้แจ็คสันแทบจะลืมปัญหาตัวเองออกไปจากหัว เพราะเรื่องที่น้องชายคนสนิทหอบมาปรึกษาทำเค้าที่เครียดอยู่แล้วแทบจะลงไปกุมขมับ
เรื่องมันวุ่นวายไปหมดแล้ว...
“ก็ทำไงอะมึง... ทำท้องแล้วก็ต้องรับดิวะ”
เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่การรับผิดชอบเด็กในท้องเท่านั้น ลำพังยูคยอมก็พอจะเริ่มสร้างครอบครัวได้แล้วล่ะ...แต่ปัญหาก็คือตัวแฟนของยูคยอมมากกว่า..
“ปัญหามันไม่ใช่กูไม่รับ...แต่ปัญหาคือกูในสายตาพ่อแม่แบมแบมมีค่าเป็นแค่หมาขี้เรื้อน”
“ก็จริง...แล้วยังไม่นับที่มึงไปพรากผู้เยาว์น้องเค้าด้วยนะ...”
“โอ้ย มึงพี่กูจริงปะเนี่ย”
“ก็มึงเรียกกูเฮีย ๆ มึงเรียกพ่อมึงรึไง”
“โว้ย...กูปรึกษามึงแล้วกูเครียดกว่าเดิมอีก...วันนั้นกูไม่น่าออกมากินเหล้ากับมึงเลย...”
แบมแบม แฟนของยูคยอมเป็นนักศึกษาปีสอง คณะนิเทศน์ศาสตร์ที่มีครอบครัวรวยล้นฟ้าเป็นถึงกลุ่มเศรฐกิจยักษ์ใหญ่ในประเทศเกาหลีและไทย...และใช่ สำหรับสายตาของครอบครัวอีกฝ่าย ยูคยอมเป็นแค่หนูรอวันตกถังข้าวสารเท่านั้นเพราะเมื่อเทียบกับครอบครัวแบมแบมแล้วทรัพย์สินที่ยูคยอมมียังน้อยกว่าเงินแต๊ะเอียที่จ่ายให้คนในครอบครัวปี ๆ หนึ่งด้วยซ้ำไป
จะว่ามันเป็นความผิดของแจ็คสันมั้ย...มันก็ร่วมด้วยช่วยกันอยู่กึ่งหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ตัวเองก็ลากคิมยูคยอมออกมาเมาด้วยบ่อย จนมันเมากลับห้องไปฟัดแฟนอีท่าไหนไม่รู้จนลืมป้องกัน...
“นี่ไง ตอนนี้กูก็นั่งปลอบมึงอยู่นี่ไง”
แจ็คสันตบไหล่รุ่นน้องที่นั่งห่อเหี่ยวอยู่ข้าง ๆ สภาพยูคยอมตอนนี้ดูได้ที่ไหนกัน...
แก้มมันโดนแบมแบมตบจนเป็นปื้น ดูก็รู้ว่ายอมเมียมากอยู่ ไหนจะน้ำตาที่คลอ ๆ จะไหลลงมาอีก ที่ทำเป็นปากดีเข้มแข็งอยู่ตอนนี้ก็เพราะไม่อยากจะให้เค้าเป็นห่วงมากกว่า...
“เฮียมึง...กูก็ดีใจนะที่แบมแบมท้อง...แต่พอเห็นเค้าสะอื้นฮัก ๆ คิดถึงอนาคตเค้าแล้วกูนี่รู้สึกว่าตัวเองเลวเหี้ย ๆ เลยว่ะ...”
หมดสภาพน้องชายมาดกวนของแจ็คสัน หยาดน้ำตาเม็ดใสกลมร่วงลงอย่างกับห่าฝน แจ็คสันเปลี่ยนจากตบหลังเป็นลูกหัวทุยเบา ๆ มองน้องชายที่ค่อย ๆ เริ่มระบายทุกอย่างออกมาอย่างเก็บไม่ไหว
“เค้าต้องหยุดเรียนมาอุ้มลูกในคนอย่างกู...ฮึก... แล้วถึงกูจะโง่ติ๊งต๋องแต่กูก็จำได้นะเว้ย ว่าฝันของแบมแบมคือการเป็นผู้กำกับ”
“…”
“ถ้าเลือกได้กูก็อยากจะเป็นคนที่มาอุ้มท้องเอง ให้แบมแบมได้กลับไปเรียน ได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปควรได้ทำ”
“…”
“แต่กูทำแบบนั้นไม่ได้ไง”
“…”
“…ฮึก…ถึงเค้าจะมาตอนไม่พร้อมแต่เค้าก็ไม่ผิดใช่มั้ยอะมึง...ลูกกูก็รัก แบมแบมกูก็รัก”
“…”
“แต่ถ้ากูจะรั้งน้องไว้ กูจะไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหรอวะมึง”
มันยากจริง ๆ ที่จะทิ้งยูคยอมเอาไว้ที่ร้านเหล้า...
แจ็คสันใช้ไหล่พยุงน้องชายคนสนิทขณะที่ใช้มือกดลิฟต์ ในใจภาวนาให้มาร์คหลับไปแล้วแม้ว่ามันจะเป็นไปได้ยากอย่างน่าเหลือเชื่อ...
เรื่องเมื่อวานก็ยังไม่เคลียร์ แล้วแจ็คสันจะหาแต่เรื่องให้มาร์คไม่จบไม่สิ้น...
เสียงทีวีเบา ๆ ดังลอดออกมาทันทีที่เปิดประตูห้อง แจ็คสันกลืนน้ำลายเอื๊อก ก่อนจะเดินโงนเงนพาตัวเองและยูคยอมไปถอดรองเท้าหน้าห้อง...
“…คือเอ่อ...”
“ยูคยอมหรอ...”
“อืม…”
“งั้นเดี๋ยวเราไปเอาผ้าห่มมาเพิ่มให้”
มาร์คไม่แปลกใจ ไม่เอ่ยปากถาม ทั้งที่มันควรจะมีเรื่องมากมายให้ซักไซร้ ดวงตากลมช้ำนั่นเพียงแค่หันมามองยูคยอมเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะเดินเข้าห้องไปหยิบผ้าห่มออกมาให้
กำแพงของมาร์คเหมือนจะหนาขึ้นแล้ว...
คุณแม่ที่นั่งทำงานอยู่ที่ห้องนั่งเล่นหยัดตัวขึ้นจากโต๊ะทำงาน แง้มประตูเบา ๆ เพื่อไม่ให้รบกวนเจ้าตัวอ้วนแก้มหอมที่นอนหลับปุ๋ย...
บางทีความเฉยชามันคงเป็นเกราะที่แข็งแรงที่สุดแล้ว...
มาร์คไม่อยากทำตัวเปลี่ยนไปมากกว่านี้เพื่อให้ระหว่างเรามันวางตัวยากขึ้นไปอีก อย่างน้อยการพยายามที่จะนิ่งะรักษาระยะห่างมันก็น่าจะดีกับสถานการณ์ตอนนี้มากกว่า...
วันเวลาค่อย ๆ นับถอยหลัง ภาวนาให้ตลอดสามเดือนหลังจากนี้กำแพงที่มาร์คสร้างจะยังคงอยู่อย่างนี้...
“…แอ้…จ๊อบแจ๊บ...”
มาร์คเศร้าได้ไม่นาน... เสียงเคี้ยวน้ำลายกับเสียงครางน้อย ๆ ดังมาจากเปลเล็ก... ผ้าห่มที่พึ่งหยิบออกมาถูกวางทิ้งไว้บนเตียง
ปลายนิ้วมาร์คเกลี่ยแก้มนุ่ม ๆ หอม ๆ ของลูกหมูเล่น...
“เป็นกำลังใจให้มะผ่านมันไปด้วยนะครับ มาร์เจย์”
-2-
กรี๊ดดดดดด
มาอัพครบแล้วค่ะ
เอาจริง ๆ ตอนนี้คู่หลักทั้งหมดพึ่งจะออกมาครบค่ะ ฮือ
ใช่ค่ะ สองหมื่นกว่าคำที่ผ่านมาคือการเกริ่นเรื่อง
มาอัพช้ามากเลย แต่เราไม่ทิ้งนะ
ได้โปรดอย่าทิ้งเราปัยย์
ด้วยรัก
จากคยองอินที่รอคอมเม้นแฮชแทคและยุ่งชิบหายกับปริญญานิพนธ์
-1-
กรี๊ดดดดดดด ยังมีคนอ่านอยู่มั้ย
ขอโทษจริง ๆ ที่มาต่อช้าขนาดนี้
ฮือ อย่าทิ้งเค้าไปนะ เค้าขอโทษ
ตอนนี้เจ็บกันไปคนละดอกเน้าะ
มะก็พัง ป๊ะก็เละ เจ้าเจะนอนหลับปุ๋ย
เป็นกำลังใจให้ House กลายเป็น Home ด้วยนะคะ
ด้วยรักและละอายใจเหลือเกิน
คยองอินที่รอคอยคอมเม้นและแฮชแทคของเธอ
#jarkEX
ความคิดเห็น