ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    got7 。.·♡ ˋ HELLO MY EX ˊ #jark #yugbam #bnyoung

    ลำดับตอนที่ #11 : HELLO MY EX ♡ CHAPTER 10

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 60










    HELLO MY EX
    CHAPTER 10
    -100%-











    “แบมแบมหรอ”


    (ใช่ฮะ พี่แจ็คสัน)


    “เอ้อ ไม่ต้องห่วงนะ ยูคยอมอยู่กับพี่เอง”


    (ก็ดีแล้วล่ะฮะ ตาหมีเป็นยังไงบ้าง)


    “ก็ไม่แย่มากเท่าไหร่ แล้วเราล่ะเป็นไง อย่าเครียดมากนะมันส่งผลต่อเด็กในท้อง” 


    (ก็พยายามไม่เครียดอยู่ฮะ แต่พี่ก็รู้ใช่มั้ย ว่านี่มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับแบมมาก)


    “อืม พี่เข้าใจ พรุ่งนี้ถ้ามันสร่างแล้วพี่จะไล่มันกลับบ้านแล้วไปคุยกันดี ๆ นะ” 


    (ฮะ... พี่แจ็คบอกตาหมีโง่นั่นนะ ว่าลูกแบมแบมก็รัก พรุ่งนี้กลับมาซื้อกล้วยแขกทอดมาให้ด้วย อยากกิน)


    “ได้เดี๋ยวจะบอกให้ แล้ววันไหนว่าง ๆ จะหิ้วของบำรุงไปฝาก”


    (ฮะ เจอกัน สวัสดีฮะ) 


    งานที่มาร์คกำลังทำอยู่ มันแทบจะไม่ผ่านสมองเลยสักนิดเดียว... 


    เงาที่สะท้อนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์คือแจ็คสันที่กำลังคลี่ยิ้มอ่อนให้คนในโทรศัพท์ วงหน้าคร้ามเข้มด้วยไรหนวดเขียวจางดูอ่อนโยนลดความดุดันลง


    มันทำให้มาร์คคิด... ว่าถ้าตอนนั้นตัวเองมีแจ็คสันอยู่เคียงข้างเรื่องราวมันจะเป็นแบบไหน 


    แบบที่ไม่ต้องกอดหมอนร้องไห้คนเดียว...


    แบบที่ไม่ต้องทุกข์ทรมาณจากอาการแพ้ท้องจนกินอะไรไม่ได้... 


    แบบที่ไม่ต้องเศร้าเพราะคิดถึงพ่อของลูกที่ไม่มีวันกลับมา... 


    เรื่องมันจะกลายเป็นแบบไหนกันนะ... 


    “ขอโทษด้วยนะมาร์คที่ทำให้วุ่นวาย” 


    “อืม” 


    แจ็คสันตัดสายโทรศัพท์จากแบมแบม อย่างน้อยก็ยังโล่งใจที่แบมแบมก็รักลูกตัวเองไม่ต่างอะไรกับที่น้องชายเค้ารัก 


    ถึงกระนั้น...แจ็คสันก็ยังคงสร้างภาระให้มาร์คอยู่ดี 


    “อย่างที่ได้ยินนั่นแหละ มาร์คจำแบมแบมได้มั้ย ที่เคยมาให้ยูคยอมมันติวแพทเลขให้จนกลายเป็นแฟนกันน่ะ” 


    มาร์คจำได้...


    เพราะยูคยอมเป็นน้องชายที่สนิทกับแจ็คสัน ถึงแม้ว่าฐานะจะไม่ถึงกับขัดสน แต่เจ้าตัวก็ยังแบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วยการรับจ็อบสอนพิเศษ จนสุดท้ายกลายเป็นสมภารกินไก่วัด คาบเด็กเรียนพิเศษของตัวเองไปเป็นแฟน 


    “อืม” 


    “พอจะนึกออกใช่มั้ย...ก็อย่างที่มาร์คได้ยินนั่นล่ะ ไอ้ยูคยอมมันทำน้องเค้าท้อง แล้วก่อนจะออกมานี่ก็ทะเลาะกันแรงมาก มาร์คเห็นที่แก้มมันมั้ย แดงเป็นรูปรอยนิ้วเลย” 


    ในตอนที่หันไปดูหน้ายูคยอม... มาร์คก็เหมือนถูกแจ็คสันยืนโอบอยู่หลังเก้าอี้อยู่แล้ว...


    ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดของใครสักคนหรอก... แต่มันเป็นความเคยชินของเรา 


    “เราก็ไม่อยากรบกวนมาร์คหรอก แต่มันก็ไม่มีที่จะไปแล้วจริง ๆ”


    “…”


    “ขอโทษด้วยนะ ที่เอาแต่รบกวนอยู่เรื่อย” 


    “ช่างมันเถอะ... เราจะไปนอนแล้ว ราตรีสวัสดิ์” 


    และมันผิด...ที่มาร์คยอมปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาเอง 






    เสียงถอนหายใจออกดังพอ ๆ กับเสียงกรนของคนที่นอนอยู่บนโซฟา 


    แจ็คสันพลิกตัวอยู่บนพรมแบน ๆ หน้าทีวี มีหมอนและผ้าห่มพันรุงรังอยู่ที่ขา... แต่ความแข็งกับความเย็นของอากาศไม่ใช่สิ่งที่ทำให้แจ็คสันนอนไม่หลับหรอก...


    แต่มันเป็นเพราะตัวเองเอาแต่ทำให้มาร์คอึดอัดต่างหาก 


    ถึงปัญหาของยูคยอมจะยังไม่จบ แต่มันก็โล่งไปเปราะหนึ่ง แจ็คสันก็กลับมาคิดถึงเรื่องของตัวเองต่อ 


    ปัญหาที่ก่อขึ้นเมื่อวานยังไม่ทันหาย วันนี้แจ็คสันก็เข้าไปใกล้จนมาร์คอึดอัดอีกแล้ว... 


    แจ็คสันไม่รู้ว่ามาร์คต้องการอะไร เพราะสิ่งที่เคยทำไว้มันทำให้แจ็คสันไม่กล้าคิดถึงการให้อภัยด้วยซ้ำ


    ถ้าผิดมันคงผิดที่แจ็คสันยกเลิกจองโรงแรมแล้วเดินมาเคาะประตูที่ห้องห้องนี้... 


    “กลับไปอยู่โรงแรมดีกว่ามั้ยวะ...” 


    “ฮือ... แบมแบมอย่าตบพี่” 


    แต่ก่อนจะถึงพรุ่งนี้ แจ็คสันจะผ่านคืนนี้ไปได้ยังไงดีกว่า...








    “ขอบคุณมากนะครับพี่มาร์ค” 


    ยูคยอมที่สภาพเน่าเป็นผ้าขี้ริ้วก้มหัวปลก ๆ ให้มาร์คอยู่ในครัว ตรงหน้ามีกาแฟดำรสชาติเข้มจัดวางไอร้อนลอยขึ้นรอให้ดื่มแก้เมา 


    “อืม ไม่เป็นไร หิวอะไรก็หยิบกินเลยนะ เดี๋ยวพี่ไปดูลูกก่อน” 


    จะว่าคุ้นเคยกันดี หรือเพราะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาแล้วก็ได้ แต่ยูคยอมก็ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจอะไร จะมีก็แต่ความเกรงอกเกรงใจที่มีต่อมาร์ค...


    เพราะยูคยอมไม่ได้อยู่ในสถานะของน้องคนสนิทของแฟนมาร์คอีกแล้ว...


    “ได้เวลาหม่ำๆ แล้วครับคนเก่ง” 


    มัวแต่คิดในใจสะระตะรู้ตัวอีกที ยูคยอมก็เห็นมาร์คอุ้มเด็กชายตัวอ้วนกลมแก้มยุ้ยลงมาวางที่เก้าอี้เด็กในห้องครัวแล้ว


    เจ้าลูกหมูตัวน้อยของมาร์คตอนนี้หอมฉุย เพราะถูกคุณแม่จับอาบน้ำปะแป้งใส่ชุดหมีสีอ่อน เด็กชายมาร์เจย์ยิ้มแก้มตุ้ย ก่อนมือน้อย ๆ จะยกโบกมือโบกไม้ให้แขกที่ไม่คุ้นหน้า


    “มะ...มะ...ไค” 


    เสียงอ้อแอ้ไม่ค่อยเป็นคำทำให้มาร์คยิ้มกว้าง ก่อนจะแนะนำแขกผู้มาใหม่ให้กับเจ้าตัวเล็กฟัง 


    “เค้าชื่อคุณน้ายูคยอมครับ ไหนมาร์เจย์ทักทายเร็วครับ”


    “ฮะฮะ” มันคงจะเป็นภาษาเด็กที่ยูคยอมไม่เข้าใจ แต่พอยื่นมือเข้าไป ก็ถูกอุ้งมือนุ่มคว้าไว้ไปกำแน่น ก่อนดวงตากลม ๆ เป็นลูกหมาของเด็กตัวน้อยจะยิ้มตาหยีน้ำลายย้อยส่งมาให้ 


    “ยอมยอม” 


    “ครับ ๆ ยอมยอมครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะเจ้าตัวเล็ก” 


    “อื้อ ยอมยอม...หมี” 


    มาร์เจย์แกว่งนิ้วที่อยู่ในกำมือไปมา ปากนุ่มนิ่มร้องเรียกมาร์คแล้วพูดว่าหมี ทำเอาคนเป็นแม่หัวเราะร่วน จับเจ้าตัวน้อยเช็ดปากก่อนจะวางชามข้าวผัดสารพัดสีลงตรงหน้าเด็กน้อย


    “ยอมยอมไม่ใช่หมีครับ เอาคนเก่งกินข้าวก่อนเร็ว” 


    แน่นอนว่ามาร์เจย์ยอมฟังคุณแม่แต่โดยดี มือนุ่มนิ่มยอมปล่อยนิ้วของยอมยอมก่อนจะเปลี่ยนมากำช้อนและส้อมทั้งสองข้าง  


    “เก่งมากครับ” 


    มาร์คจิ้มแก้มลูกก่อนจะนั่งเฝ้าเจ้าตัวน้อยทานข้าวอย่างใกล้ชิด แต่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปถามแขกอีกคน 


    “กินอะไรมั้ย เดี๋ยวพี่ทำเผื่อ” 


    “ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว ว่าแต่น้องกี่เดือนแล้วล่ะครับ” 


    ยูคยอมส่ายหัว ตอนนี้ในฐานะว่าที่คุณพ่อ ยูคยอมจำได้ถึงสัมผัสของมือนุ่ม ๆ ที่รวบไปจับ และแววตาใสแจ๋วที่มองมาอย่างไร้เดียงสา 


    “ขวบกว่าแล้วล่ะ กำลังอยู่ในช่วงหัดพูดเลย” 


    คนเป็นแม่ตอบด้วยรอยยิ้มทั้งที่ลูกน้อยกำลังทำข้าวหกเลอะเทอะเต็มโต๊ะ กว่ามาร์เจย์จะส่งข้าวเข้าปากได้คำนึงโต๊ะเด็กสีสดใสก็เต็มไปด้วยข้าวผัดสามสี 


    “ดูเหมือนจะเลี้ยงง่าย แต่แกท่าจะซนน่าดูเลยนะครับ” 


    ยูคยอมหลุดหัวเราะร่วนเมื่อเจ้าตัวน้อยเคี้ยวข้าวหยับ ๆ ทั้งที่บนเหงือกแดงแจ๋ฟันก็มีแค่สองสามซีก แต่กับเคี้ยวข้าวจนแก้มกะเพื่อม 


    “ไม่รู้ได้เชื้อซนใครมาเหมือนกัน แล้วเราล่ะเป็นยังไงบ้าง” 


    “ก็เรื่อย ๆ ครับ” 


    “อืม... สู้หน่อยนะ” 


    “พี่รู้แล้วใช่มั้ยครับ ?” 


    มาร์คพยักหน้า ในแววตาไม่ได้มีแววตำหนิหรืออะไร เสียงนุ่ม ๆ ใจดีเพียงแค่อยากให้กำลังใจ... 


    “มันอาจจะเหนื่อยหน่อย แต่พอเราได้เห็นเค้าเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เค้าจะเหมือนกับของขวัญที่สวรรค์ส่งมาให้เราเลยล่ะ” 


    “…”


    “กลับไปก็ไปคุยกับแฟนดี ๆ มีกันสองคนก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้ปัญหา เราโตกว่าเราก็ต้องเป็นหลักให้น้อง เข้มแข็งเพื่อเจ้าตัวน้อยในท้องของแฟนเรา” 


    “ครับ” 


    ยูคยอมได้แต่ขานรับในลำคอ ก่อนจะส่งสายตาให้คนที่ยืนพิงประตูฟังที่มาร์คพูดอยู่ทางด้านหลัง... 


    งานหนักแล้วมึง..พี่แจ็คสัน 


    “แล้วพี่มาร์คอยู่กับลูกแค่สองคนหรอครับ... ก่อนทีตาลุงจะมาอยู่ด้วย ?” 


    “อื้อ...พี่เลี้ยงลูกคนเดียวน่ะ” 


    แววตาของมาร์คเปลี่ยนไป ก่อนจะกลับมาเป็นแบบเดิมเพียงเสี้ยววิ

    “งั้นผมขอถามหน่อยได้มั้ย... พ่อของเด็กเป็นใครหรอพี่ ?” 


    ยูคยอมเลือกโยนหินถามทาง... มาร์คเงียบ...


    หน้าตาของมาร์เจย์แค่มองแว้บแรกก็พอจะเห็นเคล้าลางพ่อมันมาแล้ว หน้าผากเหม่ง ๆ กลม ๆ เป็นสัญญลักษณ์ของอาเสี่ย ไหนจะตากลม ๆ ใส ๆ ดูก็รู้ว่าโขกออกมาจากไอ้พี่แจ็คสัน


    “แจ๊ะ....แอ้”


    ขณะที่สายตาและความเงียบกำลังจะกดดันให้มาร์คตอบ เจ้าลูกหมูก็ร้องเรียกคนที่ยืนพิงอยู่ด้านหลัง มือป้อมชูช้อนส้อมโบกไหว ๆ เรียกคนที่เข้ามาใหม่ให้เข้ามาใกล้กัน


    “หม่ำ ๆ ต้ะ”


    “มาแล้วเหรอแจ็คสัน ยูคยอมกินข้าวเถอะ พี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อน” 


    และมันสร้างโอกาสอันแสนจะไม่เนียนให้มาร์ค...


    คิดว่ามาร์คไม่รู้หรือไง...ว่าทำไมยูคยอมถึงเลือกถามแบบนี้...








    (มาร์ค เค้าว่าตัวไม่ไหวแล้วนะ)


    “เค้าก็ไม่รู้จะทำยังไงดีอะจินยอง... มาร์เจย์ครับ ขอม๊าคุยกับจูจูก่อน... อ๊ะ เคี้ยวไม่ได้นะครับ” 


    มาร์คนั่งขัดสมาธิดูลูกนั่งละเลงสีเทียนลงบนกระดาษเป็นภาพยึกยือ มือไม้พัลวันเพราะเจ้าลูกหมูคอยแต่จะส่งสีเทียนเข้าปาก หูแนบกับไหล่ต่อสายโทรศัพท์คุยกับเพื่อนสนิท 


    (แจ็คสันไม่ได้โง่นะมาร์ค หน้าลูกก็เหมือนขนาดนั้นอะ คิดว่าจะทำเนียนแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน)


    “ก็เราไม่อยากให้แจ็คสันรู้... แต่จริง ๆ แจ็คสันกับพีเนียลก็หน้าคล้ายกันอยู่นะ” 


    (นั่นมันก็ใช่ ตัวน่ะ สเปคเดิม ๆ แต่ดูหน้าลูกด้วยมาร์ค บนหัวเหม่งตาหนูแทบจะเขียนว่าลูกแจ็คสัน)


    “…แต่”


    (ไม่ต้องมาแต่เลยมาร์ค...)


    “เอ้ย... ตัว แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวเค้าโทรไปใหม่” 


    มือบางตาลีตาเหลือกอุ้มเด็กตัวกลมลงจากตักทันทีที่ตัดสายจินยองไปอย่างไม่รอคำตอบ มาร์คเกร็งคอ หลบมือน้อย ๆ ที่กำสีเทียนก็เปลี่ยนจากเขียนกระดาษเป็นจะมาเขียนหน้า กลีบปากจิ๋ว ๆ ร้องตะโกนให้แม่สนใจ 


    “ดั๊กกี้ ๆ” 


    มีเสียงแปะ ๆ ตบลงบนกระดาษสีขาว มาร์คมองลายสีเหลืองที่ละเลงเป็นคลื่นยึกยือที่พอจะอนุมานได้ว่าคงเป็นภาพเป็ดในอ่างอาบน้ำ ผลงานของสุดยอดศิลปินเอกพุงพลุ้ยแก้มยุ้ยตัวฉกาจ 


    “โอ้โห วาดเสร็จแล้วหรอครับ เก่งจังเลย” 


    “นมนม ๆ” 


    เพราะได้เห็นแม่ชม เจ้าลูกหมูจึงร้องท้วงราวกับจะร้องขอรางวัล ปากนิ่มยื่นทำปากบู้ตะกายขึ้นตักคลำอกมาร์ค.... 


    “ข้าวก็กินแล้ว ยังจะกินนมอีกหรอครับ” 


    พฤติกรรมนี้เห็นกี่ทีมาร์คก็กลุ้มใจ มาร์เจย์ขวบกว่าแล้วแต่ยังติดนมแม่อยู่ ต่อให้บางทีไม่ดูด แต่เจ้าลูกหมูก็ชอบคลำ ชอบจับ เป็นแบบนี้นมมาร์คเลยไม่หมดสักทีเหมือนกัน 


    “พอรู้ว่าทำตาใสแล้วม๊าใจอ่อนก็ทำใหญ่เลยนะ เจ้าแสบ” 


    มาร์คอุ้มลูกมาหอมแก้มฟอดใหญ่ ก่อนจะเปิดเสื้อให้เจ้าตัวน้อยมุดเข้าไปทำอย่างใจอยาก... 


    จะว่าไปมันก็เหมือนขว้างงูไม่พ้นคอ... 


    มาร์ครู้ว่าแจ็คสันจะต้องระแคะระคายเรื่องลูก แต่ที่ไม่คาดคั้นมาบังคับให้ยอมรับก็เพราะว่าอีกฝ่ายมีชะนักติดหลังอยู่เหมือนกัน...


    สิ่งที่มาร์คทำต่อไปนี้มันอาจจะร้าย... แต่ทุกอย่างที่ทำไปก็เพื่อก่อกำแพงระหว่างเราให้มันหนามากขึ้นเท่านั้น... 


    เพื่อไม่ให้ความรู้สึกของมาร์เจย์ต้องแตกสลายเหมือนที่มาร์คเคยเป็น...


    ปลายนิ้วกดเบอร์โทรออกต่างประเทศของคนคุ้นเคยที่ไม่ได้คุยกันมานาน... 


    Calling… Peniel 






    “ลูกมึงแน่นอนอะเฮีย” 


    “กูถ่ายรูปส่งให้หม่าม๊าก็บอกกูแบบนั้น” 


    “เฮ้อ…” 


    ยูคยอมติดรถออกมาพร้อมกับแจ็คสันที่ออกไปทำงาน มือที่กำพวงมาลัยสั่น...แจ็คสันเห็นสีหน้าตอนที่ยูคยอมถามชัด... 


    …มาร์คคงไม่อยากให้เป็นลูกเค้าจริง ๆ นั่นแหละ


    “แล้วจะเอาไงอะ” 


    “ก็ถามตัวเองอยู่อะนะ ว่ากูมีสิทธิ์อะไรในตัวลูกด้วยเหรอ” 


    “เฮีย..”​


    “ถ้ากูไม่น่าด้านมาขอเค้าอยู่ กูจะรู้มั้ยว่าเค้ามีลูก หรือถึงกูรู้แล้วยังไง”


    “…”


    “ลูกหน้าเหมือนกูอย่างกับแกะแบบนี้ เค้ายังไม่ให้สิทธิ์กูได้เป็นพ่อ” 


    “…”


    “กูว่ากูโดนมาร์คเอาคืนแล้วล่ะว่ะ...เอาคืนแบบที่เค้าไม่ต้องลงแรงอะไรด้วยซ้ำ...” 


    “…”


    “…แม่งเจ็บชิบหายเลยว่ะยูคยอม” 


    แจ็คสันหักพวงมาลัยหลบเข้าข้างทาง หัวซบพวงมาลัย ไม่รู้ว่าน้ำตาไหลรึเปล่าแต่เสียงโคตรปวดร้าว... ยูคยอมทำได้แค่บีบไหล่สั่น ๆ เป็นเชิงปลอบ


    มีคำถามมากมายวนเวียนอยู่ในหัวของแจ็คสัน...


    มันก็จริง... ต่อให้เด็กเป็นลูกของแจ็คสันแล้วยังไง ?


    แจ็คสันกล้าจะเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นพ่อหรอ ? 


    คำว่าอภัยของแจ็คสันมาร์คยังไม่รับ...แล้วลูกที่เรามีด้วยกัน...มาร์คจะยอมให้แจ็คสันมีส่วนร่วมในครอบครัวหรอ ?


    ...ทุกอย่างดูเหมือนจะผลักแจ็คสันออกไปไกลจากมาร์คมากขึ้นทุกที..







    จินยองมองสายโทรศัพท์ที่ตัดไปก่อนจะถอนหายใจออกมา... 


    หัวใจมาร์คดูเหมือนจะไม่ไหวเข้าไปทุกที...


    ปาร์คจินยองรู้จักมาร์ค อี๋เอิน ต้วนดีพอ ๆ กับที่รู้จักตัวเอง... ยิ่งความเป็นคนแข็งนอกอ่อนในก็ยิ่งรู้ดีที่สุด...


    แจ็คสันไม่ได้โง่เหมือนพระเอกละครน้ำเน่า... ส่วนมาร์คถึงจะปลอบตัวเองว่าไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ก็ได้แต่ก่อกำแพงขังตัวเองเอาไว้ทั้งที่ใจโหยหาแสงตะวันมากกว่าใคร...


    …สงสารก็แต่เจ้าลูกหมูของจูจู...


    “คิดอะไรอยู่ครับจินยอง” 


    แต่แล้วเสียงนุ่มและอ้อมกอดอุ่นที่จินยองรักที่สุดในโลกดึงออกจากภวังค์ เจ้าของเนื้อนุ่มจมลงสู่อ้อมแขนแกร่ง...


    “พี่แจบอม”


    “คิดเรื่องมาร์ค” 


    “ห่วงเพื่อนหรอ ?” 


    อิมแจบอมกดจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยง ตัวเองก็รู้จักกับทั้งมาร์คและแจ็คสันเป็นอย่างดี... ก็แจ็คสันกับแจบอมน่ะเคยเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายกันมาก่อนนี่นา..


    “อืม... เพื่อนพี่อะใจร้าย ไม่ยอมปล่อยมาร์คไปสักที” 


    จินยองตบแปะลงบนแผ่นอกแน่น ดวงตากลมเกลี้ยงที่มีรอยยับเป็นเอกลักษณ์มองค้อนจนแจบอมจนหลุดหัวเราะร่วน...


    “คนมันเกิดมาคู่กันแล้วมันก็หนีไปไม่พ้นหรอกจินยอง” 


    “ผมไม่ยกเพื่อนผมให้พี่แล้ว” 


    “ถึงเราจะไม่ยกให้ แต่เค้าก็มีโซ่ทองคล้องใจกันแล้วนะ” 


    ฝ่ามืออุ่นลูบลงบนกลุ่มผมนิ่มอย่างแสนรัก... ดวงตาประสานกัน...ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าแจบอมอยากจะมีโซ่ทองคล้องจินยองไว้มากแค่ไหน...


    “ทำหน้ายุ่งเรื่องคนอื่นไปเราก็ช่วยเค้าไม่ได้หรอก..”


    “…”


    “…มายุ่งกับเรื่องที่เราช่วยพี่ได้ดีกว่า”


    “เฮ้ย !! พี่แจบอมจะทำอะไรอะ” 


    จินยองร้องเสียงหลงเมื่อถูกช้อนตัวอุ้ม แต่พอเงยหน้าของคุณสามีที่ส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้แล้วก็ได้แต่เลยตามเลย... 


    “ปฏิธินบอกว่าวันนี้เป็นวันไข่ตก...ปะ.... ไปทำโซ่ทองคล้องจินยองกันดีกว่า” 


    “ฮื่อ...พี่แจบอมทะลึ่ง” 


    ขอบ่นหน่อย.... แต่ก็ไม่ขัดขืนแล้วล่ะ...







    มาครบแล้วเด้อ
    มาเร็วเป็นประวัติการณ์ ฮือ

    นี่ไม่ได้เขียนเพื่อคอมเม้น
    แต่ทุกคอมเม้นคือกำลังใจ คือแรงผลักดัน คือความภูมิใจของเลา
    ถ้าไม่เป็นการรบกวนก็ฝากยูกหมูและผู้ใหญ่เจ้าปัญหาเหล่านี้ด้วยนะคะ



    ด้วยรัก
    คยองอิน aka ซอนย่าเอง


    #jarkEX








    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×